คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Brown to Silver
“หึหึ...” คนร้ายที่ไม่ยอมจนมุมส่งเสียงหัวเราะในลำคอ ไม่ทันไรโทรศัพท์ของมันก็ดังขึ้นพร้อมๆกับที่เสียงหัวเราะกวนประสาทของมันยิ่งดังกังวาลขึ้นกว่าเดิม
“เอ้า รับเลยพ่อหนุ่ม!”
ลางสังหรณ์บอกให้ชีวอนกดรับสายโดยเร็ว
“ฮัลโหล หัวหน้า ทางนี้เรียบร้อยแล้วนะครับ ฮยอกแจให้ผมเข้ามาข้างในแล้ว กำลังนั่งดื่มชากันอยู่เลย”
“........แก........” ชีวอนคำราม ตอนนี้ในกายของเขาลุกท่วมไปด้วยโทสะ และดูเหมือนทางปลายสายจะอ่านสถานการณ์ออก มันเงียบๆไปพักหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนความเงียบเป็นเสียงหัวเราะแหลมตอบมา
“โอ้! ฮ่าๆๆ คุ๊กกี้อร่อยจริงๆนะ โดยเฉพาะกับเด็กน่ารักๆแบบนี้น่ะ จริงมั้ยครับฮยอกแจ?”
ชีวอนได้ยินเสียงฮยอกแจที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวตอบกลับมาเบาๆ
“ชีวอนรีบกลับมาสักที คุณลุงเขาจะได้ไม่ต้องรอนาน”
“ฮะ..ฮยอกแจ!! ฮยอกแจหนีไป!!! หนีไปซะฮยอกแจ!!!”
“โอ๊ะๆ ทางนั้นเสียงดังจังนะ คลื่นไม่ดีหรือไงกัน” อาคันตุกะไม่ได้รับเชิญที่ถือสายโทรศัพท์อยู่พูดใส่สายมาด้วยน้ำเสียงน่ากระทืบเต็มประดา เขามองหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะขอตัวไปหาคลื่นสักพัก เมื่อพ้นสายตาฮยอกแจน้ำเสียงที่พยายามปั้นให้ดูเหมือนคุณลุงใจดีก็เปลี่ยนไป
“ไง คุณตำรวจเข้าใจสถานการณ์แล้วนะ”
ชีวอนกำหมัดแน่น พูดด้วยน้ำเสียงคล้ายคำราม ทำเอาบรรยากาศรอบข้างโอบล้อมไปด้วยความตึงเครียดอย่างรวดเร็ว
“แกต้องการอะไร...?”
“ปล่อยหัวหน้าฉันซะ แล้วฉันก็จะไว้ชีวิตไอ้เด็กนี่”
“....ไอ้สารเลว”
อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ
“ขอเตือนไว้ก่อนนะว่าอย่าคิดตุกติก ฉันเพิ่งวางยานอนหลับมันไปเมื่อกี้ ไม่กี่นาทียาคงออกฤทธิ์”
“เวรเอ๊ย!!” ชีวอนเตะถังน้ำมันแถวนั้นกระเด็นไปไกล
“ถ้าฉันเห็นอะไรไม่ชอบมาพากลแม้แต่นิดเดียวล่ะก็ สมองมันกระจายแน่....อ่า...แล้วก็นะ อย่าช้าแล้วกัน ไอ้ประเภทของน่ารักๆที่นอนนิ่งๆน่ะ ไม่ว่าใครก็อดใจไม่ไหวหรอก จริงมั้ยเพื่อน ฮ่ะๆๆๆ!!!!”
ชีวอนสบถหยาบออกมาพร้อมเขวี้ยงโทรศัพท์ลงพื้นแตกกระจาย เขาเหลือบตาที่เหมือนอสูรกายมองไอ้ตัวหัวหน้าที่เพิ่งถูกลูกน้องเรียกร้องให้ปล่อยตัว ความโกรธแค้นที่เกินจะยับยั้งไว้ทำให้ร่างสง่าดิ่งเข้าไปเตะปากมันจนเลือดพุ่ง ซี่ฟันลอยละลิ่ว เดือดร้อนลูกน้องต้องมาห้ามไว้
“พอๆๆ พอเถอะครับ!”
“ฉันไม่ปล่อยให้แกไปตายสบายในคุกแน่ ไอ้ขยะจัญไร!” ชีวอนชี้หน้าสาปแช่งไอ้ตัวหัวหน้ามันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินอาดๆไปที่มอเตอร์ไซค์ของตน ซองแทวิ่งตามไป
“ลูกพี่ แผลนั่น....”
“ไม่ต้อง!! แกดูทางนี้ไป!!”
“แต่ว่า....”
เสียงเครื่องคำรามสุดเสียงวิ่งออกไปด้วยความเร็ว ซองแทได้แต่ป้องปากตะโกนไล่หลังไป
“ลูกพี่มีสตินะครับ!!!”
ชีวอนไม่ได้ยินเสียงนั้น ตอนนี้ทั้งหูของเขา ทั้งโสตประสาทไม่สามารถรับรู้อะไรได้ทั้งสิ้น ภาพในสมองมีแต่ใบหน้าของฮยอกแจลอยขึ้นมา ความกังวลพลุ่งพล่านจนมือที่จับแฮนด์นั้นต้องกระชับแน่นเพื่อไม่ให้อาการสั่นน้อยๆนั่นปรากฏออกมา วินาทีนั้น เสียงของเรนารี่และคำพูดของเธอที่ชีวอนแทบจะไม่เคยคิดว่ามันจะมาติดอยู่ในความทรงจำของเขาก็ย้อนกลับเข้ามา...
ถ้าคิดจะมีความรักบนเส้นทางนี้ ก็เตรียมใจไว้ว่าจะต้องจากตั้งแต่เนิ่นๆละกัน.....
ชีวอนกัดฟันแน่น เสียงกรอดแกรดดังเข้าไปในสมองเขา
...มันจะไปเตรียมใจได้ยังไง ก็ในเมื่อตกหลุมรักเด็กคนนั้นไปตั้งแต่ตอนไหน เขายังไม่รู้ตัวเลย....
รถมอเตอร์ไซค์สีดำจอดลวกๆไว้ที่ทางขึ้นคอนโดหรู ชีวอนก้าวขายาวๆวิ่งขึ้นบันไดโดยลืมความเหน็ดเหนื่อยไปสิ้น เขาถึงห้องตัวเอง ความตื่นกลัวที่ไม่เคยเป็นมาก่อนกำลังบั่นทอนสติไม่ให้ฉุกคิดอะไรได้ ทันทีที่เห็นบานประตู ร่างสูงก็ชักปืนออกแล้วยิงกระหน่ำ เสียงปืนทำให้ผู้คนวิ่งแตกตื่นกันชุลมุน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นชีวอนกลับมองไม่เห็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เขาถีบประตูเข้าไป และภาพที่เขากลัวที่สุดก็เกิดขึ้นตรงหน้า
บุรุษในชุดดำยืนอยู่ด้านหลังโซฟา มือหน้าหนึ่งล็อคแขนฮยอกแจที่หลับสนิทไว้กับตัว อีกมือถือปืน แล้วจ่อไปที่ขมับของร่างเล็กในอ้อมกอดอีกข้าง
ใบหน้าดุดันแสนอัปลักษณ์ขยายรอยยิ้มแสยะเมื่อเห็นชีวอน
“ยินดีต้อนรับครับ คุณตำรวจ”
ชีวอนจ่อปืนตรงไปข้างหน้า ร่างของเขาสั่นเทิ้มด้วยโทสะ เสียงหายใจหอบผลกระทบจากที่วิ่งขึ้นบันไดมานับสิบชั้นนั้นทำให้หน้าอกขยับขึ้นลงท่ามกลางความเงียบที่แสนกดดัน เป้าของปืนจึงไม่นิ่งจนน่าหวั่น
“ถ้าแกไม่อยากตาย ปล่อยหมอนั่นซะ” เสียงต่ำขู่ในลำคอ แต่ก็ดังกังวาลจนน่ากลัว แต่ยิ่งซีเรียส ก็เหมือนยิ่งทำให้บรรยากาศสนุกสนานขึ้นสำหรับคนร้าย มันหัวเราะสนุกสนานราวกับเมายา
“นี่..ฉันจะบอกอะไรให้นะ พูดแล้วจะหาว่าชม.. แต่ไอ้การมาแหย่จมูกอสูรกายอย่างนาย ใครๆก็รู้ดีว่าต้องเตรียมตัวมาตายเท่านั้นถึงจะกล้า” มันว่า เสียงสั่นน้อยๆแต่ก็ยังมั่นคง
“ไอ้ตายน่ะ ตายแน่ แต่แค่ไม่ตายคนเดียว แล้วก็ไม่ตายแบบเสียเที่ยว นี่ล่ะที่ฉันต้องการ”
ชีวอนโมโหจนเตะประตูดังลั่น ที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยรับมือกับคนที่เตรียมตัวตายมาก่อน แต่คราวนี้มันกลับต่างออกไป ความกังวลมันท่วมท้นหนักหนากว่าหลายเท่า ยิ่งมองร่างที่ไร้สติโดนปากกระบอกปืนจ่ออยู่เบื้องหน้าสติสัมปชัญญะของเขาก็เริ่มยากที่จะทำงานได้ดีเท่าเดิม
“ไง แกปล่อยหัวหน้าของฉันรึยัง?”
“ไม่มีวัน”
รอยยิ้มอวดดีนั้นหุบลงเล็กน้อย
“แกคิดว่าฉันไม่กล้าเป่าสมองไอ้เด็กนี่เหรอไงวะ?”
ชีวอนกระชับปืนแน่น ประสบการณ์สั่งให้เขาตัดสินใจยิง แต่ความรู้สึกมันกลับค้านจนเหงื่อกาฬซึมไปทั่วร่าง
...แค่นัดเดียวกลางหน้าผาก นิ้วมันคงสะกิดไกปืนได้ไม่เร็วเท่าลูกกระสุนจากปืนเขาหรอก......ทุกครั้งชีวอนคิดเช่นนี้ เขามักทำได้ดีเสมอในสถานการณ์ช่วยตัวประกัน ถึงสิ่งที่ตัดสินใจในหลายๆครั้งจะทำให้โดนเบื้องสูงต่อว่าจนชินชา แต่ไม่มีครั้งไหนที่เขาจะพลาด....แต่ว่าครั้งนี้...การตัดสินใจมันไม่ได้เดิมพันด้วยแค่กระสุน ความไว และความตาย....แต่มันมีอย่างอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย
ถ้าไม่ใช่เพราะร่างในวงแขนนั้นมีอิทธิพลต่อความรู้สึกเขา ป่านนี้ไอ้สารเลวนั่นคงได้ไปนอนวัดโลงศพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ชเว ชีวอน สั่งให้ลูกน้องแกปล่อยหัวหน้าฉันซะ” คนร้ายออกคำสั่ง ดวงตาฉายแววของผู้ชนะเล็กน้อยขณะมองชีวอนยกโทรศัพท์แนบหูด้วยสีหน้าไม่เต็มใจอย่างยิ่ง
“ซองแท ปล่อยตัวหัวหน้ามันซะ” เขาพูดเช่นนั้นแล้วฟังสักพักก่อนจะกดวางสาย
“เรียบร้อย แกปล่อยคนของฉันได้แล้ว”
ชีวอนแทบอยากจะถลาเข้าหักกระดูกคอมันเมื่อไอ้สารเลวตรงหน้ามันเชยคางฮยอกแจขึ้นมาแล้วหอมแก้มใสนั้นไปฟอดใหญ่
“ไอ้....!!! ฉันจะฆ่าแก!!”
มันทำเป็นหัวเราะเยาะไม่ใส่ใจ ก่อนจะล้วงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อ...
ตามแผน...
ปังงง!!!
ความคิดเห็น