ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    น้ำตาดอกราตรี

    ลำดับตอนที่ #2 : น้ำตาดอกราตรี ตอนปมในใจ (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ค. 55


    ตอนที่ 1 ปมในใจ

    แกร็ง!!!
                “ ชน!!! เสียงปากแก้วเนื้อดีที่ถูกเจียระไนมาอย่างประณีต สวยงามกระทบกันเกิดเป็นเสียงดังฟังดูไพเราะเคล้าไปด้วยเสียงทุ้มของเจ้าภาพของงานเลี้ยงคืนนี้ ศิวกรณ์ พิษณุราชบดี ทายาทคนเล็กของตระกูลดังที่ความรวยมั่งคั่งติดอันดับต้นๆของประเทศไทย
                “ สุดยอดไปเลยว่ะ ไอ้อีฟ สนามหน้านัดชิงแชมป์เอเชียมันต้องเหยียบให้มิดทำเวลาให้ดีกว่านี้เลยนะโว้ย เพื่อน อรรถพลเอ่ยบอกพร้อมกระดกแก้วที่ภายในผสมน้ำสีอำพันไว้อยู่รวดเดียวหมดแก้ว
                “ ของมันแน่อยู่แล้วคนอย่างศิวกรณ์ไม่เคยแพ้ใคร พวกแกไม่ต้องห่วงแชมป์เอเชียมันต้องเป็นของฉันอย่างแน่นอน ศิวกรณ์เอ่ยบอกน้ำเสียงจริงจัง สายตาคมส่องประกายความทระนงในตัวเองอย่างเห็นได้ชัด
                “ พวกแกจะกินอะไรก็สั่งเอามาเลยไม่ต้องเกรงใจ คืนนี้ฉันเลี้ยงเอง เอา!..ดื่ม ศิวกรณ์ชูแก้วยื่นไปด้านหน้าเพื่อนชนกับเพื่อนๆที่นั่งล้อมวงกันอยู่ที่โต๊ะ
                “ พวกฉันจะกล้าขัดศรัทธาทายาทคนเล็กของมหาเศรษฐีเมืองไทยได้ยังไงกัน จริงไหมว่ะ ไอ้เทพ ไอ้อรรถ นัทธีเอ่ยแซวศิวกรณ์อย่างไม่จริงจังนัก
                “ พวกแกก็พูดเกินจริงไปหน่อยนะ  ทำยังกับพวกแกยากจนกันเหลือเกินนะ ไอ้อรรถลูกชายเจ้าของห้างสรรพสินค้า ไอ้เทพก็ลูกชายเจ้าของร้านทอง ส่วนแกไอ้นัทก็ลูกชายเจ้าของโชว์รูมรถยนต์ ถามหน่อยเถอะพวกแกคนไหนจนมั่งว่ะ วันๆทำแต่งานเก็บเงินแต่ไม่ยอมหาความสุขให้กับตัวเองกันเสียเลยจะปล่อยให้เงินทองมันล้นทับพวกแกตายหรือไง  ศิวกรณ์แกล้งแขวะกลับไปบ้างอย่างไม่จริงจังนัก ด้วยความที่พวกเขาทั้งสี่คนคบหาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมพอเรียนจบก็พากันไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศจึงทำให้พวกเขาสี่คนยิ่งสนิทกันมากขึ้นไปอีก จนบางครั้งอาจจะถึงขั้นยอมตายแทนกันได้ก็คงไม่เกินไปนัก
                ในบรรดาสี่หนุ่มคนที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้และขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์รายวันมากที่สุดคงต้องยกให้ ศิวกรณ์ ทายาทลำดับที่สองของตระกูลพิษณุราชบดี ตระกูลที่ร่ำรวยมาตั้งแต่บรรพบุรุษด้วยที่มีลูกหลานดีคอยสืบทอดกิจการต่อๆกันมา ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับการทำอะไหล่รถยนต์ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม และด้วยธุรกิจทางบ้านผลิตอะไหล่รถยนต์ส่งออกทั้งในและนอกประเทศ ทำให้คุณชายเล็กของบ้านอย่างศิวกรณ์ที่เติบโตมาพร้อมๆกับอะไหล่รถยนต์ รู้จักอะไหล่ทุกชิ้นไม่ว่าชิ้นเล็กชิ้นน้อย จึงชื่นชอบความเร็วอย่างการแข่งรถเป็นที่สุด

                “ ยังไงฉันก็จนอยู่ดีว่ะ ถึงบ้านจะทำโชว์รูมขายรถแต่อะไหล่ทุกชิ้นต้องสั่งจากบริษัทแกทั้งนั้น แล้วแกจะหาว่าฉันรวยได้ยังไง ยังไงก็จนกว่าแกอยู่ดี นัทธีเอ่ยเย้าเสียงกลั้วหัวเราะ พาให้เพื่อนๆที่นั่งอยู่ต่างขบขันไปกับการเย้าแหย่ของสองหนุ่มเสียไม่ได้
                “ แกนี่มันต้อนไม่เคยจนมุมเสียที ฉันล่ะสงสารคุณแบมจริงๆที่ต้องมาเจอกับคนกะล่อนอย่างแก ศิวกรณ์เอ่ยถึงแฟนสาวของเพื่อนรักที่ตอนนี้กำลังไปศึกษาต่อปริญญาโทที่ออสเตรเลียและคงอีกหลายเดือนถึงจะกลับมาไทย
               
    เฮ้ย!!! แกพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะโว้ย ถึงฉันจะกะล่อนแต่ก็ไม่เจ้าชู้อย่างใครบางคนแถวๆนี้หรอก
                “ ช่วยไม่ได้! ความโสดมันทำให้เราอิสระ ฉันยังรักการแข่งรถ ยังรักจะสนุกอยู่ว่ะ ศิวกรณ์ตอบอย่างไม่ยีหระ
               
    เอ่อ! ฉันก็ขอให้แกใช้ความโสดของแกให้นานๆแล้วกัน ไอ้อีฟ นัทธีประชดกลับ
               
    พอเลยๆแกสองคนก็พอกันแหละ เอาอะไรมาคุยกันวะเสียบรรยากาศชะมัด ฉันสองคนนั่งฟังแล้วปวดหัวจริงๆ คืนนี้ไปหาอะไรๆสนุกๆทำกันดีกว่า ฉันไม่ได้ผ่อนคลายมาหลายวัน ยังไงพรุ่งนี้ก็วันหยุดทั้งที อรรถพลเอ่ยชวนเป็นนัยๆสายตาพราวระยับ หลังจากทนนั่งฟังเพื่อนรักทั้งสองคนถกเถียงกันไปมา
               
    พวกเราไป…”
                น่าสน แต่ต้องไม่ใช่ผู้หญิงทำงานกลางคืน!!! ” อรรถพลยังไม่ทันเอ่ยจบดี ศิวกรณ์ก็เอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อนเมื่อรู้ความนัยของเพื่อนรัก สามหนุ่มเงยหน้ามองสบตากันก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่สิ่งที่ยังติดอยู่ในใจของศิวกรณ์ก็ไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา แต่นับวันมันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ
               
    เมื่อไหร่แกจะลืมๆมันเสียทีว่ะ อีฟถ้าแกยังมัวเป็นอย่างนี้แล้วเมื่อไหร่ชีวิตแกจะมีความสุข ไหนแกบอกว่าชีวิตคนเราต้องหาความสุขให้ตัวเองไง แต่สิ่งที่ฉันเห็นมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยนะโว้ย
                “ พวกแกไม่ได้เจอแบบฉัน แกไม่รู้ว่าการทำใจให้ลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันยากแค่ไหน ศิวกรณ์เอ่ยบอกเสียงแผ่วเบา ใบหน้าคมดุเรียบเฉยสายตาคมที่ทอดมองออกไปไกลฉายความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างปิดไม่มิดแต่มันก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น

    บรรยากาศภายในโต๊ะสังสรรค์ฉลองให้กับนักแข่งคนสำคัญที่คว้าแชมป์ของประเทศไทยได้ปกคลุมไปด้วยความเงียบ ความครึกครื้นเมื่อสักครู่จางหายไป ไม่มีใครกล้าจะเอ่ยอะไรออกมาอีก เพราะกลัวเหลือเกิน กลัวจะไปสะกิดบาดแผลลึกในใจของเพื่อนรักเข้า พวกเขาต่างรู้ดีว่ากว่าชายหนุ่มจะกลับมาเข้มแข็งและร่าเริงได้ขนาดนี้มันต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหน กว่าจะฟันฝ่าเรื่องเลวร้ายมันมาได้ พวกเขาต่างหวังในใจลึกๆให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับชายหนุ่มเสียที

    เฮ้ย! นั่นแกจะไปไหนว่ะ อีฟ ไม่ไปต่อกับพวกฉันแล้วเหรอ ความคิดทั้งมวลต้องสะดุดลงรีบเอ่ยถามทันที เมื่อเห็นศิวกรณ์ลุกจากโซฟาหนังสีแดงเพลิงที่นั่งเมื่อครู่

    พวกแกไปต่อกันเถอะ ฉันอยากกลับไปพักผ่อนที่บ้านเสียหน่อย วันนี้เจอแดดแรงๆทั้งวัน รู้สึกเพลียๆ ศิวกรณ์เอ่ยบอก แต่ด้วยความที่คบกันมานานหลายปีทำให้เพื่อนๆที่นั่งอยู่ไม่อยากจะเชื่อคำพูดของชายหนุ่มเลยสักนิด แต่ก็จนใจที่จะรั้งชายหนุ่มไว้ได้แต่มองตามแผ่นหลังบึกบึนที่เดินลับตาออกจากสถานบันเทิงดังไป

     

    เสียงกระหึ่มดังมาแต่ไกลบวกกับความเร็วของรถยนต์ที่แล่นมาจอดหน้าคฤหาสน์พิษณุราชบดีบ่งบอกอารมณ์ของเจ้าของได้เป็นอย่างดี หลังพ่วงมาลัยรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศประสิทธิภาพสมราคาที่แพงหูฉี่ที่น้อยคนนักจะได้ครอบครอง ชายหนุ่มกำหมัดแน่นทุบลงไปบนพ่วงมาลัยเพื่อระบายอารมณ์ที่มันอัดแน่นอยู่ตอนนี้

    ทำไม ทำไม ทำไม…. ฉันจะไม่มีวันยอมรับผู้หญิงอย่างเธอเด็ดขาด! ” เอ่ยบอกเสียงเครียดแววตาคมที่เคยมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามวาวโรจน์ขึ้นมาทันที ศิวกรณ์เปิดประตูรถเดินเข้าประตูคฤหาสถน์ไป

    มีใครอยู่แถวนี้มั้ง เอาเหล้ามาให้ฉันหน่อยสิ ศิวกรณ์ตะโกนเรียกคนรับใช้เพื่อให้ยกเครื่องดื่มมาให้แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจนคุณชายเล็กของบ้านชักจะหงุดหงิดเพิ่มขึ้นมาอีก

    “ หายหัวกันไปไหนหมด บ้านนี้ไม่มีคนรับใช้สักคนเลยหรือไง ” ตะโกนถามน้ำเสียงเกรี้ยวกราด

    คุคุณอีฟจะรับอะไรหรือคะ พอดีประไพล้างจานอยู่ในครัวค่ะ ประไพเอ่ยบอกเสียงตะกุกตะกัก นางรีบวิ่งออกมาจากห้องครัวทันทีที่ได้ยินเสียงโหวกเหวกของคุณอีฟ แม้นางจะทำงานในบ้านหลังนี้มีหลายปีแล้วแต่ก็อดจะตกใจทุกครั้งไม่ได้เมื่อได้เห็นคุณชายเล็กของบ้านอาละวาดใส่

    ไปยกเหล้าตามไปให้ฉันที่สระว่ายน้ำด้วย อย่าให้ฉันต้องรอนานล่ะ  ”  เอ่ยบอกเสียงหนักพร้อมกับก้าวเท้าแข็งแรงเดินไปยังสระน้ำที่อยู่ทางปีกขวาของคฤหาสน์พิษณุราชบดี

    เฮ้อเกิดอะไรขึ้นกับคุณอีฟกันแน่ อยู่ๆก็ลุกขึ้นมาอาละวาดซะลั่นบ้านขนาดนี้ ”  ประไพพึมพำเสียงแผ่วเบาอย่างไม่เข้าใจก่อนจะรีบหมุนตัวกลับไปเตรียมเครื่องดื่มตามที่ชายหนุ่มสั่ง ไม่นั้นได้เกิดเรื่องแน่

     

    “ อีกนานแค่ไหนฉันถึงจะลืมไอ้เรื่องบ้าๆนี้ไปได้ ” ศิวกรณ์พึมพำเสียงแผ่วเบาพร้อมกระดกแก้วที่ภายในบรรจุน้ำสีอำพันอ่อนราคาแพงรวดเดียวหมดแล้ว ภาพเหตุการณ์เมื่อครั้งอดีตที่ผ่านมาหลายปีแต่มันยังคงฉายชัดในความทรงจำของเขาตลอดมา ความเจ็บปวดที่ได้รับมันทำให้เขาเกลียดผู้หญิงกลางคืนยิ่งกว่าอะไรในโลก ภาพพจน์ของศิวกรณ์ พิษณุราชบดีในสายตาของคนทั่วไปอาจจะเป็นเพลย์บอย จอมเจ้าชู้เปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แต่ใช่ความผู้หญิงทุกคนจะได้มาเดินเคียงข้างเขาเสมอไป กฎเหล็กของคู่ควงของเขานั้นต้องไม่ใช่ผู้หญิงทำงานกลางคืนโดยเด็ดขาด! ผู้หญิงต้อยต่ำพวกนั้นไม่มีทางได้เฉียดเข้ามาใกล้เขาได้แน่ ยิ่งนึกถึงเรื่องราวเมื่อหลายปีก่อนสมองอันชาญฉลาดก็ยิ่งตึงเครียดจนมือหนาต้องเอื้อมไปหยิบแก้วที่อยู่เบื้องหน้าขึ้นมากระดกแก้วแล้วแก้วเล่าจนเวลาล่วงเข้าเช้าวันใหม่ ศิวกรณ์จึงได้ฟุบลงกับโต๊ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×