คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : p o i s o n i v y | 00
นายจำได้ไหม ?
ครั้งแรกที่เราพบกัน มันผ่านมานานแค่ไหนแล้ว ?
ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า ทว่าท้องฟ้าวันนี้มันครึ้มลงกว่าปกติ ทั้ง ๆ ที่อยู่ในเดือนมีนาคมช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิแท้ ๆ หากแต่มีสิ่งเดียวที่พอจะทำให้วันเริ่มต้นเทอมใหม่นี้สมบูรณ์ขึ้นได้บ้าง ก็คงจะเป็นข้างทางเท้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดสวย ชูช่ออวดความงามกันเต็มไปหมด
เขาหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ของรถประจำทางได้ทันท่วงที ก่อนหยาดฝนด้านนอกจะกระหน่ำสาดลงมาโดนเสื้อถักไหมพรมตัวใหม่ที่คุณแม่ส่งมาให้จากโตเกียว คิดไม่ผิดเลยที่ตัดสินใจนั่งรถแทนที่จะขี่จักรยานมาเหมือนทุกวัน เพราะท้องฟ้าหม่นแสงกับกลิ่นดินลอยมาแท้ ๆ
โด คยองซู ก็เป็นแบบนี้นั่นแหล่ะ มักจะมีความสุขกับสิ่งรอบ ๆ ตัวได้ง่าย ๆ เช่น นั่งมองพวกดอกไม้ ใบหญ้า สูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ลอยมาจากที่ไกล ๆ โดยไม่รู้ตัวอย่างเป็นสุข นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมถึงต้องทำตัวให้มีปัญหา หรือหาความสุขบนความทุกข์ของร่างกายในรูปแบบอื่น เช่นการเจาะหู เป็นต้น
“บยอน แบคฮยอน! เอามันออกมาจากหูแกเดี๋ยวนี้นะ ! ...ไอ้เด็กบ้านี่ ! มาสายแถมผิดระเบียบได้ทุกวัน”
คยองซูเดินเฉื่อย ๆ มาเรื่อยเกือบจะถึงประตูโรงเรียนแล้ว น่ายินดีที่เสียงของอาจารย์มยองซูจอมเฮี้ยบยังคงดังขึ้นเหมือนทุกวัน ๆ ประโยคซ้ำ ๆ เหล่านี้เขาถือว่าเป็นการต้อนรับที่ไม่ค่อยน่ายินดีซักเท่าไหร่ เพราะทุกครั้งที่มองไปยังเพื่อนร่วมห้องเจ้าของชื่อ เขาก็มักจะได้รับพฤติกรรมโต้ตอบแบบทุกครั้ง
บยอน แบคฮยอน ถลึงตากลับมา พร้อมขยับปากแบบที่ต้องการให้เขามองเห็นชัดๆ
‘มองอะไร ! ‘ไป ! ไป ! เร็ว ๆ !!!’’
สาบานได้ว่าเขาไมได้ตั้งใจมองเพื่อนร่วมห้องคนนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ทว่ามันมักจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เวลาที่เขาเผลอนอนตื่นสายทำให้มาไม่ทันเข้าแถวหน้าเสาธงตอนเช้า คยองซูเร่งฝีเท้าอย่างเร็วทันทีที่เห็นสัญญาณนั่น !
‘ขอบใจ’
เอ่ยกับตัวเองเบา ๆ หวังว่าคงจะส่งไปถึง...
____________________________________________________________
นายจำได้ไหม ?
ความเป็นเพื่อนของเรา มันผ่านมานานแค่ไหนแล้ว ?
ท่ามกลางความเงียบกริบของห้องสอบวิชาคณิตศาสตร์ สิ่งเดียวที่บยอนแบคฮยอนได้ยินคือ เสียงปากกาลูกลื่นดังหยุกหยิกพันยุ่งเหยิงไปหมดในหัว เมื่อก้มลงมองกระดาษข้อสอบแล้วก็แทบจะกัดลิ้นตัวเองซะให้ตาย เพราะเขาอ่านไม่รู้เรื่อง และนึกสูตรอะไรไม่ออกเลยแม้แต่สูตรเดียว
นาฬิกาแขวนผนังบอกเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ในขณะที่กระดาษคำตอบของเขายังว่างเปล่านั้น สายตาก็พลันไปสบดวงตากลมของคนที่นั่งอยู่ข้างๆพอดี
โด คยองซูไม่ใช่คนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีเลิศ ในขณะที่ก็ไม่ได้ตายด้าน แบคฮยอนรู้สึก เพียงแต่หมอนั่นมักจะมีความสุขอยู่กับบางสิ่งที่เพื่อน ๆ ในห้อง เห็นว่ามันน่าขยะแขยง อาจเป็นเพราะเวลาว่างทุกครั้งใครต่อใครก็มักจะเห็น คยองซู พาหนังสือ‘รวมสูตรพิชิต คณิตคิดเร็ว’ ไปไหนมาไหนด้วยในทุก ๆ ที่ก็เป็นได้
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
แบคฮยอนเคาะจนรู้สึกเจ็บนิดๆ แต่ก็ถือว่าได้ผล โดคยองซูที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หันมาหาเขาช้า ๆ สายตาล่อกแล่กแว่บมองอาจารย์ที่คุยโทรศัพท์อยู่หลังห้อง ก่อนใบหน้านิ่งเฉยนั่นจะมีความเปลี่ยนแปลงบ้างเพราะเจ้าตัวขมวดคิ้วเข้าหากัน
“เอ่อ...นายทำได้มั้ย ?”
“.............”
หมอนั่นเงียบ ก่อนจะลากกระดาษคำตอบของตัวเองที่เขียนอะไรยึกยือเต็มไปหมดมาในระยะที่เขาสามารถมองเห็นได้ ทว่าแย่หน่อยที่แบคฮยอนคนนี้ไม่ค่อยตั้งใจเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ทำให้แม้ในระยะประชิด ก็ยังไม่สามารถเดาอักษรบางอย่างได้อย่างถูกต้อง
“...แลกกันได้ป่าว...เอาของนายมาให้ฉัน” ต่อรองหน้าด้าน ๆ ก่อนจะแบมือขอกระดาษคำตอบของอีกคนง่าย ๆ ระหว่างที่อาจารย์คุมสอบกำลังหันหลังให้อยู่ คยองซูเลิกคิ้วสูง แต่ก็ยื่นให้ง่าย ๆ เช่นเดียวกัน
แบคฮยอนนั่งมองร่างบางทีก้มหน้าก้มตาจดยุกยิกลงในกระดาษข้อสอบของเขา พลางแสร้งทำเป็นว่าทำข้อสอบบ้างเป็นครั้งคราวเวลาที่อาจารย์สาวผู้คุมสอบเดินผ่านมา เวลาผ่านไปประมาณสิบนาที หันไปอีกทีกลายเป็นว่ากระดาษข้อสอบของเขาเต็มไปด้วยคำตอบที่ถูกต้องเสียแล้ว
เห็นทีจะไม่ได้.. คนอย่างแบคฮยอนหรอจะได้ท็อปคณิตศาสตร์ ขืนปล่อยให้เป็นแบบนั้นมีหวังได้โดนอาจารย์เจ้าของวิชาจริง ๆ สืบสวนกันยาวแน่ ๆ !
ว่าแล้วก็เริ่มเคาะโต๊ะอีกครั้ง ทีนี้เบาลงกว่าเดิม ได้ผล ! คยองซูหยุดเขียนก่อนที่กระดาษคำตอบของเขาจะเต็ม ร่างบางนั่นหันมาช้า ๆ
“...นายทำมากไปแล้ว”
“....” เพื่อนร่วมอุดมการณ์ขมวดคิ้ว หมายความว่ายังไง ? ที่ว่าทำมากไป
“...ส่งคืนมา ส่งคืนมา....” แบคฮยอนกระซิบเบาๆอีกครั้ง
ทว่า...
“....พวกเธอ !”
เสียงจากด้านหลังตะโกนลั่น ทุกคนที่อยู่ในห้องพร้อมใจกันหันมาเป็นทางเดียว อาจารย์คุมสอบเร่งฝีเท้าเข้ามาตรงโต๊ะที่แบคฮยอนนั่งอยู่ หล่อนยืนกำปากกาแดงแน่น แน่นอน ! คยองซูรู้ว่าสิ่งที่หล่อนจะทำคืออะไรต่อจากนี้..
“ทุจริตในการสอบ...เธอไม่ผ่านวิชานี้” หล่อนเอ่ยเสียงเข้ม
เป็นครั้งแรกที่แบคฮยอนกลัวคำว่า ‘ไม่ผ่านจับใจ’ คนที่ไม่เคยหยี่ระกับเลขศูนย์ หรือเครื่องหมายกากบาทบนหัวข้อสอบอย่างเขากลับรู้สึกได้ถึงเหงื่อชื้นเย็นเต็มแผ่นหลัง ก่อนที่ปากกาแดงจะขีดลงบนกระดาษ เขาควรจะเอ่ยความจริงออกมา...
“.......”
แบคฮยอนไม่รู้ตัวหรอกว่าตาของเขาเบิกโพลงด้วยอาการแบบไหน หากแต่ที่เขารู้แน่ ๆ ว่าเจ้าของแผ่นกระดาษที่แท้จริงที่อยู่กับตัวเองนั้น เป็นของเพื่อนร่วมห้องที่กำลังหันกลับไปให้ความสนใจกับกระดาษคำตอบของเขา มากกว่าที่จะสนใจว่ากระดาษคำตอบที่มีชื่อตัวเอง ถูกกากบาท ปรับให้ตกในวิชานี้ไปแล้วเรียบร้อย...
อ๊อดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงกริ่งดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าสิ้นสุดเวลาในการทำข้อสอบแล้ว ทุกคนลุกขึ้นไปส่งกระดาษของตัวเอง รวมถึงร่างโปร่งที่นั่งข้าง ๆ เขาก็ด้วย ...
แบคฮยอนกัดริมฝีปากแน่น มองคนหน้านิ่งที่เดินไปส่งกระดาษราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่คนที่ถูกปรับตกควรจะเป็นเขา ไม่มีความจำเป็นอะไรที่หมอนั่นจะไม่หาข้อแก้ตัวให้ตัวเอง นั่นสิ....ทำไม ?
“เฮ้ !”
แบคฮยอนวิ่งกระหืดกระหอบตามแผ่นหลังบางนั่นจนทัน ส่งเสียงเรียกลั่นจนคยองซูต้องหันหลังเดินกลับมาหา เพราะร่างโปร่งตรงหน้าหมดแรงจะวิ่งต่อทรุดลงกับพื้นไม่อายใครที่ไหน คยองซูก้มลงมองแบคฮยอนที่นอนหอบอยู่บนพื้น
“...เมื่อกี้ ....?”
“ทำไม...แฮ่ก....ไม่บอกอาจารย์....ว่าข้อสอบนั่นไม่ใช่ของนาย” คยองซูเลิกคิ้ว นี่แบคฮยอนวิ่งตามเขามาเพียงเพราะเรื่องเท่านี้เองงั้นหรอ
“ไม่เห็นเป็นอะไร....” คยองซูพูดเสียงปกติ ทำเอาคนที่ได้ฟังถึงกับต้องขมวดคิ้ว
“เฮ้ ! ไม่เป็นไรได้ไง ! นายอาจจะตกวิชานี้นะ....ฉันจะไปบอกอาจารย์”
“ฉันตกก็ดีกว่านายตก...อย่างมากก็แค่ซ่อม...แต่ถ้าเป็นนายไปซ่อมเอง คิดว่าจะผ่านได้รึเปล่า ?”
พอถึงประโยคนี้...บยอนแบคฮยอนเงียบ...
อาจฟังดูเหมือนว่าเขาถูกอีกฝ่ายกัดเข้าอย่างจัง แต่ก็เอาเถอะ เวลานี้ก็ไม่ได้ถือสาอะไรเท่าไหร่ อย่างน้อยคยองซูก็ยังแสดงความจริงใจให้เห็นมากกว่าเพื่อนบางคนในห้อง ถึงจะพูดตรงไปหน่อย แต่ก็ยังดีที่พูดตรง...
เป็นคนน่าคบ...
“งั้นรอเดี๋ยว....อยู่ตรงนี้ก่อน อย่าเพิ่งไปไหนนะ !” แบคฮยอนชี้หน้าคยองซูไว้แบบคาดโทษ แน่นอนที่ร่างบางจะไม่ขยับไปไหน หากแต่ทำแค่ยืนมองพฤติกรรมลุกลี้ลุกลนของอีกฝ่ายอยู่ไกลๆ หมอนั่นวิ่งไปถึงตู้กดน้ำ เขย่ากางเกงหาเศษเหรียญ หยอดใส่ตู้ แล้วออกวิ่งทันทีที่ได้เครื่องดื่มสองกระป๋องมาไว้ในมือ
“เอ้า ! รับไปสิ....ถือเป็นคำขอบคุณ” คยองซูมองกระป๋องน้ำอัดลมในมือแบคฮยอนอย่างพิจารณา ก่อนจะรับมันมาไว้ในมือตัวเองบ้าง
“........”
“เปิดสิ เปิด”
ทนฟังเสียงคะยั้นคะยอของอีกฝ่ายไม่ไหว เลยเผลอทำตามที่หมอนั่นสั่งโดยไม่รู้ตัว น้ำหวานจากในกระป๋องพุ่งซ่านไปทั่ว กระเฉาะรดเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาเสียกลายเป็นวงใหญ่ คยองซูร้องเฮ้ย เบาๆในขณะที่คนข้าง ๆ หัวเราะลั่นไปทั่วทั้งทางเดิน
เพียงเท่านั้นเอง
มิตรภาพเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นจากเรื่องง่ายๆ
____________________________________________________________
ราวกับต้นท้อที่ด้านนอกหน้าต่างเพิ่งจะออกดอกบานสะพรั่งเมื่อวานนี้ เผลอไปอึดใจเดียวเท่านั้น ทั้งดอกและใบก็ร่วงโรยไปตามกาล หากแต่กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่คยองซูชอบยังคงหลงเหลืออยู่ตามสายลมแผ่วที่เพิ่งพัดผ่านหน้าต่างไปเมื่อครู่
พริบตาหนึ่งเหมือนเพิ่งรู้จักกับแบคฮยอน จากวันนั้นที่อะไร ๆ ก็เริ่มก่อตัวขึ้น จนถึงตอนนี้ที่กำลังจะต้องแยกจากกัน มันทำให้ในใจของคยองซูวูบไปแปลก ๆ ทุกครั้งที่นึกถึง
ในตอนนี้ที่เขากลายเป็นนักเรียนเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ลงทุนเรียนกวดวิชาทุกวัน ค่ำมืดดึกดื่นแค่ไหนก็ไม่บ่น เพียงแค่หวังว่าจะได้เข้าเรียนในสายวิชาที่ตัวเองชอบ ในมหาวิทยาลัยที่ใครได้ยินชื่อ ก็ต่างจะเข้ามาชื่นชมยินดี
ส่วนแบคฮยอนตัดสินใจได้ตั้งแต่แรกว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อด้านการบริหาร
ทว่ากระดาษที่ถืออยู่ในมือ ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีใจเลยซักนิด...
‘ผลตอบรับเข้าเรียนต่อ มหาวิทยาลัยT’
คยองซูปรายสายตามองมันอีกครั้ง เมื่อครู่เขาเพิ่งจะวางสายจากแม่บังเกิดเกล้าที่ใช้ชีวิตอยู่ในโตเกียวหมาด ๆ แม่ยินดีกับการตัดสินใจของเขา แม้มันจะขัดแย้งกับหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้น ทั้งความรู้สึก หรือแม้แต่หัวใจของตัวเอง
คยองซูตัดสินใจขยำใบผลการสอบนั้นทิ้งตะกร้าหวายที่อยู่ใกล้ ๆ แบคฮยอนเพิ่งโทรมายินดีกับเขาเมื่อครู่ก่อนที่จะวางสายจากแม่ เขาไม่รู้ว่านี่มันถูกรึเปล่า.... แต่มีเพียงคนเดียวที่รู้ความจริง....
‘ผมคิดว่าผมคงเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน....แม่จะว่าอะไรไหมครับ...’
______________________________
TBC
แท็ก #พซอว นะคะ
ฟิคความดราม่าระดับ 7.5 ริกเตอร์ หน้าสั่นกันไปกับความน่าหมั่นหน้าของพี่บยอนเลยนะคะ
ความคิดเห็น