คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : p o i s o n i v y | 04
คยองซูหันหลังให้กับกระจกเงา ภาพที่สะท้อนกลับมามีเพียงแค่ชายหนุ่มร่างบางคนหนึ่งที่มีนัยน์ตาเศร้าสร้อย น่าสงสารเสียจนอยากจะเอื้อมมือไปเช็ดคราบน้ำตาให้ ...แต่ทำไม่ได้ นั่นคือสิ่งที่อยู่ในใจของเขา รู้สึกอ่อนล้า หมดแรง งุนงง ตอนนี้ขอแค่ใครซักคนยื่นมือเข้ามาก็พอ...
‘พี่ไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้นเลยครับ..’
เขาจำได้ดีว่าชานยอลมองเข้าผ่านกระจกบานนี้ด้วยสีหน้าแบบไหน การที่ใครซักคนหนึ่งจะคบกับใครซักคนหนึ่ง มันเป็นเรื่องที่ง่ายดายขนาดนี้เชียวหรือ ? แค่จบลงที่เตียง ตื่นขึ้นมาแล้วพูดว่าคบกันไหม ? ถามซักคำไหมว่าเขารู้สึกอย่างไร ?
ให้มันจบ ๆ ไปตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเสียดีกว่า... ความจำของคนมันอยู่ได้ไม่นานนัก ยังไงเขากับรุ่นพี่ชานยอลก็ไม่ได้มีอะไรเชื่อมโยงต่อกันมากซักเท่าไหร่ ปล่อยเวลาผ่านเลยไปเดี๋ยวก็ลืม ๆ ไปเอง....
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงประตูที่ดังขึ้นอย่างรัว ๆ เรียกให้คยองซูสะดุ้งตื่นจากภวังค์ ร่างบางกุลีกุจอเก็บข้าวของระเกะระกะที่วางกองอยู่บนพื้น รวมถึงกระเป๋าสตางค์ของผู้เป็นรุ่นพี่ที่วางลืมเอาไว้ รวบทั้งหมดขึ้นบนโต๊ะทำงานข้างเตียง ก่อนจะวิ่งไปเปิดประตูห้องเหมือนทุกครั้ง ด้วยเพราะรู้ว่าข้าวของเสียงเคาะถี่นั่นคือใคร..
“....ทำไมเปิดช้า”
แบคฮยอนถือวิสาสะก้าวเข้ามาทั้ง ๆ ที่เจ้าของห้องยังไม่ได้เชื้อเชิญด้วยซ้ำ ใบหน้านั้นบูดบึ้ง คิ้วหนาขมวดเป็นปมเมื่อเห็นร่างบางถอยห่างออกไป
“....ยังแต่งตัวไม่เสร็จน่ะ...” คยองซูตอบ ก่อนจะหมุนตัว เดินกลับไปหยิบเสื้อเชิ้ตในตู้ออกมา
“ว่าแล้วเชียวว่ายังไม่เสร็จ....เห็นไม่เปิดม่าน กำลังคิดอยู่ว่าจะไม่สบายรึเปล่า...”
น้ำเสียงแลฟังนุ่มลงกว่าเมื่อครู่เยอะ ร่างบางถอนหายใจที่แบคฮยอนไม่หงุดหงิดมากเหมือนทุกครั้งที่เขาแต่งตัวชักช้า ตากลมเหลือบมองแขกที่นั่งอยู่ปลายเตียง ไม่มีทีท่าว่าแบคฮยอนจะสนใจอะไรที่อยู่บนโต๊ะทำงานข้าง ๆ นั่น ก็เบาใจ จึงหันไปรีบแต่งตัวให้เสร็จ
แบคฮยอนนั่งแกว่งเท้าไปมาอยู่นาน ก่อนจะล้มตัวลงนอนราบกับเตียงนุ่ม กลิ่นหอมจาง ๆ ของน้ำยาปรับผ้านุ่มยี่ห้อที่คยองซูชอบใช้ลอยมาปะทะจมูก ริมฝีปากหนาจุดยิ้มที่มุมปาก คยองซูเป็นคนเนี้ยบ ๆ มีความรักสะอาดกว่าเขาที่เป็นเพื่อนอยู่มาก...
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...
ภาพมาหยุดอยู่ที่โต๊ะทำงานข้าง ๆ เตียงได้ยังไงก็ไม่รู้ แบคฮยอนนอนมองคยองซูที่เพิ่งเดินเข้าห้องน้ำไปเมื่อครู่ ก่อนจะกระเด้งตัวลุกขึ้นมา คว้ากระเป๋าสตางค์แปลกตาที่วางอยู่ล่างเศษกระดาษสองสามแผ่น เขาจะไม่เอะใจเลยถ้ามันถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ แต่นี่ผิดวิสัยของคยองซู...
เสียงเปิดประตูห้องน้ำทำให้แบคฮยอนก็เป็นอันต้องคืนกระเป๋าสตางค์นั้นกลับที่ก่อนจะได้เปิดดู หากแต่คยองซูเดินออกมาในระยะที่จะเห็นได้เสียก่อน เขาถึงจำใจต้องซ่อนมันเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงของตนเอง แล้วแสร้งทำเป็นหลับทันที ที่ร่างบางนั่นเดินมาประชิดตัว
“แบคฮยอน....”สัมผัสผะแผ่วสะกิดเรียกคนที่เผลอหลับ หวังให้ตื่นขึ้นจากนิทรา ร่างหนาที่นอนอยู่บนเตียงพลิกตัว ขยี้ตา แสร้งทำเป็นงุนง่วง เพื่อที่ว่าคยองซูจะได้ไม่สงสัยอะไรทั้งสิ้น
“...ตื่นเถอะ ไปม.กัน...”
“อืม...อย่าลืมหยิบผ้าพันคอพี่แทยอนไปด้วยล่ะจะได้เอาไปคืนให้...” คยองซูมองหน้าเขานิ่ง ก่อนจะหันไปหยิบผ้าพันคอที่พาดไว้ปลายเตียง “อย่าลืมของนายด้วยนะ....เดี๋ยวไม่สบาย”
“.....อืม...หน้าหนาวก็เป็นแบบนี้นั่นแหล่ะ....” ร่างบางจัดการพันผ้าพันคอของตัวเอง ก่อนจะหันมาพับของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนแบคฮยอนลงถุงกระดาษอย่างดี
“รู้แล้วก็อย่าลืม อย่าทำให้เป็นห่วงนักสิ....”พูดออกมาทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มองหน้า ร่างหนาลุกขึ้นจากที่นอนเดินนำไปยังประตูห้อง เป็นอันรู้กันว่าได้เวลาไปแล้ว
“คยองซู ....เร็ว ๆ”
เสียงแบคฮยอนเร่งหนัก คยองซูได้แต่หันหน้ากลับไปมองที่โต๊ะทำงานเป็นครั้งสุดท้าย... ก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าเดินตามออกไป.....
________________________________________________
“เมื่อคืนมึงไปนอนไหนมา..ทำไมกูโทรหาไม่ติด” อี้ฟานเอ่ยทักทันทีที่ประธานสโมฯก้าวเข้ามาถึงห้องงานกิจกรรม ร่างสูงที่ทิ้งตัวลงเก้าอี้บุนวม นอนฟุบอยู่บนโต๊ะซักพัก เงยหน้าตาปรือขึ้นมาหารุ่นพี่คนสนิท ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ
“พี่รู้จักคยองซูบ้างรึเปล่า...?”
“...อะไรของมึงเนี่ย...กูถามก็ตอบให้มันตรงคำถามหน่อย...”
“ผมนอนที่อื่นน่ะ...ว่าไงครับ รู้จักเขารึเปล่า ?”
อี้ฟาน ย่างสามขุมเข้ามาผลักหัวร่างสูงให้เอนไปอีกทาง ก่อนจะลากเก้าอี้พลาสติกมานั่งข้าง ๆ มือเท้ากับคางแล้วมองใบหน้าหล่อจัดที่แลดูโทรมจนหมดสภาพ ไม่ต้องสืบเลย ยังไงก็เพราะแทยอนล้านเปอร์เซ็นต์...
“ก็เด็กปีหนึ่งในสโมฯ...”
“ไม่ใช่...ผมหมายถึง...พี่รู้จัก...แบบสนิทกับเขาหรือเปล่า ?”
ร่างสูงตรงหน้าแลดูกระสับกระส่ายแปลก ๆ ในสายตาของเขาที่คบกับหมอนี่เป็นพี่เป็นน้องกันมาก็ตั้งหลายปี รู้ดีกว่าอาการแบบนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่ไม่ทันจะได้ถามว่ามีอะไร ไอ้เจ้าไคก็วิ่งถลาเข้ามาหาเสียก่อน
“พี่ ๆ ๆ.....อาจารย์ฝากมาถามเรื่องปิดงบ ...งานวิชาการอะ”
“อ้าว..กูให้มึงฝากคยองซูไปทำนี่...แล้วไหนอาจารย์มินจูแกบอกไม่รีบวะ?”
“ไม่รู้ดิ...มันยังไม่ได้ทำเลยมั้งน่ะ...อาจารย์แกดูเร่ง ๆ ด้วย...ซวยชะมัดเลยว่ะพี่” คิมจงอินถอนหายใจออกมา ในขณะที่ร่างสูงที่ฟุบอยู่บนโต๊ะหูผึ่ง เมื่อได้ยินชื่อที่เขาตามหา ชานยอลเงยหน้าขึ้นมา เม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะตัดสินใจถามออกไป...
“นาย...สนิทกับคยองซูงั้นหรอ ?”
________________________________________________
นานแล้วที่ปาร์คชานยอลไม่ได้ลงมือทำอะไรอย่างนี้...
งานเดินเอกสารเป็นที่รู้กันว่าเป็นหน้าที่ของเด็กปี 1 ในสโมสรฯ ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคนที่ดำรงตำแหน่งประธานอย่างเขาต้องมาวิ่งขึ้นวิ่งลงเดินเรื่องเอกสารเพื่อการของบ หรือแม้แต่ไปตามเหรัญญิกผู้ถือเอกสารสำคัญเอาไว้
ร่างสูงเดินขึ้นบันไดเป็นขั้นสุดท้าย เขามาถึงชั้นห้าพร้อมกับมือที่ชุ่มเหงื่อ ในใจก็นึกไปต่าง ๆ นานาว่าควรจะพูดยังไงกับเด็กคนนั้นดี... ควรจะพูดไหม ว่าเขาไม่มีเจตนาดูถูกอะไร และอยากจะถามออกไปว่าเพราะอะไรถึงได้ร้องไห้ออกมาแบบนั้น...
รองเท้าหนังสีดำกระทบทางเดิน เกิดเสียงเบา ๆ ไปตลอดทาง จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องเซ็คเรียนวิชาจิตวิทยาฯ ของปีหนึ่ง ชานยอลสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไป..
เอาเถอะ...เขาควรเคลียร์ให้รู้เรื่อง
“เอ่อ....ขออนุญาตครับ...”
เสียงเซ็งแซ่ดังแซ่ดขึ้นทันทีที่เขาปรากฏตัว เด็กนักเรียนกว่าร้อยคนพูดคุยจ้อแจ้ ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ยังเงียบกริบ อาจารย์ที่อยู่หน้าสไลด์พยักหน้าให้เขาเข้าไป
“ขออนุญาตเรียกรุ่นน้องไปซักครู่นะครับ”
ชานยอลกระซิบบอกพร้อมโค้งให้อาจารย์ตามมารยาท ก่อนจะก้าวอาด ๆ ไปหาเป้าหมายที่ตอนนี้ยังคงก้มหน้าก้มตาจดบางอย่างยุกยิกอย่างเร็วถึงสองเล่ม ในขณะที่คนที่เขาเกลียดขี้หน้านอนหลับอยู่ ข้าง ๆ
“คยองซู...ขอเวลาซักเดี๋ยว”
________________________________________________
คยองซูเดินตามหลังรุ่นพี่ที่ได้ชื่อว่าเป็นประธานสโมสรฯมาติด ๆ จนสุดทางเดิน ถึงหยุดอยู่หน้าประตูบันไดหนีไฟ ปีศาจที่ชื่อว่าความเงียบเริ่มปกคลุมพื้นที่รอบ ๆ ตัวเขาและร่างสูงอีกแล้ว รู้สึกเหมือนจะขาดหายใจทุกทีที่ต้องอยู่ในสภาพแบบนี้กับอีกฝ่าย
“เอ่อ....”
“อ๋อ...อาจารย์มินจูฝากมาถามเรื่องปิดงบ...โทษทีนะ ทั้ง ๆที่บอกว่าไม่ต้องรีบแท้ ๆ” มือใหญ่ยื่นเอกสารการปิดงบไปให้คนตรงหน้า คยองซูรับมันมา เปิดไล่อ่านตัวหนังสือบนกระดาษรีบ ๆ ก่อนจะปิดไว้เหมือนเดิม
“ต้องเสร็จภายในวันไหนครับ...”
“....มะรืนนี้ทันไหม?”
“ได้ครับ...งั้นผมจะรีบกลับไปทำให้....ถ้ายังไงไม่มีอะไรแล้ว...ผมขอตัวนะครับ” ไม่ล่ำลาอะไรใด ๆ ให้มากความ คยองซูหมุนตัวกลับหลังทันทีที่พูดจบ เตรียมจะเดินออกไปจากตรงนี้แล้วแท้ ๆ แต่มือใหญ่กลับดึงศอกของเขา รั้งเอาไว้...
“เดี๋ยวสิ....”
คยองซูรู้สึกร้อนที่หน้าจนชาไปหมด ไม่รู้แล้วว่าควรทำหน้ายังไง เห็นพี่ชานยอลทีไร ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจคิดลามก แต่ก็ดันเผลอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขาสองคนทุกที
ชานยอลทอดมองคนที่อยู่ต่ำกว่าตัวเองนิ่ง การที่เขาเรียกคยองซูออกมาเพื่องานสโมฯ นั่นจะว่าเป็นเหตุผลรองก็ได้ เพราะเหตุผลหลักจริง ๆ แล้ว.... เขาอยากจะเคลียร์เรื่องที่ติดค้างในใจกันมากกว่า
แต่ก็นึกอะไรไม่ออก...ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี...
“.....เอ่อ...กระเป๋าสตางค์...ไม่รู้ว่าฉันลืมไว้ที่ห้องนายรึเปล่า...”
ชานยอลเกาหัวแกรก ๆ ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ก็คงต้องวนนอกเรื่องมาก่อน แล้วค่อยเข้าในเรื่องแบบนั้น แต่ไม่ทันที่จะได้ถามอะไรมากกว่านั้น กระเป๋าสตางค์อันที่คุ้นเคยก็ถูกยื่นมาตรงหน้า...
พร้อมกับคนที่เขาไม่อยากเห็นหน้ามากที่สุด...
“กระเป๋าสตางค์อันนี้....ของรุ่นพี่สินะครับ...?”
บยอน แบคฮยอน....
________________________________________________
TBC
แท็ก #พซอว นะคะ
แบคฮยอนเห็นแบบนี้ มือไวใจเร็วมากนะคะ แพล่บๆก็เอากระเป๋าตังชาวบ้านเก็บติดมือมาซะแล้ว มาลุ้นกันตอนหน้านะ ว่าเปลือกทุเรียนที่แม่ยกน้องคยองเตรียมมาจะได้ใช้ไหม 555
ความคิดเห็น