ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ROMANTICA VIRUS | chanbaek hanhun krisho

    ลำดับตอนที่ #8 : - { r o m a n t i c a v i r u s+ } ★ s e v e n (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 57


     

    ผมยืนอยู่ที่เดิม

    ถนนที่ไม่รู้ว่าจะพาผมไปไหน

    เส้นทางตรงหน้ามันไกลแสนไกล

     

    ผมรู้....

    พยายามแค่ไหน ก็ยังหลงทางอยู่ดี...

     

     

    ROMANTICA VIRUS+

    ** เนื้อเรื่อง และตัวละครทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องที่ผู้เขียนจินตนาการขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ

     

    _____________________________

     

    CHANYEOL x BAEKHYUN

    LUHAN x  SEHUN

    KRIS x SUHO

    ______________________________

     

    { 7 }

     

     

     

    ปาร์ค ชานยอลตื่นนานแล้ว....

    ถึงแม้เข็มนาฬิกาจะเพิ่งตีถึงเลขห้าหมาดๆก็เถอะ...

     

    ร่างสูงนอนเหยียดขายาวอยู่บนเตียง ข้างๆ เต็มไปด้วยหนังสือการ์ตูนวางระเกะระกะ กับสมุดแลคเชอร์เล่มนึงที่เคยเป็นของเขาสมัยฝึกพากย์ใหม่ๆ ในสมุดเต็มไปด้วยเทคนิคมากมาย ที่เขาจดเอาไว้ ไม่ว่าจะมาจากช่องการ์ตูนตอนเช้า ตอนที่เขาเข้าคลาสเรียนพากย์แรกๆ หรือตอนที่เริ่มทำแล้วเจอจุดที่ไม่เข้าใจ...

     

    อันที่จริงเขาเขียนเพิ่มไปอีกนิดหน่อยไหนๆเจ้าสมุดนี่ก็อาจจะเป็นประโยชน์ให้เด็กนั่นได้บ้าง...เขาถึงได้ แอบวาดรูปให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น แล้วก็มาร์กเน้นจุดที่สำคัญ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตีสาม หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าสะดุ้งขึ้นมาอีกทีก็นอนไม่หลับเสียแล้ว...

     

    บางทีเขาก็พูดแรงไป...

     

    นั่นเป็นจุดที่เขารู้อยู่แก่ใจ แต่ถ้าจะให้มานั่งพูดนิ่มๆอย่างพี่ซูโฮ หรือพูดจามีหลักการแล้วแทรกด้วยผลประโยชน์อย่างอี้ฟาน ก็คงไม่ใช่ตัวเขา...

     

    บางทีเขาควรจะขอโทษ...ที่พูดแรง...

     

    อันนั้นมันก็ใช่ แต่เด็กนั่นก็ยั่วโมโหเขาเหมือนกัน ถึงจะรู้ว่าหมอนั่นไม่ได้จงใจก็เถอะ แต่ไม่รู้จักกาลเทศะหรือยังไง ไม่ใช่ว่าตัวเองอึดอัดเป็นคนเดียวเสียเมื่อไหร่ ผู้ชายดีๆที่ไหนเขาอยากจะมาพากย์การ์ตูนเกย์กัน ใช่ว่าตัวเองต้องอดทนคนเดียวหรือยังไง...

     

    เพราะงั้นจะไม่ขอโทษ...เพราะเขาไม่ได้ผิดซักเท่าไหร่

     

    ก๊อก ๆๆ  ก๊อกๆๆ

     

    เสียงเคาะประตูดังขึ้น เรียกให้ร่างสูงบนเตียงตื่นจากภวังค์ ชานยอลลุกจากเตียงขนาดควีนไซส์ก่อนจะบิดลูกบิดประตูเปิดออก

     

    พี่ซูโฮยืนถือแก้วกาแฟนิ่ง พร้อมกับส่งยิ้มมาให้ “ตื่นแล้วใช่ไหม พี่เห็นไฟเปิดอยู่”

     

    “ครับ...”

     

    “งั้นขอพี่เข้าไปหน่อยได้ไหม”

     

    ชานยอลเปิดประตูให้กว้างขึ้น พลางรับแก้วกาแฟอุ่นๆที่อีกฝ่ายยื่นให้มาไว้กับตัวเอง พี่ซูโฮเดินไปทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ทำงานที่บนโต๊ะเต็มไปด้วยแพลนการตลาดของการ์ตูนเรื่องที่เขากำลังทำ คนร่างเล็กหยิบมันขึ้นมาอ่านอย่างสนใจ

     

    “นี่แผนโปรโมทของเรื่องโททอลลี่ฯหรอ”

     

    “ใช่ครับ” ชานยอลยกกาแฟขึ้นจิบ “ทำยังไม่เสร็จแต่ก็ต้องโปรโมทแล้วผมไม่อยากให้มันเงียบจนเกินไป”

     

    พี่ซูโฮพยักหน้า “แล้วเพลงประกอบ?.....ต้องทำเองใช่ไหม”

     

    “ในส่วนของเพลงประกอบผมคิดว่าอาจจะต้องแต่งเอง....ส่วนเพลงเปิด จงแดบอกว่าจะให้แฟนมาร้องให้”

     

    “อี้ชิงน่ะหรอ...หมอนั่นหายไปตั้งนาน ไปซุ่มทำเพลงนี่เอง” จุนมยอนเลิกคิ้ว “ว่าแต่...ว่าจ้างนักร้องดังขนาดนั้น.....งบไม่บานเลยหรอ”

     

    ชานยอลหัวเราะเบา ๆ “พี่อี้ฟานเป็นคนยื่นข้อเสนอ ว่าถ้าอี้ชิงมาทำเพลงกับโปรเจ็คของผม....หมอนั่นจะให้วันหยุดพักร้อนจงแดห้าวัน พร้อมตั๋วเครื่องบินไปเชจูสองที่” 

     

    “พี่ว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่นะแล้วอี้ชิงว่ายังไง?”

     

    “ตกลงง่ายๆทำให้ฟรีๆอีกต่างหาก....พี่ก็รู้...พี่อี้ฟานน่ะถนัดอยู่แล้ว เรื่องผลประโยชน์ หน้าเลือดใช้ได้”

     

    ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่อันที่จริงก็ต้องขอบคุณความหน้าเลือดของอี้ฟานมาก นอกจากจะทำให้งบไม่บานปลายไปเรื่อย ๆ ทั้งเรื่องการโปรโมท การลงทุนหลายๆเรื่องก็ประหยัดมากขึ้น ต้องยอมรับว่าถ้าไม่มีอาของเขา บางทีเขาอาจจะมาไม่ถึงจุดนี้ก็ได้

     

    “แล้วแบคฮยอนล่ะ...เป็นยังไงบ้าง?” พี่ซูโฮลดแผ่นกระดาษลง ก่อนจะจ้องมาตรงๆ

     

    “ผม...หนักใจ” เป็นครั้งแรกที่ชานยอลเปิดใจเรื่องของเด็กคนนั้นกับใครซักคน เขายอมรับตรงๆเลยว่ากลัวจะล่ม เพราะอย่างนั้นถึงได้เคี่ยวเด็กนั่นขนาดนี้

     

    “พี่เข้าใจ....แต่บางที นายน่าจะใจดีกับเขาบ้าง”

     

    “ผม....”

     

    “ถ้าพี่เป็นแบคฮยอน...พี่คงจะคิดว่านายน่ะ เกลียดพี่...” จุนมยอนส่งยิ้มให้น้องชาย ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ “พี่ไม่มีอะไรแล้วล่ะ เดี๋ยวนายก็ไปเตรียมตัวออกเดินทางได้แล้ว พวกข้างล่างก็พร้อมแล้ว ต้องไปทำผมแต่งหน้าอีก”

     

    เป็นครั้งแรกที่ชานยอลอึกอัก อันที่จริงก็พอจะรู้ตัวว่าทำเกินกว่าเหตุ แต่เพราะเด็กนั่นก็เป็นผู้ชายเหมือนกับเขา แถมโคตรจะไม่ได้เรื่องได้ราวอีกต่างหาก เพราะอย่างนั้นถึงต้องใจร้ายกันหน่อย....

     

    แต่ก็ไม่ได้ทำเพราะเกลียด....

    หวังว่าคงจะเข้าใจ....

     

    _____________________________________________________

     

     

    ไม่...

    ไม่เข้าใจ....

    ไม่เข้าใจอะไรเลยซักอย่าง....

     

    แบคฮยอนปล่อยสายน้ำลงมารดหัวอยู่นานเป็นครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ช่วยให้หัวเขาเย็นลงบ้างเลย ไม่เลย มีแต่เรื่องที่ไม่เข้าใจ และไม่เห็นจะเข้าใจอยู่เต็มไปหมด ทุกๆอย่าง ทั้งคำพูด แววตา การกระทำของปาร์ค ชานยอลมันทำให้เขาไม่เข้าใจ

     

    จนถึงตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเกลียดอะไรเขานักหนา จนถึงเมื่อกี้ ก่อนที่ทุกคนจะออกไปข้างนอก ตอนพูดกันก็ยังไม่มองหน้าเขาเลย เมินกันอย่างเห็นได้ชัด...

     

    ตอนบ่ายเข้าออฟฟิศด้วย เรามีเรื่องต้องคุยกัน

     

    ประโยคแบบนั้น แถมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง จะให้เขาคิดยังไง หมอนั่นอาจจะยื่นซองขาวให้ แล้วบอกให้ไปไกลๆจากชีวิตก็ได้!

     

    เด็กหนุ่มยกมือสองข้างขึ้นทึ้งหัว จากตอนแรกที่ลังเลว่าจะไปหรือไม่ไปดีเมื่อคืน พอมาเจอคำพูดกำกวมจากปาร์คชานยอล ยิ่งทำให้แน่ใจว่ายังไงก็ต้องไป ควรไปจากที่นี่ ควรไปอยู่ที่ๆเหมาะกับเขามากกว่านี้

     

    พอคิดได้อย่างนั้น ร่างบางก็กุลีกุจอออกจากห้องน้ำ รีบแต่งเนื้อแต่งตัวแล้วรวบรวมข้าวของทั้งหมดที่เตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืนออกมาวางไว้ตรงประตู พร้อมกับหยิบกระดาษโน้ตสีเหลืองรูปเป็ด เดินขึ้นไปชั้นสอง แล้วแปะมันไว้ที่หน้าประตูห้องของปาร์คชานยอล...

     

    ....สิ้นสุดกันที ไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน......

     

    _____________________________________________________

     

     

    สิบเอ็ดชั่วโมงแล้ว....

    สิบเอ็ดชั่วโมงแล้วที่ลู่หานแทบจะไม่พูดคำไหนนอกจากคำว่า ครับ

     

    แต่ก็น่าแปลกที่ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร เพราะคนที่อยากจะพูดด้วยก็ดูเหมือนไม่ได้อยากจะฟังที่เขาพูดซักเท่าไหร่ เซฮุนยังคงมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง ชานยอลนั่งมองนาฬิกาข้อมือ ส่วนพี่ซูโฮมองออกไปข้างนอกเพราะกำลังตั้งใจขับรถ

     

    อันที่จริงลู่หานก็หายเคืองเซฮุนที่กล่าวหาเขาเมื่อคืนแล้ว ทว่าปกติคนที่เป็นฝ่ายง้อจะเป็นเด็กคนนั้นทุกครั้ง แต่วันนี้เซฮุนกลับไม่พูดอะไรออกมาซักคำ หมอนั่นเอาแต่มองออกไปที่อื่น ไม่ก็มองข้ามผ่านไป ไม่เหมือนทุกครั้งที่จะเห็นเขายืนอยู่ตรงหน้าตัวเองเสมอ ไม่ว่าที่ไหน หรือ เมื่อไหร่

     

    “วันนี้ก็ไม่มีแพลนอะไรแล้วล่ะ ลู่หานไม่ได้จะไปไหนใช่ไหม เพราะพี่ต้องไปส่งเซฮุนที่กองถ่าย ...แล้วชานยอลต้องไปบริษัทใช่ไหม?” พี่ซูโฮพูดพลางมองผ่านกระจกหลัง เขาทำเพียงพยักหน้านิ่ง ๆ สิ่งที่พี่ซูโฮพูดเมื่อเช้ายังคงวนเวียนอยู่ในหัว

     

    เราโตแล้วหรือยัง....โตกว่าเขาหรือเปล่า?...ถ้าคิดว่าเป็นผู้ใหญ่กว่าน่าจะรู้ตัวนะว่าต้องทำยังไง

     

    ....แต่ผมไม่ได้เป็นคนเริ่มนะครับ

     

     เรื่องบางเรื่องก็เล็กน้อยเกินกว่าจะเก็บมาใส่ใจนะลู่หาน”

     

    ลู่หานเม้มริมฝีปากแน่น โอเค เอาวะ....ถ้าอย่างนั้นนี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาจะลองเริ่มก่อนดูบ้าง...

     

    “เอ่อ....เซฮุน...”

     

    “ครับ?”

     

    “พี่...มีเรื่องจะพูดด้ว.....”

     

    แต่ไม่ทันจบคำ ทั้งๆที่รวบรวมความกล้าแทบตาย มือยังกำชายเสื้อตัวเองแน่นอยู่เลย ทั้งที่อีกฝ่ายหันหน้ามาสนใจเขาแล้วแท้ๆ....

     

    Rrrrr Rrrrrr

     

    “สักครู่นะครับ...”

     

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเรียกความสนใจจากเซฮุนไปเสียหมด ตอนแรกเด็กหนุ่มก็หน้านิ่งอยู่หรอก แต่พอเห็นว่าเป็นใคร ประกายในดวงตามันก็ต่างไปจากเดิม มันไม่เหมือนกันกับตอนที่จ้องมาที่ชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย

     

    “ฮัลโหล...จงอินหรอครับ...อ๋อ....เพิ่งออกมาจากออฟฟิศน่ะครับ....จริงหรอครับ....ครับ”

     

    ถือว่าลู่หานใจเย็นมากแล้วที่ยังนั่งกำเสื้อตัวเองอยู่อย่างนี้ เขาจะอดทน และรอจนกว่าเซฮุนจะคุยโทรศัพท์เสร็จ เปลือกตาบางค่อยๆหลับลง เขาต้องการจะสงบสติอารมณ์และไม่อยากได้ยินเสียงหัวเราะของเซฮุนที่มีให้ไอ้ซุปเปอร์สตาร์นั่น .....

    .

    .

    .

    .

     

    แต่พอลืมตาตื่นมาอีกที....

     

    “....หาน”

     

    “......ลู่หาน”

     

    เฮือก!

     

    “ถึงแล้วนะ”  พี่ซูโฮเอื้อมตัวหันมาคุยจากเบาะคนขับ นั่นทำให้ลู่หานรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้ เขาไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทว่ารู้ตัวอีกที คนที่อยู่ข้างตัวทั้งคู่ก็ไม่มีใครอยู่แล้ว 

     

    “พี่ซูโฮ เซฮุนล่ะครับ!” ลู่หานขมวดคิ้ว พยายามมองหาเซฮุน แต่ก็ไม่เจอ

     

    “งงอะไร...ก็พี่บอกว่าจะไปส่งเซฮุนที่กองถ่ายละครไง แล้วนี่ก็ถึงบ้านแล้วด้วย”

     

    ลู่หานชะโงกหน้าออกไปมองด้านนอกกระจกรถ ตึกสูงคุ้นตาตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า นั่นทำให้เขารู้ว่าตัวเองพลาดโอกาสสำคัญในการพูดขอโทษอีกฝ่ายไปแล้ว.... เพราะอย่างน้อยๆถ้าได้พูดต่อหน้าคนอื่น เซฮุนอาจจะยอมคุยกับเขาบ้าง....

     

    เจ็บใจ....

     

    “ลงได้แล้ว พี่ต้องไปบริษัทชานยอลต่อ ขึ้นบ้านไปแล้วฝากบอกแบคฮยอนด้วยนะว่าพี่จอดรถรออยู่ข้างล่าง ให้ออกไปพร้อมพี่ได้เลย จะได้ไม่หลงทาง”

     

    “ครับ”

     

    ลู่หานรับคำพลางพาร่างละเหี่ยของตัวเองออกจากรถ เดินลากขาขึ้นลิฟต์ไปเรื่อยๆอย่างคนหมดแรง  ไม่ต้องนึกถึงคืนนี้ที่ไม่ได้นอนกอดคนร่างโปร่งเลย เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนกอดกันเขาถึงตาดำเป็นหมีแพนด้าอย่างงี้

     

    ทะเลาะกับเซฮุนมันก็เหมือนกับทุบหม้อข้าวหม้อแกงตัวเองดีๆนี่เอง แล้วอย่างนี้จะได้ดีกันไหม ท่าทางเด็กนั่นจะโมโหมากเรื่องที่เขาประชดออกไป  ก็คนมันไม่ได้ตั้งใจได้ไหมล่ะ เดี๋ยวนี้เอะอะก็จงอินครับ จงอินครับ ไอ้นักแสดงนั่นมันมีดีอะไรนักหนา เอาอะไรมาหลอกล่อเซฮุนกัน เด็กนั่นถึงได้ไม่สนใจเขาเหมือนอย่างเคย

     

    พอถึงห้องก็ทิ้งสัมภาระรวมทั้งตัวเองลงบนโซฟา ลู่หานนอนหลับตาอยู่อย่างนั้นซักพักก่อนจะรู้สึกได้ถึงความเงียบอันแปลกประหลาดนี้ ก่อนจะรู้ตัวอีกที พี่ซูโฮก็โทรมาตามแล้ว

     

    หวา...ลืมไปเลย ว่าต้องเรียกแบคฮยอนให้พี่ซูโฮ

     

    “แบคฮยอนนนนนน”  ตะโกนสุดเสียงเรียกคนร่างบาง รออยู่พักนึงก็ยังไม่มีเสียงขานกลับ คนร่างผอมจึงพาตัวเองไปหยุดอยู่หน้าห้องน้ำ เคาะเรียกอยู่นานสองนานแต่ก็ไม่มีใครตอบกลับ

     

    “แบคฮายอนนนนน”  ตะโกนอีกครั้งพลางเดินไปเดินมารอบๆ บ้าน แต่ก็ยังไม่มีเสียงขานรับ.... 

     

    เดี๋ยวสิ....ไม่ใช่ว่า....

     

    “แบคฮยอน!

     

    ลู่หานรีบวิ่งไปยังที่เก็บสัมพาระของแบคฮยอน สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือความว่างเปล่าที่ทำให้เขาต้องเร่งฝีเท้าไปเอาโทรศัพท์ที่ขว้างไว้แถวๆโซฟามากดโทรออก

     

    “พี่ซูโฮครับ....แบคฮยอนเค้า....”

     

    _____________________________________________________

     

    ชานยอลเดินวนไปมาอยู่ในสตูดิโออัดเสียง มือหนาถือสมุดบันทึกเล่มเล็กๆที่ตั้งใจจะยกให้เจ้าเด็กแบคฮยอนนั่น แต่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี เพราะเขามันคนฟอร์มจัด หัวสมองก็ไม่ได้ตื้อเท่าไหร่นะ แต่ทำไมมันนึกคำพูดตอนจะให้ไม่ออกเลยซักคำ

     

    มือหนายกขึ้นดูนาฬิกาข้อมืออีกรอบ นี่ก็บ่ายโมงแล้ว ถ้าพี่ซูโฮไปรับ ป่านนี้ก็คงจะถึงแล้วสินะแค่คิด...ก็.... ชานยอลยกสมุดขึ้นเคาะหัวตัวเองเบาๆ

     

    ...แค่ตื่นเต้นน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ไม่เข้าใจทำไมต้องใจเต้นด้วย....

     

    “เป็นอะไรชานยอล เดินไปเดินมาอย่างกับเจ้าเข้า”

     

    อี้ฟานเดินเข้ามาในห้องอัดพร้อมกาแฟสองกระป๋องในมือ ร่างสูงใหญ่นั่งลงบนเก้าอี้คนพากย์ ก่อนจะส่งยิ้มล้อเลียนมาให้ “กาแฟหน่อยไหม”

     

    “ขอบคุณ”  ชานยอลเอื้อมไปรับกาแฟกระป๋องมาเปิดดื่ม “ทำไมพี่ซูโฮยังไม่มาซักที”

     

    “อาจจะรถติดล่ะมั้ง” อี้ฟานก้มลงมองนาฬิกาข้อมือของตน “ว่าแต่...ได้ยินมาจากจุนมยอนว่าเราใจร้ายกับแบคฮยอนมากเลยนะ”

     

    “..........” ชานยอลเม้มริมฝีปากแน่น ไม่รู้ตัวซักนิดว่ากำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดแค่ไหน

     

    “ว่าแรงๆ...เดี๋ยวเด็กนั่นก็หนีไปหรอก...ลำบากเลยนะทีนี้”

     

    “....ไม่หนีหรอก” มือหนากำสมุดบันทึกในมือแน่น พลางพึมพำออกมาเบา ๆ  เป็นจังหวะเดียวกันกับที่พี่ซูโฮเปิดประตูเข้ามาในห้องอัดพอดี

     

    ใบหน้าขาวของจุนมยอนขึ้นสีระเรื่อ ร่างเล็กหยุดหอบอยู่ซักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นจากพื้น ชานยอลไม่รู้ว่าพี่ซูโฮรีบร้อนแบบนี้เพราะอะไร แต่บางอย่าในใจมันชักจะเริ่มไม่ดี...

     

    “ชานยอล.....แบคฮยอนเค้า....”

     

    “........”

     

    “......แบคฮยอนเค้าหนีไปแล้ว.....”

     

    เหมือนกับฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมากลางหลัง ปาร์คชานยอลยืนแข็งทื่ออยู่อย่างนั้นในขณะที่เสียงหัวเราะของอี้ฟานดังขึ้นจากด้านหลัง ในมือหนายังคงกำสมุดบันทึกในมือแน่น...แน่นซะจนชุ่มเหงื่อไปหมด....

     

    “เห็นไหมเล่า....แล้วจะเอายังไง จะให้หาใหม่เลยไหมอาว่าแล้วว่......”

     

    “ไม่”

     

    “.......อะไรนะชานยอล”

     

    “ผมบอกว่าไม่ต้อง”

     

    !!

     

    เป็นครั้งแรกที่ปาร์คชานยอลร้อนรนขนาดนี้ต่อหน้าคนอื่น เป็นครั้งแรกที่ปาร์คชานยอลตวาดออกมาทั้งๆที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไร  และเป็นครั้งแรก....

     

    ....ที่วิ่งออกไปโดยไม่คิดหน้าคิดหลังอย่างนี้

     

    _____________________________________________________

    TBC – Part 8

     

    ตอนแรกว่าจะ 50 เปอร์ละ ปวดท้องมากค่ะไม่ไหวจริงๆ

    ขอโทษน้าที่ไม่ได้มาอัพถี่ๆตามที่บอก งานเข้ามาจริงๆ T_T

    ตอนนี้แบคฮยอนหนีไปแล้ว อีตาชานยอลจะเป็นไงต่อ อิอิ

     

    ฝากบอทด้วยนะคะ ว่างๆแวะไปคุยกับวง XOXO ได้

    ฮยองนิม @CYEOLRV_

    เด็กขี้หึง @SHUNRV_

    แม่ยายคุณชายโอเซ @LHANRV_

    จิ้งจอกน้อย @BHYUNRV_

    พ่อพระเอกขี่ม้าขาว @KAIRV_

     

    ว่างๆ พูดถึงฟิคเรื่องนี้ในทวิต ก็อย่าลืมติดแท็กนะคะ #รมตกวร

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×