คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ความแสบของสาวน้อย
3
ความแสบของสาวน้อย
12:00 น.
“คุณหมอค่ะ คุณหมอ คนไข้แย่แล้วค่ะ”
“มีอะไรเหรอ คุณนามิ”
นางพยาบาลสาวสุดสวยอยู่ในชุดลัดรูปสีขาวสะอาด วิ่งหน้าตื่นไปหาคุณหมอวัยกลางคนที่กำลังอ่านวิจัยอยู่ถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมาถามนางพยาบาล
“คุณหมอค่ะ คนไข้มีเลือดออกที่หลังมือ ตอนนี้อาการคนไข้อาการหนักเลยค่ะ”
“ทำไม ถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ”
“รู้สึกว่า สายน้ำเกลือโดนกระชาก จนทำให้เส้นเลือดแตก เลือดเลยไหลไม่หยุดค่ะ”
“งั้นรีบไปกันเถอะครับ”
เมื่อคุณหมอได้ทราบอาการจึงรีบพานางพยาบาลไปดูอาการคนไข้ทันที
........................................................................................................................................................
“นายครับ อิคชินรายงานมาตอนนี้ อาการคุณอากาสะ มินาโกะอาการหนักมากครับ”
“เฮ้อ.. แล้วคราวนี้ยัยนั่นเป็นอะไรอีกล่ะ”
“รู้สึกว่าเสียเลือดมาก ตอนนี้อาการหนักมากครับ เพราะทางเราหาเลือดไม่ทัน”
“...”
ยัยนี้เรื่องมาก มากเรื่องจริงๆ ต้องทำให้คนทั้งคฤหาสน์เลือดร้อนกันไปหมด แล้วเธอไปทำอีท่าไหนถึงเลือดไหลขนาด เพราะตอนนั่นผมก็เห็นสลบไปตั้งแต่แรกแล้วนี่ งั้นหมายความว่าเป็นตั้งแต่ตอนทะเลาะกันละมั่ง มันก็น่าอยู่หรอก ดิ้นซ่ะขนาดนั้น สมแล้วล่ะ
“บอกให้คนของเราหาเลือดมาให้ได้ ไม่งั้นรู้ใชไหมว่าจะเป็นไง”
“ครับ นาย”
“ทำให้ฉันวุ่นวายนักนะ กลับไปเธอโดนฉันแน่”
เสียงพูดราวกระซิบที่ผ่านออกมาจากปากคู่สวยแต่ปากนี้ที่สั่งฆ่าคนมานักต่อนักแล้ว ถึงจะอายุ เพียง27 ปี แต่ก็เป็นถึงหัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่ ที่มีลูกน้อง คนติดตามเป็นหมื่น เป็นดาวรุ่งที่เหล่ามาเฟียจับตามอง เพราะอายุยังน้อยแต่ความสามารถน่าเกรงขามมาก จัดการแก๊งมาเฟียที่มาขัดแข้งขัดขามาไปไม่น้อย จนตอนนี้ไม่ค่อยมีมาเฟียแก๊งไหนอยากมายุ่งด้วยซะเท่าไรนอกจากแก๊งของมาเฟียฮัจจิที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน และก็เพราผลประโยชน์บางอย่างเกี่ยวข้องกับวงการมาเฟียทำให้เกิดการขัดคอกันอยู่เสมอ
.......................................................................................................................................................
“คุณหมอค่ะ ทางเราหาเลือดได้แล้วค่ะ”
“ดีงั้นเราเริ่มกันเลย”
เพียงเวลาผ่านไปไม่นาน ทางพยาบาลก็สามารถหาเลือดที่มีกรุ๊ปที่ตรงกับสาวน้อยที่นอนหน้าซีดอยู่ได้ เป็นเพราะอิทธิพลของหัวหน้ามาเฟียใหญ่เพราะเมื่อใช้เส้นสายเพียงเล็กน้อยก็สามารถได้ในสิ่งที่ต้องการ
การรักษาผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เพราะความร่วมมือของทั้งคุณหมอและคนไข้ ตอนนี้คนไข้จึงมีอาการดีขึ้น ตอนนี้ก็เหลือแค่ให้สาวน้อยฟื้นแค่นั่น คุณหมอและนางพยาบาลคนสวยจึงขอกลับทางโรงพยาบาล ทั้งสองเป็นแพทย์ของทางคฤหาสน์โดยเฉพาะ เพราะลูกน้องของแก๊งมาเฟียมีคนเจ็บอยู่เป็นประจำ อย่างเช่นวันนี้ที่คุณหมอและนางพยาบาลสาวไปโรงพยาบาลก็เพื่อที่จะเอาอุปกรณ์แพทย์มารักษาลูกน้องแก๊งมาเฟียอีกเช่นเคย
“อือ..”
ร่างน้อยเริ่มรู้สึกตัว บิดขี้เกลียดเนื่องจากนอนทับตัวเองเป็นเวลานาน และยังมีเสียงครวญครางเพราะความเมื่อย ทำให้สายตาหนึ่งมองอย่างเอ็นดูเพราะความน่ารัก ใสซื่อ
“ไง ตื่นแล้วใช่ไหม”
ร่างน้อยยังเอาแต่ขยี้ตา อย่างกับลูกแมวตัวน้อยๆ สร้างรอยยิ้มให้กับหัวหน้ามาเฟียใหญ่ ทำให้ลูกน้องที่พึ่งเดินเขามาแอบตกใจกลับรอยยิ้มของนาย แต่เมื่อชายหนุ่มเห็นลูกน้องเข้าก็ปรับหน้าตาให้กลับมาขึมน่าเกรงขามเหมือนเดิม
“มีอะไร”
ชายหนุ่มพูดเสียงเข้มกลบหน้าตาอ่อนโยนเมื่อครู่ ทำให้ลูกน้องสะดุ้งเล็กน้อยกับท่าทีที่เป็นไปมาของเจ้านาย
“คือนำอาหารกับยามาให้นะครับ เผื่อเธอเธอรู้สึกตัวแล้วจะได้ทานครับ”
“แค่นี้ใช่ไหม”
“ครับ”
ชายหนุ่มยังคงเสียงขึม
“ถ้างั้นก็ไปได้แล้ว ยืนทำอะไรอยู่ได้”
“ครับ”
ลูกน้องละลำละลักด้วยความตกใจ
“เดี๋ยว..ครั้งต่อไปเคาะประตูด้วยเข้าใจไหม”
“ครับ ผมต้องขอโทษด้วยครับนาย ผมไม่คิดว่านายจะอยู่ในนี่เลยไม่ได้เคาะประตูครับ”
คำพูดของลูกน้องทำให้ชายหนุ่มแอบงงกับตนเองเหมือนกันที่ตนเข้ามาอยู่ในนี้ ถึงเขาจะคอยทะเลาะกับสาวน้อยตรงหน้าตลอดแต่เหมือนการต่อกรกันตลอดเวลา กับเป็นเหมือนตัวยาที่เจ้าตัวอยากเสพจนเริ่มขาดไม่ได้ และเมื่อไม่ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วนานเข้า เขาก็เริ่มโหยหามันอย่างน่าแปลก
“O_O”
แล้วตอนนี้สาวน้อยก็กำลังจ้องเขาตาแป่ว
“มองอะไรยัยตัวดี”
“ฉันแค่สงสัยว่าฉันตื่นมาทีไรต้องเจอแต่หน้านาย”
นั่นไงคำถามเดิมๆ มาอีกแล้วทั้งที่เขายังหาคำตอบให้ตัวเองยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
“ฉันก็จะมาเล่นงานเธอนะสิ รู้ไหมความดื้อดีเดือดของเธอมันทำให้ทั้งเธอเองและคนอื่นวุ่นวายแค่ไหน”
“ฉันไปทำอะไรไม่ทราบ”
“มือเธอนะไปทำอะไรมา จำได้บ้างไหม”
สาวน้อยมองหลังมือตัวเองอยู่สักครู่ แต่แค่ครู่เดียวที่เธอมองก็ทำให้รอยยิ้มกวนๆสดใสเมื่อครู่หายไปเกือบหมดเหลือเพียงสีหน้าซีดๆดูกังวล
“ทำไมมันถึงเป็นขนาดนี้เนี๋ย แค่กระชากนิดเดียว ไม่น่าเป็นขนาดนี้นิ”
“กระชากงั้นเหรอ”
ผมถามเสียงดุ แล้วดูเหมือนเธอจะตกใจเล็กน้อย แล้วรีบเปลี่ยนสีหน้าให้ปกติที่สุด
“ฉันไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย แค่รีบวิ่งจนลืมว่าตัวเองมีสายน้ำเกลืออยู่”
“นี่หมายความว่าเธอรู้ตัวตั้งแต่แรก แต่กับปล่อยเอาไว้เหรอ”
ทำไมเขาถึงไม่ทันสังเกตน่ะ ยั่ยตัวดีนี่ก็ปล่อยไว้เฉยๆไม่ยอมบอก มันน่านัก ผมได้แต่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ
“มันเรื่องของฉัน นายยุ่งอะไรด้วย”
“ยัยบ๊อง รู้ไหมเพราะความดื้อของเธอนะ เกือบทำเธอเลือดหมดตัวนี้ถ้าทางฉันหาเลือดให้ไม่ทันล่ะก็ป่านนี้เธอได้ไปทัวร์นรกแล้ว”
“...”
“นี่ฟังฉันอยู่ไหมเนี่ย”
“ก็เพราะใครล่ะดันเอายาสลบมาโปะ ถ้าฉันไม่สลบไปก็ไม่เลือดไหลจนหมดตัวหรอก”
ผมอึ้งไปแป๊บนึง มันก็ถูกอย่างที่เธอว่า แต่เมื่อตอนนั้นมันน่านักกล้าด่าเขาที่เป็นถึงหัวหน้ามาเฟีย ที่ใครก็ไม่กล้าหือ แต่ยัยนี่กับทั้งด่าทั้งเถียงมันน่าจับลงโทษซะให้เข็ด แต่เมื่อเห็นคนตรงหน้าเอาแต่มองๆจ้องๆที่หลังมือ อย่างกล้าๆกลัวหน้าถอดสี ก็อดไม่ได้ที่จะสงสาร เอ่ะ สงสารเหรอ ผมสงสารยัยนี่เหรอ ทั้งๆที่ความสงสารใจอ่อนผมทิ้งมันไปตั้งแต่ตัวเองมาเป็นหัวหน้ามาเฟียแล้ว
“เจ็บละสิ”
“เรื่องของฉัน นายไม่ต้องมายุ่งหรือมาสมน้ำหน้าฉันเลย”
“รู้ตัวนี่ว่าคนเขาต้องสมน้ำหน้า อยากเก่งเกินตัวก็อย่างนี้แหละ”
“เชอะ”
เธอได้แต่สบัดหน้าบึงๆหนี คงเถียงไม่ออกล่ะสิ ผมล่ะเหนื่อยใจกับเธอจริง ถ้านี่เป็นลูกน้องผมคงโดนผมจัดการจนกระอักเลือดไปแล้ว ผมละสายตาจากเธอแล้วหันไปเข็นโต๊ะเลื่อนที่วางอาหารกับยาของเด็กดื้อมาข้างเตียง และสายตาเธอก็แอบงงงวยกับพฤติกรรมของผม แต่อย่าว่าแต่เธอเลยผมยังงงกันพฤติกรรมของตัวเองเลย
“อ้าว กินซะ จะได้กินยา”
เธอมองอาหารและทำท่าชั่งใจนิดนึงก่อนที่จะหยิบช้อนส้อมตักอาหาร
“อ่ะ..โอ้ย”
แค่จับช้อนส้อมก็ร้องแหละ มันจะกินไหวเหรอ เฮ้อ ผมได้แต่มองท่าทีสงสาร มือข้างนึงก็เจ็บ ส่วนอีกข้าวก็พึ่งโดนยิงมา เฮ้อ..
“มานี่ฉันช่วย”
ผมทนไม่ไหวเลยดึงช้อนส้อมออกจากมือ แต่มีเหรอที่ยัยนี่จะยอมอะไรง่ายๆ ดื้อเป็นที่สุด ไม่ว่าผมจะออกแรงดึงยังไง ยัยตัวแสบก็กำแน่นที่อย่างนี้ทำเป็นมีแรง
“อะไร นี่นายจะทำอะไรอีกล่ะ”
“ฉันก็จะป้อนให้ไง ถ้าให้เธอกินเองชาติหน้าคงจะได้กิน”
“ไม่ต้องฉันกินเองได้”
“นี่ไม่ต้องมาดื้อ มานี่เร็ว”
เฮ้อ ยัยนี่ดื้อกว่าที่ผมคิดเยอะมาก จนผมเริ่มโมโหแล้วมีอย่างที่ไหน ผมอุตส่าห์ลงทุนทำให้ขนาดนี้แล้วยังมาเรื่องมากอีก ผมจะบอกให้ว่าไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับใครมาก่อน ยัยนี่เป็นคนแรก ยังจะมาเล่นตัวอีก
“ไม่ต้อง ฉันกินเองได้ ที่จริงถ้านายไม่มาแย่งช้อนฉัน ฉันกินหมดไปแล้ว ชอบยุ่งจริง ฉันไม่ได้ขอก็ไม่ต้องทำ ฉันไม่ได้ต้องความช่วยเหลือจากนาย นายนะมีแต่ทำให้ฉันเดือดร้อน อ่อคงอยากจะชดเชยความผิด ฉันว่าไม่ต้องเหรอ แค่นายไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้า แค่นี้ก็เป็นพระคุณอย่างยิ่งแล้ว”
“...”
ตอนนี้บอกได้เลยว่าผมโมโหมาก ผมแค่สงสารอยากจะช่วย แต่ดูเธอสิ พูดแบบนี้ที่จริงมันน่าฆ่านักเพราะลูกน้องที่เคยว่าผมตอนนี้ไม่อยู่ในโลกนี้ไปหลายรายแล้ว ผมกำลังควบคุมตัวเองเป็นอย่างมากกำมือแน่นจนมันเป็นข้อเลือดสาเหตุของมาจากเล็บที่จิกอยู่ ผมก็ไม่ยอมยัยนี้ง่ายๆ จะให้รู้ว่าถ้ามากทำให้ผมโกรธแล้วจะโดนอะไร
“นี่สรุปจะให้ฉันกินไหมเนี๋ย บอกให้เอามาช้อนมา”
แล้วเธอกับผมก็ยังแย่งช้อนกันต่อ เธอคนนี่ไม่คิดที่จะลดราวาศอกเลยใช่ไหม ยิ่งเห็นมันยิ่งขัดใจนัก
“เอามา”
“ไม่”
“ฉันบอกว่าเอามาอย่ามายุ่ง เลิกยุ่งกับชีวิตฉันซะที่ ฉันเกลีดนายยยยยย”
-ฉึก-
“O_O”
“...”
‘ฉันเกลียดนาย’ อยู่ๆคำนี่มันก็ทำให้ผมชะงักไปเฉยๆ จนทำให้ส้อมที่เหวี่ยงไปมาด้วยความแรงแทงเข้าที่แขนผม คำๆเดียวทำให้ผมอึ้งจนไม่ทันได้หลบเลยเหรอ ตอนนี้ ยัยนั้นมองอย่าง อึ้งๆสลับกับมองที่มือตนเองที่กำลังถือส้อมที่โฉกไปด้วยเลือด ผมโกรธมาก โกรธจนลมออกหู ทำไหมผมถึงโกรธเธอขนาดนี่นะ ทั้งๆที่ผมไม่ได้โกรธที่เธอทำผมเจ็บแต่ทำให้ผมโกรธได้มากขนาดนี่นะ ผมจ้องหน้าเธออย่างโหดเหี้ยม จนตอนนี้เธอหลบสายตาผมไปแล้ว แต่ก็ยังทำหน้าไม่สำนึก เครียดโว๊ย ทำไม่ยัยนี่ทำผมขึ้นได้ขนาดนี้ เมื่อยิ่งมองหน้าเธอยิ่งเครียดผมเลยได้แต่หันไปทางอื่นเพื่อระงับความโกรธไม่งั้นผมต้องฆ่าเธอแน่ๆ
-เพล้งงงงงงงง-
โธ่โว๊ย ทนไม่ไหวแล้วยิ่งเห็นชามข้าวต้มกุ้งเจ้ากรรมนี่ยิ่งทำให้ยิ่งขึ้น เพราะมันเป็นต้นเรื่องแต่คนต้นเรื่องจริงๆมันยัยนี่มากกว่า ว่าแล้วก็ไม่ต้องกงต้องกินมันแล้ว เก่งขนาดนั้นไม่ต้องกินอีกสักมือก็ยังไม่ตายหรอก ผมเลยปัดชามข้าต้มตกแตก ยิ่งทำให้ร่างเล็กสะดุ้ง มองผมด้วยท่าทีหวาดกลัวเข้าไปอีก ดีหัดกลัวผมให้เยอะๆ จะได้ไม่ทำตัวดื้อให้ผมหัวเสียอีก
“ฉัน...”
ผมไม่อยากฟังเสียงสั่นเทาของยัยนี่ พอเธอตั้งท่าจะเอยปากผมก็หันหนี แล้วก็ควานหาโทรศัพท์เครื่องบางเฉียบสุดหรู่ขึ้นมา แล้วกรอกเสียงโหดๆลงไป
“นี่คิสึเกะ เตรียมออกรถ ฉันจะไปข้างนอก เร็วๆนะ ถ้าให้ฉันอยู่ที่นี่นานกว่านี้อีกนิดฉันต้องได้ฆ่าคนแน่”
ระหว่างที่พูดผมก็ชำเลืองมองร่างเล็กดูตื่นตกใจเล็กน้อย แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ผมต้องการ ผมจะให้ยัย นี่รับรสชาติความหวาดกลัวไปจนถึงเบื้องลึกของจิตใจ เอาให้ช็อคจนตายเลย
“อ่ะ แล้วอีกอย่างสั่งคนของเราให้จับตามองเธอไว้อย่าให้ขาดสายตา ข้าวปลาก็ไม่ต้องยกขึ้นมา เก่งนักก็ไม่ต้องกิน”
ประโยคหลังผมพูดใส่หน้าเธอจังๆ จนเธอหน้าบึงและก็สบัดหน้าหนี ไม่สำนึกจริงๆยัยตัวดี สงสัยต้องสั่งสอนกันอีกนาน
(ตอนหน้าช่วยติดตามต่อด้วยนะค่ะ)
ความคิดเห็น