คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Under the pain of love 1
Under the pain of love2 ❤
ในโลกที่ว่างเปล่า
ชีวิตที่โดดเดี่ยว
วันคืนที่เดียวดาย
ทุกสิ่งเป็นไปโดยเรียบร้อย
เว้นแค่สิ่งเดียว
แกคือความแปลกแยกนั้น
ควบคุมไม่ได้...
และไม่เคยเป็นไปอย่างใจต้องการ
Doffee x Croc❤
"น้ำอุ่นได้แล้วครับบอส"
ร่างสูงในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำสีดำยกกายขึ้นจากโซฟาสุดหรูเมื่อเสียงของลูกน้องคนสนิทดังมาจากห้องน้ำไม่นานนักดัซก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำสุดหรู มันเป็นหน้าที่ปกติของเขาที่จะดูแลเจ้านายในทุกเรื่องตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอนให้สมกับที่เป็นมือขวาซึ่งบอสไว้ใจที่สุด
สองเจ้านายลูกน้องพักอยู่ในโรงแรมระดับเจ็ดดาวของเมือง พอกลับถึงห้องพักดัซก็รีบผสมน้ำให้เจ้านายเพื่อผ่อนคลายความหงุดหงิดที่ติดมาจากงานเลี้ยงจากใครบางคน
ร่างสูงสองร้อยห้าสิบกว่าเซ็นฯก้าวไปยืนข้างขอบอ่างปล่อยให้คนสนิทคลี่ชุดคลุมออกจากร่างจนเหลือเพียงร่างกำยำ กล้ามเนื้อได้รูปแบบคนชอบการออกกำลังตึงแน่นสมวัยหนุ่ม ผิวกายขาวจัดแต่เนียนเรียบทั่วทั้งตัว คร็อคโคไดร์หย่อนกายลงในน้ำช้าๆและเอนศีรษะลงกับขอบอ่าง หลับตาลง ดัซถอยออกไปช้าๆ พยายามไม่ให้เกิดเสียงจากฝีเท้าของตนและปล่อยเจ้านายไว้เพียงลำพัง มือขวาผู้สุขุมและเงียบขรึมตั้งใจจะออกไปเตรียมเครื่องดื่มหลังอาบน้ำให้นายเหมือนทุกครั้ง แต่เสียงกริ่งโทรศัพท์ก็ดังรัวขึ้นเสียก่อน มือขวาหน้านิ่งเดินตรงมายกขึ้นแนบหูคิดว่าทางโรงแรมอาจมีธุระสำคัญอะไร
"ฮัลโหล "
"วั้ยยยย ติดด้วยล่ะเธอ ขอโทษค่ะนั่นมิสเตอร์คร็อกโคไดร์รึเปล่าคะ คือดิฉันมาจากหนังสือพิมพ์..."
ตู๊ดด.....
ไม่รอฟังให้จบ มือขวาหนุ่มวางสายไว้นอกแป้นทันที นึกรู้ว่าเหตุการณ์ในงานเลี้ยงคงทำให้เป็นที่สนใจของพวกนักข่าว และหลายคนคงอยากได้ข่าวใจจะขาดถึงขนาดหาเบอร์โทรของโรงแรมใช้โทรมาแบบนี้ เดี๋ยวคงจะต้องลงไปจัดการสักหน่อยส่าทำไมทางโรงแรมถึงได้ปล่อยให้เบอร์โทรศัพท์ห้องพักลูกค้ารั่วไหลได้ สะเพร่ากันจริงๆ
ยังไม่ได้ทันจัดการอะไรเสียงเครื่องมือสื่อสารก็ดังขึ้นอีกแต่คราวนี้จากกระเป๋าเสื้อสูทของเขาเอง เบอร์ที่โชร์อยู่หน้าจอคือเบอร์ของลูกน้องที่ดูแลเรือสินค้าอยู่ที่ท่าเรือ ดัซสังหรณ์ใจบางอย่างชายหนุ่มรับกดรับสาย
"มีอะไร........ อะไรนะ!!"
"ดัซ! มีอะไรรึเปล่า?"
เสียงของเจ้านายดังลอดออกมาจากห้องน้ำเพราะได้ยินเสียงที่ดังด้วยความตกใจของเขา ดัซตีหน้ายุ่ง ลดเสียงลงพูดกับคนในสาย
"ก็บอกแล้วว่าให้ระวังไงวะ..ชั้นต้องรายงานบอสก่อน รีบควบคุมไว้ให้ได้อย่าให้ลุกลามมากไปกว่านั้น รู้ไหมว่าทั้งหมดนั่นราคากี่ล้านเบรี ให้ใช้ทั้งชีวิตแกก็ยังชดใช้ไม่หมดเลย เออ! เดี๋ยวชั้นออกไป แค่นี้ล่ะ"
"เกิดอะไรขึ้นดัซ?"
บทสนทนาจบลงก็พอดีที่ร่างในชุดคลุมอาบน้ำตัวใหม่ก้าวออกมาจากห้องน้ำ มือขวาหนุ่มตีหน้าเครียดขณะเดินเข้าไปรายงาน
"คนของเราที่ท่าเรือโทรมาว่าเกิดอุบัติเหตุในเรือของเราครับ ไฟไหม้ในห้องเก็บเสบียง ห้องนั้นอยู่ใกล้ห้องเก็บสินค้า ถ้าลุกลามไปมากกว่านั้นวอดวายแน่ "
"ชั้นจะไปดูเอง เตรียมชุดด้วย ดัซ"
"อย่าเลยครับ บอสอยู่ที่นี่แหละ ผมจะไปดูให้ ขืนบอสไปตอนนี้โดนพวกนักข่าวทึ้งแน่ ถึงท่าเรือแล้วผมจะโทรมารายงานครับ"
มือขวาหนุ่มหยิบเสื้อนอกของตนมาสวมขณะเอ่ยขัดเจ้านายที่ทำท่าไม่เห็นด้วย แต่ก็แย้งไม่ออกกับสิ่งที่ลูกน้องบอก เขาเองก็รู้ตัวดีว่าการกระทำในงานเลี้ยงคงจะทำให้ตกเป็นข่าวดังไปแล้ว
" งั้นแกก็ระวังตัวด้วยล่ะ"
"ขอบคุณครับบอส"
พูดแล้วยิ้มนิดๆ โค้งศีรษะให้ก่อนจะรีบผลุนผลันออกไปจัดการเรื่องแทนเจ้านาย ดัซเป็นลูกน้องที่ดี ซื่อสัตย์และฉลาดเฉลียว รู้จักหน้าที่ตัวเอง แทนมือแทนไม้ได้ทุกเรื่อง เป็นลูกน้องคนสำคัญที่จะเสียไปไม่ได้ ทำให้ไม่ต้องคอยกังวลใจมากนักและจัดการงานได้โดยไม่ต้องคอยระวังอะไร แถมฝีมือคุ้มกันก็ร้ายกาจพอตัว ดังนั้นเจ้านั่นจึงเป็นคนเดียวที่ไว้ใจให้อยู่ข้างตัว
ร่างสูงสง่าทรุดกายลงกับโซฟาตัวใหญ่ เทบรั่นดีจากขวดใส่แก้วทรงสูงเพื่อจิบก่อนนอนเหมือนที่ทำเป็นประจำทุกวัน ซิการ์อีกซักมวนเท่านี้ท่านเซอร์หนุ่มก็จะหลับสบายทั้งคืน เพียงแต่คืนนี้เขาทำก็เพื่อฆ่าเวลารอคอยโทรศัพท์จากดัซเท่านั้น แต่จนซิการ์หมดไปสองมวนก็ยังไม่มีโทรศัพท์จากมือขวาคนสนิท รอนานมากเข้าก็เผลอคล้อยหลับไปไม่รู้ตัว รู้สึกตัวตื่นอีกครั้งก็เมื่อเสียงโทรศัพท์หวีดร้องดังรัวขึ้นจนสะดุ้ง
"ดัซ.."
ร้องเรียกหาคนสนิทด้วยความเคยชิน แต่เมื่อรวบรวมสติได้ก็จดจำได้ว่ามือขวาหนุ่มไม่อยู่ จึงรีบขยับตัวไปหาต้นเสียงที่แผดดังอยู่บนโต๊ะกลางโซฟาด้วยอาการยังไม่ตื่นเต็มตานัก หากยังไม่ทันจะถึงเป้าหมาย สัมผัสอุ่นๆก็แนบลงมาข้างใบหูพร้อมกับที่เสียงของดัซลอดผ่านเข้ามารัวเร็ว
"บอส!! รีบออกมาจากโรงแรมเดี๋ยวนี้เลยครับ! มีคนวางเพลิงเรือของเรา น้ำมันที่เราบรรทุกมาเป็นตัวอย่างสินค้าไหม้เกือบหมดเหลือแค่ไม่เท่าไหร่ ผมว่าเราเจอลองดีแล้วครับ ที่โรงแรมไม่ปลอดภัยแล้ว บอสรีบแต่งตัวลงมาเลย ของค่อยให้คนไปเก็บทีหลัง ผมทิ้งรถไว้ให้แล้ว รีบออกมาด่วนเลยนะครับ...."
สายโทรศัพท์ถูกตัดไปกระทันหัน ตัวเครื่องสุดหรูปลิวเข้าหาผนังห้องด้วยแรงเหวี่ยงมหาศาลจากบุคคลที่ซึ่งเมื่อหันไปมองแล้วท่านเซอร์หนุ่มแห่งอลาบาสต้าก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง ต่อหน้าผู้บุกรุกแสนอุกอาจที่กำลังคลี่ยิ้มเย็นให้แก่เขา
"ดองกีโฮเต้ โดฟลามิงโก้..."
เสียงที่เรียกบอกถึงความงุนงงว่าเหตุไรไอ้เด็กเปรตในงานเลี้ยงจึงมาอยู่ในห้องพักของเขาได้ หากยังไม่ทันได้คิดจับต้นชนปลายอะไรท่านเซอร์หนุ่มก็ถูกล็อกตัวจากเบื้องหลังด้วยชายฉกรรจ์สองคน ผ้าเช็ดหน้าสีขาวโปะลงมาบนครึ่งหน้า กลิ่นเหม็นฉุนอบอวลในโพลงจมูกเมื่อสูดกลิ่นเข้าไปโดยไม่ทันตั้งตัว จากนั้นสติที่มีไม่เต็มที่นักก็ค่อยๆหลุดลอยไปอีกครั้งหนึ่ง
ชายหนุ่มเจ้าระเบียบถูกปลุกให้รู้สึกตัวขึ้นอีกครั้งด้วยความรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว ร่างกายถูกรบกวนด้วยสัมผัสแปลกปลอมที่ทำให้ครั่นเนื้อครั่นตัวอย่างไม่เคยเป็น
"อือ..."
ส่งเสียงครางในลำคอแผ่วเบา ขยับกายยุกยิกหนีแต่เจ้าสัมผัสแปลกประหลาดพวกนั้นก็ยังไม่หายไป ตรงข้ามกันเลยมันยิ่งทวีความน่ารำคาญเพิ่มมากขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
"ใคร.......ดัซ...ไล่มันออกไปซิ"
ออกคำสั่งทั้งที่ยังหลับตา ขยับกายหนีอีกครั้งและอาจจะหลับไปจริงๆหากเสียงกระซิบหนึ่งจะไม่ดังขึ้นข้างหูเสียก่อน
"ชั้นไม่ใช่ดัซ"
50% - - - -เจ้าค่าา
คำกระซิบเพียงคำเดียวนั้นกระชากเอาความง่วงงุนทั้งหมดไปจากคร็อคโคไดร์ ดวงตาทั้งคู่เบิกกว้างและยิ่งแทบถลนออกมาจากเบ้าตาเมื่อภาพที่เห็นชัดเป็นสิ่งแรกอยู่เบื้องหน้าคือใบหน้าเข้มจัดของมหาวายร้าย
ไม่ว่าจะเป็นใครต่อให้เป็นคนที่ตั้งสติได้รวดเร็วแค่ไหนยามสถานการณ์ฉุกเฉินแต่ก็ต้องมีเป๋กันบ้างในตอนแรก คร็อคโคไดร์ก็ไม่ได้เหนือไปกว่าอาการทางธรรมชาติเบื้องต้นของมนุษย์เหล่านี้ แต่นั่นก็แค่เสี้ยวนาทีแรก หลังจากที่ท่านเซอร์หนุ่มตั้งสติได้และสมองเริ่มประมวลเก็บรายละเอียดรอบตัวแล้วแววตาที่ตื่นตระหนกก็ค่อยๆหายไปและแทนที่ด้วยความคุกรุ่น
"ปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้"
ไม่มีแม้เศษเสี้ยวของการขอร้องจากประโยคนั้น หากมันเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการออกคำสั่งอย่างชัดเจน และคำสั่งนั้นหมายเชือกที่มัดข้อมือสองข้างของคนพูดไว้ติดกับเตียงตัวที่นอนอยู่ เพียงแต่เตียงตัวนี้มันไม่ใช่เตียงตัวเดิมในห้องพักที่โรงแรมหรูห้องเดิมของเขา แต่มันเปลี่ยนเป็นห้องอับทึบ เหม็นกลิ่นอับติดจมูก แถมสภาพห้องยังเก่าซอมซ่ออย่างที่คนอย่างท่านเซอร์คร็อคโคไดร์
ไม่มีวันเลือกมาพักแน่เว้นเสียแต่ว่าจะถูกพามาแบบไม่เต็มใจอย่างตอนนี้
คนถูกสั่งมุ่นคิ้วแล้วฉีกยิ้มเย้ยหยัน
"รู้ฐานะตัวเองบ้างรึเปล่าวะเนี่ย คิดว่าใครจะฟังแกวะ"
ยิ่งพูดการกระทำยิ่งท้าทายกว่ามือสากข้างที่วางอยู่บนต้นขาแกร่งตั้งแต่แรกและเป็นต้นเหตุของความรู้สึกน่ารำคาญทั้งหมดลูบแผ่วเบาอย่างไม่กลัวเกรง
"แกจะเอายังไง"
"เอายังไง? ยังจะต้องถามอีกเหรอวะ คร็อคโคไดร์ แกกล้าหักหน้าชั้นต่อหน้าคนทั้งงานเลี้ยง ต่อหน้ายัยแก่ซึรุ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครทำให้ชั้นอับอายขนาดนี้มาก่อน แกทำเจ็บแสบมากขนาดนี้คิดว่าชั้นจะปล่อยแกลอยนวลกลับอลาบาสต้าไปเฉยๆรึไง"
ฝ่ามือหนายึดปลายคางร่างบนเตียงให้เชิดสูงขึ้นตามแรงมือที่บีบลง
"ชั้นจะทำให้คอที่มันเชิดเย่อหยิ่งของแกไม่กล้ามาเผยอใส่ชั้นอีกเป็นครั้งที่สอง แล้วก็จำเอาไว้ให้แม่นว่าเด็กเมื่อวานซืนอย่างชั้นเหยียบแกติดดินในวันนี้ ไอ้ที่หยิ่งๆเนี่ย ดูซิว่าหลังจากนี้แกจะเอาปัญญาที่ไหนมาเชิดหน้าในสังคมได้...เพราะชั้นจะทำให้แกอับอายขนาดที่จะเดินบนถนนยังไม่กล้า"
คนที่ตกเป็นรองทำคอแข็งจ้องมองใบหน้าคมสันของเด็กหนุ่มวัย19ผู้เหิมกล้ามาหยามเกียรติเขาถึงสองครั้งในวันเดียวด้วยแววตาเกรี้ยวกราดวาววับราวสัตว์นักล่าที่จ้องเหยื่อ ไม่มีความหวาดกลัวต่อคำขู่เหลือปะปนแม้แต่น้อย สียงเยียบเย็นเอ่ยดังในต่อหน้าเด็กหนุ่มวายร้าย
"ถึงจะโทษว่าเป็นเพราะความสู่วามไร้ความยั้งคิดของเด็กแต่แกก็อย่าหวังว่าจะใช้มันเป็นข้ออ้างได้ในอนาคต...ถ้าแกกล้าลงมือกับชั้น...หลังจากนี้ก็ให้แกเตรียมใจเอาไว้ ไม่มีการอ่อนข้อ ไม่มีข้อแม้ชั้นจะทำให้แกได้ลิ้มรสนรกบนดิน เจ็บปวดสูญเสียจนตายซะยังดีกว่าอยู่"
"ก็เอาซิ ถ้าคิดว่าจระเข้อย่างแกจะไล่งับนกที่อยู่บนฟ้าได้ก็เอา ชั้นจะรอให้วันที่แกทำได้มาถึง..ซึ่งไม่ใช่วันนี้แน่ๆว่ะ...แล้วถ้าแกกำลังคิดหวังให้มือขวาแสนซื่อของแกมาช่วยก็เลิกหวังได้เลย เพราะน้ำมันที่ติดไฟมันดับกันไม่ได้ง่ายๆหรอก
ว่าไหม?"
มุมปากของเด็กหนุ่มยกยิ้มขึ้นอย่างแสนอันตรายชั่วร้ายเท่านั้นท่านเซอร์แห่งอลาบาสต้าก็เข้าใจทุกอย่างได้ทั้งหมดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นฝีมือเด็กเหลือขอตรงหน้าที่ลงมือทำเรื่องร้ายกาจก็เพื่อแก้แค้นในเรื่องจิ๊บจ๊อย ชายหนุ่มคำรามลั่นออกมา
"ไอ้นรก!! แกเผาเรือชั้น!!"
และท่านเซอร์หนุ่มยังรู้ลึกมากไปกว่านั้นด้วยซ้ำว่ามันจงใจทำก็เพื่อแยกดัซออกไป แล้วมันก็ฉวยโอกาสนั้นเข้ามาถึงตัวเขา คร็อคโคไดี์รู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องยากเลยในเมื่ออำนาจของดองกีโฮเต้กรุ๊ปแผ่ขยายไปในธุรกิจทุกชนิด ยังไม่รวมอำนาจต่อรองกับรัฐบาลของทุกประเทศ ข่าวคราวพฤติกรรมต่ำช้าของตระกูลนี้มาเข้าหูเขาบ่อยครั้งแต่ก็มันก็เงียบหายไปกับสายลมเสมอ พวกมันเลยยิ่งได้ใจกระทำการอุกอาจเย้ยฟ้าท้ากฏหมายอย่างไม่เกรงกลัวแม้กระทั่งกล้าลักพาตัวคนออกมาจากโรงแรมกลางดึก เพราะไอ้เด็กเปรตนี่มันรู้ดีว่าเกราะป้องกันที่ชื่อ"ดองกีโฮเต้"จะทำให้มันลอยนวลได้อย่างสบายใจ
"ฮ่าๆๆ!! ห่วงเรือเหรอวะ!! ห่วงตัวแกเองก่อนดีกว่ามั้ง!!"
เด็กเวรหัวเราะอย่างบ้าคลั่งสนุกสนานราวกับการกระทำที่ทำลงไปทั้งหมดเป็นเพียงสิ่งบันเทิงใจเท่านั้น สำหรับมันแล้วเรื่องชั่วร้ายไม่ต่างอะไรเรื่องสนุกเพียงเรื่องหนึ่ง ตระกูลดองกีโฮเต้เลี้ยงเด็กปีศาจนี่มายังไงถึงได้มีความคิดร้ายกาจผิดมนุษย์อย่างนี้
"ไอ้เด็กเฮงซวย!!"
คร็อคโคไดร์บริภาษออกมาอีกครั้งเรียกเสียงหัวเราะเด็กเฮงซวยให้ก้องดังขึ้นกระหึ่มไปทั้งห้องสกปรกที่ได้เห็นท่านเซอร์หนุ่มหลุดมาดสุขุมและแสดงความคับแค้นออกมาอย่างไม่ปิดบัง
ศีรษะทุยส่ายไปมาอย่างล้อเลียนพอกันกับปลายลิ้นที่แลบเลียออกมาให้เห็น เป็นกิริยาสถุลไร้มารยาทอย่างที่สุดสำหรับคนมอง และโดฟลามิงโก้ก็ลงมือทำในสิ่งที่ดูถูกคนมียศศักดิ์มากกว่านั้น มือหยาบหนาผิดวิสัยลูกคนมีสกุลคว้าเส้นผมสีดำสนิทกระชากจนใบหน้าเคร่งแหงนเงยขึ้นสูง
"จะด่าอะไรก็ด่าไป ชั้นไม่ถือ แล้วจะโทษใครที่แกต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ก็โทษตัวเองเถอะคร็อคโคไดร์"
"ชั้นจะฆ่าแก!!"
"เอาเลย...ถ้าแกทำได้น่ะนะ"
เสียงหัวเราะที่เสียงชั่วร้ายดังขึ้นหลังประโยคนั้นจบลงพร้อมกับการกระทำต่ำช้าที่มันเริ่มต้นขึ้นเช่นกัน
ท่านเซอร์แห่งดินแดนทะเลทรายอยู่ในสภาพที่ไร้ทางสู้ ถูกพาออกมาโดยที่ยังไม่ได้จัดการอะไร ทั้งตัวจึงมีแค่ชุดคลุมอาบน้ำเพียงตัวเดียวและเมื่อไอ้เด็กสารเลวกระชากมันออกเขาก็ไม่เหลืออะไรไว้ปกป้องตัวเองอีกแล้ว กระนั้นคร็อคโคไดร์ก็สู้ยิบตา ขาสองข้างที่เป็นอิสระปัดเหวี่ยงไปทุกทิศทางเท่าที่โอกาสจะมี ก็แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเด็กหนุ่มก็ใช้พละกำลังที่เหนือกว่าและรูปร่างที่ได้เปรียบหยุดเขาไว้ได้โดยละม่อม ไม่มีการใช้ความรุนแรงแต่คร็อดโคไดร์นึกอยากจะให้มันใช้มากกว่าสิ่งที่มันเลือกทำจริงๆ
บนร่างขาวโพลนที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อแบบคนหนุ่มสุขภาพดีขืนกายหนีตลอดเวลาที่ฝ่ามือหนาลงสัมผัสลูบไล้ลงมาบนร่าง ความชำนิชำนาญที่มีรวมถึงสัมผัสที่มันแสนเอาแต่ใจก็บอกได้ดีว่าคนทำเคยผ่านสิ่งเหล่านี้มาแล้วโชกโชนนัก คร็อคโคไดร์ไม่แปลกใจเมื่อภาพลักษณ์ของมันก็กร้านโลกเกินเด็กอย่างที่เห็น และมันก็ส่อไปถึงรสนิยมส่วนตัวที่คงจะไม่ถือถ้าจะทำเรื่องแบบนี้ไม่ว่ากับหญิงหรือชาย....
แต่สำหรับท่านเซอร์ผู้เย่อหยิ่งและรักศักดิ์ศรียิ่ง ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะรังเกียจเรื่องแบบนี้แค่ไหน มันจึงเป็นครั้งแรกสำหรับเขา..กับผู้ชาย
ครั้งแรกที่ถูกผู้ชายด้วยกันลูบไล้เชยชมร่างกาย ถูกกัดเล็มที่หลายส่วน ปลุกเร้าความรู้สึกตามธรรมชาติให้ตื่นขึ้นอย่างไม่เต็มใจ
"ไอ้บัดซบ"
ไม่รู้ว่านั่นเป็นคำสบถด่าที่เท่าไหร่กันแน่ซึ่งตนหลุดด่าออกไป และทุกครั้งก็จะมีเสียงหัวเราะชั่วช้าดังตอบมาพร้อมกับเสียงกระซิบโต้ตอบที่ยิ่งทำให้เกลียดชังไอ้เด็กจากตระกูลชื่อดังอย่างมันจับขั้วหัวใจ และยิ่งเกลียดมากขึ้นไปอีกเมื่อทุกสิ่งที่กำลังดำเนินไปมันเกิดขึ้นต่อหน้าชายฉกรรจ์นับสิบซึ่งยืนเฝ้าอยู่รอบห้อง คร็อคโคไดร์จึงทนไม่ได้จริงๆตอนที่เขากำลังจะถูกทำลายลงทั้งสภาพน่าอดสูนั่น
"ไม่!!"
เป็นหนึ่งคำที่รวมไว้ทั้งความคับแค้นอับอายและอ่อนแอ คนเดียวที่รับรู้มันชัดที่สุดแสยะยิ้มกว้างน่าขยะแขยงสายตา
"ไม่อะไร...แกจะพูดอะไร"
วายร้ายหนุ่มน้อยเอียงคอถาม คลี่ยิ้มอย่างนึกสนุกกับท่าทางอึกอักของคนอายุมากกว่า
"ไล่ลูกน้องของแกออกไป!!"
"จะรีบไล่ออกไปทำไมกัน กำลังสนุกได้ที่เลย ลูกน้องชั้นตื่นเต้นกับโชว์ของเรากันจะแย่แล้วจะรีบหยุดตอนนี้ก็เสียอารมณ์แย่ซิ...แต่ถ้าขอร้องกันดีๆก็ไม่ใช่ชั้นจะไม่ยอมฟัง...ชั้นใจกว้างอยู่แล้ว.."
ถามแล้วเลิกคิ้วอย่างท้าทายให้เลือก
อึก...
"..........ให้พวกมันออกไป...ได้....ได้โปรด"
ไม่ใช่จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร แต่กว่าจะเค้นคำพูดให้หลุดออกมาจากปากได้มันก็กินเวลาไปครู่หนึ่งเมื่อคนพูดต้องใช้กำลังใจทั้งหมดกว่าจะพูดออกไป ใบหน้าคมก้มลงต่ำหนี หากแทนที่เด็กนรกอุตส่าห์อุตส่าห์ลดศักดิ์ศรีลงขอร้องจะยอมทำตามหากโดฟลามิงโก้กลับระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น และตะโกนบอกบริวารตัวเองให้ได้ยินกันทั่ว
"เฮ้ย!! ได้ยินรึเปล่าวะ ท่านเซอร์เค้าอุตส่าห์ลงทุนลดตัวมาขอร้องพวกแกก็สนองหน่อยซิวะ จ้องอย่าให้ตากระพริบนะเว้ย เดี๋ยวพลาดฉากเด็ดไปเสียดายแย่ คอยดูให้ดีว่าเวลาคนหยิ่งๆถูกเหยียบย่ำเนี่ย มันจะทุเรศแค่ไหน ฮ่าๆๆ!!!"
"แก!! โดฟลามิงโก้ ไอ้เศษสวะ!! อ๊าา!!"
ต่อหน้าต่อตาเหล่าบริวารของเด็กหนุ่ม ร่างหนาที่เขาถูกทำลาย ร่างกายปริขาดด้วยไม่ใช่สิ่งที่เคยทำซ้ำยังเป็นครั้งแรก ร่างของชายหนุ่มดิ้นรนทั้งที่ยังถูกมัดด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส หากเจ้าเด็กสารเลวไม่มีความปราณีใดๆให้ มันสนุกสนานกับการทำลายเขาอย่างเต็มที่ ด้วยความบ้าระห่ำ ไร้ความยั้งคิดที่บวกกับนิสัยสิ้นสตินั่นทุกอย่างจึงยิ่งกว่าเลวร้าย
คร็อคโคไดร์กัดริมฝีปากไว้แน่นสุดแรง นอกจากเสียงร้องแรกแล้วไม่มีอะไรหลุดออกไปอีกนอกจากมันจะขลุกขลักอยู่ในลำคอแม้ความบ้าคลั่งของเด็กหนุ่มจะกระแทกเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่าและไม่ได้มอบอะไรให้นอกเสียจากความเจ็บปวดทรมารไปจนกว่ามันจะจบลง
"อ้า~เจ๋งเลยว่ะ..แน่นสุดยอด"
เด็กตัวโตครางอยู่เหนือร่างคนเป็นผู้ใหญ่ ขณะที่ครั้งแรกจบลง หากแววตาที่ใช้จ้องมองร่างสมบูรณ์แบบเบื้องหน้าผ่านแว่นกันแดดสีจัดอันนั้นก็ยังคงหื่นกระหายไม่คลาย และด้วยความพอใจนั้นเขาจึงมอบรางวัลให้กับคนอายุมากกว่าผู้แสนยโส
"พวกแกออกไปข้างนอกไป"
เหล่าชายฉกรรจ์รับคำและรีบสลายไปจากสายตาคนสั่งรวดเร็ว รู้ดีว่าเจ้านายชอบความว่องไว อะไรที่สั่งต้องได้ตามนั้นทันใจ ตามแผนการของนายน้อยพวกเขาจะได้ร่วมสนุกกับเกมด้วยแต่ดูจากรูปการณ์ตอนนี้คงไม่เป็นตามนั้น แสดงว่านายน้อยกำลังถูกใจเจ้าเซอร์นั่น และถ้าถูกใจแล้วหมายความว่าคนอื่นไม่มีสิทธิ์ร่วมถูกใจ.....น่าเสียดาย แค่ยืนมองอยู่เฉยๆนี่ยังรู้เลยว่ามันน่ากินแค่ไหน แต่ก็ได้แค่เสียดาย... พวกเขายังรักชีวิตเกินกว่าจะกล้าเข้าไปแย่งของที่ถืออยู่ในมือมัจจุราช
เสียงฝีเท้านับสิบห่างออกไป คร็อคโคไดร์สูดลมหายใจลึกเก็บอากาศเข้าปอดและปล่อยเรียวปากบวมช้ำจากแรงกัดให้เป็นอิสระ รู้สึกผ่อนคลายนิดหน่อยที่อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่ต้องตกอยู่ในการจับจ้องของใคร แต่ก็เท่านั้น ผ่อนคลายได้เพียงครู่ รสชาติอันเจ็บปวดระลอกใหม่ก็เสียดแทงเข้ามาในกายพร้อมกับคำสั่งเอาแต่ใจ
"อ้าปากซะ ส่งเสียงออกมา"
แทนที่จะทำตามคนถูกสั่งกลับกัดปากแน่นขึ้นอีกจนเลือดสดๆไหลรินลงมาเป็นทาง ดวงตาจิกมองมาอย่างเกรี้ยวกราด โดฟลามิงโก้ขมวดคิ้วโมโหที่ถูกขัดใจ ฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าสะอาดสะอ้านไร้รอยขีดข่วนนั่นทีหนึ่ง
"บอกให้อ้าปากไงวะ จะมารักศักดิ์ศรีอะไรตอนนี้ แกยังคิดว่าตัวเองเหลืออะไรอยู่อีก เรอะ หรืออยากจะโชร์อีกที จะต้องให้ชั้นเรียกลูกน้องกลับมามั้๊ย?"
เพราะคำขู่กลายๆนั่นปากที่สั่นชาเพราะแรงตบจึงค่อยๆคลายออก เด็กชั่วช้าฉีกยิ้มหยัน มันก็อีแค่นี้เหมือนๆกัน ให้มันเย่อหยิ่งจองหองพองขนแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องสยบให้กับอำนาจที่เหนือกว่าอยู่ดี เจ้าคร็อคโคไดร์คนนี้ก็ไม่ต่างกันเลย ถ้าแค่มีอำนาจจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น
"นั่นแหละ ว่าง่ายๆอย่างนี้ค่อยน่ารักขึ้นหน่อย......คร็อคโคไดร์"
หลายปีนับจากนี้โดฟลามิงโก้จึงได้รู้ว่ามันเป็นความคิดที่ผิดถนัด แต่ก็จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อมันเป็นแค่ความคิดห่ามระห่ำของคนอายุ19ที่บังเอิญมีอำนาจมากไปหน่อยแค่นั้นเอง...
ความทรมารในค่ำคืนนั้นผ่านไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนราวกับไม่มีจุดจบ และมันกลายเป็นรอยด่างพร้อยและตราบาปเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตสมบูรณ์แบบของท่านเซอร์หนุ่ม
ร่างสูงยาวทอดกายนอนหงายอยู่บนเตียงนอนเก่าซอมซ่อสกปรกในห้องโสโครกที่เงียบงัน แม้จะถูกปล่อยให้เป็นอิสระแต่ก็ไม่ได้คิดจะออกไปไหนทั้งที่พวกหนีนรกเกิดนั่นกลับไปหมดแล้ว ข้อมือแดงช้ำเป็นรอยเชือกจนออกเขียว เส้นผมที่เคยเซ็ตเป็นทรงเรียบกริบบัดนี้ยุ่งเหยิงพันกันมั่วและเปียกชื้นเหงื่อ ทั่วร่างเปล่าเปลือยเปรอะเปื้อนคราบไคลทั้งเลือดและอย่างอื่นโดยเฉพาะช่วงกลางของร่างมีร่องรอยความบาดเจ็บและรอยอื่นที่ไม่สมควรมี ใบหน้าคมแหงนหงายมองเพดานห้องที่เขรอะหยากไย่ ดวงตาว่างเปล่าและเฉยชาหากมันเบิกโพลงจนน่าขนลุก
ชายหนุ่มผู้ถูกหยิบยื่นความอัปยศครั้งใหญ่ในชีวิตให้ไม่มีน้ำตาแม้สักหยดเดียว ในใจยังจดจำคำพูดทิ้งท้ายของเด็กนรกส่งมาเกิดได้ดีก่อนที่มันจะสะบัดก้นจากไปโดยที่ทิ้งเขาไว้ในสภาพนี้
"ฉันจะไม่ฆ่าแก...แต่จะปล่อยให้แกตายทั้งเป็นกับสภาพนี้ไปชั่วชีวิตจนกว่าแกจะตายไปนั่นแหละ"
แม้เชื้อพันธุ์ที่ถูกทิ้งไว้จะไม่สามารถให้กำเนิดชีวิตใดๆได้แต่มันก็เพาะกล้าแห่งความเคียดแค้นไว้ในใจของท่านเซอร์ที่ไม่มีทางโรยราลงง่ายๆแม้ว่าจะผ่านไปนานหลายปีนับจากนี้
ดัซถูกเรียกตัวมาหลังจากนั้น มือขวาหนุ่มมาพร้อมกับเสื้อผ้าเอี่ยมสะอาดที่ยื่นให้เจ้านายโดยไม่เอ่ยถามสิ่งที่เกิดขึ้นสักคำนอกจากมองดูนายเหนือหัวแต่งกายอยู่เงียบๆ ในเมื่อแผ่นหลังกว้างแกร่งยังคงตั้งตรง นั่นหมายถึงไม่ต้องเป็นห่วงเกินจำเป็น ไม่มีปัญหาใดๆไม่ว่ามันจะมีหรือไม่มีปัญหาเกิดขึ้นจริงๆก็ตาม
คร็อคโคไดร์แต่งกายอย่างเชื่องช้า ไม่เร่งรีบ เส้นผมยุ่งเหยิงถูกรวบแต่งให้เรียบร้อยก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงเป็นเสื้อผ้า ชายหนุ่มกลัดกระดุมทุกเม็ดอย่างใจเย็น สอดชายเสื้อไว้ในกางเกงอย่างประนีตเรียบร้อยสวมกั๊กสีเข้มทับลงไปและตบท้ายด้วยโอเวอร์โค๊ตสัญลัษณ์ประจำตัว และสิ่งสุดท้ายที่เพิ่มเติมเข้ามาจากปกติคือถุงมือสีดำของดัซซึ่งสวมทับซ่อนรอยเชือกบนข้อมือไว้มิดชิด เท่านั้นทุกอย่างก็พรั่งพร้อม
"ไปกันดัซ..."
"ครับบอส"
มือขวาหน้านิ่งรับคำและก้ามตามเจ้านายซึ่งก้าวนำไปก่อนติดๆโดยไม่ถามถึงที่หมายใดๆเพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าสถานที่ซึ่งเป็นจุดหมายคือโรงแรมสถานที่ประชุมกลุ่มสมาพันธ์การค้าทางทะเล!!
100%- - - - -เจ้าค่า
หลบสายตา
อย่านะ อย่าพูดอิไรนะ
เราเปล่าทำอิไรผิดนะ
เราไม่ได้ทำร้ายป๋านะ
เรารักป๋าจริงๆนะ555+
เราจะได้รังนกไหม
รอลุ้นค่า
ความคิดเห็น