ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) แค่กูรักมึง ยังซึ้งไม่พอ? | kaihun sekai

    ลำดับตอนที่ #3 : แ ค่ กู รั ก มึ ง | ยั ง ซึ้ ง ไ ม่ พ อ : 02

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 58


    M  



          -  ฟิคชั่นเรื่องนี้มีหลายคู่จัด ทั้ง ชานไค ไคเทา ไคหมิน ลู่หมิน ฮุนแบค แบคโด้ แต่หลัก ๆ คือ “ไคฮุน”  มันอาจจะมีจงอินเป็นเคะ แต่ก็แค่ส่วนประกอบนะคะ ;_ ;

     

     

    _________________________________________

     

     “แล้วมึงก็กลับไปคบกับมันหรอวะ?”

     

    เสียงของใครบางคนพูดขึ้นมาระหว่างที่ผมกำลังคีบเส้นราเมนเข้าปาก ดูเหมือนชาชูเมนถ้วยตรงหน้าจะไม่ค่อยมีรสชาติเท่าไหร่ เมื่อผมต้องตอบข้อสงสัยของเหล่ามนุษย์ขี้เสือกที่จ้องมาเป็นตาเดียว

     

    “ว่าไงจงอิน มึงกลับไปคบกะพี่ชานยอลจริงอย่างที่แทมินมันว่าหรอหรอ” 

     

    ผมกระทุ้งศอกเข้าให้ที่แขนไอ้แทมินจนมันร้องโอ้ย แล้วกระดิกนิ้วเรียกให้ให้มันส่งน้ำมันงาที่อยู่ตรงหน้ามาให้ หมั่นไส้แม่งปากสว่างเหลือเกิน ว่าจะเก็บไว้เงียบ ๆ คนเขารู้กันหมดเพราะมึงเนี่ยแหละ

     

    “เออ” 

     

    ตอบออกไปอย่างไม่เต็มใจในขณะที่ตาก็เหลือบมองอีกสี่คนที่แยกไปนั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ ด้วย ตอนนี้เรานั่งกินอาหารประจำชาติเด็กโคฟกันอยู่ที่ฮาจิบังครับ ถ้าไม่นับแมคโดนัล ก็อาหารเส้นสำเร็จรูปข้างร้านสตาร์บัคเนี่ยแหละที่ช่วยให้พวกผมได้อิ่มท้องโดยไม่ต้องเปลืองมากนัก

     

    “ไอ้เหี้ย แล้วไหนมึงบอกมันเจ้าชู้ไง ทำไมมึงยังกลับไปอีก โง่หรอวะ” 

     

    “มึงแม่งโง่ชัด ๆ พี่ชานยอลแม่งก็ไปทั่วอะ ยังจะยอมอีก”

     

    “สรุปพวกมึงรักกันจริงไหมวะ เดี๋ยวคบเดี๋ยวเลิก กูงงมาก”

     

    เชื่อไหมว่าตอนนี้ผมไม่ได้มองใครในโต๊ะตัวเองเลย ตอนนี้โต๊ะผมมีอยู่ 5 คน แต่ทุกคนแม่งถกเรื่องที่ผมกลับไปคบกับพี่ชานยอลกันหมด ทั้ง ๆ ที่ผมควรจะพักสายตาไว้บนหน้าใครซักคนแต่ผมแม่งเสือกเอาแต่สนใจคนที่อยู่อีกโต๊ะนึงไม่วางสายตาเลย...

     

    จะใครอีกล่ะ ก็ไอ้เซฮุนที่นั่งคีบเกี๊ยวซ่าเข้าปากหน้านิ่งนั่นล่ะ

     

    “เซฮุน มึงสนิทกับมันที่สุดไม่คิดจะพูดอะไรซักคำหรอวะ” พี่ยุนโฮหัวหน้าวงที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกับมันพูดขึ้นมา ก่อนจะหันมาขมวดคิ้วใส่ผมหน้าตาจริงจัง “แล้วเทาล่ะ มึงเอาเทาไปไว้ไหนวะ” 

     

    พูดถึงเทาวันนี้มันมาสายครับ เพราะงั้นเท่ากับว่ามันยังไม่รู้เรื่องนี้ แล้วผมก็ยังนึกภาพไม่ออกด้วยว่าถ้าบอกมันออกไปแล้วจะมีระเบิดลงไหม แต่ก่อนที่จะมโนภาพมหากาพย์ความซวยอันยิ่งใหญ่ เซฮุนก็วางตะเกียบลงแล้วทำท่าเหมือนจะพูดอะไร...

     

    “จะให้กูพูดอะไรอีกวะยุนโฮ ชีวิตของมัน ทางเลือกของมัน พวกมึงต่างหากจะไปเสือกอะไรกับมันนักหนา”

     

    โอ้โห ทันทีที่เจ้าของปากเล็ก ๆ นั่นพูดจบมนุษย์ขี้เสือกทั้งสองโต๊ะก็เงียบกริบเหมือนไม่เคยมีใครสงสัยอะไรเรื่องนี้ ผมล่ะอยากจะขอบคุณมันจริง ๆ คิดได้อย่างงั้นก็เลยส่งยิ้มให้มันไปทีนึง...

     

    แต่เชื่อไหม สิ่งที่ได้กลับมาคือมันมองผ่านรอยยิ้มผมไป

    นี่กูไม่ได้สำคัญตัวใช่ไหม...

     

    โอเซฮุนกำลังเมินผม.... 

     

     

     

    “อ้าวพวกมึง มาถึงกันนานแล้วหรอวะ!

     

    พูดถึงเทา เทาก็มาเลยครับ ผมชะโงกหน้ามองตามเสียงมันที่เดินตรงเข้ามาจากหน้าร้าน วันนี้มันอยู่ในลุคสดใสครับ (ปกติเห็นใส่แต่สีทึม ๆ ) หน้าตานี่ก็สดชื่นมาก เทาหันไปทักคนอื่น ๆ ก่อนจะมาทิ้งตัวนั่งข้าง ๆ ผม 

     

    “จงอินเลี้ยงหน่อยดิ” 

     

    ฟังก็รู้ครับว่าเป็นประโยคพูดเล่นกึ่งบังคับ แต่ดีนะที่เหลือตังติดกระเป๋าไม่เท่าไหร่ ผมเลยแหกกระเป๋าตังให้มันดูอวด ๆ “เหลือไม่กี่วอนแล้วครับมึง จนเหี้ยๆ” 

     

    “อ้าวหรอ งั้นเลี้ยงตัวเองก็ได้”

     

    เอาเป็นว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ทุกคนควรชินครับ ตั้งแต่ผมกับกิ๊ก ๆ กันกับเทามาก็เป็นอย่างนี้ตลอดแหละ อย่างที่เซฮุนบอก ผมมันป๋าเอง ป๋าไม่เลือกคน ป๋าไม่เลือกสถานที่ ทั้ง ๆ ที่เทาเองมันก็รวยกว่าผมนะ แต่พอมันพูดออกมาอย่างนั้นมันก็อดไม่ได้ที่จะออกให้ทุกที...

     

    ตอนนี้ทุกคนหุบปากเงียบเลยครับ เรื่องที่เคยสนทนากันอย่างออกรสเมื่อครู่ไม่ได้ยินจากปากใครเลยซักคำ อาจเพราะพวกเรารู้กันว่าเทามันเป็นคนขี้น้อยใจ เลยกะให้พวกผมไปเคลียร์กันเองสองต่อสองล่ะมั้ง เพราะงั้นตอนที่พวกเรากินกันจนเสร็จเดินออกมาจากร้านแล้ว ผมกับเทาจึงกลายเป็นสองคนที่โดนเพื่อนทิ้งให้รั้งท้ายขบวน...

     

    “มองหน้าทำไมวะ...แล้วคืนนี้จะมาค้างด้วยไหม”

     

    เสียงงิ้ง ๆ ของมันพูดขึ้นมาหลังจากที่เราเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายผลไม้ สายตาของมันละจากใบหน้าผมไปสั่งแตงโมคุณป้ามาถุงใหญ่ ก่อนจะยื่นให้ผมถือไว้ 

     

    “ไม่เอาอะ ไปค้างบ่อย ๆ แม่ด่า”  ผมรับแตงโมมาไว้ในมือแล้วหยิบชิ้นนึงใส่ปาก เห็นมันซื้อแตงโมให้กินแล้วพูดไม่ออกว่ะ ไม่รู้จะพูดยังไงด้วย รู้แก่ใจนะว่ามันเป็นคนขี้เหงามาก ๆ กลัวว่าถ้าบอกออกไปแล้วมันอาจจะโมโหสุด ๆ หรืออาจจะไม่อะไรเลยซักนิด ก็เพราะว่ารู้อย่างนี้ไงถึงไม่อยากเสี่ยง

     

    เอาตรง ๆ แรง ๆ จี้ใจดำคำเดียวเลยนะ

    กลัวมันเสียใจ...

     

     

     

     

     

    “แล้วเมื่อไหร่มึงถึงจะบอกมันวะ”

     

    ผมเม้มริมฝีปากเข้าหากันโดยที่สายตาก็มองคนที่ยืนพิงกรอบประตูอยู่ข้าง ๆ ซ้อมเต้นเสร็จเหงื่อนี่โทรมกายมากครับ ก็เลยต้องมาเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตัวกันหน่อย ห้องน้ำนี่ก็ไกลจากสถานที่ซ้อมไปไหน จากโดมข้างหน้าต้องเดินลากขามาเข้าในส่วนของมหาลัยติดสนามกีฬากันเลยทีเดียว

     

    “ยังไม่รู้เลยว่ะ”

     

    “รีบ ๆ บอกก็ดีนะ”

     

    “...”

     

    “กูไม่อยากให้เทามันถลำลึกไปกว่านี้ถ้าหากมึงยังรักไอ้ชานยอลอะไรนั่นอยู่”

     

    “อืม”

     

    ผมรับคำเซฮุนหน้าเครียด ได้ยินเสียงมันถอนหายใจอ่อน ๆ ก็รู้ว่าหนักใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเทานี่ก็เป็นเพื่อนสนิทที่เคยเรียนม.ต้นโรงเรียนเดียวกับมันมา มันคงไม่อยากเห็นเพื่อนขี้เหงาของมันต้องซึมเศร้าเพราะมนุษย์เหี้ย ๆ อย่างผมนักหรอก

     

    “แล้วนึกยังไงกลับไปคบกับชานยอล”

     

    เซฮุนถามขึ้นมาในตอนที่เราเดินมาได้ครึ่งทาง ผมหันไปมองหน้ามันแล้วถอนหายใจแผ่ว

     

     “มันกลับมาขอคืนดี”

     

    “แล้วกลับไปคืนดีกับมันง่าย ๆ ไม่กลัวมันทิ้งมึงอีกรอบหรอ?”

     

    ผมเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ก็อย่างที่เคยบอกในทุกตอน เซฮุนเป็นคนที่รู้เรื่องของผมดีที่สุด มันรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แล้วก็รู้ด้วยว่าชานยอลเป็นคนยังไง...คงเพราะแบบนี้ล่ะมั้งถึงได้ถามอะไรอย่างนี้ออกมา 

     

    ชานยอลน่ะเป็นนักเขียน พูดถึงความสัมพันธ์ของเราสองคนคงจะเรียกว่าคบกันผิวเผินไม่ได้หรอก ถึงจะอยู่ไกลกันมากอย่างบ้านมันอยู่เชจูแต่ผมอยู่โซลงี้ ก็ใช่ว่าระยะทางจะเป็นอุปสรรคซะเมื่อไหร่ หลายคนอาจมองนะว่าผมโง่ที่กลับไป แต่ถ้าคุณเคยมีแฟนที่คบกันมานาน ๆ อย่างผมก็คงจะเข้าใจ คนเรามันเคยงิ้ง ๆ ใส่กัน แล้วนี่ระยะเวลาก็ยังผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ โดนขอรีเทิร์นซึ่ง ๆ หน้าโดยประโยคที่ไม่รู้จะขำหรือซึ้งดีอย่างงี้ก็ต้องมีไขว้เขวกันเป็นธรรมดาบ้างล่ะ

     

    ยิ่งโดยเฉพาะกับคนที่คบกันมาห้าปีอย่างมัน...

    ถึงปีนึงเราจะเจอกันแค่ 2-3 ครั้ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้แหละว่าอยู่กับมันแล้วก็มีความสุขดี

     

     

    “คราวนี้ก็คงไม่กลัวแล้ว” ผมขมวดคิ้วเข้าหากัน “คราวที่แล้วเลิกกันแบบงงๆ ...บอกตรงๆ กูคิดว่าตัวเองยังติดค้างเรื่องความรู้สึกกับมันอยู่ว่ะ”

     

    “...”

     

    “บางทีคนที่เขากลับไปคบกับคนเก่า ๆ ก็ไม่ใช่ว่าเขาโง่ ปิดหูปิดตาไม่รู้อะไรหรอกนะมึง...แต่เพราะตอนเลิกกันมันยังไม่ได้ทำอะไรต่อมิอะไรให้สุด ๆ เช่นรักกันให้สุด ๆ เกลียดกันให้สุด ๆ มันเลยยังติดค้างอยู่นี่ไง...”

     

    “...”

     

    “มึงเข้าใจกูใช่ไหม?”

     

    เซฮุนมองหน้าผมแล้วเงียบไปพักใหญ่ ผมเห็นนัยน์ตามันสั่นไหว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะลมที่พัดแรงหรืออะไร แต่ตอนนี้มันกำลังเสหน้าหันไปอีกทาง 

     

    “ไม่รู้สิ...ตั้งแต่เกิดมากูไม่เคยมีแฟนซักคน...”

     

    “....”

     

    “กูไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ติดค้างของมึงนั่นน่ะมันคืออะไร...กูรู้อย่างเดียวว่า ถ้ากูมีแฟนแล้วเลิกกันไป กูคงไม่คิดจะกลับไปคบกันอีกรอบหรอกว่ะ” 

     

    “...”

     

    “เพราะสำหรับกูถ้ามันไม่ใช่แล้ว รั้งไป ยื้อไป ก็ไม่เห็นจะมีประโยชน์”  

     

     

     

     

     

     

    ก็ไม่มีประโยชน์?

    ไม่มีประโยชน์??? 

     

    เชื่อไหมว่าทั้งเย็นวันนี้ในหัวผมมีแต่คำนี้ ทั้งใบหน้าและน้ำเสียงเซฮุนยังคงดังก้องไปทั้งหัว มันไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่มันกำลังจะสื่อนะ แต่สำหรับผม ยังไงก็ยังเชื่อว่าเรื่องของความรักเราก็ควรทำมันให้สุด ๆ ไปว่ะ จะรัก จะ ชัง จะเหี้ยอะไรก็ทำให้ให้มันตันกันไปข้าง จะได้รู้ว่าแม่งไม่มีประโยชน์แล้วจริง ๆ ถ้าเกิดวันนึงต้องเลิกกันขึ้นมาอีกรอบ... 

     

    “เตียงมันเบียดไปหรอวะถึงนอนไม่หลับ?”

     

    สรุปวันนี้ผมก็มานอนค้างบ้านเทาครับ แล้วเสียงที่ถามขึ้นมาท่ามกลางความมืดนี่ก็เสียงมันนั่นแหละ เทาขยับตัวเอาแขนมาก่ายเอวผมก่อนจะซุกหน้าลงบนหัวไหล่ มันจูบเบา ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมาถามด้วยน้ำเสียงติดจะอ้อน ๆ

     

    “ว่าไงมึง นอนไม่หลับหรอ” 

     

     “อืม มีเรื่องให้คิดว่ะ” 

     

    “เรื่องอะไร?”

     

    ผมยกมือก่ายหน้าผากตัวเองแล้วเรียกมันเสียงเบา

     

    “เทา”

     

    “อื้อ?” 

     

    “กูมีเรื่องจะสารภาพ”

     

    ตอนนี้มันลุกขึ้นมานั่งเอนหลังพิงกับหัวเตียงแล้วครับ และนั่นทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปสบตากับมัน มองกันผ่านความมืดได้แปบนึงก็มีอันต้องลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ

     

     

     

    “กูกลับไปคบกับพี่ชานยอลแล้วนะ”

     

     

      _______________________________________

    TBC – 3

     

    เป็นเนื้อเรื่องที่ไม่ควรเดาอะไรเลย 555555

    ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่จงอินนี่มันหลายใจดีจริงๆ

     

    ขอให้สนุกจ้ะ
    จะสกรีมมาหาก็แท็ก #แค่กูรักมึงKH

     อันนี้แล้วกัน จะรออ่านนะ 

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×