ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC BTS X YOU] Snow in Moment

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่...1...หิมะแรก

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 57


    1

     

    “ Baby Baby กือแดนึน Caramel Macchiato~ ฉันนั่งฟังเพลงของวง BTS อย่างตั้งใจ อ่านี่มันรอบที่เท่าไหร่แล้วนะ

    ทำไมเสียงนายถึงได้เพราะขนาดนี้นะ

     

    จอนจงกุก

     

    นานเท่าไหร่แล้วที่เราไม่ได้เจอกัน แต่นายก็ยังดูหล่อเหมือนเดิมแถมเท่ขึ้นเป็นกองอีกด้วย นายต้องมีแฟนคลับเป็นนูน่าเพิ่มขึ้นแน่ๆ แต่ถึงแม้ว่านายจะทำงานหนักขนาดไหนก็อย่าลืมดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยล่ะ คืนนี้อากาศหนาวเป็นพิเศษสงสัยว่าหิมะจะใกล้ตกแล้วสินะ อากาศหนาวแบบนี้มันเลยทำให้ฉันคิดถึงนายมากขึ้นเป็นสองเท่าเลยล่ะ แล้วนายล่ะคิดถึงฉันบ้างมั้ย

    ยังไม่นอนอีกหรอ? ” เสียงเรียกของเซยอนทำให้ฉันหยุดเขียนไดอารี่แล้วเงยหน้าไปมองรูมเมทของฉันที่ลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยท่าทางสะลืมสะลือ  เอ๋หรือว่าฉันจะเปิดเพลงดังเกินไป

    กำลังเขียนไดอารี่อยู่น่ะ เสียงเพลงจากคอมของฉันทำแกตื่นหรือป่าว?

    ป่าวหรอก ฉันแค่ลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นแกยังนั่งอยู่หน้าคอมก็เลยลุกขึ้นมาดู แล้วทำไมแกถึงมานั่งเขียนไดอารี่ดึกดื่นป่านนี้ ไม่ง่วงหรือไง

    คืนนี้มันหนาวน่ะ ฉันก็เลย… ”

    คิดถึงจอนจงกุกสินะ ฉันไม่ได้ตอบอะไร แค่ยิ้มบางๆให้เซยอนเท่านั้น เพราะเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้ฉันกับเซยอนไม่มีความลับต่อกันและไม่ว่าฉันจะคิดอะไรหรือรู้สึกอะไรยัยนี่ก็มักจะรู้ดีเสมอ

    “ เพลงนี้ของวง BTS เพราะดีนะ โดยเฉพาะเสียงของจองกุก เขาเป็นคนที่มีพรสวรค์จริงๆ ”

    มันเป็นเพลงที่พวกเขาเอามาร้องใหม่น่ะแต่ก็ฟังดูเพราะไม่แพ้เวอร์ชั่นออริจินัลเลยนะ ฉันฟังเป็นสิบรอบแล้วเนี่ย ฮ่าๆ เสียงของจองกุกมันพิเศษมากจริงๆ

    นานาอ่าถ้าเธอคิดถึงเขา เราไปหาเขาก็ได้นะ ฉันได้ข่าวว่าพรุ่งนี้พวกเขาจะมีคอนเสิร์ตในโซลหลังจากที่เพิ่งกลับมาจากปูซาน ทำไมเราไม่ไปดูพวกเขาหน่อยล่ะ

    ไปเจอเขาอย่างงั้นหรอ? ถ้าทำได้ฉันก็อยากทำ

     

                    ไม่ล่ะ คนคงเยอะน่าดู แบบนั้นฉันคงไม่เห็นอะไรแน่ อีกอย่างฉันขี้เกียจไปยืนเบียดกับคนอื่นด้วย สู้รอดูถ่ายทอดสดทางทีวีดีกว่า

     

                    ฉันโกหก

     

                    ความจริงฉันอยากจะไปเจอเขา อยากเห็นหน้าเขา อยากฟังเสียงเขา อยากไปดูให้แน่ใจว่าเขายังแข็งแรงดีและมีความสุข ฉันมีเรื่องมากมายที่อยากจะเล่าให้เขาฟัง แต่มันคงเป็นไปไม่ได้เพราะความสัมพันธ์ของเรามันไม่เหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้เขาเป็นศิลปินชื่อดังที่มีตารางงานหนาแน่นจนแทบกระดิกตัวไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็น่าดีใจที่วงของพวกเขาประสบความสำเร็จในฐานะไอดอลหน้าใหม่ ฉันเองก็คอยสนับสนุนเขาในฐานะอาร์มมี่คนหนึ่ง และนั่นป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงไม่ควรจะไปเจอเขา ฉันคิดมันดีต่อเราทั้งสองฝ่ายที่จะไม่เจอกัน

     

                    ระหว่างเราควรเป็นแบบนี้สินะแค่ศิลปินกับแฟนคลับ

     

                    งั้นก็ตามใจ ว่าแต่พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์เราไปช็อปปิ้งแถวเมียงดงกันดีมั้ย ฉันอยากจะได้กระเป๋าซักใบน่ะ เซยอนหันมาทำหน้าออดอ้อน ฉันรู้ว่าเซยอนคงไม่ได้หมายถึงกระเป๋าแค่ซักใบหรอก แต่คงจะพ่วงด้วยเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอางอีกมากมายก่ายกอง เฮ้อ! ฉันล่ะปวดหัวกับการใช้จ่ายเงินของยัยนี่จริงๆ

                    ก็ได้ๆ แต่พรุ่งนี้ฉันต้องไปหาแม่ก่อนนะ เราไปเจอกันที่นั่นเลยก็แล้วกัน

                    ตกลงตามนั้น เฮ้อ! หวังว่าพรุ่งนี้หิมะคงไม่ตกหรอกนะ อากาศหนาวขนาดนี้

                    นั่นสินะ ยังไงแกก็อย่าลืมเอาเสื้อโค้ทไปเผื่อด้วยแล้วกัน

    โอเค งั้นฉันไปนอนต่อก่อนนะ แกเองก็อย่านอนดึกนักล่ะ เดี๋ยวจะตื่นไม่ทัน  ” พอพูดจบเซยอนก็ล้มตัวลงนอนอย่างรวดเร็วราวกับมีใครมากดปิดสวิตซ์ นี่ฉันมีเพื่อนเป็นหุ่นยนต์หรือไง แกหลับง่ายขนาดนั้นเลยรึ?

                    พอเห็นเซยอนนอนฉันเองก็เริ่มจะง่วงแล้วเหมือนกัน นอนบ้างดีกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะตื่นไปหาแม่ไม่ทัน ฉันหันไปมองหน้าจองคอมที่มีภาพจองกุกเป็นพื้นหลัง ยิ้มให้กับเขาอีกครั้งก่อนจะกดชัตดาวน์

                    ราตรีสวัสดิ์นะ จอนจงกุก

     

    *********************************

                    นานา ลูกเปิดเทอมเมื่อไหร่?” แม่เอ่ยถามขึ้นขณะที่ฉันกำลังหม่ำข้าวเช้าอย่างเอร็ดอร่อย ฉันไม่ได้กินอาหารฝีมือแม่มานานมากแล้วพอได้กลับมากินอีกครั้งมันเลยทำให้ฉันเจริญอาหารเป็นพิเศษ อาหารฝีมือแม่ยังไงก็สุดยอดไม่เคยเปลี่ยน!

                    อีกสองอาทิตย์ค่ะแม่

                    ข้าวเต็มปากยังจะอ้าปากพูดอีก น่าเกลียดจริงเชียวลูกคนนี้

                    อ้าว ก็แม่ถามหนูเองนี่หน่า หนูก็เลยตอบ

                    ก็เคี้ยวข้าวให้มันหมดปากก่อนแล้วค่อยตอบไม่ได้หรือไง จริงๆเลยนะเด็กคนนี้ จะต้องให้แม่พูดอีกซักกี่ครั้งถึงจะเข้าใจ

                    แง่มๆ พอแม่เริ่มทำท่าจะบ่นยาว ฉันเลยหันไปเคี้ยวข้าวแก้มตุ่ยให้แม่ดูด้วยท่าทางน่ารักทำเอาแม่ส่ายหน้าระอาในความทะเล้นของฉัน

                    งั้นก็เอาชุดนักเรียนไปด้วยเลยแล้วกันจะได้ไม่ต้องกลับมาเอาอีก เอ้อ! แล้วอย่าลืมเอากิมจิที่อยู่ในตู้เย็นไปด้วยล่ะ แม่ทำเผื่อไว้ให้เซยอนด้วยนะ

                    รับทราบค่ะ อาจุมม่า เพียงเท่านั้นฉันก็ได้รับมะเหงกลูกโตเป็นรางวัลจากแม่

    ฮือ~ มันเจ็บนะแม่!

    เอ้อ! วันก่อนแม่ได้เจอคุณนายจอนด้วยนะ พอดีบังเอิญเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าท่าทางดูมีความสุขเชียว แถมยังเล่าอีกว่าตอนนี้จองกุกกำลังโด่งดังเลยทีเดียว ลูกรู้ข่าวบ้างมั้ย แล้วได้ติดต่อกับจองกุกบ้างหรือป่าว? ”

    ฉันหยุดมือที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากทันทีที่แม่ถามถึงจองกุก จริงสินะเมื่อก่อนจองกุกมักจะกินข้าวที่บ้านของเราบ่อยๆ แถมแม่ของฉันก็ยังรู้จักกับแม่ของเขาอีกด้วย ตอนนั้นเขาทั้งแสบทั้งซนแต่ก็ขี้อ้อนเป็นทีสุด เวลามาบ้านฉันทีไรก็ต้องคอยอ้อนแม่ของฉันให้ทำขนมอร่อยๆให้กินทุกที แม่ฉันเองก็หลงลูกอ้อนของหมอนั่นจนลูกแท้ๆ อย่างฉันยังต้องอิจฉา ช่างเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานจริงๆ

      อ่าเรื่องพวกนี้มันผ่านมานานจนฉันเองก็เกือบจะจำไม่ได้แล้วเหมือนกัน วันนั้นกับวันนี้มันช่างแตกต่างกันลิบลับ ทั้งที่เมื่อก่อนฉันอยู่ใกล้นายแค่นี้ แต่ทำไมตอนนี้กลับเอื้อมไม่ถึง จองกุกคนที่เคยอยู่ข้างๆฉันกับจองกุก มักเน่วง BTS ที่ยืนอยู่บนเวทีนั่น ใช่คนเดียวจริงๆ หรอ? 

     

    เมื่อไหร่กันนะที่ระยะห่างระหว่างเรามันมากขนาดนี้

     

     

     

    ก็พอรู้บ้างค่ะ ตอนนี้เขาออกอัลบั้มมา 3 อัลบั้มแล้ว  แต่หนูไม่ได้ติดต่อกับเขานานแล้วตั้งแต่เขาไปเป็นเด็กฝึก

     

     

    แหมไม่น่าเชื่อเลยนะ เมื่อก่อนยังมาเล่นซนอยู่ที่บ้านเราแท้ๆ ตอนนี้โตเป็นหนุ่มหล่อเต็มตัวแถมยังเป็นไอดอลชื่อดังอีก เด็กสมัยนี้นี่โตเร็วจริงๆ เห็นแบบนี้แล้วแม่รู้สึกว่าตัวเองแก่ขึ้นยังไงไม่รู้นะนานา

    ไม่หรอกค่า แม่ก็หนูยังสาวยังสวยหน้าตึงเป๊ะอยู่เลย ฮ่าๆ ฉันพูดพลางเอามือไปจับแก้มแม่อย่างล้อเลียน

    เดี๋ยวเถอะ แซวแม่หรอลูกคนนี้ มาให้ตีก้นซะดีๆนะ

    เย้ย! หนูไปดีกว่า ขืนอยู่ต่อมีหวังโดนตีก้นลาย ฝากบอกพ่อว่าหนูคิดถึงด้วยนะคะ หลังจากคว้ากระเป๋าเสื้อผ้ากับกล่องกิมจิเรียบร้อยแล้ว ฉันก็รีบวิ่งออกมาจากบ้านทันทีโดยไม่ฟังเสียงโวยวายของแม่ ฮ่าๆ อย่าโกรธหนูเลยนะค่ะแม่

     

    ตอนนี้ฉันกำลังเดินทางไปหาเซยอนตามที่นัดเอาไว้ หลังจากที่ลงจากรถบัสมาอย่างทุลักทุเลเพราะต้องแบกกระเป๋าเสื้อผ้าและกล่องกิมจิที่แม่ให้มา เฮ้อ! ฉันก็ลืมนึกไปว่าหลังจากกลับมาจากบ้านแม่ก็คงต้องแบกของมาเยอะแยะ ไม่น่าไปรับปากยัยเซยอนเลย

     

     

                    ระหว่างที่ฉันกำลังเดินหอบของพะลุงพะลัง ใบหน้าของฉันก็สัมผัสได้ถึงความเย็นบางอย่างที่ตกลงมาจากฟ้า ความเย็นที่เรียกร้องให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปดู

                    หิมะกำลังตก

                    ปลายเท้าของฉันหยุดเคลื่อนไหวในขณะที่มือทั้งสองข้างยังคงแบกข้าวของอยู่อย่างเดิม ฉันยืนมองไปบนท้องฟ้าท่ามกลางผู้คนมากมายที่กำลังเดินผ่านไปมา อ่านี่คงเป็นหิมะแรกของปีนี้สินะ

     

    หิมะแรกของปีนี้ตกแล้ว

     

     

     

    นายเห็นมันมั้ยจองกุก

     

     

     

    ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเริ่มเอาเสื้อโค้ทออกมาสวมใส่ในขณะที่คู่รักหลายคู่กำลังเริ่มจะเดินกุมมือเพื่อถ่ายทอดความอบอุ่นให้กันและกัน ความหนาวเย็นของหิมะทำให้มือนฉันเริ่มชา ทำยังไงดีฉันลืมพกถุงมือมาด้วย ถ้านายอยู่ด้วยก็คงดีสินะ

     

     

    ส่งมือเธอมา

    นายจะทำอะไร?

                ก็จะทำให้อุ่นขึ้นไง ยัยโง่

     

    นี่ฉันกำลังคิดอะไรอยู่!

     

     

     

                    ฉันส่ายหน้าไล่ความคิดบ้าๆออกจากสมอง ฉันไม่ควรคิดถึงเรื่องเก่าอีก ใช่แล้ว! คิม นานา วันนี้เธอออกมาช็อปปิ้งกับเพื่อนและเซยอนกำลังรอเธออยู่ นี่ไม่ใช่เวลาจะมาคิดฟุ้งซ่าน!  ฉันรีบก้าวเดินต่อไปยังจุดนัดพบทันทีก่อนที่ความคิดฟุ้งซ่านจะทำให้ฉันเป็นบ้ามากไปกว่านี้

     

     

     

    เซยอนอ่า ตอนนี้แกอยู่ไหน ฉันโทรศัพท์ไปหาเซยอนทันทีที่ถึงจุดนัดพบแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของยัยนั่น

     

     

    ฉันอยู่ที่ร้านกาแฟแถวนี้แหละ พอดีหิมะมันตกฉันก็เลยมานั่งรอแกที่นี่ แกเดินผ่านสวนสาธารณะมาแล้วเลี้ยวซ้ายจะเจอร้านกาแฟที่มีคนสวยๆอย่างฉันนั่งประดับหน้าร้านอยู่ ฮ่าๆ 

    ให้ตายเถอะ! นี่ฉันต้องเดินต่ออีกหรอเนี่ย

    เออๆ เดี๋ยวฉันเดินไปก็แล้วกัน ฉันพูดตัดบทเพราะเหนื่อยเกินที่จะต่อล้อต่อเถียงกับยัยนั่น รีบๆเดินไปดีกว่าจะได้รีบพัก ฉันปวดขาจะแย่อยู่แล้ว

     

    “you're my chocolate my sweetest chocolate I really wanna have you~ ”

     

     

    ระหว่างที่ฉันกำลังเดินผ่านสวนสาธารณะที่มีคนมุงดูบางอย่างอยู่มากมาย ฉันก็ได้ยินเสียงเพลงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา ถึงแม้ว่าเสียงกรี๊ดของเหล่าวัยรุ่นที่ยืนออกันอย่างหนาแน่นจะทำให้ฉันได้ยินเสียงร้องไม่ค่อยถนัด แต่มันก็ดังพอจะทำให้ฉันแน่ใจได้ว่ามันเป็นเสียงของเขา

    จอนจองกุก!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×