ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ROMANTICA VIRUS | chanbaek hanhun krisho

    ลำดับตอนที่ #10 : - { r o m a n t i c a v i r u s+ } ★ n i n e (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 57


     




    เรียวมือยาวยกขึ้นก่ายหน้าผากเป็นครั้งที่ 3 ของคืน....

     

    ชานยอลถอนหายใจออกมา เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นบ้าอะไรไปแล้ว ทั้งที่พยายามข่มตาให้หลับมาตั้งแต่หัวค่ำ แต่พอเปลือกตาเกือบจะปิดลงทีไร คำบอกลาที่เด็กบ้านั่นเขียนใส่ไว้ในโพสอิสก็ดังขึ้นมาอีกในหัว....ดังซ้ำๆ ย้ำๆ อย่างกับมากระซิบอยู่ข้างๆอย่างนั้น!

     

    ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มที่มุมปากเบา ๆ เอื้อมมือไปกดปิดสวิตซ์โคมไฟสีส้มที่ข้างเตียงอย่างเร็วนึกสมเพชหัวสมองที่เอาแต่คิดเรื่องเด็กบ้านั่น! พอแล้วปาร์คชานยอล พอ....เลิกคิด...  

     

     

    ROMANTICA VIRUS+

    ** เนื้อเรื่อง และตัวละครทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องที่ผู้เขียนจินตนาการขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ

     

    _____________________________

     

    CHANYEOL x BAEKHYUN

    LUHAN x  SEHUN

    KRIS x SUHO

    ______________________________

     

    { 9 }

     

     

     

    แต่พอคิดได้อย่างนั้น ทันทีที่เปลือกตาหนาปิดสนิทลงอีกครั้ง....เสียงของอะไรบางอย่างก็ร้องประท้วงขึ้นมาอย่างดัง.... แถมด้วยอาการที่ชาวบ้านเรียกว่าความหิวแทรกขึ้นมาจนน้ำลายท่วมเต็มปากไปหมด....

     

    ร่างสูงกระเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงอย่างหงุดหงิด....เอื้อมมือไปกดเปิดสวิตซ์ไฟสีส้มให้สว่างขึ้นอีกครั้ง นี่อย่าบอกนะว่าที่นอนไม่หลับอยู่อย่างนี้เพราะว่าเขาหิวมาตลอด... 

     

    หันไปมองนาฬิกาก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว ชั่งใจอยู่ซักพักว่าควรจะเดินลงไปทำอะไรกินเอง หรือจะขับรถออกไปซื้อมาดี เพราะมันสะดวกที่สุดแล้วกับคนที่พยายามบังคับให้ตัวเองนอนหลับอย่างเขา กินเสร็จเก็บทิ้งแล้วก็นอนเลย ไม่ต้องวุ่นวายเก็บล้างกันอีก...

     

    ขับรถออกไปแล้วกัน....

     

    ชานยอลพาตัวเองออกจากห้องนอนก่อนจะลากขาลงบันไดมาอย่างเชื่องช้า นั่นเป็นจังหวะเดียวกับที่สมาชิกคนสุดท้องของวงเปิดประตูเข้ามาพอดี สภาพอิดโรยของโอเซฮุนเห็นแล้วน่าหงุดหงิดเป็นบ้า....เมื่อไหร่สองคนนั้นจะคืนดีกันซักที

     

    “ไง” 

     

    ดูเหมือนร่างโปร่งจะไม่ทันได้สังเกตคนที่ยืนอยู่บนเชิงบันได เซฮุนสะดุ้งสุดตัวแต่ก็เบาใจลงเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่เอ่ยทักตน

     

    “พี่ชานยอล...ยังไม่หลับหรอครับ” 

     

    ร่างสูงยักไหล่เบาๆพลางกลอกตาไปมา “ฉันหิว...นอนไม่หลับ”  

     

    “อ๋อ...ผมก็ยังไม่ได้ทานอะไรเหมือนกันครับ...พี่จะออกไปซื้ออะไรเข้ามาทานหรอครับ” เซฮุนก้มลงล้วงกระเป๋าเป้ที่ตกอยู่ข้างตัวของตน ควานหากระเป๋าเงินขึ้นมา ก่อนจะหยิบแบงก์หมื่นวอนขึ้นมาสิบใบยื่นให้คนร่างสูงที่ยืนเลิกคิ้วมองอยู่ตรงหน้า

     

    “ไม่ต้องหรอก...เดี๋ยวฉันออกให้นายเอง....อยากจะกินอะไรล่ะ” 

     

    เซฮุนโค้งหัวขอบคุณชานยอลทันทีที่อีกฝ่ายแสดงน้ำใจ อันที่จริงเขาไม่ค่อยได้ออกเงินค่าของกินบ่อยเท่าไหร่นัก เพราะปกติพี่ซูโฮเป็นคนดูแลเรื่องอาหารการกิน แต่พี่ชานยอลก็เป็นพี่อีกคนที่มีน้ำใจซื้อขนมเล็กๆน้อยๆ ออกเงินเลี้ยงเขากับสมาชิกของวงอีกคนเสมอ ด้วยเหตุผลง่ายๆที่ว่าตนเป็นหัวหน้าวงนั่นเอง

     

    “อยากทานไก่ทอดครับ....กับเบียร์ด้วยได้ไหม”

     

    ชานยอลเดาะลิ้นเบาๆเมื่อได้ยินว่าเด็กน้อยของวงแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าอยากจะดื่มของมึนเมต่อหน้าหัวหน้าวงอย่างเขา “อย่ามาเพ้อเจ้อ...ไก่ทอดรสเผ็ดที่นายชอบอย่างเดียวก็พอ...”

     

    “เอาอีกได้ไหมครับ....พี่กินกับผมด้วยหรือเปล่า”

     

    “กินสิ” ชานยอลพยักหน้า “จะเอาอะไรอีกก็ว่ามา”

     

    “งั้น....ซื้อซุปหางวัวกับข้าวมาด้วยได้ไหมครับผมอยากทานอะไรร้อนๆ”

     

    _____________________________________________________

     

     

    เสียงจ้อกแจ้กจอแจที่ดังกระทบประสาทหูของบยอนแบคฮยอนไม่ใช่เสียงอะไรที่ไหน มันเป็นบรรยากาศความวุ่นวายภายในร้านที่เขาเพิ่งมารับจ็อบทำงานพิเศษนั่นเอง! ทั้งๆที่ตอนนี้มันก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว แต่ก็ดูเหมือนลูกค้าจะไม่น้อยลงไปกว่าตอนหัวค่ำซักนิด กลับกัน ยิ่งดึกเท่าไหร่คนยิ่งเยอะกว่าเดิมมากขึ้นเป็นเท่าตัว!

     

    “น้องๆ เอาข้าวเพิ่มด้วย!!” 

     

    พี่ชายตัวโตที่นั่งอยู่ตรงมุมในสุดของร้านยกมือพร้อมกับตะโกนมาทางเขาที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์รับของ แบคฮยอนตะโกนตอบรับกลับไป ก่อนจะหันกลับมาจดออร์เดอร์ของโต๊ะ 8 เพิ่มลงในบิล แล้วหันไปบอกพี่เจ้าของร้านผ่านช่องรับของเล็ก ๆ ที่กำลังหัวปั่นกับการตักอาหารอยู่เหมือนกัน

     

    “โต๊ะแปดข้าวเพิ่มอีกที่นะครับ”

     

    อาจจะเป็นเพราะที่แห่งนี้อยู่ติดกับสถานเริงรมย์ก็ได้ จึงทำให้มีลูกค้าหนาตาแม้ในเวลาแบบนี้ แถมในร้านก็มีเขาเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่คนเดียวเพราะพนักงานที่เคยอยู่ประจำพี่เจ้าของร้านบอกว่าหล่อนลาออกเพราะตั้งท้องได้สามเดือนแล้ว นี่ไม่ต้องคิดไปถึงอีกหลายวันที่เขาต้องทำงานเลยนะ บอกเลยว่ากว่าจะจบคงได้มีกล้ามขากลับไปฝากที่บ้านกันบ้าง....

     

    “น้องๆ! รับออร์เดอร์หน่อยค่ะ” 

     

    เสียงเรียกจากด้านนอกทำให้แบคฮยอนต้องออกจากภวังค์ทันที มือบางเอื้อมไปหยิบข้าวกับซุปที่เจ้าของร้านเลื่อนออกมาทางช่องรับของ วางมันไว้บนถาดพลาสติกที่อยู่ในมือ ก่อนจะเร่งฝีเท้าก้าวฉับๆ หมายมั่นว่าจะไปเสิร์ฟให้เสร็จ แล้วค่อยไปรับออร์เดอร์....

     

    แต่คงจะเป็นเพราะเขารีบไป! ทำให้เด็กหนุ่มมองไม่เห็นขาเรียวของกลุ่มเด็กนักเรียนหญิงม.ปลายที่เพิ่งจะเหยียดออกมา....

     

    “เหวออออ”

     

    แบคฮยอนร้องออกมาเสียงดัง พยามจะพยุงตัวเพื่อไม่ให้ถาดพลาสติกในมือคว่ำไปด้วย แต่ก็สายไปเสียแล้ว กว่าเขาจะรู้ตัวอีกทีชามข้าวร้อนก็ตกลงพื้นเสียแล้ว แต่ที่หนักกว่านั้น! คือซุปหางวัวชามใหญ่พิเศษมันดันคว่ำใส่ตักลูกค้าหญิงวัยกลางคนไปหมดแล้วทั้งชาม!!

     

    _____________________________________________________

     

    หลังจากแยกกับพี่ชานยอลเพระอีกฝ่ายขอตัวออกไปซื้อเสบียง น้องเล็กของวงก็เดินลากขาไปนั่งอยู่บนเก้าอี้โต๊ะกินข้าวเงียบๆ ทั้งๆที่ร่างกายอ่อนล้าไปหมด อยากจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะว่าเหนียวตัวแทบตาย...แต่ก็ไม่อยากขึ้นเจอหน้าใครอีกคนที่ป่านนี้คงยังไม่หลับแน่ๆ...

     

    ก็ช่วงเวลานี้ส่วนมากพี่ลู่หานจะนั่งเช็คข้อความในบอร์ด กว่าจะหลับจริงๆก็หลังเที่ยงคืนไปแล้วนั่นแหละ....

     

    “เฮ่อ...”  ถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวัน ดูเหมือนคนร่างผอมจะพยายามพูดอะไรบางอย่างกับเขา แต่คุณจงอินดันโทรเข้ามาซะก่อน พอหันกลับมาอีกทีพี่ลู่หานก็เข้าสู่ห้วงนิทราเสียแล้ว....

     

    ไอ้เรื่องจะปลุกให้ตื่นขึ้นมาเพื่อถามว่ามีอะไรจะคุยกันไหม...มันก็ไม่ใช่นิสัยของเขาอยู่แล้ว เพราะงั้นถึงได้ปล่อยให้เลยตามเลยไปแบบนั้น ถ้าพี่ลู่หานมีใจอยากจะคุยกับเขาจริงๆ ไม่ใช่แค่เพราะพี่ซูโฮขอร้องมา อีกฝ่ายก็คงเข้าหาเขาเอง....

     

    แต่ถ้าไม่เข้ามาหาล่ะ...  

    เซฮุนเม้มริมฝีปากแน่น...ถ้าไม่เข้ามาหาก็อาจจะต้องเป็นอย่างเดิม.... 

     

    เป็นเขาที่เข้าไปง้อเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา...

     

    “เซฮุน....?” 

     

    เสียงเรียกที่ดังจากด้านหลังทำให้เด็กหนุ่มร่างโปร่งหันขวับกลับไปมองแทบจะทันที เซฮุนตาโตเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่เอ่ยทักเขา และเมื่อร่างผอมของพี่ลู่หานก้าวผ่านความมืดออกมา สาบานได้ว่าเขาเห็นบางอย่างคลออยู่ที่เบ้าตากลมโตนั่น!

     

    “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” 

     

    เซฮุนกระพริบตาไล่ความเพ้อเจ้อของตนเองพลางหันหน้าไปอีกทาง  ไม่หรอก เขาคงตาฝาดไป คนอย่างพี่ลู่หานน่ะหรอจะร้องไห้เพื่อเขา....

     

    “เซฮุน....” 

     

    “ครับ...” 

     

    ขานรับเสียงที่ดังเข้ามาใกล้ ๆ เซฮุนพยายามมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง พยายามจะให้ความสนใจกับดวงจันทร์ครึ่งดวงที่กำลังทอแสงอ่อนๆลอดเข้ามาผ่านกระจก แต่เขาก็ทำเป็นสนใจอย่างอื่นได้แค่ไม่นาน....

     

    เร็วเท่าความคิดบางอย่างที่อบอุ่นจนเขาคิดว่าร้อนก็นาบประทับที่แผ่นหลัง พี่ลู่หานที่ยืนอยู่ก้มลงสอดมือเข้ามากุมเอาไว้ที่หน้าท้องของเขา ก่อนจะวางคางตัวเองให้เกยเอาไว้บนไหล่ ใบหน้าหวานนั่นกำลังหยุดอยู่ตรงไหล่ด้านขวาของเขา และสิ่งสุดท้ายที่เป็นเครื่องยืนยันว่าเขาไมได้ตาฝาดไป...นั่นคือสัมผัสอุ่นๆที่ซึมอยู่ตรงหัวไหล่....

     

    พี่ลู่หานกำลังร้องไห้....

     

    “พี่ขอโทษ”

     

    น้ำเสียงอ่อนแรงดังขึ้นเบาๆที่ข้างหู พลังการทำลายล้างของมันสูงพอที่จะทำให้กำแพงที่เขาสร้างเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานทะลายลงเหมือนกับโดนบอมบ์ เวลานี้เซฮุนนึกอะไรไม่ออกแล้ว นึกอะไรไม่ออกเลยซักอย่าง... พี่ลู่หานดูเหมือนจะรู้จุดอ่อนของเขาไปซะทุกเรื่อง....

     

    “เซฮุนนา....พี่ขอโทษนะครับ”

     

    เป็นแบบนี้อีกแล้ว อย่ามาเรียกชื่อนั้นด้วยน้ำเสียงเครือๆเหมือนจะร้องไห้ได้ไหม เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนตัวเองจะสะกดคำว่าโกรธไม่เป็นแล้วตอนนี้ ใจมันอ่อนไปหมดตั้งแต่ครั้งแรกที่ลู่หานเอ่ยคำว่าขอโทษออกมา

     

    เซฮุนหลับตาลง ยังปล่อยให้คนร่างผอมโน้มตัวกอดตัวเองจากด้านหลังอยู่อย่างนั้น ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอด พยายามระบายความอัดอั้นทั้งหมดให้อีกฝ่ายได้ฟัง

     

    “ผมโกรธพี่....โกรธพี่มากรู้ตัวไหมครับ”

     

    “.....”

     

    “.....พี่ทำเหมือนกับผมเป็นอะไรซักอย่าง...ถ้าพี่รู้ตัวแล้วว่าไม่ได้ชอบผมมากขึ้นกว่าเดิมเลยซักนิดก็อย่ามาปั่นหัวกันจะได้ไหมครับ....”

     

    “.......”

     

    “พี่ทำให้ผมเหมือนเป็นคนบ้าตลอดเวลา พี่ทำให้ผมหึงพี่ แล้วพี่ก็ไปกับคนอื่น พี่มีความสุขมากใช่ไหมเวลาที่เห็นว่าผมต้องอดทนแค่ไหน มีความสุขมากหรือเปล่าที่เห็นว่าผมหวงพี่จนหวาดระแวงไปหมด”

     

    “พี่ขอโทษ” 

     

    ลู่หานเอ่ยเสียงแผ่ว มันฟังดูน่าสงสารซะจนเด็กหนุ่มไม่อยากอดทนอะไรอีก ร่างโปร่งค่อย ๆ เอี้ยวตัวหันกลับมานั่งประจันหน้ากับรุ่นพี่หนุ่มชาวจีน ก่อนจะเอื้อมมือใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาจากดวงตาคู่กลมนั่นเบา ๆ “อย่าร้องไห้อีกเลยครับ...ผมไม่โกรธพี่แล้วก็ได้....”

     

    “........” ลู่หานไม่ตอบอะไรได้แต่พยักหน้าเบา ๆ เท่านั้น

     

    “....ผมให้อภัยพี่ แล้วก็ขอโทษด้วยนะครับที่วันนั้นผมก็ไม่มีเหตุผลเหมือนกัน....”

     

    ลู่หานจ้องเข้ามาในดวงตาของอีกฝ่าย “เซฮุน...เราช่างมันได้ไหมครับ...เรื่องนี้....”  

     

    “....ได้สิครับ...เพราะผมก็คิดถึงพี่จะแย่อยู่แล้ว” 

     

    _____________________________________________________

     

    ชานยอลถอยรถเข้ามาจอดในมุมที่ลับตาคนที่สุด ชายหนุ่มดับเครื่องยนต์ พร้อมกับเช็คสภาพตนเองในกระจกรถก่อนมือเรียวจะเอื้อมไปหยิบแว่นตาดำกับผ้าปิดปากมาใส่เพื่อป้องกันไม่ใครพวกแฟนคลับจำตนได้เพราะเขาขี้เกียจวิ่งถือถุงซุปหางวัวหนีเด็กสาวๆจะแย่  อันที่จริงจะโทรสั่งให้ไปส่งที่คอนโดก็ได้ แต่ถ้าพูดถึงซุปหางวัวก็ต้องร้านนี้ที่เขากินมาตั้งแต่เป็นเด็กฝึกเท่านั้น รสชาติมันถูกปากถูกใจที่สุดแล้ว เพราะงั้นเลยต้องมาซื้อด้วยตัวเองถึงที่ยังไงล่ะ

     

    ร่างสูงในชุดฮู้ดสีดำผลักประตูเข้าไปในร้านที่กำลังเกิดสงครามย่อมๆ ปกติร้านนี้ก็คนเยอะอยู่แล้ว พามากินกันตั้งแต่คนหนุ่มสาวไปถึงวัยชรา แต่วันอื่นๆก็ไม่ได้ดูวุ่นวายเท่าวันนี้เลย ดวงตาคมมองไปยังกลางร้านที่พนักงานเด็กเสิร์ฟกำลังโค้งตัวขอโทษหญิงสาวที่ดูมีอายุคนนึง ในขณะที่หล่อนก็กำลังใช้นิ้วชี้ของตนดันหัวของเด็กเสิร์ฟแรงๆอย่างเสียมารยาท....

     

    มันจะไม่ใช่กงการอะไรของเขาเลย ถ้าใบหน้าที่เงยขึ้นมากล่าวขอโทษลูกค้าหญิงสาวไม่ใช่คนที่เพิ่งหนีออกไปจากบ้านเขาไปเมื่อตอนบ่าย!.....

     

    “ขอโทษครับ...ขอโทษแทนเขาจริงๆ”

     

    ชานยอลแทรกตัวเข้าไปในวงล้อมที่เจ้าของร้านกำลังเอื้อมมือกดหัวเด็กแบคฮยอนนั่นลง ทั้งๆที่ตนก็กำลังกล่าวขอโทษลูกค้าอยู่เหมือนกัน ชายหนุ่มยืนขมวดคิ้วจ้องร่างบางอยู่ซักพัก เขาไม่อยากเสียมารยาท...แต่ลูกค้าคนนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมยกโทษให้ซักที....

     

    และนั่นทำให้เขาหงุดหงิด....

     

    “รู้ไหมว่ากระเป๋าใบนี้ฉันซื้อมาแพงมาก ไม่ว่ายังไงแกก็ต้องชดใช้ ไอ้เด็กสารเล......”

     

    “ราคาเท่าไหร่......”

     

    มนุษย์ป้ายังพูดไม่ทันจบคำด้วยซ้ำ มือของหล่อนที่ทำท่าจะดันหัวเด็กเสิร์ฟซุ่มซ่ามก็ต้องชูขึ้นเพราะแรงยกของใครบางคน ชายหนุ่มร่างสูงในสภาพมิดชิด มีทั้งผ้าปิดปากและแว่นตาดำพูดสวนหล่อนขึ้นมา ไม่หนำซ้ำเขายังบีบข้อมือหล่อนอยู่อีกด้วย!

     

    “ม...ไม่ใช่ธุระของแก”

     

    “เท่านี้พอไหม”

     

    ชายหนุ่มปริศนาที่สวมฮู้ดใส่เครื่องอำพรางใบหน้าล้วงกระเป๋าเงินขึ้นมา เขาหยิบแบงก์ห้าหมื่นวอนขึ้นมาปึกหนึ่ง ก่อนจะยื่นไปตรงหน้าหญิงวัยกลางคน แต่ไม่ทันที่หล่อนจะได้เอื้อมมือมารับ มือเรียวยาวนั่นก็ปล่อยแบงก์ลงพื้นทันที

     

    “ก้มเก็บเอาเองแล้วกัน....หวังว่าจะพอกับค่าใช้จ่าย” ชายร่างสูงพูดจบก็หันมาที่เด็กหนุ่มร่างบางทันที “ส่วนนาย มานี่!

     

    แบคฮยอนตาโตเมื่อชายหนุ่มปริศนาเอื้อมมือมากระชากข้อมือตน แม้เด็กหนุ่มจะพยายามดิ้น พยายามสะบัดเท่าไหร่ก็สะบัดไม่ออกได้แต่ส่งเสียงร้องตะโกนเท่านั้น “เฮ้ย...เฮ้ย...ปล่อยนะ”

     

    มือเรียวกระชากข้อมือบางของแบคฮยอนโดยไม่ฟังคำพูดอะไรของเด็กหนุ่มแม้แต่คำเดียว ฉุดกระชากลากถูจนแบคฮยอนต้องถลาตามไปที่จอดรถ ตอนแรกแบคฮยอนก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่าหมอนี่มาช่วยเขาไว้ทำไม แต่พอเห็นรถที่จอดอยู่ตรงหน้าเท่านั้นแหละ!

     

    “เฮ้ย...ผมไม่เข้า ! ปล่อยนะคุณชานยอล ปล่อยผมเดี๋ยวนี้!” 

     

    แบคฮยอนสะบัดข้อมือจนหลุดจากการเกาะกุมจนได้ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ร่างสูงในชุดฮู้ดสีดำกระชากแว่นตากับผ้าปิดปากออก เผยให้เห็นใบหน้าไม่สบอารมณ์ขั้นสุดที่แบคฮยอนรู้จักดี คนร่างสูงนิ่งไปพักนึง ก่อนจะสาวเท้าก้าวเข้ามาใกล้จนร่างบางเซถอยไปติดกระจกรถ!

     

    “....นี่น่ะหรอ.....นี่น่ะหรอสิ่งที่เหมาะสมกับชีวิตนายแล้ว!

     

    “........”  แบคฮยอนตาโต เม้มริมฝีปาก พูดอะไรไม่ออกซักคำ

     

    “งี่เง่า! ปัญญาอ่อน! เป็นบ้าอะไรถึงหนีออกมา...เป็นบ้าอะไรถึงยอมให้ยัยป้านั่นมาผลักหัวตัวเอง เป็นบ้าไปแล้วใช่ไหมที่ยอมให้คนอื่นมาด่านายเหมือนหมูเหมือนหมาแบบนั้น!

     

    “ก็เพราะคุณนั่นแหละ!!”  แบคฮยอนตวาดสวนขึ้นมาบ้าง “คุณนั่นแหละที่ทำให้ผมมีภูมิคุ้มกัน คุณตวาดตะคอกผมแบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากป้าคนนั้นเลย ที่คุณกำลังทำมันไม่ต่างกันเลย!

     

    “.......”

     

    ดูเหมือนคำพูดของแบคฮยอนจะทำให้คนร่างสูงติดสตั๊นท์ ปาร์คชานยอลที่อ้าปากเหมือนจะสวนกลับไม่มีอะไรจะพูดขึ้นมาทันที  มือเรียวยาวยกขึ้นเท้าสะเอวตัวเอง เด็กหนุ่มดูออกว่าหมอนั่นกำลังพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองอยู่....

     

    “ให้ผมกลับไปเถอะ...” พอไม่เห็นว่าชานยอลจะพูดอะไรอีก แบคฮยอนจึงฮุกหมัดตรงทันที เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่เพื่อรวบรวมความกล้าก่อนจะพูดประโยคถัดไป  “คุณปล่อยผมไปตามทางเถอะ” 

     

    “ไม่....”

     

    “แต่ผมไม่อยากเป็นตัวถ่วงของคุณอีก คุณไปหาคนเก่งๆมาทำแทนผมเถอะ คุณก็เห็นว่าผมทำอะไรไม่ได้ อยู่ไปคุณก็มีแต่จะหงุ....”

     

    “ฉันขอโทษ”

     

    แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาเรียวโตขึ้นกว่าปกติ.....อะไรนะ หูเขาไม่ได้ฝาดไปใช่ไหม แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังกลัว ถ้ากลับไปแล้วเขายังทำไม่ได้อย่างเดิมล่ะ  “....ต....แต่ผม....”

     

    “....ฉันไม่ได้ต้องคนอื่น”

     

    “.......” 

     

    “ฉัน”

     

    “.......”

     

    “ต้องการแค่นาย” 

    _____________________________________________________

    TBC – 10

     

    555555 มาง้อแล้วนะ พ่อคนปากแข็ง....

    แงงง สนุกไหม อัพไม่ทันจริงๆเมื่อวาน ไม่ไหวค่ะ ง่วงมากเลยไปนอนก่อน

    ตอนหน้าจะเริ่มหวานแล้วน้า เตรีมตัวให้ดี

    เตรียมฟินกับความน่ารักแบบปากแข็งของชานยอลได้เลย!


     

    ฝากบอทด้วยนะคะ ว่างๆแวะไปคุยกับวง XOXO ได้

    ฮยองนิม @CYEOLRV_

    เด็กขี้หึง @SHUNRV_

    แม่ยายคุณชายโอเซ @LHANRV_

    จิ้งจอกน้อย @BHYUNRV_

    พ่อพระเอกขี่ม้าขาว @KAIRV_

    คุณอาอี้ฟาน @YFANRV_
    พี่ชายใจดี @SUHORV_

     

    ว่างๆ พูดถึงฟิคเรื่องนี้ในทวิต ก็อย่าลืมติดแท็กนะคะ เราอ่านทุกแท็กจริงๆ

    #รมตกวร

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×