Shot fic : tokyo ghoul : ปรารถนาลับ
ผู้เข้าชมรวม
2,911
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ปรารถนาลับ
"งั้นไม่เกรงใจแล้วนะ"
ผมรู้ว่าทสึกิยาม่าซังจะทำตามที่พูดจริงๆ...
ถึงแม้ปกติเขาจะปกปิดท่าทีแสนกระหายกับผมแค่ไหนแต่มันก็ยังแสดงออกมาทางแววตาเสแสร้งของเขาอยู่ดี
กูลนักชิมผู้ชื่นชอบการล่า การล่อลวงพอๆกับการลิ้มรสอาหารที่ไม่ได้เจาะจงอยู่แค่มนุษย์แต่ยังลุกลามไปหากูลด้วยกันเอง ให้พูดตรงๆเขาน่ะมันตัวอันตรายโดยแท้ แม้กระทั่งหน่วยปราบปรามผีดิบCcgก็ยังยกให้เขาเป็นกูลวายร้ายที่ต้องคอยติดตามพฤติกรรมอยู่เสมอ แต่ก็เท่านั้น ไม่มีใครจับหางนักชิมผู้นี้ได้สักครั้ง ในเมื่อเบื้องหน้าเขาก็คือทสึกิยาม่า ชู ชายหนุ่มมาดนุ่มนวล สุขุมและเปี่ยมด้วยความเป็นสุภาพบุรุษซึ่งนับได้ว่าเป็นอาวุธร้ายอย่างหนึ่งของเขาที่ผมเองเคยตกเป็นเหยื่อนอกจากคากุเนะสายโคคาคุที่เขาครอบครอง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเขาจึงเป็นกูลที่เชื่อมั่นในตัวเองมากขนาดนั้น...และนั่นก็เป็นเสน่ห์ส่วนตัวของนักชิม...
ทสึกิยาม่าซังเป็นกูลที่มีความแปลกแยกด้านบุคลิกอย่างสุดขั้วเท่าที่เคยเห็นมา เขาสามารถใจดีได้อย่างที่สุดเมื่อมีจุดประสงค์บางอย่าง และเลวได้สุดขั้วถ้าหากบรรลุจุดประสงค์แล้ว เรื่องที่ภัตตาคารกูลบอกทุกอย่างได้ดี และคงเป็นโชคดีของผมที่รอดจากเงื้อมมือเขามาได้หวุดหวิดเฉียดฉิวถึงสองครั้งสองครา ครั้งแรกเป็นความใจดีแปลกๆของเขาส่วนครั้งสองส่วนหนึ่งต้องขอบคุณโทวกะจัง แต่นั่นก็ทำให้ทสึกิย่าม่าซังยิ่งกัดติดผมไม่ปล่อย ดูเหมือนว่าหลังจากเหตุการณ์ที่รังของต้นอาโอกิริเขาเองจะยิ่งสนใจในตัวผมมากขึ้น และแสดงออกอย่างเปิดเผยด้วยการเข้ามาเสนอตัวเป็นพรรคพวกด้วยตัวเองและแน่ นอนว่าเบื้องหลังก็ยังมีจุดประสงค์แอบแฝงเช่นเคย ผมรู้ดีแต่ก็ยังยอมให้เขามาร่วมทีมแม้คนอื่นจะเตือนก็เถอะว่าอันตรายเกินไป แต่ผมเชื่อว่าถ้าเป็น "ผม" ตอนนี้ผมควบคุมเขาได้ และฝีมือของเขาในเหล่ากูลแล้วก็ถือว่าอยู่ระดับแนวหน้า ยังไงก็เป็นเรี่ยวแรงที่สำคัญให้ได้ในอนาคตกับเป้าหมายของผม..
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไว้ใจเขาซะทีเดียว ทสึกิยาม่าซังเป็นประเภทที่มักคอยช่องว่างของคนอื่น เขาไม่เบื่อหน่ายที่จะรอคอยและถือว่านั่นเป็นความสนุกสนานอย่างหนึ่งด้วยซ้ำ แต่ผมว่าบางครั้งเพื่อไม่ให้การรอคอยน่าเบื่อจนเกินไปมันก็ต้องมีอะไรมาล่อตาล่อใจระหว่างทางบ้าง เพื่อที่ผมจะควบคุมเขาไว้ใต้อุ้งมือได้ รางวัลเล็กๆน้อยๆที่จะทำให้ทสึกิยาม่าซังไม่ถลำออกนอกลู่นอกทางมากเกินกว่าที่ผมกำหนด การเลี้ยงสัตว์ร้ายอย่างเขาให้เชื่องก็นับว่าเป็นเรื่องท้าทายอยู่ไม่น้อยเลย ผมจะควบคุมกูลที่หิวกระหายอย่างเขาไว้ได้มากแค่ไหน..น่าสนุกจริงๆ
ผมก็เลยเอ่ยปากกับเขาในวันที่เราซ้อมต่อสู้กัน ท้าทายความต้องการของเขาและผมมั่นใจว่ายังไงคำตอบก็คือตกลง ผมยื่นกฏให้เพื่อควบคุมไม่ให้เขาตะกละตะกราม อันที่จริงผมก็แค่ไม่อยากเจ็บตัวมากเกินด้วยแหละ
แต่มันผิดคาดไปนิดหน่อย ดูเหมือนความกระหายของทสึกิยามะซังจะไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องเดียว มีเรื่องอื่นแทรกแฝงเข้ามาด้วย ในห้องพักส่วนตัวของผมบนโซฟาตัวนั้น นักชิมจอมเจ้าเล่ห์ได้แสดงให้เห็นถึงแรงปรารถนาอื่นนอกจากความต้องการในกะเพาะที่เคยเป็นเรื่องใหญ่ แต่สำหรับผมแล้ว มันก็ยังไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจนัก ผมผ่านเรื่องราวมามากมาย ทั้งหนักและย่ำแย่กว่านี้นับร้อยพันเท่า กับเรื่องเล็กๆอย่างรสนิยมทางเพศมันก็กลายเป็นเรื่องขี้ผงไม่ต่างอะไรกับรสนิยมการกินนั่นแหละ และมันก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรถ้าเหยื่อล่อจะเปลี่ยนจากเนื้อเป็น อย่างอื่น....
"ผมก็ไม่ได้หวังให้คุณมาเกรงใจอยู่แล้ว"
ริมฝีปากบางเฉียบที่กัดกินลิ้มรสเนื้อหนังทั้งมนุษย์และกูลมามากมายแนบลงกับริมฝีปากของผม เราจูบกัน ทำในสิ่งที่ต่างจากกิจวัตรเดิม เขาไม่ได้ลงน้ำหนักแรงฟันแต่ลิ้มรสผมผ่านปลายลิ้นเพียงอย่างเดียว ผมได้ยินเสียงครางแผ่วในลำคอยาว ไม่ใช่เสียงแบบสัตว์ป่าแต่เป็นเสียงของความพึงพอใจ ทสึกิยาม่าซังหายใจแรงขึ้น นักชิมที่ละเมียดละไมในการลิ้มรสบรรจงถอดเสื้อกล้ามบนตัวผมออก ริมฝีปากที่แนบชิดจำต้องละห่าง ผมสะกิดกระดุมเสื้อเชิ้ตลวดลายแปลกตาออกจากรังดุม เปลือยกูลนักชิมด้วยตัวเอง อนุญาตให้เขาได้สัมผัสผมเต็มที่ ทสึกิยาม่าซังดูตื่นเต้นไม่น้อย เขาจ้องมองผมอยู่ครู่ใหญ่ซึ่งผมก็ปล่อยให้เขาสำรวจร่างกายได้ตามใจ จูบที่ทิ้งช่วงเอาไว้ถูกสานต่อ พวกเราเปิดตา จ้องมองอีกฝ่าย เห็นทุกสีหน้าและอารมณ์ที่เกิดขึ้น คลี่ยิ้มให้กันและกันแล้วจูบกันอีกครั้ง
"อื้ม..."
เขาดันร่างผมลงกับโซฟา ลูบโลมหยอกเอินเนื้อตัวผมจนเสียงร้องหลุดออกไป ผมรู้ว่ามันเกิดขึ้นแต่ก็ห้ามและหยุดตัวเองไม่ได้ในเมื่อมันคือธรรมชาติของร่างกาย กูลก็คือมนุษย์ที่กินเนื้อมนุษย์และมีพลังเหนือธรรมชาติเท่านั้นเอง
นักชิมวิปลาสขุดเอาความปรารถนาที่ใต้ก้นบึ้งแห่งจิตสำนึกขึ้นมา
"อ้า! อาา!"
เขาทำให้ผมครวญครางทุรนทุรายด้วยความอ่อนโยนแท้จริงที่หาได้ยากจากนักชิม เขาชิมผมครั้งแล้วครั้งเล่า กลืนกินผิวกาย ปลุกความรู้สึกจากเนื้อหนังหรือแม้กระทั่งบนชิ้นส่วนที่อยู่ใต้การควบคุมของความละอาย เขาทำให้มันขาดสะบั้นจนเหลือเพียงความต้องการที่มีต่อเขา ผมพรั่งพร้อมแล้วสำหรับทสึกิยาม่าซัง
" เวลาที่เธอควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้มันดูช่างงดงามจนใจสั่นทีเดียว ฉันสงสัยจริงๆว่านี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่าที่เธอเป็นแบบนี้ คาเนกิคุง.."
"แต่มันไม่ใช่ครั้งแรกของคุณอยู่แล้ว ผมแปลกใจจริงๆว่าคุณเคยทำแบบนี้กับเหยื่อก่อนที่จะกินพวกเขาหรือเปล่า?"
ผมรวบรวมสติโต้ตอบคำถามของเขา ทสึกิยาม่าซังหัวเราะในลำคอเบาๆ ส่งยิ้มไร้ความจริงใจมาให้
"ชั้นไม่วิปริตขนาดนั้นหรอกน่า"
ผมไม่เชื่อเขาหรอก...เพราะเขามันวิปริตกว่านั้น
สติที่มีน้อยนิดหลุดลอยไป ทสึกิยาม่าซังฝังความปรารถนาลึกลงมา เจ็บน้อยกว่าตอนต่อสู้ แต่ก็ยังเจ็บอยู่ดี เขาร้อน แข็งกร้าวและคุกคามเหมือนดาบคมๆที่ปักอยู่ในร่างของผมหากไม่ได้เกิดอันตรายใดๆต่อผม นอกจากไม่อันตรายมันยังแสนจะเป็นมิตรตอนที่ทสึกิยาม่าซังให้มันค่อยๆรู้จักร่างกายผมช้าๆ จนเมื่อสนิทสนมคุ้นเคยกันดีแล้วความเกรงอกเกรงใจจึงค่อยๆถอยห่างไป เราแนบชิดกันหน่วงหนัก รุนแรงเสมือนคนที่คุ้นเคยกันมานาน ดวงตาของนักชิมแสดงความเป็นกูลออกมา ยึดร่างกายผมไว้แน่น แน่นอนว่าผมก็ไม่ต่าง รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของตาซ้าย พวกเราหิวกระหายแต่ไม่ได้ต้องการจะทำร้ายอีกฝ่าย ทำก็แค่มึนเมาเอร็ดอร่อยไปกับอาหารมื้อแรกของแต่ละฝ่ายเท่านั้น...
..........................
"ชั้นไม่ได้ทำคาเนกิคุงเจ็บใช่ไหม?"
นักชิมที่ยังไม่ได้รับอาหารลงกะเพาะแต่กลับรู้สึกอิ่มหนำอย่างประหลาดก้มลงกระชิบชิดใบหูถามเด็กหนุ่มกูลตาเดียวที่ยึดเอาตักของเขาเป็นที่พักแรง ร่างกายยังเปลือยเปล่าแต่ก็ไม่มีใครคิดใส่ใจ เพราะที่ร่วมกันทำนั้นมันยิ่งกว่านี้
คาเนกิ เคนแหงนหน้าขึ้นมองใบหน้าคนถาม ยิ้มซุกซนใส่ดวงตาเจ้าเล่ห์ที่ทำให้ทสึกิยาม่าอดคิดถึงรอยยิ้มอายๆของคาเนกิคนก่อนไม่ได้ เพราะอย่างน้อยมันก็จะไม่ส่งผลกับจังหวะหัวใจเขามากเท่าตอนนี้
"คุณเห็นอะไรบนหลังบ้างไหมล่ะ?"
กูลตาเดียวทำตาใสถาม กูลที่มีรอยข่วนลึกและยาวบนแผ่นหลังซึ่งร่างกายยังซ่อมแซมไม่เสร็จยกยิ้มมุมปาก
"จะทำแบบนี้กับใครอีกรึเปล่า?"
กูลผมขาวชม้อยตามอง ส่งสายตาท้าทายลึกๆให้
"ถ้าทสึกิยาม่าซังนอกลู่นอกทางไม่เชื่อฟังผม...ก็ไม่แน่"
กูลนักชิมหัวเราะน้อยๆกับคำคาดโทษ จะหนีไปไหนรอดในเมื่อทุกวันนี้ที่คลั่งใคล้หลงใหลก็มีอยู่แค่คนเดียว..ชมือใหญ่ยึดปลายคางเเหลมเอาไว้ในอุ้งมือ และเอ่ยคำสัญญาที่อย่างน้อยก็สำหรับเวลานี้
"ถ้างั้น ... ผมจะเชื่อฟังแค่มองซิเออร์คาเนกิแค่คนเดียวแน่นอน..."
ผลงานอื่นๆ ของ ไอคาลิป ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ไอคาลิป
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น