คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตำแหน่งในโนเร็คทาวน์
...เจ้ากลุ่มคนพวกนี้จะเป็นกลุ่มคนที่ให้มาทดสอบด้วยอีกหรือเปล่าล่ะเนี่ย!!!!...
“ไม่ต้องมองแบบนั้นก็ได้ พวกเราไม่ทำอะไรพวกเธอหรอก”หนึ่งในกลุ่มคนนั้นพูดเมื่อพูดจบก็หัวเราะกันยกกลุ่มแต่ชายหนุ่มพวกแซ็คกลับไม่ตลกด้วยแถมยังทำท่าเครียดเพิ่มไปอีก
“พวกคุณเป็นใคร ใช่กลุ่มคนที่มาทดสอบอีกหรือเปล่า”เมเลนเอ่ยปากถามขึ้นด้วยความสงสัยแต่ในใจก็เตรียมพร้อมที่จะสู้ถ้าคำตอบคือใช่ กลุ่มคนปริศนาพวกนั้นยิ้มก่อนจะพูดว่า
“เปล่า...”พร้อมกับหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งเดินออกมาจากกลุ่มนั้นพร้อมกับพูดว่า
“ฉันชื่อนาชา เบเกนี่ เป็นรุ่นพี่หอขาวปีที่ 3 ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“แล้วพวกพี่ๆมาที่ทำไมค่ะ”ซาราซ่าถามขึ้นพลางกวาดสายตาสำรวจพวกพี่ๆกลุ่มนั้นทุกคนด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจ
“ใครจะไปดีเหมือนน้องๆที่บังเอิญมาเจอกันแล้วก็ช่วยกันเลยนะครับ”ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อเห็นสายตาไม่ไว้วางใจของซาราซ่า
“...”กลุ่มรุ่นน้องเงียบกันหมดไม่มีใครพูดอะไรแต่ชายหนุ่มทั้งหมดก็ยังคงปกป้องหญิงสาวทั้ง 2 ที่นั่งอยู่กับพื้นอยู่
“พวกพี่ๆนะมีหน้าที่ในการดูแลน้องๆที่ได้รับการทำการทดสอบวัดความเหมาะสมนะ”ทุกคนยังคงเงียบพร้อมกับพี่คนเดิมพูดต่อว่า
“พวกน้องๆผ่านการทดสอบความเหมาะสมกันหมดทุกคนแล้วนะ เหลือแต่ว่าใครจะรับตำแหน่งอะไร เรื่องนี้พวกน้องๆจะต้องคุยกับพวกพี่ๆก่อนนะ”
พวกแซ็คก็ยังคงเงียบไม่พูดอะไรเหมือนเคยจนรุ่นพี่คนหนึ่งทนไม่ไหวจึงพูดติดตลกทั้งๆที่ในใจไม่ได้ตลกไปด้วยเลยว่า
“พวกน้องๆเป็นใบ้ไปแล้วหรือยังไงหรือว่าใครร่ายเวทย์ใส่พวกน้องไม่ให้พูดกันห่ะ”
“หุบปากของนายซะ!!!”พวกรุ่นพี่หนึ่งในนั้นพูดขึ้นก่อนจะหันมาพูดกับพวกแซ็คว่า
“พวกพี่นะได้รับคำสั่งจากท่านเอเทเบซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์ให้มาดูแลคนที่ได้รับการทำการทดสอบความเหมาะสมของโรงเรียนและคอยมาช่วยเหลือพวกน้องๆด้วยนะ”
“เอรินเนีย...เธอมีความคิดเห็นยังไงบ้าง”แซ็คหันมาถามหญิงสาวที่ยังคงนั่งก้มหน้าอยู่ เอรินเนียนิ่งเงียบจนแซ็คสงสัยนั่งลงข้างๆหญิงสาวพลางถามว่า
“เอรินเนีย เธอยังมีสติดีอยู่หรือเปล่าเนี่ย”
เอรินเนียพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างแหบและพูดไม่ประติดประต่อว่า
“...ฉันยังมีสติอยู่...ในความคิดของฉัน...ถ้าพวกรุ่นพี่พวกนี้...เป็นรุ่นพี่...ที่ท่านผู้อำนวยการส่งมาจริง...ก็น่าจะมีอะไรมายืนยันบ้าง...เพราะดูแล้วท่านเป็นคนที่ฉลาด...น่าจะ...คาดเดาเรื่องพวกนี้ได้...”
“จริงด้วย...มีอะไรมายืนยันหรือเปล่า”เมเลนถามพลางมองหน้าพวกรุ่นพี่ที่มากัน 4 5คนส่วนแซ็คมองเอรินเนียอย่างสงสัยส่วนซาราซ่าก็ก้มหน้าลงพิงกับต้นไม้เพราะตนไม่ได้สติ สฟิเนอร์มาดูอาการของซาราซ่าในทันทีก่อนจะพูดอะไรบางอย่างกับสฟิเนอร์ ซาเลนเดอร์พยักหน้าพร้อมกับรุ่นพี่พูดว่า
“...ไม่มี แต่พวกเราเป็นรุ่นพี่ที่ท่านเอเทเบให้มาจริงๆนะ”รุ่นพี่ที่ชื่อนาชาพูดด้วยท่าทางร้อนรน เอรินเนียก็พูดขึ้นว่า
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็น่าจะรับมนตร์บทนี้ได้นะ...ปีกอัคคีปีกแห่งสายลม!!”เมื่อเอรินเนียพูดจบปีกสีแดงเพลิงขนาดใหญ่กับปีกสีเงินที่สวยงามก็ปรากฏขึ้นแล้วมุ่งไปทำลายกลุ่มคนนั้นแต่ในขณะที่ปีกทั้ง 2 ปีกนี้จะโดนกลุ่มรุ่นพี่กลุ่มนั้นพลังบางอย่างก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับปีกทั้ง 2 ก็หายไป
“เมื้อกี้มันมนตร์อะไรนะที่เอรินเนียใช้”
“มนตร์บทหนึ่งที่ใช้เพื่อพิสูจน์ของความจริงของพวกพี่เค้า...เป็นเวทย์มนตร์บทหนึ่งที่ใช้ในโรงเรียนเวทย์นี้”
“ทำไมเอรินเนียรู้ล่ะ”
“คงอ่านเจอล่ะมั้ง”แซ็คพูดจบก็หันมามองสฟิเนอร์ที่ดูแลอาการของซาราซ่าอยู่โดยมีซาเลนเดอร์คอยช่วยร่ายเวทย์รักษาให้
“ปีกของเธอไม่สามารถทำอะไรพวกฉันได้ ก็หมายความว่าสิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริง...คราวนี้จะไปกับพวกเราได้แล้วหรือยังล่ะ”แซ็คพยักหน้าพร้อมกับสฟิเนอร์อุ้มซาราซ่าที่หมดสติขึ้นและทุกคนก็พร้อมที่จะกลับหอแล้วยกเว้นเอรินเนียกับ แซ็คที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ แซ็คมองหน้าเอรินเนียที่ยังคงก้มอยู่แต่หลังพิงต้นไม้นิ่งไม่ขยับหรือพูดอะไรและ แซ็คก็พูดขึ้นว่า
“เอรินเนีย เราพิสูจน์กันแล้วนะว่าพวกรุ่นพี่นี้บริสุทธิ์ จริง...ดังนั้นเราก็ไปกันเถอะ”
เอรินเนียคงเงียบยังไม่ขยับตัว แซ็คเริ่มเข้าใจอะไรลางๆพร้อมกับทุกคนหันมามองเอรินเนียด้วยความเป็นห่วงและ แซ็คก็เอามือของตนเชยคางของหญิงสาวที่ก้มหน้าอยู่...ภาพต่อมาที่ทุกคนเห็นแล้วหัวใจแทบ
หยุดเต้นก็คือภาพของเอรินเนียหลับตานิ่งไม่ได้สติ ที่มุมปากนั้นมีรอยน้ำเลือดไหลออกมาทั่งที่ปัจจุบันก็ยังคงไม่หยุดไหลจากมุมปากของหญิงสาวนางนั้นและ...ที่ฝ่ามือของหญิงสาวมีน้ำเลือดจำนวนหนึ่งนองอยู่...ซึ่งมันเป็นจำนวนไม่น้อย ใบหน้าที่ใครๆก็บอกว่าสวยนั้นซีดขาวราวกับไม่มีชีวิต...เมื่อแซ็คเห็นถึงกับอึ้งไปชั่วขณะก่อนที่จะรีบอุ้มหญิงสาวในทันทีพร้อมกับรุ่นพี่สาวคนหนึ่งบอกว่า
“รีบพาไปที่ห้องพยาบาลเร็ว!!” เมื่อรุ่นพี่คนนั้นพูดจบแซ็คก็รีบวิ่งไปที่ห้องพยาบาลในทันทีโดยมีสฟิเนอร์ที่อุ้มซาราซ่าวิ่งตามไปและตามด้วยซาเลนเดอร์และเมเลน...
--ห้องพยาบาล--
ร่างของผู้คนที่ล่วงหน้ามาก่อนอยู่ที่หน้าห้องนี้โดยในห้องพยาบาลนั้นมีมาสเตอร์คนหนึ่งคอยดูแลร่างของหญิงสาวทั้ง 2 ที่นอนบนเตียงอยู่ พร้อมกับร่างของชายหนุ่ม 2คนกำลังวิ่งตรงมาที่นี้เหมือนกันเมื่อมาถึงก็รีบถามด้วยความเป็นห่วงในทันทีว่า
“สฟิเนอร์ เอรินเนียกับซาราซ่าเป็นอย่างไงบ้าง”สฟิเนอร์หันมามองแซ็ค ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆตนก่อนจะบอกว่า
“ซาราซ่าอาการนั้นไม่หนักมากแต่เอรินเนีย...”สฟิเนอร์หยุดพูดแค่นั้นทำให้ซาเลนเดอร์และคนอื่นๆร้อนใจในทันที
“ทำไม สฟิเนอร์เอรินเนียเป็นอะไรมากไหมบอกมาสิ” สฟิเนอร์นิ่งเงียบไปก่อนจะพูดว่า
“ถามแซ็คเอาเองล่ะกัน”เมื่อ สฟิเนอร์พูดจบทุกคนก็หันมาหาแซ็คในทันที ท่าทางของแซ็คสงบนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ความจริงแล้วเป็นห่วงเอรินเนียมากแซ็ค สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูดว่า
“...อาการของเอรินเนียหนักมากเพราะว่าใช้พลังเวทย์ในการร่ายเวทย์ไปเยอะและแต่ละเวทย์ก็เป็นเวทย์ที่ใช้พลังเวทย์สูงมากบางครั้งต้องใช้พลังชีวิตของช่วยในการร่ายแถมเอรินเนียยัง...”
“อะไรแซ็คเอรินเนียทำอะไร”แซ็คส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า
“เปล่า...ไม่มีอะไร”เมื่อแซ็ค พูดจบทุกคนก็ต่างยืนนิ่งพยายามภาวนาว่าทั้ง 2 สาวไม่เป็นอะไร ด้านสฟิเนอร์ต่างรู้ดีว่าการทำลายเวทย์ลวงตานั้นเป็นเวทย์ที่ใช้พลังเวทย์ของผู้ร่ายค่อนข้างสูงและการทำลายเวทย์ลวงตานี้ส่วนใหญ่พวกผู้ชายจะใช้เวทย์อื่นมาทำลายเวทย์ลวงตานั้นแต่พวกผู้หญิงไม่ใช่ พวกผู้หญิงจะใช้
พลังเวทย์ของตนเป็นตัวการทำลายเวทย์ลวงตานั้น ดังนั้นพลังเวทย์ของผู้หญิงจึงมีมากกว่าพลังเวทย์ของผู้ชายแต่ว่า...การที่จะใช้พลังเวทย์ในตัวนั้นเป็นการเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงมากแต่ทั้ง 2 คนก็ต้องใช้...ถ้า 2 คนนั้นเป็นอะไรไปพวกเค้าจะทำอย่างไงดี...ด้านซาเลนเดอร์กำลังแค้นใจปากของตัวเองอย่างมาก เพราะชายหนุ่มรู้ตั้งแต่หญิงสาวที่ชื่อว่าเอรินเนียนั้นถามซาราซ่าแล้วว่าซาราซ่าสามารถทำลายเวทย์ลวงตานี้ได้หรือเปล่าเค้าก็พอจะรูแล้วว่าหญิงสาวคิดอะไรและเค้าก็ยิ่งแน่ใจขึ้นไปอีกเมื่อหญิงสาวหัน
มาถามพวกเค้าว่ามีเครื่องดนตรีประจำตัวกันบ้างไหม ด้วยความปากหนักของเค้าทำให้หญิงสาวทั้ง 2 ต้องได้รับบาดเจ็บถ้าเค้ายอมเปิดปากพูดไปว่าให้ใช้เวทย์ทำลายล้างกับเวทย์ลวงตานี้ล่ะก็ ไม่มีทางที่หญิงสาวจะมีอาการหนักขนาดนี้และหญิงสาวก็ไม่ต้องใช้พลังเวทย์มากขนาดนี้ หญิงสาวทั้ง 2 คิดจะปกป้องพวกเค้าไม่ให้หลุดอยู่แต่เวทย์ลวงตานี้ทั้งๆที่ความจริงทิ้งพวกเค้าไว้ให้หาทางออกไปเองก็ยังได้ แต่หญิงสาว
ทั้ง 2 ไม่ทำแถมยัง...ซาเลนเดอร์คิดอย่างเศร้าใจก่อนจะพูดกับตัวเองในใจอย่างหนักแน่นว่า ถ้าหญิงสาวเป็นอะไรไป เค้าจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย...ด้านเมเลนกำลังกังวลอย่างหนักว่าหญิงสาวทั้ง 2 จะเป็นอะไร
ไปเพราะว่าตัวเองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้น ถ้าหญิงสาวเป็นอะไรไปล่ะก็เค้าคงรู้สึกผิดไปจนตายแน่ๆที่ต้องหญิงสาวมาปกป้องแถมยังฆ่าหญิงสาวทางอ้อมอีกด้วย...ด้านแซ็คกำลังกระวนกระวายใจเป็นอย่างมากที่
หญิงสาวได้รับบาดเจ็บพลางนึกบ่นหญิงสาวในใจว่า ทำอะไรไม่เข้าเรื่อง รู้ว่ามันเปลืองพลังเวทย์ก็จะใช้เวทย์ที่สูงอีกแถมยังทำอะไรก็ไม่คิดจะบอกคนอื่นอยากทำอะไรก็ทำไม่เคยนึกถึงคนอื่นเลยว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไงถ้าหญิงสาวเป็นอะไรไปเค้าจะทำอย่างไงทั้งๆที่ตัดสินใจจะปกป้องหญิงสาวและดูแลหญิงสาวแต่สิ่งที่หญิงสาวทำกลับทำให้เค้าคิดมากและกังวลใจเป็นที่สุด...แซ็คถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะพูด
ในใจพลางยิ้มน้อยๆว่า นิสัยเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด เสี่ยงไม่เข้าเรื่องทุกที แต่ทำอย่างไงนะก็หญิงสาวคนนี้ก็คือเอรินเนียนี่...เพียงสักพักก็มีคนๆหนึ่งเดินตรงมาที่นี่พลางถามว่า
“เอรินเนียกับซาราซ่าเป็นอย่างไงบ้าง”
“ซาราซ่าปลอดภัยดีครับแต่ว่าเอรินเนียนั้นอาการหนักพอสมควร”
“อย่างนั้นหรอ เราไปบอกท่าผู้อำนวยการแล้วนะ ท่านอำนวยการบอกว่า เดี๋ยวจะมาขอโทษทีหลังที่ทำให้เอรินเนียกับซาราซ่าเป็นแบบนี้”เมื่อรุ่นพี่คนนั้นพูดจบแซ็คก็ส่ายหน้าและพูดว่า
“ไม่ต้องหรอกครับ...มันไม่ใช่ความผิดของท่านผู้อำนวยการหรอกครับ ดังนั้นก็ไม่ต้องมาขอโทษพวกผมหรอกครับเพราะมันเป็นการทดสอบที่ช่วยไม่ได้...และผมก็คิดว่าเอรินเนียก็คงคิดเช่นเดียวกับผมเหมือนกัน”
“ขอบคุณนะ...”
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมหรอกครับ เพราะผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นเอาซะเลยที่ท่านผู้อำนวยการมาขอโทษพวกเราที่เป็นนักเรียนของท่าน คิดเหมือนกันไหม”แซ็ค พูดพลางหันมาถามคนอื่น ทุกคนพยักหน้าก่อนที่รุ่นพี่คนนั้นจะส่งยิ้มมาให้ทุกคน
“ขอแนะนำตัวหน่อยนะ ฉันชื่อแจ๊ค อาเรสก้าเป็นรุ่นพี่หอขาวของพวกเธอเหมือนกัน”เมื่อแจ็คแนะนำตัวเสร็จทุกคนก็แนะนำตัวและพูดคุยกันบ้างเป็นบางครั้ง...เวลาผ่านไปได้สักพัก มาสเตอร์ก็ออกมานอกห้องพยาบาลพลางบอกว่า
“เอรินเนีย ปลอดภัยแล้ว พลังเวทย์ในตัวส่วนใหญ่จะเริ่มทยอยฟื้นคืนมาแล้วล่ะ คาดว่าตอนเย็นๆก็คงจะหายดังนั้นห้ามพวกเธอมารบกวนคนป่วยนะ ส่วนซาราซ่าอีกสักพักก็คงจะฟื้นแล้วก็ต้องดูอีกทีว่าจะให้พักต่อหรือว่าไปทำอย่างอื่นได้เลย...”
“ขอบคุณมากครับ มาสเตอร์”ทุกคนพูดขอบคุณมาสเตอร์ด้วยความยินดี+ดีใจที่เอรินเนียและซาราซ่าไม่เป็นอะไรไป
“เอ่อ...มาสเตอร์ครับ คือว่าทั้ง 2 คนนั้นทำการทดสอบวัดความเหมาะสมนะครับแล้วเย็นวันนี้ถ้า 2 คนนั้นฟื้นทันก็คงจะมีการประชุมกันเรื่องตำแน่งของหอขาวนะครับ เพราะว่าพรุ่งนี้ก็จะมีนักเรียนมาที่นี่กันครบหมดทุกคนแล้วนะครับ...จะเป็นการรบกวนมาสเตอร์ไหมครับถ้าจะให้ช่วยบอก 2 คนนั้นตอนที่ฟื้นขึ้นว่า ให้ไปที่ห้อองนั่งเล่นรวมของหอขาว (ชั้น6) ด้วยนะครับ”มาสเตอร์คนนั้นส่ายหน้าก่อนจะบอกว่า
“ไม่รบกวนหรอก เดี๋ยวฉันจะบอกให้ ตอนนี้ก็รีบไปพักผ่อนกันซะเถอะแล้วห้ามรบกวนคนไข้ด้วยนะ”
“ครับ มาสเตอร์”ทุกคนรับคำพร้อมกับเดินแยกย้ายกลับห้องพักไป
--ห้องนั่งเล่นรวมของหอขาว - -
ร่างของชายหนุ่มทั้ง 4 คนต่างนั่งแยกย้ายกระจายกันอยู่ภายในห้อง ชายหนุ่มที่มีผมสีดำสนิทแต่ตาสีแดงที่ดูแล้วน่าจะสดใสแต่ความจริงแล้วดวงตาสีแดงนั้นมีแต่ความลึกลับที่ซ่อนเร้นเต็มไปหมดนั้นกำลังนั่งบน
โซฟาสีขาวพลางมองสิ่งของต่างๆรอบห้องอย่างเหม่อลอย...ชายหนุ่มผมสีม่วงอ่อนที่ดูสดใส ดวงตาสีฟ้าอ่อนที่ออกจะไปทางสีน้ำเงินนั้นกำลังยืนมองดูบางอย่างจากทางหน้าต่างบานหนึ่งในห้องด้วยความสงบนิ่ง...ชายหนุ่มที่มีผมสีแดงและตาสีแดงที่ดูแล้วเป็นคนที่ค่อนข้างจะเปิดเผยนั้นน่าจะเป็นคนที่สามารถร่าเริงสดใสได้ทุกทีและทุกสถานการณ์กำลังมองดูสิ่งของที่อยู่ใกล้ตัวของตนอย่างสนอกสนใจ...ชายหนุ่มผม
สีน้ำตาลและตาสีน้ำตาลที่เรียบเฉยได้ทุกสถานการณ์นั้นกำลังนั่งบนโซฟาตัวหนึ่งที่มีหน้าต่างอยู่ไม่ใกล้จากตัวนักพลางมองที่หน้าต่างอย่างสงบนิ่ง...ทุกคนต่างมานั่งรอรวมตัวกันมาเพื่อที่จะรอพบร่างของหญิงสาวทั้ง 2 และรุ่นพี่ที่จะมาคอยดูแลพวกเค้าความเงียบปกคลุมบริเวณนี้ได้สักพักเสียงของชายหนุ่มผมสีแดงที่เลิกสนใจสิ่งของที่อยู่ใกล้ๆตนก็หันมาถามคนที่นั่งอยู่ในห้องทั้งหมดว่า
“คิดว่าเอรินเนียกับซาราซ่าฟื้นแล้วหรือยัง”เสียงถอนหายใจของชายหนุ่มผมสีม่วงดังขึ้นก่อนจะพูดว่า
“นายถามใครล่ะ เมเลน พวกเราทุกคนนั่งอยู่ด้วยกันตลอดเวลา”
“ก็แค่อยากรู้ความคิดเห็นของทุกๆคนนะ นายคิดว่ายังไง สฟิเนอร์”
เมเลนหันไปถามชายหนุ่มผมสีดำที่นั่งไม่ห่างจากตนสักเท่าไหร่
“ไม่รู้สิ...”
ชายหนุ่มผมสีดำตอบก่อนจะนั่งเหม่อลอยตามเดิมเมเลนหันไปหาชายหนุ่มผมสีน้ำตาลและดูเหมือนว่าชายหนุ่มคนนั้นจะรู้คำถามเลยส่งคำตอบทางสายตาและพูดว่า
“ไม่รู้...”
ความเงียบเข้าครอบคลุมพื้นที่บริเวณนี้อีกครั้งหนึ่งเพียงสักพักเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นเรียกความสนใจของชายหนุ่ม 3 ใน 4 ได้ในทันทีพร้อมกับร่างของคน 2 คนก็มาปรากฏให้เห็นในสายตาพร้อมกับเดินเข้ามาพลางปิดประตูและเดินมานั่งที่ๆยังว่างอยู่
“ไง เอรินเนียกับซาราซ่ายังไม่มาอีกหรอ”ทุกคนนิ่งเงียบก่อนที่หญิงสาวอีกคนหนึ่งจะพูดว่า
“ขอโทษนะที่ทำให้เอรินเนียและซาราซ่าต้องรับบาดเจ็บ”
“พวกผมก็ไม่ได้คิดว่าเป็นความผิดของพวกพี่ซะหน่อยครับ พี่นาชา”ซาเลนเดอร์พูดพลางยักไหล่อย่างไม่สนใจ
“แล้วทำไมพวกพี่ๆถึงมากันแค่ 2 คนล่ะครับ พี่แจ็ค พี่นาชา”
“พวกพี่ 2 คนเป็นคนที่จะมาดูแลพวกเธอเหล่าคณะกรรมการนักเรียนของหอขาวนะ”แจ็ค รุ่นพี่หนุ่มที่ร่าเริงสดใสได้ทุกเวลากำลังส่งยิ้มมาให้ทุกคนในห้องด้วยความยินดี
“แล้วยังมีตำแหน่งหัวหน้าหอ ผู้ช่วยหัวหน้า หัวหน้าห้องด้วยนะ”นาชาพูดเสริมพลางมองทุกคนด้วยรอยยิ้มที่สดใสและจริงใจ พร้อมกับเมเลนถามพวกรุ่นพี่ทั้ง 2 ว่า
“แล้วต้องทำหน้าที่อะไรบางล่ะครับ”
“หัวหน้าหอก็มีหน้าที่ดูแลความประพฤติของคนภายในหอส่วนผู้ช่วยหัวหน้าหอก็มีหน้าที่เป็นผู้ช่วยของหัวหน้าหอ 2 คนนี้จะทำงานด้วยกันเยอะมากเลยนะ ดังนั้น 2 คนนี้จะต้องเข้าใจอีกฝ่ายได้ดีเพื่อที่จะทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพส่วนหัวหน้าห้องก็มีหน้าที่ดูแลคนของห้องตัวเองจะเป็นการช่วยดูแลคนในหอกับหัวหน้าหอด้วยยังไงล่ะ”
“แต่ว่านักเรียนชั้นปีที่ 1มี 2 ห้องไม่ใช่หรอครับแล้วยังนี้ก็ไม่ต้องมี 2 คนหรอครับ”
“ก็ต้องมี 2 คนและทำหน้าที่ร่วมกัน”
“แล้วคนที่เหลือล่ะครับ”สฟิเนอร์ถามขึ้นด้วยความสุภาพดวงตาสงบนิ่งราวกับสายน้ำ มองดูคนทั้ง 2 อย่างเยือกเย็น ท่าทางของสฟิเนอร์ทำให้แจ็คลอบชื่นชมในใจก่อนจะตอบว่า
“ก็เป็นคณะกรรมการนักเรียนไงล่ะ”
“แล้วพวกที่เป็นหัวหน้าหอหรืออะไรพวกนี้ไม่ต้องเป็นคณะกรรมการนักเรียนหรอครับ”เมเลนยังคงถามต่อไปเรื่อยๆด้วยความสงสัย...ทั้งที่ตนเองไม่ค่อยชอบถามคนอื่นมากนักแต่ไม่รู้เพราะอะไรวันนี้ ตอนนี้ เค้าดูพูดมากเป็นพิเศษ สงสัยติดนิสัยยัยฟรีย่ามาล่ะมั้ง เมเลนนึกอย่างตลกๆในใจ
“เปล่า...ต้องเป็นทุกคนที่ได้รับการทดสอบวัดความเหมาะสม”
“แล้วจะให้ใครรับตำแหน่งอะไร”แซ็ค ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“เรื่องนี้ล่ะที่เป็นปัญหาอยู่ที่ว่าใครจะรับตำแหน่งอะไร”
“เอาอย่างนี้ดีกว่าไหม รอ 2 สาวให้มาถึงที่นี่ก่อนดีกว่าแล้วคอยมาตัดสินอีกที”
ทุกคนพยักหน้าอย่างตกลง เพียงสักพักเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ทุกคนหันไปมองภาพของหญิงสาวทั้ง 2 เดินตรงเข้ามาพลางพูดทักทายว่า
“สวัสดี ทุกๆคนไม่เจอกันหลายชั่วโมงยังคงหน้าตาหล่อเหลาเหมือนเดิมอีกนะ” ทุกคนมอง 2 สาวอย่างตกใจพร้อมกับทั้ง 2 สาวหัวเราะก่อนจะเดินมาหาที่นั่งพร้อมกับซาเลนเดอร์ถามเอรินเนียด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงว่า
“เอรินเนีย เธอไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม”เอรินเนียยิ้มก่อนจะพูดว่า
“จ๊ะ ต้องขอบคุณแซ็คนะที่รู้ตัวเร็วว่าฉันไม่ได้สติเพราะถ้าช้ากว่านี้ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าจะรอดหรือเปล่าเลย”
“ทำไมเธอถึงพูดอย่างนั้นล่ะ เอรินเนีย ไม่ดีรู้ไหม”เอรินเนียยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า
“จ๊ะ แล้วซาราซ่าล่ะเป็นอย่างไงบ้าง”
“ก็สบายดีไม่ต้องห่วง”เอรินเนียยิ้มก่อนจะหันมาทำความเคารพรุ่นพี่ทั้ง 2 ก่อนที่ถามด้วยรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากว่า
“การประชุมครั้งนี้ไปถึงไหนแล้วล่ะ หวังว่าพวกนายคงไม่บังคับให้ฉันทำหน้าที่อะไรมากมายหรอกนะ”ทุกคนนิ่งเงียบพร้อมกับพี่นาชาอธิบายหน้าที่ของตำแหน่งต่างๆให้ทั้ง 2 สาวที่มาใหม่ฟัง เอรินเนียกับซาราซ่ามองหน้าก่อนจะปรึกษาอะไรเล็กน้อย ซาราซ่าทำท่าลังเลแต่ก็เห็นด้วยกับความคิดของเอรินเนียจึงได้แต่
จำใจพยักหน้าบอกให้เอรินเนียพูดออกไปได้เลย เอรินเนียทำท่านิ่งคิดนิดหนึ่งก่อนจะพูดว่า
“ฉันมีความคิดดีๆที่จะเสนอตำแหน่งหัวหน้าห้องทั้ง 2 ล่ะว่ามีใครเหมาะสมส่วนตำแหน่งอื่นๆก็ลองคิดดูเอาเองล่ะกันนะ ว่าไง คิดจะลองฟังความคิดเห็นของฉันหน่อยไหม”ทุกคนมองหน้ากันก่อนที่ซาเลนเดอร์จะพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“ปฏิเสธได้หรอ ความคิดนี้”เอรินเนียยิ้มและพูดว่า
“ฉันคิดว่าฉันจะขอเสนอชื่อ สฟิเนอร์เป็นหัวหน้าห้องที่ 1 ส่วนซาราซ่าเป็นหัวหน้าห้องที่ 2 ฉันว่ามันน่าจะเป็นความคิดที่ดีนะเพราะว่า สฟิเนอร์เป็นชายหนุ่ม ส่วนซาราซ่าเป็นหญิงสาว น่าจะมีความคิดเห็นมีขัดกันและเหมือนกันดังนั้นน่าจะมีประโยชน์อยู่บ้าง ทุกคนคิดว่าดีไหม”ทุกคนทำท่านึกก่อนจะหันมายัง 1
ชายและ 1หญิงที่โดนเสนอชื่อรับตำแหน่งนี้ ซาราซ่าพยักหน้าอย่างจำยอมพร้อมกับรุ่นพี่แจ็ค พูดออกมาว่า
“ดีเลย น่าจะดีนะ สฟิเนอร์ อาร์ทแกลล์ เป็นเจ้าชายของเมืองแห่งแสงน่าจะลองรับตำแหน่งนี้เพื่อเป็นแนวทางการก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้านะ”
เมื่อรุ่นพี่แจ็คพูดจบคนในที่นั้นก็ตกใจในทันทีเมื่อได้รับรู้ฐานะที่แท้จริงของสฟิเนอร์พากันนิ่งไปยกใหญ่ก่อนที่เมเลนจะถามเอรินเนียว่า
“เอรินเนีย เธอดูเหมือนไม่ตกใจเลยนะเมื่อรู้ฐานะจริงของสฟิเนอร์”เอรินเนียทำหน้านิ่งเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า
“ก็ไม่เห็นมีเรื่องอะไรที่น่าตกใจนี่ เพราะว่าฉันรู้อยู่แล้ว”
“เอ๋”ทุกคนทำท่าสงสัยเอรินเนียพร้อมกับพี่นาชาพูดว่า
“แต่ว่าที่เอรินเนียไม่ตกใจก็หมายความว่ามีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์สินะ”
“...ก็นิดหน่อย”เอรินเนียพูดอย่างไม่สนใจมากนักก่อนจะพูดหันเหความสนใจของทุกคนว่า
“แล้วจะให้ใครเป็นหัวหน้าหอกับผู้ช่วยหัวหน้าหอล่ะ”
“ให้แซ็คเป็นล่ะกัน ฝีมือดีมากเลยนะ แซ็คนะ”
“ถ้าอย่างนั้นให้เอรินเนียเป็นผู้ช่วยหัวหน้าหอดีไหม”แซ็คเสนอขึ้นซึ่งนานๆครั้งจะพูดออกมาที
“เห็นด้วยๆ”ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของแซ็ค มีแต่เจ้าตัวที่โดนเสนอชื่อเท่านั้นทีทำท่าไม่เห็นด้วยก่อนจะประท้วงออกมา
“ไม่เอา ฉันไม่เป็นผู้ช่วยหัวหน้าหอ”
“งันเธอเป็นหัวหน้าหอไหมล่ะ”แซ็คถามพร้อมกับน้ำเสียงที่อมยิ้มเล็กน้อย
“ก็ได้...ฉันเป็นผู้ช่วยหัวหน้าหอก็ได้”เอรินเนียพูดด้วยท่าทางที่กำลังพยายามทำใจยอมรับ
“ดี งั้นแซ็คกับเอรินเนียก็ต้องมาเรียนเวทย์ของหัวหน้าหอกับผู้ช่วยหัวหน้าหอด้วยนะ”ทุกคนทำหน้าสงสัยก่อนที่เมเลนจะถามว่า
“หัวหน้าหอกับผู้ช่วยหัวหน้าหอต้องเรียนเวทย์ก่อนที่จะเป็นหัวหน้าหอและผู้ช่วยหัวหน้าหออีกหรอครับ”
“ใช่สิ เพื่อที่ว่ามีเหตุฉุกเฉินอะไรจะได้ใช้เวทย์นี้กับทุกคนในหอขาวได้ไงล่ะ”เอรินเนียและแซ็คถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจก่อนที่จะพยักหน้าและเดินไปกับรุ่นพี่ที่พาไปฝึกเวทย์...
ร่างของชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องพักของตนก็เจอกันสายตาอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนร่วมหน้าที่พร้อมกับชายหนุ่มที่ร่าเริงสดใสได้ตลอดเวลาก็ถามด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงสนุกสนานประจำตัวว่า
“ไง แซ็ค ฝึกเวทย์หัวหน้าหอเป็นอย่างไงบ้าง เห็นว่าเมื่อคืนกลับกันดึกๆนี่”แซ็คยักไหล่อย่างไม่สนใจอะไรก่อนที่จะเดินไปหน้าห้องของหญิงสาวที่ฝึกเวทย์ด้วยกันเมื่อคืน แซ็คเอามือทาบกับประตูก่อนจะพูดชื่อตัวเองว่า
“แซคคาเรีย ซิเรียเบล”เมื่อแซ็คพูดจบร่าวของแซ็คก็หายเข้าไปเมื่อแซ็คเข้าไปแล้ว แซ็คเข้ามาถึงในห้องของหญิงสาวก็เห็นร่างของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงพร้อมกับตนเดินเข้าไปหาหญิงสาวพลางพูดว่า
“เอรินเนีย เธอควรจะตื่นได้แล้วนะ”ร่างของหญิงสาวขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า
“แซ็ค หรอ...”เอรินเนียขยับตัวพลางหันมามองแซ็ค แซ็คเดินมานั่งข้างๆเตียงพร้อมกับถามว่า
“เธอ...ไม่สบายหรือเปล่า”หญิงสาวไม่พูดอะไรเพียงแต่ดีดนิ้วหนึ่งครั้งกระดาษแผ่นหนึ่งก็มาอยู่หน้าแซ็ค แซ็คหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาพร้อมกับหญิงสาวพูดว่า
“ฝากลามาสเตอร์ให้ด้วยล่ะกันนะ ว่าฉันไม่สบาย”แซ็คมองหน้าเอรินเนียก่อนจะพยักหน้าพลางถามว่า
“ไม่เป็นไรมากใช่ไหม”หญิงสาวยิ้มเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าเป็นทำนองว่า “ไม่เป็นไร”แซ็คพยักหน้าอีกครั้งก่อนที่จะลุกขึ้นและพูดก่อนที่จะเดินออกไปว่า
“วันนี้ อย่าลืมไปหารุ่นพี่ด้วยล่ะ เพราะรุ่นพี่คงไม่เห็นดีนักที่เธอจะหยุดฝึกเวทย์”
เอรินเนียพยักหน้าพร้อมกับแซ็คเปิดประตูและเดินออกไป เสียงประตูปิดดังขึ้นพร้อมกับร่างของหญิงสาวที่นอนอยู่ลืมตาขึ้นพร้อมกับดีดนิ้วหนึ่งครั้งและหลับไป...
ร่างของชายหนุ่มออกมาจากห้องของหญิงสาวเพียงคนเดียวสร้างความแปลกใจให้กับกลุ่มคนที่ยืนรออยู่พร้อมกับชายหนุ่มที่เดินออกมาเหมือนจะรู้คำถามของเพื่อนๆดีจึงรีบตอบไปก่อนว่า
“เอรินเนีย ไม่ค่อยสบาย ลาท่านเอเทเบแล้ว”ทุกคนพยักหน้าเหมือนรับรู้ก่อนที่เมเลนจะพูดขึ้นว่า
“เรารีบไปหามาสเตอร์กันเถอะ”ทุกคนพยักหน้าอีกครั้งพร้อมกับเดินออกไป
- - ห้องเรียน - - (ชั้น 1)
ร่างของผู้คนมากมายต่างนั่งกันอยู่ในห้องนี้ นักเรียนของหอขาวชั้นปีที่ 1ต่างมารวมตัวกันที่นี่เพื่อพบมาสเตอร์ที่จะดูแลตน เพียงสักพักร่างของมาสเตอร์ก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับความเงียบในทันที มาสเตอร์คนนั้นส่งยิ้มให้ทุกคนพลางพูดว่า
“สวัสดี นักเรียนโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์ของหอขาวทุกๆคน ฉันจะเป็นมาสเตอร์ประจำหอขาวนะ ชื่อเชอร์รี่ เอริเอริ์ธ มาจากเกนาดอน*จ๊ะ อีก 3วันก็จะเปิดเรียนแล้วนะ ตั้งใจเรียนกันด้วยนะชาวหอขาวทั้งหลายเพราะว่าถ้าหอขาวมีคะแนนและความประพฤติไม่ดีจะถูกสั่งให้ไปทำภารกิจที่เสี่ยงตายที่อื่นแทน และรู้สึกว่าพวกรุ่นพี่ของพวกเธอบอกมาสเตอร์ว่าหอขาวเราสามารถกำหนดตำแหน่งของหัวหน้าหอได้
แล้วจึงอยากให้คนที่มีตำแหน่งคณะกรรมการนักเรียน หัวหน้าและผู้ช่วยอออกมาแนะนำตัวให้เป็นที่รู้จักกันด้วยนะเพราะว่าถ้าพวกเธอทำผิดต่อหน้ากลุ่มคนกลุ่มนี้ล่ะก็พวกเธอมีสิทธิ์โดนลงโทษรุนแรงจากคนกลุ่มนี้ได้นะ ซึ่งการลงโทษรุนแรงที่สุดก็คือการพักการเรียน แต่ก็ไม่รู้ว่าปีนี้จะมีการลงโทษรุนแรงที่สุดคืออะไรซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับเพื่อนของพวกเธอแล้วล่ะ”
มาสเตอร์เชอร์รี่พูดพลางส่งยิ้มให้ทุกคน เชอร์รี่ดีดนิ้วหนึ่งครั้งกระดาษแผ่นหนึ่งมาอยู่ตรงหน้าพลางพูดว่า“แซคคาเรีย ซิเรียเบล หัวหน้าหอ”แซ็คลุกขึ้นยืนพลางทำความเคารพมาสเตอร์เพียงสักพักก็นั่งลง
“เอรินเนีย เสเวเลซ ผู้ช่วยหัวหน้าหอ”ทุกคนนิ่งเงียบพลางมองหาร่างของเอรินเนียแต่ก็ไม่มีแม้แต่วี่แวว แซ็ค นิ่งเงียบสักพักก็ลุกขึ้นพลางพูดว่า
“เอรินเนียไม่ค่อยสบายครับ ฝากผมมาลามาสเตอร์ให้พร้อมกับนำจดหมายอนุญาตของท่านผู้อำนวยการให้หยุดพักมาด้วยครับ”เมื่อแซ็ต พูดจบกระดาษแผ่นหนึ่งก็ลอยไปหามาสเตอร์เชอร์รี่ในทันที เชอร์รี่ยิ้มก่อนจะรับมาพร้อมกับพูดว่า
“วันนี้ยังไม่ถือว่ามีการเรียนการสอนความจริงเธอไม่ต้องนำจดหมายอนุญาตของท่านผู้อำนวยการมาก็ได้นะ...แต่ว่าเอรินเนียไม่ค่อยสบายเพราะว่ารุ่นพี่เคี่ยวหนักตั้งแต่วันแรกเลยสินะ ใช่ไหม”แซ็คพยักหน้าพร้อมกับนั่งลงและเชอร์รี่ก็พูดต่อว่า
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันถือว่ามันเป็นหน้าที่ก็แล้วกัน เอาล่ะ คนต่อไป...”
**จบ**
ตอนนี้ก็จบลงแล้ว จบลงแบบตัดๆยังไงก็ไม่รู้ รู้สึกว่าการที่เราพิมพ์แก้ไขใหม่จะมีเนื้อเรื่องส่วนใหญ่ที่เปลี่ยนไปแต่ว่าก็ยังคงมีเนื้อเรื่องส่วนเก่ามาผสมแฝงอยู่ดี ตอนต่อไปก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะเหมือนกันนะ ลองอ่านดูแล้วกัน แต่ว่ามันก็มีบางส่วนที่ยังคงเหมือนเดิม
ความคิดเห็น