เรื่องของพี่ก้อย( ลูกผู้หญิงควรอ่านไว้สอนใจตัวเอง)
บล๊อคโรงเรียนแม่มดขาว :>www.tarot.is.in.th:> เน้นการศึกษาประวัติศาสตร์โบราณของแม่มดพ่อมด การทำยาสมุนไพร การดูดวง คาถาของแม่มด ตามอ่านเรื่องสั้นของแม่มด เรื่องสั้นกฏแห่งกรรมที่www.tarot.is.in.th
ผู้เข้าชมรวม
1,937
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ถ้าใครจะCOPY ไปโพสในเวบอื่นหรือจะส่งฟอร์เวิลด์เมล์ กรุณาให้เครดิตเจ้าของเวบด้วยะคะ ช่วยลงลิงค์ 1 และ 2 ด้วยนะคะ สามารถตามอ่านได้ที่เวบ 1. อรมณีจันทร์พยากรณ์ http://tarot.is.in.th (ส่วนแรก) 2. อรมณีจันทร์ของขลัง http://tarotonline.is.in.th (ส่วนที่2) ++++++++++++++++++++++++++++++ เรื่องของพี่ก้อย ดิฉันได้มีโอกาสรู้จักพี่ก้อยเมื่อต้นปี 2549 ตอนนั้นพี่ก้อยหน้าตาท่าทางเครียด แกมาหาดิฉันเพื่อมาดูดวงตอนนั้นดิฉันดูดวงที่ตลาดนัดแถวบ้าน แกมาดูดวงกับดิฉันบ่อยมากเลยนะคะ ตอนแรกก็เห็นใจนะคะแต่หลังจากที่ได้พูดคุยในหลายครั้งดิฉันรู้สึกว่าว่าพี่ก้อยเป็นคนนิสัยดี น่าคบหาเป็นเพื่อนด้วยเพราะพี่ก้อยเป็นคนพูดจาถ่อมตัว ไม่โอ้อวดอะไร แล้วก็จิตใจดีมีความจริงใจให้ดิฉันมากกว่าเพื่อนของดิฉันเสียอีก เวลาพี่ก้อยมีปัญหาอะไรพี่ก้อยเขาจะมาหาดิฉันมาปรึกษาทุกเรื่อง มีอยู่ครั้งดิฉันเบื่อๆ เซ็งๆ เพราะหางานไม่ได้ก็เลยไปหาพี่ก้อยที่ ห้องเช่า ซึ่งอยู่ใกล้บ้านของดิฉัน ดิฉันเห็นสภาพห้องที่เขาอยู่แล้วลำบากมาก ดิฉันก็ซื้อของกิน ซื้อขนมไปฝากเขานะคะเพราะเห็นว่า เขาอยู่กับลูกชื่อน้องเชอรี่ น้องเชอรี่เรียนอยู่ ป.1 แล้วคะ ดิฉันจะเป็นห่วงแม่ลูก คู่นี้มากนะคะ จะซื้อของไปให้เรื่อยๆวันไหนเหงาๆ ว่างๆก็จะไปคุยปรับทุกข์กับพี่เขา ช่วงนั้นดิฉันยังหางานทำไม่ได้ เพราะว่างเยอะเลยมานั่งดูดวงตามตลาดนัด จนมาเจอพี่ก้อย นี่แหล่ะ ตอนนั้นพี่ก้อยก็ไม่ต่างจากลูกค้าคนอื่นของดิฉันหรอกนะคะ เพราะคนที่มาดูดวงก็คือคนที่มีปัญหาชีวิต ซึ่งแต่หล่ะคนก็จะมีปัญหาแตกต่างกันไป แม้แต่ตัวหมอดูเองก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน มันอยู่ที่ว่าเราจะสามารถรักษาการใจให้สงบได้มากแค่ไหน พี่ก้อยเล่าเรื่องของเขาให้ดิฉันฟังเยอะมาก มันทำให้ดิฉันคิดอะไรได้เยอะเลย เพราะเรื่องที่เขาเล่าเป็นเรื่องจริง แล้วก็มีส่วนเกื่ยวข้องกับกฎแห่งกรรมด้วย พี่เขาเล่าให้ฟังว่าพี่เป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิด บ้านอยู่แถวหัวลำโพงเอง แต่ไปโตที่สุพรรณบุรีเท่าที่ดิฉันจำที่พี่ก้อยเล่าได้ คือพ่อแม่ของพี่ก้อยเลิกกันตั้งเขายังเด็ก พ่อของพี่ก้อยเป็นข้าราชการทำงานเป็นคนขับรถไฟ สายกรุงเทพ หาดใหญ่ ตอนแรกที่พ่อแม่หย่ากันตอนนั้นพี่ก้อยอายุแค่ 2 ขวบ พ่อเอาเมียใหม่เข้ามาในบ้าน ตอนนั้นพี่ก้อยก็เรียกว่า แม่หน่า ตอนแรกก็เหมือนจะดี ต่อหน้าผัวก็ทำเป็นดีกับลูกเลี้ยง เรียกน้องก้อยอย่างงั้น น้องก้อยอย่างงี้ ซื้อขนมมาป้อนให้ทาน เหมือนจะเป็นคนใจดีรักเด็กแต่ลับหลังตีซะเนื้อเขียว แม่เลี้ยงใช้ให้พี่ก้อยล้างจานในครัว แล้วพี่ก้อยไม่ระวังทำจานตกแตก แม่เลี้ยงโมโหมาก นังก้อยนี่แกทำจานแตกอีกแล้วเหรอ... แม่เลี้ยงจับพี่ก้อย มาตีด้วยไม้แขวนเสื้อ ตีแล้วตีอีก ขนาดพี่ก้อยยกมือไหว้ แม่อย่าทำหนูเลยหนูกลัวแล้ว พี่ก้อยเล่าให้ฟังว่า เนื่ยมันตีพี่ซะเลือดออกเลยนะพี่ยกมือไหว้มัน บอกว่า แม่พอเถอะอย่าทำหนูเลย มันเอาไม้มาตีมือซะเลือดไหลออกง่ามมือเลย เอ๋ก็พูดว่า อ้าวแล้วทำไม พี่ไม่ฟ้องพ่อหล่ะ พี่ก้อยบอกว่า ถึงฟ้องมันก็ตี พี่อีก ยิ่งพ่อพี่ไม่ค่อยได้อยู่บ้านด้วยมันก็ไม่สนใจหรอก เวลาไม่พอใจมันก็ตีเพราะมันรู้ว่าพ่อรักพี่มากอีแม่เลี้ยงมันก็เลยเกรียดพี่มาก เอ๋พูด... ถ้างั้นพี่ทำไงหล่ะ พี่ก้อยพูด ก็ไม่ทำไง...ตอนอีแม่เลี้ยงไม่อยู่พี่แอบไปเล่าให้พ่อฟัง ว่าตอนพ่อไม่อยู่บ้านมันตีพี่บ่อยมากทำเอาแถบแย่ โชคดีที่ข้างบ้านมันแอบมาเล่าให้ฟังแต่พ่อพี่ก็ปล่อย ให้มันเลี้ยงพี่ ไม่ได้ทำอะไรเพราะคิดว่า ต่อไปน่าจะอยู่ด้วยกันได้ แม่เลี้ยงพี่มันเป็นอารมณ์ขึ้นๆลงๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ พี่อยู่กับมันมา4ปีพี่รู้ดี วันไหนมันถูกหวยก็อารมณ์ดี ซื้อขนมมาให้ทาน วันไหนมันทะเลาะกับพ่อพี่ มันก็มาระบายลงเอากับพี่มันตีพี่หนักมาก จนพี่มีอาการประสาทหลอนชอบนั่งเหม่อลอย พ่อพี่สังเกตว่าพี่เปลื่ยนไป เป็นเด็กเก็บตัวชอบพูดคนเดียว เวลาแม่เลี้ยงเรียกก็มี อาการหวาดผวา พ่อพี่ก้อยกลัวว่าพี่ก้อย จะกลายเป็น บ้า หลังจากนั้นอีก2 วันพ่อเลยพาพี่ ไปอยู่กับยายพ่อให้พี่เก็บเสื้อผ้าและหลักฐานการศึกษาทั้งหมดแล้วพาพี่ไปฝากยายเลี้ยง ที่สุพรรณบุรี พี่ก้อยเล่าว่า- ตอนย้ายไปอยู่กับยายพี่โตพอสมควรแล้ว อยู่ป.1ได้ พ่อเอาเงินทิ้งให้ยาย 5000 บาทแล้วบอกว่าจะพยายามส่งเงินให้ทุกเดือน ถ้าแม่อีหนูมันมาก็บอกกันว่าไม่ต้องห่วง ยังไงผมก็ไม่ทิ้งลูกคนนี้หรอก เพราะผลมีลูกสาวคนเดียว เอาไว้ให้โตหน่อยผมจะเอาไปอยู่ด้วย พี่ก้อยวิ่งเข้าไปกอดพ่อ ร้องไห้ใหญ่เลย พี่ก้อยพูด พ่อจ๋า อย่าไปเลยนะหนูจะไม่ดื้อ ไม่ซนแล้ว หนูจะเชื่อฟังแม่หน่าทุกอย่าง เป็นใครเห็นเขาก็ต้องสงสาร พ่อพี่ก้อยก็น้ำตาซึมๆ ก้อยเอ๊ยเอ็งอยู่ที่นี่ เชื่อฟังยายเอ็งนะเขาใช้ให้ทำอะไรก็ทำ อย่าดื้อ อย่าซนให้ตั้งใจเรียนมากๆนะพ่อจะส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือน พี่ก้อยก็ร้องไห้สะอึก สะอื้นตามประสาเด็กไม่เคยจากอกพ่อ พี่ก้อย จัดว่าโชคดีมากที่ญาติพี่น้องของทางแม่รักพี่ก้อยมาก ยายเล่าให้ฟังว่า นี่ก้อย เอ๊ย แม่เอ็งตอนนี้เขาได้ดีแล้วนะเขามีลูกใหม่ ผัวใหม่แล้วผัวใหม่แม่เอ็งเป็นเจ้าของร้านอาหารตามสั่ง อยุ่นครสวรรค์ เดี๋ยวสงกรานต์เขาจะพาน้องเอ็งมาเยื่ยม ด้วยความที่พี่ก้อยไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วยกันทำให้ พี่ก้อยเป็นเด็กเก็บกดพอสมควร ก็เลยทำให้เป็นเด็กที่เรียนเก่ง เพราะหวังอยากจะให้ใครๆก็รัก อยากให้พ่อแม่ ภูมิใจ แกเป็นคนตั้งใจเรียนมาก สอบได้ที่ 1 ตลอด แม่พี่ก้อยชื่อ คุณประภัสสร ส่วนคุณพ่อชื่อ คุณดนัย พี่ก้อยบอกว่าแม่พี่เป็นคนสวย พอเจอพ่อพี่นอกใจก็ไม่ทนก็เลยขอเลิกหย่าร้างกันไป ตอนนั้นแม่พี่อายุแค่ 28 เองพี่พึ่งจะ 3 ขวบตอนแรกแม่อยากจะเอาพี่มาเลี้ยงเอง แต่พ่อไม่ยอมเพราะพ่อรักพี่มาก แม่ก็เลยทิ้งพี่เอาไว้ให้พ่อเลี้ยง พอพ่อเอาอีแม่เลี้ยงเข้ามาอยู่บ้านมันก็ตบ ตี พี่ทุกวัน แม่พี่ทราบข่าวจากยายพี่ แม่พี่เลยส่งเงินและเสื้อผ้ามาให้ แม่พี่เขียนในจดหมายว่า ยังรักและเป็นห่วงลูกเสมอ แต่ไปไมได้ ต้องรอสงกรานต์ ตอนนี้พึ่งคลอดน้อง ตอนนั้นพี่ดีใจมากที่มีน้องชาย แม่ของพี่เขาตั้งชื่อน้องชายพี่ว่า ก้อง ชื่อจริง ชุติพงศ์ ให้คล้องกับชื่อพี่ ก้อย (ชุติมา) น้องชายพี่ น่ารักมากผิวขาวจั๊ว อาจจะเพราะ เหมือนแม่เพราะแม่พี่ขาว แต่พี่ไม่ขาวเพราะพี่เหมือนพ่อ ตอนที่อยู่สุพรรณพี่มีความสุขมากเลยนะ แต่มันก็ขาดๆอะไรไปเยอะเพราะพ่อแม่ ไม่ได้อยู่ด้วยกันทิ้งให้พี่อยู่กับยาย แต่พี่ก็ไม่เสียใจนะ เพราะพี่รู้ดีว่า คนเป็นพ่อเป็นแม่คนไม่มีใครไม่รักลูกของตัวเอง ยิ่งตอนนี้พี่มาเป็นแม่คนเอง พี่ยิ่งเข้าใจว่า คนเป็นพ่อ เป็นแม่คนเขาก็มีความจำเป็นของเขาที่เลิกกันมันเพราะไปกันไมได้ แต่ความรักที่มีให้ลูกยังไงก็ตัดกันไม่ขาด แต่อ่านข่าวหนังสือพิมพ์สมัยนี้ทำใจลำบาก พ่อข่มขืนลูกในไส้จนตั้งท้อง ลุงข่มขืนหลาน พ่อเลี้ยงข่มขืนลูกเลี้ยง สังคมมันเล๊ะเท๊ะมากเกินไปแล้วตอนนั้นพี่ก้อยคิดว่า พี่ก้อยจะต้องมีชีวิตที่ดีกว่าเดิมให้ได้ หลังจากเรียนจบ ม.6 พี่ก้อยก็เดินทางเข้ามาทำงานในกรุงเทพ หวังว่าจะเก็บเงินสักก้อนแล้วค่อยกลับไปลงทุนค้าขายที่สุพรรณเพราะแม่พี่เขามีที่ดินให้แล้ว พี่กะว่าจะปลูกบ้านของตัวเอง ซื้อรถสักคัน ตอนนั้นพี่หยิ่งไม่ง้อพ่อเลย พี่บอกให้พ่อเลิกส่งเงินให้ใช้เพราะพี่อยากทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเอง พี่ได้มาทำงานเป็นสาวโรงงานที่ โรงงานทอผ้า ย่านพระประแดง ตอนนั้นอายุ 18เอง ผู้ชายมันเข้าหาพี่เอง ผู้ชายแก่กว่าพี่ 7 ปีเลยทำงานแล้ว เป็นลูกคนมีฐานะพอสมควรเขามาตามจีบตามตื้อพี่ทุกวัน พี่รักเขามากก็เลยพลาดพลั๊งได้เสียเป็นผัวเมียกัน จนตั้งท้องน้องชะเอม (ลูกสาวคนแรก) แฟนพี่เห็นว่าพี่ท้องแล้วก็เลย พาพี่เข้าไปอยู่ที่บ้าน พ่อแม่ทางฝ่ายชายเป็นคนดี ไม่รังเกรียจเลยสักนิดที่พี่จนกว่า เขาจัดพิธีแต่งงานง่ายๆ แฟนพี่เขาไปเหมาร้านอาหารทะเลชื่อดัง ย่านบางขุนเทียน แล้วทำเป็นงานแต่ง ตอนเช้าก็ทำบุญไหว้ รดน้ำสังข์ที่บ้านผู้ชาย ช่วงท้องน้องชะเอม พี่ดวงขึ้นมาก ถูกหวยติดกันตั้ง 2 งวดรู้สึกจะเลข 35 48 พ่อ กับ แม่ พี่ดีใจมากที่พี่ได้สามี แฟนพี่คนแรกเขารักและเอาใจพี่มาก แฟนพี่มาพี่ขับรถไปหาพ่อ วันนั้นพี่แต่งตัวซะเริ่ดเลย ยัยแม่เลี้ยงจ้องตาแถบ ถลนตอนที่พี่กับสามี คุยกันเรื่องงานแต่งงานมันทนฟังไม่ได้ ก็เลยหลบหายไปไหนไม่รู้ พี่คิดว่าช่วงนั้นพี่ดวงขึ้นนะ เพราะเหมือนพี่ได้แก้แค้นนังแม่เลี้ยงไปด้วย นังแม่เลี้ยงมันชอบพูดกระแหน่ะกระแหนพี่ ท้องก่อนแต่งหล่ะสิ ถึงได้ต้องรีบแต่ง พี่ก้อยเลยโต้กลับว่า ก็คนมันดวงดี เลยมีเด็กอยากจะเกิดด้วย พอท้องลูกคนนี้เด็กให้คุณ ดีกว่าคนบางคนอยากจะมีลูกแถบตายแต่ไม่มีเด็กคนไหนอยากจะมาเกิดด้วยเพราะ จิตใจชั่วร้าย แม่เลี้ยง โมโหจนหน้าตัวสั่น ชี้นิ้วมาทางพี่ก้อย นี่อีก้อย เมิงว่าใคร เมิงจะหาว่ากูเป็นคนจิตใจไม่ดี ก็เลยไม่มีลูกสืบสกุลกับเขาใช่ไหม ห๋า พี่ก้อยก็โต้กลับ ก็ไม่ได้ว่าใคร แต่ถ้าใครอยากจะรับก็รับไป แม่เลี้ยงโโหจนหน้าแดง ถ้าไม่ใช่เพราะเมิงท้องอยู่นะ กูจะตบล้างน้ำเลย เสียแรงเคยเลี้ยงดูป้อนข้าว ป้อนน้ำพาไปส่งโรงเรียนไป รอรับกลับมาบ้านเมิง จะ เมิง อีเนรคุณ พอดีพ่อพี่ก้อยได้ยินที่ทะเลาะกันเลยมาห้ามไว้ ไม่ให้มีมวยในบ้าน ทางสามีพี่ก้อย เห็นท่าจะไม่ดีเลยพาเมียกลับไปบ้าน แต่หลังจากนั้นในวันงานแต่งทุกคนก็มากันหมด ทั้งพ่อแม่ ทั้งแม่เลี้ยง พ่อเลี้ยง และ น้องก้อง น้องชายต่างพ่อของพี่ก้อย พี่ก้อยคิดว่าหลังจากนี้คงจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว น่าจะจบแบบแฮปปี้ แอนดิ้ง แต่ในชีวิตจริงมันไม่ใช่เช่นนั้น ในช่วง5ปีแรก เป็นช่วงที่พี่ก้อยมีความสุขมาก เพราะ สามีพี่ก้อยทำธรุกิจจนร่ำรวย สามีพี่ก้อย ทำธุรกิจ จิวเวอรี่ส่งออกต่างประเทศ พวกเครื่องเงิน พวกทองเค มีทั้งขายในประเทศ และ ต่างประเทศ พี่ก้อยตอนนั้นใครๆก็เรียกเจ๊ เพราะพี่ก้อยเป็นคนทำบัญชีเป็นคนเก็บเงิน แล้วก็นั่งทำจิวเวอรี่ช่วยลูกน้องด้วย โรงงานของพี่ก้อยมีลูกน้อง 15 คน มีเป็นพม่าอยู่ 2 คน พอดีโดนตำรวจจับ พี่ก้อยบอกว่าถ้าไม่เอาพม่ามาทำงานก็คงดี จะได้ไม่เจอไอ้ตัวเหี้ยนั่น ตอนนั้นพี่ก้อยอยากจะช่วยลูกน้องมาก ก็เลยวิ่งเต้นกับทางตำรวจ หมดเงินประกันไปเยอะ คุณตำรวจท่านนี้แหล่ะเป็นคนทำให้ ชีวิตของ พี่ก้อย เจอแต่ความเลวร้าย เหมือนตกนรก สมมุติชื่อ คุณตำรวจธำรง ชื่อเล่น ไก่ คุณไก่เป็นผู้ชายที่เลวที่สุดเท่าที่ดิฉันเคยได้ยินมา พี่ก้อยบอกว่าคุณไก่ โทรมาบอก พี่ก้อย ชอบพี่ก้อยมากๆแต่เสียดายที่พี่ก้อยมีสามีแล้ว ถ้าไม่รังเกรียจเขาเป็นเพื่อนกันได้ไหม พี่ก้อยก็คิดว่าเขาดีก็เลยยอมพบปะพูดคุยด้วยแต่ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกันเพราะพี่ก้อย เขาถือว่าเขาแต่งงานมีสามีแล้ว คุณสมพร สามีพี่ก้อยเป็นคนดีนะคะ เสียดายเป็นคนใจอ่อนลูกน้องชวนไปเทื่ยวคาเฟ่ คุณสมพรก็เลยไปติดนักร้อง อาจจะเพราะช่วงนั้น พี่ก้อยท้องลูกสาวคนที่ 2อยู่ พอเริ่มท้องโตสามีก็ไปเทื่ยวกลางคืนแล้วไปได้ นักร้องคาเฟ่มาเป็นเมียอีกคน ชื่อ ส้มเช้ง คุณสมพรหลงเมียน้อยมาก ก็เลยพา ส้มเช้งเข้ามาอยู่ในบ้าน พี่ก้อยรับไมได้ ทะเลาะกับใหญ่โตเลย หลังจากที่คลอดน้องชบา พี่ก้อยก็ขอหย่ากับ คุณสมพร ทางคุณสมพรก็ไม่ยอมหย่าให้ พี่ก้อย เก็บข้าวของไปอยู่ที่อื่นแทน ตอนนั้นพี่ก้อย มีเงินเก็บเยอะเลยไม่ง้อสามี พี่ก้อยบอกว่ามีคนใส่ร้ายพี่ให้ผัวฟังด้วย ลูกน้องพี่เองแหล่ะ พี่ดีกับมันจะตาย มันหาว่าพี่มีชู้ มันบอกว่าพี่เป็น ชู้กับ นายตำรวจ สามีพี่เข้าเลยไม่ยอมมาง้อ ตอนนั้นพี่หยิ่งคิดว่าตัวเอง แน่ก็เลยไม่ง้อ เพราะโรงงานจิวเวอรรี่ที่พี่ทำมา พี่กับ สามีก็ช่วยกันสร้างจนรวย ตอนนั้นพี่คิดว่าพี่สามารถเอาตัวรอดได้ ความจริงแล้วพี่ก้อยก็น่าจะเอาตัวรอดได้หรอกคะ ถ้าไม่ไปแต่งงานกับ คุณไก่ ผู้ชายที่นิสัยเลวพี่ก้อยอยู่กินกับคุณไก่ มา 12 ปี คุณไก่ผลาญเงิน ผลาญสมบัติพี่ก้อยจนหมดตัวเลย พี่ก้อยบอกว่า ลูกสาวคนเล็กรักแม่เลี้ยงมากกว่าพี่ก้อยอีกเพราะ แม่เลี้ยงเป็นคนเลี้ยงดูมาตั้งแต่เป็นทารก ตอนนั้นที่ออกมาจากบ้าน แกต้องมาเช่าห้องเช่าอยู่ไม่สะดวกที่จะเอาทารกมาเลี้ยง แกเลยต้องทิ้งให้ อีนังนั่นมันเลี้ยงแกกะว่าถ้าจัดการอะไรเรียบร้อยก็จะไปรับลูกมาอยู่ด้วย หลังจากออกจากบ้านสามีมา แกก็ไปเปิดร้านขายเสื้อผ้า ตอนนั้นขายดีด้วย แต่งานหนักมากไม่สะดวกที่จะเอาลูกมาอยู่ด้วย อีกอย่างสามีเก่าบอกว่าให้เอาลูกทิ้งไว้ที่บ้านเถอะ เพราะยังไงที่บ้านก็มี ปู่ กับ ย่า ไม่ต้องกลัวเด็กจะลำบากหรือ มีใครมารังแกหรอก ช่วงที่ น้องชบายังเป็น ทารก ทางพี่ก้อยเคยแวะซื้อนมผงดูเม็กส์สำหรับเด็กอ่อน กับของเล่นไปให้น้องชะเอม พอเห็นนังส้มเช้งกำลัง อุ้มลูกสาวตัวเองอยู่ก็ หมั่นไส้ แค้นใจมากเพราะความจริงคนที่ควรอยู่บ้านเลี้ยงลูกน่าจะเป็น ตัวเองมากกว่า ไม่ใช่ให้ ผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาเลี้ยงลูกตัวเอง พี่ก้อยถึงขนาดสาปแช่งเลยว่าให้มีอันเป็นไป ตายโหง หน้าตาก็ดีไม่มีปัญญาหาผัวเหรอไง คุณส้มเช้ง เธอเป็นคนด่าใครไม่เป็นนะคะ เอาแต่ร้องไห้อ้อนผัว พี่ก้อยบอกว่า ยัยส้มเช้ง มันห่วงแต่ความสวยความงาม วันๆเอาแต่ แต่งตัวสวยยั๊ว ผู้ชาย งานการไม่ทำ ให้สามีพี่หาเลี้ยงอย่างเดียว ขนาดมันแก่กว่าสามีพี่มันยังจับผู้ชายอยู่เลย เอ๋ถามว่า มันไม่มีลูกกับ สามีพี่เหรอ พี่ก้อยตอบว่า มันแก่แล้ว อายุเยอะมากแล้ว 40 กว่าแล้วคงไม่มีแล้วหล่ะ แต่มันแต่งตัว ไปทำมาทั้งหน้าเลยนะ ทั้งตา จมูก กว่าจะสวยได้ขนาดนั้น คุณส้มเช้ง เพราะอยากมีลูกมาก เลยรักน้องชบามาก น้องชบาก็ดันรักคุณส้มเช้ง มากกว่าแม่ตัวเองด้วยซ้ำเพราะ คุณส้มเช้งตามใจน้องชบาตลอด กับ ชะเอม คุณชบาไม่เคยตีเลยสักครั้งเพราะพี่ก้อยจะถามลูกสาวตลอดว่า อีแม่เลี้ยงมันตีเปล่า ชะเอมก็ตอบว่าไม่เคยตีเลยสักครั้งเดียว แต่ชะเอมจะไม่ชอบแม่เลี้ยง เพราะจำได้ว่า เพราะแม่เลี้ยงนี่แหล่ะเป็นต้นเหตุให้แม่ร้องไห้เสียใจ ทำให้พ่อแม่ต้องเลิกกัน พี่ก้อยบอกว่า พี่คิดว่าพี่คงจะโชคดีหลังแต่งงานใหม่เพราะ คุณไก่เขาเป็นตำรวจ ก็คงจะเป็นคนดี เพราะเป็นผู้รักษาความยุติธรรม แต่พอมาอยู่ด้วยกันถึงรู้ว่าเลวมาก |
บล๊อคโรงเรียนแม่มดขาว :>www.tarot.is.in.th:> |
|
ผลงานอื่นๆ ของ อรมณีจันทร์ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ อรมณีจันทร์
ความคิดเห็น