คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : p o i s o n i v y | 02
คยองซูปลอบใจตัวเองว่าวันนี้ไม่ได้เป็นวันซวยของเขาเลย แค่โชคร้ายนิด ๆ หน่อย ๆ ที่เจอแจ็คพอตแตก แล้วไม่รู้จะโยนภาระไปให้ใครได้ก็เท่านั้นแหล่ะ คิดในแง่ดีนะ จะมีซักกี่คนที่ได้เห็นสภาพมอซอของรุ่นพี่ที่ได้ชื่อว่าป็อบปูล่าที่สุดในมหาลัยล่ะ
ช่างเป็นโชคดี ที่ไม่น่ายินดีซักเท่าไหร่...
“พี่ครับ...เดินดี ๆ หน่อย”
คยองซูกระซิบเบา ๆไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเข้าใจคำพูดนี้แค่ไหนกัน เพราะร่างสูงที่ถูกเขาหิ้วปีกโซไป เซมา ทำท่าเหมือนจะยืนตรงได้พักเดียว ก็หน้าคะมำลงไปอีก ปากก็พูดแต่ว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร สะบัดมือไปมา ยิ่งทำให้การพารุ่นพี่ขึ้นรถ ลำบากมากยิ่งขึ้นอีกเท่าตัว
“พี่ครับ...คอนโดพี่อยู่ที่ไหนครับ”
“คอน....โด....เดอ....เกรท.....อึก...”
“ไหวไหมครับ?...”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” รุ่นพี่พูดเบา ๆ เหมือนจะพึมพำอยู่กับตัวเองอย่างนั้น จนเขาโบกมือเรียกรถแท็กซี่สำเร็จนั่นแหล่ะ ถึงหยุดพูดได้
“......................”
คยองซูพยุงแขนคนเมา มือข้างที่ว่างก็กดหัวทุยนั่นเอาไว้ เป็นกำบังไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บจากการที่รุ่นพี่เอาหัวโหม่งคานประตูรถ ก่อนจะกดไหล่หนาลงให้นั่งดี ๆ
“คอนโดเดอะเกรทครับ...” ยื่นหัวเข้าไปบอกโชเฟอร์เบา ๆ ก่อนจะหันกลับมามองเจ้าของคอนโดที่เขาเพิ่งเอ่ยออกไป สภาพเมามายของชานยอลตอนนี้ทำให้เขาไม่แน่ใจนัก ว่าร่างสูงจะสามารถถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย แต่ก็เถอะ ตอนนี้สภาพเขาก็ไม่ใช่ว่าจะดีไปกว่ากันซักเท่าไหร่ เพราะลืมผ้าพันคอแท้ ๆไอ้อาการไข้หวัดก็เหมือนจะกลับมาถามหาอีก ร้อน ๆหนาว ๆ ชอบกล..
“พี่ครับ—นี่ค่าแท็กซี่ ไม่ต้องทอนนะครับ แต่รบกวนพาเขาขึ้นไปนอนบนห้องที”
ยื่นเงินในมือ ที่กำเอาไว้จนเหงื่อโชกตั้งแต่ได้รับมาจากพี่อี้ฟาน โชเฟอร์เลิกคิ้วทันทีหลังจากที่เขาพูดจบ ...ใช่ นั่นแหล่ะคำพูดสั่งเสียของพี่อี้ฟาน ก่อนจะกลับเข้าไปกินเหล้าในร้านต่อ คยองซูก้มลงยกเท้าของร่างสูง ที่เกินออกมาจากประตูรถ ให้กลับเข้าไป ก่อนจะผลักประตูให้ปิดลง ...
เป็นอันว่าเสร็จภารกิจสมบูรณ์
รถแท็กซี่เคลื่อนตัวไปจนสุดสายตา เด็กหนุ่มจดจำเลขทะเบียนเอาไว้เผื่อว่ามีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะหมุนตัวกลับออกมานั่งที่เก้าอี้ตัวยาว ที่ก่อนหน้านี้เขาแก่วรอรถแท็กซี่ ที่นาน ๆจะผ่านมาซักคัน
เห็นสภาพรุ่นพี่แล้ว ก็นึกสลดในใจ ทำไมคยองซูจะไม่รู้ว่าต้นเหตุที่ทำให้ร่างสูงนั่นย่ำแย่ได้ขนาดนี้เป็นเพราะอะไร มันคือเหตุผลเดียวกัน ที่ทำให้อยู่ดี ๆเขาก็นึกอยากดื่มขึ้นมา ภาพคนสองคนรักกันมันยังติดตาอยู่จนถึงตอนนี้ รอยยิ้ม เสียงหวานของพี่แทยอนหรือแม้แต่ความมีน้ำใจที่ส่งมาถึงเขานั่น...
ทำให้รู้สึกแย่ชะมัด...
ริมฝีปากบางพ่นลมออกมา เพียงแค่เบา ๆ เท่านั้นก็จับตัวรวมกับอากาศเย็นกลายเป็นหมอกจางอยู่ตรงหน้า รู้สึกเจ็บที่ลำคอแปลก ๆ จึงกระชับผ้าพันคอที่ได้จากพี่แทยอนให้แน่นยิ่งกว่าเดิมเพื่อให้รู้สึกอบอุ่นขึ้น ก่อนจะเหม่อมองถนนสายหลัก หวังว่าในอีกไม่กี่นาที จะมีแท็กซี่ผ่านมาซักคัน พาเขากลับบ้านไปหาเตียงนุ่ม ๆ ที่หอ...
แต่ไม่ทันทีจะได้หย่อนตัวลงนั่งกับเก้าอี้ แสงไฟจ้าจากอะไรบางอย่างก็สาดมาที่ตา ร่างบางเงยหน้าขึ้นมอง ต้นแสงมาจากแท็กซี่ที่เขาเพิ่งส่งร่างสูงขึ้นไปเมื่อกี้ค่อย ๆ เคลื่อนตัวกลับมาทางเขาช้า ๆ ก่อนกระจกด้านคนขับจะเลื่อนลงมาเผยให้เห็นสีหน้าหงุดหงิดของโชเฟอร์...
“คุณครับ ! เพื่อนคุณอ้วกเต็มไปหมดรถผมเลย..”
________________________________
“อะไรนะ ! มึงคบกับยัยนั่นจริง ๆ น่ะหรอ !”
เสียงห้วนดังจากปากของคนที่แบคฮยอนนับถือว่าเป็นรุ่นพี่ที่สนิทที่สุด ชายหนุ่มพยักหน้ารัว ๆ เป็นคำตอบ ก่อนคีบมวนบุหรี่ขึ้นจ่อปาก สูดควันรสมิ้นท์ฉุนกึกเข้าปอดแรง ๆ แล้วพ่นออกมาทางจมูก ยักไหล่ให้อีกคนราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรนัก
“พี่จะตกใจอะไรกันนักกันหนา...หืม ?” ถามขณะมือก็ยังคนน้ำแข็งในแก้วเหล้าไปด้วย แบคฮยอนยกขึ้นดื่มกรีนเลเบิ้ลในมือรวดเดียวหมด ก่อนจะหันมายักคิ้วให้กับคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“จิตใจมึงนี่ทำด้วยอะไรวะ...ยังมีหน้ามาถามอีกว่ากูตกใจอะไร..มึงนี่ช่างกล้า ! รู้ทั้งรู้ว่าคยองซูมันชอบมึง แล้วยังหน้าทนพาแฟนตัวไปเจอเขาอีก...มึงทำไปเพื่อ ?!”
ลู่หาน หรือ รุ่นพี่คนสนิทถึงกับอึ้งในตรรกะของไอ้รุ่นน้อง ไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อยว่ามันต้องการอะไรจากสังคม แต่ตอนนี้รู้มาหนึ่งอย่างแล้ว ...ว่าที่มันนัดเขามากินเหล้าก็เพื่อจะบอกเรื่องนี้นั่นเอง
“ก็พี่บอกว่าทำยังไงก็ได้ไม่ใช่หรอ ? ...ก็วิธีนี้แหล่ะ เขาจะได้ไม่ต้องมายึดติดกับผม”
“เวรเอ้ย...กูไม่ได้หมายความแบบนี้เลย...” ลู่หานถอนหายใจ ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบให้หายคอแห้งบ้าง “แล้วไอ้เกมส์ลองใจบ้า ๆ ของมึง ไปทำตัวติดกับเขาตลอดเวลา กินข้าวทุกเย็นเนี่ย มึงทำเพื่ออะไรของมึงกัน”
ร่างโปร่งผู้เป็นรุ่นพี่ส่ายหน้ารัว แบคฮยอนหัวเราะออกมาเบา ๆ ยิ้มแบบที่คนอื่นเห็นแล้วต้องใจละลาย แต่กับลู่หาน เขารู้สึกเหมือนกับว่าได้เห็นรอยยิ้มของจิ้งจอกชัด ๆ
“อันนั้นทำตามใจตัวเอง...ก็คนมันเหงา”
“ไอ้น้องเวรนี่..กูเหนื่อยละ จะถามเป็นคำถามสุดท้าย ..กับแทยอนเนี่ยเป็นยังไง ?”
“.ก็..เป็นของ ๆ คนอื่น...” แบคฮยอนควันกลิ่นมิ้นท์เข้าปอดอีกครั้ง ดวงตาเรียวหรี่ลงเผยให้เห็นแววตาเจ้าเล่ห์ ก่อนริมฝีปากจะยกยิ้มบางเบา....
“........”
“............”
“ของปาร์ค ชานยอล”
__________________________________________
ร่างบางหอบพยุงร่างสูงที่แสนจะหนักอึ้งมานอนบนเตียงได้สำเร็จ มือบางเท้าสะเอว ยืนมองคนเมาที่หลับไหลไม่ได้สติ ก่อนจะตัดสินใจก้มลงไปปลดกระตุมเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายสีขาวของอีกฝ่าย คยองซูพยายามกลั้นหายใจไม่ให้เผลอดมกลิ่นอาเจียนของชานยอลในขณะที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แต่ก็กลั้นไม่ไหว เผลอดมเข้าไปครั้งนึง...
...จะไหวไหมเนี่ย.. รู้สึกเหมือนตัวเองก็จะตายอยู่แล้วยังต้องมาช่วยคนอื่นอีก แต่เอาเถอะ ไหน ๆ ก็เป็นคนดีแล้ว เป็นให้ตลอดรอดฝั่งจะเป็นไรไป
มือบางวางกะละมังที่บรรจุน้ำอุ่น กับผ้าผืนเล็ก ๆ ไว้บนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะค่อย ๆ ลากนิ้วเกลี่ยผมที่ปรกใบหน้าของอีกฝ่ายให้พ้นตา แล้วบิดผ้าให้หมาดน้ำ เช็ดทั่วใบหน้าและลำคอของร่างสูงอย่างเบามือ
ชานยอลรู้สึกได้ถึงสัมผัสอ้อยอิ่ง ที่ลากจากใบหน้าผ่านลำคอของเขาอย่างช้า ๆ เขาที่กำลังสะลึมสะลือกระพริบตาถี่ ๆ ความอ่อนโยนของมือบางที่กำลังจะจากเขาไป เรียกให้รั้งมือนั้นเอาไว้ทันที
“คิม แทยอน....” ชานยอลมั่นใจว่าใช่แน่ เขาได้กลิ่นโคโรจน์ที่คุ้นเคยจากคนที่คุ้นเคย กลิ่นหอมอ่อน ๆ นั้น....เขาจำได้ดี
คยองซูสะดุ้งโหยงทันทีที่มือนั้นคว้าหมับ พยายามขืนข้อมือออกเท่าไหร่ มือใหญ่นั้นกลับยิ่งกำแน่น ริมฝีปากหนาก็พึมพำอะไรบางอย่างเบา ๆ เบาเสียจนฟังไม่ได้ศัพท์ แล้วก็ปล่อยเขาให้เป็นอิสระหลังจากได้ยินร่างสูงเรียก แทยอน อยู่สองสามครั้ง...
เขาแค่ละเมอ...คยองซูคิด ร่าบางลุกออกจากตรงนั้น ยกกะละมังไปกับตัวด้วย ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอน กินยายคลายกล้ามเนื้อ กับแก้ไข้ดักไว้ แล้วล้มตัวลงนอนอีกข้างของเตียงที่ยังว่างไปในที่สุด...
_________________________________
ม่านสีน้ำเงินสะบัดพลิ้วเมื่อหน้าต่างบานหนาถูกเปิดออก เพื่อรับลมเย็น เจ้าของห้องสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปอ้อยอิ่ง ราวกับจะซึมซับกลิ่นอายของความเงียบสงบเอาไว้ ดวงตาคมทอดมองออกไปยังโลกภายนอก จนไปหยุดอยู่ที่ตึกสูงที่เยื้องจากคอนโดของเขาออกไปด้านขวา สองแถวเท่านั้น...
ไฟในห้องที่เปิดอยู่ทำให้ร่างหนาทึกทักเอาเองว่าเจ้าของห้องยังไม่หลับ แบคฮยอนขมวดคิ้วน้อย ๆ ชั่งใจว่าควรจะโทรไปดีไหม...
ควรสิ...ควรจะโทรไปต่อว่าซักหน่อย เดี๋ยวนี้สนิทกับไอ้จงอินอะไรนั่นมากเหลือเกิน ไม่รู้ว่าสนิทกันจนลืมเพื่อนเก่าเพื่อนแก่อย่างเขาไปรึยังไง ถึงยอมไปกินเลี้ยงที่ร้านเหล้า ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่ใช่คนชอบสังสรรค์อะไรขนาดนั้น...
นึกแล้วหงุดหงิดชะมัด...
___________________________________
Rrrrrr Rrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ที่กรีดร้องลั่น คงจะทำให้คยองซูรู้สึกกระตือรือร้นกว่านี้ ถ้าเขาไม่ได้กำลังรู้สึกหนักอึ้งอยู่ในหัว ร่างบางค่อย ๆ สะลึมสะลือขึ้นมามองต้นเสียงที่เหวี่ยงไว้บนโซฟา ก่อนจะลุกขึ้นไปเพื่อตัดสาย
ทว่าไม่ทันที่จะได้กดรับสายใด ๆ ทั้งสิ้น ปลายสายก็กดตัดสายซะอย่างนั้น เหมือนสวรรค์จะกลั่นแกล้ง หากเขาสบายดีกว่านี้คงไม่ต้องเพ้อไปใหญ่ เพราะได้เห็นเบอร์ที่โชว์หราบนหน้าจอ คน ๆ เดียวที่คิดถึงอยู่ทุกเวลา แม้หลับหรือตื่น
‘แบคฮยอน’
ยิ่งได้เห็นเบอร์ที่โชว์ยิ่งคิดถึง อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะรอให้ได้ยินเสียงกันบ้าง ถึงจะไม่รู้ว่าโทรมาทำไมก็เถอะ...
อาการเพ้อเพราะพิษไข้ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เมื่อคยองซูได้ยินเสียงเรียกชื่อเขาดังแว่ว หากแต่สุ้มเสียงนั้นช่างอ่อนโยนเหลือเกิน ยิ่งฟังก็เหมือนจะยิ่งดังเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ราวกับได้ยินแบคฮยอนมากระซิบเรียกเขาอยู่ข้าง ๆ หูอย่างไงอย่างนั้น
“คยองซู....”
“คยองซู..ฉันคิดถึงนาย”
หรืออาจจะเป็นเพราะฉันคิดถึงนายมากเกินไปใช่ไหม...แบคฮยอน ?
คยองซูเดินเซกลับไปที่เตียงนุ่ม ล้มตัวลงนอน และฝัน..
ฝันดีที่สุดเท่าที่เคยฝัน....
______________________________________________
“ชานยอล.....”
“ชานยอล...”
เสียงเรียกดังจากค่อย ๆ เป็นชัดเจนในความรู้สึก ร่างสูงรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่คุ้นเคย ร่างที่เขาเคยโอบกอดเอาไว้ หรือแม้แต่กลิ่นโคโลนจ์ที่เขาเคยซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดคนรักก็ยังจำได้ดี
ถ้านี่คือฝัน เขาคงฝันดี...
ภาพหญิงสาวตรงหน้าฉายชัดเสียจนเขาไม่กล้าเดินเขาไปใกล้ กลัว...กลัวว่าหากใกล้มากไปกว่านี้ คนตรงหน้าอาจแหลกสลายเป็นผลุยผงก็เป็นได้...
เพราะงั้นขอฝันต่อ...อีกนาทีเดียวก็ยังดี
เขายังไม่อยากตื่น อยากหลับอยู่อย่างนี้
ขอแค่มีแทยอนอยู่ใกล้ ๆ
ร่างทั้งสองบนเตียงต่างฝันดีกันไปคนละแบบ หากทั้งคู่ไม่รู้หรอกว่ากำลังแลกความอบอุ่นกันแบบไหน ชานยอลกระหวัดร่างบางที่อุ่นร้อนไปด้วยพิษไข้เข้ามาโอบกอดเอาไว้แน่น ส่วนคยองซูก็หนุนแขนอุ่นของอีกคนซุกเข้าหาอกแกร่ง ทำลายความหนาวเย็นของร่างกายที่เกิดจากพิษไข้
ยิ่งแนบชิดกันยิ่งขึ้น....
ปาร์คชานยอลทาบผิวแก้มนวลเนียนของคนด้านล่างด้วยใบหน้าตัวเองอย่างแผ่วเบา ลากผ่านริมฝีปากของอีกฝ่ายไปอย่างอ้อยอิ่ง อยากเก็บกักความรู้สึก สัมผัสนี้ไว้ แม้จะรู้ว่าอยู่ในฝันก็ตาม ทว่าปลอบใจตัวเองเหมือนทุกครั้ง ว่านี่คือฝันดี ...
ฝันที่มีผู้หญิงที่เขารัก..
“คยองซู”
เสียงกระซิบดังแผ่วข้างกกหู ความรู้สึกดีแผ่ซ่านไปทั่วราวกับมีผีเสื้อนับพัน ๆ ตัวบินวนอยู่ในท้อง วูบหวาม มึนงงไปด้วยรสจูบดั่งไอศกรีมวนิลา รสละมุน อ่อนหวานเกินจะบรรยาย กดจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยามที่เขาจะลืมตามองคนที่คร่อมอยู่ด้านบนก็ถูกปิดตา รั้งไว้ด้วยจุมพิต ราวกับแบคฮยอนในฝันของเขาจะบอกว่า
‘หลับตาซะ อยู่ด้วยกันในฝันนี่’
มือบางโอบกระชับใบหน้า โน้มลำคอหนาให้ลงมาใกล้ชิดมากขึ้นกว่าเดิม เผยออกแนบอก ปะป่ายผิวเนื้อร้อนราวต้องไฟของคนร่างสูง กกกอดเอาไว้แน่น น้ำตาที่เกิดจากความเศร้าปนยินดีไหลลงมา
คยองซูไม่รู้อะไรแล้ว ตอนนี้...รู้เพียงแต่ว่า เขาอยากจะมีแบคฮยอนในฝันให้นานที่สุด
“แทยอน...ผมรักคุณ”
“แบคฮยอน...ฉันรัก...นาย”
เอ่ยเอื้อนคำหวานให้กับคนที่โหยหา เวลานี้รู้ทั้งรู้ว่าเป็นแค่จินตนาการ พูดได้ก็เพียงแค่ในฝัน แค่ในฝันเท่านั้นที่จะแสดงออกไปได้... ว่า “รัก” เหลือเกิน
ริมฝีปากที่ยังคงพึมพำคำรักอยู่ร่ำ ค่อย ๆ บรรจงมอบรอยสีกุหลาบบนลำคอขาว กลิ่นกายหอมหวานยิ่งชักพาให้อยากลิ้มรสรัก ยิ่งอยากสัมผัสมากขึ้น... มากขึ้นอีก.. จมูกโด่งจรดกับหน้าผากของคนด้านล่าง กดจูบลงอย่างหวงแหน
บดเบียดร่างกายเข้าหากันอย่างอ้อยอิ่ง ริมฝีปากหนากดจูบเบาที่หน้าท้องของร่างบางลากจูบมาเรื่อย มือก็พาปลดปล่อยความอัดอั้น ดำดิ่งสู่ห้วงอารมณ์วาบหวาม
คยองซูขืนตัวเล็กน้อย ร้อน...ร้อนเหลือเกิน แต่ถึงอยากนั้นกลับยิ่งแนบกายให้ชิดมากยิ่งขึ้น ยามที่ลำตัวหนานั่นค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาในร่างกายของเขา แม้จะร้อนจนแทบทนไม่ไหว กลับยิ่งพาให้หัวใจพองโต ....
“อย่าไปไหน...อีกเลยนะ”
ชานยอลคว้าศีรษะเล็กมากอดเอาไว้ ซุกใบหน้าของตนลงบนไหล่ลาด กระซิบเบา ๆ ให้ได้ยินแค่สองคนเท่านั้น ทว่าสำหรับคยองซู...เขาได้ยินมันดังชัด ก้องในใจ...
ได้ยินแบคฮยอนบอกว่าย่าไปไหน...อย่าไป
ไม่ไป...ไม่อยากไปไหนอีกแล้ว
________________________________________________
TBC
แท็ก #พซอว นะคะ
หึ....หมั่นหน้าพี่แบคกันถ้วนหน้า
ความคิดเห็น