ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Silver Times [WonHyuk]

    ลำดับตอนที่ #3 : Yellow to Silver

    • อัปเดตล่าสุด 4 ส.ค. 55






       ตี๊ดดดด!!  ตี๊ดดดด!!!

    “อะไรซองแท?!”

    “ลูกพี่ครับ  อยู่ไหนแล้ว?”

    “ทำไม? มีอะไร?”

    “ผมเอาเอกสารมาให้ที่ห้องแล้ว แต่..แต่ไม่เห็นเจ้าเหมียวสักตัวเลยอ่ะครับ”

        เจ้าของเสียงทุ้มอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ตอนนี้เขาหมดภารกิจสำหรับวันนี้แล้ว  กำลังขับมอเตอร์ไชค์ดิ่งกลับบ้าน แต่ตอนนี้ร่างสูงกำลังเดินอยู่ในซุปเปอร์มาเกต  นานมากแล้วที่เขาไม่ได้เข้ามาในที่แบบนี้ ต้องขอบคุณเจ้าเหมียวผอมโกรกที่บ้านที่ทำให้เขาไม่ลืมว่าการซื้อของในซุปเปอร์ฯนั้นทำยังไง

    “ไม่เห็นสิ่งมีชีวิตอะไรเลยเหรอ?”

    “ครับ”

     “งั้นลองเรียกดู”

    “อะ...เหมียวๆ  เจ้าเหมียว  เจ้า...อะ...เฮ่ย!!  ลูกพี่  มีเด็กผู้ชายเดินออกมาจากห้องน้ำน่ะครับ!!” ความซื้อบื้อของซองแททำให้ชีวอนหลุดขำออกมาอีกครั้ง   เขาหยิบกระป๋องน้ำอัดลมใส่ตะกร้าก่อนจะพูดกลับไป

    “นั่นล่ะเจ้าเหมียวล่ะ”

    “ห๊า!!”

    “เป็นไง แมวผีชัดๆเลยว่ามั้ย”

    “นะ...นี่ลูกพี่เลี้ยงเด็กผู้ชายเหรอครับ!!!!!”

    “...ห๊ะ?!”

    “เด็กหนุ่มตาโต ผิวขาวหน้าตาน่ารัก ถะ...แถมเรียกว่าเจ้าเหมียวอีก...นี่...นี่ที่ไม่มีแฟนเพราะรสนิยมของลูกพี่เป็นแบบนี้นี่เองเหรอครับเนี่ย”

         ฝ่ามือหนาเผลอบีบกระป๋องน้ำในมือจนมันส่งเสียงฟ่อออกมาเบาๆ  ชีวอนกัดฟันกรอด

    “ไอ้ซองแท...อยู่กินข้าวเย็นกับฉันก่อนนะ  เดี๋ยวจะรีบกลับเอาลูกตะกั่วไปเสิร์ฟเดี๋ยวนี้เลย!!!!”

    “อะ..ห๊ะ...ผะ..”

        ชีวอนวางสายไป สงสัยพรสวรรค์ของไอ้ลูกน้องคนสนิทคงเป็นการกวนโมโหเจ้านายความอดทนต่ำอย่างเขาเป็นแน่ จากที่ค่อยๆเลือกนู่นเลือกนี่อย่างใจเย็น ตอนนี้ชีวอนเปลี่ยนเป็นโยนข้าวของใกล้มือลงตะกร้าอย่างเกรี้ยวกราดจนพนักงานในร้านพากันจับตามองเขาอย่างหวาดหวั่น

           พอกลับถึงบ้านได้ ร่างสูงก็เหวี่ยงถุงของที่ซื้อมาใส่ตักคนผมบรอนด์ก่อนจะตรงเข้าคว้าคอซองแทที่หนีไม่ทันบีบแล้วเขย่าๆจนลิ้นจุกปากทันที

    “ฉันเป็นเพื่อนเล่นแกเหรอห๊า ไอ้ซองแท!!!!!”

    “อะ..อะ...ขอโทษคร๊าบบบบลูกพี่!!!”

        ระหว่างที่ปล่อยให้หัวหน้ากับลูกน้องสะสางคดีส่วนตัวกันไป  ร่างเล็กที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนโซฟาก็เริ่มรื้อของในถุงออกมาวาง เขาแกะขนมกิน  เปิดน้ำดื่ม และเริ่มสนใจกับของชิ้นหนึ่งที่ไม่เคยรู้จัก

    “นี่อะไร?”

      เสียงของเขาทำให้สงครามสงบลง ซองแทไหลไปกองอยู่บนพื้น  ส่วนชีวอนที่ยอมลดราวาศอกปัดไม้ปัดมือก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าม  เปิดกระป๋องเบียร์แล้วดื่มอั่กๆ

    “ยาทาแผล ที่หน้านั่นไง แขน คอนั่นอีก”

           มือเล็กเลื่อนจับแก้มตน ก่อนจะเรื่อยไปที่คอ แล้วมองหารอยแผลที่แขนทั้งสองข้าง 

     “มีตั้งแต่เมื่อไหร่ ”  เขาว่า ก่อนจะใช้ดวงตาซื่อๆมองหน้าชีวอน

    “นายนี่ก็ช่างสังเกตนะ มองอยู่ตลอดเลยหรอไงกัน?”

        เบียร์แทบถูกพ่นออกมาจากปาก ชีวอนถลึงตา เหลือบมองซองแทที่หัวเราะคิกคักขึ้นมาทั้งๆที่สภาพปางตาย  

    “ขำบ้าอะไรวะ! ถ้าตาไม่บอดมันก็ต้องเห็นเป็นธรรมดาไม่ใช่เหรอไง!!”

    “ทะ..ที่อื่นน่ะพอเห็นครับ  แต่ที่คอ...”

    “ไอ้ซองแท!!!!”

    “โอย  หนวกหู”   ร่างเล็กยกนิ้วแยงหู คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันพร้อมสีหน้าหงุดหงิดเล็กๆก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะ เดินไปยืนหน้ากระจกแล้วมองแผลตนอยู่เงียบๆ   ชีวอนมองตามร่างนั้น  นึกหมั่นไส้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

    “นี่นายกล้าดียังไงมาพูดแบบนั้นกับผู้มีพระคุณอย่างฉันห๊ะ ไอ้เหมียว!”

    “พระคุณอะไร?”

          แค่คำถามสั้นๆก็ทำเอาชีวอนเลือดขึ้นหน้าอย่างรวดเร็ว

    “ที่ฉันเก็บนายมานี่คิดว่าฉันอยากทำนักหรือไง!!”

          ดวงตาโตของคนหน้ากระจกเหลือบกลับมาทางชีวอนทันที นัยน์ตาเฉื่อยๆคู่นั้นจับจ้องอยู่นาน..นาน..เหมือนจะรอให้แก้ไขคำพูดดังกล่าว......

          ชีวอนเองก็หยุดการเคลื่อนไหวไปชะงัก ความจริงถ้าเขาเหวี่ยงขนาดนี้ล่ะก็คงได้มีลงไม้ลงมือกันบ้างแล้ว แต่ทันทีที่สบตากับร่างบางที่หันมองมา...น่าแปลกที่เขากลับคิดเพียงแค่ว่าอยากย้อนเวลาไปเก็บคำพูดบ้าๆของตัวเองกลับมา..

    “ละ...ลูกพี่...”

      ซองแทคนกลางปีนขึ้นมาจากพื้น เขาเกาหัวแกรกๆพลางมองไปที่คนทั้งสอง ก่อนจะเลือกที่จะเดินไปทางชีวอน

    “ละ...ลูกพี่  ไปดื่มเบียร์ข้างล่างกันสักหน่อยดีมั้ย......ครับ”

         ปัง!

       ร่างบางเป็นฝ่ายปลีกตัวออกไปก่อน  เด็กหนุ่มผมบลอนด์เดินอาดๆคว้าประตูห้องนอนของชีวอนเหวี่ยงปิดแล้วขังตัวเองอยู่ในนั้น ร่างสูงลุกพรวด เตรียมจะตามไป แต่พอหันมาเห็นซองแทก็นึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ควรมาเสียมาดต่อหน้าลูกน้อง เลยได้แต่เหวี่ยงกระป๋องเบียร์ลงถังอย่างแรงแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาอีกครั้ง

    “อะ...เอ่อ...งั้นผมกลับ...กลับก่อน....”

    “ไม่ต้อง”

    “อะ...ครับๆ”

         ชีวอนใช้เวลาสงบสติอารมณ์อยู่สักพัก  เขาลุกขึ้นไปหยิบเอกสารมาวางบนโต๊ะ  และนั่งลงตำแหน่งเดิม

    “เรื่องเรนารี่ เม จัดการเรียบร้อยรึยัง?”

    “อ่อ ครับ ตอนนี้เธอกลับไปแล้ว  แต่ต้องรออีกสักพักกว่าจะส่งข่าวครั้งต่อไปได้”

    “อืม...”

    “อา...ลูกพี่ครับ ผม...ขอถามเรื่อง..จะ...เจ้าเหมียวนั่นหน่อยได้มั้ย?”

           นัยน์ตาคมหรี่ลงทันที

    “ทำไม?”  เสียงเข้มของชีวอนทำให้ซองแทกลืนน้ำลายลงคอโดยอัตโนมัติ

    “ผมคุยกับเขา  เหมือนเขาจะจำอะไรไม่ได้เลย...”

    “ความจำเสื่อมน่ะสิ...”   จากนั้นชีวอนก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ลูกน้องของตนฟัง ซองแทเป็นผู้ฟังที่ดีมาตลอด มีแค่ครั้งนี้เท่านั้นที่จู่ๆเขาก็แทรกขึ้นมากลางคัน

    “ลูกพี่!  รึว่าเขา......”

           ชีวอนส่งเสียงชู่ววพลางทำหน้าดุ เขาดูไม่ตื้นเต้นในอากัปกริยาของซองแท ชีวอนขยับตัวเข้ามาใกล้ เหลือบมองไปทางประตูห้องนอนอย่างระมัดระวัง ก่อนจะหยิบรูปถ่ายใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกง และส่งให้ซองแท 

    “เก็บซะ”  ซองแทมองรูปในมือแวบหนึ่ง ...มันเป็นรูปของเจ้าเหมียวขี้งอนคนเมื่อครู่นี้ ตอนนอนสลบไสลอยู่บนโซฟาตัวเดียวกับที่เขานั่งอยู่  ที่มือทั้งสองข้างถูกล็อคเข้ากับขาโต๊ะ ดูแล้วน่าอนาถใจ......ดูได้แวบหนึ่ง ประตูห้องของชีวอนก็เปิดออก เจ้าเหมียวของลูกพี่เขาก็เดินพกหน้าตาแสนงอนออกมาคว้าผ้าขนหนูที่พาดอยู่ใกล้ๆกระจกโยนขึ้นพาดบ่า แล้วเดินกลับเข้าไปอีกครั้ง ดูเหมือนกำลังจะอาบน้ำ...
     
         ซองแทถอนใจโล่งอก  เขาพลิกรูปนั้นคว่ำหลบสายตาได้ทันเวลาพอดี...

    “กะ..เกือบไป...”

       ชีวอนเองก็ถอนใจเช่นกัน

    “เอาเถอะ ยังไงก็เอาให้รู้ก่อนละกันว่าชื่ออะไร ลูกเต้าเหล่าใคร” ร่างสูงว่า กระดกเบียร์กระป๋องที่สองเข้าปากแล้วเอ่ยอีก

    “...ถ้าไม่ใช่ลูกหลานออสการ์ ฉันจะได้พาไปหาหมอสักที ปล่อยไว้แบบนี้...”

     “แล้วถ้าใช่ล่ะครับ?”

        .....ถ้าใช่.............ถ้าใช่เหรอ?....................... 

    “ระ...เรื่องนั้นค่อยว่ากัน”

         ระหว่างนั้นเสียงอะไรบางอย่างก็ดังออกมาจากในห้องนอน

    “อ๊า! อะ..! อะไรเนี่ย!! โอ๊ยย!!”

       เป็นเสียงของไอ้เจ้าเหมียวตัวดีนั่นเอง ชีวอนลุกพรวด รีบผลักประตูเข้าไปดู  แต่พอเห็นภาพข้างใน ร่างสูงก็เบิกตาโต แล้วรีบดึงประตูปิดอย่างรวดเร็วจนแทบกระแทกหน้าของซองแทที่เพิ่งวิ่งมาถึง

    “กะ...เกิดอะไรขึ้นครับ?!”

        ชีวอนกระพริบตาถี่ๆทั้งๆที่ยังเบิกโพลง ปากเขาอ้าพะงาบๆหมดมาดชเว  ชีวอนที่ซองแทรู้จักไปโดยสิ้นเชิง

    “ซะ...ซองแทแกกลับไปได้แล้ว”

    “หะ..เห??”

    “บอกให้กลับก็กลับสิวะ!!”

    “อะ...ครับๆๆๆ  ราตรีสวัสดิ์ครับลูกพี่  เจอกันพะ...พรุ่งนี้ครับ!!”  

         ชีวอนรอจนซองแทวิ่งหัวซุกหัวซุนออกไป แล้วค่อยตัดสินใจผลักประตูเข้าไปอีกครั้ง...

         เขามองซ้ายมองขวา ...ไอ้เหมียวชีเปลือยที่วิ่งถือขวดแชมพูออกมาจากห้องน้ำเมื่อครู่หายไปแล้ว...เขาพยายามเงี่ยหูฟัง  ได้ยินเสียงน้ำในห้องน้ำยังดังอยู่เป็นปกติ  แต่ก็คลอไปด้วยเสียงครางเบาๆของคนด้านใน  ด้วยความสงสัย  เขาจึงเดินไปใกล้ๆแล้วเอ่ยขึ้น

    “หะ...เฮ้...เป็นอะไร? เกิดอะไรขึ้น?”   ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ประตูห้องน้ำก็เลื่อนเปิดออก ร่างสูงถลาเข้าไปชนกำแพงด้านใน และสิ่งที่เขาเห็นคือไอ้เจ้าชีเปลือยตัวเดิมก้าวมายืนอยู่ตรงหน้าเขาพลางยื่นขวดแชมพูเข้ามาตรงหน้า โดยที่มืออีกข้างขยี้ดวงตาที่แดงก่ำ

    “ไอ้นี่อะไร? ทำไมเข้าตาแล้วมันแสบขนาดนี้!”

          แต่ประเด็นของชีวอนมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นเลย เป้าสายตาของเขามันดันไปเพ่งอยู่ตรงจุดอื่นที่ไม่ใช่ขวดแชมพูที่ถูกยื่นมาต่างหาก!

          อะ...อะไรดลใจให้ไอ้เด็กนี่วิ่งแก้ผ้าโทงเทงออกไปนอกห้องน้ำแบบนั้นกันห๊ะ!!!!

    “นี่..ช่วยด้วยสิ...ไอ้นี่...”

    “ลงไปในอ่างซะ!”

    “อะ..เอ๊ะ? แต่ตาฉัน...”

    “ลงไปนั่งในอ่างซะ! แล้วฉันถึงจะช่วย!”

     “ฉันมองเห็นอะไรซะที่ไหนเล่า! ก็...อะ..เหวออ...”  ร่างเล็กลอยขึ้นจากพื้น  ชีวอนที่ไม่รู้จะจบเรื่องนี้ยังไงสุดท้ายก็ตัดสินใจอุ้มร่างเล็กขึ้นแล้วเดินฝ่าสายน้ำไปหย่อนร่างนั้นลงในอ่างอาบน้ำ เขาหวังเพียงจะให้น้ำสบู่ขุ่นๆช่วยบังอะไรต่อมิอะไรที่จะทำเอาเกิดเรื่องใหญ่โตตามมาภายหลังไปให้พ้นสายตา...ลำพังจิตใจเวลาคิดอะไรมันก็พอจะปกปิดกันได้ แต่ไอ้ร่างกายนี่ถ้ามันเกิดเตลิดทำอะไรไปแล้วจะมาแก้ทีหลังคงจะยากเอาการ...

         สุดท้ายเจ้าตัวแสบก็นั่งแช่ในอ่างเรียบร้อย มีเพียงไหล่บางๆที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ กับมือทั้งสองข้างที่ยังขยี้ตาไม่เลิก  ชีวอนปาดน้ำออกจากตา มือคว้าฝักบัวลงมาแล้วจ่อไปที่ดวงหน้าขาวที่แช่น้ำจนจะซีดนั่นสักพัก ดวงตาโตที่แดงก่ำทั้งสองข้างก็เปิดขึ้น...ภาพที่เห็นอย่างแรกคือสีหน้าขมึงทึงของร่างสูงที่นั่งกำฝักบัวไว้อยู่ตรงขอบอ่าง

    “นายเอายาพิษมาไว้ในห้องน้ำรึไงกัน?! ตาฉันเกือบจะมองไม่เห็นแล้วรู้มั้ย!!”

    “นี่นายความจำเสื่อมหรือปัญญาอ่อนกันแน่  กะอีแค่ยาสระผม กับสบู่แค่นี้แยกไม่ออกเหรอไง!!”

         คนในอ่างทำหน้าเบี้ยว

    “ก็ขวดมันเหมือนๆกันหมดนี่ ฉันจะไปดูออกได้ไงเล่า!”

    “ก็อ่านเอาสิ  อ่านหนังสือน่ะเป็นมั้ย!!”

    “ดะ..ดันเป็นภาษาอังกฤษซะหมดแบบนี้ใครจะไปอ่านออกกันเล่าเจ้าบ้า!!”  ว่าพลางตีน้ำกระจายแล้วหันหน้างอนตุ๊บป่องหนีไปทางทิศอื่น ชีวอนมองภาพนั้น จากที่เคยหงุดหงิด สุดท้ายก็ขำออกมา

    “อ่ะๆ  โอเคๆ  ฉันผิดเองก็ได้”  เขาว่า เดินไปรวบกล่องขวดสบู่ แชมพูต่างๆนานามาวางไว้ข้างๆแล้วเริ่มอธิบาย

    “ฟังแล้วจำนะ อันนี้สบู่  ขวดขาวๆนี้ยาสระผม ส่วนอันนี้ก็....”  

        นัยน์ตาโตที่ยังแดงๆอยู่นิดๆตั้งใจฟังเขาทั้งๆที่ยังดูงอนๆไม่หาย ชีวอนอธิบายเสร็จก็อดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือไปขยี้ผมสีบลอนด์นั้นเบาๆ...เด็กนี่เหมือนแมวจริงๆแฮะ...

    “ปล่อยเลยนะ!” เจ้าเหมียวแผลงฤทธิ์อีกครั้ง คราวนี้เขาปัดมือชีวอนออก แถมจังหวะที่คนโดนกระทำยังงงๆ ยังไม่วายตีน้ำใส่เขาจนเปียกไปทั้งตัวอีก ชีวอนปาดน้ำออกจากหน้า แยกเขี้ยวแล้วตีน้ำใส่อีกฝ่ายบ้าง

    “มันเปียกนะเว้ย!!”

    “แล้วมาจับหัวทำไม ฉัน ไม่ใช่เด็กนะ!” มือขาววักน้ำใส่อีกครั้ง

    “โอ๊ย! โธ่เว้ยบอกว่ามันเปียก!! เปียกไปหมดแล้วเห็นมั้ย!!” โวยวายเสร็จสรรพ สมองส่วนสั่งการความเจ้าเล่ห์ก็เริ่มทำงาน มุมปากบนดวงหน้าคมคายกระดกขึ้นช้าๆ

    “สงสัย  คงต้องอาบด้วยซะแล้วล่ะมั้ง” พูดจบก็จัดแจงไขว้มือถอดเสื้อโยนออกไปแล้วกระโดดเข้าไปในอ่างอย่างรวดเร็ว ร่างบางที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหดตัวหนี ชีวอนกระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อเห็นท่าทีนั้น ท่าทางอวดดีที่เปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกนั้นทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะแกล้งรุกเข้าไปหาด้วยท่วงท่าราวอสูรกาย

    “นายนี่  ยิ่งมองใกล้ๆยิ่งน่ารักนะ”

    “อะ...อะไรของนาย?”






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×