คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เทศกาลในโนเร็คทาวน์
ร่างของหญิงสาวที่ใส่เครื่องแบนักเรียนโรงเรียนเวทย์เรียบร้อยแล้วออกมาจากห้องนอกของตนก่อนจะมานั่งที่ห้องนั่งเล่นของคณะกรรมการนักเรียนพร้อมกับอ่านกระดาษแผ่นหนึ่งที่เป็นเอกสารเกี่ยวกับการเรียน เอรินเนียนั่งอ่านไปได้สักพักใหญ่ๆร่างของหญิงสาวผมสีขาวตรงสลวยก้ออกมาจากห้อง ทั้ง 2 ทักทายกันเล็กน้อยก่อนที่ร่างของหญิงสาวผมสีขาวจะเดินออกไป เพียงสักพักร่างของชายหนุ่มก็ออกมาจากห้อง หญิงสาวหันมามองชายหนุ่มเล็กน้อยก่อนจะพูดทักทายตามมารยาท
ก่อนจะนั่งสนใจอ่านแผ่นกระดาษที่อยู่ในมือตนตามเดิม พร้อมกับร่างของคณะกรรมการนักเรียนที่เหลือก็ออกมาจากห้องพลางทักทายกันเล็กน้อยก่อนจะเดินไปโรงอาหารเพื่อรับประทานข้าวก่อนที่เดินเข้าห้องเรียน
ห้องเรียนชั้นปีที่ 1 ห้อง 1หอขาว
ร่างของนักเรียนกำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานก่อนที่เงียบเสียงลงเมื่อมาสเตอร์เชอร์รี่มาปรากฏตัวขึ้นพลางรับการทำความเคารพจากทุกคนเสร็จก็พูดว่า
“สวัสดี นักเรียนทุกคนวันนี้ก็จะเป็นการเรียนการสอบวันแรกของนักเรียนโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์กัน ซึ่งวันนี้เราจะขอรับเอกสารเกี่ยวกับการเรียนที่พวกเธอสนใจก่อนที่เราจะเริ่มเรียนกันจริงๆไปในชั้นปีนี้ ซึ่งการเรียนของชั้นปีที่ 1 ส่วนใหญ่จะเป็นการเรียนเวทย์โดยไม่พลังจากคทาช่วยโดยจะใช้พลังสายเลือดโดยตรงของทุกคนเป็นตัวร่ายเวทย์ซึ่งเราจะมีทั้งการเรียนเวทย์และจะมีการเรียนการใช้อาวุธด้วยซึ่งการที่เราจะใช้อาวุธอะไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสนใจบวกกับความสามารถ
ของตัวผู้ใช้เอง ดังนั้นจึงขอให้ทุกคนตั้งใจเรียนให้มากๆด้วยนะค่ะ แล้วเราจะมีการทดสอบหลังที่เราเรียนจบ1เดือนด้วย ดังนั้นทุกคนก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้เพื่อที่จะรับการสอบให้ดีนะค่ะ ส่วนดิฉันจะเป็นมาสเตอร์สอนพวกเธอใช้พลังสายเลือดเรียกพลังของแสงนะค่ะ เอาล่ะวันนี้เราก็ไปเรียนเวทย์แรกกันเลยดีกว่า เวทย์แห่งวารี”เมื่อเชอร์รี่พูดจบก็หายไปทิ้งให้ทุกคนไปเรียนเวทย์ตามตารางเรียนอย่างเป็นกังวล เมื่อทุกคนเรียนเวทย์วันแรกจบก็ถึงกับอยากบ้าตายในความหฤโหดของ
มาสเตอร์ที่ให้พวกเธอฝึกเวทย์วันเดียวถึง 4 บท ซึ่งเป็นเวทย์ที่ต้องใช้พลังเวทย์ที่มีอยู่ในตัวพอสมควรทีเดียว เวทย์ทั้ง 4 นี้มีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถร่ายได้ดีได้นอกจาก...
เอรินเนีย เสเวเลซ หญิงสาวที่ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าหอ ไม่มีใครสงสัยที่ทำไมเอรินเนียได้เป็นผู้ช่วยหัวหน้าหอก็ดูจากฝีมือนะสิ ดูให้ตายยังไงก็รู้ว่าหญิงสาวคนนี้เก่ง ถ้าไม่เก่งก็คงไม่สามารถกักบริเวณรุ่นพี่ตัวแสบของโรงเรียนได้อย่างราบคาบหรอก
แซคคาเรีย ซิเรียเบล ชายหนุ่มที่มีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าหอขาว ฝีมือมันควรจะธรรมดาซะทีไหนแถมยังผ่านการทดสอบที่เค้าว่ายากกว่าการทดสอบเข้าของนักเรียนที่มาสมัครเข้าตรงเวลาอีกด้วย แค่นี้ก็คงจะรู้แล้วล่ะมั้ง ว่าฝีมือมันไม่ธรรมดา
สฟิเนอร์อาร์ทแกลล์ มีศักดิ์เป็นถึงเจ้าชายของเอเทแกลล์* แถมยังเป็นคณะกรรมการนักเรียนของหอขาวอีก ฝีมือของเจ้าชายคนนี้มัน ก็ควรจะใช่ย่อยซะที่ไหน เดี๋ยวคนอื่นเค้าจะดูถูกว่า เมืองนี้มีแต่คนไม่มีฝีมือ ใครจะไปยอม
(เมืองๆหนึ่งที่ได้ชื่อว่า “เมืองแห่งแสง” จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครมากนัก แต่ถ้ามีเรื่องเดือดร้อนคนในเมืองนี้ก็จะให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี พอๆกับสิเรียเนีย)
และซาเลนเดอร์ เคว็กชั่น ชายหนุ่มที่เงียบขรึมที่สุด ฝีมือเค้าอยู่ในระดับไหนใครๆก็รู้ดีเพราะว่าคนที่เป็นคณะกรรรมการนักเรียนหอขาวได้และยังช่วยคนที่เป็นผู้ช่วยหัวหน้าหอขาวได้อย่างเอรินเนีย ก็ต้องจัดว่าฝีมือไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเก่งกาจมากนักในสายตาของคนทั่วไปเมื่อเทียบกับแซคคาเรีย ซิเรียเบล
ส่วนเมเลน เบเรสนั้นไม่ค่อยเป็นที่สนใจมากนักเพราะว่าฝีมืออยู่แค่ในระดับปานกลางไม่ได้เก่งกาจเหมือนสฟิเนอร์,แซ็ค,ซาเลนเดอร์หรือเอรินเนียนักแต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่พอใช้ได้แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นที่รู้จักของผู้คนในโรงเรียน
และหญิงสาวอีกคนหนึ่งก็ถือว่ามีฝีมือไม่แพ้กันนั้นคือ ซาราซ่า เทเลียเซีย หญิงสาวที่งดงาม สง่าและเป็นมิตรกับทุกคนนั้นก็มีฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลยทีเดียว
ห้อง 1 หอขาวจึงเป็นห้องที่จับตามองของคนในหอราตรีและคนในห้อง 2 ของหอขาวยิ่งนัก เนื่องจากว่าคนที่มีฝีมือและโดดเด่นนั้นต่างอยู่ในห้องนี้เป็นส่วนใหญ่ เมื่อเวลาเรียนของวันแรกจบลง ร่างของนักเรียนชั้นปีที่ 1ก็เดินโซซัดโซเซออกมาจากห้องเรียนอย่างเหนื่อยอ่อน สภาพของคนที่ออกมาไม่ค่อยแตกต่างกันนัก เอรินเนียร่างของหญิงสาวที่เดินออกมาจากห้องเรียนพร้อมกับชายหนุ่มอีก 3 คนพลางพูดว่า
“วันนี้เหนื่อยจริงๆเลยนะ ว่าไหม”ทั้ง 3 คนพยักหน้าก่อนที่เอรินเนียจะพูดต่อว่า
“พรุ่งนี้ก็เป็นเทศกาลที่สำคัญของโนเร็คทาวน์แล้ว...นักเรียนทุกคนต้องไปร่วมงานนี้ด้วยนี่”
“ใช่ แล้วต้องพกกระดิ่งติดตัวไปด้วยนะ”สฟิเนอร์พูดก่อนที่แซ็คจะถามเอรินเนียด้วยเสียงที่ค่อนข้างเรียบว่า
“ฉันได้ข่าวว่าเธอจะเรียนการใช้อาวุธของทุกอย่างเลยหรอ”เอรินเนียพยักหน้าก่อนจะพูดว่า
“ก็ฉันคิดว่าเรียนไว้เยอะไว้มันดีกว่าการที่เราใช้อาวุธอะไรไม่เป็นเลยนี่ ดีไม่ดีในอนาคตเราอาจจะต้องใช้อาวุธที่เราไม่ถนัดมากที่สุดก็เป็นได้ ดังนั้นฉันขอใช้อาวุธทุกอย่างให้ได้อย่างน้อยก็ขอให้อยู่ในระดับปานกลางก็พอ”เมื่อเอรินเนียพูดจบซาเลนเดอร์ก็ถามว่า
“แล้วเธอจะเรียนการใช้ดาบด้วยหรือเปล่า”เอรินเนียพยักหน้าก่อนจะพูดว่า
“ก็ดาบเป็นอาวุธเดียวที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ทักจะใช้ไม่เป็นนี่ จริงไหม ส่วนผู้ชายก็มักจะใช้อาวุธประเภทเครื่องดนตรีไม่เป็น”
ทุกคนพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายไปพักผ่อน...
เช้าวันรุ่งขึ้น
ร่างของหญิงสาวที่นอนอยู่นั้นได้ยินเสียงของคนๆหนึ่งดังขึ้นและเธอพยายามเงี่ยหูฟังเสียงนั้นแต่ยิ่งเธอพยายามที่จะฟังเสียงนั้นมากเท่าไหร่เสียงนั้นก็ยิ่งเบามากขึ้นเท่านั้น ก่อนที่เธอสติเธอจะหลุดลอยไปเสียงนั้นก็ได้พูดประโยคหนึ่งที่เธอได้ยินชัดเจนไม่มีผิดเพี้ยนว่า
“แสงดาวมิอาจอยู่ร่วมกับราตรี...”
เมื่อคนพูดประโยคนั้นจบลง ดวงตาของหญิงสาวค่อยๆปรือขึ้นพร้อมกับเสียงเรียกของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นนั้นโสตประสาท
“เอรินเนีย เธอตื่นได้แล้ว”ดวงตาสีน้ำตาลที่มองมายังหญิงสาวทำให้หญิงสาวรู้ว่าใครเป็นคนปลุกเธอ เธอพยักหน้าก่อนจะยันตัวลุกขึ้นอย่างงัวเงีย
“เป็นอะไรไป ปรกติเธอไม่เคยตื่นสายเลยนะ เมื่อวานเหนื่อยมากหรือเปล่า”เอรินเนียส่ายหน้าอย่างช้าๆก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ยังคงมีความง่วงอยู่ว่า
“เปล่า...ไม่ได้เหนื่อยหรอก แค่ได้ยินเสียงแปลกๆเท่านั้น”
“เสียงแปลกๆ เสียงอะไร?”เอรินเนียส่ายหน้าก่อนจะลุกขึ้นโดยมีมือชายหนุ่มเป็นที่ดึงร่างของหญิงสาวพร้อมกับหญิงสาวร่ายเวทย์ ชุดของหญิงสาวก็มาปรากฏขึ้นพร้อมกับมือบางของหญิงสาวหยิบชุดนั้นก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับเสียงของชายหนุ่มดังขึ้นมาว่า
“จะรออยู่ข้างนอก”
เมื่อชายหนุ่มพูดจบก็เดินออกไปในทันที หญิงสาวก็เริ่มอาบนน้ำเมื่อตนอาบน้ำเสร็จก็ออกมาจากพร้อมกับชุดไปรเวทที่ดูสวยงามในทันที เสื้อแขนกุดสีขาวซึ่งมีเสื้อคลุมแขนสั้นกับกระโปรงด้านหน้าสั้น ด้านหลังยาวแต่กลับพลิ้วไหวบวกกับกางเกงข้างในสีเดียวกันกระโปรงที่ค่อนข้างรัดกุมอยู่ข้างใน ผมสีทองที่ตรงสลวยนั้นถูกมัดครึ่งและติดโบว์ที่ดูสะอาดสีขาว
หญิงสาวมองซ้ายมองขวาเล็กน้อยก่อนจะเรียกกระดิ่งออกมาพลางมัดติดกับขอบกระโปรงของตนก่อนที่จะเดินออกไปข้างนอกเพื่อเจอกับแซ็ค เมื่อเอรินเนียออกมาแล้วก็เจอกับร่างของชายหนุ่มทั้ง 4กับหญิงสาวอีก 2 คนที่ยืนรออยู่ข้างนอก ร่างของชายหนุ่มทั้งหมดต่างแต่งตัวดูสุภาพและเรียบง่ายผิดกับหญิงสาวอีก 2 คนที่แต่งตัวค่อนข้างจะสวยและดูเป็นทางการมากกว่าชายหนุ่มทั้งหมด...เสื้อของฟรีย่าเป็นเสื้อผ้าแขนสั้นที่แขนพองๆออกมา เสื้อข้างในเป็นเสื้อแขนกุดมีระบายลูกไม้เพียงเล็กน้อย มีกระดุมผ่ากลางกับกระโปรงสีขาวยาวแค่เข่าโดยมีโบว์สีขาวขนาดเล็กติอยู่ข้างหลัง ผมสีส้มหยักศกที่ยาวถึงกลางหลังปัจจุบันถูกรวบแล้วติดโบว์สีส้มอ่อนเช่นเดียวกับสีผม ส่วนซาราซ่าหญิงสาวผมสีขาวตรงนั้นมัดครึ่งเหมือนเอรินเนียส่วนเสื้อของเธอนั้นเป็นเสื้อแขนสั้นสีเขียวอ่อน กระโปรงยาวสีขาวยาวแค่เข่า ข้างหลังขอบกระโปรงมีโบว์ขนาดเล็กติดอยู่ หญิงสาวทั้ง 2 ยิ้มให้กันก่อนที่จะทักทายกันด้วยน้ำเสียงที่สดใส
“สวัสดีจ๊ะ เอรินเนีย วันนี้เธอสวยเหมือนเดิมเลยนะ”เอรินเนียยิ้มรับก่อนจะพูดว่า
“สวัสดีจ๊ะ ทั้ง 2 คนสวยไม่เบาเลยนะ”ทั้ง 2 สาวยิ้มรับก่อนที่สฟิเนอร์จะพูดว่า
“ชุดนี้เอามาจากไหนหรอ เอรินเนีย”เอรินเนียทำหน้าสงสัยก่อนจะถามว่า
“ถามทำไมหรอสฟิเนอร์ ชอบชุดนี้หรือไง”สฟิเนอร์ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า
“ก็ประมาณนั้นล่ะมั้ง”เอรินเนียยิ้มก่อนจะพูดว่า
“ที่สิเรียเนียนะ”
“อย่างนี้คงต้องหาโอกาสไปที่สิเรียเนียซะแล้วล่ะ”เอรินเนียยิ้มรับคำพูดนั้นก่อนที่ซาเลนเดอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งๆว่า
“เอรินเนียสวยนะ”เมื่อซาเลนเดอร์พูดจบทุกคนก็หันไปมองคนพูดด้วยความประหลาดใจในทันทีที่วันนี้ชายหนุ่มพูดชมหญิงสาวได้หน้าตาเฉย เอรินเนียมองหน้าซาเลนเดอร์ที่ชมเธอก่อนที่จะหัวเราะเล็กน้อยพร้อมกับยิ้มเหมือนกับจะบอกว่าขอบคุณพลางชักชวนคนทั้งหมดไปเที่ยวในเมืองโนเร็คทาวน์
เมืองโนเร็คทาวน์
ผู้คนมากมายต่างเดินไปมาอยู่ที่ในเมืองแห่งนี้เนื่องจากวันนี้เป็นวันสำคัญของโนเร็คทาวน์ ผู้คนต่างเดินไปยังจุดหมายของตนโดยมีกระดิ่งติดตัวอยู่กับทุกคน พวกแซ็คเดินไปได้สักพักก็เจอกับหญิงสาวนางหนึ่งผมสีดำตรงกำลังส่งยิ้มมาให้แซ็คพร้อมกับทักทายแซ็ค ว่า
“สวัสดี แซ็ค เที่ยวเมืองโนเร็คทาวน์งันหรอ”แซ็คพยักหน้าก่อนจะมองคนที่เหลืออย่างสนใจพลางแนะนำตัวกันอย่างรวดเร็ว เมื่อทุกคนแนะนำตัวเสร็จแล้ว หญิงสาวคนนั้นก็แนะนำตัวเองว่า
“สวัสดี ฉัน การ์เน็ต อาเรเบเลอร์เป็นคณะกรรมการนักเรียนหอราตรี”
เอรินเนียพยักหน้าก่อนที่ฟรีย่าจะถามว่า
“สวัสดี วันนี้การ์เน็ตจะไปไหนหรือเปล่า”การ์เน็ตส่ายหน้าพร้อมกับแซ็คพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆว่า
“งันการ์เน็ตไปเที่ยวกับพวกเราไหม”การ์เน็ตพยักหน้าอย่างดีใจก่อนที่จะเดินไปกับพวกเอรินเนีย พวกเอรินเนียเดินไปยังร้านต่างๆอย่างสนุกสนานจนกระทั่งอยู่หน้าร้านๆหนึ่ง...
“เอรินเนีย นั่นมีร้านขายของประดับตกแต่งทั่วไปด้วยล่ะ เข้ากันไหม”ฟรีย่าถามพลางชี้ร้านที่ว่าให้คนทั้งหมดดู
“ก็ดีนะ ฉันว่ามันก็ดี”เอรินเนียตอบพร้อมกับทุกคนเริ่มทยอยเดินเข้าไปเลือกของเป็นคู่ๆ
“นี่ ซาราซ่าอันนี้น่ารักจังเลย เธอว่าไหม” ฟรีย่าถามพร้อมกับยกแจกันรูปผีเสื้อที่ประดับตกแต่งห้องขึ้นมา
“จริงด้วย ฟรีย่า น่ารักมากเลยแต่ไม่รู้จะซื้อไปทำอะไรนะสิ ปัญหา”
“ซื้อไว้ก่อนคงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง”
“ก็จริงนะ แต่ว่า เราพึ่งเข้ามาแค่ร้านเดียวเองนะ”
“จริงด้วย...”ฟรีย่าพูดขึ้นอย่างเสียดาย
“ เอานะ ถ้าอยากได้มากก็ค่อยกลับมาซื้อก็ได้นี่ เอรินเนียคงไม่ว่าอะไรหรอก”
“อืม...”ฟรีย่ารับคำก่อนจะดูอย่างอื่นต่ออย่างสนุกสนาน....
“นี่ เมเลน นายว่าอันนี้เป็นไง”
สฟิเนอร์ถามพร้อมกับยกสายสีเงินคล้ายกับที่กั้นประตูที่ประดับเพื่อให้มีความสวยงามขึ้นมา
“ก็..ดี ถามทำไม นายจะซื้อหรอไง”
“ก็ไม่แน่...” สฟิเนอร์ตอบพร้อมกับมองของบนมือตนอย่างพิจารณา
“นายจะซื้อไปทำไม”
“ฉันไม่ได้ซื้อให้ตัวเองหรอกนะ”
“แล้วนายจะซื้อให้เอรินเนียหรือไงกัน”
“เปล่า...จะซื้อให้ท่านแม่ต่างหาก ท่านแม่ชอบของแบบนี้”
“จริงด้วย...ถ้านายจะซื้อให้ท่านราชินีล่ะก็เอาอันนี้ดีกว่าไหม” สฟิเนอร์หันไปมองของที่เมเลนถืออย่างสนใจก่อนที่จะเลือกดูของชิ้นอื่นๆไปเรื่อยๆ....
“นี่ ซาเลนเดอร์ นายว่าอันนี้น่ารักหรือเปล่า”เอรินเนียถามพลางยกกระดิ่งอันหนึ่งให้ชายหนุ่มที่ยืนข้างๆดู
“ก็ดีนะ อยากได้หรอ”
“ก็ไม่เชิงหรอกนะ”เอรินเนียตอบพร้อมกับหัวเราะ
“จะซื้อไปทำอะไรล่ะตัวเองก็มีอยู่แล้วอันหนึ่งไม่ใช่หรอ”
“ก็คงไปแขวนไว้ที่หน้าต่างริมห้องล่ะมั้ง ที่หน้าต่างห้องฉันมีลมพัดผ่านตลอดเวลาและเท่าที่ดูนะเสียงของกระดิ่งอันนี้ก็มีเสียงที่เพราะมากทีเดียว”
“ก็แล้วแต่สิ ถ้าอยากได้ก็ซื้อเอา มันไม่ต่างจากอันเดิมไม่ใช่หรอ”
“รู้แล้วนะ ไม่ขอร้องซาเลนเดอร์หรอก”เอรินเนียพูดพร้อมแลบลิ้นใส่ซาเลนเดอร์ก่อนจะเดินไปหาเจ้าของร้านพร้อมกับจ่ายเงินโดยไม่สนใจชายหนุ่มที่ตนพูดด้วยเมื่อกี้พยายามกลั้นหัวเราะขนาดไหน...
“แซ็ค...นายว่าอันนี้ดีไหม น่ารักหรือเปล่า”การ์เน็ตถามขึ้นพร้อมกับยกของที่ตนถามขึ้นมาให้คนถามดูได้ถนัดๆ
“ก็ดี
”
“งันหรอ ฉันว่ามันธรรมดาไปนะ นายคิดเหมือนอย่างฉันไหม แซ็ค”
“...” แซ็คนิ่งเงียบไม่ตอบทำให้การ์เน็ตเงยหน้าขึ้นมาจากของตรงหน้าหมามองชายหนุ่ม
“เป็นอะไรหรือเปล่า แซ็ค...”การ์เน็ตถามพร้อมกับมองไปตามสายตาของแซ็คก็เห็นเอรินเนียกำลังหัวเราะกับซาเลนเดอร์อย่างสนุกสนาน
“ทะเลาะกับเอรินเนียหรอ”การ์เน็ตถามเสียงเรียบถ้าเป็นปกติแซ็คจะรู้ในทันทีว่าน้ำเสียงนี้แปลกไปเหมือนกับพยายามทำใจในเรื่องอะไรบางอย่าง
“เปล่า...”
“แต่การกระทำนายบอกว่าใช่...”
“อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย ที่เรามาที่นี่เพื่อมาเที่ยวไม่ใช่หรอ”
“ใช่และฉันก็หวังว่ามันจะเป็นการเที่ยวที่ดีและฉันก็คงมีความสุข...”
แซ็คหันมามองหน้าการ์เน็ตก่อนจะนิ่งสนใจของที่อยู่ตรงหน้าตนและการ์เน็ต
“เอาล่ะ ทุกคนซื้อของกันเสร็จแล้วใช่ไหม งันไปร้านอื่นต่อกันนะ”
ซาราซ่าถามพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนสดใส ทุกคนพยักหน้าแต่ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติของหญิงสาวเอรินเนียนอกจากชายหนุ่มที่นามว่าแซ็คแต่เจ้าตัวก็ไม่พูดอะไรพร้อมกับเดินต่อไปจนกระทั่ง
“ร้านขายเสื้อผ้าล่ะ การ์เน็ต, ซาราซ่า, เอรินเนียเข้ากันนะ ส่วนพวกผู้ชายรออยู่ข้างนอกล่ะ”
“ทำไมล่ะ”เมเลนถามอย่างสงสัย
“นี่มันร้านขายเสื้อผ้าของผู้หญิงนะ พวกผู้ชายจะเข้าไปทำไม”ฟรีย่าถามอย่างโมโห
“แต่ข้างนอกคนมันเยอะนี่ เธอจะให้ฉันนั่งเฉยๆเนี่ยนะ ไม่เอาหรอก”
“อะไรกันล่ะ นี่มันร้านเสื้อผ้าของผู้หญิงนะ ผู้ชายจะเข้ามาทำไม”
ในขณะที่เมเลนจะเปิดปากเถียงกันอีกครั้งนั้นเสียงของเอรินเนียก็ดังขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ดูแปลกไปแต่ไม่มีใครสนใจนอกจากแซ็คและซาเลนเดอร์
“ให้พวกเค้าเข้าไปเถอะจ๊ะ ฟรีย่า ข้างนอกคนมันเยอะนะ ให้ไปนั่งรอข้างในดีกว่านะ” ฟรีย่าพยักหน้าอย่างจำยอมแล้วคนทั้งหมดก็เดินเข้าไปในร้าน
“ว้าว เอรินเนียชุดนี่น่ารักมากเลยเหมาะสมกับเธอมากเลยนะ”
“ใช่ น่ารักมากเลยล่ะ”
“ใส่หน่อยนะ เอรินเนีย” เอรินเนียยิ้มๆพลางส่ายหน้า สามคนจึงพยายามเกลี่ยกล่อมเอรินเนียให้ใส่ชุดนี้แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธจนฝ่ายชายทนไม่ไหวจึงต้องเกลี่ยกลอมเอรินเนียจนยอมใส่พร้อมกับเดินออกมาให้เพื่อนๆในกลุ่มดู เสื้อสีขาวสวยมีลายลูกไม้ประดับเล็กน้อยพองามกระโปรงบานสีขาวมีลูกประดับตรงขอบชาย ผมสีทองตรงสลวยถูกมัดครึ่งติดกิ๊บด้วยลายดอกไม้สวยส่งผลให้เอรินเนียดูเป็นสาวหวานมากกว่าที่เคยเป็น ชายหนุ่มที่รอดูหญิงสาวอยู่นั้นตกตะลึงในทันทีที่เห็น
“ว้าว สวยจังเลย เอรินเนีย สวยมากๆเลย”ฟรีย่าพูดอย่างชื่นชม
“เอรินเนีย สวยมากเลยนะ”ซาราซ่าพูดอย่างภูมิใจ
“สวยมากเลย เอรินเนีย ถ้าไม่เห็นกับตาก็คงไม่เชื่อว่าจะสวยมากขนาดนี้” เอรินเนียยิ้มแต่ไม่ยอมพูดอะไร
“แซ็ค นายว่าไง”
“...ก็สวยดี” เอรินเนียตั้งใจจะเดินกลับไปทางเดิมแต่แล้วก็ฟุบตัวลงกับพื้น แซ็คและซาเลนเดอร์วิ่งตรงเข้าไปหาเอรินเนียในทันที
“เกิดอะไรขึ้น เอรินเนีย” ซาเลนเดอร์ถามอย่างเป็นห่วง
“เป็นอะไรไป เอริน” แซ็คถามด้วยสีหน้ากังวลใจ
“ฉันเวียนหัวมากเลย แซ็ค ฉัน...”เอรินเนียหยุดคำพูดไว้นั้น แซ็คจับหน้าผากเอรินเนียพร้อมกับอุ้มเอรินเนียไปวางไว้บนโซฟา มือของแซ็คแตะที่หน้าผากของเอรินเนียพร้อมกับมานั่งข้างๆเอรินเนียแล้วถามว่า
“เอริน เธอเป็นอะไรหรือเปล่า”เอรินเนียส่ายหน้าพร้อมกับพูดว่า
“ฉันรู้สึกเวียนหัวเหมือนกับว่ามีพลังอะไรเรียกพลังเวทย์ในตัวฉันให้ฉันไป...ไปที่ไหนสักแห่ง”
เมื่อเอรินเนียพูดจบแซ็คก็จับมือเอรินเนียตั้งสมาธิร่ายเวทย์บางอย่าง
“ฉันถ่ายทอดพลังให้เอรินบางส่วน ขาดว่าพลังของเอรินเนียกำลังเปลี่ยนแปลงไปเพราะถูกพลังอะไรบางอย่างเรียก...”
“แล้วพลังอะไรบางอย่างที่เรียกล่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน ให้เอรินนอนพักหน่อยก็แล้วกันนะ” ทุกคนพยักหน้าพร้อมกับสฟิเนอร์ถามว่า
“ทำไมนายถึงเรียกเอรินเนียว่าเอรินล่ะ”
“นั้นคือชื่อนางจริงๆแต่ให้คนที่สนิทจริงๆเท่านั้นถึงให้เรียกถ้าไม่สนิทจริงจึงอย่าหวัง”
“อย่างนี้ก็มีนายคนเดียวสิที่เรียกได้” แซ็คพยักหน้าพร้อมพูดว่า
“แค่ตอนนี้นะ...”
“หมายความว่าไง ? ”
“เดี๋ยวสักวันก็คงจะรู้เอง...” แซ็คตอบอย่างไม่สนใจและถามว่าหญิงสาวที่นอนอยู่ว่า
“เป็นอย่างไงบ้าง เอรินเนีย”
“ดีขึ้นแล้ว ขอโทษนะที่ทำให้ทุกคนเป็นกังวล”
“เป็นเพื่อนกันถ้าไม่ห่วงเพื่อนแล้วจะให้ไปห่วงใครจ๊ะ”ซาราซ่าพูดพร้อมรอยยิ้ม
“ใช่แล้วล่ะ อย่าคิดมากไปเลยนะ”ฟรีย่าเสริมอีกคน
“ถ้าไม่สบายน่าจะบอกกันนะ”ซาเลนเดอร์พูดขึ้นอย่างเป็นห่วงสร้างความแปลกใจให้กับคนอีก 5 คนในทันที
เอรินเนียเพียงส่งยิ้มแต่ไม่พูดอะไรจนกระทั่งแซ็คพูดว่า
“จะนอนพักอีกสักหน่อยดีกว่าไหม”เอรินเนียส่ายหน้าพร้อมกับแซ็คเอามือมาแตะหน้าผากเอรินเนียและพูดว่า
“งันฉันร่ายเวทย์ให้เธอก่อนนะ เอริน” เอรินเนียส่งยิ้มให้เหมือนกับเป็นการขอบคุณ
“ถ้าคราวหน้าเป็นแบบนี้อีกล่ะก็จะทำโทษ”แซ็คพูดพลางยิ้มน้อยๆ เอรินเนียพยักหน้าพร้อมกับหลับตาลงในทันที แซ็คนั่งลงข้างเอรินเนียได้สักพักก็ถามว่า
“ดีขึ้นไหม”เอรินเนียพยักหน้าก่อนจะพูดว่า
“พวกเราไปเที่ยวเมืองกันต่อเถอะนะ”ทุกคนพยักหน้าก่อนจะทยอยเดินออกไป
เมื่อมาถึงในบริเวณงานเทศกาล ผู้คนพลุกพล่านต่างเดินกันไปทั่ว ทุกคนต่างส่งยิ้มให้กันอย่างร่าเริงสดใส เอรินเนียทิ้งเพื่อนที่มาด้วยกันแล้วแยกออกมาเดินเล่นเพียงคนเดียว หญิงสาวเดินไปยังที่ภูเขาสูงแห่งหนึ่ง ที่นั้นมีผู้คนจำนวนไม่น้อยยืนกันอยู่ หญิงสาวเดินไปใกล้ๆจนกระทั่งลมพายุที่โหมกระหน่ำพัดมาอย่างรุนแรงสามารถกวาดผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นได้อย่างราบคาบ
เอรินเนียเบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนจะรีบตรงไปพยายามช่วยคนกลุ่มนั้นแต่ผลมันออกมากับตรงกันข้ามคือ เอรินเนียถูกลมพายุนั้นหมุนวนเข้าไปด้วย เอรินเนียและผู้คนที่อยู่ที่นั้นกำลังจะแย่เพราะลมพายุนั้นสามารถทำให้คนที่อยู่ในพายุนั้นตายได้ แต่ในขณะที่พายุนั้นจะฆ่าชีวิตของทุกคนที่อยู่บริเวณนี้ แสงสีเงินก็ส่องแสงสว่างจ้าช่วยชีวิตทุกคนที่อยู่ในพายุนั้นได้อย่างปลอดภัยพร้อมกับพายุอันนั้นก็สลายตัวไป ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดพายุนี้รีบตรงมาหาพลางช่วยคนที่ถูกพายุกลืนเข้าไป
ในทันที แซ็ค เองก็เป็น 1 ในนั้นที่วิ่งมาดูก็เจอกับหญิงสาวผมสีทองที่กำลังยืนโซซัดโซเซ แซ็ครีบวิ่งตรงเข้าไปหาหญิงสาวพร้อมกับหญิงสาวสลบไม่ได้สติโดยที่แซ็ครับร่างของหญิงสาวไว้ก่อนจะมองคนอื่นๆก็พบว่ามีอาการไม่ต่างกับหญิงสาวก่อนจะเดินอุ้มร่างของหญิงสาวออกไป...
ร่างของหญิงสาวที่นอนสลบอยู่บนเตียงโดยมีร่างของคนอีก 6 คนคอยมองดูอยู่อย่างเป็นกังวล เพียงสักพักดวงตาของหญิงสาวก็เปิดขึ้นอย่างช้าๆพร้อมกับพูดด้วยท่าทางที่เคร่งเครียดบวกกับกังวลใจไม่น้อยว่า
“อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของโนเร็คทาวน์ปรากฏตัวขึ้นแล้ว...”เมื่อหญิงสาวพูดจบก็สลบไปอีกครั้งในทันทีทิ้งให้ทุกคนกังวลใจก่อนจะเดินออกไปอย่างเป็นห่วงเล็กน้อย
เช้าวันรุ่งขึ้น
ร่างของชายหนุ่มเดินเข้ามาร่างของหญิงสาวถึงในห้องก่อนจะเอามืออังหน้าผากของหญิงสาวจึงพบว่าไม่มีไข้ก่อนที่จะตัดสินใจปลุกหญิงสาวให้ตื่นขึ้นมา หญิงสาวตื่นขึ้นมาก่อนที่จะพูดว่า
“สวัสดี”
“สวัสดี อาการเป็นยังไงบ้าง เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น เธอถึงได้สลบไปแบบนี้”เอรินเนียยิ้มก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆว่า
“ก็เหมือนที่พูดไปเหมือนเมื่อวานนั้นแหละ”
“อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของโนเร็คทาวน์ปรากฏตัวแล้วงันหรอ”เอรินเนียพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“ใช่ อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของโนเร็คทาวน์ปรากฏตัวขึ้นเมื่อวานนี้...กระดิ่งแห่งสายลม...กระดิ่งในตำนานที่สามารถเรียกและควบคุมพลังเวทย์แห่งสายลมทั้งมวล...”
“แล้วมันอยู่กับใครเธอรู้ไหม”เอรินเนียส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า
“เมื่อวานเป็นเทศกาลสำคัญของโนเร็คทาวน์ ผู้คนส่วนใหญ่จะพกกระดิ่งติดตัว ดังนั้นฉันจึงไม่อาจจะเดาได้ว่าใครเป็นคนครอบครองอาวุธศักดิ์สิทธิ์นั้น”
“แล้ว...คนที่ได้ครอบครองอาวุธศักดิ์สิทธิ์นั้นรู้ตัวหรือเปล่าว่าได้ครอบครองอาวุธสำคัญของโนเร็คทาวน์”
เอรินเนียทำหน้านิ่งนิดหนึ่งก่อนจะพูดว่า
“เอ่อ...ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ ว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนั้นจะมีการทดสอบความสามารถหรืออะไรอีกหรือเปล่า”
แซ็คพยักหน้าก่อนจะพูดว่า
“อื้อ...เราอย่าคิดเรื่องนี้เลย นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาที่เธอจะต้องไปเรียนแล้วนะ”เอรินเนียพยักหน้าก่อนจะเดินไปอาบน้ำพร้อมกับแซ็ค เดินออกจากห้องของหญิงสาว...
**จบ**
ตอนนี้ก็จบลงแล้ว^^ ช่วงนี้เราจะลงเรื่องนี้ให้ช้าน้อยนะค่ะ เพราะว่าเรายังพิมพ์ไม่เสร็จเลยอ่ะ ตอนนี้ขอบอกค่ะว่า เรื่องนี้มีคนตายแน่ๆแล้ว 3 คนค่ะ >_< เพิ่มมาอีกคนหนึ่งหลังจากที่บอกว่าในเรื่องนี้มีคนตายแน่ๆ 2 คนค่ะ ส่วนในตอนหน้าก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นตอนเกี่ยวกับอะไรเลยค่ะ - _- ยังไงก็ลองอ่านต่อไปดูนะค่ะ ^^
ปล.ขอบคุณทุกท่านที่อ่านนิยายเรื่องนี้ค่ะ^^ ถึงแม้ว่าเราจะเป็นนักเขียนมือใหม่ที่ไม่ได้เรื่องและก็เปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องบ่อยมาก^^ จนคนอ่านก็อาจจะเบื่อและรำคาญเลยก็ได้ แต่อย่างไงก็ขอขอบคุณอีกทีนะค่ะที่อ่านนิยายเรื่องนี้^^
ความคิดเห็น