ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Silver Times [WonHyuk]

    ลำดับตอนที่ #1 : White to Silver

    • อัปเดตล่าสุด 4 ส.ค. 55



    “เวรเอ๊ย!!”


          เป็นอีกครั้งที่ฝีมือของบรรดาผู้ร้ายกินขาดเหนือตำรวจชนิดเทียบไม่ติด  กี่ครั้งแล้วที่ ชเว  ชีวอน เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับผิดชอบคดีใหญ่อย่างแก็งค์มาเฟียรายนี้ต้องมาเดินสบถเตะข้าวของพังพินาศเพื่อระบายอารมณ์ที่การจู่โจมบุกรังของพวกมันกี่ครั้งๆก็เจอแต่น้องหมาน้องแมวหันมามองหน้าทำตาปริบๆ...ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

    “มาเฟียยุโรปก็รับมือยากหน่อยอ่ะครับ  ต้องทำใจ” ลูกน้องเดินมาปลอบใจ แต่ก็ยังไม่วายโดนตาขวางใส่ราวกับหมาบ้า    

        ทั้งที่ๆหวังจะได้เห็นพวกบุรุษหน้าโจรสุมหัวกันอยู่พร้อมอาวุธครบมือแท้ๆ เส้นสายที่แทบแข็งเป็นตะเกียบจะได้หาทางยืดหยุ่นกับเขาบ้าง  แต่นี่มันบ้าอะไร  จะฉลาดก็ไห้มันมีขอบเขตซะบ้างสิวะไอ้คนเลวพวกนี้นี่! 

    “เคลียร์ของแล้วกลับโว้ย!” ร่างสง่าที่ทั้งโทสะทั้งความหงุดหงิดท่วมกายเตะเก้าอี้ลอยละลิ่วเป็นการส่งท้าย ก่อนจะเดินก้าวอาดๆออกจากตึกที่ถูกสายตุ๋นว่าเป็นแหล่งกบดานของแก๊งค์มาเฟียชื่อดัง ‘ออสการ์’ ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเปิดตลาดค้ามนุษย์รายใหญ่ในเกาหลีใต้... ชเว  ชีวอน นายตำรวจหนุ่มยศสูง ผู้ครอบครองฉายา ‘หมาบ้าหน้าหยก’ ถูกมอบหมายให้รับงานจัดการกับขยะพวกนี้  หลังจากถูกพักงานพักใหญ่เนื่องด้วยดันไปมีเรื่องวิวาทกับพนักงานชั้นผู้ใหญ่เพียงเพราะเรื่องพูดแซวเรื่องที่ยังโสด ชีวอนก็ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง แต่อย่าหวังว่านิสัยเดิมๆจะเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมมุทะลุบ้าพลังยังคงเส้นคงวา...ไม่สิ  อาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ... 

    “สองครั้งแล้วนะแบบนี้ พรุ่งนี้ไปลากคอไอ้สายที่ให้ข้อมูลมาเจอฉันด้วย! ”  ชีวอนสบถ เก็บปืนที่บรรจุกระสุนเต็มแมกซ์เข้าในเสื้อ ก่อนจะเหวี่ยงขายาวขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซด์สีดำคันหรูที่ส่งเสียงสตาร์ทดังราวกับปีศาจคำราม

    “อี  ซองแท ประวัติไอ้หัวหน้าแก๊งค์นรกนั่นอยู่ไหน?” เขาตะโกนแข่งกับเครื่องยนต์ เดือดร้อนซองแทต้องตะโกนตอบกลับอย่างยากเย็น

    “พะ...พรุ่งนี้เช้าจะวางไว้ให้บนโต๊ะทันทีเลยครับ!”

    “เออ”     ชีวอนใส่หมวกกันน็อค และบิดเครื่องออกไปในที่สุด

          บรรดาลูกน้องที่ยืนตัวแข็งอยู่ในที่เกิดเหตุถอนใจพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย...

            นี่มัน ... หมาบ้าชัดๆ!!



        นายตำรวจหนุ่มจอดรถแวะซื้อกาแฟร้านประจำแทนมื้อเย็นอีกครั้ง ดวงตาคมมองข้ามสายตาเชิญชวนของสาวน้อยสองสามคนภายในร้าน แล้วก้มลงมองนาฬิกาข้อมือด้วยสีหน้ายุ่งๆตามสไตล์

        ชีวอนกลับมาถึงที่พักในเวลาเที่ยงคืนตรงเผง เข็มนาฬิกาแทบจะไม่มีอิทธิพลกับชีวิตที่ทำงานไม่เป็นเวล่ำเวลาอย่างเขา ร่างสูงเลื่อนรถเข้าไปจอดในลานจอดรถของคอนโดที่อาศัยอยู่  เครื่องยนต์ดับลงช้าๆ มือเรียวดึงหมวกกันน็อคออกพลางสะบัดผมเร็วๆ

         จังหวะนั้น  อะไรบางอย่างก็สะดุดตาเขา

         ณ มุมหนึ่งของลานจอดรถ  มีร่างหนึ่งนอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่ตรงนั้น...

        สัญชาติญาณตำรวจเรียกให้มือรีบจับไปที่ปืนอย่างรวดเร็ว เขามองซ้ายมองขวา ความมืดรอบด้านทำให้สถานการณ์ส่อไปในทางที่ไม่น่าไว้สักเท่าไหร่ เรียวขายาวย่องเข้าไปที่ร่างนั้นช้าๆ และเมื่อเริ่มแน่ใจว่าปลอดภัยระดับหนึ่ง  เขาก็ใช้ปากกระบอกปืนเขี่ยไหล่บางของอีกฝ่ายเบาๆ

     “เฮ่ย..”

    “.....”

    “เฮ้...ตายรึยังเนี่ย มานอนทำบ้าอะไรตรงนี้”  

       ทั้งเขี่ยทั้งสะกิด จนแทบจะเรียกว่ากระทืบได้อยู่แล้วอีกฝ่ายก็ยังไม่มีท่าทีจะขยับ  ชีวอนจับชีพจรเพื่อให้แน่ใจว่าคนตรงหน้ายังมีชีวิตอยู่ เมื่อเห็นว่ายังหายใจปกติ เขาก็จับข้างแก้มของร่างนั้นให้หันมา

    “....ใครวะเนี่ย?”   ร่างสูงพึมพำ มองซ้ายมองขวาอีกครั้งพลางเสยผมอย่างหงุดหงิด ถ้าเป็นผู้หญิงล่ะก็ มาตกอยู่ในสภาพแบบนี้เขาจะอุ้มกลับห้องไปอย่างไม่ลังเลเลย แต่นี่...ถึงรูปร่างหน้าตาจะกระเดียดไปทางสไตล์หวานหยดก็เหอะ  แต่ดูยังไงก็ชายทั้งแท่งอยู่ดี .....อาชีพตำรวจอย่างเขาคนจ้องจะเก็บมีแค่คนสองคนซะที่ไหน ขืนเก็บของตกหล่นกลับบ้านสุมสี่สุ่มห้ามีหวังได้ถูกปาดคอตายคาเตียงกันพอดี

         ...แต่นี่...ดูเหมือนจะไม่ค่อยเท่าไหร่นะ...ตัวเล็กยังกับผู้หญิงขนาดนี้ถ้าลองมีปากมีเสียงมันก็คงไม่ยากถ้าเขาจะจับหักกระดูกได้ภายในไม่กี่วินาที..

    “เอาวะ  ตายไปจะซวยเปล่าๆ!”  ร่างสูงว่า หลังจากจัดการสำรวจอาวุธอีกฝ่ายเสร็จสรรพก็ช้อนร่างนั้นขึ้นทันที

         ...ความจริงอุ้มผู้ชายมันไม่ควรง่ายดายขนาดนี้ไม่ใช่เหรอไงกัน ไอ้เด็กนี่มันขาดสารอาหารแล้วตั้งใจจะมาตายแถวนี้หรือเปล่าวะเนี่ย?!... ชีวอนคิดในใจตลอดเวลาขณะอุ้มอีกฝ่ายขึ้นมายังห้องพักของตน...

    “เอ้า!” เขาเหวี่ยงร่างเล็กลงกับโซฟาในห้องรับแขก ถึงปากจะอวดเก่งบอกว่าไม่หนัก แต่ก็ทำเอาหอบใช่ย่อย 

      ชีวอนยืนหน้ามุ่ยเท้าเอวนิ่งมองคนที่หลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่นาน ...เรียกก็แล้ว ทั้งสะกิดทั้งเขย่าก็แล้ว นี่ถ้าไม่เห็นว่าหายใจอยู่ล่ะก็จะจับยัดโลงให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยคอยดู!

         หลังจากจนปัญญาที่จะปลุก ชีวอนก็ตัดสินใจทิ้งเด็กหนุ่มปริศนาไว้ในบนโซฟานั่นโดยไม่ลืมที่จะล็อคกุญแจมือข้างหนึ่งไว้กับขาโต๊ะเพื่อกันไม่ให้ลุกมาเพ่นพ่านในเวลาที่เขาเข้าห้องไปแล้ว....


          กริ๊งงงง กริ๊งง....

     เสียงโลหะประหลาดปลุกชีวอนให้ตื่นเสียตั้งแต่ตะวันยังไม่โผล่พ้นฟ้า นายตำรวจหนุ่มงัวเงียลุกขึ้นด้วยความหงุดหงิด มือจับไปที่กระบอกปืนตามสัญชาติญาณ แต่เมื่อนึกออกว่าที่มาของเสียงคืออะไร ก็เปลี่ยนมาเสียบกระบอกปืนไว้กับกางเกงแล้วเดินออกไปด้านนอก

         เด็กหนุ่มที่เคยนอนนิ่งอยู่ก่อนหน้านี้ยืนเขย่ากุญแจมือยื้อยุดกับเก้าอี้อยู่ตรงนั้น  ทันทีที่เห็นร่างสูงแปลกหน้าเดินเข้ามาเขาก็ก้าวถอยไป  แววตาไม่ไว้ใจปรากฏบนดวงหน้าขาวราวตุ๊กตา พร้อมกับปากสีชมพูที่เม้มแน่น

    “นาย..นายเป็นใคร?!”
     
    เด็กหนุ่มถามด้วยท่าทางหวั่นๆ ชีวอนมองเขาแล้วก็อดหัวเราะลงคอเบาๆไม่ได้  ผมสีบรอนด์ยุ่งเหยิง เสื้อผ้ายับยู่ยี่  ..ให้ความรู้สึกเหมือนกับเขาเก็บลูกหมาที่ยังไม่เชื่องมาเลี้ยงยังไงไม่รู้

    “ฉันมากกว่ามั้งที่ต้องถามแบบนั้นน่ะ” พูดพลางเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย ร่างนั้นถอยหนีจนล้มตัวไปบนเก้าอี้ ชีวอนส่ายหัวไหวๆแล้วเอื้อมมือปลดกุญแจออก

         เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นอีกฝ่ายกำลังมองเขาตาปริบๆ ทั้งหัวคิ้วมุ่น แววตาไม่เป็นมิตรนั้นทำให้ชีวอนเลือกที่จะออกมาห่างๆ เขาเคยสอบปากคำทั้งผู้เสียหายและผู้ต้องหามานักต่อนักแล้ว แค่นี้ก็คงไม่ยากเกินกว่าที่เขาจะรับมือได้หรอก..

       ชีวอนนั่งลงบนเก้าอี้สูงที่ห่างออกไป เขาทิ้งระยะห่างไว้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายระแวงตนจนไม่เป็นอันทำอะไร ซึ่งก็ได้ผล จากที่เคยตาขวาง ดวงหน้าขาวก็เริ่มผ่อนคลายลงบ้างแล้ว 

    “ที่นี่ที่ไหน?” เด็กหนุ่มเอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ ชีวอนยักไหล่

    “คอนโดส่วนตัวฉันเอง”

    “แล้ว...นายเป็นใคร?”

    “ชื่อชีวอน”

         ดวงตาโตดูสนใจบรรยากาศรอบด้านมากกว่าคำตอบเมื่อครู่

    “ละ...แล้วทำไม..ทำไมฉันถึง...”

    “ทำไมถึงมานั่งตั้งคำถามน่ารำคาญอยู่นี่ใช่มั้ย? ก็บอกแล้วไงว่าไอ้คำถามพรรค์นี้ฉันควรจะเป็นคนถามมากว่ามั้ย?! นายเป็นใคร ชื่ออะไร แล้วนึกบ้าอะไรมานอนอ่อยเหยื่ออยู่ตรงที่จอดรถของฉันไม่ทราบ!!”  ชีวอนเผลอทิ้งความประนีประนอมไปโดยไม่รู้ตัว เขาตวาดใส่อีกฝ่ายไปจนนั่งตัวแข็งนิ่ง ไม่ขยับไปหลายวินาที ...พอเห็นดังนั้น ชีวอนก็นึกโทษตัวเองขึ้นมา เขาถอนใจหงุดหงิดและพยายามควบคุมสติ  ลดท่าทีแข็งกร้าวลงและพูดขึ้นอีกครั้ง

    “โอเค ไหนบอกมาก่อนสิว่านายเป็นใคร?”

         คนที่นั่งนิ่งส่ายหัวเบาๆ

    “คือ...ฉันหมายถึง ..นายคือใคร? ทำอะไร? ที่ไหน?...”

         ร่างบางส่ายหัวอีกครั้ง

    “แล้วชื่ออะไร..?”

         คนผมบรอนด์สว่างส่ายหน้าเบาๆ

    “ไม่รู้.......”

    “ห๊า!!!!”












    (ขอให้จิ้นฮยอกตอนผมบลอนด์นะคะ ><)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×