คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : โรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์กับการทดสอบที่ 1
ตอนนี้ก็มีการแก้ไขไปบาง ก็เป็นตอนที่เราพิมพ์ใหม่ให้มันดีขึ้น ลองอ่านดูล่ะกันนะค่ะ ว่ามันจะดีขึ้นบางไหม เราเอามาลงให้เนื่องจากมีวันหยุด
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ท่ามกลางท้องฟ้าที่ดูสดใส เอรินเนียกำลังมองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอยพร้อมกับรอคอยเพื่ออีก 2 คนที่ยังไม่ยอมตื่น หญิงสาวเหม่อมองสักพักชายหนุ่มผมสีดำก็ออกมาจากที่พักของตนอย่างเงียบๆพร้อมกับทักทายหญิงสาวให้ตื่นจากความคิดทั้งปวงว่า
“หวัดดี เอรินเนีย เมื่อคืนนอนหลับสบายไหม”เอรินเนียเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความแปลกใจที่ชายหนุ่มตรงหน้าก็พูดถามคนอื่นเป็นเหมือนกันก่อนจะตอบพร้อมรอยยิ้มว่า
“อื้อ...ก็ดี แล้วสฟิเนอร์ล่ะ”
“ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร”สฟิเนอร์ตอบพร้อมกับมานั่งลงข้างๆเอรินเนียพร้อมกับถามต่อด้วยความสงสัยว่า
“เอรินเนียกับแซ็ครู้จักกันตอนไหนหรอ”เอรินเนียยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า
“ตอนเด็กๆนะ บังเอิญเจอกับแซ็คก็เลยรู้จักกัน”
“อย่างนั้นหรอ”
“อือ แล้วสฟิเนอร์ล่ะรู้จักกับเมเลนตอนไหน”สฟิเนอร์ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า
“ก็ไม่นานนัก”
“หรอ แต่ดูแล้วเหมือนรู้จักกันมานานเลยนะ”
“...”สฟิเนอร์นิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะถามว่า
“แล้วแซ็คล่ะ ตอนนี้อยู่ไหน”
“...กลับไปแล้วล่ะ”
เอรินเนียพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา สฟิเนอร์หันมามองหน้าเอรินเนียตรงๆเป็นครั้งแรกพลางฟังเสียงของหญิงสาวพูดต่อไป
“แซ็คเค้าต้องกลับไปทำงานที่ทำไม่เรียบร้อยให้เสร็จสมบูรณ์นะ”เอรินเนียพูดพร้อมกับฝืนยิ้มส่งไปให้สฟิเนอร์ สฟิเนอร์ก้มหน้าคิดนิดหนึ่งก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า
“สำหรับเธอแล้วแซ็คเป็นอะไรสำหรับเธอ...” เมื่อเอรินเนียฟังคำถามแล้วถึงกับอึ้งเพราะความรู้สึกบางอย่างที่ตนยังไม่ค่อยมั่นใจนักเป็นคำถามของตนอยู่เสมอดังนั้นเมื่อหญิงสาวเจอคำถามนี้หญิงสาวจึงถือว่าเป็นคำถามที่ทิ่มแทงใจเธอที่สุด หญิงสาวนิ่งเงียบไปสักพักเหมือนกับตรึกตรองความรู้สึกอะไรบางอย่างภายในใจก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า
“สำหรับฉัน...แซ็คคือเพื่อนสมัยเด็ก...เป็นคนที่สำคัญในเมืองที่ฉันอาศัยอยู่...และสักวันฉันก็อาจจะรู้ก็ได้นะว่าแซ็คก็คือคนสำคัญของฉันจริงๆไม่ใช่แค่คนอื่นที่แค่รู้จักกัน”
“...เธอคิดอย่างนั้นหรอ”
“ไม่รู้สิ ความรู้สึกนี้สำหรับฉันมันยังไม่แน่ใจนักแต่ฉันคิดว่าสักวันฉันคงจะรู้แน่นอน”
เอรินเนียพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มมาให้สฟิเนอร์พร้อมกับเมเลนเดินมาหา
“หวัดดีเอรินเนีย”
“หวัดดีจ๊ะ จะออกเดินทางกันเลยไหม”
“จะไม่กินอะไรก่อนหรอ”เอรินเนียยิ้มก่อนจะส่ายหน้าและพูดว่า
“ไม่ล่ะจ๊ะ แต่อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกแซ็คนะ ไม่งั้นแซ็คต้องโกรธแน่ๆเลย”
“เวลาแซ็คโกรธน่ากลัวหรอ”สฟิเนอร์ถามด้วยความสงสัย
“อื้อ น่ากลัวมาก ใครก็ห้ามไม่อยู่หรอก”
“ฉันว่าพวกเรารีบไปกันเถอะ เห็นว่าจะมีการทดสอบกันอีกนี่”สฟิเนอร์พูดน้ำเสียงที่ราบเรียบ เอรินเนียยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าและพูดว่า
“พวกเราไปกันเถอะ”ทั้ง 3 ก็เดินมุ่งตรงไปข้างหน้าไปโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์
--หน้าโรงเรียนเวทย์ในโนเร็คทาวน์--
เมื่อพวกเค้าสามคนเข้าไปก็ต้องตื่นตะลึงกับภาพตรงหน้า ข้างหน้ามีผู้คนมากมายเดินไปมาเต็มไปหมดแต่ส่วนใหญ่ก็คงจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับพวกเค้าทั้งนั้น ในทางข้างหน้าของพวกเค้าเห็นหอสีขาวอยู่และหอสีดำอยู่ไกลๆและหอทั้งสองนั้นอยู่ตรงข้ามกันราวกับว่าหอทั้ง 2 นั้นไม่สามารถอยู่รวมกันได้บริเวณรอบข้างตัวพวกเค้านั้นเต็มไปด้วยใบไม้สีเขียวอ่อนที่ดูสวยงามและมีลานน้ำพุอยู่
ทั้ง 3 มองภาพข้างหน้าอย่างตกตะลึงในความสวยงามแห่งที่แห่งนี้ พวก 3เงียบกันสักพักใหญ่และเอรินเนียก็เป็นคนทำลายความเงียบนี้ด้วยน้ำเสียงที่น่ารักเหมือนเด็กน้อยๆว่า
“คนเยอะจังเลยนะ เมเลน สฟิเนอร์ คนเยอะอย่างนี้ทุกปีไหมนะ”เอรินเนียพูดอย่างกับเด็กๆที่ได้ออกมาเที่ยวเล่นข้างนอกเป็นครั้งแรกทำให้สฟิเนอร์มองเอรินเนียด้วยสายตาที่อ่อนโยนเป็นครั้งแรกก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนกว่าปกติว่า
"มันก็เยอะอย่างนี้ทุกปีแหละ"
"อย่างนั้นหรอ"
เอรินเนียพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินไปดูลานน้ำพุแล้วร่ายเวทย์อะไรสักอย่างพร้อมกับน้ำที่กระจายขึ้นมาเป็นสายรุ้งแสนสวยบริเวณลานน้ำพุพร้อมกับเมเลนเดินไปที่เช่ารถเพื่อเข้าไปด้านในโรงเรียนเวทย์เอรินเนียส่งยิ้มให้กับสฟิเนอร์พร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับดีดนิ้วสายรุ้งที่สวยงามานั้นก็หายไป เอรินเนียหันมามองคนที่ทำลายสายรุ้งของเธอด้วยสายตาที่สงบนิ่ง ก่อนที่ชายคนนั้นจะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า
“โรงเรียนเราไม่ได้มีไว้ให้นักเรียนร่ายเวทย์เล่นๆแต่โรงเรียนของเราต้องการที่จะให้นักเรียนได้รับความรู้ซึ่งสามารถไปต่อกรหรือสามารถนำไปใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันได้”
“แล้วท่านคิดว่าพวกเราควรจะร่ายเวทย์ไปทำอะไรในชีวิตประจำวันล่ะ”เอรินเนียถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ก็อย่างเช่นความวุ่นวายของเอเลเบเลียน...”ชายแก่คนนั้นเว้นจังหวะให้เอรินเนียคิดเรื่องอะไรบางอย่างอย่างละเอียดถี่ถ้วน
“แล้วท่านคิดว่ายังไงล่ะถ้าสมมุติเอเลเบเลียนจะหายสาบสูญเหมือนกับเมืองเมอริไนท์ที่หายสาบสูญในปัจจุบัน”
“ข้าไม่คิดเช่นไรเพราะข้าคิดว่าไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถหลีกผลชะตากรรมได้”
“ท่านคิดเช่นนั้นจริงๆหรอ”
“ใช่...ข้าคิดเช่นนั้น”เอรินเนียนิ่งเงียบไม่พูดอะไรพร้อมกับชายแก่คนนั้นก็พูดว่า
“ขอทราบชื่อของพวกเจ้าด้วยเพราะพวกเจ้าน่าจะมีความคิดที่น่าสนใจดี”เอรินเนียมองหน้าสฟิเนอร์ก่อนที่สฟิเนอร์จะพยักหน้าและโค้งตัวเล็กน้อยให้แก่ชายคนนั้นพลางพูดว่า
“สฟิเนอร์ อาร์ทแกลล์ จากเอเทแกลล์ครับ”เอรินเนียถอนส่ายบัวเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า
“เอรินเนีย เสเวเลซ จากสิเรียเนียค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักพวกเจ้า พวกเจ้าควรจะไปข้างในโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์ได้แล้วเพราะอีกไม่นานนักการทดสอบก็คงจะเริ่มขึ้น”
“ขอบคุณค่ะ”ชายแก่คนนั้นยิ้มก่อนจะหันมาพูดกับเอรินเนียว่า
“หวังว่าจะเจอกันใหม่นะ...เอรินเนีย”เมื่อพูดจบชายคนนั้นก็หันมาหาสฟิเนอร์และพูดว่า
“ข้าหวังว่าจะเจอเจ้าเช่นกัน...สฟิเนอร์ การทดสอบครั้งนี้น่าจะสนุกจริงๆ”
เมื่อพูดจบชายแก่คนนั้นก็หายไป สฟิเนอร์เบิกตากว้างด้วยความสงสัยที่ชายคนนั้นพูดแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักพร้อมกับเมเลนเดินมาหาพร้อมกับเดินไปขึ้นรถไปข้างในโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์...
--ภายในโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์--
เมื่อพวกเค้าทั้ง 3 คนมาถึงสิ่งแรกที่เจอก็คือผู้คนมากมายที่อาศัยอยู่บริเวณลานกว้าง ฝั่งหนึ่งมีหอสีขาวส่วนอีกฝั่งหนึ่งมีหอสีดำอยู่ในลักษณะตรงกันข้ามแต่ว่าก็มีสถานที่แห่งนี้เป็นตัวเชื่อมหอทั้ง 2 หอนี้เอาไว้ผู้คนในบริเวณนี้ต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนานบางก็ทำความรู้จักกับคนอื่นไปทั่ว
พวกเค้าทั้ง 3 คนยืนอยู่บริเวณหนึ่งในลานกว้างแต่ต่างฝ่ายต่างยังไม่คิดที่จะคุยกันเพียงสักพักร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่รุ่นราวคราวเดียวกันก็เดินมาทำความรู้จักกับเอรินเนีย...
“สวัสดีจ๊ะ เธอมาสอบที่นี่ด้วยใช่ไหม”หญิงสาวคนนั้นถามเอรินเนียด้วยความสุภาพก่อนที่เอรินเนียจะพูดว่า
“จ๊ะ ส่วนใหญ่มีแต่คนที่จะเข้ามาที่นี่นะ”เอรินเนียตอบพร้อมส่งรอยยิ้มไปให้
“ก็ใช่นะสิที่นี่นะเป็นโรงเรียนเวทย์ที่ดีที่สุดในเมืองทั้งหมดเลยนะ”
“ที่นี่ได้สมญานามว่า “เมืองแห่งความรู้”คนก็เลยเยอะเป็นเรื่องธรรมดา”เมเลนพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
“ใช่ จริงสิพวกเธอชื่ออะไรกันบ้างล่ะ ฉันฟรีย่า เอเบอร์เลนซ์ จากโนเร็คทาวน์จ๊ะ”เอรินเนียยิ้มก่อนจะแนะนำตัวเองว่า
“ฉันเอรินเนีย เสเวเลซ จากสิเรียเนียจ๊ะ”
“เมเลน เบเรส เอเทแกลล์”
“สฟิเนอร์ อาร์ทแกลล์ จากเอเทแกลล์”
“พวกเธอมาด้วยกันอย่างนั้นหรอ”เอรินเนียพยักหน้าพร้อมกับฟรีย่าถามต่อว่า
“แต่ว่ามาจากคนละเมืองนี่นะ”เอรินเนียก็พยักหน้าอีก ฟรีย่าถอนหายใจก่อนจะพูดว่า
“ช่างเถอะ อ๊ะ มีคนมาแล้วล่ะนะ”ฟรีย่าพูดพลางหันไปมองหญิงสาวคนหนึ่งที่ปรากฏขึ้นมา หญิงสาวคนนั้นส่งยิ้มให้ทุกคนก่อนจะพูดว่า
“สวัสดีทุกคนที่คิดจะเข้ามาโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์ ทุกคนต่างก็มีจุดประสงค์ที่จะเข้าเรียนที่นี่เพราะที่นี่เป็นโรงเรียนเวทย์เมืองที่ได้ขนานนามว่า“เมืองแห่งความรู้”ดังนั้นจึงมีคนที่จะเข้าเรียนโรงเรียนเวทย์แห่งนี้มากจึงขอบอกกฎข้อบังคับของโรงเรียนเสียก่อนเพื่อจะมีใครที่ทนกับกฎโรงเรียนของเราไม่ได้ก็สามารถออกจากที่นี่ไปได้เลย...”พอพูดจบกระดาษจำนวนมากก็ปลิววอนไปทั่วและอยู่ในมือของทุกคน เอรินเนียรับมาพลางอ่าน
กฎของโรงเรียนโนเร็คทาวน์ 1. ต้องเข้าเรียนทุกวันยกเว้นไม่สบายหรือมีเหตุผลอื่นๆที่จำเป็นจริงๆแต่ต้องบอกท่านผู้อำนวยการและรอรับการพิจารณาว่าท่านผู้อำนวยการจะอนุญาตหรือไม่ 2. ห้ามทำลายข้าวของของโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์เสียหาย 3. ห้ามว่า(ด่า)หรือทำร้ายมาสเตอร์ที่สอนเด็ดขาด 4. ห้ามทะเลาะกันโดยใช้เวทย์ถ้าฝ่าฝืนจะถูกหัวหน้าหอหรือผู้ช่วยหัวหน้าหอลงโทษรุนแรงที่สุดได้โดยไม่มีการร้องขอลดโทษใดๆ 5. เวลาที่จะออกนอกโรงเรียนทุกครั้งจะต้องลงชื่อหรือบอกหัวหน้าหอและมาสเตอร์ทุกครั้ง การทดสอบของโรงเรียนเวทย์จะมีการทดสอบ 2 ครั้ง ครั้งแรกจะเป็นการทดสอบคนที่จะได้เข้าโรงเรียนเวทย์โนเร็คทาวน์ การทดสอบครั้งที่ 2 เป็นการทดสอบเพื่อคัดเลือกว่าใครอยู่ที่ห้องไหนและห้องอะไร |
“นี่คือกฎระเบียบของโรงเรียนเวทย์ของเรามีใครที่ยอมรับกฎนี้ไม่ได้หรือเปล่าถ้ามีก็สามารถเดินออกไปได้เลย...”ทุกคนนิ่งไม่ขยับตัวเหมือนกับยอมรับกฎพวกนี้ได้พร้อมกับผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าอย่างพอใจและพูดว่า
“ดี...เนื่องจากจำนวนคนที่มาสมัครเยอะมากและโรงเรียนเรามีการวัดความสามารถ...ดังนั้นจึงได้มีการทดสอบขึ้น
และในการทดสอบครั้งที่ 1นั้นเป็นการทดสอบที่ง่ายๆไม่ยากก็คือจะให้ทุกคนเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่งและ
สถานที่แห่งนั้นจะมีสิ่งของมากมายเลยทีเดียวให้ทุกคนเลือกเอาว่าอยากได้อะไร ชอบอะไรแล้วเอาออกมาให้มาสเตอร์ดู...ซึ่งสิ่งของที่พวกเธอจะหยิบออกมานั้นจะมีแค่ชิ้นเดียวมากกว่านั้นหรืออาจจะไม่หยิบอะไรออกมาเลยก็ได้นั้นก็เป็นสิทธิ์ของเธอ...ขอแนะนำว่าการทดสอบนี้ขอให้หยิบมันออกมาด้วยความรู้สึกไม่ใช่แค่ความเป็นไปได้ของหัวสมองว่าสิ่งนี้น่าจะสามารถให้เราผ่านการทดสอบได้...ตอนกลางคืนของวันนี้จะเป็นการทดสอบครั้งที่1
ส่วนผลจะออกในทันทีที่เธอนำของออกมาให้มาสเตอร์ดูซึ่งจะเป็นการคัดเลือกคนที่ผ่านกับไม่ผ่านส่วนคนที่ไม่ผ่านนั้นก็ขอให้กลับบ้านไปได้เลยนะ ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ตอนกลางคืนนี้เจอกันใหม่ที่ตรงนี้ล่ะ...อ๋อ ลืมบอกไปว่า ปีการศึกษาของพวกเธอจะมีการเลือกหัวหน้าหอ ผู้ช่วยหัวหน้าหอและคณะกรรมการนักเรียนก็ขอให้พวกเธอ
ลองมองๆเพื่อนของพวกเธอดูว่าใครเก่งและมีฝีมือมากกว่ากัน เพราะว่าคนกลุ่มนี้อาจจะมีสิทธิ์จัดการกับพวกรุ่นพี่ของพวกเธอดังนั้นก็ขอให้เป็นคนที่มีฝีมือและมีความรับผิดชอบสักหน่อยล่ะกัน ขอให้ทุกคนโชคดีในการทดสอบที่1...”
เมื่อหญิงสาวคนนั้นพูดจบร่างของหญิงสาวคนนั้นก็หายไป ฟรีย่าหันมามองเอรินเนียก่อนจะพูดว่า
“คิดว่ายังไงเอรินเนีย”
“ไม่รู้สิ มาสเตอร์ให้คำแนะนำมาก็ควรจะรับฟังและปฏิบัติตามนี่จริงไหม”
“ฉันก็เห็นด้วยกับเอรินเนียนะเพราะว่ามันน่าจะเป็นการคัดเลือกที่จิตใจอะไรหรือเปล่า”เมเลนพูด
“ฉันว่าไม่...น่าจะเป็นการคัดเลือกคนที่พลังสายเลือดมากกว่า...”
“เดี๋ยวคืนนี้เราก็คงจะได้รู้...”เอรินเนียพูดพร้อมส่งรอยยิ้มให้ทุกคนก่อนจะเดินออกไป...
กลางคืน
ร่างของคนมากมายกำลังยืนออกันอยู่เพื่อรอที่จะเข้าทำการทดสอบต่างพูดคุยกันถึงสิ่งของที่จะอยู่ในที่นั้นบางคุยกันถึงเรื่องเกณฑ์การทดสอบการประเมินผลบาง เอรินเนีย สฟิเนอร์ เมเลนและฟรีย่าเดินเข้ามามองบริเวณรอบๆพร้อมกับฟรีย่าและเอรินเนียพูดพร้อมกันว่า
“รู้สึกว่าคนที่จะให้ทำการทดสอบยังไม่มานะ”ฟรีย่าและเอรินเนียหัวเราะเล็กน้อยก่อนที่เมเลนจะพูดว่า
“...น่าจะยังเข้าทำการทดสอบไม่ได้”
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”
“เพราะว่าพวกเค้ายังไม่มีรายชื่อใครเลยไม่ใช่หรอแล้วเค้าจะมาตัดสินใจกันยังไง”
“นั้นนะสิ...คงต้องคอยดูต่อไปล่ะนะ”เอรินเนียพูดพลางส่งยิ้มพร้อมกับร่างของหญิงสาวคนเดิมก็มาปรากฏตัวและพูดว่า
“เอาล่ะ นี่ก็ใกล้เวลาที่จะทำการทดสอบแล้ว ขอให้ทุกๆคนตามฉันมาได้เลย...”พูดเสร็จก็พาเดินออกมาตรงไปเรื่อยๆก็เจอกับถ้ำแห่งหนึ่งผู้หญิงคนนั้นก็หยุดลงพลางหันมามองตามคนที่เดินมาว่า
“ขอให้ทุกคนเข้าไปในสถานที่แห่งนี้และไปหยิบสิ่งของที่ตนคิดว่าชอบและเดินต่อไปเรื่อยๆจนเจอทางออกและนำสิ่งของที่พวกเธอเอาออกมานั้นให้มาสเตอร์ที่รออยู่ข้างนอกดูและมาสเตอร์จะบอกเธอเองมาเธอผ่านการ
ทดสอบนี้หรือไม่...ขอให้พวกเธอเข้าไปทีละคนนะ...และขอบอกไว้ก่อนว่าถึงแม้จะเดินเข้าไปเวลาไม่ต่างกันมาก
นักแต่ไม่ได้หมายความว่าเส้นทางที่พวกเธอจะเจอนั้นคือเส้นทางเดียวกัน ดังนั้นจึงขอให้พวกเธอเลิกหวังที่จะเจอกับเพื่อนของพวกเธอในทันทีและถึงแม้ว่าจะเจอสถานที่หรือเส้นทางเดียวกันก็ไม่มีสิทธิ์ที่พวกเธอจะได้เจอกับเพื่อนถึงแม้ว่าเพื่อนของพวกเธอจะอยู่ใกล้ๆกับเธอก็ตามเพราะเธอจะไม่สามารถเห็นเพื่อนของพวกเธอได้...สิ่งที่
พวกเธอจะได้เห็นก็มีแต่สิ่งของเพียงอย่างเดียวเท่านั้น...และถ้าพวกเธอสอบผ่านสิ่งของที่พวกเธอได้มานั้นพวก
เธอสามารถเอาไปได้เลย เอาล่ะ มาทำการทดสอบสักที ตั้งแถวและเข้าไปทีละคนเลย...”เมื่อหญิงสาวคนนี้พูดจบทุกคนก็เข้าแถวและค่อยๆทยอยเดินเข้าไป
พวกเอรินเนียเข้าแถวโดยมีสฟิเนอร์อยู่หน้าตามด้วยเมเลนฟรีย่าและเอรินเนียปิดท้ายเมื่อทุกคนเข้าไปหมดแล้วหญิงสาวคนนั้นก็พูดขึ้นว่า
“สิ่งของเหล่านั้นจะนำทางให้พวกเธอเอง...”
ด้านเอรินเนียที่เข้าไปแล้วนั้นก็เจอแต่ความมืด เอรินเนียแบบมืออกพร้อมกับสิ่งของวงกลมๆวงหนึ่งก็ส่องแสงคอยนำทางให้กับหญิงสาว เอรินเนียเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆพลางสังเกตดูรอบข้างอย่างเงียบๆ...
เอรินเนียเดินไปเรื่อยๆเจอสิ่งของบางอย่างบ้างแล้วแต่เธอก็ยังไม่คิดที่จะหยิบมันออกมาจากตรงนั้น เธอเดินไปได้สักพักเธอก็เจอสถานที่แห่งหนึ่งอยู่ข้างหน้ามันเป็นเหมือนสถานที่โบราณแห่งหนึ่ง ข้างๆมีคบเพลิงอยู่ 2 อันและ 2 บริเวณ หญิงสาวเดินไปใกล้ๆกับคบเพลิง2อันนั้นก่อนที่จะเลือกอันหนึ่งออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยพร้อมกับแสงของคบเพลิงก็ส่องจ้าเมื่อเอรินเนียสัมผัสมัน...พร้อมกับคิดในใจว่า...
ความจริงเธอไม่ต้องหยิบเจ้าคบเพลิงอันนี้มาก็ได้...แต่ทำไมนะเธอรู้สึกว่าเธอควรหยิบมันออกมา คบเพลิงที่พลิ้วไหวตลอดเวลานี้มีอะไรดีนะที่ทำให้เธอเลือกหยิบออกมาได้...เอรินเนียคิดอย่างสงสัยพร้อมกับเดินต่อไป...เธอเดินต่อไปเรื่อยๆเจอกับลำธารแห่งหนึ่งในนั้นมีอะไรบางอย่างที่ส่องแสงอยู่...มันเป็นเหมือนรูปผีเสื้อส่องแสงแวววาวกับอยู่ 2 ตัว...ผีเสื้อตัวหนึ่งมีสีฟ้าอยู่ใต้น้ำ...กับอีกตัวหนึ่งสีน้ำตาลอยู่ใต้น้ำ...
เอรินเนียเดินเข้าไปหาด้วยความสงสัยว่า ทำไมผีเสื้ออยู่ใต้น้ำได้แต่เมื่อไปถึงเอรินเนียก็ต้องตกใจสิ่งที่ตนเห็นนั้นเป็นร่างของผีเสื้อที่ตายแล้วนอนนิ่งอยู่ใต้พื้นน้ำ...เอรินเนียมองผีเสื้อพวกนั้นอยากสงสารก่อนจะหยิบเจ้าผีเสื้อตัวสีน้ำตาลออกมาจากสายน้ำนั้นพร้อมกับแสงจากตัวผีเสื้อนั้นก็เรืองแสงขึ้นจนมองไม่เห็นรูปร่างของผีเสื้อสักพักแสงนั้นก็มอแสงลงจนเห็นว่าในมือของตนนั้นที่วางผีเสื้อในมือของตนนั้นกลายเป็นกุญแจอะไรบางอย่าง
เอรินเนียมองอย่างสงสัยก่อนจะหันไปมองในน้ำที่เคยมีผีเสื้อ2 ตัวอยู่ หญิงสาวก็ขมวดคิ้วเพราะเกิดเรื่องน่าสงสัยคือผีเสื้อสีฟ้านั้นได้หายไปและไร้ร่องรอย เอรินเนียมองลำธารอย่างสงสัยก่อนจะเดินต่อไป...พลางมองเจ้า 2 สิ่งที่ตนหยิบออกมาด้วยความสงสัย เจ้า 2 สิ่งนี้มันมีประโยชน์อะไรกับเธอไหมนะ เธอจะสอบเข้าที่นี่ผ่านหรือเปล่า...ถ้าไม่ผ่านเธอจะทำอย่างไรดี...งานที่นี่เธอยังไม่ไดทำเลยถ้าเธอสอบเข้าที่นี่ไม่ได้
ก็เท่ากับเธอทำงานไม่สำเร็จ...และนี่ก็เป็นงานครั้งแรกนอกสถานที่เธอจะต้องทำให้สำเร็จให้ได้ หญิงสาวคิดในใจอย่างมุ่งมั่นพร้อมกับหูได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง...เสียงอะไรนะเอรินเนียถามในใจพร้อมกับเดินตามสียงนั้นไปจนกระทั่ง...เธอเจอกับกล่องหีบเพลงกับเครื่องดนตรีและเครื่องดนตรีชิ้นนั้นก็คือ พิณ...เอรินเนียรีบตรงไปหาเครื่องดนตรีชนิดนั้นในทันที...พิณ...ทำไมพิณถึงมาอยู่ที่นี่ได้...เครื่องดนตรีประเภทนี้ไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ได้...เอ
รินเนียคิดอย่างสงสัยแต่มือกลับไปเอื้อมไปหยิบพิณมาเมื่อพิณสัมผัสหับมือของเอรินเนีย พิณก็ส่องแสงจ้าเพียงสักพักแสงนั้นก็หายไปเอรินเนียมองพิณนั้นอย่างสงสัยพร้อมกับเก็บสิ่งของ 3 สิ่งนี้ไว้และเดินต่อไปเรื่อยๆเอรินเนียเดินต่อไปเรื่อยจนกรทั่งเจอแสงทางออกที่อยู่ข้างหน้าหญิงสาวเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆพร้อมกับถูกแสงนั้นกลืนหายออกไป...
เมื่อเอรินเนียออกมาจากแสงนั้นแล้วสิ่งแรกที่เอรินเนียเจอก็คือผู้คนมากมายที่ส่วนใหญ่ออกมาเกือบหมดแล้วทุกคนหันมามองหญิงสาวที่ออกมาจากแสงนั้นพร้อมกับฟังผลมากหญิงสาวคนนี้จะผ่านการทดสอบหรือไม่ เอรินเนียมองไปที่ผู้คนมากมายนั้นก่อนจะส่งยิ้มให้ทุกคน...
ซึ่งในนั้นมีสฟิเนอร์ เมเลนและฟรีย่ายืนรออยู่...เอรินเนียเดินไปหามาสเตอร์คนหนึ่งอย่างช้าๆและมาหยุดอยู่ข้างหน้ามาสเตอร์และทำความเคารพด้วยความสง่างามมาสเตอร์คนนั้นพยักหน้าก่อนจะพูดว่า
“บอกชื่อของเธอและบอกด้วยว่ามาจากไหน...”เอรินเนียยิ้มก่อนจะพูดว่า
“ดิฉันเอรินเนีย เสเวเลซ จากสิเรียเนียค่ะ”
มาสเตอร์คนนั้นพยักหน้าพร้อมกับตวัดมือวงกลมที่เรืองแสง 3 สิ่งก็ออกจากตัวของเอรินเนียไปหามาสเตอร์คนนั้น มาสเตอร์ดีดนิ้วหนึ่งครั้งพร้อมกับเจ้าวงกลม 3 อย่างนั้นก็เปลี่ยนเป็นคบเพลิงที่เคลื่อนไหวตลอดเวลา...กุญแจสีน้ำตาล...และเครื่องดนตรีพิณ...
เมื่อเจ้า 3 อย่างที่ปรากฏแก่สายตาของทุกคนแล้ว มาสเตอร์ทั้งหมดก็ตกใจในทันทีที่เห็นเครื่องดนตรีที่ชื่อว่าพิณพร้อมกับมาสเตอร์1ในนั้นหันมาถามเอรินเนียว่า
“เธอไปได้เครื่องดนตรีนี้มาจากไหน...แล้วเธอไปเจอพิณได้ยังไง”
“ก็ได้มาจากข้างในนั้นล่ะค่ะ...ก็บังเอิญได้ยินเสียงเพลงอะไรบางอย่างก็เลยตามเสียงเพลงนั้นไปและก็ไปเจอหีบเพลงกับพิณนี้ล่ะค่ะ และดิฉันก็เลยหยิบพิณมา”
“แล้วทำไมเธอถึงไม่หยิบหีบเพลงมาล่ะ”
“...ไม่รู้สิค่ะ...รู้แต่ว่าพอเจอพิณนี่แล้วมือก็เอื้อมไปหยิบพิณเองนะค่ะ”เมื่อเอรินเนียพูดจบมาสเตอร์ก็ฮือฮากันในทันทีบ้างกระซิบกระซาบกันอย่างตื่นเต้นบ้างบ้างไม่อยากเชื่อบ้างพวกนักเรียนที่มาเข้าสอบบ้างคนก็เป็นเช่นเดียวกับมาสเตอร์ที่กระซิบกระซาบกันจนเอรินเนียเริ่มทนไม่ไหว...ร่ายเวทย์สายฟ้า เสียงสายฟ้าร้องลั่นสนั่น ทุกคนจึงเงียบในทันที เอรินเนียจึงพูดขึ้นว่า
“ปากนะมีเอาไว้ให้ใช้ก็จจริงแต่ในเมื่อมีปากให้ใช้แล้วก็ช่วยพูดก็ช่วยพูดอะไรที่มันสร้างสรรค์ซะบ้างหัดสงสารคนอื่นที่โดนใส่ความสักหน่อย”เมื่อเอรินเนียพูดจบพวกที่กระซิบกระซาบหันมามองเอรินเนียด้วยสายตาที่ไม่พอใจบ้าง บางคนก็ทำหน้าสลดเมื่อนึกถึงข้อเท็จจริงนี้
“ท่านค่ะ...จะเอายังไงดีค่ะ”มาสเตอร์ที่อยู่หน้าเอรินเนียถามชายคนหนึ่ง...เอรินเนียหันไปมองตามสายตามาสเตอร์คนนั้นก็เจอกับชายคนเดิมที่พูดคุยกับพวกเธอเมื่อเช้า ชายคนนั้นยิ้มก่อนจะพูดว่า
“ก็ให้เธอผ่านไปสิ ถึงแม้ว่าพิณอันนี้จะมีเพียงอันเดียวในการทดสอบอันนี้ก็ตาม...”
“ค่ะ ท่าน...”มาสเตอร์คนนั้นรับคำพร้อมกับทำความเคารพชายคนนั้นก็หายไป
“เอรินเนีย เสเวเลซ ผ่านการทดสอบที่ 1”เมื่อมาสเตอร์พูดจบของ3 สิ่งนั้นก็กลายเป็นแสงวงกลมกลับไปหาเอรินเนียตามาเดิม เอรินเนียทำความเคารพมาสเตอร์คนนั้นเล็กน้อยก่อนที่เอรินเนียส่งยิ้มอย่างดีใจก่อนจะเดินไปหาสฟิเนอร์, เมเลนและฟรีย่า
“ดีใจด้วยนะที่สอบผ่าน”ฟรีย่าพูดพร้อมกับจับมือเอรินเนียไว้
“ขอบคุณจ๊ะ”เอรินเนียส่งยิ้มให้ฟรีย่าพร้อมกับหันมามองเมเลนและสฟิเนอร์
“ถ้าแซ็ครู้คงดีใจนะ...”สฟิเนอร์พูดพร้อมกับเมเลนพูดต่อว่า
“แซ็คฝากพวกเราดูแลเธอไว้นะเอรินเนีย ฉันกับสฟิเนอร์ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าเธอสอบไม่ผ่านจะทำยังไง”เอรินเนียยิ้มพร้อมกับฟรีย่าถามว่า
“แซ็คนี่ใครหรอ”เอรินเนียยิ้มก่อนจะตอบว่า
“เพื่อนนะจ๊ะ”เอรินเนียส่งยิ้มละไมดวงดาวบนท้องฟ้าพลางพูดในใจว่า
“อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนที่ดีๆอยู่ งานนี้น่าจะไม่ยากนักนะ...”
**จบ**
ความคิดเห็น