ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    POISON IVY (BAEKDO | CHANSOO)

    ลำดับตอนที่ #6 : p o i s o n i v y | 05

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 58


    M





















     

     


                

                  แบคฮยอน...แบคฮยอน.....”  

     

                    เสียงตะโกนเรียกดังไปทั่วระเบียงทางเดิน  เจ้าของชื่อที่เดินลิ่วๆนำหน้าไม่สนใจคนที่ตามมาซักนิด ร่างหนาทำแค่ก้าวขาที่ยาวกว่าไปเรื่อยๆ  จนร่างบางเข้ามาประชิดตัวได้นั่นแหละ คยองซูถึงรีบเอื้อมมือไปคว้าแขนเสื้อของแบคฮยอนเอาไว้แน่น ร่างบางงอตัวหอบแฮ่ก ก่อนจะหยัดยืนขึ้น มองคนที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์อย่างไม่เข้าใจ 

     

                    “ตามมาทำไม”  แบคฮยอนบ่นงุบงิบด้วยความหงุดหงิด ใบหน้าเสหันไปอีกทาง

     

                    “....โกรธอะไร ?” คยองซูถาม ทำไมเข้าจะไม่รู้ว่าแบคฮยอนกำลังโกรธ เพียงแต่ไม่รู้ว่ากำลังโกรธด้วยเรื่องอะไร ทำไมถึงได้หงุดหงิดขนาดนี้..

     

                “ไปสนิทสนมกับชานยอลมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่”ถามเสียงห้วน ในขณะที่ก็ยังจ้องมองใบหน้าขาว แบคฮยอนไม่คิดจะเรียกบุคคลที่สามว่าพี่ ไม่เคยคิด และไม่คิดจะทำด้วย เพราะงั้นคยองซูถึงได้ทำสีหน้าแบบที่เขาไม่เคยได้เห็นเมื่อพูดถึงชื่อนั้น มันเหมือนกับตอนที่เขาไปเจอทั้งคู่กำลังอยู่ด้วยกันที่ทางหนีไฟสองต่อสอง แววตาเป็นกังวล สับสนของคยองซูทำให้เชื่อได้ยาก ถ้าบอกว่าไม่ได้สนิทอะไรกันนัก...

     

                แล้วเหตุการณ์ที่เจอชานยอลเมื่อเช้าที่คอนโด กระเป๋าสตางค์ แถมยังที่เรียกเพื่อนเขามาเจอพูดถึงแต่เรื่องอะไรที่เขาไม่เข้าใจนั่นอีก... มันคืออะไร... ?

     

                ไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่ชานยอลจะเข้ามาวุ่นวายกับคนข้างตัว

                เพราะงั้นถึงได้เกิดความรู้สึกแบบนี้...

     

    ไม่ชอบ....

     

    “ไม่ได้สนิท...”  คยองซูหลบตาเรียว ที่จ้องใบหน้าของตนนิ่ง ร่างบางเสหันไปอีกทาง ไม่อยากจะนึกถึงรุ่นพี่คนนั้นอีก ...เพราะมันพาลให้นึกไปถึงเหตุการณ์ที่ไม่มีใครต้องการให้เกิด....

     

    เหตุการณ์ทีตอกย้ำ... ว่าเขารักแบคฮยอนจนหน้ามืด...

    รักซะจนเก็บเอาไปฝัน....  

     

    จนมันกลายเป็นฝันร้ายที่กัดกินหัวใจของเขาอยู่อย่างนี้

     

                แบคฮยอนกระชับใบหน้าเล็กให้เงยขึ้นสบตากับตน จนแล้วจนรอดร่างบางก็ยังเสมองไปที่ทางอื่น ฟังนะคยองซู...นายเป็นเพื่อนสนิทของฉัน...เพื่อนสนิทแค่เพียงคนเดียวที่ฉันมี.”  นั่นยิ่งทำให้คิ้วที่ขมวดอยู่แล้ว พันกันยุ่งเหยิงไปหมด

     

    แบคฮยอนต้องการอะไร....

     

                “กับพี่ชานยอลก็ไม่ได้สนิทอะไรขนาดนั้น....” เหมือนเข้าใจอะไรมากยิ่งขึ้น คยองซูตอบ หากน้ำเสียงแผ่วลง แบคฮยอนคงแค่กลัวว่าเขาจะยื่นมือไปหาใครได้อีกนอกจากตัวเอง...

     

                ผิดแล้วล่ะบยอนแบคฮยอน....

                คยองซูจะยื่นมือไปหาใครได้อีก.... แค่เอื้อมไปให้ถึงคนที่อยู่ข้าง ๆ ตัวเองยังไม่กล้า....

     

                แล้วจะกล้ารักใครใหม่ได้อีกหรือ?...

     

                “งั้นหรอ...แล้วไอ้ที่มันมานอนค้างบ้านนายเมื่อคืนมันอะไรกันล่ะ !

     

               แบคฮยอนรู้สึกหงุดหงิดจนตวาดเสียงดังโดยไม่รู้ตัว มองคนตรงหน้าที่เงยหน้าขึ้นตามแรงมือแต่ไม่ยอมสบตากับตัวเอง นี่คืออะไร? ไม่มองหน้ากันแบบนี้มันคืออะไรกันโดคยองซู ! ร่างหนาไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันต่อยอดไปจนเกือบจะถึงคำว่า ‘โมโห’  รู้แต่ว่าตัวเองกำลังหงุดหงิด ถึงได้ข่มท่าทีเอาไว้ เพราะแม้แต่ตัวเองยังไม่เข้าใจเท่าไหร่ ว่าทำไมถึงได้หงุดหงิดได้ขนาดนี้

     

    ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าแค่โกรธคยองซูที่ไปทำตัวสนิทสนมกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้าเขาเท่านั้น..

     

                ก็เท่านั้น...

     

                “พี่อี้ฟานฝากเขาขึ้นรถมาด้วย แต่เมื่อคืนพี่เขาเมามาก จำทางกลับบ้านไม่ถูกเลยต้องพาไปนอนที่ห้อง.....แค่นั้นเอง”

     

                แค่นั้นเอง....?

                แค่นั้นสำหรับคยองซู

     

                แต่สำหรับแบคฮยอนมันไม่ใช่ แค่นั้น

     

                ไม่รู้ว่าร่างบางรู้ตัวรึเปล่า...  แต่ตั้งแต่คบกันมา คยองซูไม่ใช่คนที่จะให้ ใคร หน้าไหนมาค้างด้วยง่าย ๆ ทั้งที่ไม่ได้สนิทสนมกันดี.... 

     

                “............” ร่างหนาเงียบปาก รอดูคนตรงหน้า ที่กำลังพยายามจะเอ่ยอะไรบางอย่างออกมา  คยองซูหลบสายตาเขาอีกแล้ว....

     

                ครั้งที่สามของวัน....

                คยองซูไม่เคยเป็นแบบนี้....

     

                แล้วจะไม่ให้หงุดหงิดยังไงไหว...

     

                “....แบคฮยอน.....”

     

                “........อะไร”

     

                “....อย่าโกรธเลยนะ”

     

               แบคฮยอนกลอกตา พยายามจะกดความรู้สึกหงุดหงิดลงไป ถอนหายใจ เป่าปากลดอุณหภูมิในหัวสมองตัวเอง ก่อนจะเอื้อมมือไปจับที่ไหล่ลาด ที่กำลังสั่นเล็ก ๆ ปลอบใจตัวเองว่าคงไม่มีอะไรหรอก เขาคงหงุดหงิดหัวเสียไปเอง ที่เห็นคนตรงหน้าอยู่กับคนที่เขาเกลียดขี้หน้า...

     

               คยองซูก็เป็นแบบนี้เสมอแบคฮยอนรู้ดีที่สุด ร่างบางน่ะเอะอะอะไร ก็ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ปฏิเสธใครไม่ค่อยจะเป็น เวลาต้องทะเลาะกับใครก็อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ปล่อยให้คนอื่นเค้าคิดมากมายไปต่าง ๆ นานา ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองซักเท่าไหร่

     

                เพราะงั้นใจเย็น ๆ บยอนแบคฮยอน....

                ความรู้สึกแบบนี้ ก็แค่หวงเพื่อนเท่านั้นแหล่ะ

     

                 “โอเค โอเค..” ในที่สุดก็ทำลายความเงียบลง ริมฝีปากหยักเอ่ยออกมาเสียงอ่อน ก่อนจะเอื้อมมือไปวางที่ไหล่บางของคนตรงหน้า ดวงตาเรียวมองสบตากลม จ้องเขม็ง ออกอาการจริงจังอย่างที่ไม่ค่อยจะได้แสดงออกมาบ่อยครั้ง “แต่ถ้าเป็นไปได้ อย่าไปสนิทกับหมอนั่นนักเลย นายก็รู้ว่าเขาไม่ชอบขี้หน้าฉัน แล้วฉันก็ไม่อยากรู้สึกเหมือนถูกแย่งเพื่อนด้วย ยังไงก็แล้วแต่นายเป็นเพื่อนที่สำคัญที่สุด.....นะคยอง ?”

     

                คยอง...

               

    เอาอีกแล้ว แบคฮยอนเรียกเขาแบบนี้ด้วยน้ำเสียงแบบนี้อีกแล้ว คยองซูเม้มริมฝีปากแน่น....อยากจะใช้ฟันซี่เล็กขบให้เจ็บ ไอ้รู้สึกที่กักเอาไว้จะได้ไม่ฟุ้งซ่านขึ้นมาอีก เพราะทุกครั้งที่แบคฮยอนเรียกเขาแบบนี้มันทำให้ร่างบางรู้สึกว่าตัวเองน่ะ...สำคัญเสียเต็มประดา

     

    แย่งเพื่อน’ อีกคำที่สะกิดใจคยองซู  เขาไม่รู้ว่าแบคฮยอนจงใจจะทำร้ายด้วยคำพูดแบบนี้อีกนานแค่ไหน ด้วยสีหน้าเอาใจใส่ ไหนจะน้ำเสียงนุ่มเชิงขอร้องแกมบังคับนั่นอีก...

     

               คยองซูพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ ขณะที่อีกคนอมยิ้ม สิ่งที่เขากลัวจะไม่มีวันเกิดขึ้น คยองซูจะเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว และจะเป็นแบบนั้นตลอดไป

     

                ตลอดไป....

     

    ________________________________________________

     

                โอ้ย...เหนื่อยโว้ยยยยย”

     

               อี้ฟานตะโกนลั่นไปทั้งห้องสโมสรฯ รุ่นน้องสี่ห้าคนที่นั่งเย็บเอกสารงานวิชาการหันมาหัวเราะคิกคัก แล้วก็ต้องเงียบเสียงลงเมื่อโดนถลึงตาใส่ รุ่นพี่ใหญ่ที่สุดในห้องไถตัวเองไปกับเก้าอี้ทำงานแบบถูก ๆ ไปยังโต๊ะประธานปีสาม ที่เจ้าของตำแหน่งยังคงนั่งนิ่ง ทอดสายตามองที่จอคอมอยู่ ตั้งแต่ก่อนเขาจะลงมือพิมพ์รายงานเสียอีก...

     

                “เฮ้ย ๆ..ดินเนอร์นี้ไปจัดไก่บอนชอนแกล้มเบียร์กับพวกกูป่าว....”สะกิดถามคนตรงหน้าให้มาสนใจตัวเอง

     

               ชานยอลเงยขึ้นมองรุ่นพี่หน้าเหวอ “...เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะครับ”

     

                “...กูถามว่าเย็นนี้ไปกินไก่ทอดกับพวกกูมั้ย...ไอ้จงแด อี้ชิง ลู่หาน มินซอกก็มา” อี้ฟานทวน รู้สึกเซ็ง          นิด ๆ ที่มันไม่ได้ยินที่เขาพูด แต่ก็เถอะ รู้สึกช่วงนี้ชีวิตมันจะหนักหนาสาหัสเกินไป ควรจะมีสิ่งบันเทิงใจเข้ามาประเทืองอารมณ์บ้าง

     

                “ไม่ล่ะครับ..งานปิดงบยังไม่เสร็จ คงสั่งบะหมี่มากินที่นี่” ชานยอลพูดทั้ง ๆ ที่ตายังจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ นิ้วเรียวสวยแบบที่น่าอิจฉากดแป้นพิมพ์ไม่หยุด สลับกับนวดคลึงขมับตัวเองไปด้วย

     

                “เฮ้ย...ไม่เอาน่า ปิดงบก็ต้องรอเอกสารจากคยองซูมันอีกไม่ใช่หรอ” ได้ผล พอพูดชื่อเด็กนั่นชานยอลนิ่งไปพักหนึ่ง “กำหนดก็ตั้งมะรืน...คืนนี้มึงไปกินกับพี่ดีกว่าน่า”

     

                “ไม่เป็นไร พวกพี่ไปเถอะครับ” 

     

               ชานยอลปฏิเสธอีกครั้งอย่างนุ่มนวล แต่ในสายตาอี้ฟานนั้น การปฏิเสธแบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับที่ชานยอลใช้ชีวิตในแบบเดิม ๆ จืดจางในหมู่เพื่อนฝูง แม้มันจะมีดีกรีเป็นประธานสโมฯ หรือเดือนคณะอะไรก็ตาม แต่ทำแบบนี้อีกหน่อยก็คงวนกลับไปสู่จุดเดิม ๆ อีก ...

     

                “มึงลืมแทยอนได้แล้วนะชานยอล...หรือถ้ามึงลืมไม่ได้ มึงควรเอาเวลาอันมีค่าไปง้อเขา ดีกว่ามานั่งทำบ้าอะไรอยู่ตรงนี้....” 

     

                “ผมลืมเธอได้แล้ว...”  ชานยอลสวนขึ้น เงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น... สีหน้าเหมือนวันแรกที่โดนบอกเลิก ปรากฏให้อี้ฟานได้เห็นอีกครั้ง

     

                “....งั้นมึงก็ไปกินกับพวกกู...” ร่างสูงใช้อำนาจของรุ่นพี่ออกคำสั่ง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความรั้นของคนตรงหน้า

     

                “...ผมยังไม่อยากไปไหนทั้งสิ้นครับ...ขอโทษจริง ๆ”อี้ฟานกรอกตาไปมา... รู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นรุ่นน้องคนสนิทเป็นแบบนี้...

               

                “งั้นก็ตามแต่ใจมึง...จะบอกให้นะ กูไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมแทยอนเขาขอเลิกกับมึง.....”

     

                พูดจบก็หันหลัง กวาดข้าวของที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานตัวเองลงกระเป๋าเป้ใบโปรด แล้วผลุนผลันออกจากห้องไป

     

                มือใหญ่ลูบหน้าตัวเองแรง ๆ ก่อนจะกดขมับแล้วนวดคลึงเพื่อคลายความอึดอัดในใจ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้เขากับแทยอนเลิกกัน แต่กลับหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นเธอเดินคู่เด็กปีหนึ่งคนนั้น ด้วยสีหน้าที่ไม่เคยแสดงให้เขาเห็น เขาเข้าใจ ว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะเขาเอง... 

     

                แต่ก็เกลียด.....

                เกลียดบยอน แบคฮยอน...

     

    ________________________________________________

     

                    บ่ายคล้อยกว่าแล้ว แสงอาทิตย์ที่ลอดส่องเข้ามาจากด้านนอกเป็นสีส้มอมแดง ปลุกให้คนที่ฟุบหลับอยู่บนโต๊ะทำงานต้องลืมตาขึ้น คยองซูหลับตาลงอีกครั้ง ก่อนกระพริบเปลือกตาถี่เพื่อไล่ความงุนง่วง เอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดดูสายที่ไมได้รับ แค่หวังว่าจะมีมาถึงเขาบ้าง  แต่ตอนนี้แม้สักข้อความ ก็ยังไม่ได้รับจากแบคฮยอน....

     

                ทั้ง ๆ ที่เป็นคนนัดเขาเอง บอกให้รออยู่ที่ห้องแท้ ๆ...                

               

                ติ๊ด ด ด !

     

                ทันใดนั้นเอง ราวกับได้ยินเสียงในใจ เสียงข้อความก็ดังขึ้น เล่นเอาคนที่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยถึงกับสะดุ้งสุดตัว คยองซูชื้นในใจ อย่างน้อยก็ไม่ต้องให้เขารอนานมากเกินไปกว่านี้...

     

                คุณได้รับข้อความ :

                เจอกันที่ร้านไก่ทอด พี่แทยอนไปด้วยนะ ?’

     

                อีกครั้งแล้วที่แบคฮยอนทำลายรอยยิ้มของเขาโดยไม่รู้ตัว หน้าอกด้านซ้ายเหมือนจะปวดมากกว่าทุก ๆ ครั้ง และยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอีก เมื่อทุก ๆ อย่างในชีวิตที่เคยแค่มีเขากับแบคฮยอน เริ่มมีอีกชื่อหนึ่งเพิ่มเข้ามา

     

                คุณกำลังส่งข้อความ :

                วันนี้ไม่ไปแล้วนะ ต้องปิดงบของสโมฯ

               

                ตัดใจกดส่งข้อความนั้นออกไป ก่อนจะวางโทรศัพท์มือถือไว้ที่เดิม คว้ากระเป๋าสตางค์ กับผ้าพันคอที่พาดอยู่ที่ปลายเตียง แล้วผลุนผลันออกจากห้องไปทันที...

     

                ทิ้งความอึดอัดใจเอาไว้ในห้อง พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ ที่ส่งเสียงดังไม่หยุด ไม่หย่อน หลังจากที่ออกไป...

     

    ________________________________________________

               

                เสียงแป้นพิมพ์ดังรัวขึ้นเป็นพัก ๆ คลอไปกับเสียงดนตรีคลาสสิคที่บรรเลงเพียงแค่เบา ๆ หากเรียกความสนใจของคนที่กำลังจะทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้ได้เป็นอย่างดี คยองซูผุดลุกขึ้นอีกครั้ง คนแรกที่อยู่ในหัว ที่คิดว่าเป็นเจ้าของเสียงเหล่านั้นไม่ใช่ใครที่ไหน....

     

                “จงอิน...ทำอะไ......”

     

                ตะโกนออกไป ก่อนได้ถึงตัวคนที่มาดหวังตั้งใจให้เป็นเสียอีก แต่กลายเป็นว่าต้องหน้าแตกดังเพล้ง เพราะคนที่อยู่หลังจอคอมพิวเตอร์ ที่ชะโงกหน้าขึ้นมาตามเสียงเรียกนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน...

     

                “สวัสดีครับ....รุ่นพี่” คยองซูเบิกตาโพลงเมื่อริมฝีปากหนานั่นเหมือนจะจุดยิ้มบาง ๆ เป็นการล้อเลียน เสียงแป้นพิมพ์หยุดลง กลายเป็นเสียงรองเท้าหนังมันเงากระทบกับพื้นแทน

     

               ชานยอลก้าวมาถึงตัวของร่างบาง ที่เพิ่งจะผ่านเข้ามาทักทายเขาในความคิดเมื่อครู่ หากไม่กี่อึดใจเท่านั้น ตัวจริงก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าซะแล้ว

     

                “เอ่อ...ผมไม่ได้ตั้งใจจะรบกวน”  คยองซูเลิกลั่ก เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาของร่างสูง ที่มองต่ำลงมาไม่วางตา

     

                “...เย็นแล้ว” ใบหน้าคมหันไปมองทางนอกหน้าต่าง

     

                “ครับ....”

     

    “แล้วมาทำอะไร ตอนนี้?” ชานยอลกำลังรู้สึกสนุก อยู่ดี ๆ คนเฉื่อยชากับความรู้สึกอย่างเขาก็รู้สึกสนุก ก็แต่ตั้งแต่เมื่อกลางวันที่ได้เห็นแววตาในแบบต่าง ๆ ภายในใบหน้านิ่ง ไม่แสดงอาการของคยองซู ยิ่งอยากทำให้เห็นสีหน้าในหลาย ๆ แบบมากยิ่งขึ้น

     

    “มาเอาเอกสารครับ...”

     

                “ไม่ได้มาหาฉันหรอ ?” ชานยอลหัวเราะออกมาเบา ๆ ร่างบางส่ายหน้าทันที ทั้ง ๆ ที่เขายังพูดไม่จบด้วยซ้ำ

     

                “....เดี๋ยวก็จะไปแล้วครับ”  พูดตัดรอนจบคำร่างบางก็ลนลาน วุ่นวานอยู่กับเอกสารบนโต๊ะตัวเอง ยิ่งหายิ่งกระจัดกระจาย แถมยังหันมามองที่เขาแวบ ๆ เหมือนกล้า ๆ กลัว ๆ อีก

     

                “....ไม่อยากคุยกัน....ขนาดนั้นเลยหรอ....”  ชานยอลเดินเอื่อยมาหยุดอยู่ที่โต๊ะที่ร่างบางกำลังหาเอกสารอยู่ ร่างสูงกอดอกพิงกับผนังข้าง ๆ ดวงตาคมทอดมองเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า

     

                “...เปล่าครับ....ผมจะรีบเอากลับไปทำจริง ๆ”

     

                “งั้นหรอเอกสารอะไรล่ะ....” เดินเข้าใกล้ยิ่งขึ้นอีก โน้มใบหน้าใกล้ไหล่ลาด จนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของแชมพูจากเรือนผมสีน้ำตาล

     

                “...เอกสารขอทำเรื่องปิดงบ....เอ่อ ครับ” คยองซูไม่ทันได้ระวังหันหน้ากลับมาตอบทันที ก่อนนัยน์ตาเรียวจะเบิกโพลง ถอยตัวหนีอัตโนมัติ เมื่อได้รับรู้ว่าใบหน้าของเขากับรุ่นพี่ใกล้กันขนาดไหน  ใกล้เสียจนรู้สึกถึงรสมินต์จากลมหายใจอุ่น ๆ ที่เป่ารดแก้ม

     

                ร่างสูงจุดยิ้มที่มุมปาก ยกมือทั้งสองขึ้น ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองเพื่อหยิบอะไรบางอย่าง  ใบหน้าคมชะโงกหน้า โชว์แผ่นกระดาษที่คยองซูหาอยู่นานสองนานขึ้น โบกพลิ้วไปมาเหนือหัว

     

                “นี่ใช่ไหม ? ....ที่หาอยู่...” คยองซูพยักหน้ารัว

     

                “เอ่อ...ผมขอด้วยครับ จะได้รีบกลับเอาไปทำ” 

     

                “....ไม่ได้หรอก...เพราะฉันทำอยู่...เอายังไงล่ะ จะให้ฉันทำให้เสร็จ หรือนายจะอยู่ทำด้วยกัน ?” 

     

               คยองซูขมวดคิ้ว งานนั้นเป็นงานของเขาแท้ ๆ แต่ร่างสูงคนนั้น ทั้ง ๆ ที่เป็นประธาน ไม่ต้องมานั่งหลังขดหลังแข็งทำงานนี้ กลับมาอยู่ที่ห้องสโมฯเพื่อทำงานของเขา ...

     

              นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้เรื่องรึเปล่านะ ?

              งานของเขา เขาก็ต้องสานต่อให้เรียบร้อยสิ ....

     

                ตาคมจ้องร่างบางที่กำลังทำสีหน้าครุ่นคิด ใบหน้าขาวนั่น เดี๋ยวก็นิ่งเฉย เดี๋ยวก็เลิ่กลั่ก แล้วเมื่อกี้ยังทำเหมือนสับสนอะไรบางอย่างขึ้นมาอีก... 

     

                ยิ่งดูยิ่งสนุก...

     

                “....ทำครับ....”  สุดท้ายก็ตัดสินใจได้ คยองซูลากเก้าอี้ทำงานของตัวเองไปข้าง ๆ โต๊ะของประธานปีสาม ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่ง สีหน้าแบบที่ไม่ปรุงแต่งนิ่งงัน แต่นั่นทำให้ประธานร่างสูงรู้สึกละสายตาไม่ได้....

     

               ชานยอลหันมองตามหลังร่างบางที่เดินผ่านเขาไป ดวงตาคู่นั้นจ้องมาที่เขา ส่วนเจ้าตัวก็นั่งนิ่งเหมือนรอคำสั่งอะไรอยู่ แต่ก่อนจะได้คิดอะไร ปากก็ถามออกไป ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับงานเลยแม้แต่น้อย...

     

                “.....กินบะหมี่ดำด้วยกันไหม ?”

     

    ________________________________________________

    TBC

     

     

     

           

                แท็ก #พซอว นะคะ
               55555  มาลงให้สองตอนแล้วนะ อย่างที่สัญญา  วันปีใหม่นี้ก็ขอให้มีความสุขกันถ้วนหน้านะคะ สำหรับเรื่องนี้ก็ยังมาอัพให้นะ พรุ่งนี้สอบละ ขอกำลังใจหน่อยนะ <3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×