คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : การเที่ยวเมืองโนเร็คทาว์กับการปะทะคารมย์ของศัตรูแห่งความรัก
การเรียนในวันนี้ก็เหมือนกับวันแรกๆที่ผ่านมา การเรียนการเรียกพลังเวทย์ของตนเองโดยไม่ใช้จากพลังจากคทาช่วย ทำให้คนที่ว่าๆเก่งนั้นกลายมาเป็นคนที่ไม่เก่งได้หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่เก่งอยู่แล้วก็ยิ่งแย่ไปกว่าเดิม แต่ก็มีไม่กี่คนเท่านั้นที่รักษาความเก่งกาจให้ผู้คนในหอได้เห็นกัน
คนแรกก็คือ เอรินเนีย เสเวเลซ หญิงสาวที่ผ่านการทดสอบที่ยากที่สุดมาได้นั้นก็ยังคงความเก่งกาจเหมือนเคยโดยไม่มีใครสงสัยเพราะว่า คนที่ผ่านการทดสอบที่ยากที่สุดได้นั้นธรรมดาสักที่ไหน
แซคคาเรีย ซิเรียเบล ชายหนุ่มที่มีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าหอขาว ฝีมือการผ่านการทดสอบที่รวดเร็วนั้นไม่มีใครบอกก็รู้ว่าฝีมืออยู่ในระดับไหน
สฟิเนอร์อาร์ทแกลล์ มีศักดิ์เป็นถึงเจ้าชายของเอเทแกลล์* ฝีมือของเจ้าชายก็ควรจะใช่ย่อยซะที่ไหน เดี๋ยวคนอื่นเค้าจะดูถูกว่า เมืองนี้มีแต่คนไม่มีฝีมือ ใครจะไปยอม
(เมืองๆหนึ่งที่ได้ชื่อว่า “เมืองแห่งแสง” จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครมากนัก แต่ถ้ามีเรื่องเดือดร้อนคนในเมืองนี้ก็จะให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี พอๆกับสิเรียเนีย)
และซาเลนเดอร์ เคว็กชั่น ชายหนุ่มที่เงียบขรึมที่สุด ฝีมือเค้าอยู่ในระดับไหนใครๆก็รู้ดีเพราะว่าคนที่ช่วยคนที่ผ่านการทดสอบยากที่สุดได้อย่างเอรินเนียได้นั้น ก็ต้องจัดว่าฝีมือไม่ธรรมดาแต่ก็ไม่ได้ถือว่าเก่งกาจมากนักในสายตาของคนทั่วไปเมื่อเทียบกับแซคคาเรีย ซิเรียเบล
ส่วนเมเลน เบเรส สหายสนิทของท่านชายสฟิเนอร์นั้น ฝีมือก็อยู่ในระดับปานกลางไม่ได้เก่งกาจเหมือนสฟิเนอร์,แซ็ค,ซาเลนเดอร์หรือเอรินเนียนักแต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่พอใช้ได้
หญิงสาวอีกคนหนึ่งก็ถือว่ามีฝีมือไม่แพ้กันนั้นคือ ซาราซ่า เทเลียเซีย หญิงสาวที่งดงาม สง่าและเป็นมิตรกับทุกคนนั้นก็มีฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลยทีเดียว
ห้อง 1 หอขาวจึงเป็นห้องที่จับตามองของคนในหอราตรีและคนในห้อง 2 ของหอขาวยิ่งนัก เนื่องจากว่าคนที่มีฝีมือและโดดเด่นนั้นต่างอยู่ในห้องนี้เป็นส่วนใหญ่
วันนี้เป็นวันสุดท้ายในการเรียนในอาทิตย์นี้ เอรินเนียคิดอย่างเหนื่อยๆ แค่อาทิตย์แรกก็ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยได้เป็นอย่างมากที่เดียว ไหนจะพวกรุ่นพี่ก็ทะเลาะกันจนเธออยากจะฆ่าพวกรุ่นพี่คนนั้นให้ตายคามือจะได้ไม่ต้องมีเรื่องอะไรให้ทะเลาะกันอีก แต่พอเธอจะลงมือทำทีไหร่ก็มีคนมาขัดทุกทีซึ่งคนที่ขัดนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนก็คนใกล้ๆตัวเธอนั้นเอง แซคคาเรีย ซิเรียเบลที่แสนจะนิ่งเฉยและไร้ปฏิกิริยาโต้ตอบกับทุกคนที่เข้ามาว่า!!นายนั้นทนได้ยังไงนะ!!
เธอคิดพลางถอนหายใจอย่างหงุดหงิดก่อนจะเหลือบไปมองสฟิเนอร์ที่กำลังเขียนอะไรบางอย่างบนกระดาษสีขาวอยู่ด้วยท่าทางที่เร่งด่วน เอรินเนียมองก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง สฟิเนอร์เป็นหัวหน้าห้อง 1 ของหอขาวเมื่อใกล้หมดเวลาที่จะเรียนในหนึ่งอาทิตย์แล้วตัวเองก็ต้องมานั่งคิดงานจดงานทั้งหมดที่ท่านอาจารย์ทั้งหลายที่คิดว่าพวกห้องของพวกเธอเป็นอัจฉริยะท่านทั้งหลายสั่งงานราวกับพายุขนาดใหญ่ที่กวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า!!
เธอเองก็ลำบากไม่น้อยเช่นกันแต่ว่าเธอนั้นก็พอจะมีคนช่วยอยู่บ้างอย่างเช่น แซ็ค,ฟรีย่า,ซาราซ่าและสฟิเนอร์ และฝีมือของเธอก็พอจะมีอยู่บ้าง เธอจึงไม่ค่อยลำบากนักแต่ว่างานของผู้ช่วยหัวหน้าหอนั้นหนักไม่ใช่เล่นเลย ไหนจะเป็นเรื่องที่เธอสนิทกับแซ็คบ้าง,การทะเลาะของแซ็คบ้าง,พวกรุ่นพี่บ้าง,และบางวันก็มีจดหมายส่งมาให้เธอว่าเธอบ้างกลั่นแกล้งบ้างแต่เธอก็พอทนได้นะแต่ที่เธอทนไม่ได้ก็คือ การทะเลาะของพวกรุ่นพี่ที่แสนจะงี่เง่า ขนาดขู่พวกพี่เค้าก็
แล้ว พี่ท่านก็ยังไม่เข็ดทะเลาะกันได้ทุกวันเวลาที่มีโอกาส เอรินเนียคิดแล้วก็เหนื่อยใจ พรุ่งนี้เป็นวันหยุดแต่พวกคณะกรรมการนักเรียนกลับต้องเริ่มคิดหนัก เรื่องงานของโรงเรียนที่จะมีคิดเนื่องจากพวกเค้านั้นยังไม่ค่อยสนิทกับคนทุกคนมากนักและยังไม่มีแนวคิดอะไรที่จะมาทำกิจกรรมของโรงเรียนในปีนี้และไหนจะเป็นการรักษาความปลอดภัยในด้านการทะเลาะกันของพวกเจ้ายุ่งทั้งหลาย แต่ที่พวกเค้าคิดหนักไม่ใช่เรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่เธอ
แก้ไม่ตกก็คือ ไอ้พวกที่ไม่พอใจในตัวของแซ็คและเธอที่ส่งสารท้าประลองมาบ้าง กลั่นแกล้งมาบ้างจนเธอไม่รู้จะแก้ไขเหตุการณ์อย่างนี้ยังไงจนปล่อยวางมันไปแล้ว เธอส่ายหน้าก่อนจะร่ายเวทย์ไปมาเพื่อฆ่าเวลาที่รอคนในหอขาวห้อง 1 มารวมตัวกันเพื่อจะคุยกันเรื่องาน,การบ้านของห้องพวกเค้า
“ไง เอรินเนีย นั่งซึมไปเลยหรอ”
“เงียบปากไปเลย เมเลนถ้ายังไม่อยากเจ็บตัว”เมเลนชะงักคำพูดที่จะพูดต่อในทันที
“อย่าพาลสิ เอรินเนีย”
“อย่ายุ่ง”เอรินเนียพูดเสียงนิ่งทำให้คนที่อยู่รอบข้างเริ่มหวั่นใจทีละเล็กน้อยแต่ก็ไม่มีใครพูดอะไมาก
เมื่อทุกคนมาถึง สฟิเนอร์ก็เริ่มร่ายรายการงานการบ้านและการสอบทั้งหมดให้เพื่อนๆในห้องฟังบางคนถึงกับตาเหลือกในความโหดของท่านอาจารย์ทั้งหลายที่สั่งงานพวกเค้า เมื่อสฟิเนอร์ร่ายรายการงานทั้งหมดเสร็จแล้วก็หันมามองเอรินเนียพร้อมพูดว่า
“เป็นไง ซึมเลยหรอ”
“เปล่าสักหน่อย แค่คิดว่ามันน่าเบื่อจัง ไปเที่ยวในเมืองกันนะ สฟิเนอร์”
“ไม่ชวนคนอื่นหรอไง”
“ใครล่ะ เมเลน,ซาเลนเดอร์หรือซาราซ่าหรือว่าฟรีย่า”
“แล้วแซ็คไปไหนล่ะ”สฟิเนอร์ส่ายหน้าพลางถามว่า
“ไม่รู้...”เอรินเนียพูดพลางทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ ส่วนคนอื่นที่ไม่ใช่แซ็คก็หันไปมองแซ็คในทันทีราวกับกำลังถามว่าแซ็คว่า เค้าทำอะไรผิด แซ็คถอนหายใจพร้อมพูดว่า
“เอริน ฉันขอโทษ เธอยังไม่พอใจอีกหรอ”
“คำขอโทษมันลบล้างกับความผิดที่นายทำได้ไหมล่ะ”
“มันก็ลบล้างไม่ได้ ทางที่ดีอย่ามาพูดเลยดีกว่า” แซ็คถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนที่จะต้องมาเถียงกับหญิงสาวที่กำลังเคืองเค้ามากขนาดนี้
“หวัดดีจ๊ะ เอรินเนีย หวัดดีแซ็ค นายยังหล่อเหมือนเดิมนะ”เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นส่งผลให้คนทั้งหมดหันไปดุก็เจอกับหญิงสาวผมสีดำสนิทยาวตรงถึงกลางหลังถูกมัดรวบไว้อย่างหลวมๆ ตาสีดำทอประกายระยิบระยับราวกับดีใจในเรื่องอะไรบางอย่าง เอรินเนียมองหน้าแซ็คอย่างไม่พอใจก่อนจะส่งยิ้มให้หญิงสาวคนนั้นพร้อมเอ่ยทักว่า
“หวัดดีจ๊ะ การ์เน็ต ไม่ได้เจอกันซะนานนะ” การ์เน็ตยิ้มก่อนจะพูดว่า
“ต้องขอบคุณเธอมากเลยนะ เอรินเนียเพราะถ้าไม่ได้เธอฉันก็คงไม่ได้เจอแซ็ค”เอรินเนียส่งยิ้มหวานพร้อมกับพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ เพื่อเพื่อนมันไม่ยากเกินไปหรอกนะ แล้ววันนี้การ์เน็ตจะไปไหนหรือเปล่าล่ะ”การ์เน็ตส่ายหน้าพร้อมกับแซ็คพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆว่า
“งันการ์เน็ตไปเที่ยวกับพวกเราไหม พวกเราตั้งใจว่าจะเข้าไปในเมืองพอดี”การ์เน็ตพยักหน้าก่อนจะมองคนอื่นที่นั่งอยู่ข้างๆเอรินเนียและแซ็คอย่างสงสัย เอรินเนียเห็นจึงพูดว่า
“นี่เพื่อนๆของฉันจ๊ะ แนะนำตัวกันหน่อยนะ”
“ผมสฟิเนอร์ อาร์ทแกลล์”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ท่านชายแห่งเอเทแกลล์”สฟิเนอร์มีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่พูดอะไร
“ผมเมเลน เบเรส”
“อ้อ พระสหายของท่านชายนี่เอง ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เมเลน”
“ผมซาเลนเดอร์ เคว็กชั่น” การ์เน็ตขมวดคิ้วในทันทีเมื่อได้ยินนามสกุลของซาเลนเดอร์แต่ก็ยังพูดต่อไปว่า
“ยินดีที่ได้รู้จักจ๊ะ ซาเลนเดอร์”
“ฉันฟรีย่า เอเบอร์เลนซ์จ๊ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“ยินดีเช่นกันจ๊ะ ฉันการ์เน็ต อาเรเบเลอร์จ๊ะ”
“เอาล่ะ เมื่อแนะนำตัวกันเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปเที่ยวในเมืองกันเถอะ อ้อ ไปชวนซาราซ่าไปด้วยกันนะ”เอรินเนียพูดเสียงนิ่งก่อนที่ทุกคนจะพยักหน้าอย่างตกลงแล้วทั้งหมดก็ลงรายชื่อออกนอกโรงเรียนในทันที
โนเร็คทาว์
ผู้คนเดินไปมาไม่ค่อยเยอะนัก พวกเค้าทั้งหมด 8 คนจึงเดินค่อนข้างจะสะดวกไม่ลำบากมากนักการมาเที่ยในเมืองครั่งนี้จึงเป็นเรื่องที่สนุกสนานอย่างหนึ่ง
“เอรินเนีย นั่นมีร้านขายของประดับตกแต่งทั่วไปด้วยล่ะ เข้ากันไหม”ฟรีย่าถามพลางชี้ร้านที่ว่าให้คนทั้งหมดดู
“ก็ดีนะ ฉันว่ามันก็ดี”เอรินเนียตอบพร้อมกับทุกคนเริ่มทยอยเดินเข้าไปเลือกของเป็นคู่ๆ
“นี่ ซาราซ่าอันนี้น่ารักจังเลย เธอว่าไหม” ฟรีย่าถามพร้อมกับยกแจกันรูปผีเสื้อที่ประดับตกแต่งห้องขึ้นมา
“จริงด้วย ฟรีย่า น่ารักมากเลยแต่ไม่รู้จะซื้อไปทำอะไรนะสิ ปัญหา”
“ซื้อไว้ก่อนคงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง”
“ก็จริงนะ แต่ว่า เราพึ่งเข้ามาแค่ร้านเดียวเองนะ”
“จริงด้วย...”ฟรีย่าพูดขึ้นอย่างเสียดาย
“ เอานะ ถ้าอยากได้มากก็ค่อยกลับมาซื้อก็ได้นี่ เอรินเนียคงไม่ว่าอะไรหรอก”
“อืม...”ฟรีย่ารับคำก่อนจะดูอย่างอื่นต่ออย่างสนุกสนาน....
“นี่ เมเลน นายว่าอันนี้เป็นไง”
สฟิเนอร์ถามพร้อมกับยกสายสีเงินคล้ายกับที่กั้นประตูที่ประดับเพื่อให้มีความสวยงามขึ้นมา
“ก็..ดี ถามทำไม นายจะซื้อหรอไง”
“ก็ไม่แน่...” สฟิเนอร์ตอบพร้อมกับมองของบนมือตนอย่างพิจรณา
“นายจะซื้อไปทำไม”
“ฉันไม่ได้ซื้อให้ตัวเองหรอกนะ”
“แล้วนายจะซื้อให้เอรินเนียหรือไงกัน”
“เปล่า...จะซื้อให้ท่านแม่ต่างหาก ท่านแม่ชอบของแบบนี้”
“จริงด้วย...ถ้านายจะซื้อให้ท่านราชินีล่ะก็เอาอันนี้ดีกว่าไหม” สฟิเนอร์หันไปมองของที่เมเลนถืออย่างสนใจก่อนที่จะเลือกดูของชิ้นอื่นๆไปเรื่อยๆ....
“นี่ ซาเลนเดอร์ นายว่าอันนี้น่ารักหรือเปล่า”เอรินเนียถามพลางยกกระดิ่งอันหนึ่งให้ชายหนุ่มที่ยืนข้างๆดู
“ก็ดีนะ อยากได้หรอ”
“ก็ไม่เชิงหรอกนะ”เอรินเนียตอบพร้อมกับหัวเราะ
“จะซื้อไปทำอะไรล่ะ”
“ก็คงไปแขวนไว้ที่หน้าต่างริมห้องล่ะมั้ง ที่หน้าต่างห้องฉันมีลมพัดผ่านตลอดเวลาและเท่าที่ดูนะเสียงของกระดิ่งอันนี้ก็มีเสียงที่เพราะมากที่เดียว”
“ก็แล้วแต่สิ ถ้าอยากได้ก็ซื้อเอา”
“รู้แล้วนะ ไม่ขอร้องซาเลนเดอร์หรอก”เอรินเนียพูดพร้อมแลบลิ้นใส่ซาเลนเดอร์ก่อนจะเดินไปหาเจ้าของร้านพร้อมกับจ่ายเงินโดยไม่สนใจชายหนุ่มที่ตนพูดด้วยเมื่อกี้พยายามกลั้นหัวเราะขนาดไหน...
“แซ็ค...นายว่าอันนี้ดีไหม น่ารักหรือเปล่า”การ์เน็ตถามขึ้นพร้อมกับยกของที่ตนถามขึ้นมาให้คนถามดูได้ถนัดๆ
“ก็ดี..”
“งันหรอ ฉันว่ามันธรรมดาไปนะ นายคิดเหมือนอย่างฉันไหม แซ็ค”
“...” แซ็คนิ่งเงียบไม่ตอบทำให้การ์เน็ตเงยหน้าขึ้นมาจากของตรงหน้าหมามองชายหนุ่ม
“เป็นอะไรหรือเปล่า แซ็ค...”การ์เน็ตถามพร้อมกับมองไปตามสายตาของแซ็คก็เห็นเอรินเนียกำลังหัวเราะกับซาเลนเดอร์อย่างสนุกสนาน
“ทะเลาะกับเอรินเนียหรอ”การ์เน็ตถามเสียงเรียบถ้าเป็นปกติแซ็คจะรู้ในทันทีว่าน้ำเสียงนี้แปลกไปเหมือนกับพยายามทำใจในเรื่องอะไรบางอย่าง
“เปล่า...”
“แต่การกระทำนายบอกว่าใช่...”
“อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย ที่เรามาที่นี่เพื่อมาเที่ยวไม่ใช่หรอ”
“ใช่และฉันก็หวังว่ามันจะเป็นการเที่ยวที่ดีและฉันก็คงมีความสุข...”
แซ็คหันมามองหน้าการ์เน็ตก่อนจะนิ่งสนใจของที่อยู่ตรงหน้าตนและการ์เน็ต
“เอาล่ะ ทุกคนซื้อของกันเสร็จแล้วใช่ไหม งันไปร้านอื่นต่อกันนะ”ซาราซ่าถามพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนสดใส ทุกคนพยักหน้าแต่ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติของหญิงสาวเอรินเนียนอกจากวายหนุ่มที่นามว่าแซ็คแต่เจ้าตัวก็ไม่พูดอะไรพร้อมกับเดินต่อไปจนกระทั่ง
“ร้านขายเสื้อผ้าล่ะ การ์เน็ต,ซาราซ่า,เอรินเนียเข้ากันนะ ส่วนพวกผู้ชายรออยู่ข้างนอกล่ะ”
“ทำไมล่ะ”เมเลนถามอย่างสงสัย
“นี่มันร้านขายเสื้อผ้าของผู้หญิงนะ พวกผู้ชายจะเข้าไปทำไม”ฟรีย่าถามอย่างโมโห
“แต่ข้างนอกคนมันเยอะนี่ เธอจะให้ฉันนั่งเฉยๆเนี่ยนะ ไม่เอาหรอก”
“อะไรกันล่ะ นี่มันร้านเสื้อผ้าของผู้หญิงนะ ผู้ชายจะเข้ามาทำไม”ในขณะที่เมเลนจะเปิดปากเถียงกันอีกครั้งนั้นเสียงของเอรินเนียก็ดังขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ดูแปลกไปแต่ไม่มีใครสนใจนอกจากแซ็คและซาเลนเดอร์
“ให้พวกเค้าเข้าไปเถอะจ๊ะ ฟรีย่า ข้างนอกคนมันเยอะนะ ให้ไปนั่งรอข้างในดีกว่านะ” ฟรีย่าพยักหน้าอย่างจำยอมแล้วคนทั้งหมดก็เดินเข้าไปในร้าน
“ว้าว เอรินเนียชุดนี่น่ารักมากเลยเหมาะสมกับเธอมากเลยนะ”
“ใช่ น่ารักมากเลยล่ะ”
“ใส่หน่อยนะ เอรินเนีย” เอรินเนียยิ้มๆพลางส่ายหน้า สามคนจึงพยายามเกลี่ยกล่อมเอรินเนียให้ใส่ชุดนี้แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธจนฝ่ายชายทนไม่ไหวจึงต้องเกลี่ยกลอมเอรินเนียจนยอมใส่พร้อมกับเดินออกมาให้เพื่อนๆในกลุ่มดู
เสื้อสีขาวสวยมีลายลูกไม้ประดับเล็กน้อยพองามกระโปรงบานสีขาวมีลูกประดับตรงขอบชาย ผมสีทองตรงสลวยถูกมัดครึ่งติดกิ๊บด้วยลายดอกไม้สวยส่งผลให้เอรินเนียดูเป็นสาวหวานมากกว่าที่เคยเป็น ชายหนุ่มที่รอดูหญิงสาวอยู่นั้นตกตะลึงในทันทีที่เห็น
“ว้าว สวยจังเลย เอรินเนีย สวยมากๆเลย”ฟรีย่าพูดอย่างชื่นชม
“เอรินเนีย สวยมากเลยนะ”ซาราซ่าพูดอย่างภูมิใจ
“สวยมากเลย เอรินเนีย ถ้าไม่เห็นกับตาก็คงไม่เชื่อว่าจะสวยมากขนาดนี้” เอรินเนียยิ้มแต่ไม่ยอมพูดอะไร
“แซ็ค นายว่าไง”
“...ก็สวยดี”เอรินเนียตั้งใจจะเดินกลับไปทางเดิมแต่แล้วก็ฟุบตัวลงกับพื้น
แซ็คและซาเลนเดอร์วิ่งตรงเข้าไปหาเอรินเนียในทันที
“เกิดอะไรขึ้น เอรินเนีย” ซาเลนเดอร์ถามอย่างเป็นห่วง
“เป็นอะไรไป เอริน” แซ็คถามด้วยสีหน้ากังวลใจ
“ฉันเวียนหัวมากเลย แซ็ค ฉัน...”เอรินเนียหยุดคำพูดไว้นั้น แซ็คจับหน้าผากเอรินเนียพร้อมกับอุ้มเอรินเนียไปวางไว้บนโซฟา
มือของแซ็คแตะที่หน้าผากของเอรินเนียพร้อมกับมานั่งข้างๆเอรินเนียแล้วถามว่า
“เอริน เธอเป็นอะไรหรือเปล่า”เอรินเนียส่ายหน้าพร้อมกับพูดว่า
“ฉันรู้สึกเวียนหัวเหมือนกับว่าพลังในตัวเปลี่ยนแปลงไป...” เมื่อเอรินเนียพูดจบแซ็คก็จับมือเอรินเนียตั้งสมาธิร่ายเวทย์บางอย่าง
“ฉันถ่ายทอดพลังให้เอรินบางส่วน ขาดว่าพลังของเอรินเนียกำลังเปลี่ยนแปลงไปเพราะอะไรบางอย่าง...”
“แล้วอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไปคืออะไรล่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน ให้เอรินนอนพักหน่อยก็แล้วกันนะ” ทุกคนพยักหน้าพร้อมกับสฟิเนอร์ถามว่า
“ทำไมนายถึงเรียกเอรินเนียว่าเอรินล่ะ”
“นั้นคือชื่อนางจริงๆแต่ให้คนที่สนิทจริงๆเท่านั้นถึงให้เรียกถ้าไม่สนิทจริงจึงอย่าหวัง”
“อย่างนี้ก็มีนายคนเดียวสิที่เรียกได้” แซ็คพยักหน้าพร้อมพูดว่า
“แค่ตอนนี้นะ...”
“หมายความว่าไง ? ”
“เดี๋ยวก็รู้เอง...” แซ็คตอบอย่างไม่สนใจและถามว่าหญิงสาวที่นอนอยู่ว่า
“เป็นอย่างไงบ้าง เอรินเนีย”
“ดีขึ้นแล้ว ขอโทษนะที่ทำให้ทุกคนเป็นกังวล”
“เป็นเพื่อนกันถ้าไม่ห่วงเพื่อนแล้วจะให้ไปห่วงใครจ๊ะ”ซาราซ่าพูดพร้อมรอยยิ้ม
“ใช่แล้วล่ะ อย่าคิดมากไปเลยนะ”ฟรีย่าเสริมอีกคน
“ถ้าไม่สบายน่าจะบอกกันนะ”ซาเลนเดอร์พูดขึ้นอย่างเป็นห่วงสร้างความแปลกใจให้กับคนอีก 5 คนในทันที
เอรินเนียเพียงส่งยิ้มแต่ไม่พูดอะไรจนกระทั่งแซ็คพูดว่า
“ไม่สบายแล้วยังคิดจะเที่ยวอีก แล้วเมื่อคืนก็นั่งดูดาวจนดึกอีกแล้วใช่ไหม”เอรินเนียพยักหน้าอย่างสำนึกผิดก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆว่า
“ขอโทษนะ...”
“ไม่เป็นไรหรอก นอนพักอีกสักหน่อยดีกว่าไหม”เอรินเนียส่ายหน้าพร้อมกับแซ็คเอามือมาแตะหน้าผากเอรินเนียและพูดว่า
“งันฉันร่ายเวทย์ให้เธอก่อนนะ เอริน” เอรินเนียส่งยิ้มให้เหมือนกับเป็นการขอบคุณ
“ถ้าคราวหน้าแอบดูดาวจนดึกอีกล่ะก็ จะทำโทษ”แซ็คพูดพลางยิ้มน้อยๆ เอรินเนียพยักหน้าพร้อมกับหลับไปในทันที แซ็คนั่งลงข้างเอรินเนียและค่อยๆพยุงตัวหญิงสาวขึ้นแล้วอุ้มไปก่อนที่จะอุ้มไปนั้นก็หันมามองชายหนุ่มซาเลนเดอร์แล้วพูดให้ได้ยินเพียงสองคนว่า
“อย่างไง ฉันก็ชนะ...” เมื่อแซ็คพูดจบก็เดินออกไป โดยไม่ได้ยินคำพูดที่ซาเลนเดอร์พูดขึ้นว่า
“แล้วฉันจะคอยดู...”ซาเลนเดอร์พูดจบก็เดินออกไปทิ้งให้คนที่เหลืออีกห้าคนพอจะเข้าใจอะไรลางๆได้บ้างว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น การ์เน็ตมีสีหน้าเรียบเฉยสงบนิ่งราวกับสายน้ำ ซาราซ่ากำลังทำท่าปวดหัวเมื่อนึกผลที่ตามมา เมเลน
กับฟรีย่ากำลังงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ส่วนสฟิเนอร์กำลังยิ้มๆเหมือนกับว่าเจอเรื่องสนุกๆเข้าแล้ว ต่อจากนี้สงครามแห่งความรักระหว่างสองคนนี้กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว ท่าทางจะมีเรื่องอะไรที่สนุกๆให้ดูนะ เมื่อสฟิเนอร์คิดเสร็จก็เดินออกไปทิ้งให้คนที่เหลือนั้นจะต้องตามออกมา ในเวลานี้ความวุ่นวายของโรงเรียนนี้ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว...
เป็นยังไงบางค่ะ ตอนนี้เป็นตอนที่ยาวเหมือนกันนะค่ะเนี่ย(ในความรู้สึกของคนแต่งเอง) ซึ่งในเรื่องในตอนนี้ก็ได้เกิดสงครามแห่งความรักแล้วล่ะค่ะ การปะทะคารมย์ก็จะมีเกิดขึ้นเรื่อยๆนะค่ะ เอาล่ะ วันนี้ก็ลงไว้แค่นี้ก่อนล่ะกัน แล้วเจอกันใหม่ค่ะ
ความคิดเห็น