ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reborn : Fierce Demon & Little Cute Pineapple [1896]

    ลำดับตอนที่ #29 : ช็อก!! ประธานฯกลายเป็นพ่อบ้าน โคลมผู้น่าสงสารโดนแย่งงานไปซะแล้ว!

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 440
      6
      29 ก.ย. 54

    Ch.26
     
    ณ เมืองที่ทุกคนได้ยินชื่อมากว่า 20 ครั้ง ที่คฤหาสน์หลังเก่าจนไม่ต้องอธิบาย เป็นเวลาสายตะวันโด่งที่เห็นกันจนชิน
     
    แต่มีภาพหลายภาพที่นึกยังไงก็นึกไม่ถึงว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นบนโลก เรื่องจริงๆ มันยาวมาก เราจึงขออธิบายเป็นช็อตสั้นๆ หกเจ็ดช็อต
     
    --
     
    เด็กสาวผมม่วงซึ่งเพิ่งจะตื่นเดินมาที่ห้องอาหารก็พบจานเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะโดยมีเด็กหนุ่มผมดำนั่งอยู่ก่อนแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงมือกิน และที่นั่งฝั่งตรงข้ามของเขาก็มีชามข้าวตั้งอยู่เหมือนรอให้เธอมานั่งลงตรงนั้น
     
    --
     
    เมื่อมื้อเช้าสิ้นสุดลง ก่อนที่เด็กสาวผมม่วงจะทันได้เอ่ยปากอะไร จานทั้งหมดก็ถูกเด็กหนุ่มผมดำรวบรวมถือเข้าห้องครัวไปหมด เธอได้แต่มองตาปริบๆ ด้วยความงงงวย
     
    --
     
    เด็กสาวผมม่วงออกตามหาตะกร้าผ้าใช้แล้วที่หายไป เมื่อมาถึงหน้าห้องซักรีดก็ได้ยินเสียงดังหึ่งของเครื่องจักร เมื่อเข้าไปดูก็พบตะกร้าผ้าที่ว่างเปล่าวางอยู่ข้างๆ เครื่องซักผ้าที่กำลังหมุน
     
    --
     
    เด็กสาวผมม่วงเดินตรงไปยังห้องซักรีด เวลานี้ผ้าน่าจะซักเสร็จแล้ว เธอจึงคิดจะเอามันไปตาก แต่ทันทีที่เธอมาถึงหน้าห้อง ประตูก็เปิดออกพร้อมกับที่เธอชนเข้ากับตะกร้าผ้าที่ลอยอยู่จนล้มก้นจ้ำเบ้า
     
    ผู้ถือตะกร้ามองเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะเอ่ยขึ้น
     
    “เดินระวังหน่อย ซุ่มซ่ามจริงๆ”
     
    ก่อนที่เขาจะเดินจากไป ทิ้งให้เธอนั่งหน้าหงอยอยู่กับพื้น
     
    --
     
    เวลาบ่ายมาถึง และวันนี้เป็นวันที่วัตถุดิบทำอาหารในตู้เย็นแทบจะหมดสิ้น เธอจึงเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มเจ้าของบ้านเพื่อขอออกไปซื้อตามหน้าที่ แต่คำตอบที่เธอได้รับกลับเป็น...
     
    “ไม่ต้อง ให้เธอไปเดี๋ยวจะมีปัญหาอีก”
     
    ว่าจบเขาก็ยกโทรศัพท์ขึ้นกดเลขซึ่งเราได้รู้ต่อมาว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของรองประธานคณะกรรมการรักษาระเบียบผู้แปรสภาพเป็นเด็กส่งของในทันทีที่ได้รับคำสั่ง
     
    เด็กสาวผมม่วงได้แต่มองอีกฝ่ายตาปริบๆ ในขณะที่เขาเดินไปหาหนังสือมาอ่านฆ่าเวลา
     
    ...เธอโดนแย่งงาน...
     
    --
     
    และแล้วก็มาถึงอาหารเย็น ในตอนนี้ความพิศวงของเด็กสาวกำลังล้นปรี่
     
    “ท่านเคียวยะทำอะไรคะ?” เธอถามออกไปเนื่องจากเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่อยู่
     
    เด็กหนุ่มผมสั้นสีดำสนิทหันกลับมาตามเสียงเรียก มือซ้ายถือกระทะ มือขวาถือตะหลิว เขาตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย
     
    “ก็เห็นอยู่ว่าทำอาหารเย็น”
     
    “แต่มันเป็นหน้าที่ของฉันไม่ใช่เหรอคะ?” เด็กสาวผมม่วงชี้แจงถึงปัญหาการถูกแย่งงานของเธอ
     
    “ฉันจะทำเอง เธออยู่เงียบๆ ไปเถอะ” เด็กหนุ่มไม่สนใจและหันกลับไปยุ่งกับกระทะต่อ
     
    เด็กสาวรู้สึกเป็นกังวลอย่างมากกับพฤติกรรมของอีกฝ่าย แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเขากำลังทำให้เธอรู้สึกด้อยค่าลงทุกขณะ
     
    --
     
    เหตุการณ์อันแปลกประหลาดเผยเบื้องหลังออกมาเมื่อถึงเวลานอน
     
    โคลมในชุดนอนสีเหลืองอ่อนยืนอยู่หน้าห้องนอนของเธอ กวาดตาดูพื้นเสื่อที่สะอาดหมดจด ไร้ซึ่งสิ่งสกปรกรกตา ไม่มีอะไรอยู่บนพื้นแม้แต่ชิ้นเดียว รวมทั้งที่นอนของเธอด้วย
     
    เธอเดินไปที่ห้องของเด็กหนุ่มเพื่อของที่นอนอีกผืน แต่แล้วเธอก็พบว่าที่นอนผืนเก่าเธอไม่ได้ไปไหน อยู่ที่ห้องของเขานี่เอง เธอหันไปถามเด็กหนุ่มผมดำที่สวมชุดยูกาตะสีม่วงนั่งอยู่บนที่นอนของเขาเองข้างๆ ของเธอ
     
    “ท่านเคียวยะ ทำไมที่นอนของฉันถึงมาอยู่ที่นี่คะ?”
     
    “วันนี้เธอนอนที่นี่แหละ” ฮิบาริตอบสั้นห้วนได้ใจความ แต่ทำเอาอีกฝ่ายงงเต้ก
     
    และแล้วมันก็มาถึงขีดสุด ทั้งความสงสัย ความสับสน และความกังวลของเธอ เธอทนไม่ไหวต้องพูดออกมา
     
    “วันนี้ท่านเคียวยะ...ดูแปลกๆ ไปนะคะ”
     
    “แปลกยังไง?” ฮิบาริถามกลับ
     
    “...” ‘มันมากมายจนไม่รู้จะเอาตรงไหนมาพูด’
     
    “เลิกพูดมากแล้วก็นอนซะ” ฮิบาริตัดบทก่อนจะล้มตัวลงนอน
     
    โคลมทำตาม พยายามเก็บความสงสัยเอาไว้อย่างสุดความสามารถ เธอเดินไปปิดไฟและตรงไปยังที่นอนของตัวเอง แล้วทุกอย่างก็เงียบลง
     
    โคลมได้ยินเสียงขยับตัวด้านหลังเธอ จากนั้นเธอก็ถูกแขนข้างหนึ่งพาดผ่านลำตัวเธอและดึงเธอเข้าไปหา
     
    “ท่านเคียวยะ...!”
     
    “คืนนี้อากาศเย็น อย่างนี้ดีแล้ว” ฮิบาริพูดจบก็ดึงเธอเข้าไปใกล้มากขึ้น
     
    หลังของเธอแนบชิดกับเด็กหนุ่ม เขากอดเธอเอาไว้หลวมๆ ทั้งคู่อยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน
     
    จู่ๆ ฮิบาริก็ถามขึ้นมา
     
    “นี่ ทำไมเธอถึงชื่อว่า โดคุโร่ โคลม?”
     
    ถึงจะยังงงๆ แต่เธอก็ตอบกลับไปตามตรง
     
    “ท่านมุคุโร่เป็นผู้ให้ชีวิตใหม่และชื่อนี้กับฉัน แทนชื่อเก่าที่ฉันทิ้งไปพร้อมกับอดีต...”
     
    เด็กหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรำพึงขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย 
    “...โคลม โดคุโร่... เป็นของโรคุโด มุคุโร่สินะ...”
     
    “...ใช่ค่ะ...” แม้จะไม่ใช่เรื่องน่ายินดี แต่โคลมก็ยอมรับว่ามันเป็นความจริง
     
    “ถ้าอย่างนั้น...”
     
    ฮิบาริเว้นช่วงไป ก่อนจะพูดต่อ
     
    “...จนกว่ามุคุโร่จะรับตัวเธอกลับไป ฉันจะถือว่าเธอไม่ใช่ โคลม โดคุโร่ แต่เป็น [นางิ]”
     
    เด็กสาวตกใจกับคำพูดของอีกฝ่ายมาก เธอไม่รู้ว่าเขาไปได้ยินชื่อนั้นมาจากไหน แต่ก็รู้สึกตื้นตันใจอย่างประหลาด
     
    “...ค่ะ ท่านเคียวยะ...”
     
    มาถึงตรงนี้เธอก็ยังไม่รู้ถึงสาเหตุของพฤติกรรมประหลาดๆ ที่เมฆาหนุ่มแสดงออกตลอดทั้งวัน ถึงเธอจะไม่ชอบการถูกทำเหมือนกับเธอทำอะไรไม่เป็น แต่เธอก็ดีใจ...ที่เขาเป็นห่วงเธอ
     
    ความอบอุ่นจากร่างที่แนบชิดกันในคืนที่เงียบสงบเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย
     
    ที่อยู่ตรงนั้นไม่ใช่กรรมการปีศาจแห่งนามิโมริกับร่างทรงของศัตรูคู่อาฆาต แต่เป็นเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าฮิบาริ เคียวยะ กับเด็กสาวที่ชื่อว่านางิ เป็นเพียงแค่นั้นเอง...
     
    --
     
    ไกลออกไป ในค่ำคืนอันสงบสุขของเมืองนามิโมริ บนห้องชั้นสองของบ้านน้อยๆ หลังหนึ่ง ทารกชุดนอนสีฟ้ากำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงที่ขนาดใหญ่กว่าตัวมาก มือสองข้างถือกระดาษอยู่หนึ่งแผ่น หมึกที่ใช้เป็นชนิดพิเศษที่ต้องใช้ไฟธาตุจากร่างกายเท่านั้นถึงจะมองเห็น ชัดเจนว่าเป็นจดหมายเฉพาะของอัลโกบาเลโน่
     
    “ไม่ส่งข้อมูลมาโดยตรงแต่จะส่งคนนำทางมางั้นเหรอ คิดอะไรอยู่กันแน่ เวลเด้”
     
    ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับเด็กหนุ่มผมฟูก้าวเข้ามาด้านใน
     
    “รีบอร์น จดหมายอะไรน่ะ?”
     
    ทารกชุดดำพับจดหมายลงพร้อมทั้งหันไปตอบด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย
     
    “จดหมายจากรุ่นที่เก้าบอกให้เคี่ยวนายหนักๆ เพื่อเตรียมสำหรับการขึ้นรับตำแหน่งบอส”
     
    “เฮ้ย! ไม่เอานะ ฉันไม่อยากเป็นบอส!!” สึนะปฏิเสธเป็นพัลวัน
     
    “ห้ามเถียง รีบนอนซะ พรุ่งนี้ตื่นตีสามไปฝึกริมแม่น้ำ”
     
    “โน่วววว~!!”
     
    --
     
    สูงขึ้นไปบนฟ้า ที่กำลังเคลื่อนผ่านอากาศอยู่เหนือเมฆคือเครื่องบินขนาดใหญ่ที่บรรทุกผู้โดยสารมาเต็มพิกัดโดยมีจุดหมายคือประเทศญี่ปุ่น
     
    ข้างๆ ทารกหญิงผมสีน้ำเงินเข้มที่หลับอยู่ใต้ผ้าห่มสีแดงเลือดหมูประจำเครื่องคือเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มผู้ซ่อนอักขระรูปจันทร์เสี้ยวสีเงินไว้ใต้พลาสเตอร์ยาซึ่งแปะหลอกเอาไว้
     
    เขายังไม่หลับเนื่องจากเมื่อวานเขาได้นอนไปจนเต็มอิ่ม และปกติช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงที่เขาเป็นลูกมือโต้รุ่งให้กับอัลโกบาเลโน่อัสนี
     
    ตอนที่เขาได้เห็นรูปถ่ายจากคนขององค์กรผู้ดูแลนอกแก๊งค์ ก็ทำให้เขาคิดถึงเรื่องในสมัยก่อน และถึงแม้ว่าใจของเขาจะปราศจากซึ่งอารมณ์ความรู้สึก แต่สมองของเขายังจำได้ดีถึงเหตุการณ์ในอดีต
     
    ‘พ่อครับ! แม่ครับ!’ ภาพที่เด็กผู้ชายผมสีน้ำตามเข้มผู้มีอักขระจันทร์เสี้ยวที่แก้มวิ่งเข้าไปหาชายหญิงคู่หนึ่งด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
     
    --
     
    R:”จบครับสำหรับตอนนี้”
     
    DX:”หมู่นี้ไม่ค่อยมีอะไรให้คุยกันตอนท้ายๆ เลยเนอะ?”
     
    R:”ก็ดีแล้วนี่ ใช่ว่าคนอ่านอยากจะอ่านนักหรอก”
     
    DX:”งั้นก็แจ้งข่าวเลยละกัน”
     
    R:”ครับ ท่านผู้อ่าน ตอนหน้าจะเกี่ยวกับความทรงจำของตัวละครผมเองนะครับ ใครสนใจก็รอติดตามอ่าน ใครไม่ได้สนใจก็ช่วยทนๆ อ่านหน่อย ถือซะว่าคนเขียนตาดำๆ ขาวๆ คนนี้อุตส่าห์พยายามเขียนแล้ว นะครับ”
     
    M:”คุณฟังเหมือนเป็นพวกขอทานเลยนะครับ คุฟุฟุ~”
     
    R:”หุบปาก!!”
     
    --
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×