คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ` 연결 ★ baekhyun ____( ไม่เคย )
เคยมีคนบอกผมว่า...คนเป็นแฟนกัน พอคบกันมาถึงจุด ๆ หนึ่งความสัมพันธ์มันจะเริ่มเปลี่ยนไป
จืดจาง ...อิ่มตัว....น่าเบื่อ
ห่าเหวอะไรหลายอย่าง ที่สะท้อนว่าทุกสิ่งที่ผมกำลังเป็นอยู่ตอนนี้...
มันเข้าใกล้คำว่า ‘เลิกกัน’ เต็มที...
C O N N E C T
krisbaek : chanbaek
1
BAEKHYUN
ผมล้วงกุญแจพวงใหญ่ออกมาจากกระเป๋าโน้ตบุ๊ค วางข้าวของพะรุงพะรังที่ติดมือมาลงบนพื้น ก่อนจะเลือกกุญแจดอกเล็ก ๆ จากในพวงนั้นไขประตูบานใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า...
ผมนึกด่าเจ้าของห้องนี้ทันทีที่ก้าวขาเข้ามา ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศแผ่ซ่านไปทั้งห้อง ทั้งๆที่ด้านนอกฝนก็ตกเหมือนห่าลง เดินไปที่รีโมทแอร์ เห็นเลขบนจอแล้วแทบจะขว้างทิ้ง 18 องศา! มันบ้ารึเปล่าเนี่ย อยู่ไปได้ยังไงกันหนาวขนาดนี้...
จะว่าหงุดหงิดมันก็หงุดหงิดนะ แต่ก็ชินซะแล้วกับนิสัยแปลก ๆ ของแฟนคนนี้ กดปิดแอร์เสร็จก็ย้ายตัวไปที่โต๊ะอาหาร วางถุงผลไม้ที่ยังไม่ได้ปอกเอาไว้ ก่อนจะถือถุงที่มียาลดไข้ ยาแก้แพ้ แล้วก็เจลแปะหัวเข้าไปในห้องนอน
“ฮยองนิม....” ผมเรียกคนที่นอนซุกไออุ่นคลุมโปงเป็นหนอนชาเขียวให้ตื่นขึ้นมา เขย่าร่างนั้นอยู่นาน แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น เลยต้องเล่นท่าไม้ตาย กระตุกผ้านวมมันออกทั้งยวง คนป่วยเลยได้ฤกษ์สะลึมสะลือ เมาขี้ตาลุกขึ้นมานั่งจ้องหน้าผมเสียที
“แบคฮยอน ?” ผมกรอกตาไปมาเมื่อได้ยินน้ำเสียงแบบนั้น... ยังมีหน้ามาสงสัยอะไรอีก เวลาหวัดแดกแบบนี้ก็เป็นผมทุกทีที่มาดูแล
“กินยาเลยครับ...”
ผมเอื้อมไปหยิบขวดน้ำแร่ยี่ห้อโปรดของแฟนที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงมาเปิดฝา ยัดยาใส่มือหนาๆนั่น แล้วคะยั้นคะยอให้กระเดือกยากำนั้นลงไป ก่อนจะดันร่างสูงให้ล้มตัวลงนอน แปะเจลไว้บนหน้าผาก ห่มผ้าให้ถึงอก ปิดโคมไฟ แล้วเดินออกมาจากห้องนั้นทันทีที่เสร็จสิ้นภารกิจ...
มิชชั่นคอมพลีท...
ผมนั่งลงกับโต๊ะกินข้าวอีกครั้ง หลังจากถือวิสาสะไปรื้อค้นจานชามมาจากเคาน์เตอร์โซนครัว ได้อุปกรณ์เรียบร้อยก็ลงมือปอกผลไม้ที่ดั้นด้นไปหาซื้อที่ตลาดเย็น ทั้งๆที่พายุเข้าแบบนี้...
เหตุผลน่ะหรอ?
ง่าย ๆ เลย....
เวลาอู๋อี้ฟานไม่สบาย...พี่แกจะไม่ยอมกินข้าว...
เออดิ ให้มันได้แบบนี้... ไม่ยอมกินจริง ๆ นะเออ จะข้าวต้ม โจ๊ก อะไรก็แล้วแต่ ไม่มีแตะ ไม่ให้อะไรตกถึงท้องได้นอกจากผลไม้ ...
ก็เลยต้องลำบาก บยอน แบคฮยอนแบบนี้...
ผมหัวเราะในใจ ...แค่ในใจนะ หัวเราะเสียงดังเดี๋ยวคนในห้องเสือกได้ยินอีก แล้วถ้าได้ยินขึ้นมาล่ะเป็นเรื่อง จะมาหาว่าผมไปหัวเราะเขาเวลาไม่สบายอีก รับรองมีบ่นกันเซ็ตใหญ่อะ...
เพราะพี่แกแพ้อากาศอย่างหนัก ขนาดอากาศเปลี่ยนนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ไม่สบายยกใหญ่ไปได้ แล้วผมเคยไปหัวเราะเขาไว้ไง มันเลยเป็นปมด้อยเล็ก ๆ ของคนตัวใหญ่ขี้ใจน้อย เรื่องความอ่อนแอของอู๋อี้ฟานนี่ห้ามเลยนะ.... ห้ามเล่าให้เพื่อนหรือใครฟังเด็ดขาด ขนาดสาวๆที่พี่แกควงยังไม่มีใครรู้ เพราะงั้นหน้าที่ เมียทาสก็เลยตกเป็นของผมไปโดยปริยาย
...มีผมคนเดียวที่เห็นเฮียอ่อนแอได้
ก็น่าดีใจอยู่หรอก... ล่ะมั้ง
ผมส่ายหัวกับตัวเอง ลุกขึ้นจากโต๊ะเอาผลไม้ในทับเปอร์แวร์ที่เพิ่งปอกเสร็จใส่ตู้เย็น ว่าจะอาบน้ำล้างคราบโคลนที่กระเซ็นใส่เสื้อตอนเดินเข้าคอนโดซักหน่อย แต่ก็ต้องหมดอารมณ์ เมื่อหาเสื้อตัวโปรดของผมในตู้เสื้อผ้าของพี่แกไม่เจอ...
“ฮยองนิม....ฮยองนิม!”
ผมก้าวฉับ ๆ กลับมาที่ห้องนอนอีกครั้ง คราวนี้ไม่เกรงใจ ตะโกนเรียกสรรพนามเฉพาะเสียงดังลั่น พี่แกงัวเงียลืมตาตื่นขึ้นมาช้า ๆ “โหวกเหวกอะไรอีก...”
“เสื้อตัวน้ำตาลของผมอยู่ไหน....ฮยองนิมส่งซักไปหรอ?”
ผมไม่อาจรู้ได้ว่าตอนนี้ผมทำหน้าแบบไหน แต่เดาได้ลางๆว่าคงไม่น่ารักนักหรอก ไม่อย่างนั้นพี่แกคงไม่ปั้นหน้าเบื่อโลก แล้วล้มตัวลงซุกผ้าห่มทันทีแบบนั้น
“ยกให้คนอื่นไปแล้ว...”
เปรี้ยง !
เสียงฟ้าผ่าลั่นที่ตรงข้างหน้าต่าง แสงสลัวตีเข้าหน้าผมทันที เหมือนกับคำที่อี้ฟานเพิ่งพูดเมื่อครู่ มันตีแสกหน้าผมเข้าอย่างจังเลยล่ะ... ยกให้คนอื่น ? คนอื่นล่ะคนไหน ? ใช่ผู้หญิงที่มานอนทอดกายให้พี่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วหรือเปล่า ?
อยากจะถามแบบนี้น่ะนะ...แต่ก็รู้แก่ใจว่าพี่แกจะตอบแบบไหน ผมเลยได้แต่ข่มอารมณ์ไว้ หมุนตัวกลับออกไปทันที....
.
.
.
ผมกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งหลังจากสงบสติอารมณ์เรียบร้อย กระโดดขึ้นเตียงนอนมองแผ่นหลังกว้างของแฟนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหันกลับมากอด หรือแสดงความรักอะไรทั้งสิ้น ! นอนตะแคงอย่างนั้นอยู่นานถึงได้ขยับตัวมานอนหงาย แล้วเอามือก่ายหน้าผากแทน
ผมขยุกขยิกอยู่ซักพัก รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่เวลาที่นอนเตียงนี้ เตียงที่พี่แกพาใครต่อใครมานอนกก รวมถึงผมด้วย.... ใช่ครับ...คอนโดนี้จริง ๆ แล้วไม่ใช่ที่อยู่ของพี่เขาหรอก แต่ซื้อเอาไว้เวลาพาคนมาได้เสียก็แค่นั้นเอง...
ผมเคยขอไปที่บ้านอี้ฟานอยู่หลายครั้งเหมือนกัน แต่ทุกครั้งพี่แกก็จะเงียบ แล้วทำเหมือนไม่ได้ยิน ทำหูทวนลมไปดื้อ ๆ....
สรุปแล้วเป็นแฟนกันมาสามปี...ไม่เคยจะได้รู้อะไรนอกจากที่พี่แกบอก สั่ง หรือให้ปฏิบัติตามเลยซักนิด....
“นอนนิ่ง ๆ ไม่ได้หรือไงแบคฮยอน”
เสียงทุ้มติดจะแหบ ๆ พูดขึ้นมาผมเลยได้รู้ว่าพี่แกยังไม่หลับ แต่กลับมาทำให้บรรยากาศที่เหมือนจะดีแย่ลงไปเนี่ย หลับ ๆ ไปก็ได้นะครับอี้ฟาน... ผมเบะปากก่อนจะเขยิบเข้าไปหา เอื้อมมือไปกอด เอาหัวซุกแผ่นหลังนั่น แต่ก็อยู่ได้ไม่ถึงวินาทีด้วยซ้ำ เพราะเจ้าของห้องปัดมันออกหมด พร้อมหันหน้ามาทำตาถลึงใส่ผมอีก
“ทำไมไม่ใส่เสื้อ !”
วันนี้ผมใส่แค่บ็อกเซอร์นอน ใช่ ! บ็อกเซอร์ตัวเดียวเท่านั้น ! ไม่ได้มายั่วใครอะไรทั้งสิ้น แต่คนมันหงุดหงิดนี่หว่า.... เสื้อของผมหลายตัวกลายเป็นที่ระลึกในการได้เสียของอี้ฟานกับนางเล็ก ๆ ที่มานอนห้องนี้เกือบจะทุกครั้ง แถมตัวนี้เป็นเสื้อตัวโปรดของผมอีก พี่แกก็ยังทำกันได้ ผมก็เลยประชด ไม่สงไม่ใส่แม่งเลย เสื้อผ้า....
เหมือนพี่แกจะจับความรู้สึกผมได้ แววตาดุ ๆ นั่นอ่อนแสงลงเล็กน้อย “อย่างี่เง่าสิ....แค่เสื้อตัวเดียวเดี๋ยวซื้อให้ใหม่ก็ได้”
“ฮยองนิมพูดแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว....”
ไม่ได้จะเปิดประเด็นดราม่านะครับ แต่อากาศ สายฝน และคนอย่างเรา นำพาไปสู่บทสนทนาแบบนี้ ผมเห็นอี้ฟานทำหน้าเซ็งโลกแล้วก็นึกอยากจะลุกออกไปจากตรงนี้ เอาของในตู้เย็นที่ซื้อมาพะเน้าพะนอมัน เหวี่ยงลงพื้นแล้วเหยียบให้เละทั้งหมด แต่ก็นั่นแหล่ะ....ความคิดก็คือความคิด ผมเลยได้แต่นอนมองหน้าพี่แกอยู่แบบนั้น แล้วค่อย ๆ เขยิบเข้าไปกอดร่างสูงเอาไว้
“ผมขอโทษ ขอโทษ....เดี๋ยวจะไปใส่เสื้อผ้าแล้ว โอเคนะ ?”
ไม่ต้องเล่าต่อก็ได้ แต่ก็อยากบอกให้รู้ไว้ว่าตอนจบของบทสนทนานี้คือ ผมยอมเขาอีกครั้ง...
ผมลุกขึ้นจากเตียงอย่างเศร้า ๆ ดูเหมือนเขาจะยังไม่ละสายตาไป และเมื่อผมหย่อนขาลงเตียงเท่านั้นแหละ เสียงทุ้มของคนที่นอนอยู่ก็ดังขึ้นมา...
แต่มันดันไม่ใช่ประโยคอย่างที่ผมอยากฟังหรอกนะ...
“คืนนี้นอนที่โซฟาแล้วกัน...นอนที่เตียงเดี๋ยวจะติดหวัดพี่ซะเปล่า”
.
.
.
ตอนนี้ผมก็เลยอยู่ที่โซฟา....
ยังแอบงงอยู่เหมือนกันว่าสถานะแบบนี้คืออะไร...คนเป็นแฟนกันอีท่าไหน? ทำไมไม่อยากนอนกอดกัน... ทำไม่อยากอยู่ด้วยกัน ทำท่าเหมือนรังเกียจผมด้วยซ้ำไป...
ผมนอนห้อยหัวดูทีวีจอพลาสม่าที่อยู่ตรงหน้า แต่มันดึกแล้วก็เลยมีแต่รายการเพลง แถมมีแต่เพลงเฮิร์ท ๆ แบบว่าแฟนไม่สนใจ....ไม่เข้าท่า ผมเลยเปลี่ยนช่อง เจอข่าวเช้าวันใหม่....ฆ่ากันตั้งแต่หัววันเลยหมดอารมณ์ ไม่ดูอะไรทั้งสิ้น.... นอนห้อยหัวอยู่พักใหญ่ท้องผมก็ร้องโครกครากเสียงดัง คงจะเป็นกรรมตามสนองที่ผมปฏิเสธไม่ไปกินต๊อกโปกีกับพวกซูโฮเมื่อหัวค่ำ เพราะจะรีบกลับมาเอาใจแฟนล่ะมั้ง ผมเลยต้องมานอนทนหิวแบบนี้...
ทีแรกก็ว่าจะแอบกินผลไม้ของคนป่วยหรอกนะ แต่ว่าซื้อมาแค่พอกินก็เลยไม่แย่งดีกว่า...
“เฮ่อออออ”
ผมม้วนตัวกลับมานั่งท่าคนปกติ มองขวดน้ำแร่ยี่ห้อโปรดของอี้ฟานที่แอบเอามาดวดประทังความหิว เพราะในตู้เย็นไม่มีอะไรอยู่พักนึงเลยตัดสินใจ ย่องเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง...
คนป่วยหลับสนิท หลับเหมือนตายเลย แต่ตอนที่ผมค่อย ๆ รูดซิปกระเป๋าโน้ตบุ๊คจะหยิบ แบงค์หมื่นออกมาจากกระเป๋าตังเท่านั้นแหละ หันหลังกลับมาอีกที พี่แกก็นอนลืมตามองอยู่แล้วเรียบร้อย
“จะไปไหน....”
“ไปหาอะไรกินครับ...”
“แล้วทำไมไม่หาอะไรกินตั้งแต่หัวค่ำ .......^$@&##%*@&”
บ่นกันอยู่ชุดใหญ่ ทั้งเรื่องดึกแล้วทำไมไม่นอน เรื่องความสะเพร่าของผม เรื่องที่ว่ากลางคืนแล้วมันอันตราย เรื่องคอนวิเนียนอยู่ไกล ลามไปถึงอาหารแช่แข็งที่ผมจะออกไปซื้อ พอบ่นเสร็จ หนำใจคนป่วยเลยเพิ่งสังเกตได้ล่ะมั้ง ว่าผมไม่เถียงอะไรออกมาเลยซักคำ เขาถึงได้หยุดบ่น อี้ฟานกวักมือเรียกผมเข้าไปหาใกล้ ๆ ก่อนจะยัดกระเป๋าตังของเขาทั้งอันมาไว้ในมือ...
“เอาตังพี่ไปซื้อ แล้วรีบไปรีบกลับด้วยล่ะ....”
เขาสั่งแค่นั้น....แค่นั้นจริง ๆ แล้วก็ล้มตัวนอนไปอีก... ผมล่ะสงสัยจริง ๆ ว่ากลไกการหลับของเขามีปัญหาหรือไง ทำไมถึงได้สะดุ้งตื่นมาถูกจังหวะทุกที....
.
.
.
.
ผมหอบถุงคอนวิเนียนถุงเบ้อเริ่มเดินเข้าคอนโดสบายใจเฉิบ...
แอบสงสารกระเป๋าตังของฮยองนิมเหมือนกัน แต่สมแล้วล่ะ ! อยากทำผมหงุดหงิดหัวใจเองนี่หว่า ผมเลยช้อปหมดไปหลาย เล่นเอาแบงค์ฟ่อน ๆ ของพี่แกหายวับไปค่อนนึง.... นาทีนั้นไม่นึกอะไรแล้วทั้งสิ้น ช้อปแหลกมันอย่างเดียว ! ซื้อมาจะได้กินรึเปล่าก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าหมั่นไส้เจ้าของกระเป๋า !
สรรพนาม ‘ฮยองนิม’ นี่ก็ไม่ถูกใจเขานักหรอกนะ แต่ที่ยอมให้ผมเรียก ก็เพราะว่าผมเป็นอภิสิทธิ์ชนน่ะสิ....
ผมหัวเราะกับตัวเอง ถอดเสื้อกันฝนออกจากตัวทันทีที่เข้าไปในลิฟต์ กดชั้นที่ต้องการก่อนจะขยำเจ้าเสื้อกันฝนเปียก ๆ ลงไปไว้กับพวกขนมในถุง
เดินฮัมเพลงสบายใจ ไขกุญแจห้องเปิดประตูเรียบร้อย.... แต่ทว่า...
“ทำไมไม่กางร่มไป...”
คุณพระช่วย ! เขานั่งอยู่ที่โซฟา...
“เห็นมันปรอย ๆ แล้ว..ไม่คิดว่าจะตกหนักลงมาอีก.....” ผมแก้ตัวก่อนจะหิ้วถุงใบใหญ่ไปวางไว้บนโต๊ะอาหาร จริง ๆ มันไม่ได้ปรอย ๆหรอก ก็ตอนนั้นมันแอบหงุดหงิด เลยกะเดินฝ่าฝนเป็นพระเอกเอ็มวีบ้างอะไรบ้างก็เท่านั้น
“แล้วซื้ออะไรมาเยอะแยะ...” พี่แกลุกขึ้นมาจากโซฟา แล้วเดินมาทางผม ชำเลืองมองของในถุงเล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวกลับ
“..........”
“สระผมใหม่ก่อนนอนด้วย....เดี๋ยวเป็นหวัด”
เขาเดินกลับเข้าห้องนอนของเขา ปิดประตูดังปังแล้วไม่มีทีท่าว่าจะออกมาอีก.... แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...การกระทำของเขาน่ะ.....
ทำให้ผมอมยิ้ม....
เฮ้ย...สาบานจริง ๆ ว่าอมยิ้ม.... อี้ฟานมารอผมเพราะเห็นว่าผมลืมกางร่มไปหรอ.... ให้ตายเถอะ! นี่ผมสามารถเข้าข้างตัวเองได้ใช่ไหม ว่านี่เป็นความโรแมนติคแรกในรอบหลายเดือนที่พี่เขาแสดงออกมา
ให้ตายเถอะ.....ผมยิ้มจนปวดแก้มไปหมดเลย....
ยิ้มซะจนรู้สึกได้ถึงอะไรเค็ม ๆ ที่ไหลลงมาเปื้อนหน้า....
ยิ้มทั้งน้ำตาเลยก็ว่าได้....
________________________________
TALK
เดี๋ยวนะ นี่มันฟิคอะไร...
ไร้สาระมาก 555อยู่ดีๆ ก็อยากเขียน
บ้าบอมากเลยค่ะ อ่านแล้วชอบ หรืออ่านแล้ว ไม่เข้าใจก็คุยกันได้นะ
อารมมันงง ๆ ไปรึเปล่าหว่า 5555+ ขำขำนะ คอมเม้นแก้ไขได้นะจ้ะ
เราชอบอ่านคอมเม้น 5555+
ถ้าไม่งั้น ถ้าจะมอยกันในทวิต ก็รบกวนติดแท็ก #ฟิคคอนเนค
ด้วยเด้อ...ไว้เข้าไปส่อง อิอิ
ความคิดเห็น