คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ผู้อำนวยการโรงเรียนกับเจ้าชายแห่งโนเร็คทาวน์
ท่ามกลางท้องฟ้าที่ส่องแสงสดใส ร่างของชายหนุ่มที่มองดูท้องฟ้าอยู่หันมามองเสียงเปิดประตูเล็กน้อยก่อนจะทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เมื่อคืนเป็นอย่างไงบ้าง”ชายหนุ่มยังคงมองดูท้องฟ้าอย่างสนใจไม่สนใจที่จะตอบคำถามของคนถามแม้แต่น้อยแต่คนที่ถามดูเหมือนจะไม่สนใจท่าทางของชายหนุ่มคนนั้นและยังคงพูดต่ออีกว่า
“เมื่อวานฉันไปแอบดูการฝึกซ้อมเวทย์ของพวกนาย ดูเหมือนว่ารุ่นพี่จะเคี่ยวพวกนายหนักเหมือนกันนะ ฉันไม่แปลกใจแล้วที่เอรินเนียจะไม่สบาย”แซ็คยักไหล่อย่างไม่สนใจเท่าไหร่นักก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า
“แล้วเมเลนล่ะ มาพูดอะไรกับฉัน”
“เปล่า...ก็แค่อยากพูด”
เมื่อเมเลนพูดจบเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ชายหนุ่มทั้ง 2 หันไปมองก็เจอร่างของชายหนุ่มผมสีดำ ชายหนุ่มคนนั้นเดินออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้และทักทายว่า
“สวัสดีเมเลน แซ็ค ตื่นกันเช้านะ”
“สวัสดี ไม่ได้ตื่นเช้านักหรอก มันตื่นเองนะ”เมเลนพูดพลางส่งยิ้มไปให้สฟิเนอร์ สฟิเนอร์เดินออกมาจากห้องพลางเดินมายืนอยู่ข้างๆแซ็คและพูดว่า
“แสงยังคงทำหน้าที่ของมันไปแต่ถ้าวันไหนที่แสงเลื่อนหายเมื่อนั้นคงเกิดการสูญเสีย...นายคิดเหมือนกันกับฉันใช่ไหม แซ็ค”
“ไม่รู้สิ...”แซ็ค ตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆพร้อมกับเสียงเปิดประตูดังขึ้นร่างของคน 2 คนเดินออกมาจากประตูพลางส่งยิ้มให้กับกลุ่มคนที่ยืนกันอยู่
“สวัสดี”เอรินเนียทักขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มร่าเริงสดใส
“วันนี้ ไม่มีเรียนเราไปเที่ยวในโนเร็คทาวน์ดีไหม”เมเลนพูดขึ้นพร้อมกับเสียงหนึ่งดังขึ้นหน้าลิฟต์ชั้น 7ว่า
“ฟรีย่า เอเบอร์เลนซ์ ชั้นปีที่ 1 หอขาว ห้อง 2 กำลังขึ้นลิฟต์มาที่ห้องพักคณะกรรมการนักเรียน”เมื่อเสียงนั้นพูดจบประตูก็เปิดออกพร้อมกับร่างของหญิงสาวเดินเข้ามาและพูดว่า
“สวัสดี ทุกคน ฉันมาชวนไปเที่ยวในเมืองนะ”
“สวัสดี แล้วยูเรนล่ะไม่มาด้วยหรอ”เอรินเนียพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มละไมไปให้ฟรีย่า ฟรีย่ายิ้มก่อนจะพูดว่า
“ยูเรนเค้ากลับบ้านนะจ๊ะ ฉันคิดว่าพวกเธอยังว่างก็เลยคิดจะมาชวนไปเที่ยว”
“เป็นความคิดที่ดีนะ ว่ายังไงเธอเห็นด้วยไหม ซาราซ่า”สฟิเนอร์ถามพร้อมกับหันมามองมาที่ร่างของหญิงสาวที่ยืนนิ่งออกมาจากห้องอย่างเงียบๆ ซาราซ่ายิ้มก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงว่า
“เห็นด้วยอย่างมากเลยจ๊ะ”เอรินเนียส่งยิ้มให้ซาราซ่าก่อนจะพูดว่า
“งันตอนเย็นเจอกันนะ เจอกันที่ทางออกโรงเรียนเวทย์แล้วกันนะ ตกลงไหม”ทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วยพร้อมกับฟรีย่าพูดว่า
“งันเจอกันตอนเย็นนะ ใครทำธุระเสร็จเมื่อไหร่ไปเจอกันในที่นัดนะ”ทุกคนพยักหน้าก่อนจะส่งสายตาส่งฟรีย่า...
ประตูห้องเปิดออกพร้อมกับร่างของหญิงสาวผมสีทองตรงสลวยมัดครึ่งติดกิ๊บลายดอกไม้ เสื้อแขนยาวลายสีขาวกับกระโปรงสีฟ้าเดินออกมาจากห้องเรียกความสนใจของร่างอีก 2 คนที่อยู่ข้างนอกในทันที หญิงสาวที่เดินออกมาจากห้องหันมามองผู้มาใหม่อย่างสนใจก่อนจะส่งยิ้มให้พลางถามว่า
“ซาราซ่า สฟิเนอร์...ยังไม่ไปที่นัดอีกหรอ” ทั้ง 2 ส่งยิ้มพร้อมกับซาราซ่าพูดว่า
“ยังจ๊ะ พึ่งคุยกับมาสเตอร์เสร็จนะ เลยมาเก็บของและกำลังจะไปที่นัดนะ เอรินเนียยังไม่ไปอีกหรอ”เอรินเนียส่งยิ้มก่อนจะพูดว่า
“ยังเลย...พึ่งเรียนเวทย์กับรุ่นพี่เสร็จนะจ๊ะ ตอนนี้กำลังจะไปยังที่นัดจะไปด้วยกันไหม”ทั้ง 2พยักหน้าอย่างตกลงและเดินลงไปชั้น 1ในขณะที่ลงไปที่ชั้น 1นั้นสฟิเนอร์ก็ถามเอรินเนียว่า
“วันนี้แซ็คไม่ได้เรียนเวทย์กับรุ่นพี่ไม่ใช่หรอแล้วทำไมเอรินเนียยังต้องไปเรียนเวทย์กับรุ่นพี่อีกล่ะ”เอรินเนียถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า
“ก็...วันนี้รุ่นพี่แจ็คเค้าไม่อยู่นะสิ แซ็คเลยไม่มีเรียนเวทย์กับรุ่นพี่”สฟิเนอร์ยิ้มก่อนจะพูดว่า
“อย่างนั้นหรอ”เอรินเนียพยักหน้าพร้อมกับทุกคนลงมาที่ชั้น 1 พอดี เอรินเนียเดินอยู่ในชั้นที่ 1ได้สักพักก็พูดว่า
“สฟิเนอร์กับซาราซ่าไปกันก่อนนะ เดี๋ยวฉันตามไป”ทั้ง 2 คนทำหน้าสงสัยพร้อมกับซาราซ่าพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า
“ทำไมล่ะเอรินเนีย เธอจะไปไหนอย่างนั้นหรอ”
“อื้อ นิดหน่อยนะ ฉันจะไปแถวๆสวนของโรงเรียนนะ ฝากบอกทุกคนด้วยนะ”ซาราซ่าพยักหน้าพร้อมกับเอรินเนียเดินจากไป...ในขณะที่ซาราซ่าและ สฟิเนอร์เดินไปยังจุดนัดหมายแต่ขณะที่กำลังจะถึงจุดหมายนั้นก็สวนทางกับ แซ็คและซาเลนเดอร์ คนทั้ง 4 หันมาทักทายกันเล็กน้อยก่อนที่สฟิเนอร์จะถามแซ็คว่า
“จะไปไหนล่ะแซ็ค”แซ็คชำเลืองมองซาเลนเดอร์เล็กน้อยก่อนจะพูดว่า
“จะไปแถวๆสวนของโรงเรียนนะ เห็นว่ามีเรื่องเกิดขึ้นบริเวณนั้นนิดหน่อยนะ”
“อะไรล่ะ แซ็ค เห็นเอรินเนียก็ไปแถวๆนั้นเหมือนกันนะ”
“อย่างนั้นหรอ...”
“อื้อ แล้วคนอื่นๆล่ะ”
“ตอนนี้รออยู่ที่จุดที่นัดนะ แซ็คกลัวว่าพวกเธอจะมาจึงบอกให้ฟรีย่าและเมเลนรอพวกเธอนะ”ซาเลนเดอร์ตอบอย่างเรียบๆ เมื่อพูดจบ สฟิเนอร์และซาราซ่าก็รับคำพร้อมกับซาเลนเดอร์ถาม สฟิเนอร์ว่า
“แล้วนายจะไปหาเอรินเนียด้วยกันไหม สฟิเนอร์”สฟิเนอร์พยักหน้าพร้อมกับมองไปที่ซาราซ่า ซาราซ่าส่งยิ้มให้ สฟิเนอร์ก่อนจะพูดว่า
“พวกนายไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปบอกพวกเมเลนให้เองนะว่าพวกนายอยู่ที่ไหน”ชายหนุ่มทั้ง 3 คนพยักหน้าพร้อมกับซารา
ซ่าแยกตัวออกไป สักพักชายหนุ่มทั้ง 3 จึงเดินทางไปยังสวนของโรงเรียน เมื่อไปถึงสวนของโรงเรียนภาพของตรงหน้าก็สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนทั้ง 3 ในทันที...
ร่างของหญิงสาวผมสีทองกำลังยืนอยู่หน้าร่างของชายหนุ่ม 2 คนที่กำลังถูกมัดด้วยเชือกที่ตามองไม่เห็นกำลังมองร่างของหญิงสาวด้วยสายตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธ เอรินเนียมองร่างของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเยือกเย็นพร้อมกับน้ำเสียงที่เย็นชาว่า
“ฉันขอให้พวกคุณถอนคำพูดที่พูดออกไปเมื้อกี้นี้”
“ทำไมพวกฉันต้องขอถอนคำพูดด้วยล่ะ พวกฉันไม่ได้พูดอะไรผิดสักหน่อย เรื่องที่พวกฉันพูดต่างเป็นความจริงทั้งนั้นที่เธอมาที่นี่เพราะว่าหัวหน้าหอมันไม่มีน้ำยาไงล่ะ”
เผียะ!! เผียะ!!เสียงฝ่ามือของหญิงสาวปะทะกับใบหน้าของชายหนุ่มทั้ง 2 อย่างหนักหน่วงพร้อมกับกลุ่มของแซ็คเดินเข้ามาใกล้ๆแต่คนที่ตบหน้าคนทั้งสองกลับยังไม่รู้ตัว
“ปากอย่างพวกนายนี่มันควรจะโดนสั่งสอนสักหน่อยนะ เพราะปากเสียๆอย่างนายมันเสียเกินกว่าจะบรรยายแล้ว ถ้าฉันรู้ว่ามีการทะเลาะวิวาห์กันอีกล่ะก็มันคงไม่ได้เป็นการสั่งสอนต่อหน้าพวกเธอสองคนเท่านั้นหรอกนะ แต่ฉันจะสั่งสอนพวกนายต่อหน้าทุกคนในหอขาว...ไม่สิทุกคนในโรงเรียนไปเลย ให้มันรู้กันไปสิว่า ใครมันแน่กว่ากัน อย่าคิดด้วยนะว่าฉันจะไม่ทำจริง และก็จำเอาไว้ด้วยนะถ้าคิดจะว่าหัวหน้าหอขาวอีกล่ะก็ฉันไม่ปล่อยพวกนายไว้แน่”
เอรินเนียพูดด้วยท่าทางเรียบเฉยพร้อมกับชายหนุ่มหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า
“แล้วเธอไม่คิดที่จะปล่อยพวกฉันหรือไงกัน เธอจะให้ฉันอยู่ตรงนี้ไปถึงไหน”
“ก็ไม่ถึงไหนหรอก ฉันคิดว่ามันคงดีถ้าฉันจะปล่อยพวกนายสองคนอยู่ที่นี่ตรงนี้จนกว่าจะถึงตอนเย็นหรือไม่ก็ให้ใครสักคนมาถอดถอนเวทย์นี้เองล่ะกัน”
2 คนนั้นทำท่าลำบากใจและกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาพยายามจะถอดถอนเวทย์แต่ก็ถอนไม่ได้ เอรินเนียยังคงยืนมองอย่างสงบนิ่งก่อนที่จะหันหลังก็พูดขึ้นว่า
“เวทย์ที่ฉันใช้มีแต่หัวหน้าหอขาวและท่านเอเทเบเท่านั้นที่จะถอดถอนได้ ส่วนคนอื่นก็จะถอดถอนได้ก็ต่อเมื่อคนๆนั้นมีพลังเวทย์เทียบเท่ากับฉัน หวังว่าคงจะสำเร็จนะ”
เอรินเนียพูดพร้อมกับเดินไปเพื่อจะไปยังจุดนัดแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเจอกับใบหน้าของคนที่มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าหอขาว
“แซ็ค...”
“ไง เอริน”
“นายมานานแล้วหรือยัง”
“มานานพอที่จะเห็นเธอตบหน้าสองคนนั้นก็แล้วกัน...คนสองคนนี้ช่างหาเรื่องผิดคนจริงๆนะ”แซ็คพูดพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากและทำท่าจะเดินเข้าไปใกล้ แต่เอรินเนียดึงชายหนุ่มออกมาไม่ให้เข้าใกล้และพูดว่า
“สองคนนี้สมควรแล้วที่จะเจอแบบนี้ ปากก็เสียอย่างกับอะไรดี นิสัยก็แย่สุดขั้ว ถ้านายถอดถอนมนตรานี้สองคนนี้เค้าจะเข็ดหรือเปล่า ฉันว่าปล่อยอย่างนี้นะดีแล้ว”
“แล้วเธอจะไม่ปล่อยให้สองคนนี้ไปหามาสเตอร์เลยหรือไง อย่าลืมล่ะ ว่านักเรียนปี 2และปี 3 ทุกคนจะต้องไปรายงานตัวกับมาสเตอร์”เอรินเนียทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า
“ก็ได้แต่ฉันจะถอนมนตราให้แค่บางส่วน สองคนนี้จะทำอะไรไม่ได้มากนักแค่เดินไปไหนมาไหนกับกินข้าวอย่างอื่นทำไม่ได้และถ้าคิดจะทะเลาะวิวาห์กันหรอก็ ขอบอกไว้ก่อนนะว่าคิดผิดเพราะฉันรู้ความเคลื่อนไหวของพวกนายทุกอย่างและฉันก็จะประจานต่อหน้าทุกคนเลยขอให้รับรู้ไว้ในจิตสำนึกที่แย่ๆของนายด้วย”
เมเลนมองเอรินเนียอย่างสยองถ้าเกิดเค้าโดนอย่างนี้บ้างก็คงแค้นเอรินเนียสุดขีดเลยล่ะ แต่ว่านะเวลาเอรินเนียโมโหแล้วเงียบๆแบบนี้น่ากลัวชะมัด เมเลนมองเอรินเนียพลางกลืนน้ำลาย เค้าจะไม่มีวันที่จะทำให้เอรินเนียโมโหเด็ดขาดไม่งั้นเอรินเนียต้องฆ่าเค้าตายแน่...
สฟิเนอร์มองเอรินเนียพลางยิ้มน้อยๆ เธอนี่น่ากลัวได้ใจจริงๆความโหดเหี้ยมของเอรินเนียคงไม่ได้มีแค่นี้แน่ๆ แต่สาเหตุอะไรกันที่ทำให้เอรินเนียโมโหได้ขนาดนี้...
ซาเลนเดอร์มองเอรินเนีย ใบหน้าที่เรียบเฉยเสมอนั้นมีรอยยิ้มนิดๆที่มุมปาก พลางคิดในใจว่า สองคนนี้เลือกคู่ต่อสู้ที่ผิดจริงๆ
เอรินเนียมองหน้าแซ็คพร้อมถามว่า
“จะไปหาพวกฟรีย่ากันแล้วหรือยังล่ะ”แซ็คพยักหน้าพร้อมกับทุกคนเดินไปยังจุดนัด...
หน้าทางออกโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์ ร่างของคน 3 คนกำลังยืนรอกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งอยู่ เมื่อเห็นว่ามีคนกลุ่มหนึ่งตรงเข้ามาก็โบกไม้โบกมือพลางกวักมือเป็นสัญญาณที่เหมือนจะบอกว่าให้มาเร็วๆเมื่อคนทั้งหมดมาถึงจึงทักทายกันเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์เพื่อเข้าสู่เมือง...
เมืองโนเร็คทาวน์
ร่างของผู้คนเดินไปมาไม่ค่อยมากมายนักแต่จะมีบางช่วงที่จะมีคนมากมายยืนออกันอยู่ เมื่อกลุ่มของเอรินเนียมาถึง เอรินเนียก็เดินเข้าไปดูเมื่อเจอก็ถึงกับพยักหน้าเบาๆเหมือนเข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรทำให้เมเลนถามด้วยความสงสัยว่า
“เธอพยักหน้าเรื่องอะไรเอรินเนีย”หญิงสาวหันมายิ้มให้ก่อนจะพูดว่า
“ไม่รู้ฉันลืมได้อย่างไงนะว่าอีกไม่กี่วันก็จะมีเทศกาลสำคัญของเมืองโนเร็คทาวน์”
“เทศกาลสำคัญ?”เอรินเนียพยักหน้าก่อนจะพูดเหมือนกับอธิบายว่า
“ก็อีกไม่กี่วันจะเป็นวันขอบคุณอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของโนเร็คทาวน์แล้ว ซึ่งอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของโนเร็คทาวน์ก็คือกระดิ่ง ชาวเมืองทุกคนจะพกกระดิ่งติดตัวเอาไว้ตลอดเวลาเหมือนกับเป็นการขอบคุณอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่คอยคุมครองเมืองโนเร็คทาวน์มาตลอดยังไงล่ะ”เมื่อเอรินเนียพูดจบ ฟรีย่าก็พูดต่อด้วยรอยยิ้มที่ร่าเริงสดใสว่า
“และมีความเชื่อกันด้วยนะว่า ถ้าใครพกกระดิ่งติดตัวไว้ในวันนั้นกระดิ่งสายลมจะประทานพรให้คนๆนั้นมีแต่เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิตตลอดปีเลยล่ะ”
“จริงหรอ”เมเลนถามอย่างสนใจ ฟรีย่าพยักหน้าก่อนที่ซาราซ่าจะชวนทุกคนว่า
“งันพวกเราไปซื้อกระดิ่งมาพกติดตัวกันดีไหม”ทุกคนพยักหน้าอย่างตกลงก่อนที่จะเดินไปร้านกระดิ่งแห่งหนึ่งที่ฟรีย่าแนะนำ
“สวัสดีครับ”ร่างของเจ้าของร้านออกมาต้อนรับกลุ่มคนของหญิงสาวก่อนจะมองมายังกลุ่มของชายหนุ่มด้วยสายตาเมินเฉยพลางพูดว่า
“ขอความกรุณาให้ผู้ชายทุกท่านออกไปข้างนอกก่อนนะครับ”เมื่อพูดจบร่างของเจ้าของร้านก็ห่างออกไป
“ทำไมล่ะ”เมเลนถามอย่างสงสัยพร้อมกับทุกคนเริ่มมองหน้ากันก่อนที่ฟรีย่าจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆว่า
“คือว่า... เค้ามีธรรมเนียมไม่ขายกระดิ่งให้กับพวกผู้ชายนะเพราะเค้าคิดว่ากระดิ่งมัน...ไม่มีค่าพอสำหรับพวกผู้ชายและอีกอย่างร้านนี้เค้าก็ขายให้แต่ผู้หญิงมาเป็นเวลานานหลายปีแล้วล่ะ”
“ถ้าสมมุติว่าผู้ชายเค้าจะมาซื้อกระดิ่งให้หญิงสาวก็สามารถมาซื้อที่ร้านนี้ได้ใช่ไหม”ซาเลนเดอร์ถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ฟรีย่าส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า
“ไม่ได้นะ ที่นี่ไม่มีผู้ชายคนไหนสามารถซื้อกระดิ่งในโนเร็คทาวน์ได้หรอกนะ”
“แล้วอย่างนี้ก็หมายความว่า...”ซาราซ่าเว้น ฟรีย่าจึงตอบประโยคให้จบว่า
“ใช่...ในโนเร็คทาวน์ไม่มีชายคนไหนที่สามารถซื้อกระดิ่งในที่แห่งนี้ได้”
“ฉันว่าไม่เห็นยากสักเท่าไหร่หรอกนะ แค่ขอให้ผู้หญิงซื้อกระดิ่งมาให้ผู้ชายแค่นี้ผู้ชายก็สามารถมีกระดิ่งพกติดตัวได้แล้ว”ฟรีย่าส่ายหน้ากับคำพูดประโยคนั้นของแซ็คก่อนที่เมเลนจะถามอย่างสงสัยว่า “ทำไม”
“ก็เพราะว่า ถ้าเกิดเรื่องอย่างนั้นจริง กระดิ่งอันนั้นก็จะหายไปยังไงล่ะ”
“หายไป?”ทุกคนยกเว้นเอรินเนียกำลังทำท่าทางงงๆพร้อมกับแซ็คและสฟิเนอร์เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างสฟิเนอร์จึงพูดขึ้นว่า
“เพราะว่าพลังเวทย์ของคนขายใช่ไหม สิ่งของทุกอย่างจะถูกขายได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความเต็มใจของผู้ขายและของสิ่งนั้นเป็นสำคัญ เพราะถ้าสิ่งของและเจ้าของไม่เต็มใจล่ะก็มันจะหายไปแถมยังนำความเดือดร้อนมาให้คนๆนั้น...สินะ”ฟรีย่าพยักหน้าในประโยคนั้นของสฟิเนอร์พร้อมกับเอรินเนียเดินตรงไปยังเจ้าของร้านพลางพูดว่า
“ขอโทษนะค่ะ ที่นี่มีธรรมเนียมไม่ขายกระดิ่งให้พวกผู้ชายอย่างนั้นหรอค่ะ”เจ้าของร้านพยักหน้าและพูดกับเอรินเนียว่า
“ร้านของเราขายอย่างนี้มานานหลายพันปีแล้ว...”เมื่อเจ้าของร้านพูดจบซาราซ่าก็เดินมาอยู่ข้างๆเอรินเนียแล้วถามว่า
“อย่างนี้ถ้าผู้ชายอยากจะซื้อกระดิ่งให้ฝ่ายหญิงก็ไม่สามารถทำได้สินะค่ะ”
เจ้าของร้านคนนั้นพยักหน้าอีกและพูดว่า
“การที่เราให้แต่ผู้หญิงในโนเร็คทาวน์ซื้อได้นั้นก็เพื่อที่จะเป็นการเคารพต่อท่านหญิงองค์หนึ่งที่มีน้ำใจช่วยเหลือองค์หญิงแห่งสายลมของเมืองเราเสมอ องค์หญิงของเราจึงไม่รู้ว่าจะมีอะไรมาตอบแทนองค์หญิงคนนั้นจึงได้มอบกระดิ่งอันหนึ่ง
ให้กับองค์หญิงเพื่อเป็นการขอบคุณที่องค์หญิงคนนั้นดีกับองค์หญิงของเราและองค์หญิงองค์นั้นก็พกกระดิ่งอันนั้นติดตัวไว้ตลอดเวลา การที่เราให้ทุกคนพกกระดิ่งติดตัวนั้นก็เพื่อที่จะทำให้ทุกคนนึกถึงความดีองค์หญิงคนนั้นเสมอ...”
“ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์อย่างที่เอรินเนียบอกเลยนี่”
เมเลนพูดขึ้นพร้อมกับเจ้าของร้านคนนั้นหันมามองอย่างไม่พอใจก่อนจะพูดว่า
“กระดิ่งที่องค์หญิงของเรามอบให้แก่องค์หญิงองค์นั้นก็คือ กระดิ่งแห่งสายลมซึ่งมันก็คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเมืองเรายังไงล่ะ”ทุกคนพยักหน้าอย่างเข้าใจแต่เอรินเนียก็พูดต่ออีกว่า
“ถ้าฉันเป็นองค์หญิงที่ช่วยองค์หญิงเมืองนี้ไว้ฉันคงไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่หรอกนะ”
ทุกคนหันมามองเอรินเนียทันทีที่เธอพูดจบก่อนที่เธอจะพูดเหตุผลต่อว่า
“เพราะว่าการที่จะขอบคุณใครสักคนแต่กลับกำหนดข้อห้ามแบบนี้ ฉันว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยล่ะ ถ้าเป็นฉัน ฉันจะให้ทุกคนสามารถซื้อกระดิ่งที่เมืองโนเร็คทาวน์ได้”
“แต่ว่านี่คือสิ่งที่พวกเราทุกคนทำกันมานานหลายพันปีแล้ว...”
ชายแก่คนหนึ่งพูดขึ้นหลังจากที่ยืนฟังบทสนทนาของหญิงสาวจบเอรินเนียหันไปมองชายแก่คนนั้นก่อนจะพูดถามว่า
“เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ”
“เมื่อ 2000 ปีก่อน”เมื่อชายแก่คนนั้นพูดจบเอรินเนียถึงกับอึ้งในทันทีก่อนจะพูดเหมือนคนที่เหนื่อยๆว่า
“ฉันคิดว่ากฎข้อนี้ควรจะยุติได้แล้วนะ การที่จะขอบคุณใครสักคนต้องออกมาจากใจและไม่มีข้อบังคับและฉันคิดว่านั้นแหละคือการขอบคุณที่ดีที่สุด”เมื่อเอรินเนียพูดจบทุกคนก็นิ่งเงียบในทันทีก่อนที่เจ้าของร้านจะพูดอย่างเห็นด้วยว่า
“ฉันเองก็เห็นด้วยกับสิ่งที่เธอพูดนะแต่ว่าการที่จะยกเลิกนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถทำง่ายๆเพราะถ้าเราจะไม่ทำตามธรรมเนียมนี้จริงเราก็คงต้องบอกพระราชา ราชินี เจ้าชายและเจ้าหญิงของเมืองเราก่อนเราถึงจะสามารถทำได้”
ชายแก่คนนั้นพูดพลางยิ้มว่า
“ถ้าเป็นเรื่องนี้ล่ะก็ไม่ต้องห่วงหรอกเราจะขอเจ้าชายของเมืองโนเร็คทาวน์ให้เอง เจ้าชายจะต้องดีพระทัยแน่ๆที่รู้ว่าคนที่พูดเป็นใคร”ชายแก่คนนั้นยิ้มและส่งยิ้มให้เอรินเนีย เอรินเนียมองหน้าชายแก่คนนั้นก่อนจะพูดเหมือนนึกคิดได้ว่า
“อ๊ะ คุณที่อยู่ในการทดสอบของโรงเรียนเวทย์นี่ คุณเป็นใครกันแน่” ชายแก่คนนั้นยิ้มก่อนจะพูดพลางเดินออกไปว่า
“อีกไม่นานท่านก็จะรู้เอง”กลุ่มของเอรินเนียมองชายแก่คนนั้นอย่างสงสัยแต่ก็ไม่พูดอะไรพร้อมกับซื้อกระดิ่งเพื่อเตรียมตัวร่วมเทศกาลสำคัญของโนเร็คทาวน์ที่จะเริ่มในอีกไม่กี่วันข้างหน้า...
ที่ห้องเรียนของนักเรียนชั้นปีที่ 1ห้องที่ 1ของหอขาวนักเรียนทุกคนกำลังนั่งรอมาสเตอร์เชอร์รี่ที่จะมาหาพวกเค้าเพื่อแจกตารางเรียนของทุกคน เพียงสักพักร่างของมาสเตอร์ที่ทุกคนรออยู่ก็ปรากฏตัวขึ้นพลางส่งยิ้มให้ทุกคนและพูดว่า
“สวัสดี นักเรียนหอขาวปีที่ 1ห้องที่ 1 ทุกคนวันนี้จะมีการมอบตัวนักเรียนทุกคนกับท่านผู้อำนวยการของโรงเรียนและจะมีการแนะนำตำแหน่งคณะกรรมการนักเรียนต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนด้วยดังนั้นพวกเธอจึงต้องระวังตัวให้ดี โดยเฉพาะพวกที่เป็นคณะกรรมการนักเรียน จงระวังตัวไว้ว่าจะมีคนมาคอยดักทำร้ายเพราะความหมั้นไส้ให้ดีล่ะโดยเฉพาะเธอ เอรินเนีย เสเวเลซ ได้ข่าวว่าเมื่อวานเธอสั่งสอนพวกรุ่นพี่ที่ทะเลาะกันเมื่อวานโดยการควบคุมความประพฤติอย่างนั้นหรอ”เอรินเนียพยักหน้าก่อนจะพูดด้วยคำสุภาพว่า
“ค่ะ มาสเตอร์”เชอร์รี่หัวเราะกับคำตอบนั้นก่อนจะพูดว่า
“ก่อนวันเรียนเธอยังจัดการ 2 คนนั้นให้โกรธเธอได้มากขนาดนี้และถ้าอีก 3 ปีเธอจะทำให้ 2คนนั้นโกรธเธอได้มากขนาดไหนกัน เอรินเนีย เธอควรจะระวังตัวไว้บ้างนะ”
“ค่ะ มาสเตอร์ ดิฉันไม่เคยทำร้ายใครก่อนถ้าไม่มีใครมาหาเรื่องดิฉัน”
“ฉันรู้ว่าเธอไม่ทำร้ายใครก่อนหรอก ว่าแต่พวกเธอมาจากที่ไหนกัน” เชอร์รี่ถามพลางมองหน้าเอรินเนียและแซ็ค
“สิเรียเนียค่ะ/ครับ”เอรินเนียและแซ็คตอบพร้อมกัน เชอร์รี่พยักหน้าก่อนจะพูดว่า
“พวกเธอรู้หน้าที่ของคณะกรรมการนักเรียนแล้วหรือยัง”ทุกคนส่ายหน้ายกเว้นแซ็คและเอรินเนียที่พอจะรู้มาจากรุ่นพี่บ้างแล้ว เชอร์รี่มองทั้ง 2 คนที่ไม่ส่ายหน้าอย่างแปลกใจก่อนจะพูดเรียบๆว่า
“หน้าที่ของคณะกรรมการนักเรียนก็คือ...การที่พวกเธอจะต้องดูแลความเรียบร้อยของคนในหอขาวอย่างไงล่ะค่ะ และก็คอยเป็นผู้ช่วยของหัวหน้าหอและผู้ช่วยหัวหน้าหอทำกิจกรรมต่างๆโดยยกตัวอย่างเช่น งานโรงเรียนโดยปกติแล้วมันก็จะมีหลายฝ่ายที่ต้องทำหน้าที่ต่างๆอยู่แล้ว ไหนจะเรื่องการแสดง, สถานที่และดูแลความปลอดภัยและความเรียบร้อยด่านต่างๆพวกเธอเหล่าคณะกรรมการนักเรียนก็ต้องทำหน้าที่พวกนี้ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว และบางทีคนหอขาวอาจจะมีการ
ทะเลาะกันเองด้วยนะ เรื่องทะเลาะนี้ก็มีทุกปีล่ะ แต่ว่าคนที่ทำหน้าที่คอยไกล่เกลี่ยก็คือหัวหน้าหอและผู้ช่วยหัวหน้าหอนะ คณะกรรมการนักเรียนไม่มีสิทธิ์เข้าไปห้ามนอกจากหัวหน้าหอจะอนุญาตหรืออีกฝ่ายมีมากกว่าหรือว่าการทะเลาะกันครั้งนี้คนเยอะเกินไป คนทั้งสองคนไม่สามารถจัดการได้หมดได้...พวกคณะกรรมการนักเรียนจึงสามารถเข้าไปยุ่งกับเรื่องการทะเลาะวิวาห์ของคนในหอได้”
“ทำไมล่ะค่ะ ทำไมคณะกรรมการไม่มีสิทธิ์ยุ่งล่ะค่ะ”ฟรีย่าถามขึ้นอย่างสงสัย
“ก็เพราะคณะกรรมการนักเรียนไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของใครยังไงล่ะแต่ที่หัวหน้าหอและผู้ช่วยหัวหน้าหอยุ่งได้ก็เพราะว่า เค้าสองคนเป็นคนดูแลทุกสิ่งในหอขาวจึงมีอำนาจสูงสุดอย่างไงล่ะรองจากคนดูแลชั่วคราวกับท่านผู้อำนวยการนะ”ทุกคนพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนที่มาสเตอร์จะดีดนิ้วพร้อมกับตารางเรียนมาอยู่หน้าทุกๆคน ทุกคนรับมาพร้อมกับมาสเตอร์เชอร์รี่พูดว่า
“อีก 1 ชั่วโมงเจอกันที่ตึกห้องประชุมใหญ่ของโรงเรียนนะค่ะ นักเรียนทุกคนกรุณาใส่เครื่องแบบของโรงเรียนให้เรียบร้อยด้วยล่ะค่ะ แล้วอีก 1ชั่วโมงเจอกัน อ้อ คนที่คณะกรรมการนักเรียนจะต้องไปถึงก่อนเวลา 5 นาทีนะค่ะ แล้วเจอกันค่ะ”เมื่อมาสเตอร์เชอร์รี่พูดจบ ร่างของเชอร์รี่ก็หายไปในทันที ทุกคนมองหน้ากันก่อนที่จะแยกย้ายไปห้องพักของตัวเอง...
หน้าตึกห้องประชุมใหญ่ ร่างของหญิงสาวผมสีทองใส่เครื่องแบบนักเรียนสีขาว ปลายแขนเสื้อยาวถึงข้อมือ โบว์สีขาวขนาดใหญ่ติดอยู่ตรงบริเวณหน้าอก กระโปรงยาวแค่เข่าแต่กลับพลิ้วไหว ข้างหลังขอบกระโปรงมีโบว์สีขาวขนาดเล็กติดอยู่ กำลังเดินเข้าไปที่ห้องประชุมใหญ่ของโรงเรียนเวทย์ หญิงสาวมองสำรวจห้องประชุมได้สักพักเสียงเรียกหญิงสาวก็ดังขึ้น หญิงสาวหันไปมองก่อนจะส่งยิ้มให้คนที่เรียกตนพลางถามว่า
“ทุกคนล่ะ”
แซ็คส่ายหน้าเหมือนจะบอกว่าไม่รู้ก่อนที่จะเดินไปข้างๆหญิงสาว หญิงสาวก็เดินไปหน้าห้องประชุมพร้อมกับร่างของเพื่อนๆที่เป็นคณะกรรมการนักเรียนทุกคนก็เดินมาหาคนทั้ง 2 พลางทักทายกันเมื่อคนทั้งหมดทักทายกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ร่างของมาสเตอร์เชอร์รี่ก็ออกมาพร้อมกับร่างของคณะกรรมการนักเรียนของหอราตรีออกมาพร้อมกับมาสเตอร์ท่านหนึ่ง เอรินเนียกวาดสายตาไปมองคณะกรรมการนักเรียนหอขาวทั้งหมดก่อนจะส่งยิ้มไปให้คนกลุ่มนั้นพลางทำความเคารพมาสเตอร์เชอร์รี่
มาสเตอร์เชอร์รี่พยักหน้ารับการทำความเคารพนั้นก่อนจะพูดให้คณะกรรมการนักเรียนทั้งหมดนั่งเก้าอี้ข้างหน้าหอประชุมแล้วจึงหายไป...เมื่อมาสเตอร์ของหอทั้ง 2 หายไปแล้วนั้นความเงียบก็เข้ามาครอบคลุมคณะกรรมการนักเรียนของหอทั้ง 2 เพียงสักพักร่างของนักเรียนโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์ก็มาถึงได้สักพักร่างของผู้ชาย 2 คนก็มาอยู่หน้าหอประชุม...ชายคนแรก ใบหน้าแสดงถึงความมีอายุมากพอควร ผิวหนังที่เหี่ยวย่นแต่ก็ไม่ถึงกับย่นเสียจนน่าเกลียดนั้นเป็นตัวบ่งบอกได้ดีว่า ชายคนนี้มีอายุมากไม่ใช่น้อย ผมสีเงินปนกับสีขาวทำให้ดูไม่ออกมาชายคนนี้มีผมสีอะไรกันแน่ระหว่างผมสีขาวและสีเงิน
ดวงตาสีน้ำตาลที่ดูเรียบเฉยนั้นเหมือนกำลังส่งยิ้มน้อยๆมาให้กับทุกๆคนที่นั่งอยู่ที่แห่งนี้ เอรินเนียมองใบหน้าของชายคนนี้อย่างสำรวจก่อนจะตกใจเมื่อใบหน้าที่เอรินเนียแสนจะคุ้นเคยนั้นอยู่ที่นี่!!!...ชายผู้นั้นคือคนที่อยู่ในการทดสอบครั้งที่ 1ที่ให้เธอเก็บพิณอันนั้นไว้และทำให้เธอผ่านการทดสอบในครั้งนั้น แถมเป็นชายคนเดียวกันที่อยู่ในร้านกระดิ่งในเมืองโนเร็คทาวน์ด้วย ชายคนนี้เป็นใครกันแน่!!เอรินเนียคิดในใจอย่างสงสัยก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มอีกคนที่เดินมาด้วยกัน ผมสีเงินซอยยาวแค่บ่า ตาสีน้ำตาลกำลังกวาดมองทุกคนอยู่ก่อนจะมาสดุดสายตาที่เธอก่อนจะส่งรอยยิ้มที่ทำให้เธอหวั่นใจอย่างรุนแรง เอรินเนียรีบก้มหน้าหลบสายตานั้นทันทีพร้อมกับเสียงของมาสเตอร์เชอร์รี่ก็ดังขึ้น
“สวัสดี นักเรียนโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์ทุกคน วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก ซึ่งก็เหมือนเดิมอยู่ทุกปีก็คือกาทักทายของผู้อำนวยการโรงเรียนและให้ทุกคนได้รู้จักหัวหน้าหอและผู้ช่วยหัวหน้าหอคนใหม่ซึ่งวันนี้เราได้รับเกียรติอย่างสูงจากเจ้าชายของเมืองโนเร็คทาวน์ที่จะมาพูดคุยกับนักเรียนทุกคนก่อนที่จะเปิดเรียนด้วยนะค่ะ ขอเชิญท่านผู้อำนวยการโรงเรียนและเจ้าชายแม็คได้เลยค่ะ” ทุกคนลุกขึ้นทำความเคารพเจ้าชายแม็คและท่านผู้อำนวยการก่อนที่จะนั่งลงพร้อมกับชายที่เอรินเนียสงสัยว่าเป็นใครก็พูดขึ้น
“สวัสดี นักเรียนโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์กันทุกคน วันนี้ก็จะเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของพวกเธอเด็กชั้นปีที่ 1จะมีบทเรียนเวทย์ต่างๆมากมายซึ่งโรงเรียนเราปรารถนาให้นักเรียนทุกคนสามารถใช้พลังในการดำเนินชีวิตประจำวันได้และหวังว่าทุกคนจะเป็นจอมเวทที่ดีของเมืองทั้ง 6 ซึ่งการที่จะเป็นจอมเวทย์ที่ดีต้องมีความกล้าและแข็งแกร่งอีกมากมาย โรงเรียนเราจึงหวังที่จะให้ทุกคนสามารถมีชีวิตอยู่รอดจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นในอาเลเบเลียนได้ ดังนั้นฉันจึงคิดว่าทุกคนควรจะตั้งใจ”เมื่อชายคนนั้นพูดจบมาสเตอร์เชอร์รี่ก็ลุกขึ้นพร้อมกับพูดว่า
“นั้นคือคำพูดของท่านผู้อำนวยการโรงเรียนของเรานะค่ะ ท่านเอเทเบ อาร์เอริทเบส ตำแหน่งก็คือท่านผู้อำนวยการโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์ค่ะ ขอเชิญเจ้าชายแม็คทรงตรัสอะไรสักเล็กน้อยกับเด็กโรงเรียนเวทย์ของโนเร็คทาวน์หน่อยนะเพค่ะ”เจ้าชายแม็คพยักหน้าก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“เราดีใจที่ได้มาที่นี่มาดูคนที่จะเป็นจอมเวทย์ที่ดีในอนาคตของเมืองทั้ง 6 เราดีใจมากจริงๆอีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลสำคัญของเมืองโนเร็คทาวน์แล้วและเราอยากให้ทุกคนไปร่วมงานนี้กับเราด้วย เราเองก็เคยได้ศึกษาที่โรงเรียนเวทย์นี้มาก่อนและเราเองก็หวังจะให้พวกเจ้าสร้างแต่สิ่งดีๆให้กับโรงเรียนเวทย์นี้ไม่ใช่สร้างความเสื่อมเสียกับโรงเรียนเราได้แต่คาดหวัง
ว่ามันจะเป็นเช่นนั้น”
เมื่อเจ้าชายแม็คพูดจบก็ลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องประชุมแห่งนี้ในทันที เอรินเนียได้แต่มองอย่างตำหนิแต่ไม่พูดอะไรออกมา เอเทเบลุกขึ้นยืนก่อนจะพูดว่า
“วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับคณะกรรมการนักเรียนของโรงเรียนเรากัน ขอเชิญคณะกรรมการนักเรียนเดินมาข้างหน้าเลย”เมื่อทุกคนขึ้นมาเสร็จ กระดาษแผ่นหนึ่งก็มาอยู่หน้าเอเทเบ เอเทเบหยิบขึ้นมาดูก่อนจะพูดว่า
“แซคคาเรีย ซิเรียเบล หัวหน้าหอขาวของเราขอให้ไปหาคณะกรรมการนักเรียนหอราตรีที่ตอนนี้กำลังหลงทางอยู่ด้วย ชื่อของเธอคนนั้นก็คือ การ์เน็ต อาเรเบเลอร์”ดวงตาของเอรินเนียเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจเมื่อได้ยินชื่อนั้น แซ็คหันมามองหน้าหญิงสาวที่อยู่ข้างๆตนก่อนที่หญิงสาวจะส่งยิ้มให้และพูดว่า
“ไปเถอะ แซ็ค มันคือหน้าที่นะ เดี๋ยวทางนี้ฉันดูแลเอง”แซ็คพยักหน้าก่อนจะเดินออกจาห้องประชุมไป เอรินเนียหันไปมองชายที่ชื่อเอเทเบก่อนจะทำความเคารพอย่างเป็นทางการ
“ได้ทำความเคารพกันสักทีนะค่ะ ท่านเอเทเบ”เอทเบยิ้มก่อนที่จะพูดว่า
“ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้ง พวกเจ้าคงรู้แล้วสินะว่านี่คือการมอบตัวของนักเรียนปีที่1”ทุกคนพยักหน้าก่อนจะแนะนำตัวคณะกรรมการนักเรียนของหอทั้ง 2 และพิธีมอบตัวของโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเธอได้เป็นนักเรียนเวทย์ของโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์เต็มตัวแล้ว...
**จบ**
อืม ตอนนี้ก็จบแบบพยายามทำให้มันจบๆไปสักที ซึ่งเรื่องของเจ้าหญิงโนเร็คทาวน์ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะให้เป็นเรื่องจริงของตอนนี้ดีหรือเปล่าเพราะเราว่ามันยังเป็นช่วงที่เราต้องปรับปรุงอยู่ แต่เราก็เอามาให้เพื่อนๆได้อ่านก่อน เพราะว่าเราเริ่มพิมพ์ไม่ทันแล้ว ตอนที่ 7 เรายังไม่ได้เริ่มเลยสักนิดหนึ่งจึงพยายามที่จะรีบพิมพ์ให้จบอย่างเร็วมากๆเลยล่ะ บางทีเพื่อนๆอ่านแล้วอาจจะรู้เลยก็ได้นะว่าเราเร่งที่จะพิมพ์มันมากแค่ไหน
ปล.เรื่องนี้มีการเปลี่ยนแปลงค่ะ เรื่องนี้มีคนตาย 3 คนค่ะ
ความคิดเห็น