ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    =Skull MeMorial=

    ลำดับตอนที่ #1 : realise : 1

    • อัปเดตล่าสุด 14 ส.ค. 51


       ไรน์ .....เอาไรน์ของฉันคืนมา...
     เสียงน้ำเซาะหยดลงพื้นซีเมนต์ชื้นดังสะท้อนเป็นจังหวะภายในห้องกว้าง  ร่างอันเย็นยะเยือกเคลื่อนที่ราวกับสายลมไปด้านหน้า และหยุดลงหน้าเปียโนหลังใหญ่ที่วางอยู่กลางห้อง  ดวงตากลมไร้แววชีวิตเพ่งมองออกไปด้านนอก หยาดน้ำตาสีแดงคล้ำราวเลือดรินไหลลงผ่านแก้มที่ขาวซีด ก่อนจะหยดลงบนกะโหลกศรีษะมนุษย์สีแดงที่มือเล็กถืออุ้มไว้ตลอดเวลา
       ไรน์....เอาไรน์ของฉันคืนมา...
       น้ำตาสีเลือดเรื่อหยดลงพื้น ขณะที่ดวงตาที่เริ่มเปลี่ยนเป็นฉายแววเคียดแค้นเปรยต่ำลงไปยังพื้นสนามสีเขียวด้านล่าง
    “ไรน์....นั่น...ไรน์ของฉัน!!”

        

       สนามหญ้าสีเขียวแห้งกรังถึงขนาดที่เท้าสองคู่ย่ำลงไปหญ้าแห้งก็ส่งเสียงดังกรอบแกรบอยู่ใต้เท้า  ยามเย็นแสงแดดอ่อนแรงลงบ้าง แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้อากาศรอบด้านมีอุณหภูมิลดต่ำลงมากกว่า 34 องศาเลยแม้แต่น้อย
        เด็กหนุ่มสองคนยืนอยู่กลางสนามหญ้า คนหนึ่งสวมหมวกทับลงบนเส้นผมสีดำ และกำลังก้มหน้าก้มตากวาดเศษหญ้าหักมากองสุมๆรวมๆกัน โดยข้างๆ  มีเด็กชายที่ตัวเล็กกว่าอีกคน กำลังกระโดดโหยงเหยงไปมาอยู่ภายใต้ร่มสีชมพูคันเล็กที่เจ้าตัวถือไว้ และกำลังทอดตามองอย่างกังวลไปยังป้ายโรงเรียนมืดที่เขียนด้วยตัวหนังสือสีทองตัวใหญ่ว่า
     ‘โรงเรียน เรฟรองค์....’
    “เคนท์  กลับเหอะ  นะ...เย็นแล้ว”
    “ฉันต้องทำงาน นายจะกลับก็ไปสิ”
    “ไม่เอาหรอก วันนี้ตั้งใจแล้วว่าจะให้เคนท์นั่งE-Classสีแดงคันล่าสุดของผมกลับด้วยกัน ...ตั้งใจไว้แล้ว”
          คนที่กวาดสนามถอนใจเบาๆ
    “…ตรงนี้มันร้อน  นายไปรอข้างในก็ได้”
          ร่างเล็กส่ายหน้า ผมสีทองสะบัดพลิ้ว
    “ไม่เอา ค่ำแล้ว ผมกลัวผี”
         ดวงตาสีทองสวยที่เหมือนของเล่นของคนร่างสูงตวัดมองหน่ายๆ
    “…มันเกะกะฉันน่ะ”
    “ก็เรื่องของนาย!!  ผมจะยืนตรงนี้  เคนท์ก็ไปกวาดที่อื่นสิ”
            ทั้งสองประสานตากันกร้าว
    “…ฉันเป็นภารโรง...นี่เป็นเวลาของภารโรง หมดเวลาของนักเรียนแล้ว นายควรกลับไปซะ ซีต์”
        ซีต์เอียงคอ
    “…ผมเป็นนักเรียนของที่นี่ และถึงนี่จะเป็นเวลาของภารโรง แต่เคนท์ก็ไล่ผมไม่ได้ เพราะนายเองก็เป็นนักเรียนเหมือนกัน”
        ดวงหน้าเล็กยักคิ้วท้าทาย
    “เว้นเสียแต่ว่านักเรียนอีกคนจะยอมเลิกงานพิเศษและกลับด้วยกันกับผม”
    “…งั้นก็ยืนบ่นต่อไปเถอะ ”
    “อีกนานเหรอ...”
        เคนท์ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือเก่าๆของเขา
    “  ราวๆ 2 ชั่วโมง....”

       เคนท์ลุยงานเสร็จก่อนเวลาถึงครึ่งชั่วโมง  ตอนนี้เขากำลังคว่ำกะละมังเก็บบนตึกเรียนมืดๆ โดยมีเพื่อนชายอีกคนยืนบิดไปบิดมาอยู่ข้างๆ
    “กลางวันก็ร้อน กลางคืนก็หนาว   ผมเกลียดโลกมนุษย์จริงๆเลย”
      เจ้าของร่างเล็ก เรือนผมสีทองประกายและดวงตากลมสีฟ้าใสเอ่ยขึ้นเมื่อมองเข้าไปยังความมืดที่ระเบียงของชั้นที่ยืนอยู่   คนข้างๆถอดหมวกออก และยกมือเสยผมและปาดเหงื่อ
    “บอกให้กลับไปก่อนก็ไม่เชื่อ”  เคนท์ยังคงยืนยันคำเดิม ซีต์ห่อปากและเดินเข้ามาจับชายแขนเสื้ออีกฝ่ายไว้แน่น
    “ส...เสร็จแล้วใช่มั้ย  เสร็จแล้วก็กลับกันเถอะ”
       ดวงตาสีฟ้าสวยกรอกไปรอบๆ
    “ฉ...ฉันกลัวผี”
    “อ่อ...ผีนักเรียนชายที่ถือหัวกระโหลกสีแดงร่อนไปร่อนมาน่ะเหรอ”
     ได้ทีเคนท์ก็เอาเรื่องที่เด็กๆในโรงเรียนลือกันมาเปิดประเด็นสยอง ซีต์ยิ่งเบียดเขาหนักขึ้น พร้อมกับหันหน้าซีดๆมาแยกเขี้ยวใส่
    “จะพูดทำไม!!...บ้า!!”
       ร่างสูงยืนมองไปรอบๆ และเริ่มเอ่ยด้วยเสียงต่ำขณะเดินอย่างเร็วด้วยแรงลากของคนข้างๆเพื่อลงบันไดไปด้านล่าง
    “...ก่อนหน้านี้ก็มีคนเห็นตอนมาเตรียมนิทรรศการกันที่โรงเรียนน่ะ  เห็นเขาพูดกันว่าคนที่เห็น  ที่อยู่ห้องสี่น่ะนะ ตอนนี้ยังไม่ออกจากโรงพยาบาลเลย  เออ...แฟนเขาก็ไปด้วยเหมือนกัน”
    “ไป?...”
    “ก็นอนอยู่โรงพยาบาลด้วยกันไง”
        ซีต์รู้สึกเหมือนว่าฟันของเขากำลังกระทบกันดึงกึกกึก
              ...อืม  กว่าจะถึง E-Class ของเขานี่อีกไกลมั้ยนะ?
           เคนท์ยังคงไม่เลิกเขย่าขวัญเพื่อนชาย เขายกแขนอีกข้างที่ซีต์ไม่ได้รั้งไว้ไล่คว้าผีเสื้อกลางคืนตัวหนึ่งมาไว้ในมือ และปล่อยมันออกใต้แสงไฟสลัวๆตรงมุมบันไดด้านล่าง
    “ล่าสุดนี่เป็นรุ่นพี่ที่เป็นแฟนกันมาพลอดรักกันตอนดึกๆ  ได้ยินมานะว่าทั้งสองคนเจอผีที่ว่าเข้าไป แล้วก็ลาออกไปทั้งคู่เลย”
    “ล...ลาออกเลยเหรอ”
       เคนท์เอียงคอขันๆ และก้มหน้าลงมากระซิบเบาๆ
    “แต่เขาลือกันว่าจริงๆแล้วผู้หญิงโดนผีฆ่าตาย ส่วนผู้ชายโดนผีจับไปขังจนอดอาหารตายน่ะ”
      สายตาของร่างเพรียวตวัดขึ้นไปบนตึกเรียนอีกครั้งโดยอัตโนมัติ ลมหนาวพัดปะทะหน้าเขาทำเอาต้องกลับมาซุกเข้ากับไหล่ของคนข้างๆอีกหน
    “ร...รีบไปเถอะ”
    “...ไม่อยากฟังอีกเหรอ...”
    “ไม่เอาแล้ว!! ใครจะอยากฟังกัน เรื่องแบบนั้น!!”
                     ..............ไรน์...........
      สายลมพัดพาเสียงใสที่ราวกับเจ้าของเสียงอ่อนระโหยโรยแรงเข้ามาปะทะโสตประสาทหูของคนทั้งสอง ทั้งคู่มองหน้ากัน ภายใต้หลอดไฟนีออนเก่าๆที่ส่งให้เพียงแสงไฟสีขาวสลัวเลือนราง
    “น...นายเรียกใคร?”
            ซีต์ถาม พลางกลืนน้ำลาย  เจ้าของดวงตาสีทองมองเพื่อนชายที่พูดแบบนั้น ก่อนที่เขาจะสูดหายใจเข้าลึก และตวัดสายตามองข้ามหัวซีต์ออกไปด้านหลัง
                  ความเงียบทำให้ซีต์แทบคลั่ง เคนท์มองไปข้างหลังเขาและก็หยุดกึก...เขาเห็นอะไร
    “ค...เคนท์...ก...กลับเถอะนะ”
                ร่างสูงยังคงยืนนิ่ง เขาจับสายตาไปที่จุดๆเดียว  ซีต์ตัวสั่นอย่างห้ามไม่อยู่
    “ค...เคนท์~ อ...อ...อะไร...อะไรอยู่ข้างหลังผม  เคนท์~!!”
        ในที่สุดเคนท์ก็ขยับตัว เขาจับเข้าไปที่ข้อมือของซีต์ช้าๆ...
    “..........ถุงขยะ   ลืมเก็บไปได้ยังไง...”
       ว่าจบก็ดึงมือซีต์ออกจากชายเสื้อ และเดินสวนไปด้านหลัง ซีต์หันมองตาม ถุงขยะสีดำขนาดย่อมวางกองอยู่ตรงนั้น
    “ถ...ถ...ถุงขยะ!?”
       ร่างสูงก้มเก็บมันขึ้นมา
    “อืม  ถุงขยะ....”
            พรึ่บบ!!~
         หลอดไปดวงเล็กด้านบนหัวซีต์ดับพรึ่บลง เขาตกอยู่ในความมืด
               ความมืดที่ความเสี่ยงสูงมากที่จะเจอ....
    “ว๊ากกก~!! เคนท์!!!!”
       เขาออกวิ่งไปยังทิศที่จำได้ว่าเคนท์อยู่ตรงนั้น และก็ชนเข้ากับเคนท์จริงๆ
    “…ดับได้ไงน่ะ...”  ร่างสูงเอ่ย ขณะยืนโงนเงนเนื่องจากอีกฝ่ายพยายามจะซุกเข้าไปในเสื้อคลุมของเขา
    “ผี !! เคนท์!!  ผีแน่ๆ...ช่วยด้วย!~”
             เคนท์กำถุงขยะแน่น ....ผีก็ผีเถอะ จะเอาไอ้ถุงนี่ฟาดหน้าให้ดู
    “นายไม่ต้องเก็บขยะแล้ว  พาผมไปที่รถเร็ว  เร็วๆเคนท์”
    “เดี๋ยวสิ  ถุงนี่...”
                    ..............ไรน์....ไรน์ของฉัน
    “ว่าไงนะ?”
       น้ำตาซีต์เริ่มพราก...มันจะไม่เป็นแบบนี้เลย ถ้าคำว่า ‘ว่าไงนะ’ นั่น เขาจะไม่พูดขึ้นมาพร้อมกันกับเคนท์
           ดึกดื่นป่านนี้  คงจะไม่มีนักเรียนที่ไหนอยู่ในโรงเรียนนอกจากพวกเขาอีกแล้วล่ะ.....
         ร่างสูงเองก็เริ่มรู้สถานการณ์  เขาปล่อยถุงขยะออกจากมือ และใช้มือนั้นลูบหัวเพื่อนชายเบาๆ   
    “ก็ได้  กลับกันเถอะ”
           
            ซีต์ออกวิ่งสุดฝีเท้า และสตาร์ทรถรอ เคนท์ที่เดินช้าๆตามออกมา เมื่ออีกคนขึ้นรถ E-Class คันโก้สีแดงสดก็พุ่งทะยานออกไปนอกรั้งโรงเรียนอย่างไม่ลืมหูลืมตา
      
                .........โดยที่ไม่รู้ว่า  เบ้าตากลวงโบ๋ของกะโหลกสีแดง กำลังจับจ้องตามหลังพวกเขาไปจนลับตา
                   …............. ไรน์....ไรน์ของฉัน…….

               เบนซ์สุดหรูเหยียบมิดมาได้ครึ่งทาง คนขับก็เริ่มผ่อนความเร็วลง เมื่อเข้าสู่ซอยเล็กๆที่คุ้นเคย
               ซีต์ถอนใจยาว ขณะเอื้อมมือปรับแอร์มาทางเขา และหันมองเพื่อนชายข้างๆ
    “กี่โมงแล้ว  เคนท์”
       เคนท์ที่นั่งหน้านิ่งมาตลอดทางก้มลงมองนาฬิกาข้อมือเก่าๆเป็นครั้งที่สองในรอบวัน
    “ สองทุ่มกว่าๆ...”  เขาหันมาบอก และหันกลับไปมองทางอย่างรวดเร็วทั้งๆที่ไม่ได้เป็นคนขับ
        ซีต์พยักหน้ารับ  เขาขับต่อไปเรื่อยๆ  จนกระทั่ง...
    “เอ๊ะ~!!”
        ร่างเล็กทำจมูกฟึดฟัด  เคนท์หันมอง
    “อะไร”
    “ได้กลิ่นอะไรมั้ย”
       คนผมดำนั่งนิ่งๆอยู่พักหนึ่ง  แล้วพยักหน้า
    “ อืม  เหม็นเน่า”
    “น...เน่าเลยเหรอ  นี่มันรถเพิ่งถอยมาใหม่เลยนะ จะมีกลิ่นที่ว่าได้ยังไง” ซีต์ว่า ทำจมูกย่น และส่ายหน้าหากลิ่นไปรอบๆอีกครั้ง
    “อืม~~  แต่มันก็ยังมีกลิ่นแฮะ ยิ่งแถวนี้...”  เขาส่ายหัวไปมาทำให้ผมสีทองปลิวไสว
    “ยิ่งสุดๆเลย   เหม็นอะไรนะ...”
       เขาขับรถต่อไป กลิ่นเหม็นที่ว่ายังคงติดจมูกไม่ยอมหาย
    “เคนท์หาให้หน่อยสิ  นายเหยียบอะไรมาจากที่โรงเรียน....”
        เมื่อเอ่ยถึงโรงเรียน ความคิดหนึ่งพลันแล่นเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว
          ดวงตาสีฟ้าใสเบิกโพลง
    “ค...เคนท์  ร...หรือว่า  เป็นกลิ่นของ...”
       ดวงหน้าคมหันมาเติมคำในช่องว่างอย่างรวดเร็ว
    “ศพ ...”
    “เหวอ~ จะพูดทำไม  ผมจับพวงมาลัยไม่อยู่แล้ว  ค...เคนท์ !!”
         เคนท์หันมองทาง  มันเบี้ยวจริงๆด้วยสิ
    “มี  มีกลิ่น ศ...ศพ งั้นก็แสดงว่า  ม... ม... มีใครตามมา !!  ”
       เคนท์กลอกตามองไปรอบๆพักหนึ่ง ก็พูดขึ้น
    “ตามนายมาน่ะแหละ”
       ซีต์ขนตั้งชันทันที
    “ต...ตามผม!!  อ...เอาออกป๊ายยย~~~!!” ว่าพลางหักเลี้ยวพวงมาลัยมั่วซั่ว เคนท์รีบคว้าพวงมาลัยนั้น
    “ซีต์!! นิ่งก่อน!!”
    “นิ่งไม่ได้!!  มันตามผมมาไม่ใช่เหรอไง  อ๊ากกก!!!  ”
          เคนท์ย่นคิ้ว  มันจะกลัวอะไรกันนักหนา กะอีแค่กลิ่น...
    “กลัวอะไรซีต์  กะอีแค่กลิ่น”
    “นายใช้คำว่า ‘กะอีแค่’ กับกลิ่นผีเหรอ เคนท์!!”
      ร่างสูงเอียงคอ
    “ผี?”
    “…ว๊ากกกก~~!!!”
      ความกลัวทำให้ซีต์เหยียบคันเร่งเต็มพิกัด เคนท์มองทาง แล้วประเมินสถานการณ์ในชั่วเสี้ยววินาที
               ....ตาย...ขืนไอ้คนขับมันยังคลั่งอยู่แบบนี้ มีหวังตายหมู่คารถหรูแน่...
    “ซีต์  ฟังฉัน  กลิ่นที่ว่าน่ะ...”
       ซีต์หยุดกึก และตั้งใจฟัง
         เคนท์เอ่ยเสียงต่ำ
    “มันมาจากหัวนาย...”
       นัยน์ตาสีฟ้าใสลุกโพลงทันที
    “ม...มาจาก  ห...หัว...หัวผมเหรอ  มันอยู่บนหัว  อ๊ากกก~~!!”
        รถเร่งแรงกว่าเดิม ทำให้เคนท์นึกโทษนิสัยพูดห้วนของเขาขึ้นมาทันใด
    “ยังไม่จบ!!  มันมาจากกล่นขยะบนหัวนาย จำได้มั้ย ฉันจับขยะและก็ขยี้หัวนาย”
        เท้ายกลอยขึ้นจากคันเร่งทีละนิด
    “…..?!....”
       ดวงตาสีทองจ้องมองเพื่อนชาย
    “ กลิ่นมันมาจาก....กลิ่น-ขยะ-บน-หัว-นาย...”
     …………..
    “อ...ไอ้บ้าเคนท์!! แล้วทำไมไม่รีบบอก  อมบ้าอะไรอยู่ได้  ไอ้เพื่อนบ้า!!!!”


    \\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\


    ฝากคอมเม้นด้วยนะคะ >/\<!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×