คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : - { B I G B O S S } ★ 01 ; ของๆมาเฟีย ยังไงก็เป็นของๆมาเฟีย
“ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!”
เสียงตะโกนโหวกเหวกดังสะท้อนไปทั่วทั้งชั้นแปดของคอนโดที่ได้ชื่อว่าแพงหูฉี่แห่งนึงในย่านกังนัม ไม่ต้องสงสัยเลย ใครฟังดูก็รู้ว่านี่มันคดีผัวเมียทะเลาะกันชัดๆ มันก็เรื่องปกติของคนรักกันนั่นล่ะ ลิ้นกับฟันมันของคู่กันยังไงก็ต้องได้กระทบกันบ้าง แต่จะมันประหลาดกว่าเหตุการณ์ปกติก็ตรง ‘อารมณ์’ ของคนที่กำลังออกปากไล่นั่นล่ะ มันดูเหมือนกับจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายคามือได้เลยเดี๋ยวนั้น
“โอ้ย เดี๋ยว คยองซู ใจร่มๆนะ อย่าปาข้าวของเลยนะ ใจร่มๆ”
“ไอ้ดำปากเป็ด ไอ้สารเลว”
ร่างโปร่งในชุดเสื้อยืดกับบ็อกเซอร์กรังๆวิ่งหลบแจกันออกมาจากประตูได้อย่างหวุดหวิด แต่ยังไม่หมดเท่านั้น พอคนตัวคล้ำตีลังกาหมุนไปล้มลุกคลุกคลานอยู่หน้าห้อง ร่างเล็กที่กำลังเสียสติก็วิ่งถือลำโพงสเตอร์ดิโอโคตรเพชรทำท่าจะทุ่มตามหลังมาทันที
“ที่รักจ๋า...อย่า อย่าปาอันนั้น มันแพ๊ง!!! อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก” จงอินกรีดร้องเมื่อคยองซูแฟนคนปัจจุบันของเขาทุ่มลูกรักลงพื้นตรงหน้าอย่างไม่ใยดี นี่คยองซูยังผ่อนให้เขาไม่หมดเลยนะ ยังผ่อนไม่หมดเลย จะโกรธจะโมโหกันทำไมต้องลงกับข้าวของแพงๆที่ซื้อให้เขาด้วย!!!
“รักแบคฮยอนมากใช่ไหม รักมากก็กลับไปหามันเลย ไป!” คยองซูตวาดเสียงสั่น ก็รู้หรอกนะว่าไอ้จงอินมันโคตรเจ้าชู้ประตูดิน ไอ้เรื่องจะไปมีกิ๊กมีกั๊กที่ไหนเขารับได้หมด แต่ต้องไม่ใช่บ่นคิดถึงน้ำพริกถ้วยเก่าอย่างบยอนแบคฮยอนคนนั้นทั้งเช้าทั้งเย็น! ล่าสุดตอนมันนอนกับเขา ก็ยังละเมอหาไอ้บ้านั่น
แบบนี้มันต้องตาย ต้องตายเท่านั้น!
คนอย่างคยองซู ฆ่าได้ แต่หยามไม่ได้! จำเอาไว้!
คิมจงอินไม่มีแม้แต่เวลาจะตั้งตัวด้วยซ้ำ พอหน้าแทนๆเงยมาจะคลานเข่าเข้าไปกอดขาแฟนคนปัจจุบันที่กำลังโมโห ของในมือคยองซูที่ดูเหมือนจะเป็นรีโมททีวีก็ลอยละลิ่วมากระแทกหน้าเขาอย่างจัง....
“โอ้ย!!!”
คิมจงอิน Has left the game.
BIG BOSS | ボス
ONE | ของๆมาเฟีย ยังไงก็เป็นของๆมาเฟีย
“กินให้ตาย ไม่ตายอย่ากิน!!”
เสียงจังหวะเพลงแด๊นซ์ยังสู้เสียงตะโกนของคนที่ยืนชูขวดเบียร์อยู่กลางฟลอร์ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ร่างโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยืนส์ตัวเก่ง ฉีดน้ำหอมพร้อมไปด้วยฟีโรโมนตอนนี้กำลังเต้นท่าปลาโลมาหาคู่เด้งไปรอบๆตัวสาวๆหนุ่มๆหน้าสวยที่กำลังเมามันส์กับดีเจบนเวที ถึงไม่บอกก็รู้ว่าหมอนี่เพิ่งจะเลิกกับแฟนมาหมาดๆ อาการที่แสดงมาแต่ละฉากนี่มันสำหรับคืนฉลองคนโสดเลยแท้ๆ
“ว้าย...อย่าเข้าไปใกล้นะ คนบ้าหรือเปล่าก็ไม่รู้”
คิมจงอินขมวดคิ้วทันทีที่เพื่อนของสาวสวยที่เขากำลังส่งยิ้มให้วิ่งเข้ามาดึงแขนเธอให้ออกห่างจากตัวเอง ร่างโปร่งยืนงงๆท่ามกลางเสียงเฮของผู้คนที่หันไปให้ความสนใจกับดีเจคนใหม่ ยืนมึนอยู่ซักพักแสงไฟวิบวับที่วิ่งพล่านไปทั่วทั่งผับก็กลายเป็นสีชมพูโทนม่วงอ่อนๆ ผู้คนรอบข้างค่อยๆหันไปเข้าคู่ของตัวเองเมื่อเพลงแด๊นซ์กลายเป็นทำนองหวานซึ้ง รู้ตัวอีกทีจงอินก็ยืนโดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางสมรภูมิเพื่อการสืบพันธุ์ของมนุษย์หญิงชายหลายๆคนไปเสียแล้ว....
“น้อง เอาอีกขวด”
ยืนก็แทบจะไม่ไหวแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ยังลากสังขารตัวเองกลับมาที่บาร์จนได้ ร่างโปร่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะทันทีที่ย้ายก้นขึ้นมาสัมผัสกับเก้าอี้ตัวสูง แขนยาวปัดป่ายไปทั่ว ปากก็ร้องแต่ว่าอยากได้แอลกอฮอล์มาใส่ปากตัวเองอีก โวยวายซะจนคนแถวๆนั้นพากันถอยห่างไปหมด
“น้องงงงงงง”
“น้องครับเอาให้เขาขวดนึง”
เสียงพูดเนิบๆแทรกขึ้นเมื่อเห็นว่าคนร่างโปร่งตะโกนดังกว่าเดิม กลิ่นน้ำหอมคุ้นจมูกทำให้จงอินเงยหน้าขึ้นจากบาร์ที่ตนฟุบอยู่ ใบหน้าเลือนรางในความทรงจำเด่นชัดขึ้นมาอีกครั้ง บางทีเขาอาจจะกำลังฝันอยู่ก็ได้ ถึงได้เห็นภาพหลอนของแบคฮยอนมานั่งยิ้มอยู่ข้างๆ แบบนี้
“ไง”
“.....แบคฮยอน”
จงอินแค่ครางเบาๆเขาไม่ได้เอ่ยทักทายตอบ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปแตะเบาๆที่แก้มของคนข้างๆ รอยยิ้มนั้นไม่ได้จางหายไปแม้เขาจะกำลังออกแรงหยิกเนื้อเนียนของอีกฝ่าย อ่า...คงฝันอยู่จริงๆสินะ
“เมาหนักเลยนะจงอิน”
เขาฟุบลงไปอีกครั้ง ไม่อยากให้แบคฮยอนหายไปจากความฝันตอนนี้หรอก เพราะงั้นถึงได้กำลังพยายามตั้งสติให้ดี อย่าเมาสิวะจงอิน อย่ามึน ลุกขึ้นมา ลุกขึ้นมาบอกแบคฮยอนว่าโคตรคิดถึงแค่ไหน...
“จงอิน....” มือเล็กเขย่าหัวไหล่เจ้าของชื่อจนหัวกลมๆนั่นโงนเงนไปตามแง แต่คนถูกเรียกก็ใช่จะตื่น จงอินยังคงจมอยู่กับความฝันของตัวเอง และคิดว่าเขาเป็นภาพที่ตาสร้างขึ้นอยู่อย่างนั้น
แบคฮยอนถอนหายใจออกมาเบาๆ อันที่จริงเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาเจอจงอินเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ว่าโชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรอยู่กันแน่ ถึงได้ส่งหมอนี่มาในวันครบรอบ 1 เดือนของเขากับแฟนใหม่....
ใช่ บยอน แบคฮยอนนัดพบกับ‘แฟนใหม่’ ที่บาร์แห่งนี้เพื่อฉลองด้วยกัน
ไม่ได้มาเพื่อเจอคิมจงอิน ‘แฟนเก่า’ ที่เมาหยำเป๋แบบนี้
ทั้งๆที่กำลังจะลืมได้แล้วเชียว...
“คิดถึงแบคฮยอน....ฉันคิดถึงนาย”
จงอินไม่ได้ตอบคำถามที่ภาพสมมติของแบคฮยอนถาม เขากระเด้งตัวขึ้นมาขยี้ตาแทน ร่างโปร่งออกแรงดันบาร์ที่อยู่ตรงหน้า หมุนตัวเองให้ตรงกับแบคฮยอนที่กำลังนั่งส่งยิ้มให้กับเขา
“ฉันคิดถึงแบคฮยอน....คิดถึงมาก....ฉันผิดเอง ฉันแย่ ฉันนอกใจแบคฮยอน ฉันขอโทษ”
คำพูดมากมายที่ไม่ได้บอกตอนเลิกกันพรั่งพรูออกมาจากปากจนหมด จงอินเอื้อมมือไปกุมมือบางนั่นไว้ นึกไปถึงตอนที่เลิกกันก็เป็นเขาเองที่เลวระยำ เขานอกใจแบคฮยอนทั้งๆที่อีกฝ่ายยอมเขาทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็เป็นเขาเองที่โผไปหาคนอื่น....
ตั้งแต่นั้นมาจนถึงตอนนี้ที่เขาคบกับคยองซูมาระยะหนึ่ง เขาถึงได้รู้ว่าตัวเองคิดถึงใคร ชอบใครมากที่สุด ซึ่งคำตอบก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนที่หัวใจบอกว่าใช่ก็คือแบคฮยอนที่กำลังนั่งยิ้มอยู่ตรงหน้าเขานั่นแหละ พอรู้ตัวอีกทีก็สายไปซะแล้วสินะ อีกเดี๋ยวแบคฮยอนก็จะสลายไปแล้ว เหมือนกับเวลาที่เขาชอบฝัน เพราะเอาแต่คิดถึงเรื่องของแบคฮยอนนั่นล่ะ
“จงอิน เมามากแล้วนะ พอได้แล้วมั้ง”
จงอินส่ายหัวให้กับภาพสมมติที่กำลังเอื้อมมือมาแย่งขวดเบียร์ไปจากมือเขา และก่อนอีกฝ่ายจะทันรู้ตัว เขาก็ฉกจมูกลงบนแก้มเนียนใสของอีกฝ่ายซะแล้ว คนในจินตนาการไม่ได้ตอบโต้อะไร แบคฮยอนแค่เบี่ยงตัวออกจากอ้อมกอดเท่านั้น แต่นั่นก็มากพอแล้วที่จะทำให้เขารู้สึกโหวงๆในใจ
“ขนาด...ในฝัน...ยังไม่อยากให้กอดเลยหรอ แบคฮยอน”
จงอินว่าเสียงเศร้า สาบานได้ว่าตั้งแต่คบกันมาแบคฮยอนไม่เคยเห็นจงอินที่เป็นแบบนี้ จะว่ายังไงดีล่ะ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะกำลังสำนึกผิดกับสิ่งที่เคยทำไว้กับเขาขึ้นมาจริงๆ ทั้งๆที่คนอย่างจงอินไม่เคยยอมรับความผิดของตัวเองง่ายๆ ต้องรอให้จวนตัวก่อนทุกทีถึงจะยอมเออออแล้วขอโทษตาม
แต่จะบอกอะไรให้อย่างนะจงอิน...มาเสียใจตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วล่ะ...
ถึงจะเคยชอบมาก ชอบถึงขนาดยอมไม่เป็นตัวของตัวเองเพื่อคนๆนี้ แต่นั่นมันก็แค่อดีต วันนี้เขาเริ่มต้นใหม่แล้ว บยอน แบคฮยอนได้เจอกับคนที่เข้าใจ และชอบอะไรเหมือนๆกันแล้ว...
Rrrr Rrrrrr
พูดถึงก็โทรมาเลย
มือบางปัดมือของจงอินออกจากการเกาะกุม แบคฮยอนหมุนตัวออกไปหลบมุม หาที่ที่เสียงเพลงจะดังเข้ามารบกวนเสียงของปลายสายน้อยที่สุด ก่อนจะกดรับสายแล้วกรอกเสียงลงไป
“เซฮุน” แบคฮยอนพูดทั้งที่ตาก็ยังคงจับภาพของแฟนเก่าที่กำลังนั่งกอดขวดเบียร์พึมพำอยู่คนเดียว
[“อยู่ที่ไหน”] ปลายสายว่าเสียงเรียบ โทรมาก่อนแบบนี้ถ้าให้ทายน่าจะกำลังติดธุระ
“รออยู่ที่ร้านแล้ว”
[“อืม...รออีกซักชั่วโมงได้ไหม”] นั่นไง....
“เคลียร์งานอยู่หรอ” แบคฮยอนก้มหน้าลงมองที่เท้าของตัวเอง เอาอีกแล้ว ไม่ว่าเมื่อไหร่เซฮุนก็เห็นงานสำคัญกว่าทุกอย่างเสมอ เอาเถอะ เขาชินซะแล้วล่ะ อย่างน้อยๆก็ยังมีเรื่องบางเรื่องที่เราสามารถแชร์ให้กันได้ ก็ยังดีกว่าคนบางคนที่ไม่เคยคิดจะแชร์อะไรกับเขาเลย
[“อืม เสร็จแล้วเดี๋ยวรีบ.....”]
หูของแบคฮยอนไม่ทันฟังเสียงทุ้มของปลายสายจนจบ เด็กหนุ่มก็ต้องเบิกตาโพลงเมื่อเห็นว่าแฟนเก่าของเขาล้มลงไปทั้งๆที่ยังนั่งกอดขวดเบียร์หน้าตามึนงง หัวทุยๆนั่นฟาดทั้งบาร์และเก้าอี้นับเป็นสองเด้งตาหน้าต่อตา และให้ตายเถอะ หมอนั่นยังลุกขึ้นมากระดกเบียร์ได้หน้าตาเฉย!
“เซฮุน แค่นี้นะ เดี๋ยวโทรกลับ” แบคฮยอนรีบกดโทรศัพท์วางสายแล้วปิดเครื่องทันที ไม่ใช่ว่าอยากมีความลับอะไรนักหรอก แต่เพราะเขารู้ว่าแฟนใหม่ตัวเองเป็นคนยังไง ถ้าเผลอเปิดโทรศัพท์เอาไว้มีหวังโทรจิกจนสายไหม้แน่ๆ
ส่วนหมอนี่.... แบคฮยอนทอดสายตามองจงอินที่นั่งดวดขวดเบียร์พิงอยู่กับบาร์ เห็นทีจะไม่ได้การ ถึงจะไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว แต่แบคฮยอนก็ถือว่าตัวเองยังมีมนุษยธรรมพอที่จะไม่ปล่อยให้แฟนเก่าต้องอยู่ในสภาพน่าอับอายอย่างนี้ เด็กหนุ่มวิ่งถลาเข้าไปประคองจงอินที่กำลังทำท่าจะขย้อนของเก่าลงบนพื้นของผับ ก่อนจะยกแขนอีกฝ่ายขึ้นพาดบ่า หันไปจ่ายเงินแล้วรีบพาออกมาจากตรงนั้นทันที....
.
.
.
“อืม....”
ร่างโปร่งบนเตียงขยับตัวยุกยิกเมื่อรู้สึกได้ถึงแสงไฟสว่างวาบที่แทงตาเขาทั้งยังหลับ มือเรียวสีแทนเอื้อมไปทุบหัวไหล่ ล้วงเข้าไปเกาพุงตามนิสัยเดิมๆตอนใกล้จะตื่น แต่ทำเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกไม่สบายตัวแปลกๆ จนเริ่มกลิ้งไปกลิ้งมานั่นล่ะถึงได้สติ ดวงตาคมเบิกโพลงขึ้นทันที
“ที่นี่...”
แหงนหน้ามองเพดานแล้วพยายามนึก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะกลับมายังห้องตัวเองทั้งที่ยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเมื่อคืนกินอะไรเข้าไปบ้าง แล้วที่นี่ที่ไหน ห้องของใครกันแน่ จงอินกระพริบตาถี่ๆ ยกมือขึ้นลูบหน้าลูบตาตัวเองแล้วออกแรงตบที่แก้มสองข้างเบาๆเพื่อสั่งให้สมองตื่น
“นี่ห้องฉันเอง”
เสียงตอบรับทักทายดังขึ้นจากด้านหลัง คิมจงอินกระเด้งตัวหันขวับไปทางต้นเสียงทันที และเขาจะไม่รู้สึกวูบในใจแปลกๆเลย ถ้าคนที่เดินถือกะละมังน้ำพาดผ้ามากับบ่าเป็นแค่สาวสวยคนนึงที่เขาเมาแล้วเผลอลากเธอกลับมาวันไนท์แสตนด้วย....
ใช่...คนตรงหน้าเป็นอะไรที่มากกว่านั้น
เซอร์ไพร์สชิบหาย
“แบค...ฮยอน?”
“วันนี้นายเรียกชื่อฉันไปกี่ครั้ง...” คนพูดหัวเราะเบาๆพลางจุ่มผ้าลงไปในอ่าง บิดให้หมาดแล้วเขยิบตัวเอื้อมมือแปะผ้าเย็นๆลงบนแขนของคนร่างโปร่ง “รู้ไหมว่ารวมกันแล้วมันมากกว่าที่นายเคยเรียกฉันตอนเราคบกันซะอีก”
“....นี่...เรื่องจริงใช่ไหม” จงอินเอ่ยถามทั้งๆที่ดวงตายังจับจ้องแบคฮยอนอยู่ ร่างโปร่งนิ่งมองมือบางที่กำลังลากผ้าชื้นๆไปตามร่างกายของเขาอย่างชำนาญ แบคฮยอนไม่ได้ตอบอะไรนอกจากรอยยิ้ม ทว่าการกระทำที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยมันทำให้บางอย่างในใจของชายหนุ่มปะทุขึ้นมา
“นายน่ะเมาเละเทะเลยนะ ออกมากินแบบนี้คยองซูเค้าไม่ว่าบ้างหรือไง เดี๋ยวฉันเช็ดตัวให้เสร็จแล้วก็นอนต่ออีกพักนะ ตื่นแล้วจะได้กลับไป.....”
“แบคฮยอน” จงอินคว้าข้อมือที่กำลังลากผ้าเย็นๆลงบนแก้มซ้ายของเขาไว้ แบคฮยอนที่กำลังพูดอะไรบางอย่างชะงักค้างไป “นายกลับมาหาฉันใช่ไหม”
ยิ่งเห็นว่าแบคฮยอนไม่ตอบอะไรในใจมันยิ่งปวด แต่ที่มากกว่านั้น แทนที่แบคฮยอนจะยิ้มเหมือนเคย ร่างบางกลับทำสีหน้าเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทั้งๆที่ตาคู่นั้นยังมองเขาอย่างห่วงใยอยู่เลย แล้วจะปฏิเสธยังไง ทำไมไม่ตอบอะไรกลับมาบ้าง
“........”
“นายกลับมาหาฉันใช่หรือเปล่า” จงอินสูดลมหายใจเข้าปอดเมื่อเอ่ยประโยคเดิมซ้ำอีกครั้ง เขาจ้องหน้าแบคฮยอนนิ่ง ตั้งใจจะสื่อความรู้สึกที่จริงจัง อยากให้รู้ว่าคิดถึงแค่ไหน เสียใจแค่ไหน แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่พยายามเข้าใจอะไรเขาเลย
“พูดอะไรน่ะจงอิน” ร่างบางพยายามสะบัดข้อมือตัวเองให้หลุดออกจากการเกาะกุม “ฉันจะกลับมาหานายทำไม ในเมื่อเป็นนายเอง ที่ไล่ให้ฉันไปไกลๆ”
ใช่...จงอินนั่นแหละที่เป็นคนขอเลิก....
จงอินนั่นแหละที่เป็นคนไล่เขาให้ไปไกลๆ จงอินนั่นแหละที่บอกว่าเขามันเป็นคนน่าเบื่อ
จงอินนั่นแหละ.....ที่ต่อให้ผ่านเวลามากี่เดือน ก็ยังทำใจลืมไม่ได้ซักที
เพราะจงอินคนเดียว...
“ฉันขอโทษ” ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกผิด เห็นดวงตาของแบคฮยอนที่พยายามมองสบตาเขากลับมายิ่งรู้สึกแย่ นี่เขาทำอะไรลงไปวะ ทำให้คนๆนึงต้องเจ็บเพราะความเห็นแก่ตัวของเขาเพียงคนเดียว จงอินเม้มริมฝีปากเข้าหากันก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือบางนั้นมาไว้ที่หน้าตักตัวเอง “ฉันขอโทษจริงๆ....”
“.........”
“....เพิ่งรู้ว่าตัวเองชอบใครน่ะ....แต่คงสายไปแล้วใช่ไหม”
“..........อืม” แบคฮยอนตอบกลับเป็นเสียงครางเบาๆในลำคอ ใบหน้าน่ารักนั่นหันหนีจงอินอีกครั้ง และนั่นทำให้ร่างโปร่งคิดว่าเริ่มจะทนไม่ได้
“แบคฮยอน” ร่างโปร่งเอื้อมไปแนบมือเรียวสีแทนของตัวเองบนแก้มนิ่มทั้งสองข้างของอีกฝ่าย ออกแรงเพียงนิด แบคฮยอนก็หันกลับมาสบตากับเขาแล้ว “อย่าเมินได้ไหม.....”
จงอินพูดเหมือนคนเหม่อลอย อีกครั้งที่เขาพยายามรั้งแบคฮยอนให้เขยิบชิดเข้ามา ใบหน้าคมยื่นเข้าไปหา ตั้งใจจะมองริมฝีปากเล็กที่เคยเรียกชื่อเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เปล่าเลย สิ่งที่จงอินได้ยินหลังจากนั้นมันเสียดแทงหัวใจเขาเหลือเกิน
“อย่าทำแบบนี้จงอิน ฉันมีแฟนใหม่แล้วนะ” แบคฮยอนขืนตัวออก ทว่ายิ่งออกแรงมากเท่าไหร่ ดูเหมือนคนเมาจะยิ่งรั้งเขาเข้าไปใกล้มากขึ้นอีก “จงอิน!”
ใบหน้าของจงอินที่อยู่ห่างไปไม่ถึงนิ้วช่างดูอ้อนวอน แววตาคู่นั้นจ้องเข้ามาในดวงตาของแบคฮยอน ราวกับว่ากำลังหาพื้นที่ที่ตัวเองจะสามารถเข้าไปยืนอยู่ได้อีกครั้ง และนั่นทำให้คนใจอ่อนอย่างแบคฮยอนรู้สึกแย่.... ทั้งๆที่มีแฟนแล้ว แต่ก็ยังเผลอไผลไปกับสัมผัสเก่าๆ
“จงอิน...อย่า....มันไม่ถูกต้อง”
จงอินยื่นหน้าใกล้เข้ามาอีก ใกล้จนริมฝีปากรูปกระจับนั่นจ่อชิดริมฝีปากของเขา แบคฮยอนทั้งดันทั้งผลัก ออกไปมากเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล ยิ่งทำแบบนั้น ยิ่งเหมือนเสือกไสตัวเองให้จมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของจงอินมากขึ้น
“มีแฟนแล้วทำไม มีแล้วก็เลิกได้....กลับมาหาฉันเถอะ...ฉันจะดีกับนาย จะรักนายให้มากๆ กลับมาหาคิมจงอินเถอะนะแบคฮยอน”
คิมจงอินฮุกหมัดตรง เขาไม่รีรอให้แบคฮยอนเอ่ยปากพูดถึงแฟนใหม่ซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง มือเรียวสีแทนนั่นประคองใบหน้าของอีกฝ่ายรั้งให้เชิดขึ้นก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากลงไปทันที ตอนนี้แบคฮยอนก็กลับมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เรื่องอะไรที่เขาจะปล่อยแบคฮยอนไปหาใครก็ไม่รู้ คิมจงอินไม่อยากฟังไม่อยากเข้าใจอะไร อยากให้แบคฮยอนอยู่กับเขาคนเดียวก็พอ
“อื้อม์” เสียงที่ประท้วง กับมือที่พยายามจะดันเขาให้ออกห่างยิ่งทำให้รู้ว่าแบคฮยอนยังคงหลงเหลือเยื่อใย จงอินรวบมือสองข้างที่ทุบเบาๆตรงอกตัวเองเอาไว้ แล้วออกแรงรวบคนร่างบางให้ย้ายมาอยู่ภายใต้ร่างเขาแทน
“แบคฮยอน......” เสียงกระซิบแหบพร่าเรียกให้แบคฮยอนลืมตาขึ้น คิมจงอินค่อยๆก้มหน้าลงมากดจูบเบาๆที่ขมับของเขา มันช่างอ่อนหวาน “เป็นของฉันเถอะนะ กลับมาเป็นของฉันอีกครั้ง”
วินาทีนั้นแบคฮยอนไม่รู้อะไรอีกแล้ว ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวเองจูบตอบริมฝีปากหนานั่นไปตอนไหน รู้แค่ว่าหัวใจมันแรงจนในอกเจ็บไปหมด....
“อืม.....จงอิน”
และแล้วคืนนั้นจงอินก็ทำให้ได้รู้ว่า ...
สำนวน ‘ถ่านไฟเก่า’ มันทรงอานุภาพแค่ไหน
________________________________________________________
เสียงฝีเท้าเก้าหนักๆดังสะท้อนไปทั่วทั้งบริเวณโถงทางเดินของชั้น 50 ขายาวเร่งฝีเท้าให้เร็วมากขึ้นอีกเมื่อเห็นว่าประตูบานใหญ่ของห้องในสุดยังคงเปิดค้างไว้ไม่ต่างอะไรจากตอนที่เขาออกมา ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำยี่ห้ออาร์มานี่ผลักบานประตูเข้าไปทั้งยังกำผ้าก็อตในมือแน่น
“ก็แค่ถากๆน่า หมอจะพิถีพิถันอะไรกับมันนักหนา”
น้ำเสียงแหบทุ้มดังขึ้นหลังจากที่เขาก้าวผ่านตัวประตูเข้ามา ภาพตรงหน้าคือชายหนุ่มร่างสูงโปร่งกำลังนอนเอนตัวอยู่บนเก้าอี้บุนวมตัวโปรด ดวงตาเรียวยังคงจับจ้องอยู่กับชายในชุดกาวน์ที่กำลังเย็บสดบาดแผลตรงหัวไหล่ของตนอย่างระมัดระวัง จนเขาเดินเข้าไปใกล้แล้วยื่นผ้าก๊อตสีขาวสำหรับปิดแผลให้คุณหมอประจำตัวนั่นล่ะ บอสถึงได้เงยหน้าขึ้นมอง
“มาแล้วก็ดี ต่อสายแบคฮยอนติดหรือยัง”
“คุณบยอนปิดเครื่องครับบอส”
ได้ฟังคำตอบแล้วถึงกับถอนหายใจออกมาแรงๆ ถ้าเป็นปกติบอสของเขาคงไม่ไล่ให้ไปโทรจิกร่างบางนั่นขนาดนี้หรอก แต่เพราะว่านี่เป็นเหตุการณ์ฉุกเฉิน อยู่ๆคุณบยอนแฟนของบอสก็หายไปในช่วงที่บอสถูกลอบทำร้ายจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ยังดีที่กระสุนแค่ถากๆ แต่นั่นก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว แถมก่อนจะวาง ปลายสายยังทำเสียงเหมือนกับรีบร้อนอีก ก็เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่คนรักกันอย่างบอสจะเป็นกังวลอย่างนี้
โอเซฮุน หรือที่ชายในสูทสีดำเต็มยศเรียกว่า ‘บอส’ พยุงตัวขึ้นจากเก้าอี้
“เอาโทรศัพท์มา เดี๋ยวโทรเอง”
ชานยอลวางโทรศัพท์มือถือลงบนมือของบอสตามคำสั่ง ร่างสูงโปร่งนั่นเอนตัวลงกับโซฟาอีกครั้ง ก่อนจะหันไปยกมือปรามคุณหมอประจำตัวให้หยุดการรักษาก่อน
คิ้วเรียวขมวดหากันแน่น แสดงออกถึงความกังวลด้วยการเดาะปากตัวเองจนเกิดเสียงดัง ดวงตาคมทอดมองออกไปยังด้านนอกของหน้าต่างบนชั้น 50 ท้องฟ้าก็ให้จะสางแล้ว ถ้ารอบนี้ยังโทรไม่ติด เขาจะส่งคนไปตามหาแบบที่แบคฮยอนไม่ชอบให้ทำเดี๋ยวนั้นเลย
________________________________________________________
TRrrrrr TRrrrrrr
เป็นอีกครั้งที่คิมจงอินต้องสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในคืนนี้ มันจะไม่น่าหงุดหงิดเลยถ้าเสียงโทรศัพท์ที่แบคฮยอนเสียบชาร์จไว้บนโต๊ะกินข้าวดังเตือนเพียงแค่ครั้งเดียว นี่มันรอบที่ 5 แล้วนะโว้ย ดวงตาคมหรี่มองไปที่นาฬิกาแขวนบนผนัง เพิ่งจะตีห้าแท้ๆ นี่ก็โทรมาจัง ไม่มีมารยาทเลยรึไงวะ !
ร่างโปร่งผุดลุกขึ้นจากเตียงด้วยอาการมึนงง เขาพยายามจะมองหาร่างบางที่เคยนอนอยู่ด้วยกันตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อปลุกให้ตื่นไปรับโทรศัพท์ แต่เสียงซ่าที่ดังมาจากห้องน้ำก็เป็นคำตอบที่ดีอยู่แล้วว่าแบคฮยอนคงกำลังอาบน้ำและไม่ได้ยินเสียงอะไรจากด้านนอกทั้งสิ้น คิดอย่างนั้นก็เลยลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปหยุดมองเจ้าโทรศัพท์มือถือที่เพิ่งจะตัดสายรอบที่ 5 ไปเมื่อครู่
TRrrrr TRrrrrrr
จงอินสะดุ้งสุดตัวเมื่อโทรศัพท์ที่เขายืนสัปหงกมองสิ่งที่แผดร้องขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ร่างโปร่งจะไม่ยอมให้มันดับไปต่อหน้าต่อตาอีกแล้ว เขาเอื้อมมือไปหยิบมัน กดรับแล้วแนบกับหูตัวเอง
[“บยอนแบคฮยอน!”]
เสียงปลายสายที่ตวาดลั่นอย่างคนกำลังมีอารมณ์ทำให้จงอินขมวดคิ้ว นี่ตกลงใครควรจะโกรธใครแน่วะ จะมาทำขึ้นเสียงอะไร ตัวเองโทรมาหาชาวบ้านเขาซะเช้าตรู่ ไก่ยังไม่ทันโก่งคอโห่เลยด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าคนอื่นเค้าจะหลับจะนอนบ้างหรือไง
“แบคฮยอนไม่อยู่ ไปอาบน้ำ มีอะไรก็ฝากมา” ตอบกลับไปด้วยเสียงมึนง่วงโดยไม่สนใจว่าปลายสายจะอยากคุยกับแบคฮยอนมากแค่ไหน ไม่สนโว้ย ยิ่งถ้าเป็นแฟนใหม่ยิ่งไม่สน ดีซะอีก จะได้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย ว่าคนเก่าหรือคนใหม่ คนไหนจะแน่กว่ากัน
[“นั่นใคร”] ถามแบบนี้ออกมาแสดงว่าคนปลายสายแม่งเป็นคนใหม่ของแบคฮยอนจริง คิมจงอินดึงโทรศัพท์ออกจากใบหูตัวเอง แล้วหรี่ตามองตัวอักษรเล็กๆบนหน้าจอ.... แฟนใหม่แบคฮยอนชื่อเซฮุนหรอเนี่ย
“แฟนแบคฮยอนโว้ย มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีจะไปนอนแล้ว”
[“เดี๋ยว”]
“อะไรอีก”
[“แกอยู่ไหน”]
“...ปัญญาอ่อนจริง ก็อยู่คอนโดแบคฮยอนสิโว้ย” คิมจงอินยิ้มเยาะแฟนใหม่แบคฮยอนอยู่ในใจก่อนจะกดตัดสายอีกฝ่าย แล้วโยนโทรศัพท์ไว้แถวๆนั้น
ร่างโปร่งเดินลากขากลับมาที่เตียงนุ่มอีกครั้ง เขาทิ้งตัวลงกับผ้านวมนิ่มๆ นอนยิ้มอยู่คนเดียวเมื่อนึกถึงสีหน้าของแฟนใหม่แบคฮยอนตอนที่ได้ยินว่าเขาอยู่ที่ไหน หึ ของใหม่ยังไงก็ไม่เร้าใจเท่าของเก่าหรอกโว้ย แล้วฟังดูเสียงไอ้กากปลายสายเมื่อกี้สิ ยังเด็กอยู่เลยด้วยซ้ำ ท่าทางจะม.ปลายหรือเพิ่งเข้ามหาลัยกำลังวัยกรุบกริบเลยทีเดียว แต่จะบอกให้นะไอ้ละอ่อน ของแบบนี้มันวัดกันตรงลีลาโว้ย ไม่ใช่ว่าสดใหม่แล้วจะคว้าเอาหัวใจของแบคฮยอนไปได้!
.
.
.
.
“จงอิน!...นายรับโทรศัพท์ฉันหรอ”
เป็นอีกครั้งที่คิมจงอินต้องตื่นขึ้นมาทั้งๆที่เพิ่งข่มตาหลับไปได้ไม่ถึง 20 นาที คราวนี้อะไรอีกล่ะ... เขากระเด้งตัวลุกจากที่นอนนิ่มๆมานั่งประจันหน้ากับแบคฮยอนที่ยื่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองมา ใกล้จนหน้าของเขาแทบจะรวมร่างกับโทรศัพท์อยู่แล้ว
“อืม......”
แบคฮยอนเม้มริมฝีปากแน่น เมื่อเห็นว่าจงอินไม่มีท่าทีกระตือรือร้นจะตอบคำถามของเขาเลยแม้แต่น้อย ร่างโปร่งยังคงนั่งหลับตาทั้งๆที่เขาเอื้อมมือไปเขย่าไหล่กว้างนั้นเป็นครั้งที่สอง
“จงอิน ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้ บอกมาว่านายรับโทรศัพท์ใช่ไหม”
จงอินหรี่ตามองร่างบางที่กำลังเป็นเดือดเป็นร้อนจนแทบจะบ้า จะอะไรกันนักกันหนา กับอีแค่โทรศัพท์สายเดียวที่เขารับทำไมต้องมาทำหงุดหงิดกับคนที่กำลังง่วงกันด้วย หรือที่เป็นกังวลขนาดนี้เพราะกลัวไอ้หญ้าอ่อนนั่นมันจะทิ้งเอา
“....ใช่ แล้วจะทำไมล่ะ” จงอินทำเบะปาก “หวงโทรศัพท์เหลือเกินนะ กลัวแฟนใหม่จะโทรเข้ามาหรือไง”
“ก็ใช่น่ะสิ!” แบคฮยอนแหวขึ้นมา ในใจนี่มันร้อนเหมือนมีไฟมาสุมอยู่ในอก “แล้วได้พูดอะไรไปบ้าง”
“......”
“ตอบสิจงอิน” แบคฮยอนเขย่าคนร่างโปร่งตรงหน้า พยายามกดดันให้จงอินบอกออกมาให้หมด ว่าพูดอะไรกับเซฮุนไปบ้าง.... ภาวนาให้จงอินง่วงเกินกว่าที่จะไปโอ้อวดอะไรใส่หมอนั่น....
แต่ดูเหมือนพระเจ้าจะใจร้ายกับเขาไปหน่อย...
“หึ....ก็บอกไปว่าเป็นแฟนนาย”
“ห๊ะ!....”
“แล้วก็บอกว่านอนกับนาย อยู่คอนโดนาย...หึ ทำไม มันจะทำอะไรได้ อย่ากลัวไปเลยน่.....”
ไม่รู้ว่าแบคฮยอนคิดไปเองหรือเปล่า แต่เหมือนกับว่าท้องฟ้าที่เคยสว่างไสวทอแสงสีทองเป็นประกายอ่อนๆในยามเช้ากลับกลายเป็นมืดมิดลงทันทีที่เขารู้ว่าไอ้ดำนี่ไปพูดจาสามหาวกับแฟนใหม่ของเขายังไง ร่างบางพ่นลมหายใจออกช้าๆ พยายามตั้งสติให้มั่น
“หยุด” แบคฮยอนยกมือขึ้นแปะที่หน้าผากแทนนั่นแรงๆ
“อะไร”
“ใส่เสื้อผ้านายเดี๋ยวนี้!” แบคฮยอนคว้าโทรศัพท์กดดูเวลาสุดท้ายที่โทรศัพท์เขากดรับสายเซฮุน “ไม่สิ ไม่ทันแล้วแน่ๆ เอาเสื้อผ้านายไปใส่ข้างนอกนะ เร็วสิจงอิน เร็วๆ”
ไม่พูดเปล่าร่างบางยังพยุงคนเมาง่วงให้ลุกขึ้นจากเตียง หันซ้ายหันขวาเก็บเสื้อผ้าที่กองระเกะระกะอยู่บนพื้น ก่อนจะรวบทุกอย่างมาวางไว้บนมือสองข้างของคนตรงหน้าที่ตอนนี้ถลึงตามองมาแบบงงๆ
“เดี๋ยว....อะไรกันเนี่ยแบคฮยอน” จงอินหันขวับกลับมาหาร่างบางที่พยายามดันหลังเขาให้ตรงไปที่หน้าต่างบานที่ใกล้ที่สุด “ทำอย่างกับว่ามันจะพาพวกมารุมกระทืบฉันอย่างนั้นล่ะ”
แบคฮยอนครางในลำคอด้วยความหงุดหงิด ร่างบางรีบวิ่งนำไปเปิดหน้าต่างบานสีขาวตรงหน้าให้กว้างพอที่คนหนึ่งคนจะมุดออกไปได้ ก่อนจะหันมาเร่งคนตัวดำที่ยังง่วนกับการใส่บ็อกเซอร์ตัวซีดโดยที่ไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
“โอ้ย ไว้ค่อยใส่ได้ไหมจงอิน รีบปีนออกหน้าต่างไปเลย เร็วสิจงอิน! เร็.......”
ปัง!!!!
บานประตูไม้สีเข้มถูกถีบเข้ามาอย่างแรง เผยให้เห็นร่างสูงโปร่งที่เพิ่งจะวางขาข้างขวาลงกับพื้น มือเรียวยาวนั่นปัดฝุ่นบนกางเกงสแล็คสีดำเบาๆ ก่อนจะยกขึ้นดึงแว่นคริสเตียนดิออร์รุ่นล่าสุดออกจากกรอบหน้า พอมองไปเจอดวงตาเรียวดุจเหยี่ยวที่สบกลับมาก็ทำให้แบคฮยอนรู้สึกว่านรกอยู่ไม่ไกลแค่เอื้อม
“เซฮุน.....”
“........”
“บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าใช้ปืนยิงประตูห้องฉันอีก”
นั่นไม่ใช่ประเด็น แต่แบคฮยอนก็ยังนำมาเข้าเป็นประเด็น อันที่จริงแล้วเขาควรสนใจมนุษย์ที่พยายามจะใส่กางเกงยีนส์ทั้งที่ยังยืนตัวสั่นอยู่ด้านหลังมากกว่า แทนที่จะมานั่งเครียดเรื่องที่เซฮุนกับลูกน้องพังประตูคอนโดเขาเป็นรอบที่ห้าของเดือน
“ถ้าฉันไม่พัง ป่านนี้ชู้ของนายคงหนีไปแล้ว”
ร่างบางเดินเข้าไปประจันหน้ากับชายหนุ่มในชุดดำที่เพรียบพร้อมไปด้วยลูกน้องด้านหลักอีกนับสิบ มือบางยกขึ้นคล้องแขนยาวนั้น ฉุดให้ก้มต่ำลงมาเพื่อที่จะแนบริมฝีปากลงบนแก้มอย่างเอาใจ
“ทีหลังก็เคาะเรียกดีๆสิ”
“ไม่มีทีหลังแล้วแบคฮยอน” เซฮุนยกมือขึ้นชี้นิ้วไปทางคนที่ยืนเอากางเกงยีนส์กุมเป้าอยู่ตรงหน้า ไม่ต้องมีคำสั่งใดๆลูกน้องที่เป็นดั่งฝูงหมาป่าก็พร้อมจะเข้าล่าลูกแกะทันที
“จัดการมัน”
________________________________________________________
TBC – 2
555 มาแล้ว ไม่รู้สนุกรึเปล่านะ
ยังคงบอกว่าภาษาอาจจะตึงๆหน่อยเราไม่ได้เขียนบุรุษที่สามนานแล้ว
ขอบคุณและขอโทษที่อาจจะทำให้ใครผิดหวังนะคะ
รักเรื่องนี้ ชอบเรื่องนี้ เวลาสครีมอย่าลืมติดแท็ก #ficbigboss นะคะ
’ cactus
ความคิดเห็น