ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    POISON IVY (BAEKDO | CHANSOO)

    ลำดับตอนที่ #1 : p o i s o n i v y | 00

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 58


    M

































    นายจำได้ไหม ?

    ครั้งแรกที่เราพบกัน มันผ่านมานานแค่ไหนแล้ว ?

     

                ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า  ทว่าท้องฟ้าวันนี้มันครึ้มลงกว่าปกติ ทั้ง ๆ ที่อยู่ในเดือนมีนาคมช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิแท้ ๆ หากแต่มีสิ่งเดียวที่พอจะทำให้วันเริ่มต้นเทอมใหม่นี้สมบูรณ์ขึ้นได้บ้าง ก็คงจะเป็นข้างทางเท้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดสวย ชูช่ออวดความงามกันเต็มไปหมด

               

                เขาหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ของรถประจำทางได้ทันท่วงที ก่อนหยาดฝนด้านนอกจะกระหน่ำสาดลงมาโดนเสื้อถักไหมพรมตัวใหม่ที่คุณแม่ส่งมาให้จากโตเกียว คิดไม่ผิดเลยที่ตัดสินใจนั่งรถแทนที่จะขี่จักรยานมาเหมือนทุกวัน เพราะท้องฟ้าหม่นแสงกับกลิ่นดินลอยมาแท้ ๆ  

               

                โด คยองซู ก็เป็นแบบนี้นั่นแหล่ะ มักจะมีความสุขกับสิ่งรอบ ๆ ตัวได้ง่าย ๆ เช่น นั่งมองพวกดอกไม้ ใบหญ้า สูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ลอยมาจากที่ไกล ๆ โดยไม่รู้ตัวอย่างเป็นสุข นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมถึงต้องทำตัวให้มีปัญหา หรือหาความสุขบนความทุกข์ของร่างกายในรูปแบบอื่น เช่นการเจาะหู เป็นต้น

               

                “บยอน แบคฮยอนเอามันออกมาจากหูแกเดี๋ยวนี้นะ ! ...ไอ้เด็กบ้านี่ ! มาสายแถมผิดระเบียบได้ทุกวัน”

     

                คยองซูเดินเฉื่อย ๆ มาเรื่อยเกือบจะถึงประตูโรงเรียนแล้ว น่ายินดีที่เสียงของอาจารย์มยองซูจอมเฮี้ยบยังคงดังขึ้นเหมือนทุกวัน ๆ ประโยคซ้ำ ๆ เหล่านี้เขาถือว่าเป็นการต้อนรับที่ไม่ค่อยน่ายินดีซักเท่าไหร่  เพราะทุกครั้งที่มองไปยังเพื่อนร่วมห้องเจ้าของชื่อ เขาก็มักจะได้รับพฤติกรรมโต้ตอบแบบทุกครั้ง

     

                บยอน แบคฮยอน ถลึงตากลับมา พร้อมขยับปากแบบที่ต้องการให้เขามองเห็นชัดๆ 

     

                มองอะไร ! ‘ไป ! ไป ! เร็ว ๆ !!!’’

     

                สาบานได้ว่าเขาไมได้ตั้งใจมองเพื่อนร่วมห้องคนนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ทว่ามันมักจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เวลาที่เขาเผลอนอนตื่นสายทำให้มาไม่ทันเข้าแถวหน้าเสาธงตอนเช้า คยองซูเร่งฝีเท้าอย่างเร็วทันทีที่เห็นสัญญาณนั่น !

                 

                ‘ขอบใจ’           

               

                เอ่ยกับตัวเองเบา ๆ หวังว่าคงจะส่งไปถึง...

     

    ____________________________________________________________

               

    นายจำได้ไหม ?

                ความเป็นเพื่อนของเรา มันผ่านมานานแค่ไหนแล้ว ?

     

                ท่ามกลางความเงียบกริบของห้องสอบวิชาคณิตศาสตร์ สิ่งเดียวที่บยอนแบคฮยอนได้ยินคือ เสียงปากกาลูกลื่นดังหยุกหยิกพันยุ่งเหยิงไปหมดในหัว  เมื่อก้มลงมองกระดาษข้อสอบแล้วก็แทบจะกัดลิ้นตัวเองซะให้ตาย เพราะเขาอ่านไม่รู้เรื่อง และนึกสูตรอะไรไม่ออกเลยแม้แต่สูตรเดียว

               

                นาฬิกาแขวนผนังบอกเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ในขณะที่กระดาษคำตอบของเขายังว่างเปล่านั้น สายตาก็พลันไปสบดวงตากลมของคนที่นั่งอยู่ข้างๆพอดี

     

              โด  คยองซูไม่ใช่คนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีเลิศ ในขณะที่ก็ไม่ได้ตายด้าน แบคฮยอนรู้สึก เพียงแต่หมอนั่นมักจะมีความสุขอยู่กับบางสิ่งที่เพื่อน ๆ ในห้อง เห็นว่ามันน่าขยะแขยง อาจเป็นเพราะเวลาว่างทุกครั้งใครต่อใครก็มักจะเห็น คยองซู พาหนังสือรวมสูตรพิชิต คณิตคิดเร็ว’ ไปไหนมาไหนด้วยในทุก ๆ ที่ก็เป็นได้

     

                ก๊อก ก๊อก ก๊อก

                ก๊อก ก๊อก ก๊อก

                ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     

              แบคฮยอนเคาะจนรู้สึกเจ็บนิดๆ แต่ก็ถือว่าได้ผล  โดคยองซูที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หันมาหาเขาช้า ๆ สายตาล่อกแล่กแว่บมองอาจารย์ที่คุยโทรศัพท์อยู่หลังห้อง ก่อนใบหน้านิ่งเฉยนั่นจะมีความเปลี่ยนแปลงบ้างเพราะเจ้าตัวขมวดคิ้วเข้าหากัน

               

                “เอ่อ...นายทำได้มั้ย ?”

                “.............”

     

                หมอนั่นเงียบ ก่อนจะลากกระดาษคำตอบของตัวเองที่เขียนอะไรยึกยือเต็มไปหมดมาในระยะที่เขาสามารถมองเห็นได้ ทว่าแย่หน่อยที่แบคฮยอนคนนี้ไม่ค่อยตั้งใจเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ทำให้แม้ในระยะประชิด ก็ยังไม่สามารถเดาอักษรบางอย่างได้อย่างถูกต้อง

     

                “...แลกกันได้ป่าว...เอาของนายมาให้ฉัน”  ต่อรองหน้าด้าน ๆ ก่อนจะแบมือขอกระดาษคำตอบของอีกคนง่าย ๆ ระหว่างที่อาจารย์คุมสอบกำลังหันหลังให้อยู่ คยองซูเลิกคิ้วสูง แต่ก็ยื่นให้ง่าย ๆ เช่นเดียวกัน

               

                แบคฮยอนนั่งมองร่างบางทีก้มหน้าก้มตาจดยุกยิกลงในกระดาษข้อสอบของเขา พลางแสร้งทำเป็นว่าทำข้อสอบบ้างเป็นครั้งคราวเวลาที่อาจารย์สาวผู้คุมสอบเดินผ่านมา  เวลาผ่านไปประมาณสิบนาที หันไปอีกทีกลายเป็นว่ากระดาษข้อสอบของเขาเต็มไปด้วยคำตอบที่ถูกต้องเสียแล้ว

               

                เห็นทีจะไม่ได้.. คนอย่างแบคฮยอนหรอจะได้ท็อปคณิตศาสตร์ ขืนปล่อยให้เป็นแบบนั้นมีหวังได้โดนอาจารย์เจ้าของวิชาจริง ๆ สืบสวนกันยาวแน่ ๆ !

     

                ว่าแล้วก็เริ่มเคาะโต๊ะอีกครั้ง  ทีนี้เบาลงกว่าเดิม ได้ผล ! คยองซูหยุดเขียนก่อนที่กระดาษคำตอบของเขาจะเต็ม ร่างบางนั่นหันมาช้า ๆ

     

                “...นายทำมากไปแล้ว”

                “....”  เพื่อนร่วมอุดมการณ์ขมวดคิ้ว หมายความว่ายังไง ที่ว่าทำมากไป

                “...ส่งคืนมา ส่งคืนมา....”  แบคฮยอนกระซิบเบาๆอีกครั้ง

     

                ทว่า...

     

                “....พวกเธอ !

                เสียงจากด้านหลังตะโกนลั่น ทุกคนที่อยู่ในห้องพร้อมใจกันหันมาเป็นทางเดียว อาจารย์คุมสอบเร่งฝีเท้าเข้ามาตรงโต๊ะที่แบคฮยอนนั่งอยู่ หล่อนยืนกำปากกาแดงแน่น แน่นอน ! คยองซูรู้ว่าสิ่งที่หล่อนจะทำคืออะไรต่อจากนี้..

               

                “ทุจริตในการสอบ...เธอไม่ผ่านวิชานี้”  หล่อนเอ่ยเสียงเข้ม

               

                เป็นครั้งแรกที่แบคฮยอนกลัวคำว่า ‘ไม่ผ่านจับใจ’ คนที่ไม่เคยหยี่ระกับเลขศูนย์ หรือเครื่องหมายกากบาทบนหัวข้อสอบอย่างเขากลับรู้สึกได้ถึงเหงื่อชื้นเย็นเต็มแผ่นหลัง ก่อนที่ปากกาแดงจะขีดลงบนกระดาษ เขาควรจะเอ่ยความจริงออกมา...

     

                “.......”

     

                แบคฮยอนไม่รู้ตัวหรอกว่าตาของเขาเบิกโพลงด้วยอาการแบบไหน  หากแต่ที่เขารู้แน่ ๆ ว่าเจ้าของแผ่นกระดาษที่แท้จริงที่อยู่กับตัวเองนั้น เป็นของเพื่อนร่วมห้องที่กำลังหันกลับไปให้ความสนใจกับกระดาษคำตอบของเขา มากกว่าที่จะสนใจว่ากระดาษคำตอบที่มีชื่อตัวเอง ถูกกากบาท ปรับให้ตกในวิชานี้ไปแล้วเรียบร้อย... 

     

                           

               

                อ๊อดดดดดดดดดดดดดดดดด

     

                เสียงกริ่งดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าสิ้นสุดเวลาในการทำข้อสอบแล้ว  ทุกคนลุกขึ้นไปส่งกระดาษของตัวเอง รวมถึงร่างโปร่งที่นั่งข้าง ๆ เขาก็ด้วย ...

     

                แบคฮยอนกัดริมฝีปากแน่น มองคนหน้านิ่งที่เดินไปส่งกระดาษราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่คนที่ถูกปรับตกควรจะเป็นเขา ไม่มีความจำเป็นอะไรที่หมอนั่นจะไม่หาข้อแก้ตัวให้ตัวเอง นั่นสิ....ทำไม ?

     

                “เฮ้ !

     

                แบคฮยอนวิ่งกระหืดกระหอบตามแผ่นหลังบางนั่นจนทัน  ส่งเสียงเรียกลั่นจนคยองซูต้องหันหลังเดินกลับมาหา เพราะร่างโปร่งตรงหน้าหมดแรงจะวิ่งต่อทรุดลงกับพื้นไม่อายใครที่ไหน คยองซูก้มลงมองแบคฮยอนที่นอนหอบอยู่บนพื้น

     

                “...เมื่อกี้ ....?”

                “ทำไม...แฮ่ก....ไม่บอกอาจารย์....ว่าข้อสอบนั่นไม่ใช่ของนาย” คยองซูเลิกคิ้ว นี่แบคฮยอนวิ่งตามเขามาเพียงเพราะเรื่องเท่านี้เองงั้นหรอ

                “ไม่เห็นเป็นอะไร....”  คยองซูพูดเสียงปกติ  ทำเอาคนที่ได้ฟังถึงกับต้องขมวดคิ้ว 

                “เฮ้ ! ไม่เป็นไรได้ไง ! นายอาจจะตกวิชานี้นะ....ฉันจะไปบอกอาจารย์”

                “ฉันตกก็ดีกว่านายตก...อย่างมากก็แค่ซ่อม...แต่ถ้าเป็นนายไปซ่อมเอง คิดว่าจะผ่านได้รึเปล่า ?”

               

                พอถึงประโยคนี้...บยอนแบคฮยอนเงียบ...

     

                อาจฟังดูเหมือนว่าเขาถูกอีกฝ่ายกัดเข้าอย่างจัง แต่ก็เอาเถอะ เวลานี้ก็ไม่ได้ถือสาอะไรเท่าไหร่ อย่างน้อยคยองซูก็ยังแสดงความจริงใจให้เห็นมากกว่าเพื่อนบางคนในห้อง  ถึงจะพูดตรงไปหน่อย แต่ก็ยังดีที่พูดตรง...

     

                เป็นคนน่าคบ...

     

                “งั้นรอเดี๋ยว....อยู่ตรงนี้ก่อน อย่าเพิ่งไปไหนนะ !” แบคฮยอนชี้หน้าคยองซูไว้แบบคาดโทษ แน่นอนที่ร่างบางจะไม่ขยับไปไหน หากแต่ทำแค่ยืนมองพฤติกรรมลุกลี้ลุกลนของอีกฝ่ายอยู่ไกลๆ  หมอนั่นวิ่งไปถึงตู้กดน้ำ เขย่ากางเกงหาเศษเหรียญ หยอดใส่ตู้ แล้วออกวิ่งทันทีที่ได้เครื่องดื่มสองกระป๋องมาไว้ในมือ

     

                “เอ้า ! รับไปสิ....ถือเป็นคำขอบคุณ” คยองซูมองกระป๋องน้ำอัดลมในมือแบคฮยอนอย่างพิจารณา ก่อนจะรับมันมาไว้ในมือตัวเองบ้าง

               

                “........”

                “เปิดสิ เปิด”

     

                ทนฟังเสียงคะยั้นคะยอของอีกฝ่ายไม่ไหว เลยเผลอทำตามที่หมอนั่นสั่งโดยไม่รู้ตัว  น้ำหวานจากในกระป๋องพุ่งซ่านไปทั่ว กระเฉาะรดเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาเสียกลายเป็นวงใหญ่  คยองซูร้องเฮ้ย เบาๆในขณะที่คนข้าง ๆ หัวเราะลั่นไปทั่วทั้งทางเดิน

     

               

    เพียงเท่านั้นเอง

    มิตรภาพเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นจากเรื่องง่ายๆ

     

     

    ____________________________________________________________

     

               

                ราวกับต้นท้อที่ด้านนอกหน้าต่างเพิ่งจะออกดอกบานสะพรั่งเมื่อวานนี้  เผลอไปอึดใจเดียวเท่านั้น ทั้งดอกและใบก็ร่วงโรยไปตามกาล หากแต่กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่คยองซูชอบยังคงหลงเหลืออยู่ตามสายลมแผ่วที่เพิ่งพัดผ่านหน้าต่างไปเมื่อครู่

     

                พริบตาหนึ่งเหมือนเพิ่งรู้จักกับแบคฮยอน จากวันนั้นที่อะไร ๆ ก็เริ่มก่อตัวขึ้น จนถึงตอนนี้ที่กำลังจะต้องแยกจากกัน มันทำให้ในใจของคยองซูวูบไปแปลก ๆ ทุกครั้งที่นึกถึง 

     

                ในตอนนี้ที่เขากลายเป็นนักเรียนเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ลงทุนเรียนกวดวิชาทุกวัน ค่ำมืดดึกดื่นแค่ไหนก็ไม่บ่น เพียงแค่หวังว่าจะได้เข้าเรียนในสายวิชาที่ตัวเองชอบ ในมหาวิทยาลัยที่ใครได้ยินชื่อ ก็ต่างจะเข้ามาชื่นชมยินดี

     

                ส่วนแบคฮยอนตัดสินใจได้ตั้งแต่แรกว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อด้านการบริหาร 

     

                ทว่ากระดาษที่ถืออยู่ในมือ ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีใจเลยซักนิด...

     

                ‘ผลตอบรับเข้าเรียนต่อ มหาวิทยาลัยT’

     

                คยองซูปรายสายตามองมันอีกครั้ง  เมื่อครู่เขาเพิ่งจะวางสายจากแม่บังเกิดเกล้าที่ใช้ชีวิตอยู่ในโตเกียวหมาด ๆ แม่ยินดีกับการตัดสินใจของเขา แม้มันจะขัดแย้งกับหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้น ทั้งความรู้สึก หรือแม้แต่หัวใจของตัวเอง

     

                คยองซูตัดสินใจขยำใบผลการสอบนั้นทิ้งตะกร้าหวายที่อยู่ใกล้ ๆ แบคฮยอนเพิ่งโทรมายินดีกับเขาเมื่อครู่ก่อนที่จะวางสายจากแม่ เขาไม่รู้ว่านี่มันถูกรึเปล่า.... แต่มีเพียงคนเดียวที่รู้ความจริง....

     

              ‘ผมคิดว่าผมคงเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน....แม่จะว่าอะไรไหมครับ...

     

                ______________________________

                TBC
                
                แท็ก 
    #พซอว นะคะ
               ฟิคความดราม่าระดับ 7.5 ริกเตอร์  หน้าสั่นกันไปกับความน่าหมั่นหน้าของพี่บยอนเลยนะคะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×