ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : สคูลไลฟ์ของสายหมอก เธอไม่ถูกลืมเลือนอีกแล้ว...
กิ๊ง ก่อง กาง ก่อง (DX:ยังไม่เลิกใช้เสียงนี้อีก)
เสียงออดบอกเวลาพักกลางวัน เวลาสวรรค์ของนักเรียนทุกคน แต่เราจะไม่ขยายความมากไปกว่านี้ เพราะนางเอกของเรารออยู่
โคลม โดคุโร่ นักเรียนม.หนึ่งห้องเอเก็บกระเป๋าลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะขึ้นไปบนดาดฟ้าตามที่นัดกับ ‘เพื่อนๆ’ เอาไว้
“สวัสดี คุณโดคุโร่” นักเรียนหญิงสองคนเข้ามาทักทาย คนที่พูดขึ้นก่อนเป็นเด็กสาวยาวสีส้มหยิกเป็นลอน ส่วนอีกคนที่สวมแว่นไว้ผมตรงสีเขียวเข้มยาวถึงปลายคางยืนเงียบอยู่ข้างๆ
“สวัสดีค่ะ” โคลมทักทายตามมารยาท ถึงแม้จะยังไม่รู้ชื่อของทั้งสองคนก็ตาม
“เธอเพิ่งย้ายมาใหม่คงยังไม่คุ้นกับโรงเรียน ไปกินข้าวกับพวกเรามั้ย? เดี๋ยวฉันพาทัวร์โรงเรียนด้วย” เด็กสาวผมส้มเอ่ยปากชวนอย่างมีอัธยาศัย
“ฉัน...มีนัดแล้วค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ...” โคลมก้มหัวขอโทษตามนิสัยที่สุภาพ(จนเกินไป)ของเธอ
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องสุภาพนักก็ได้ งั้นคราวหลังได้มั้ย?” เด็กสาวผมส้มถามด้วยรอยยิ้มสดใสตามแบบฉบับของเด็กสาววัยรุ่น
“ดได้ค่ะ” โคลมตอบอย่างเขินอาย อาการที่เธอแสดงเวลาที่มีใครทำดีด้วยยังคงแก้ไม่หาย
“งั้นก็ แล้วเจอกันนะ ^ ^!” เด็กสาวผมส้มโบกมือลาก่อนจะเดินออกไปทางประตูหลังของห้อง เด็กสาวสวมแว่นหันกลับมามองเธอและโบกมือลาให้แว้บหนึ่งก่อนจะเดินตามเพื่อนออกไป
เด็กสาวผมม่วงใจชื้นขึ้นมาทันที ถ้าเป็นที่นี่ล่ะก็ บางที...บางทีเธออาจจะมีเพื่อนกับเขาบ้างก็ได้ อาจจะได้ใช้ชีวิตอย่างเด็กสาวธรรมดากับบอสและเพื่อนร่วมแฟมิลี่ของเธอ ในตอนนั้นความคิดที่ว่าเธออาศัยอยู่ได้ด้วยพลังของใครบางคนไม่ได้แว้บเข้าสู่สมองของเธอเลย แต่เราก็ไม่ต้องบอกเธอหรอก เพราะคงจะมีวันหนึ่งที่เธอสามารถยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวเอง...
...
เด็กสาวผมม่วงเปิดประตูดาดฟ้าพร้อมกับมองหากลุ่มของเด็กหนุ่มผมฟู หลังจากพบแล้วเธอก็เดินตรงเข้าไปหาพวกเขาและนั่งลงข้างๆ เด็กสาวผมสีน้ำตาล
“เนี่ยเหรอ เด็กผู้หญิงที่เธอว่าย้ายมาอยู่ที่โรงเรียนเราน่ะ เคียวโกะ” เด็กสาวผมยาวสีดำถามเพื่อนของเธอพร้อมกับสำรวจรูปลักษณ์ของเด็กสาวผมม่วงไปด้วย
“ใช่แล้วล่ะจ้ะ โคลมจัง นี่ คุโรคาวะ ฮานะ” เคียวโกะแนะนำเพื่อนรักของตัวเองให้เด็กสาวรู้จัก
“โคลม โดคุโร่ค่ะ” เด็กสาวผมม่วงก้มหัว ดูเหมือนมันจะเป็นวิธีทักทายคนแปลกหน้าของเธอไปซะแล้ว
“ยินดีที่ได้รู้จัก เธอเพิ่งจะอยู่ปีหนึ่งสินะ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกกันได้” ฮานะทักทายด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้เธอจะเกลียดความน่ารำคาญของเด็ก แต่โคลมก็อายุน้อยกว่าเธอเพียงหนึ่งปี และก็ไม่ได้น่ารำคาญด้วย
“โคลมจัง ฉันทำข้าวกล่องมาเผื่อเธอด้วย นี่จ้ะ” เคียวโกะยื่นกล่องข้าวจากกระเป๋าของตัวเองให้เด็กสาวผมม่วง
“เอ๋? แต่ว่า...” ความขี้เกรงใจของเด็กสาวทำให้เธอลังเล
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะจ๊ะ โคลมจังอยู่ลำบากจะแย่ แต่ฉันไม่ลำบากอะไรเลย” แต่เด็กสาวผมสั้นรู้อยู่แล้วจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“แค่คำขอบคุณคำเดียวก็ทำให้ฉันดีใจแล้วล่ะจ้ะ”
“...ขอบคุณค่ะ...” โคลมรับมันมาแต่โดยดี ก่อนจะลงมือแกะกล่องเพื่อรับประทานอาหารมื้อที่อาจจะอร่อยที่สุดในชีวิตของเธอ
--
คาบเรียนที่เป็นไปอย่างน่าเบื่อสำหรับนักเรียนส่วนใหญ่กลับเป็นที่สนใจของโคลม โดคุโร่
คงไม่มีใครเข้าใจความสุขของเธอที่ได้ใช้ชีวิตอย่างเด็กสาวธรรมดาตามที่หวังได้เท่ากับตัวของเธอเอง
และในแต่ละชั่วโมงเรียนที่ผ่านไปก็เป็นอันสรุปได้ว่า...
โคลมหัวดีมาก
ถึงแม้ว่าเธอจะเข้ามากลางเทอม แต่เธอก็สามารถเรียนรู้ได้เร็ว(มาก) ซึ่งก็ทำให้ข้อสงสัยเรื่องภาษาอิตาลีที่เธอใช้ตอนเปิดตัวครั้งแรกในศึกชิงแหวนหายไป เพราะคงไม่พ้นเด็กหนุ่มผู้ถูกขับไล่จากมาเฟียเป็นคนสอนให้ และเธอก็สามารถเรียนรู้มันจนเข้าที่เข้าทาง
ชีวิตในโรงเรียนของเธอประสบความสำเร็จไปครึ่งหนึ่งตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามา ถือเป็นกำลังใจอันดีให้กับเธอ
“ข้อนี้ใครตอบได้บ้าง?” ครูสาววัย 40(?) ขยับแว่นก่อนจะถามถึงโจทย์ในกระดาน
มือขาวจากร่างเล็กชูขึ้นก่อนใคร เด็กสาวผมม่วงผู้ได้รับความกล้าจากสหายมานานจนสุกงอมลุกขึ้นก่อนจะตอบ
“ศูนย์ค่ะ” นี่คือคำตอบ
“ถูกต้อง” และนี่คือผล
เรื่องคำสบประมาท ‘ยัยผู้หญิงโง่’ ของผู้ที่เรียกตัวเองว่ามือขวาของวองโกเล่ก็คงไม่ต้องสงสัยกันอีกแล้ว...
--
กิ๊ง ก่อง กาง ก่อง
เสียงกระดิ่งบอกหมดเวลาเรียนสำหรับวันนี้ และหมายถึงสัญญาณปล่อยผี(?)ด้วยเช่นกัน
“คุณโดคุโร่ บ้านอยู่ที่ไหนเหรอ?” นักเรียนหญิงผมสีส้มคนเดียวกับเมื่อกลางวันเข้ามาถามเด็กสาวผมม่วง
“อยู่...ทางโกคุโยค่ะ...” โคลมไม่กล้าเปิดเผยให้คนอื่นรู้ว่าเธออาศัยอยู่ในที่เช่นไร
“ว้า~ น่าเสียดายจัง คนละทางกับบ้านฉัน ก็เลยไม่ได้กลับด้วยกัน” เด็กสาวผมส้มร้องออกมาด้วยความผิดหวัง
“งั้นวันพรุ่งนี้เจอกันนะ!” เด็กสาวผมส้มโบกมือลาแบบเดียวกับเมื่อกลางวันเป๊ะจนโคลมเกือบรู้สึกถึงเดจาวูในระยะกระชั้นชิด
โคลมเดินออกจากอาคารเรียน ตรงไปที่ประตูหน้าเพื่อที่จะกลับไปยังที่พักอาศัยของเธอ วันนี้เธอมีการบ้านไม่มาก แต่เธอก็อยากจะทำ เพราะเธอรู้สึกสนุกกับการเรียน ชีวิตที่นี่ไม่ทำให้เธอผิดหวัง (เหมือนพวกเราสมัยเข้าโรงเรียนใหม่ และตรงข้ามกับเราในตอนนี้...)
ประธานกรรมการรักษาระเบียบเหล่มองเด็กสาวผมม่วงเมื่อเธอเดินผ่าน และเอ่ยปากย้ำเรื่องที่บอกไปแล้วเมื่อตอนเช้า
“อย่าลืมล่ะ เพลงนามิโมริ แล้วก็นักเรียนที่นี่ไม่อนุญาตให้สวมเครื่องประดับ รวมทั้งผ้าปิดตาด้วย ถึงตาเธอจะกลวงโบ๋ก็หาทางจัดการเอง”
เมื่อพูดธุระจบ เมฆาหนุ่มก็หันกลับไปทำหน้าที่ต่อ ทิ้งให้เด็กสาวผมม่วงต้องกังวลอยู่คนเดียว
//ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกครับ โคลมที่น่ารักของผม//
เสียงของบุคคลที่เธอคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินดังขึ้น
‘ท่านมุคุโร่!’
//แค่ตาข้างเดียว ผมใช้พลังเพิ่มอีกหน่อยได้//
‘แต่ท่านมุคุโร่ก็ลำบากอยู่แล้ว...’
//ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอกครับ ตามใจฮิบาริ เคียวยะเขาหน่อย ^ ^//
น้ำเสียงหยอกเย้าของผู้ที่อยู่อีกฟากทำให้เธอใจชื้นขึ้นมาบ้าง แสดงว่าเขายังสบายดี
‘ขอบคุณมากค่ะ ท่านมุคุโร่’
โคลมตรงกลับโกคุโยด้วยใจอันรื่นเริง แต่ไม่ถึงกับเดินก้าวกระโดดแบบที่คนอื่นเขาทำกัน มันไม่เข้าคาแรคเตอร์ของเธอ
ในคืนนั้น ถ้าหากใครสนใจฟังก็จะได้ยินเสียงใสร้องเพลงที่อาจจะเคยได้ยินจากริงโทนของใครบางคน ตามด้วยเสียงเอะอะโวยวายเพราะเสียงแรกไปรบกวนเจ้าของเสียงที่สองเข้า
“หนวกหูเฟ้ย ยัยขี้เหร่!!”
--
R:”ตอนท้ายนั่น...คงเข้าใจเหตุการณ์กันใช่มั้ย? ตั้งใจจะให้มันเป็นมุขเบาๆ น่ะนะ แต่จะยังไงก็ตาม หวังว่างานเขียนของผมจะ“
Yamamoto:”นายทำได้ไม่เลวเลยล่ะ ฮะๆๆ!!”
R:”ถึงจะได้คำชมจากนาย ฉันก็ไม่ดีใจหรอกเฟ้ย แล้วก็ถ้าจะเคารพกันหน่อยก็ช่วยกลับไปนอนซมเพราะพิษไข้ตามบทที่ฉันเขียนหน่อยเซ่!”
Y:”โทษทีๆ! แข่งใหญ่ครั้งหน้าใกล้เข้ามาแล้ว เสียเวลาไม่ได้แม้แต่วันเดียว งั้นขอออกไปซ้อมก่อนนะ!!” (วิ่งออกไปจากสตูดิโอ(?))
R:”...ไอ้บ้าเบสบอลงั้นเหรอ? สมชื่อจริงๆ...”
--
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น