ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ชีวิตปกติสุขได้ไม่ทันไร เรื่องก็มา โอ้ว~ โชคร้ายจริงๆ วองโกเล่~ (เริ่ม B.C. Arc)
Ch. 11
อิตาลี ประเทศที่มีชื่อในเรื่องกลุ่มผู้มีอิทธิพล อำนาจเหนือกฎหมาย สังหาร ค้าของเถื่อนสารพัด คนเหล่านี้มีชื่อเรียกว่า [มาเฟีย]
แก๊งมาเฟียที่แข็งแกร่งและทรงอำนาจที่สุดคือ [วองโกล่า แฟมิกเลีย] หรือ วองโกเล่ แฟมิลี่นั่นเอง เป็นมาเฟียที่มีอิทธิพลยิ่งใหญ่มาก โดยเฉพาะในยุคของผู้ปกครองรุ่นที่เก้า ทั้งที่ตัวเขาเป็นมาเฟียรักสงบ
ปราสาทหลังใหญ่กลางเมือง ปราสาทวองโกเล่เป็นที่อยู่ของ [ทิโมธีโอ] บอสวองโกเล่รุ่นที่เก้า ซึ่งบัดนี้เขากำลังคร่ำเครียดกับข่าวที่ได้รับแจ้ง
“ที่ว่ามาน่ะแน่ใจแล้วเหรอ?” ชายชราผมขาวในชุดสูทเอ่ยขึ้นจากหลังโต๊ะทำงานไม้สีน้ำตาลอ่อน
“ค่ะ เราได้รับรายงานมาว่ามีชายคนหนึ่งตามสืบข้อมูลของทายาทวองโกเล่รุ่นที่สิบและผู้พิทักษ์จากแหล่งต่างๆ คนของเราบังเอิญไปเห็นมาด้วยตัวเอง” หญิงสาวผมบลอนด์มัดเป็นมวยที่ด้านหลังรายงานด้วยความมั่นใจ
“เธอบอกว่าซาวาดะ สึนะโยชิกับเพื่อนๆ ตกเป็นเป้าหมายลอบสังหารแสดงว่ารู้ตัวชายคนที่ว่าสินะ” [วองโกเล่โนโน่] ถามอย่างใจเย็น แต่แววตาร้อนรน
“จากรูปพรรณสัณฐาน คาดว่าเป็นนักฆ่าคนหนึ่งที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง ไม่เคยมีประวัติสังหารบุคคลสำคัญที่ไหนมาก่อน”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไร สึนะโยชิคุงกับเพื่อนๆ สามารถเอาชนะ [วาเรีย] ได้ คงป้องกันตัวได้ไม่ยากเย็น” ชายชราดูเบาใจลงไปบ้าง แต่ยังไม่ชะล่าใจ
“แต่ชายคนนั้นมีประวัติที่น่าสนใจอยู่อย่างหนึ่ง เขาเป็นผู้เหลือรอดจาก [เลือดย้อมจันทร์]”
แววตาของชายชราเปลี่ยนไป เขายังจำได้ดี เหตุการณ์ที่ถูกจารึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์มาเฟียว่าเลวร้ายที่สุด
“แน่ใจเหรอ?”
“ค่ะ คนของเราใช้กล้องลับถ่ายชายคนนั้นเอาไว้ได้หลายภาพ และก็มีภาพนึงที่เป็นที่มาของข้อสันนิษฐานนี้”
หญิงสาววางภาพถ่ายลงตรงหน้าของชายชรา
ทิโมธีโอมองดูรูปนั้นอยู่ครู่หนึ่งก็เปิดลิ้นชัก หยิบเอากระดาษเนื้อดีขึ้นมาแผ่นหนึ่งพร้อมกับเปิดปลอกปากกา ก่อนจะลงมือเขียนด้วยหน้าตาเคร่งเครียด
ครู่หนึ่งผ่านไป ชายชรายื่นกระดาษที่มีเปลวเพลิงสีส้มลุกโชนอยู่ที่หัวให้กับหญิงสาวที่ยืนรออยู่
“ [สารคำสั่ง] นี้ส่งให้ถึงมือ [อิเอมิทสี] ให้ส่งมือดีที่สุดของ [เซเดฟ(CEDEF)] ไปที่นามิโมริโดยด่วน”
“ค่ะ!”
--
“ผมไปก่อนนะครับ!”
เด็กหนุ่มผมฟูสีน้ำตาลอ่อนถลันออกจากบ้านด้วยความเร่งรีบ เป็นอีกเช้าอันสดใสของนามิโมริ...
“สายแล้ว!~” ...กับเอ่ยประโยคเดิมๆ
“อรุณสวัสดิ์ครับรุ่นที่สิบ!” “โย่! สึนะ อรุณสวัสดิ์!”
เด็กหนุ่มร่างสูงสองคนซึ่งยืนรอที่หน้าบ้านของสึนะอยู่ก่อนแล้วเอ่ยทักทาย
“ทั้งสองคนมาทำอะไรอยู่แถวนี้!? ไม่รีบเดี๋ยวก็ไปสายหรอก!”
ทั้งคู่ทำหน้างง ก่อนที่ยามาโมโตะจะพูดขึ้นก่อน
“สายอะไรเหรอ? เพิ่งเจ็ดโมงเอง?”
“หา? เจ็ดโมง?” สึนะยังจบต้นชนปลายไม่ถูก ก่อนจะฉุกคิดขึ้นมาได้
“รีบอร์น!!”
ทารกชุดดำที่วันนี้ไม่ใส่ชุดดำ แต่ใส่เครื่องแบบนามิโมริขนาดจิ๋วร่อนจากหน้าต่างห้องนอนลงบนหัวของลูกศิษย์อย่างสวยงาม
“นายมันฟายเองที่โดนหลอกง่ายๆ”
“ก็นายเล่นอัดเสียงนาฬิกาปลุกเข้าเต็มหูฉันแถมยังตะโกนปาวๆ ว่าเก้าโมงๆ! ฉันล่ะตกใจแทบตาย!!” วองโกเล่หนุ่มโวยวาย
“ฉันก็แค่อยากให้นายเริ่มต้นเช้าอันสดใส ไม่นอนกินบ้านกินเมืองเท่านั้นเอง” รีบอร์นทำหน้าไร้เดียงสาที่มาถึงขนาดนี้จะทำยังไงก็ไม่ขึ้นแล้ว
“จะยังไงก็ช่างเถอะ =_=; แล้วแต่งชุดนามิโมริ คงไม่ได้คิดว่าจะปลอมตัวเข้าไปหรอกนะ?”
“ฉันทำเรื่องย้ายเข้าไปแล้วเฟ้ย” รีบอร์นตอบหน้าตาย
“ว่าไงนะ!?” สึนะตกใจยิ่งกว่าได้รู้ความจริงว่าฮิตเลอร์ที่จริงเป็นเกย์ (R:ชะอุ๋ย! ผิดเรื่อง ชาวนาซีอย่าส่งติ๊กต๊อกแพ็คเกจมาล่ะ)
“ฉันจุ๊หรอกเฟ้ย เจ้าโง่” ทารกชุดนักเรียนกระทืบศีรษะใต้เท้าตัวเองไปเบาๆ หนึ่งที ส่งผลให้ผู้ถูกกระทำผงะไปด้านหน้า
“ฉันมีธุระกับฮิบาริ แต่โรงเรียนมีกฎว่าต้องใส่เครื่องแบบไป ไม่อย่างนั้นคงไม่ถูกใจฮิบาริ” รีบอร์นให้เหตุผล
‘นายไม่ใช่นักเรียนของโรงเรียนนามิโมริไม่ใช่เหรอฟะ =_=;’
--
ในห้องรับรองสุดหรูของโรงเรียน ...ซึ่งถูกกรรมการรักษาระเบียบยึดไปเป็นที่เรียบร้อย โต๊ะไม้เนื้อดีราคาแพงตั้งอยู่ เด็กหนุ่มผมดำนั่งอยู่บนเก้าอี้นวมสีดำด้วยสีหน้านิ่งสนิทเหมือนทุกที สายตาจับจ้องที่เอกสารตรงหน้า มือขวาถือปากกาหมึกซึม เหมือนกับหัวหน้าแผนกในบริษัททั่วๆ ไป
วันนี้เป็นวันที่เซ็งที่สุดตั้งแต่เข้าจำความได้ ปกติเขาจะลุกขึ้นจากที่นอนแต่เช้า ทำกิจวัตร แต่งตัวมาโรงเรียน แต่วันนี้เขาต้องรออีกหนึ่งชีวิตที่ยังคงไม่ชินกับการอาศัยอยู่ที่บ้านของเขา ทำให้เขาต้องเสียเวลารอจนเข้าสายกว่าปกติถึงสิบห้านาที ปกติต้องก่อนโรงเรียนเปิดหนึ่งชั่วโมงแท้ๆ... (DX:เอ๊ะ? ยังก่อนโรงเรียนเปิดอยู่นี่หว่า?)
และแล้วก็มีสิ่งหนึ่งปรากฏขึ้นทำให้เขาหายเซ็ง นักเรียนชายนามิโมริคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่ขอบหน้าต่าง ฮิบาริหันไปมอง พบว่าชุดดูปกติดีทุกอย่าง เว้นอยู่อย่างเดียว...
“ชุดนามิโมริไม่มีไซส์นั้นนะ เจ้าหนู ยังผิดระเบียบอยู่” เขาพูดขึ้นลอยๆ
“ฉันก็ไม่ใช่คนของนามิโมริอยู่แล้ว” ทารกชุดนักเรียนค้าน (T:ก็ถึงได้บอกไงเล่า!)
“คนนอกเข้ามาในโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องถูกลงโทษนะ” แววตาของกรรมการรักษาระเบียบลุกวาว รอยยิ้มที่แสยะอยู่บนใบหน้าเขาบ่งว่า ‘อ้างไปงั้นแหละ สู้กับฉันก็พอ’
“ฮิบาริ นายคิดจะทำอะไรกันแน่?” ทารกทำเสียงเครียดตีหน้าขึงขังบ่งว่าเอาจริงเอาจัง
“...เรื่องอะไรล่ะ?” เด็กหนุ่มลดทอนฟาลง แสดงให้เห็นว่าไม่ได้อยากสู้ขนาดนั้น
“เรื่องที่นายให้โคลมย้ายไปอยู่ที่บ้าน”
เด็กหนุ่มเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจกับความไวข่าวของทารก
ในขณะเดียวกันรีบอร์นก็ครุ่นคิดอยู่กับพฤติกรรมที่ผิดปกติของประธานฯหนุ่ม ทั้งที่ปกติเขาจะสามารถคาดเดาเหตุผลและความน่าจะเป็นในการกระทำของฮิบาริได้
“ฉันไม่มีความจำเป็นต้องบอกนาย เจ้าหนู ที่แอบเข้ามาจะไม่เอาเรื่อง รีบไปซะ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ” ประธานฯตัดบท
“ฉันก็หมดธุระแล้ว จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” เด็กทารกยิ้มที่มุมปาก อย่างน้อยคำตอบนี้ก็ยังคงอยู่ในความคาดเดา เมื่อพอใจแล้วเขาก็กระโดดแผล็วจากขอบหน้าต่างหายไป
เมื่อแขกที่ไม่รับเชิญจากไปแล้ว ฮิบาริก็หันมาให้ความสนใจงานบนโต๊ะต่อ แต่แล้วเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าความรู้สึกเหมือนถูกจ้องมองหายไปแล้ว ทั้งที่เมื่อเช้าก็ยังอยู่ มันอะไรแน่นะ?...
--
โคลมนั่งเหม่ออยู่ในชั้นเรียน แต่โชคดีที่มันเป็นช่วงพักกลางวัน จึงไม่ต้องห่วงว่าใครจะมาเห็นเข้า
เธอนึกย้อนไป ก่อนหน้านี้ไม่นานมาก
--แฟลชแบ็ก--
ที่ข้างกำแพงโรงเรียนมัธยมต้นนามิโมริวันจันทร์ในตอนเช้าตรู่ ร่างสองร่างกำลังกระทำการบางอย่าง
“อย่าชักช้า วันนี้เธอทำฉันสายพอแล้ว” เด็กหนุ่มผมดำนิ่วหน้าพลางเอ่ยกับเด็กสาวผมม่วงในสภาพเก้ๆ กังๆ ที่ตัวลอยจากพื้น เท้าข้างหนึ่งยันกับกำแพง มือสองข้างเกาะด้านบนกำแพงโรงเรียนที่สูงไม่ใช่น้อย
“ฉันพยายามอยู่ค่ะ...!” เสียงฮึดฮัดของเด็กสาวแสดงให้เห็นว่าเธอเกร็งกล้ามเนื้อสุดแรง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียง ผลัก! เพราะเธอตกลงก้นจ้ำเบ้ากับพื้น
“แค่นี้ก็ไม่ไหว อ่อนแอยิ่งกว่าพวกสัตว์กินดินโป่งแถวนี้ซะอีก”
เด็กหนุ่มก้มลงคว้าแขนเธอให้ลุกขึ้น ก่อนจะใช้แขนอีกข้างช้อนลำตัวเธอขึ้นอุ้มท่าเจ้าหญิง...ไม่มีทางหรอก พาดบ่ายังกับกระสอบข้าวดีๆ นี่เอง
“อ๊ะ!” โคลมร้องด้วยความตกใจปนกลัวหล่น
เขาตรงไปที่กำแพงก่อนจะกระโดดขึ้นได้สูงอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับคนที่แบกสัปปะรด เอ๊ย! คนอยู่ทั้งคน มือที่ว่างเกาะขอบ เท้าสองข้างยันตัวกับกำแพงกระโดดซ้ำขึ้นไปยืนบนกำแพงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เนื้อแนบเนื้อ...ซะที่ไหน ผ้าแนบผ้า แต่แค่นั้นก็ทำให้เด็กสาวที่แทบไม่เคยสัมผัสตัวใครแบบแนบสนิทมาก่อนจินตนาการไปถึงร่างท่อนบนอันเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่มที่เธอมีบุญ(?)ได้เห็นอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทำให้สีแดงเริ่มเข้ารุกล้ำพื้นที่บนแก้มขาวของเธอ
(DX:แกยัดใช่มะ?]R:ใช่ ฉันยัดภาพนั้นคืนสมองโดคุโร่เอง ไม่งั้นคงไม่ไปไหน)
ไม่นานเท้าเธอก็ได้เหยียบพื้นอีกครั้ง แต่ใจเธอยังไม่หายเต้นตึกตัก
“โรงเรียนยังไม่เปิด ยังไม่มีนักเรียนเข้ามา เธอตามฉันไปที่ห้องกรรมการรักษาระเบียบ” ฮิบาริว่าจบก็เดินนำไปก่อน
“อ๊ะ! รอด้วยสิคะ!” โคลมได้สติก็วิ่งเหยาะๆ ตามไป
--จบแฟลชแบ็ก--
ถึงการถูก ‘กักบริเวณ’ หลังจากนั้นจะไม่มีอะไรเป็นพิเศษนอกจากต่างคนต่างเงียบใส่กันกับคำขู่เล็กๆ น้อยๆ แต่เด็กสาวก็ยังไม่เลิกคิดถึงมัน
“โคลมจัง ไม่สบายรึเปล่า หน้าแดงเชียว?” เด็กสาวผมสีส้มหยิกเป็นลอนในชื่อของริสะเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
“ริสะ หน้าฉัน...แดงงั้นเหรอ?” เธอถามด้วยความแปลกใจ และได้รับคำตอบที่ทำให้แปลกใจยิ่งกว่า
“ก็ใช่น่ะสิ เป็นไข้รึเปล่าเนี่ย คงไม่ใช่...คิดเรื่องผู้ชาย?” เด็กสาวผมส้มเดาสุ่มไปทั่ว(แต่ถูก)
“ไร้สาระ...” เด็กสาวสวมแว่นผมสีเขียวที่นั่งอยู่ข้างๆ เอ่ยแทรกขึ้นโดยตาไม่ห่างจากหนังสือ
“จิโยะ ฉันก็แค่เดา!” ผู้ถูกว่ารู้ตัวเองและหันกลับไปโวยเพื่อนซึ่งทำหน้านิ่งไม่รู้ไม่ชี้
โคลมหาได้สนใจเพื่อนทั้งสองของเธอไม่ ยังคงกลัดกลุ้มอยู่กับปัญหาของตัวเอง
‘ท่านมุคุโร่ ฉันเป็นอะไรไปคะ?’
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา...
--
“โกคุเดระคุง ยามาโมโตะคุง พรุ่งนี้เจอกัน!” สึนะลาเพื่อนทั้งสองที่หน้าบ้านของตัวเองก่อนจะวิ่งเข้าไปด้านใน
“ซือคุง! กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ!” หญิงสาวผมสั้นสีน้ำตาล(อย่างน้อยก็ยังดูสาว)เอ่ยทักทายลูกชายสุดที่รักด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนทุกที [ซาวาดะ นานะ] หญิงที่เยี่ยมยอดที่สุดในโลก(DX:ทำไมฟะ!?]R:ไม่รู้ เพราะรีบอร์นเรียกว่า ’หม่าม้า’ มั้ง??)
“ครับ ว่าแต่รีบอร์นอยู่ไหนเหรอครับ?” เด็กหนุ่มมีเรื่องจะถามทารกชุดนักเรียน
‘คุยอะไรกับคุณฮิบาริกันแน่นะ?’
“รู้สึกจะอยู่บนห้องของลูกน่ะจ้ะ เห็นบอกว่ามีเรื่องต้องทำ ห้ามเข้าไปซะด้วย แต่บอกว่าซือคุงกับเพื่อนๆ เข้าไปได้จ้ะ”
“งั้นผมขึ้นไปดูก่อนนะครับ”
สึนะเดินขึ้นบันไดด้วยความสงสัย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?
ทันใดนั้นเอง เขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง เขาลอยได้!
“อะไรกันเนี่ย!? ...จริงสิ ฟูตะสินะ!”
[ฟูตะ เดอ ลา สเตลลา] หรือ [แรงกิ้ง ฟูตะ] เด็กชายอายุเก้าขวบ ผมสั้นสีน้ำตาล ถือสมุดเล่มโตไปด้วยทุกที่ จนกระทั่งมาลงหลักปักฐานที่บ้านของผู้สืบทอดวองโกเล่รุ่นที่สิบ รายละเอียดไว้ว่ากันทีหลัง เลยหน้ากระดาษมาเยอะแล้ว
เสียงจากในห้องเล็ดลอดออกมา สึนะได้ยินก็จำได้ว่าใช่เสียงของฟูตะจริงๆ
“สุดยอดไปเลย! ความสามารถในการใช้อาวุธทุกประเภทได้อย่างคล่องแคล่วสูงเป็นอันดับสามจาก 86,202 คน!”
“ไม่เลวนี่ ว่าต่อไป”
“เอ๊ะ?” เด็กหนุ่มประหลาดใจ เสียงเมื่อกี้คุ้นหูอย่างประหลาด เหมือนเพิ่งเคยได้ยินเมื่อไม่นานมานี่
“เป็นครูฝึกที่โหดแต่ก็หวังผลกับการพัฒนาของนักเรียนสูงเป็นอันดับหก”
“ไม่มีอันดับหนึ่งบ้างเหรอ?” เสียงปริศนาฟังดูสนใจไม่น้อย
“มีครับ เป็นคนที่พอเป็นเรื่องของตัวเองแล้วจะปากแข็งไม่ยอมบอกใครเป็นอันดับหนึ่งจาก 86,202 คน”
“ฟังดูไม่น่าดีใจเท่าไร แต่ก็เอาเถอะ”
สภาพสุญญากาศรอบตัวสงบลง เด็กหนุ่มเปิดประตูเข้าไปด้านใน
“แอบฟังคนอื่นมันไม่ดีนะ สึนะ”
“เหวอ!”
ทารกในชุดดักแด้ขาวทิ้งตัวห้อยหัวลงมาตรงหน้าเด็กหนุ่มจนหัวใจแทบวาย
“พี่สึนะ! กลับมาพอดีเลย มีคนมาหาพี่แน่ะครับ” เด็กชายเก้าขวบที่ว่าเอ่ยกับเด็กหนุ่มผมฟูด้วใบหน้ายิ้มแย้ม
“เอ๋? มีคนมาหาฉันเหรอ?” สึนะกวาดตามองจากซ้ายไปขวาแต่ก็ยังไม่พบใคร
“ข้างล่างนี่” เสียงปริศนาดังขึ้นอีกครั้ง แต่มันก็ไม่เป็นปริศนาอีกต่อไป เพราะเด็กหนุ่มเห็นเข้าเต็มตาแล้ว
“ก็ไม่ได้กะจะอยู่รอหรอกนะ แต่รีบอร์นรบเร้าเลยขออยู่ดูหน้าคนที่รุ่นที่เก้าเลือกซะหน่อย” เสียงของทารกเพศหญิงดังจับใจเด็กหนุ่ม เพราะมันช่างละม้ายคล้ายคลึงกับใครบางคนที่เขารู้จักในโลกอนาคต
ผ้าคลุมและแว่นหน้ากากสีแดง ผมสีน้ำเงินเข้ม ลายรูปเปลวเพลิงสีแดงที่แก้มขวา ถึงจะตัวเท่าเด็กทารก แต่จะเป็นใครไปไม่ได้...
“รัล มิลจิ!?”
--
R:”คำเตือน! ประกาศจากน.ส.น.!! ใครรักใครชอบคู่ 5666 หรือ ColoLal โปรดระวัง เนื้อเรื่องนี้มีสิทธิ์กระตุกต่อมโมโหท่านได้ เนื่องจากสมองของ น.ส.น.(นักเขียนสมองนิ่ม) คนนี้มีสิทธิ์จะทำให้ไปทาง OC66 หรือ OCLal ได้ (OC = ตัวละคนเฉพาะฟิคชั่นที่คนเขียนสร้างขึ้นเอง) แต่ก็แค่แนวโน้ม ไม่ต้องส่งหน่วยคอมมานโดมาถล่มบ้านคนเขียนหรอก”
DX:”อย่างว่า ไอ้เจ้านี่มันเขียนบทหวานไม่ได้ เลยพยายามจับคู่พวกที่มีข้ออ้างไม่ต้องหวาน”
R:”ไม่ใช่แล้ว ฉันชอบเป็นการส่วนตัวเฟ้ย และส่วนตัวฉันก็ชอบโคโลเนลโลมากที่สุดในบรรดาอัลโกบาเลโน่ด้วย แค่ไม่ได้ชอบ 5666 แค่นั้นเอง”
DX:”แหลไปเรื่อย...”
R:”ส่วนใครที่มีประสบการณ์ไม่ดีหรือไม่ชอบ OC เป็นการส่วนตัว คนเขียนไม่รับประกันนะว่าจะเขียนออกมาได้เสียอารมณ์พวกท่านทั้งหลายมั้ย ถึงจะรู้และพยายามไม่ให้เป็นพวก ‘เก่งเวอร์’ ก็ตาม แต่ก็ยังอยู่ในแวดวงบู๊อยู่ดี แต่อย่ากังวลไปเลย ไม่ถึงระดับผู้พิทักษ์ทั้งสี่หรอก (ไม่นับแรมโบ้กับโคลม และไม่ถือว่ามุคุโร่เป็นผู้พิทักษ์แห่งสายหมอก)”
Lal Mirchi:”เฮ้ ถ้าเขียนฉันไม่ดีล่ะก็ โดนการทรมานแบบ ‘คอมสุบิน’ แน่”
DX:”คอมพ์บิน? คอมพ์ที่ไหนบินได้ฟะ?”
LM:”ไม่ใช่! ฉันหมายถึง ‘คอมสุบิน’ ที่เป็นหน่วยรบพิเศษของอิตาลี!”
R:”มีจริงนะขอบอก ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สองด้วย -_-“
DX:”อ๊ะ! งั้นยัยนี่ก็แก่แอ๊กๆๆๆ!!” (ลูกเตะสิบสามฮิท)
LM:”ไม่ได้หมายความว่าฉันเข้าตั้งแต่ตอนนั้น!!”
--
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น