ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Silver Times [WonHyuk]

    ลำดับตอนที่ #7 : Brown to Silver

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ย. 55



    “หึหึ...” คนร้ายที่ไม่ยอมจนมุมส่งเสียงหัวเราะในลำคอ ไม่ทันไรโทรศัพท์ของมันก็ดังขึ้นพร้อมๆกับที่เสียงหัวเราะกวนประสาทของมันยิ่งดังกังวาลขึ้นกว่าเดิม

    “เอ้า  รับเลยพ่อหนุ่ม!”

        ลางสังหรณ์บอกให้ชีวอนกดรับสายโดยเร็ว

    “ฮัลโหล  หัวหน้า ทางนี้เรียบร้อยแล้วนะครับ ฮยอกแจให้ผมเข้ามาข้างในแล้ว กำลังนั่งดื่มชากันอยู่เลย”

    “........แก........”   ชีวอนคำราม  ตอนนี้ในกายของเขาลุกท่วมไปด้วยโทสะ และดูเหมือนทางปลายสายจะอ่านสถานการณ์ออก มันเงียบๆไปพักหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนความเงียบเป็นเสียงหัวเราะแหลมตอบมา

    “โอ้! ฮ่าๆๆ คุ๊กกี้อร่อยจริงๆนะ โดยเฉพาะกับเด็กน่ารักๆแบบนี้น่ะ  จริงมั้ยครับฮยอกแจ?”

         ชีวอนได้ยินเสียงฮยอกแจที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวตอบกลับมาเบาๆ

    “ชีวอนรีบกลับมาสักที คุณลุงเขาจะได้ไม่ต้องรอนาน”

    “ฮะ..ฮยอกแจ!!  ฮยอกแจหนีไป!!!  หนีไปซะฮยอกแจ!!!”

    “โอ๊ะๆ ทางนั้นเสียงดังจังนะ คลื่นไม่ดีหรือไงกัน”   อาคันตุกะไม่ได้รับเชิญที่ถือสายโทรศัพท์อยู่พูดใส่สายมาด้วยน้ำเสียงน่ากระทืบเต็มประดา  เขามองหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะขอตัวไปหาคลื่นสักพัก  เมื่อพ้นสายตาฮยอกแจน้ำเสียงที่พยายามปั้นให้ดูเหมือนคุณลุงใจดีก็เปลี่ยนไป

    “ไง  คุณตำรวจเข้าใจสถานการณ์แล้วนะ”

         ชีวอนกำหมัดแน่น พูดด้วยน้ำเสียงคล้ายคำราม ทำเอาบรรยากาศรอบข้างโอบล้อมไปด้วยความตึงเครียดอย่างรวดเร็ว

    “แกต้องการอะไร...?” 

    “ปล่อยหัวหน้าฉันซะ แล้วฉันก็จะไว้ชีวิตไอ้เด็กนี่”

    “....ไอ้สารเลว”

         อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ

    “ขอเตือนไว้ก่อนนะว่าอย่าคิดตุกติก  ฉันเพิ่งวางยานอนหลับมันไปเมื่อกี้ ไม่กี่นาทียาคงออกฤทธิ์”

    “เวรเอ๊ย!!”   ชีวอนเตะถังน้ำมันแถวนั้นกระเด็นไปไกล

    “ถ้าฉันเห็นอะไรไม่ชอบมาพากลแม้แต่นิดเดียวล่ะก็ สมองมันกระจายแน่....อ่า...แล้วก็นะ อย่าช้าแล้วกัน ไอ้ประเภทของน่ารักๆที่นอนนิ่งๆน่ะ ไม่ว่าใครก็อดใจไม่ไหวหรอก จริงมั้ยเพื่อน  ฮ่ะๆๆๆ!!!!”

        ชีวอนสบถหยาบออกมาพร้อมเขวี้ยงโทรศัพท์ลงพื้นแตกกระจาย เขาเหลือบตาที่เหมือนอสูรกายมองไอ้ตัวหัวหน้าที่เพิ่งถูกลูกน้องเรียกร้องให้ปล่อยตัว ความโกรธแค้นที่เกินจะยับยั้งไว้ทำให้ร่างสง่าดิ่งเข้าไปเตะปากมันจนเลือดพุ่ง ซี่ฟันลอยละลิ่ว เดือดร้อนลูกน้องต้องมาห้ามไว้

    “พอๆๆ พอเถอะครับ!”

    “ฉันไม่ปล่อยให้แกไปตายสบายในคุกแน่  ไอ้ขยะจัญไร!”    ชีวอนชี้หน้าสาปแช่งไอ้ตัวหัวหน้ามันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินอาดๆไปที่มอเตอร์ไซค์ของตน ซองแทวิ่งตามไป

    “ลูกพี่ แผลนั่น....”

    “ไม่ต้อง!! แกดูทางนี้ไป!!”

    “แต่ว่า....”

         เสียงเครื่องคำรามสุดเสียงวิ่งออกไปด้วยความเร็ว ซองแทได้แต่ป้องปากตะโกนไล่หลังไป

    “ลูกพี่มีสตินะครับ!!!”

          ชีวอนไม่ได้ยินเสียงนั้น ตอนนี้ทั้งหูของเขา ทั้งโสตประสาทไม่สามารถรับรู้อะไรได้ทั้งสิ้น ภาพในสมองมีแต่ใบหน้าของฮยอกแจลอยขึ้นมา ความกังวลพลุ่งพล่านจนมือที่จับแฮนด์นั้นต้องกระชับแน่นเพื่อไม่ให้อาการสั่นน้อยๆนั่นปรากฏออกมา วินาทีนั้น เสียงของเรนารี่และคำพูดของเธอที่ชีวอนแทบจะไม่เคยคิดว่ามันจะมาติดอยู่ในความทรงจำของเขาก็ย้อนกลับเข้ามา...

           ถ้าคิดจะมีความรักบนเส้นทางนี้ ก็เตรียมใจไว้ว่าจะต้องจากตั้งแต่เนิ่นๆละกัน.....

           ชีวอนกัดฟันแน่น เสียงกรอดแกรดดังเข้าไปในสมองเขา


              ...มันจะไปเตรียมใจได้ยังไง  ก็ในเมื่อตกหลุมรักเด็กคนนั้นไปตั้งแต่ตอนไหน เขายังไม่รู้ตัวเลย....
        










         รถมอเตอร์ไซค์สีดำจอดลวกๆไว้ที่ทางขึ้นคอนโดหรู  ชีวอนก้าวขายาวๆวิ่งขึ้นบันไดโดยลืมความเหน็ดเหนื่อยไปสิ้น  เขาถึงห้องตัวเอง ความตื่นกลัวที่ไม่เคยเป็นมาก่อนกำลังบั่นทอนสติไม่ให้ฉุกคิดอะไรได้ ทันทีที่เห็นบานประตู ร่างสูงก็ชักปืนออกแล้วยิงกระหน่ำ เสียงปืนทำให้ผู้คนวิ่งแตกตื่นกันชุลมุน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นชีวอนกลับมองไม่เห็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้น  เขาถีบประตูเข้าไป และภาพที่เขากลัวที่สุดก็เกิดขึ้นตรงหน้า
        
          บุรุษในชุดดำยืนอยู่ด้านหลังโซฟา มือหน้าหนึ่งล็อคแขนฮยอกแจที่หลับสนิทไว้กับตัว อีกมือถือปืน แล้วจ่อไปที่ขมับของร่างเล็กในอ้อมกอดอีกข้าง  
       
         ใบหน้าดุดันแสนอัปลักษณ์ขยายรอยยิ้มแสยะเมื่อเห็นชีวอน

    “ยินดีต้อนรับครับ คุณตำรวจ”

         ชีวอนจ่อปืนตรงไปข้างหน้า ร่างของเขาสั่นเทิ้มด้วยโทสะ เสียงหายใจหอบผลกระทบจากที่วิ่งขึ้นบันไดมานับสิบชั้นนั้นทำให้หน้าอกขยับขึ้นลงท่ามกลางความเงียบที่แสนกดดัน เป้าของปืนจึงไม่นิ่งจนน่าหวั่น

    “ถ้าแกไม่อยากตาย ปล่อยหมอนั่นซะ” เสียงต่ำขู่ในลำคอ แต่ก็ดังกังวาลจนน่ากลัว แต่ยิ่งซีเรียส ก็เหมือนยิ่งทำให้บรรยากาศสนุกสนานขึ้นสำหรับคนร้าย มันหัวเราะสนุกสนานราวกับเมายา

    “นี่..ฉันจะบอกอะไรให้นะ พูดแล้วจะหาว่าชม.. แต่ไอ้การมาแหย่จมูกอสูรกายอย่างนาย ใครๆก็รู้ดีว่าต้องเตรียมตัวมาตายเท่านั้นถึงจะกล้า” มันว่า  เสียงสั่นน้อยๆแต่ก็ยังมั่นคง

    “ไอ้ตายน่ะ ตายแน่ แต่แค่ไม่ตายคนเดียว แล้วก็ไม่ตายแบบเสียเที่ยว  นี่ล่ะที่ฉันต้องการ”

       ชีวอนโมโหจนเตะประตูดังลั่น ที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยรับมือกับคนที่เตรียมตัวตายมาก่อน แต่คราวนี้มันกลับต่างออกไป  ความกังวลมันท่วมท้นหนักหนากว่าหลายเท่า ยิ่งมองร่างที่ไร้สติโดนปากกระบอกปืนจ่ออยู่เบื้องหน้าสติสัมปชัญญะของเขาก็เริ่มยากที่จะทำงานได้ดีเท่าเดิม 

    “ไง  แกปล่อยหัวหน้าของฉันรึยัง?”

    “ไม่มีวัน”

        รอยยิ้มอวดดีนั้นหุบลงเล็กน้อย

    “แกคิดว่าฉันไม่กล้าเป่าสมองไอ้เด็กนี่เหรอไงวะ?”

        ชีวอนกระชับปืนแน่น  ประสบการณ์สั่งให้เขาตัดสินใจยิง แต่ความรู้สึกมันกลับค้านจนเหงื่อกาฬซึมไปทั่วร่าง

          ...แค่นัดเดียวกลางหน้าผาก นิ้วมันคงสะกิดไกปืนได้ไม่เร็วเท่าลูกกระสุนจากปืนเขาหรอก......ทุกครั้งชีวอนคิดเช่นนี้ เขามักทำได้ดีเสมอในสถานการณ์ช่วยตัวประกัน ถึงสิ่งที่ตัดสินใจในหลายๆครั้งจะทำให้โดนเบื้องสูงต่อว่าจนชินชา แต่ไม่มีครั้งไหนที่เขาจะพลาด....แต่ว่าครั้งนี้...การตัดสินใจมันไม่ได้เดิมพันด้วยแค่กระสุน ความไว และความตาย....แต่มันมีอย่างอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย

        ถ้าไม่ใช่เพราะร่างในวงแขนนั้นมีอิทธิพลต่อความรู้สึกเขา ป่านนี้ไอ้สารเลวนั่นคงได้ไปนอนวัดโลงศพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    “ชเว  ชีวอน  สั่งให้ลูกน้องแกปล่อยหัวหน้าฉันซะ”  คนร้ายออกคำสั่ง ดวงตาฉายแววของผู้ชนะเล็กน้อยขณะมองชีวอนยกโทรศัพท์แนบหูด้วยสีหน้าไม่เต็มใจอย่างยิ่ง

    “ซองแท  ปล่อยตัวหัวหน้ามันซะ”  เขาพูดเช่นนั้นแล้วฟังสักพักก่อนจะกดวางสาย 

    “เรียบร้อย  แกปล่อยคนของฉันได้แล้ว”

         ชีวอนแทบอยากจะถลาเข้าหักกระดูกคอมันเมื่อไอ้สารเลวตรงหน้ามันเชยคางฮยอกแจขึ้นมาแล้วหอมแก้มใสนั้นไปฟอดใหญ่

    “ไอ้....!!!   ฉันจะฆ่าแก!!”  

        มันทำเป็นหัวเราะเยาะไม่ใส่ใจ ก่อนจะล้วงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อ...

          ตามแผน...


              ปังงง!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×