คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทสนทนาของคน 2คน
ท่ามกลางบรรยากาศที่สบายๆของวันนี้ นักเรียนโนเร็คทาวน์จำนวนมากต่างนั่งทำงานกันอยู่ที่นี่เพื่อสะสางงานที่มาสเตอร์ทั้งหลายได้สั่งวันซึ่งไม่เว้นแม้กระทั่งพวกที่เป็นคณะกรรมการนักเรียนต่างก็นั่งทำงานที่ห้องพักของคณะกรรมการนักเรียนด้วยท่าทางที่สงบและเคร่งเครียดพอสมควร เสียงกระดิ่งจากห้องของหญิงสาวผมสีทองดังขึ้นพร้อมกับหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของเงยหน้าขึ้นจากงานที่ตนทำมองที่ประตูเหมือนกับรอใครสักคน...ซึ่งปฏิกิริยานี้ตกอยู่ในสายตาของชายหนุ่มที่นามว่า
แซ็ค แต่เจ้าตัวก็ไม่คิดที่จะพูดอะไรจนกระทั่งหญิงสาวมองที่ประตูได้สักพักหนึ่ง เสียงจึงออกจากปากของชายหนุ่มที่เห็นท่าทางนั้นพร้อมกับ แซ็คหันมาถามหญิงสาวโดยเรียกสายตาของคนที่เหลือให้หันมามองที่หญิงสาวด้วยความสงสัยในทันที
“มีอะไรหรือเปล่า เอรินเนีย ฉันเห็นเธอมองประตูเข้าห้องคณะกรรมการนักเรียนนานแล้วนะ”เอรินเนียหันมามองใบหน้าของแซ็ค ก่อนจะพูดด้วยท่าทางที่นิ่งๆว่า
“เปล่า...ไม่มีอะไร”เมื่อหญิงสาวพูดจบก็ทำท่าจะทำงานของตนต่อแต่ไม่ทันที่หญิงสาวจะได้ทำงานของตนต่อนั้น เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างของคน 2 คนเดินตรงเข้ามาหาในทันที ร่างสูงของชายหนุ่มเดินเข้ามาพลางหาที่นั่งแล้วก็พูดขึ้นว่า
“เหนื่อยจังเลยนะ อีกไม่กี่วันก็จะต้องส่งงานกับมาสเตอร์แล้วนะสินะ ทำไมการที่ฉันได้เป็นคณะกรรมการนักเรียนมันเหนื่อยอย่างนี้นะ”
เมเลนพูดขึ้นพลางทำท่าถอนหายใจและเหนื่อยสุดซึ่งเรียกเสียงหัวเราะของทุกคนในนั้นได้เล็กน้อย พร้อมกับร่างของหญิงสาวที่เดินเข้ามาด้วยกันหันมามองร่างหญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับพูดว่า
“เอรินเนีย...ฉันขอปรึกษาอะไรเธอหน่อยได้ไหม”น้ำเสียงและหน้าตาของหญิงสาวที่ชื่อว่าซาราซ่าดูเป็นน่าเป็นห่วงบวกหน้าเป็นกังวลใจเป็นอย่างมาก เอรินเนียมองหน้าซาราซ่าก่อนจะพยักหน้าและเดินออกไปพร้อมกัน ชายหนุ่มที่เหลือต่างฝ่ายต่างมองหน้ากัน ต่างรับรู้ความกังวลของหญิงสาวคนเมื่อกี้นี้ดีก่อนที่ต่างคนต่างตัดสินใจทำงานของตนต่อไป...
ด้านของหญิงสาว
ร่างของหญิงสาวเดินมาที่ห้องๆหนึ่งที่ลับตาคน ต่างฝ่ายต่างยืนกันอยู่คนละมุมพลางมองหน้ากันก่อนที่หญิงสาวที่นามว่าเอรินเนียจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่นิ่งๆว่า
“เกิดเรื่องที่ เทียเลียเซีย*ใช่ไหม”หญิงสาวอีกคนพยักหน้าก่อนจะพูดว่า
( *เทียเลียเซีย เมืองที่ได้ขนานนามว่า “เมืองแห่งแมกไม้”เป็นเมืองที่มีคนที่เป็นมิตรมากที่สุดและมีแมกไม้มากที่กว่าเมืองทั้งหมด)
“อื้อ...ฉันไม่รู้จะทำอย่างไงดี ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มทำอะไรจากที่ไหนดี”เอรินเนียมองหน้าของหญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตนก่อนจะพูดว่า
“จุดเริ่ม...มันจะเป็นจุดเริ่มจากตรงไหนฉันเองก็ไม่รู้หรอกนะ แต่ถ้าเป็นฉัน...ฉันจะทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดเพราะว่ายิ่งตนไปกังวลใจในเรื่องอื่นมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งทำหน้าที่ของตนได้ไม่ดีเท่านั้น...เธอเข้าใจความหมายที่ฉันจะสื่อให้เธอไหม”ซาราซ่าพยักหน้าก่อนจะพูดพลางฝืนยิ้มว่า
“ดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องง่ายๆนะ แต่ว่าพอจะทำจริงๆเมื่อไหร่ก็ทำไม่ได้สักที”เอรินเนียยิ้ม...ยิ้มแบบที่เป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนที่สุดของเธอพร้อมกับพูดว่า
“การที่เราพูดนั้นมันเป็นเรื่องง่ายๆแต่ว่าการที่เราจะทำมันเป็นเรื่องยากยิ่งกว่า ฉันจึงเข้าใจความรู้สึกของเธอดีแต่ว่า...ซาราซ่าฉันคิดว่าตอนนี้เธอควรจะวานไหว้คนอื่นในเรื่องนี้นะ เดี๋ยวฉันจะส่งสารไปให้ราชาแห่งสิเรียเนียให้ เพราะอย่างไงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนเป็นความมืดของเรา”เมื่อเอรินเนียพูดจบซาราซ่าก็ส่ายหน้าในทันทีพร้อมกับเดินมาจับมือเอรินเนียและพูดว่า
“ไม่หรอก...เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของสิเรียเนีย ต่างคนต่างก็รู้ดี”เอรินเนียส่งยิ้มให้เหมือนกับขอบใจพร้อมกับพูดว่า
“เราเข้าไปข้างในดีกว่าไหม เดี๋ยวพวกหนุ่มๆจะสงสัยเอา”ซาราซ่าพยักหน้าอย่างเห็นด้วยก่อนที่ทั้งสองจะเดินเข้าไป เมื่อทั้ง 2 เข้าไป สายตาของชายหนุ่มทั้งหมดก็หันมามองร่างของหญิงสาวทั้ง 2 ในทันที เอรินเนียกวาดสายตามองทุกคนก่อนจะไปสะดุดกับเจ้านกสีขาวตัวหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลไม่ใกล้กับ แซ็ค เมื่อเอรินเนียเห็นเจ้านกตัวนั้นแล้วก็เผลอเรียกชื่อของเจ้านกตัวนั้นด้วยความประหลาดใจว่า
“เฮรี่!!ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่!!”
เมื่อเสียงเรียกของหญิงสาวจบลง ร่างของเจ้านกสีขาวที่ดูสง่างามนั้นก็บินไปยังร่างของหญิงสาวในทันที มันเกาะที่มือของหญิงสาวก่อนจะเอาหัวถูมือของหญิงสาวด้วยท่าทางรักใคร่พร้อมกับ แซ็คพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยประหลาดใจสักนิดว่า
“สงสัยจะมาเพราะคิดถึงและเป็นห่วง...”เอรินเนียมองที่นกตัวนี้ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ยิ้มๆว่า
“คงจะเป็นอย่างนั้น...”หญิงสาวที่เป็นเจ้าของนกตัวนั้นลูบหัวเจ้านกน้อยอย่างแผ่วเบาก่อนที่จะพูดว่า
“เจ้ามาก็ดี เฮรี่ ข้ามีเรื่องจะให้เจ้าทำ”เมื่อหญิงสาวพูดจบ เจ้านกน้อยมองผู้เป็นนายด้วยความสงสัย ท่าทางของเจ้านกน้อยนั้นทำให้สฟิเนอร์และซาราซ่าหัวเราะเล็กน้อยด้วยความเอ็นดู...ดูท่าเจ้านกน้อยนั้นจะเข้าใจคำพูดของเจ้านายตัวเองนะ ดูสิทำหน้าตาหน้าสงสัยใหญ่เลย...
เจ้าของนกสีขาวที่ดูสง่างามนั้นร่ายเวทย์บางอย่างกระดาษม้วนหนึ่งมาอยู่ตรงหน้าคนร่ายพร้อมกับแสงสีน้ำเงินของหมึกก็ส่องแสงขึ้น เอรินเนียยื่นกระดาษม้วนนั้นให้กับนกพร้อมกับเจ้านกน้อยนั้นรู้งานจึงยื่นขาให้ผูกกับกระดาษม้วนนั้นพร้อมกับหญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆว่า
“นำจดหมายนี้ให้แก่ราชาแห่งสิเรียเนีย บอกว่าฉันเป็นคนเอามาให้และขอให้รีบจัดการเรื่องนี้ด้วย เข้าใจไหม”เจ้านกน้อยร้องออกมาเบาๆเหมือนกับจะบอกว่าเข้าใจพร้อมกับเจ้านกน้อยก็บินออกไปโดยมีสายตาของเจ้าของนกคอยมองส่งไปจนลับสายตา...
ร่างของหญิงสาวผมสีทองทำท่าจะเดินไปยังที่แห่งหนึ่งตกอยู่ในสายตาของชายหนุ่มตาสีเทา ชายหนุ่มจึงเดินตรงไปหาพลางเรียกหญิงสาว หญิงสาวหันมามองคนที่เรียกตนก่อนจะถามพร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยนว่า
“มีอะไรเหรอ ซาเลนเดอร์”ชายหนุ่มนิ่งเงียบเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยมั่นใจว่า
“ไปเที่ยวในเมืองกันไหม”เอรินเนียมองหน้าของคนที่ชวนตนไปเที่ยวข้างนอกอย่างแปลกใจก่อนจะส่ายหน้าพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิดว่า
“ขอโทษนะ ฉันไม่ว่างจริงๆจ๊ะ”
“ไม่เป็นไร”ซาเลนเดอร์ยิ้มให้เหมือนกับจะบอกว่าไม่เป็นไรจึงก่อนที่จะถามหญิงสาวว่า
“แล้วจะไหนหรอ”เอรินเนียยิ้มก่อนจะพูดว่า
“จะไปห้องสมุดจ๊ะ”เมื่อเอรินเนียพูดจบก็ขอตัวเดินไปที่ห้องสมุดทิ้งให้ชายหนุ่มยืนมองท้องฟ้าเป็นเวลาชั่วครู่ก่อนที่จะตัดสินใจเดินตามหญิงสาวไปห้องสมุด...
ห้องสมุด (ชั้น 2)
ร่างของชายหนุ่มเดินตรงไปหาพลางหาร่างของหญิงสาวผมสีทองจนกระทั่งเห็นร่างของหญิงสาวนั่งอ่านหนังสืออยู่ก่อนที่จะเดินไปนั่งตรงกันข้ามหญิงสาวพลางพูดว่า
“ไง อ่านเรื่องอะไรอยู่ล่ะ”เอรินเนียไม่ตอบแต่หันหน้าปกให้อีกฝ่ายดูโดยไม่มองร่างของคนที่ถามเลยสักนิดพลางหยิบอีกเล่มหนึ่งมาอยู่ข้างตนเมื่อเอรินเนียคิดว่าชายหนุ่มตรงหน้าอ่านจบแล้วจึงนำเล่มนั้นมาอ่านต่อ
“สนใจประวัติศาสตร์ของเมืองทั้งหมดอย่างนั้นหรอ”เอรินเนียพยักหน้าก่อนจะพูดว่า
“เรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองทั้งหมดมันน่าสนใจนี่ เรื่องราวบางอย่างไม่ถูกบันทึกไว้ ความจริงบางอย่างยังคงถูกปกปิดไว้ ฉันสนใจเรื่องพวกนี้จึงอยากจะศึกษาเรื่องราวพวกนี้เอาไว้ให้เยอะๆ”
“อย่างนั้นหรอ...ฉันเองก็ชักจะสนใจเรื่องพวกนี้แล้วสิ ขออ่านด้วยคนจะได้ไหม”ซาเลนเดอร์ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เอรินเนียมองคนตรงหน้าก่อนจะส่งยิ้มไปให้พร้อมกับพยักหน้าอย่างยินดีและนั่งอ่านหนังสือต่อไป มีบางครั้งบางคราวที่ร่างของหญิงสาวและชายหนุ่มเดินไปที่ชั้นหนังสือเพื่อเปลี่ยนเล่ม ทั้งสองคนอ่านหนังสือด้วยกันเป็นเวลานานจนกระทั่งเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งก็ดังขึ้นเรียกความสนใจของคนทั้ง 2 เป็นอย่างดี ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเอรินเนียมองร่างสูงโปร่ง
ของหญิงสาวผมสีเงินกับตาสีเทามองมาที่เอรินเนียด้วยสายตาที่เย็นชาพร้อมกับอุทานเบาๆว่า
“ตายแล้ว”เอรินเนียมองใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแต่กวนประสาทคนตรงหน้าว่า
“มีอะไรตายอย่างนั้นหรอ”หญิงสาวคนนั้นส่งรอยยิ้มเย็นไปให้หญิงสาวผมสีทองพลางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า
“ฉันนีนาดีย โดนีบาร์ ส่วนเธอคงจะเป็น...”นีนาเดียเว้นประโยคไว้ให้หญิงสาวผมสีทองต่อเองว่า
“เอรินเนีย เสเวเลซ ไม่ทราบว่ามีอะไรกับฉันหรือเปล่า”นีนนาเดียยิ้มก่อนจะพูดว่า
“แล้วคนที่เก่งกาจอย่างผู้ช่วยหัวหน้าหอขาวมาทำอะไรที่ห้องสมุดล่ะ”เอรินเนียยิ้มก่อนจะพูดว่า
“แล้วคนอย่างท่านซึ่งเป็นเจ้าหญิง...มาทำอะไรที่นี่ล่ะ”ซาเลนเดอร์เงยหน้าขึ้นจากหนังสือมองหญิงสาวผมสีเงินด้วยสายตาที่พิจารณาและสำรวจ นีนาเดียยิ้มก่อนจะพูดว่า
“ฉันมาที่นี่เพราะอยากคุยกับเธอ ฉันว่าเรา 2 คนมาประลองเวทย์กันหน่อยเป็นไง”เอรินเนียมองหญิงสาวคนนี้ด้วยสายตาที่นิ่งเรียบพร้อมกับพูดว่า
“ก็เอาสิ...เมื่อไหร่”
“คืนนี้ 2 ทุ่ม...”
“ได้ ที่ไหน”
“ลานฝึกซ้อมเวทย์”
เอรินเนียพยักหน้าพร้อมกับนีนาเดียเดินออกไป ซาเลนเดอร์หันมามองเอรินเนียด้วยสายตาที่เป็นห่วงว่าอีกฝ่ายจะเอาชนะเจ้าหญิงอีกคนได้อย่างนั้นหรอ เอรินเนียไม่สนใจสายตาที่เป็นห่วงนั้น อ่านหนังสือต่อไปอย่างเงียบๆเพียงสักพักก็ตัดสินใจกลับห้องพักคณะกรรมการนักเรียนพร้อมกับซาเลนเดอร์...
ร่างของหญิงสาวผมสีทองที่ใส่ชุดค่อนข้างรัดกุมเดินออกมาจากห้องนอนของหญิงสาวเรียกความสนใจจากชายหนุ่มที่นั่งรอหญิงสาวอยู่ด้วยความสงบนิ่ง หญิงสาวมองคนที่นั่งรอตนอย่างเงียบๆก่อนจะพูดว่า
“มีอะไรหรือเปล่า ซาเลนเดอร์”ชายหนุ่มส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า
“จะไปด้วย”เอรินเนียทำท่าสงสัยก่อนจะพูดว่า
“จะไปที่ลานฝึกซ้อมเวทย์ด้วยกันอย่างนั้นหรอ”ซาเลนเดอร์พยักหน้าพร้อมกับเอรินเนียพูดอย่างแซวๆว่า
“จะไปดูความงามและความเก่งกาจของเจ้าหญิง นีนาเดียอย่างนั้นหรอจ๊ะ”
ซาเลนเดอร์ส่ายหน้าอย่างระอากับคำแซวนั้นก่อนจะลุกขึ้นยืนขึ้นพร้อมกับเอรินเนียพยักหน้าตกลงและเดินออกจากห้องพักของคณะกรรมการนักเรียน ร่างของคน 2 คนเดินตรงไปที่ลานฝึกซ้อมเวทย์ด้วยกัน ท่ามกลางความเงียบที่รายล้อม แสงเพลิง
จากคบไฟทำหน้าที่ส่องสว่างในเวลาราตรีที่เงียบสงัด เมื่อทั้ง 2 คนมายังที่นัดแล้ว ร่างของที่นัดไว้ก็ปรากฏอยู่ในคลองสายตาก่อนที่คนทั้ง 3 จะทักทายกัน
“จะประลองกันด้วยอะไร”
“อะไรก็ได้”นีนาเดียตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบทำให้เอรินเนียถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า
“ประลองพลังเวทย์”
“ตกลง”เมื่อหญิงสาวพูดจบ อาวุธของทั้ง 2 ก็มาอยู่ในมือ เอรินเนียถือคทาอยู่ในมือส่วน นีนาเดียถือพัดอยู่ในมือ เมื่อทั้งสองถืออาวุธอยู่ในมืออยู่ในท่าเตรียมพร้อมแล้ว ซาเลนเดอร์ก็ออกมาอยู่ในวงนอกในทันที หญิงสาวทั้ง 2 มองหน้ากันเล็กน้อย
ก่อนที่นีนาเดียจะเป็นคนเริ่มร่ายเวทย์ใส่เอรินเนียก่อน เอรินเนียจึงตีลังกากลับหลังหลบเวทย์ที่มุ่งมาในทันทีพร้อมกับเอรินเนียร่ายเวทย์เบาๆว่า
“ไวท์พรีเท็ค”พลันเกราะสีขาวก็ล้อมรอบตัวของเอรินเนีย เอรินเนียตั้งหลักได้เพียงเล็กน้อยก็ร่ายเวทย์ต่อในทันทีว่า
“ริเฟล็คท”เมื่อเอรินเนียพูดจบเกราะสีเขียวสดก็ล้อมรอบหญิงสาวเมื่อเวทย์ของ นีนาเดียมาถูกเกราะสีเขียวสดนั้นก็กระเด็นออกไปพร้อมกับร่างของเอรินเนียหายไปจากคลองสายตา นีนาเดีย เผลอสถบออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนที่จะตีลังกาหลบเวทย์ของเอรินเนียที่ยืนยิ้มให้อยู่ก่อนที่เอรินเนียจะร่ายเวทย์โจมตีพุ่งตรงไปหา นีนาเดียอีกครั้ง
นีนาเดีย มองเวทย์ที่พุ่งเข้ามาหาตนอย่างเจ็บใจก่อนจะร่ายเวทย์ว่า
“นาเดียโดเฟเววินด์...”เมื่อ นีนาเดียร่ายจบเวทย์พายุก็พุ่งตรงมาหาหญิงสาวผมสีทองและกวาดสิ่งของทุกอย่างที่ขวางทางเอรินเนียมองพายุที่พุ่งมาหาตนอย่างสงบก่อนจะร่ายเวทย์เบาๆว่า
“รินไลท์สต็อพเววินด์”เมื่อเอรินเนียร่ายเวทย์จบพลังในมือสีขาวขุ่นก็ส่องแสงขึ้นต้านพลังของพายุนั้น คทาที่อยู่ในมือก็ส่องแสงสีทองขึ้นพร้อมกับหยุดพายุนั้นให้สงบลง เมื่อพายุสงบลงแล้วเอรินเนียถึงกับหอบหายใจและเหงื่อก็ซึมออกมาจาผมสีทองนั้นซึ่งอาการนี้ไม่ต่างจาก นีนาเดียเท่าไหร่แต่ นีนาเดีย กลับฟุบลงนั่งกับพื้นเหมือนคนไม่มีแรงแล้ว เอรินเนียหอบก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่ยิ้มๆเล็กน้อยว่า
“ตกลง คราวนี้ใครชนะ”นีนาเดีย มองหน้าคนที่ถามตนอย่างเจ็บใจก่อนจะพูดแบบกระแทกเสียงว่า
“เธอชนะ แต่จำไว้ฉันจะเอาชนะเธอให้ได้คอยดูสิ”เมื่อพูดจบร่างของ นีนาเดียก็หายไปในทันทีทิ้งให้เอรินเนียหัวเราะกับคำพูดที่เอาแต่ใจของ นีนาเดียนั้น ซาเลนเดอร์เดินมาอย่างเป็นห่วงก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่นิ่งๆว่า
“เป็นยังไงมั้ง”เอรินเนียส่ายหน้าก่อนจะเอาคทามาอยู่ในมือแล้วร่ายเวทย์ แสงสีขาวก็คลอบคลุมตัวหญิงสาวเพียงสักพักก็หายไป อาการของเอรินเนียก็ดีขึ้น จึงลุกขึ้นพร้อมกับถามว่า
“จะกลับยัง?”ซาเลนเดอร์พยักหน้าพร้อมกับเดินเข้าหอขาวพร้อมกับเอรินเนีย...
ที่ห้องนั่งเล่นของคณะกรรมการนักเรียน
ร่างของชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนกำลังนั่งรอใครคนหนึ่ง ใครที่ยังไม่กลับมาสักทีแถมยังออกไปไหนกับใครอีกคนโดยที่ไม่บอกให้ใครรู้ จะไม่ให้เค้าห่วงได้ยังไงก็ดูสิ ออกไปไม่ใช่เวลาที่จะออก แถมตอนเย็นทั้ง 2 ก็กลับมาพร้อมกับและออกไปพร้อมกับอีก 2 คนนี้เป็นอะไรกันนักหนานะถึงได้ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยจนเค้าเริ่มจะหมั้นไส้ ชายหนุ่มที่นามว่า ซา
เลนเดอร์ขึ้นทุกวัน...สักพักเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างของชายหนุ่มผมสีม่วงเดินเข้ามา ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลจึงทักทันที
“ไง ไปไหนมาล่ะซาเลนเดอร์”ซาเลนเดอร์นิ่งเงียบก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งๆแต่ไม่สบอารมณ์ของอีกฝ่ายอย่างแรงว่า
“มันไม่ใช่เรื่องของนาย แซ็ค”แซ็ค ยิ้มเย็นก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่กวนประสาทว่า
“แล้วเอรินเนียไปไหนล่ะ เห็นออกไปด้วยกันใช่หรอ”ซาเลนเดอร์ยิ้มก่อนจะพูดกวนประสาทคนตรงหน้าว่า
“ออกไปด้วยกันก็ไม่ได้หมายความว่าจะกลับมาด้วยกันนี่ จริงไหม?”แซ็ค ยิ้มก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆว่า
“แล้วตอนนี้เอรินเนียอยู่ที่ไหน”
“แล้วทำไมฉันจะต้องบอกนายด้วยล่ะ แซ็ค ในเมื่อนายไปไหนก็ไม่เกี่ยวกับใครและเมื่อเอรินเนียจะออกไปไหนก็ไม่เกี่ยวกับนายอยู่แล้วไม่ใช่หรอ”แซ็ค ยิ้มเย็นก่อนจะพูดว่า
“เอรินเนียอยู่ไหน”ซาเลนเดอร์ยิ้มก่อนจะพูดว่า
“เอรินเนียจะอยู่ไหนได้ถ้าไม่ได้อยู่ในหอขาวนี้ หอขาวเราก็มีทั้งหมดแค่ 7 ชั้น ถ้านายมีปัญญาก็เดินหาเอาเองล่ะกัน”เมื่อซาเลนเดอร์พูดจบก็เดินเข้าออกตัวเองในทันที ทิ้งให้แซ็คได้แต่ทำหน้าเซ็งๆก่อนจะเดินออกไป...
ห้องสมุด
ร่างของหญิงสาวผมสีทองตรงกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ได้สักพัก ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งก็มายืนอยู่ข้างหน้าพลางทักให้คนที่นั่งอ่านหนังสือมามองตน
“ไง”หญิงสาวเงยหน้ามองคนที่ทักตนด้วยสีหน้าตกใจก่อนที่ชายหนุ่มคนนั้นจะพูดว่า
“ไม่ได้เจอกันซะนานเลยนะ เอรินเนีย
”
ร่างของชายหนุ่มเดินมองหาหญิงสาวที่ตนหาแต่กลับไม่พบจึงคิดที่จะขึ้นไปที่ห้องพักคณะกรรมการนักเรียนแต่กลับไดยินเสียงของคนชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งเค้าจึงได้ยินบทสนทนาที่ไม่ควรจะได้ยินเข้า...
“ทางสิเรียเนียเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ไม่ยังไงก็สบายดี ทางนู้นล่ะเป็นไงบ้าง”
“ฉันไม่ได้เหมือนเธอนี่”หญิงสาวหัวเราะก่อนจะพูดว่า
“อย่ามาประชดฉันหน่อยเลย”
“เปล่า ไม่ได้ประชดแต่พูดความจริงต่างหาก แล้วฉันได้ข่าวจากวงในมาว่า “กระดิ่งแห่งสายลมปรากฏตัว”ขึ้นอย่างนั้น”หญิงสาวคนนั้นหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า
“ไม่มีอะไรที่เคยปิดสายน้ำได้เลยนะ”
“แน่นอน เพราะว่าสายน้ำไหลผ่านทุกที่”น้ำเสียงของชายหนุ่มพูดอย่างภาคภูมิใจมากจนทำให้หญิงสาวที่คุยด้วยหลุดหัวเราะออกมาจนฝ่ายชายต้องถามว่า
“หัวเราะอะไรห่ะ”หญิงสาวพยายามหยุดหัวเราะก่อนเมื่อหญิงสาวหยุดหัวเราะได้แล้วก็ตอบชายหนุ่มว่า
“หัวเราะนายนั้นแหละ”ชายหนุ่มนิ่งไปก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียดว่า
“แล้วเค้าคนนั้นรู้เรื่องนี้แล้วหรือยัง”หญิงสาวนิ่งไปก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งๆว่า
“รู้แล้ว...”ทั้ง 2 คนนิ่งเงียบเหมือนกับกำลังใช้ความคิดในเรื่องอะไรบางอย่างเพียงสักพักชายหนุ่มก็ถามต่อว่า
“...แล้วคิดว่าอีกฝ่ายรู้แล้วหรือยัง”
“ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ แต่ก็คงคิดได้ล่ะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคืออะไร”เมื่อหญิงสาวพูดจบทั้ง2 ก็เงียบลงอีกครั้งก่อนที่ชายหนุ่มจะถามหญิงสาวด้วยความไม่แน่ใจว่า
“เธอคิดเรื่องนั้นไว้แล้วหรือยัง”
“อะไรล่ะ”หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มผ่อนคลายลงบ้างแล้วพร้อมกับชายหนุ่มพูดต่อว่า
“เรื่องอนาคตต่อจากนี้...เธอกับเค้าจะทำยังไงต่อไป”หญิงสาวนิ่งเงียบก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เงียบๆพยายามทำให้ดูร่าเริงว่า
“ฉันยังไม่อยากบอกอะไรเค้ามากนัก เพราะถ้าบอกไปก็มีแต่กังวลใจไปเปล่าๆแล้วอีกอย่างเค้าก็ทำอะไรไม่ได้ด้วย”ชายหนุ่มนิ่งเงียบก่อนจะพูดว่า
“แล้วเธอคิดหรอว่าเค้าจะยอมรับเรื่องพวกนี้ได้”หญิงสาวนิ่งเงียบก่อนจะพูดว่า
“ไม่หรอก...ถ้าเค้ายอมรับไม่ได้เค้าก็ต้องจำยอมรับ แล้วฉันก็คงจะจากเค้าไปแต่ว่านะฉันอยากให้เพื่อนคนหนึ่งของฉันสมหวังและฉันหวังว่ามันจะไม่เป็นเรื่องเหมือนเมื่อหลายปีก่อน
”
เสียงถอนหายใจของหญิงสาวดังขึ้นสักพักเสียงถอนหายใจของชายหนุ่มก็ตามมาพร้อมกับชายหนุ่มพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เนือยๆว่า
“แต่เธอควรจะรู้ไว้นะว่าไม่มีอะไรสมหวังเหมือนที่เราคิดทุกประการ”
“ฉันรู้...เพราะแม้แต่ฉันก็ยังไม่หลุดพ้นจากชะตากรรมอันนี้”เสียงถอนหายใจของหญิงสาวก็ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับชายหนุ่มที่แอบฟังมาตลอดรีบวิ่งออกไปจากบทสนทนาบทนั้นอย่างกังวลใจ...เค้าไม่รู้หรอกนะว่าสิ่งที่คนทั้ง 2 คนพูดนั้นมันคือเรื่องอะไรแต่เค้าเองก็รู้สึกไม่ดีนักที่จะฟังมันต่อไปมันรู้สึกว่าเค้าไม่อาจจะทนฟังเรื่องต่อจากนี้ได้แล้ว
ชายหนุ่มยืนทำใจได้สักพักก็เดินขึ้นห้องคณะกรรมการนักเรียนไปเพื่อรอหญิงสาวที่เค้าตามหาอยู่ เค้ารอหญิงสาวได้สักพักร่างของหญิงสาวที่เค้ารออยู่ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับหญิงสาวมองชายหนุ่มที่รออยู่อย่างสงสัยก่อนจะถามชายหนุ่มเบาๆว่า
“มีอะไรหรือเปล่า”ชายหนุ่มส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า
“ไปไหนมา”เอรินเนียส่ายหน้าเหมือนไม่อยากจะบอกก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาพร้อมกับแซ็คมานั่งข้างๆก่อนจะนอนหนุนตักของหญิงสาวอย่างถือสิทธิ์ ดวงตาของหญิงสาวมีแววประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะถามชายหนุ่มว่า
“มีเรื่องอะไรมาอย่างนั้นหรอ”ชายหนุ่มส่ายหน้าก่อนจะถามความคิดเห็นของหญิงสาวเบาๆว่า
“ถ้าเธอไปแอบได้ยินคนอื่นๆเค้าคุยกันล่ะแล้วคราวนี้คนทั้ง 2 คนนั้นคุยกันด้วยท่าทางเครียดๆแล้วอยู่ดีๆเธอฟังไปได้สักพักก็รู้สึกกลัวขึ้นมาล่ะ”
“กลัว? กลัวเรื่องอะไรล่ะ?”
“ไม่รู้สิ มันรู้สึกกลัวที่จะฟังต่อนะ”เอรินเนียยิ้มก่อนจะพูดว่า
“ช่างมันเถอะ ฉันไม่สนใจสักอย่าง”เอรินเนียพูดจบก็สะกิดคนที่นอนบนตักตนอยู่เบาๆ ชายหนุ่มจึงค่อยๆยันตัวลุกขึ้นพร้อมกับเอรินเนียเดินลุกขึ้นก่อนจะยืนอยู่หน้าทางเข้าห้องและพูดว่า
“ถ้าเฮรี่กลับมาเมื่อไหร่บอกฉันด้วยนะ ล่ะก็ good night จ๊ะ”เมื่อพูดจบเอรินเนียก็รีบเดินเข้าห้องไปเลยโดยไม่สนใจชายหนุ่มที่กำลังนั่งอึ่งอยู่ก่อนจะหัวเราะเบาๆพลางพูดว่า
“Good night เช่นเดียวกัน...”
** จบ**
ตอนนี้ก็จบลงแล้ว ดองไว้ซะนานเลยทีเดียว เนื่องจากตอนนี้การบ้านมันเยอะ+กับการใกล้เข้ากลางภาคแล้ว งานมันเร่งด่วน+เยอะซะแล้วเราก็ชักกังวลใจมากแล้วสิ ดังนั้นตอนนี้เราต้องห่างหายไปจากเว็บเด็กดีชั่วคราวค่ะ
ยังไงก็ขอบอกล่วงหน้าเลยล่ะกันค่ะและเราเองก็เริ่มไม่มีไอเดียในการแก้ไขเรื่องแล้วล่ะค่ะ เพราะว่าเราเซ็งๆ+เครียดแต่เราก็จะพยายามเค้นออกมาให้ได้ค่ะ
ความคิดเห็น