คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Moon nightmare > 03 > Yaoi novel
บทที่ 3
หมาป่าหนุ่มต่างเผ่าทำให้คนแตกตื่นกันไปทั้งหมู่บ้านเมื่อเขากลับมาพร้อมกับใบหน้าแดงก่ำที่เหมือนพร้อมจะปล่อยหยดน้ำตาอยู่ทุกเมื่อ ดวงตาคู่โศกคลอฉ่ำหยาดน้ำ เดินไม่พูดไม่จา ไม่มองหน้าสบตาใครตรงไปยังบ้านท่านหัวหน้าเผ่าซึ่งตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน
เมสผลักบานประตูเข้าไปด้วยแรงอารมณ์ ก่อนจะระเบิดคำพูดทันทีโดยไม่สนใจว่าจะมีใครอยู่ตรงนั้นบ้าง
“ท่านลุง !!! ข้าไม่แต่งกับกอร์ณ กาเซียร์เด็ดขาด !!! ข้าจะไม่มีวันแต่งงานกับเขา !!”
ท่านหัวหน้าเผ่าการ์เซียร์คนปัจจุบันถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆก็ถูกระเบิดอารมณ์ใส่ และเมื่อตั้งสติได้ก็รีบเข้าไปหาหมาป่าหนุ่มที่ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ปกติ เก็นกอดร่างย่อมและต่ำกว่าหลวมๆเป็นการปลอบเพราะเห็นแล้วว่าบุตรชายของสหายต่างเผ่ายามนี้สั่นไปทั้งตัว...
“เดี๋ยวก่อนนะเมส....ใจเย็นๆก่อน เกิดอะไรขึ้น?”
“ข้าไม่แต่งงาน.....”
เมสไม่ยอมให้คำตอบ หมาป่าขนเทาย้ำแค่คำเดิมด้วยเสียงสั่นเครือ จนเก็นฉุกคิดสงสัยขึ้นมาทันที...
กอร์น.....เจ้าลูกวายร้ายทำอะไรกับเมสกันแน่ เขาผิดเองที่ไว้ใจให้เมสไปเจรจาตามลำพัง....
เสียงถอนหายใจยาวดังตามมา หัวหน้าเผ่าสุนัขขนดำตีสีหน้ายุ่งยาก ทางนึงก็ลูก ทางนึงก็นับเป็นหลานที่เอ็นดู
กอร์นยืนยันมาดมั่นว่าจะไม่แต่งกับใครที่ไหนทั้งสิ้นนอกจาก หมาป่าขนเทาที่ชื่อเมส ลานูฟ แต่ที่เห็นอยู่นี่คนที่บุตรชายท่านอยากร่วมหอลงโรงด้วยไม่ได้คิดแม้เศษเสี้ยวเลยว่าจะเออออด้วย....
ฝืนใจไปหรือก็คงจะไม่ดีนัก...ถ้าอย่างนั้นก็คงต้อง....
“อาวละๆ ไม่อยากแต่งก็ไม่ต้อง.....”
“ถึงไม่อยากก็ต้องแต่ง !!”
ยังไม่ทันพูดได้จบคำด้วยซ้ำเสียงห้าวดุก็ดังขัดขึ้น ทั้งเมสและเก็นเหลียวไปพร้อมกันก็สบเข้ากับร่างสูงใหญ่บึกบึนและดูท่าทางจะอยู่ในอารมณ์ไม่ดีนัก...
กอร์น การ์เซียยืนอยู่ตรงทางเข้าประตู วางศอกข้างหนึ่งลงบนขอบประตูไม้โค้งมน สบมองดวงตาสีดำที่มองตอบเขาอย่างหวาดหวั่น
“แล้วก็ต้องคนนี้เท่านั้นนะ.....คนอื่นข้าไม่เอา..”
พลันเสียงขู่คำรามของเมสก็ดังตามมา เก็นที่เห็นอาการหมาป่าหนุ่มแห่งลานูฟต้องรีบคว้าร่างผอมเพรียวที่ตั้งท่าจะเล่นงานลูกชายคนรองของเขาเต็มที่ เมสไม่ใช่คนเลือดร้อนและออกจะเรียบร้อยเสียด้วยซ้ำ หวังว่าไอ้คนที่ทำให้เมสลุกขึ้นมาสติแตกได้แบบนี้คงจะไม่ใช่ลูกชายตัวดีของท่านหรอกนะ...
“กอร์น...หยุดพูดจาเอาแต่ใจอย่างนั้นซะที เจ้าไม่เห็นรึว่ากำลังทำให้น้องกลัว....แล้วนี่เจ้า..ไปทำอะไรน้องน่ะฮะ....พ่อบอกแล้วใช่ไหมว่าให้คุยกับน้องดีๆ”....
ท้ายประโยคท่านหัวหน้าเผ่าการ์เซียเบาเสียงลงแทบเป็นกระซิบดุๆ หากเป็นกับหมาป่าตนอื่นๆในเผ่าคงได้กลัวหงอไปแล้ว หากแต่ไม่ใช่กับกอร์น เขาทรงพลังเกินไปมากกว่าจะมีใครข่มได้ลงแม้แต่ผู้เป็นบิดาก็เถอะ ทว่าก็ยังดีหน่อยที่กอร์นก็ยังพอจะรู้ว่าควรอ่อนน้อมกับใคร
หมาป่าหนุ่มร่างหนายักไหล่ก่อนตอบยิ้มๆ..
“จูบ....”
“แก !!!!”
เก็น การ์เซียต้องเพิ่มแรงของตนเข้าไปอีกในการที่จะรั้งร่างของเมสเอาไว้ นี่ถ้าเมสตัวโตกว่านี้อีกนิดเดียวท่านผู้นำการ์เซียก็อดคิดไม่ได้ว่าจะรั้งเอาไว้อยู่หรือเปล่า...
“แล้วก็....ลูบๆ คลำๆอีกนิดหน่อย...”
“กอร์น !! พอได้แล้วนะ !!”
หากว่าเสียงตวาดนั้นจะไม่ดังขึ้นซะก่อน บุตรชายคนรองของเก็น การ์เซียก็คงจะไม่เงียบเสียงลงได้ นั่นเพราะว่าเจ้าของเสียงนั้นคือสตรีที่กอร์นเกรงใจที่สุดในโลกนั่นเอง..
“ท่านแม่.....”
เสียงที่เปี่ยมด้วยความเคารพครางเรียกหญิงวัยกลางคนที่ดูจะอ่อนกว่าอายุอยู่มาก ใบหน้าของนางดูงดงามและเต็มไปด้วยอำนาจโดยเฉพาะแววตาที่จ้องมองผู้เป็นลูกไม่วางตาก่อนจะละไปมองยังอาคันตุกะต่างเผ่าด้วยแววตาที่ต่างออกไป เรียวแขนอ้อนแอ้นอ้าออก รอยยิ้มมีเมตตาส่งไปให้ เมสลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ผละจากท่านลุงเก็นเข้าไปหานาง...สวมกอดร่างอ่อนนุ่มอบอุ่นเอาไว้
“ท่านป้าเอลิเชีย..”
เอลิเชียเป็นบุตรสาวของเผ่าหมาป่าที่มีผู้หญิงเป็นผู้นำ นางจึงแข็งแกร่งไม่ต่างจากบุรุษทั้งจิตใจและฝีมือการรบ หลังจากแต่งงานเข้ามาในเผ่าการ์เซียนางจะยอมลดบทบาทของตนเองลงบ้างเพื่อผู้เป็นสามี แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าเอลิเชียมีอำนาจเพียงใด เพียงแต่นางไม่เคยอวดบารมีของตนเท่านั้นได้แต่ใช้สิ่งที่ตนมีหนุนหลังผู้เป็นสามีอยู่เงียบๆ
“จะพูดจะจาอะไรก็หัดเกรงใจกันบ้าง....แม่ไม่เคยสอนเจ้ารึว่าควรรักษามารยาทต่อหน้าผู้ใด...”
หากเอลิเชียเป็นหญิงที่กอร์นให้ความเกรงใจที่สุดในโลก มาทาร์ก็เป็นหญิงที่กอร์นให้ความเคารพเชื่อฟังมากที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน...
แม้จะเป็นมารดาชาวมนุษย์แต่มาทาร์ก็วางตัวได้น่ายำเกรงได้มากพอที่จะควบคุมกอร์นได้ รวมถึงการที่นางเลี้ยงดูพี่ชายต่างสายเลือดของเขาอย่าง กิล การ์เซียได้ไร้ที่ติ นั่นยิ่งทำให้กอร์นเทิดทูนบูชานางเทียมเท่ามารดาของตนเลยทีเดียว
“ทราบครับท่านแม่ใหญ่ แต่ไหนๆเมสก็จะมาเป็นคนในครอบครัวของเราแล้ว ข้าไม่เห็นว่าจะมีเรื่องอะไรที่จะต้องปิดบังกันนี่ครับ...”
“ใครจะไปเป็นครอบครัวเดียวกันกับเจ้า !! อย่ามาพูดพล่อยๆนะ !!”
เมสแหวใส่เสียงเขียว และกอร์นก็สวนกลับมาทันควันอย่างไม่ยอมแพ้กันเลยทีเดียว
“เจ้าไง ! อย่าทำมาเป็นจำไม่ได้เชียวนะ ข้าไม่ลืมแน่ๆว่าเจ้าตกลงอะไรกับข้าไว้ หรือว่าลานูฟคิดจะผิดคำพูดล่ะหา”
เมสเถียงไม่ออกได้แต่ทำตาแดงๆ เรื่องนี้นับเป็นความผิดเขาเต็มประตูที่เผลอใช้อารมณ์จนตกปากรับคำออกไป และจะเอามันคืนกลับมาตอนนี้ก็ไม่ได้เสียด้วย
“ข้าไม่เคยผิดคำพูดกับใคร !!”
“ดี....”
ชายหนุ่มทำเสียงพออกพอใจที่ทำให้เมสถลึงตาอย่างโกรธแค้น
“ได้ยินกันแล้วนะครับท่านแม่ทั้งสอง ถ้าอย่างนั้นกรุณาจัดให้ข้านอนห้องเดียวกับเมสด้วยเถอะครับ..”
และยังหันไปพูดหน้าตายกับแม่ๆทั้งสองอีกด้วย
แน่นอนว่าเมสคงไม่ยอม หนุ่มหมาป่าขนเทาทำตาโตตกใจก่อนจะหันไปทำสายตาอ้อนวอนหญิงสาวที่ตนกอดเอาไว้แน่น เป็นตายร้ายดีอย่างไร เรื่องที่เจ้าการ์เซียร้ายกาจคนนั้นพูดออกมามันจะต้องไม่เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
“กอร์น...”
เอลิเชียออกโรงอีกครั้ง ทำเสียงปรามลูกชายตัวโตที่กำลังเริ่มตีหน้าขุ่นขึ้นมาแล้ว
“เอาแต่พอดีไม่ได้รึไง ยังไม่ได้แต่งกันจริงๆสักหน่อย จะค้างห้องเดียวกันไม่เหมาะหรอกนะ คืนนี้เมสไปนอนที่ห้องรับรองแล้วกันนะลูก...”
สิ้นคำคนที่ไม่สบอารมณ์เลยกับการตัดสินใจนั้นก็จำต้องสงบปากอย่างที่ทุกคนในที่นั้นกำลังต้องการให้มันเกิดขึ้นเป็นเพราะว่าคำพูดเฉียบขาดที่เอ่ยดุกับเขาและหันไปตัดบทเรื่องห้องกับเมสทันที แน่นอนว่ากอร์ณไม่ได้รู้สึกพอใจในคำตัดสินนั้นอยู่แน่ๆแต่เขาก็แย้งไม่ออกเช่นกัน จึงได้แต่ทำหน้าฮึดฮัดและดวงตาขวางเหมือนเด็กที่ถูกขัดใจแต่กลับงอแงไม่ได้
ส่วนเมสไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหนุ่มลานูฟโล่งใจมากแค่ไหน ดูได้จากรอยยิ้มสว่างไสวที่หันไปส่งให้กับภรรยาคนแรกและคนรองของหัวหน้าเผ่าการ์เซียซึ่งทั้งสองก็รีบยิ้มตอบมาอย่างมีเมตตาและเข้าอกเข้าใจ
ปัญหาทุกอย่างที่ตรงนั้นคลี่คลายลงด้วยดี ไม่มีการต่อความยาวสาวความยืดไปถึงโต๊ะอาหารในมื้อค่ำที่เมสได้ร่วมโต๊ะกับครอบครัวหัวหน้าเผ่าการ์เซียเป็นครั้งแรก แม้ว่าคู่หมั้น(ที่เขาแสนเกลียด)อย่างกอร์ณจะพยายามหาเรื่องอยู่ตลอดเวลาแต่คำพูดของเจ้าคนร่างยักษ์นั่นก็ถูกตีตกประเด็นไปทุกครั้งด้วยฝีมือภรรยาทั้งสองของท่านลุงเก็นที่ได้แต่นั่งอมยิ้มมองสิ่งที่เกิดขึ้นเงียบๆ
จบมื้ออาหารค่ำเมสก็ถูกนำทางไปยังห้องพักรับรองของบ้าน ห้องพักที่เมสได้รับเกียตริให้เข้าพักนี้นับว่าเป็นห้องที่หรูหราที่สุดในเผ่าการ์เซียก็ว่าได้ มันถูกสร้างไว้เพื่อรับรองแขกคนสำคัญๆของเผ่าโดยเฉพาะ
ขนาดของห้องเท่ากับห้องนอนธรรมดาสามห้องรวมกัน มีส่วนอาบน้ำแยกต่างหาก เตียงใหญ่โตปูด้วยที่นอนสีขาวและปูทับด้วยหนังเสือและผ้าห่มก็เป็นผ้าห่มขนนกชั้นดี นอกจากนี้เครื่องเรือนก็ล้วนแต่เป็นของดีที่คาดว่าน่าจะซื้อหามาจากดินแดนของพวกมนุษย์ และเมสก็ไม่ได้คาดเดาผิดนักเพราะห้องนี้เป็นฝีมือการตกแต่งของมาร์ทาหญิงชาวมนุษย์ภรรยาเอกของ เก็น การ์เซียร์นั่นเอง
ผู้ที่นำทางเมสมายังห้องพักเป็นหญิงสาวที่เอลิเชียส่งมา เด็กสาวหน้าตาคมที่คงจะอ่อนกว่าเมสไม่กี่ปีชื่อของเธอคือ ชาช่า
ชาช่ามีผมยาวดำตรงสลวยเหมือนกลุ่มเส้นด้ายดำมันจรดบั้นเอว รูปร่างค่อนข้างบางหากแต่สัดส่วนกลับโค้งเว้าได้น่ามองยิ่งนักโดยเฉพาะเมื่อเธอสวมชุดที่ช่วยขับผิวสีเข้มและความเด่นของรูปร่างออกมาอย่างชนิดที่รู้ว่าควรจะ “อวด” แบบไหน
จริงอยู่ว่าชาช่าอาจจะไม่ได้ถึงกับแลดูน่าทนุถนอมเท่ากับมียาน้องสาวคนสวยของเมส หากเธอก็ได้ความคมเช่นชาวการ์เซียและความสวยจัดจ้านเข้ามาทดแทน แน่นอนว่าความยวนตาต่อผู้มองและความน่าค้นหาจากดวงตาที่นิ่งเรียบย่อมมีมากกว่ามียาแน่นอน
ท่านลุงเก็นแนะนำว่าชาช่าเป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆกับกอร์ณที่ทุกคนในครอบครัวการ์เซียให้ความเอ็นดู เธอมักจะมาช่วยดูแลทำความสะอาดที่บ้านนี้เสมอ และน่าสงสัยสำหรับเมสเหลือเกินว่าในเมื่อมีหญิงสาวมากเสน่ห์ขนาดนี้มาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ เจ้าคนบ้านั่นกลับมองข้ามไปได้ยังไง ?
“อาบน้ำเสร็จแล้วหรือคะ ท่านเมส?”
เมสที่ก้าวออกมาจากห้องอาบน้ำที่ทำจากหินส่งยิ้มน้อยๆให้หญิงสาวเจ้าของคำทักทายที่กำลังจัดปูที่นอนรอให้แขกในคืนนี้ได้พักผ่อน
“สบายตัวหรือเปล่าคะ...”
เสียงหวานๆยังคงถามต่อไป
“น้ำอุ่นทำให้รู้สึกดีมากๆ ช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการดินทางได้มากเชียว ขอบคุณมากเลยชาช่า”
หมาป่าหนุ่มแห่งเผ่าขนเทาทิ้งน้ำหนักลงบนเตียงที่ปูเสร็จแล้วและเจ้าของฝีมือปูเตียงตึงเป๊ะก็ถอยออกไปยืนอยู่ที่ปลายเตียงดวงตาสีดำอมเทาจ้องมองมาคล้ายกับสังเกตโดยที่เมสไม่รู้สึกตัวหรือเอะใจต่อการจ้องมองของนาง
“จะเข้านอนหรือยังคะ ?..”
“ก็ว่ายังนะ...เอ....เจ้ามีอะไรหรือเปล่า ท่าทางเจ้าเหมือนมีเรื่องอยากจะพูดกับข้า”
และเมสก็รู้สึกจนได้ว่าหญิงสาวที่ทำหน้าที่ของตนเสร็จแล้วตามมารยาทก็ควรจะขอตัวกลับไปและปล่อยให้แขกได้พักผ่อน หากแต่ที่เธอยังคงซักนู่นซักนี่เขาอยู่ก็ทำให้เมสพอจะเดาได้ว่าเธอคงมีเรื่องที่ต้องการพูดกับเขา...
เมสมองดวงตาคมสวยซึ่งจับจ้องเขานิ่งๆมันเต็มไปด้วยความนัยมากมาย และเมื่อเมสเอ่ยปากเช่นนั้นก็เหมือนกับการได้อนุญาตให้นางปล่อยทุกสิ่งที่ต้องการพูดออกมา
“ข้าพูดได้แน่หรือคะ ?...”
เสียงถามคล้ายหยั่งเชิงมากกว่าจะถามเอาความเห็นจริงๆ และเมสก็ไม่เข้าใจดวงตาเป็นประกายของนางเลยหากเขาก็พยักหน้าตอบรับออกไปอย่างที่คิดว่านางคงต้องการอย่างนั้นอยู่แล้ว
“กรุณากลับลานูฟเถอะนะคะ...”
“เอ๊ะ.....”
เสียงอุทานของเมสมีทั้งความตกใจและแปลกใจ หัวคิ้วของเขาขมวดมุ่นนั่นเพราะถูกไล่ให้กลับ แม้จะมีมารยาทมากแค่ไหนแต่นั่นก็เป็นคำไล่อยู่ดี ซึ่งจะบอกว่ามันน่าฟังรื่นหูคงเป็นไปไม่ได้แน่ๆ หมาป่าหนุ่มทำท่าจะโต้แย้งหากเขายังไม่ได้พูดอะไรหมาป่าสาวแสนงามก็เอ่ยออกมาอีก
“ข้ารักท่านกอร์ณค่ะ รักมานานตั้งแต่เล็กๆ และข้าเชื่อว่าตัวข้าเองเหมาะสมกับท่านกอร์ณมากกว่าท่านด้วย...ดังนั้น กรุณาหลีกทางให้ข้าจะได้ไหมคะ ?...”
เมสถึงกับอึ้งไปชั่วขณะด้วยความรู้สึกเหมือนถูกตีด้วยค้อนเข้าที่แสกหน้าจังๆ ผู้หญิงคนนี้พูดได้ตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมเลยสักนิดเดียว และเมสก็ไม่ปฏิเสธว่ามันตรงกับสิ่งที่เขาต้องการ แต่สิ่งที่ทำให้ลานูฟหนุ่มไม่ผลีผลามตกปากรับคำออกไปเพราะความรู้สึกเหมือนถูกถูกตบหน้าเข้าอย่างจังเนี่ยล่ะ
อารมณ์กรุ่นเล็กๆจึงปะทุขึ้นมาในอารมณ์ เมสทำคอแข็งและมีสีหน้าเย็นชาลงทันทีเช่นเดียวกับสายตาที่มองชาช่า ความรู้สึกเอ็นดูในตอนแรกละลายลงไปในทันที
“ข้าดีใจที่ชาช่าพูดตรงไปตรงมา แต่ข้าก็อดคิดไม่ได้ว่าควรหรือที่เจ้าจะมาเอ่ยปากกับข้าตรงๆเช่นนี้ ใช่ ถูกอย่างที่เจ้าพูด ข้าคงไม่เหมาะสมกับท่านกอร์ณคนดีของเจ้าและข้าก็เข้าใจว่ารักคงล้นอกเจ้านักหนา แต่สงวนท่าทีเอาไว้บ้างจะทำให้เจ้าดูงามกว่านี้รึเปล่า ?”
นางหมาป่าสาวต่างเผ่าทำหน้าเหมือนสะอึกเมื่อถูกหมาป่าหนุ่มหน้าสวยตอกเอาซึ่งหน้าอย่างนั้น ชาช่าเม้มปากแน่นไม่พอใจที่ทุกอย่างดูจะไม่เป็นดังหวัง...
ใช่ซิ..นางเฝ้าเก็บงำความรู้สึกและความไม่พอใจจนเป็นริษยาไว้มากแค่ไหนไม่มีใครเคยรู้ อกนางแทบจะระเบิดอยู่แล้วเมื่อได้เห็นท่านกอร์ณที่ปกติแล้วจะเย็นชาจนถึงขั้นไม่แยแสผู้คน กลับกลายเป็นอีกคนต่อหน้าหนุ่มต่างเผ่าผู้นี้
เธอหลงรักเขา ปารถนาในตัวเขายิ่งกว่าผู้ใด แม้ท่านกอร์ณจะให้ความเอ็นดูนั่นก็เพียงในฐานะน้องสาวเท่านั้น หากชาช่าก็เชื่อว่าเสน่ห์ที่มีคงมากพอที่จะมัดใจเขาไว้ได้เช่นเดียวกับความดุดันของเขาที่มัดใจเธอไว้แนบแน่น
ทว่าเธอได้รู้แล้วในวันนี้ในยามที่เห็นเมส ลานูฟ ความมั่นใจทั้งหมดที่มีถูกสั่นคลอนจนโคลงเคลงไปหมด ความงามของเมสนั้นไม่ใช่สิ่งที่น่าไว้วางใจ และที่ร้ายกว่าอะไรคือท่าทีของท่านกอร์ณที่แสดงออกอย่างเปิดเผยว่าสนใจในตัวของผู้เป็นคู่หมั้นอย่างเปิดเผย....ไม่ เธอยอมรับไม่ได้..มันจะจบแบบนี้ไม่ได้ !!
“ค่ะ..ข้าเป็นคนตรงไปตรงมาอย่างนี้แหละค่ะ อาจจะมีอะไรที่ดูไม่เหมาะสมในสายตาท่านเมสไปบ้างก็ต้องขออภัย แต่ข้าก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองพูดอะไรผิดเลยซะทีเดียว เรื่องที่ว่าข้าเหมาะสมกว่าท่านนั่นข้าพูดจริงนะคะ เพราะอย่างน้อย....”
สาวหมาป่ากดรอยยิ้มหยัน กวาดดวงตาคู่เข้มมองเมสตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ไล่ขึ้นและลง ถ้าตาไม่ได้ผาดไปเมสก็คล้ายจะเห็นประกายเหยียดหยามในดวงตาคู่นั้นอย่างชัดเจน
“ข้าก็ไม่ได้แปดเปื้อนมลทินใดๆอย่างท่าน”
สิ้นคำแล้วเมสรู้สึกเหมือนมีเข็มนับพันเล่มพุ่งเข้าปักที่หัวใจ เขาได้แต่ยืนนิ่งอึ้งไปอย่างนั้น เมสรู้ดีว่าข่าวของเขานั้นเล่าลือไปไกลทั่วทั้งในและนอกเผ่า หากก็ไม่เคยคิดว่าจะมีใครกล้ายกมันมาเสียดสีเขาซึ่งหน้าเช่นนี้ ในขณะที่เมสตะลึงจนลืมคำพูดไปชั่วขณะ
ชาช่าก็รู้ว่าตนเองได้เปรียบเธอขยับเตรียมจะพูดคำต่อไป แต่แล้วใบหน้าระรื่นของหมาป่าสาวก็กลับกลายเป็นซีดเผือดเหมือนที่เมสกำลังเป็น แต่สาเหตุนั้นไม่ได้เกิดมาจากลานูฟหนุ่มหากเป็นเพราะประกายตาเหี้ยมดุของชายหนุ่มที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังเมสนั่นต่างหาก !
“ข้าไม่คิดว่าจะมีใครที่ตัดสินเรื่องความเหมาะสมได้ดีกว่าตัวข้าหรอกนะ ...ชาช่า....”
เมสสะดุ้งๆ เสียงดุๆเรียกเขาให้ได้สติคืนมา หมาป่าหนุ่มรีบเหลียวไปทางต้นเสียงทางประตูห้องก็เห็นร่างของกอร์ณยืนอยู่ตรงนั้นกำลังส่งสายตาทรงอำนาจที่แทบจะทำให้ชาช่ายอบลงไปกองกับพื้นด้วยความกดดัน
“ท่านกอร์ณ...”
เสียงสั่นๆของหญิงสาวร้องเรียกแล้วก้าวถอยหนีชายหนุ่มที่ขยับเข้ามายืนตระห่านอยู่ปลายเตียงที่เมสนั่งอยู่เวลานี้ ไม่ต้องเห็นแววตาของเขาชาช่าก็พอจะรู้ได้ว่าท่านกอร์ณกำลังมองมาที่เธอด้วยแววตาน่ากลัวชนิดไหน กลิ่นอายของเขาบอกมันอย่างชัดเจน...
“ว่าไง ชาช่า เจ้ามีความเห็นยังไงอีก ไหนบอกข้าทีซิ....”
“ไม่มี ไม่มีค่ะ !”
เสียงเล็กๆร้องปฏิเสธปากคอสั่นอย่างน่าสงสาร
“...หรือว่าเจ้าคิดว่าข้าตาต่ำจนมองไม่ออกว่าใครเหมาะสมไม่เหมาะสม ?..”
ใครจะไปกล้าคิดกัน !! ชาช่าแทบจะตะโกนก้องออกมา
“เปล่าค่ะ ข้าเปล่า !”
เธอให้คำตอบแล้วส่ายหัวเป็นการใหญ่ ท่าทางนั้นบอกว่าเธอกลัวชายหนุ่มที่กำลังยิงคำถามใส่เธอไม่หยุดมากแค่ไหน จนเมสที่เห็นใบหน้างามกำลังเลือนสีลงไปเรื่อยๆอดนึกสงสารขึ้นมาไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี หากคราวหน้าเจ้ามีปัญหาในเรื่องนี้อีกก็ให้มาพูดกับข้าตรงๆ ไม่ต้องไปรบกวนคนอื่น เข้าใจรึเปล่า ?”
“ค่ะๆ ข้าเข้าใจแล้วค่ะ ท่านกอร์ณ ข้า...”
ชาช่าเอ่ยรับคำแทบไม่เป็นประโยค และก่อนที่เธอจะเอ่ยคำขอโทษ กอร์ณก็ตัดบทเสียงเข้ม
“กลับไปได้แล้ว....”
นางหมาป่าสาวก้มหน้าไม่กล้าเงยขึ้น สายตาของท่านกอร์ณที่เห็นเพียงแวบเมื่อครู่เกือบทำให้เธอแข็งเป็นหิน เธอยอมรับว่าชายหนุ่มมีดวงตาน่ามองหากคงไม่ใช่กับยามที่เขาใช้มองเธออย่างร้ายกาจแบบนี้
“อ้อ...ชาช่า...”
ปลายเท้าที่กำลังก้าวเร็วเพื่ออกจากห้องชะงักลงใบหน้างดงามหันกลับมาอีกครั้งเพราะเสียงเรียก
“ในบรรดาหญิงสาวของการ์เซียทั้งหมดข้ารู้สึกเอ็นดูเจ้ากว่าใคร....จงถนอมฐานะของเจ้าให้ดี อย่าให้ความรู้สึกอื่นก้าวเข้ามาแทนที่ได้ เพราะคนอย่างข้า..หากรักก็รักจริง หากชังก็ชังแน่จะไม่หวนมารักอีก....”
ชาช่าแทบน้ำตาร่วงกับคำนั้น เธอรู้ว่าท่านกอร์ณไม่เคยรักษาน้ำใจใคร หากเขาก็มอบความวางใจให้เธอมากที่สุด แต่เมื่อได้ฟังคำนี้แล้วก็เหมือนความหวังทั้งหมดที่เธอมีต่อเขาถูกดับลงแล้วโดยสิ้นเชิง หญิงสาวหมุนกายกลับและวิ่งออกไปทั้งๆน้ำตาที่นองอาบใบหน้า..เธอรู้แล้วว่าเธอไม่ควรรักเขาอีกต่อไป...
ยังคงเหลือแต่เมสที่มองผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา กอร์ณเองก็เลื่อนสายากลับมามองเมสเงียบๆเช่นกัน ครู่หนึ่งเขาจึงเดินเข้าไปทรุดกายนั่งบนเตียงใกล้ๆร่างที่ไม่ไหวติงเคลื่อนใบหน้าเข้าไปหาสบดวงตาใสแจ๋วสีดำสนิทในระยะใกล้ คำพูดมาพร้อมรอยยิ้มที่เมสคิดว่ามันไม่ควรอยู่กับชายคนนี้เลย เพราะถึงมันจะเป็นรอยยิ้มมันก็ดูเยาะหยันน่ารังเกียจเป็นที่สุด !
“จะไม่บอกขอบคุณข้าซักคำหรือ เมส ?”
ไม่ต้องให้บอกเมสก็คิดจะขอบคุณอยู่แล้วและกำลังชั่งใจว่าจะใช้คำพูดแบบไหนดีเมื่อได้ฟังลานูฟหนุ่มก็เกิดอาการคอแข็งขึ้นมาทันทีมองเจ้าคนกวนประสาทด้วยสายตาไม่พอใจต่อคำทวงบุญคุณนั่นนัก
“ข้าไม่ได้ขอให้ช่วย !”
“ฮืม....อันที่จริงเจ้าก็พูดถูก.....ข้าแส่เองแหละ”
ประโยคยอมรับทำเอาเมสต้องมองหน้าคมคายแบบชัดๆอีกครั้งและอดคิดไม่ได้ว่าที่พูดแบบนี้ออกมาเจ้าการ์เซียตัวนี้ต้องการให้เขามีความรู้สึกผิดใช่ไหม เมินเสียเถอะ !
“เข้ามาทำไมไม่ทราบ.....”
แต่กระนั้นเสียงที่ถามออกไปก็ยังฟังกำกวมอยู่ระหว่างบึ้งตึงกับใส่ใจ นั่นก็เพราะถึงจะบอกว่าเมินเมสก็ยังอดที่จะมีความรู้สึกผิดนิดๆไม่ได้ ช่วยไม่ได้เผ่าลานูฟถูกสั่งสอนมาเป็นอย่างดีเรื่องการตอบแทนผู้มีพระคุณนี่นา
“...ก็แค่อยากจะมาบอกราตรีสวัสดิ์....”
ตากลมโตของเมสเบิกกว้างอย่างคาดไม่ถึง แต่เมื่อรู้สึกตัวเขาก็รีบกลบเกลื่อนท่าทีด้วยการตีหน้ายักษ์เช่นเดิม
“เมส...”
แม้จะยังทำหน้าดุและทำท่าไม่ใยดีหากแปลกที่เมสกลับรู้สึกว่าหัวใจเขามีปฏิกิริยาตอบรับต่อเสียงเรียกชื่อนั้น จนหมาป่าหนุ่มต้องดุตัวเองแทบไม่ทัน มันก็แค่ความรู้สึกประทับใจนิดๆที่เมื่อกี้ผู้ชายคนนี้ออกหน้าปกป้องเขาเท่านั้นเอง ไม่ได้มีอะไรเกินกว่านั้น...
“อะไร.....”
เสียงที่แสร้งฝืนเย็นชาฟังทั้งปร่าและแปร่งหูจนกอร์ณต้องกดยิ้มมุมปากด้วยความรู้สึกพอใจ..
“พรุ่งนี้....ไปเที่ยวกับข้าไหม..”
“ไปเที่ยว...กับเจ้า...”
ความระแวงปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยซึ้งทันที ถึงจะเริ่มรู้สึกประทับใจเมสก็ยังไม่ได้ลืมไปหรอกนะว่าเมื่อเย็นที่ผ่านมาเขาถูกหยามไปถึงไหนต่อไหน ไอ้เรื่องที่จะทำเป็นปกติและไม่ใส่ใจกับมันย่อมต้องเป็นไปไม่ได้แน่ๆ
“ข้าก็บอกเจ้าไปแล้วนี่ว่าขอโอกาส..ให้ข้าได้ทำความสนิทสนมกับเจ้านะเมส..แล้วเจ้าก็....”
“ข้ารู้ ! ข้ารับปากเจ้าแล้ว !”
เมสตะโกนสวนกก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดเรื่องที่ทำให้เขาโมโหขึ้นมาอีก นั่นทำให้กอร์ณหลุดหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ เมสทำสายตาดุใส่ในทันทีแต่กอร์ณไม่ได้สนใจเขาพูดต่อทันที
“ที่ภูเขาหลังหมู่บ้านมีที่สวยๆข้าอยากให้เจ้าได้เห็นที่นั่น.......มันสวยงามมาก....ไปกับข้านะเมส..”
น่าแปลกดีนะ เจ้าการ์เซียนี่ใช้คำพูดปกติๆทั่วๆไปก็ได้ด้วย นึกว่าใช้คำพูดคุกคามข่มขู่เป็นอย่างเดียวซะอีก และสิ่งที่เมสรู้สึกจากท่าทางและคำพูดแบบนี้ของกอร์ณก็คือมันทำให้เจ้าหมอนี่ดูอ่อนโยนลงตั้งมาก..
และมากพอที่จะทำให้เมสอ่อนลงเช่นกัน....
“ข้ามีสิทธิ์ปฏิเสธด้วยหรือ ?..”
“นั่นซินะ...”
คำพูดเห็นด้วยทำให้เมสตวัดตาขวับ ขอถอนคำพูดเจ้าหมอนี่มันกวนประสาทขึ้นอีกต่างหากเล่า !!
“เมส...”
อย่ามาเรียกชื่อข้าเหมือนสนิทสนมกันซะนักหนาแบบนั้นนะ ! หมาป่าหนุ่มขนเทาตวาดก้องในอกก่อนกหันไปตามเสียงเรียกเพื่อจะสบกับนัยน์ตาที่ทำให้อึ้งจังจัง ดวงตาเรียวเข้มคู่ดุที่บัดนี้มองตรงมาที่เมสนิ่ง ไม่มีความเจ้าเล่ห์ ไม่มีความคุกคามหรืออะไรอื่นก็ตามที่เมสรู้สึกรังเกียจ หากแต่เป็นสิ่งที่ทำให้ลานูฟหนุ่มรู้สึกไม่อยากจะมองขึ้นมาเสียดื้อๆ
“ฝันดี......คนงามของข้า”
มือแข็งแรงทั้งสองเอื้อมเข้ามากุมใบหน้าเรียวงามเอาไว้ในอุ้งมือ ริมฝีปากหยักลึกกดทาบลงบนหน้าผากมนแผ่วเบาจนเมสที่ยังไม่ทันตั้งตัวถึงกับนั่งตัวแข็ง กอร์ณยังคงกดริมฝีปากลงบนเส้นผมหยักศกสลวยอีกสองครั้งหนักๆโดยที่เมสก็ยังคงไม่ได้ต่อต้านใดๆนอกจากเลื่อนตากลมๆของตัวเองขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจเลยสักนิด
“ข้าก็บอกแล้วนี่ว่ามาราตรีสวัสดิ์..ทำไมต้องทำท่างงถึงขนาดนั้น....”
น่าแปลกที่เมสหาคำพูดของตัวเองไม่เจอเมื่อชายตรงหน้าเอียงคอถามในกิริยาขบขัน
“..พรุ่งนี้ข้าจะมารับแต่เช้า..เข้านอนได้แล้วนะ..”
เมสยกมือขึ้นแตะตรงรอยจูบเมื่อชายหนุ่มจากไปแล้ว น่าแปลกเหลือเกิน ทั้งๆที่มันเป็นการฉวยโอกาส หากว่าการกระทำนี้กลับเข้าไปกระเทือนหัวใจเขา มากกว่าจูบร้อนเร่าแต่ฝืนใจนั่นอีก บ้าแล้วซินะเมส...เพราะแค่เจ้านั่นทำดีด้วยแค่ครั้งเดียวเจ้าก็เป็นถึงขนาดนี้เลยหรือ...เจ้าไม่ควรวางใจใครง่ายๆแบบนี้...โดยเฉพาะกับคนอันตรายอย่างกอร์ณ การ์เซีย
แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อล้มตัวลงนอนริมฝีปากอิ่มก็เผลอแย้มรอยยิ้มออกมา..
เมส..เจ้าเป็นบ้าใช่ไหมนี่ ?
ความคิดเห็น