คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : White to Silver
“เวรเอ๊ย!!”
เป็นอีกครั้งที่ฝีมือของบรรดาผู้ร้ายกินขาดเหนือตำรวจชนิดเทียบไม่ติด กี่ครั้งแล้วที่ ชเว ชีวอน เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับผิดชอบคดีใหญ่อย่างแก็งค์มาเฟียรายนี้ต้องมาเดินสบถเตะข้าวของพังพินาศเพื่อระบายอารมณ์ที่การจู่โจมบุกรังของพวกมันกี่ครั้งๆก็เจอแต่น้องหมาน้องแมวหันมามองหน้าทำตาปริบๆ...ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
“มาเฟียยุโรปก็รับมือยากหน่อยอ่ะครับ ต้องทำใจ” ลูกน้องเดินมาปลอบใจ แต่ก็ยังไม่วายโดนตาขวางใส่ราวกับหมาบ้า
ทั้งที่ๆหวังจะได้เห็นพวกบุรุษหน้าโจรสุมหัวกันอยู่พร้อมอาวุธครบมือแท้ๆ เส้นสายที่แทบแข็งเป็นตะเกียบจะได้หาทางยืดหยุ่นกับเขาบ้าง แต่นี่มันบ้าอะไร จะฉลาดก็ไห้มันมีขอบเขตซะบ้างสิวะไอ้คนเลวพวกนี้นี่!
“เคลียร์ของแล้วกลับโว้ย!” ร่างสง่าที่ทั้งโทสะทั้งความหงุดหงิดท่วมกายเตะเก้าอี้ลอยละลิ่วเป็นการส่งท้าย ก่อนจะเดินก้าวอาดๆออกจากตึกที่ถูกสายตุ๋นว่าเป็นแหล่งกบดานของแก๊งค์มาเฟียชื่อดัง ‘ออสการ์’ ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเปิดตลาดค้ามนุษย์รายใหญ่ในเกาหลีใต้... ชเว ชีวอน นายตำรวจหนุ่มยศสูง ผู้ครอบครองฉายา ‘หมาบ้าหน้าหยก’ ถูกมอบหมายให้รับงานจัดการกับขยะพวกนี้ หลังจากถูกพักงานพักใหญ่เนื่องด้วยดันไปมีเรื่องวิวาทกับพนักงานชั้นผู้ใหญ่เพียงเพราะเรื่องพูดแซวเรื่องที่ยังโสด ชีวอนก็ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง แต่อย่าหวังว่านิสัยเดิมๆจะเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมมุทะลุบ้าพลังยังคงเส้นคงวา...ไม่สิ อาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ...
“สองครั้งแล้วนะแบบนี้ พรุ่งนี้ไปลากคอไอ้สายที่ให้ข้อมูลมาเจอฉันด้วย! ” ชีวอนสบถ เก็บปืนที่บรรจุกระสุนเต็มแมกซ์เข้าในเสื้อ ก่อนจะเหวี่ยงขายาวขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซด์สีดำคันหรูที่ส่งเสียงสตาร์ทดังราวกับปีศาจคำราม
“อี ซองแท ประวัติไอ้หัวหน้าแก๊งค์นรกนั่นอยู่ไหน?” เขาตะโกนแข่งกับเครื่องยนต์ เดือดร้อนซองแทต้องตะโกนตอบกลับอย่างยากเย็น
“พะ...พรุ่งนี้เช้าจะวางไว้ให้บนโต๊ะทันทีเลยครับ!”
“เออ” ชีวอนใส่หมวกกันน็อค และบิดเครื่องออกไปในที่สุด
บรรดาลูกน้องที่ยืนตัวแข็งอยู่ในที่เกิดเหตุถอนใจพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย...
นี่มัน ... หมาบ้าชัดๆ!!
นายตำรวจหนุ่มจอดรถแวะซื้อกาแฟร้านประจำแทนมื้อเย็นอีกครั้ง ดวงตาคมมองข้ามสายตาเชิญชวนของสาวน้อยสองสามคนภายในร้าน แล้วก้มลงมองนาฬิกาข้อมือด้วยสีหน้ายุ่งๆตามสไตล์
ชีวอนกลับมาถึงที่พักในเวลาเที่ยงคืนตรงเผง เข็มนาฬิกาแทบจะไม่มีอิทธิพลกับชีวิตที่ทำงานไม่เป็นเวล่ำเวลาอย่างเขา ร่างสูงเลื่อนรถเข้าไปจอดในลานจอดรถของคอนโดที่อาศัยอยู่ เครื่องยนต์ดับลงช้าๆ มือเรียวดึงหมวกกันน็อคออกพลางสะบัดผมเร็วๆ
จังหวะนั้น อะไรบางอย่างก็สะดุดตาเขา
ณ มุมหนึ่งของลานจอดรถ มีร่างหนึ่งนอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่ตรงนั้น...
สัญชาติญาณตำรวจเรียกให้มือรีบจับไปที่ปืนอย่างรวดเร็ว เขามองซ้ายมองขวา ความมืดรอบด้านทำให้สถานการณ์ส่อไปในทางที่ไม่น่าไว้สักเท่าไหร่ เรียวขายาวย่องเข้าไปที่ร่างนั้นช้าๆ และเมื่อเริ่มแน่ใจว่าปลอดภัยระดับหนึ่ง เขาก็ใช้ปากกระบอกปืนเขี่ยไหล่บางของอีกฝ่ายเบาๆ
“เฮ่ย..”
“.....”
“เฮ้...ตายรึยังเนี่ย มานอนทำบ้าอะไรตรงนี้”
ทั้งเขี่ยทั้งสะกิด จนแทบจะเรียกว่ากระทืบได้อยู่แล้วอีกฝ่ายก็ยังไม่มีท่าทีจะขยับ ชีวอนจับชีพจรเพื่อให้แน่ใจว่าคนตรงหน้ายังมีชีวิตอยู่ เมื่อเห็นว่ายังหายใจปกติ เขาก็จับข้างแก้มของร่างนั้นให้หันมา
“....ใครวะเนี่ย?” ร่างสูงพึมพำ มองซ้ายมองขวาอีกครั้งพลางเสยผมอย่างหงุดหงิด ถ้าเป็นผู้หญิงล่ะก็ มาตกอยู่ในสภาพแบบนี้เขาจะอุ้มกลับห้องไปอย่างไม่ลังเลเลย แต่นี่...ถึงรูปร่างหน้าตาจะกระเดียดไปทางสไตล์หวานหยดก็เหอะ แต่ดูยังไงก็ชายทั้งแท่งอยู่ดี .....อาชีพตำรวจอย่างเขาคนจ้องจะเก็บมีแค่คนสองคนซะที่ไหน ขืนเก็บของตกหล่นกลับบ้านสุมสี่สุ่มห้ามีหวังได้ถูกปาดคอตายคาเตียงกันพอดี
...แต่นี่...ดูเหมือนจะไม่ค่อยเท่าไหร่นะ...ตัวเล็กยังกับผู้หญิงขนาดนี้ถ้าลองมีปากมีเสียงมันก็คงไม่ยากถ้าเขาจะจับหักกระดูกได้ภายในไม่กี่วินาที..
“เอาวะ ตายไปจะซวยเปล่าๆ!” ร่างสูงว่า หลังจากจัดการสำรวจอาวุธอีกฝ่ายเสร็จสรรพก็ช้อนร่างนั้นขึ้นทันที
...ความจริงอุ้มผู้ชายมันไม่ควรง่ายดายขนาดนี้ไม่ใช่เหรอไงกัน ไอ้เด็กนี่มันขาดสารอาหารแล้วตั้งใจจะมาตายแถวนี้หรือเปล่าวะเนี่ย?!... ชีวอนคิดในใจตลอดเวลาขณะอุ้มอีกฝ่ายขึ้นมายังห้องพักของตน...
“เอ้า!” เขาเหวี่ยงร่างเล็กลงกับโซฟาในห้องรับแขก ถึงปากจะอวดเก่งบอกว่าไม่หนัก แต่ก็ทำเอาหอบใช่ย่อย
ชีวอนยืนหน้ามุ่ยเท้าเอวนิ่งมองคนที่หลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่นาน ...เรียกก็แล้ว ทั้งสะกิดทั้งเขย่าก็แล้ว นี่ถ้าไม่เห็นว่าหายใจอยู่ล่ะก็จะจับยัดโลงให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยคอยดู!
หลังจากจนปัญญาที่จะปลุก ชีวอนก็ตัดสินใจทิ้งเด็กหนุ่มปริศนาไว้ในบนโซฟานั่นโดยไม่ลืมที่จะล็อคกุญแจมือข้างหนึ่งไว้กับขาโต๊ะเพื่อกันไม่ให้ลุกมาเพ่นพ่านในเวลาที่เขาเข้าห้องไปแล้ว....
กริ๊งงงง กริ๊งง....
เสียงโลหะประหลาดปลุกชีวอนให้ตื่นเสียตั้งแต่ตะวันยังไม่โผล่พ้นฟ้า นายตำรวจหนุ่มงัวเงียลุกขึ้นด้วยความหงุดหงิด มือจับไปที่กระบอกปืนตามสัญชาติญาณ แต่เมื่อนึกออกว่าที่มาของเสียงคืออะไร ก็เปลี่ยนมาเสียบกระบอกปืนไว้กับกางเกงแล้วเดินออกไปด้านนอก
เด็กหนุ่มที่เคยนอนนิ่งอยู่ก่อนหน้านี้ยืนเขย่ากุญแจมือยื้อยุดกับเก้าอี้อยู่ตรงนั้น ทันทีที่เห็นร่างสูงแปลกหน้าเดินเข้ามาเขาก็ก้าวถอยไป แววตาไม่ไว้ใจปรากฏบนดวงหน้าขาวราวตุ๊กตา พร้อมกับปากสีชมพูที่เม้มแน่น
“นาย..นายเป็นใคร?!”
เด็กหนุ่มถามด้วยท่าทางหวั่นๆ ชีวอนมองเขาแล้วก็อดหัวเราะลงคอเบาๆไม่ได้ ผมสีบรอนด์ยุ่งเหยิง เสื้อผ้ายับยู่ยี่ ..ให้ความรู้สึกเหมือนกับเขาเก็บลูกหมาที่ยังไม่เชื่องมาเลี้ยงยังไงไม่รู้
“ฉันมากกว่ามั้งที่ต้องถามแบบนั้นน่ะ” พูดพลางเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย ร่างนั้นถอยหนีจนล้มตัวไปบนเก้าอี้ ชีวอนส่ายหัวไหวๆแล้วเอื้อมมือปลดกุญแจออก
เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นอีกฝ่ายกำลังมองเขาตาปริบๆ ทั้งหัวคิ้วมุ่น แววตาไม่เป็นมิตรนั้นทำให้ชีวอนเลือกที่จะออกมาห่างๆ เขาเคยสอบปากคำทั้งผู้เสียหายและผู้ต้องหามานักต่อนักแล้ว แค่นี้ก็คงไม่ยากเกินกว่าที่เขาจะรับมือได้หรอก..
ชีวอนนั่งลงบนเก้าอี้สูงที่ห่างออกไป เขาทิ้งระยะห่างไว้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายระแวงตนจนไม่เป็นอันทำอะไร ซึ่งก็ได้ผล จากที่เคยตาขวาง ดวงหน้าขาวก็เริ่มผ่อนคลายลงบ้างแล้ว
“ที่นี่ที่ไหน?” เด็กหนุ่มเอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ ชีวอนยักไหล่
“คอนโดส่วนตัวฉันเอง”
“แล้ว...นายเป็นใคร?”
“ชื่อชีวอน”
ดวงตาโตดูสนใจบรรยากาศรอบด้านมากกว่าคำตอบเมื่อครู่
“ละ...แล้วทำไม..ทำไมฉันถึง...”
“ทำไมถึงมานั่งตั้งคำถามน่ารำคาญอยู่นี่ใช่มั้ย? ก็บอกแล้วไงว่าไอ้คำถามพรรค์นี้ฉันควรจะเป็นคนถามมากว่ามั้ย?! นายเป็นใคร ชื่ออะไร แล้วนึกบ้าอะไรมานอนอ่อยเหยื่ออยู่ตรงที่จอดรถของฉันไม่ทราบ!!” ชีวอนเผลอทิ้งความประนีประนอมไปโดยไม่รู้ตัว เขาตวาดใส่อีกฝ่ายไปจนนั่งตัวแข็งนิ่ง ไม่ขยับไปหลายวินาที ...พอเห็นดังนั้น ชีวอนก็นึกโทษตัวเองขึ้นมา เขาถอนใจหงุดหงิดและพยายามควบคุมสติ ลดท่าทีแข็งกร้าวลงและพูดขึ้นอีกครั้ง
“โอเค ไหนบอกมาก่อนสิว่านายเป็นใคร?”
คนที่นั่งนิ่งส่ายหัวเบาๆ
“คือ...ฉันหมายถึง ..นายคือใคร? ทำอะไร? ที่ไหน?...”
ร่างบางส่ายหัวอีกครั้ง
“แล้วชื่ออะไร..?”
คนผมบรอนด์สว่างส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่รู้.......”
“ห๊า!!!!”
(ขอให้จิ้นฮยอกตอนผมบลอนด์นะคะ ><)
ความคิดเห็น