ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reborn : Fierce Demon & Little Cute Pineapple [1896]

    ลำดับตอนที่ #11 : ชีวิตปกติสุขได้ไม่ทันไร เรื่องก็มา โอ้ว~ โชคร้ายจริงๆ วองโกเล่~ (เริ่ม B.C. Arc)

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ค. 54


    Ch. 11
     
    อิตาลี ประเทศที่มีชื่อในเรื่องกลุ่มผู้มีอิทธิพล อำนาจเหนือกฎหมาย สังหาร ค้าของเถื่อนสารพัด คนเหล่านี้มีชื่อเรียกว่า [มาเฟีย]
     
    แก๊งมาเฟียที่แข็งแกร่งและทรงอำนาจที่สุดคือ [วองโกล่า แฟมิกเลีย] หรือ วองโกเล่ แฟมิลี่นั่นเอง เป็นมาเฟียที่มีอิทธิพลยิ่งใหญ่มาก โดยเฉพาะในยุคของผู้ปกครองรุ่นที่เก้า ทั้งที่ตัวเขาเป็นมาเฟียรักสงบ
     
    ปราสาทหลังใหญ่กลางเมือง ปราสาทวองโกเล่เป็นที่อยู่ของ [ทิโมธีโอ] บอสวองโกเล่รุ่นที่เก้า ซึ่งบัดนี้เขากำลังคร่ำเครียดกับข่าวที่ได้รับแจ้ง
     
    “ที่ว่ามาน่ะแน่ใจแล้วเหรอ?” ชายชราผมขาวในชุดสูทเอ่ยขึ้นจากหลังโต๊ะทำงานไม้สีน้ำตาลอ่อน
     
    “ค่ะ เราได้รับรายงานมาว่ามีชายคนหนึ่งตามสืบข้อมูลของทายาทวองโกเล่รุ่นที่สิบและผู้พิทักษ์จากแหล่งต่างๆ คนของเราบังเอิญไปเห็นมาด้วยตัวเอง” หญิงสาวผมบลอนด์มัดเป็นมวยที่ด้านหลังรายงานด้วยความมั่นใจ
     
    “เธอบอกว่าซาวาดะ สึนะโยชิกับเพื่อนๆ ตกเป็นเป้าหมายลอบสังหารแสดงว่ารู้ตัวชายคนที่ว่าสินะ” [วองโกเล่โนโน่] ถามอย่างใจเย็น แต่แววตาร้อนรน
     
    “จากรูปพรรณสัณฐาน คาดว่าเป็นนักฆ่าคนหนึ่งที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง ไม่เคยมีประวัติสังหารบุคคลสำคัญที่ไหนมาก่อน”
     
    “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไร สึนะโยชิคุงกับเพื่อนๆ สามารถเอาชนะ [วาเรีย] ได้ คงป้องกันตัวได้ไม่ยากเย็น” ชายชราดูเบาใจลงไปบ้าง แต่ยังไม่ชะล่าใจ
     
    “แต่ชายคนนั้นมีประวัติที่น่าสนใจอยู่อย่างหนึ่ง เขาเป็นผู้เหลือรอดจาก [เลือดย้อมจันทร์]”
     
    แววตาของชายชราเปลี่ยนไป เขายังจำได้ดี เหตุการณ์ที่ถูกจารึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์มาเฟียว่าเลวร้ายที่สุด
     
    “แน่ใจเหรอ?”
     
    “ค่ะ คนของเราใช้กล้องลับถ่ายชายคนนั้นเอาไว้ได้หลายภาพ และก็มีภาพนึงที่เป็นที่มาของข้อสันนิษฐานนี้”
     
    หญิงสาววางภาพถ่ายลงตรงหน้าของชายชรา
     
    ทิโมธีโอมองดูรูปนั้นอยู่ครู่หนึ่งก็เปิดลิ้นชัก หยิบเอากระดาษเนื้อดีขึ้นมาแผ่นหนึ่งพร้อมกับเปิดปลอกปากกา ก่อนจะลงมือเขียนด้วยหน้าตาเคร่งเครียด
     
    ครู่หนึ่งผ่านไป ชายชรายื่นกระดาษที่มีเปลวเพลิงสีส้มลุกโชนอยู่ที่หัวให้กับหญิงสาวที่ยืนรออยู่
     
    “ [สารคำสั่ง] นี้ส่งให้ถึงมือ [อิเอมิทสี] ให้ส่งมือดีที่สุดของ [เซเดฟ(CEDEF)] ไปที่นามิโมริโดยด่วน”
     
    “ค่ะ!”
     
    --
     
    “ผมไปก่อนนะครับ!”
     
    เด็กหนุ่มผมฟูสีน้ำตาลอ่อนถลันออกจากบ้านด้วยความเร่งรีบ เป็นอีกเช้าอันสดใสของนามิโมริ...
     
    “สายแล้ว!~” ...กับเอ่ยประโยคเดิมๆ
     
    “อรุณสวัสดิ์ครับรุ่นที่สิบ!” “โย่! สึนะ อรุณสวัสดิ์!”
     
    เด็กหนุ่มร่างสูงสองคนซึ่งยืนรอที่หน้าบ้านของสึนะอยู่ก่อนแล้วเอ่ยทักทาย
     
    “ทั้งสองคนมาทำอะไรอยู่แถวนี้!? ไม่รีบเดี๋ยวก็ไปสายหรอก!”
     
    ทั้งคู่ทำหน้างง ก่อนที่ยามาโมโตะจะพูดขึ้นก่อน
     
    “สายอะไรเหรอ? เพิ่งเจ็ดโมงเอง?”
     
    “หา? เจ็ดโมง?” สึนะยังจบต้นชนปลายไม่ถูก ก่อนจะฉุกคิดขึ้นมาได้
     
    “รีบอร์น!!”
     
    ทารกชุดดำที่วันนี้ไม่ใส่ชุดดำ แต่ใส่เครื่องแบบนามิโมริขนาดจิ๋วร่อนจากหน้าต่างห้องนอนลงบนหัวของลูกศิษย์อย่างสวยงาม
     
    “นายมันฟายเองที่โดนหลอกง่ายๆ”
     
    “ก็นายเล่นอัดเสียงนาฬิกาปลุกเข้าเต็มหูฉันแถมยังตะโกนปาวๆ ว่าเก้าโมงๆ! ฉันล่ะตกใจแทบตาย!!” วองโกเล่หนุ่มโวยวาย
     
    “ฉันก็แค่อยากให้นายเริ่มต้นเช้าอันสดใส ไม่นอนกินบ้านกินเมืองเท่านั้นเอง” รีบอร์นทำหน้าไร้เดียงสาที่มาถึงขนาดนี้จะทำยังไงก็ไม่ขึ้นแล้ว
     
    “จะยังไงก็ช่างเถอะ =_=; แล้วแต่งชุดนามิโมริ คงไม่ได้คิดว่าจะปลอมตัวเข้าไปหรอกนะ?”
     
    “ฉันทำเรื่องย้ายเข้าไปแล้วเฟ้ย” รีบอร์นตอบหน้าตาย
     
    “ว่าไงนะ!?” สึนะตกใจยิ่งกว่าได้รู้ความจริงว่าฮิตเลอร์ที่จริงเป็นเกย์ (R:ชะอุ๋ย! ผิดเรื่อง ชาวนาซีอย่าส่งติ๊กต๊อกแพ็คเกจมาล่ะ)
     
    “ฉันจุ๊หรอกเฟ้ย เจ้าโง่” ทารกชุดนักเรียนกระทืบศีรษะใต้เท้าตัวเองไปเบาๆ หนึ่งที ส่งผลให้ผู้ถูกกระทำผงะไปด้านหน้า
     
    “ฉันมีธุระกับฮิบาริ แต่โรงเรียนมีกฎว่าต้องใส่เครื่องแบบไป ไม่อย่างนั้นคงไม่ถูกใจฮิบาริ” รีบอร์นให้เหตุผล
     
    ‘นายไม่ใช่นักเรียนของโรงเรียนนามิโมริไม่ใช่เหรอฟะ =_=;’
     
    --
     
    ในห้องรับรองสุดหรูของโรงเรียน ...ซึ่งถูกกรรมการรักษาระเบียบยึดไปเป็นที่เรียบร้อย โต๊ะไม้เนื้อดีราคาแพงตั้งอยู่ เด็กหนุ่มผมดำนั่งอยู่บนเก้าอี้นวมสีดำด้วยสีหน้านิ่งสนิทเหมือนทุกที สายตาจับจ้องที่เอกสารตรงหน้า มือขวาถือปากกาหมึกซึม เหมือนกับหัวหน้าแผนกในบริษัททั่วๆ ไป
     
    วันนี้เป็นวันที่เซ็งที่สุดตั้งแต่เข้าจำความได้ ปกติเขาจะลุกขึ้นจากที่นอนแต่เช้า ทำกิจวัตร แต่งตัวมาโรงเรียน แต่วันนี้เขาต้องรออีกหนึ่งชีวิตที่ยังคงไม่ชินกับการอาศัยอยู่ที่บ้านของเขา ทำให้เขาต้องเสียเวลารอจนเข้าสายกว่าปกติถึงสิบห้านาที ปกติต้องก่อนโรงเรียนเปิดหนึ่งชั่วโมงแท้ๆ... (DX:เอ๊ะ? ยังก่อนโรงเรียนเปิดอยู่นี่หว่า?)
     
    และแล้วก็มีสิ่งหนึ่งปรากฏขึ้นทำให้เขาหายเซ็ง นักเรียนชายนามิโมริคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่ขอบหน้าต่าง ฮิบาริหันไปมอง พบว่าชุดดูปกติดีทุกอย่าง เว้นอยู่อย่างเดียว...
     
    “ชุดนามิโมริไม่มีไซส์นั้นนะ เจ้าหนู ยังผิดระเบียบอยู่” เขาพูดขึ้นลอยๆ
     
    “ฉันก็ไม่ใช่คนของนามิโมริอยู่แล้ว” ทารกชุดนักเรียนค้าน (T:ก็ถึงได้บอกไงเล่า!)
     
    “คนนอกเข้ามาในโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องถูกลงโทษนะ” แววตาของกรรมการรักษาระเบียบลุกวาว รอยยิ้มที่แสยะอยู่บนใบหน้าเขาบ่งว่า ‘อ้างไปงั้นแหละ สู้กับฉันก็พอ’
     
    “ฮิบาริ นายคิดจะทำอะไรกันแน่?” ทารกทำเสียงเครียดตีหน้าขึงขังบ่งว่าเอาจริงเอาจัง
     
    “...เรื่องอะไรล่ะ?” เด็กหนุ่มลดทอนฟาลง แสดงให้เห็นว่าไม่ได้อยากสู้ขนาดนั้น
     
    “เรื่องที่นายให้โคลมย้ายไปอยู่ที่บ้าน”
     
    เด็กหนุ่มเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจกับความไวข่าวของทารก
     
    ในขณะเดียวกันรีบอร์นก็ครุ่นคิดอยู่กับพฤติกรรมที่ผิดปกติของประธานฯหนุ่ม ทั้งที่ปกติเขาจะสามารถคาดเดาเหตุผลและความน่าจะเป็นในการกระทำของฮิบาริได้
     
    “ฉันไม่มีความจำเป็นต้องบอกนาย เจ้าหนู ที่แอบเข้ามาจะไม่เอาเรื่อง รีบไปซะ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ” ประธานฯตัดบท
     
    “ฉันก็หมดธุระแล้ว จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” เด็กทารกยิ้มที่มุมปาก อย่างน้อยคำตอบนี้ก็ยังคงอยู่ในความคาดเดา เมื่อพอใจแล้วเขาก็กระโดดแผล็วจากขอบหน้าต่างหายไป
     
    เมื่อแขกที่ไม่รับเชิญจากไปแล้ว ฮิบาริก็หันมาให้ความสนใจงานบนโต๊ะต่อ แต่แล้วเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าความรู้สึกเหมือนถูกจ้องมองหายไปแล้ว ทั้งที่เมื่อเช้าก็ยังอยู่ มันอะไรแน่นะ?...
     
    --
     
    โคลมนั่งเหม่ออยู่ในชั้นเรียน แต่โชคดีที่มันเป็นช่วงพักกลางวัน จึงไม่ต้องห่วงว่าใครจะมาเห็นเข้า
     
    เธอนึกย้อนไป ก่อนหน้านี้ไม่นานมาก
     
    --แฟลชแบ็ก--
     
    ที่ข้างกำแพงโรงเรียนมัธยมต้นนามิโมริวันจันทร์ในตอนเช้าตรู่ ร่างสองร่างกำลังกระทำการบางอย่าง
     
    “อย่าชักช้า วันนี้เธอทำฉันสายพอแล้ว” เด็กหนุ่มผมดำนิ่วหน้าพลางเอ่ยกับเด็กสาวผมม่วงในสภาพเก้ๆ กังๆ ที่ตัวลอยจากพื้น เท้าข้างหนึ่งยันกับกำแพง มือสองข้างเกาะด้านบนกำแพงโรงเรียนที่สูงไม่ใช่น้อย
     
    “ฉันพยายามอยู่ค่ะ...!” เสียงฮึดฮัดของเด็กสาวแสดงให้เห็นว่าเธอเกร็งกล้ามเนื้อสุดแรง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียง ผลัก! เพราะเธอตกลงก้นจ้ำเบ้ากับพื้น
     
    “แค่นี้ก็ไม่ไหว อ่อนแอยิ่งกว่าพวกสัตว์กินดินโป่งแถวนี้ซะอีก”
     
    เด็กหนุ่มก้มลงคว้าแขนเธอให้ลุกขึ้น ก่อนจะใช้แขนอีกข้างช้อนลำตัวเธอขึ้นอุ้มท่าเจ้าหญิง...ไม่มีทางหรอก พาดบ่ายังกับกระสอบข้าวดีๆ นี่เอง
     
    “อ๊ะ!” โคลมร้องด้วยความตกใจปนกลัวหล่น
     
    เขาตรงไปที่กำแพงก่อนจะกระโดดขึ้นได้สูงอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับคนที่แบกสัปปะรด เอ๊ย! คนอยู่ทั้งคน มือที่ว่างเกาะขอบ เท้าสองข้างยันตัวกับกำแพงกระโดดซ้ำขึ้นไปยืนบนกำแพงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
     
    เนื้อแนบเนื้อ...ซะที่ไหน ผ้าแนบผ้า แต่แค่นั้นก็ทำให้เด็กสาวที่แทบไม่เคยสัมผัสตัวใครแบบแนบสนิทมาก่อนจินตนาการไปถึงร่างท่อนบนอันเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่มที่เธอมีบุญ(?)ได้เห็นอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทำให้สีแดงเริ่มเข้ารุกล้ำพื้นที่บนแก้มขาวของเธอ
     
    (DX:แกยัดใช่มะ?]R:ใช่ ฉันยัดภาพนั้นคืนสมองโดคุโร่เอง ไม่งั้นคงไม่ไปไหน)
     
    ไม่นานเท้าเธอก็ได้เหยียบพื้นอีกครั้ง แต่ใจเธอยังไม่หายเต้นตึกตัก
     
    “โรงเรียนยังไม่เปิด ยังไม่มีนักเรียนเข้ามา เธอตามฉันไปที่ห้องกรรมการรักษาระเบียบ” ฮิบาริว่าจบก็เดินนำไปก่อน
     
    “อ๊ะ! รอด้วยสิคะ!” โคลมได้สติก็วิ่งเหยาะๆ ตามไป
     
    --จบแฟลชแบ็ก--
     
    ถึงการถูก ‘กักบริเวณ’ หลังจากนั้นจะไม่มีอะไรเป็นพิเศษนอกจากต่างคนต่างเงียบใส่กันกับคำขู่เล็กๆ น้อยๆ แต่เด็กสาวก็ยังไม่เลิกคิดถึงมัน
     
    “โคลมจัง ไม่สบายรึเปล่า หน้าแดงเชียว?” เด็กสาวผมสีส้มหยิกเป็นลอนในชื่อของริสะเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
     
    “ริสะ หน้าฉัน...แดงงั้นเหรอ?” เธอถามด้วยความแปลกใจ และได้รับคำตอบที่ทำให้แปลกใจยิ่งกว่า
     
    “ก็ใช่น่ะสิ เป็นไข้รึเปล่าเนี่ย คงไม่ใช่...คิดเรื่องผู้ชาย?” เด็กสาวผมส้มเดาสุ่มไปทั่ว(แต่ถูก)
     
    “ไร้สาระ...” เด็กสาวสวมแว่นผมสีเขียวที่นั่งอยู่ข้างๆ เอ่ยแทรกขึ้นโดยตาไม่ห่างจากหนังสือ
     
    “จิโยะ ฉันก็แค่เดา!” ผู้ถูกว่ารู้ตัวเองและหันกลับไปโวยเพื่อนซึ่งทำหน้านิ่งไม่รู้ไม่ชี้
     
    โคลมหาได้สนใจเพื่อนทั้งสองของเธอไม่ ยังคงกลัดกลุ้มอยู่กับปัญหาของตัวเอง
     
    ‘ท่านมุคุโร่ ฉันเป็นอะไรไปคะ?’
     
    แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา...
     
    --
     
    “โกคุเดระคุง ยามาโมโตะคุง พรุ่งนี้เจอกัน!” สึนะลาเพื่อนทั้งสองที่หน้าบ้านของตัวเองก่อนจะวิ่งเข้าไปด้านใน
     
    “ซือคุง! กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ!” หญิงสาวผมสั้นสีน้ำตาล(อย่างน้อยก็ยังดูสาว)เอ่ยทักทายลูกชายสุดที่รักด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนทุกที [ซาวาดะ นานะ] หญิงที่เยี่ยมยอดที่สุดในโลก(DX:ทำไมฟะ!?]R:ไม่รู้ เพราะรีบอร์นเรียกว่า ’หม่าม้า’ มั้ง??)
     
    “ครับ ว่าแต่รีบอร์นอยู่ไหนเหรอครับ?” เด็กหนุ่มมีเรื่องจะถามทารกชุดนักเรียน
     
    ‘คุยอะไรกับคุณฮิบาริกันแน่นะ?’
     
    “รู้สึกจะอยู่บนห้องของลูกน่ะจ้ะ เห็นบอกว่ามีเรื่องต้องทำ ห้ามเข้าไปซะด้วย แต่บอกว่าซือคุงกับเพื่อนๆ เข้าไปได้จ้ะ”
     
    “งั้นผมขึ้นไปดูก่อนนะครับ”
     
    สึนะเดินขึ้นบันไดด้วยความสงสัย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?
     
    ทันใดนั้นเอง เขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง เขาลอยได้!
     
    “อะไรกันเนี่ย!? ...จริงสิ ฟูตะสินะ!”
     
    [ฟูตะ เดอ ลา สเตลลา] หรือ [แรงกิ้ง ฟูตะ] เด็กชายอายุเก้าขวบ ผมสั้นสีน้ำตาล ถือสมุดเล่มโตไปด้วยทุกที่ จนกระทั่งมาลงหลักปักฐานที่บ้านของผู้สืบทอดวองโกเล่รุ่นที่สิบ รายละเอียดไว้ว่ากันทีหลัง เลยหน้ากระดาษมาเยอะแล้ว
     
    เสียงจากในห้องเล็ดลอดออกมา สึนะได้ยินก็จำได้ว่าใช่เสียงของฟูตะจริงๆ
     
    “สุดยอดไปเลย! ความสามารถในการใช้อาวุธทุกประเภทได้อย่างคล่องแคล่วสูงเป็นอันดับสามจาก 86,202 คน!”
     
    “ไม่เลวนี่ ว่าต่อไป”
     
    “เอ๊ะ?” เด็กหนุ่มประหลาดใจ เสียงเมื่อกี้คุ้นหูอย่างประหลาด เหมือนเพิ่งเคยได้ยินเมื่อไม่นานมานี่
     
    “เป็นครูฝึกที่โหดแต่ก็หวังผลกับการพัฒนาของนักเรียนสูงเป็นอันดับหก”
     
    “ไม่มีอันดับหนึ่งบ้างเหรอ?” เสียงปริศนาฟังดูสนใจไม่น้อย
     
    “มีครับ เป็นคนที่พอเป็นเรื่องของตัวเองแล้วจะปากแข็งไม่ยอมบอกใครเป็นอันดับหนึ่งจาก 86,202 คน”
    “ฟังดูไม่น่าดีใจเท่าไร แต่ก็เอาเถอะ”
     
    สภาพสุญญากาศรอบตัวสงบลง เด็กหนุ่มเปิดประตูเข้าไปด้านใน
     
    “แอบฟังคนอื่นมันไม่ดีนะ สึนะ”
     
    “เหวอ!”
     
    ทารกในชุดดักแด้ขาวทิ้งตัวห้อยหัวลงมาตรงหน้าเด็กหนุ่มจนหัวใจแทบวาย
     
    “พี่สึนะ! กลับมาพอดีเลย มีคนมาหาพี่แน่ะครับ” เด็กชายเก้าขวบที่ว่าเอ่ยกับเด็กหนุ่มผมฟูด้วใบหน้ายิ้มแย้ม
     
    “เอ๋? มีคนมาหาฉันเหรอ?” สึนะกวาดตามองจากซ้ายไปขวาแต่ก็ยังไม่พบใคร
     
    “ข้างล่างนี่” เสียงปริศนาดังขึ้นอีกครั้ง แต่มันก็ไม่เป็นปริศนาอีกต่อไป เพราะเด็กหนุ่มเห็นเข้าเต็มตาแล้ว
     
    “ก็ไม่ได้กะจะอยู่รอหรอกนะ แต่รีบอร์นรบเร้าเลยขออยู่ดูหน้าคนที่รุ่นที่เก้าเลือกซะหน่อย” เสียงของทารกเพศหญิงดังจับใจเด็กหนุ่ม เพราะมันช่างละม้ายคล้ายคลึงกับใครบางคนที่เขารู้จักในโลกอนาคต
     
    ผ้าคลุมและแว่นหน้ากากสีแดง ผมสีน้ำเงินเข้ม ลายรูปเปลวเพลิงสีแดงที่แก้มขวา ถึงจะตัวเท่าเด็กทารก แต่จะเป็นใครไปไม่ได้...
     
    “รัล มิลจิ!?”
     
    --
     
    R:”คำเตือน! ประกาศจากน.ส.น.!! ใครรักใครชอบคู่ 5666 หรือ ColoLal โปรดระวัง เนื้อเรื่องนี้มีสิทธิ์กระตุกต่อมโมโหท่านได้ เนื่องจากสมองของ น.ส.น.(ักเขียนมองิ่ม) คนนี้มีสิทธิ์จะทำให้ไปทาง OC66 หรือ OCLal ได้ (OC = ตัวละคนเฉพาะฟิคชั่นที่คนเขียนสร้างขึ้นเอง) แต่ก็แค่แนวโน้ม ไม่ต้องส่งหน่วยคอมมานโดมาถล่มบ้านคนเขียนหรอก”
     
    DX:”อย่างว่า ไอ้เจ้านี่มันเขียนบทหวานไม่ได้ เลยพยายามจับคู่พวกที่มีข้ออ้างไม่ต้องหวาน”
     
    R:”ไม่ใช่แล้ว ฉันชอบเป็นการส่วนตัวเฟ้ย และส่วนตัวฉันก็ชอบโคโลเนลโลมากที่สุดในบรรดาอัลโกบาเลโน่ด้วย แค่ไม่ได้ชอบ 5666 แค่นั้นเอง”
     
    DX:”แหลไปเรื่อย...”
     
    R:”ส่วนใครที่มีประสบการณ์ไม่ดีหรือไม่ชอบ OC เป็นการส่วนตัว คนเขียนไม่รับประกันนะว่าจะเขียนออกมาได้เสียอารมณ์พวกท่านทั้งหลายมั้ย ถึงจะรู้และพยายามไม่ให้เป็นพวก ‘เก่งเวอร์’ ก็ตาม แต่ก็ยังอยู่ในแวดวงบู๊อยู่ดี แต่อย่ากังวลไปเลย ไม่ถึงระดับผู้พิทักษ์ทั้งสี่หรอก (ไม่นับแรมโบ้กับโคลม และไม่ถือว่ามุคุโร่เป็นผู้พิทักษ์แห่งสายหมอก)”
     
    Lal Mirchi:”เฮ้ ถ้าเขียนฉันไม่ดีล่ะก็ โดนการทรมานแบบ ‘คอมสุบิน’ แน่”
     
    DX:”คอมพ์บิน? คอมพ์ที่ไหนบินได้ฟะ?”
     
    LM:”ไม่ใช่! ฉันหมายถึง ‘คอมสุบิน’ ที่เป็นหน่วยรบพิเศษของอิตาลี!”
     
    R:”มีจริงนะขอบอก ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สองด้วย -_-“
     
    DX:”อ๊ะ! งั้นยัยนี่ก็แก่—แอ๊กๆๆๆ!!” (ลูกเตะสิบสามฮิท)
     
    LM:”ไม่ได้หมายความว่าฉันเข้าตั้งแต่ตอนนั้น!!”
     
    --
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×