คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ปมในใจ( 40%)
แกร็ง!!!
“ ชน!!! ” เสียงปากแก้วเนื้อดีที่ถูกเจรไนยมาอย่างประณีต สวยงามกระทบกันเกิดเป็นเสียงดังฟังดูไพเราะเคล้าไปด้วยเสียงทุ้มของเจ้าภาพของงานเลี้ยงคืนนี้ ศิวกรณ์ พิษณุราชบดี ทายาทคนเล็กของตระกูลดังที่ความรวยมั่งคั่งติดอันดับต้นๆของประเทศไทย
“ สุดยอดไปเลยว่ะ ไอ้อีฟ สนามหน้านัดชิงแชมป์เอเชียมันต้องเหยียบให้มิดทำเวลาให้ดีกว่านี้เลยนะโว๊ย เพื่อน ” อรรถพลเอ่ยบอกพร้อมกระดกแก้วที่ภายในผสมน้ำสีอำพันไว้อยู่รวดเดียวหมดแก้ว
“ ของมันแน่อยู่แล้ว…คนอย่างศิวกรณ์ไม่เคยแพ้ใคร!!! พวกแกไม่ต้องห่วงแชมป์เอเชียมันต้องเป็นของฉันอย่างแน่นอน ” ศิวกรณ์เอ่ยบอกน้ำเสียงจริงจัง สายตาคมส่องประกายความทระนงในตัวเองอย่างเห็นได้ชัด
“ พวกแกจะกินอะไรก็สั่งเอามาเลยไม่ต้องเกรงใจ คืนนี้ฉันเลี้ยงเอง เอา!..ดื่ม ” ศิวกรณ์ชูแก้วยื่นไปด้านหน้าเพื่อนชนกับเพื่อนๆที่นั่งล้อมวงกันอยู่ที่โต๊ะ
“ พวกฉันจะกล้าขัดศรัทธาทายาทคนเล็กของมหาเศรษฐีเมืองไทยได้ยังกัน จริงไหมว่ะ ไอ้เทพ ไอ้อรรถ ” นัทธีเอ่ยแซวศิวกรณ์อย่างไม่จริงจังนัก
“ พวกแกก็พูดเกินจริงไปหน่อยนะ ทำยังกับพวกแกยากจนกันเหลือเกินนะ ไอ้อรรถลูกชายเจ้าของห้างสรรพสินค้า ไอ้เทพก็ลูกชายร้านทอง ส่วนแกไอ้นัทก็ลูกชายเจ้าของโชว์รูมรถยนต์ ถามหน่อยเถอะพวกแกจนตรงไหนว่ะ พวกแกมันมัวแต่ทำงานเก็บเงินแต่ไม่ยอมหาความสุขให้กับตัวเองกันเสียเลยจะปล่อยให้เงินทองมันล้นทับพวกแกตายหรือไง ” ศิวกรณ์แกล้งแขวะกลับไปบ้างอย่างไม่จริงจังนัก ด้วยความที่พวกเขาทั้งสี่คนคบหาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมพอเรียนจบก็พากันไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศจึงทำให้พวกเขาสี่คนยิ่งสนิทกันมากขึ้นไปอีก จนบางครั้งอาจจะถึงขั้นยอมตายแทนกันได้ก็คงไม่เกินไปนัก
ในบรรดาสี่หนุ่มคนที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้และขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์รายวันมากที่สุดคงต้องยกให้ ศิวกรณ์ ทายาทลำดับที่สองของตระกูลพิษณุราชบดี ตระกูลที่ร่ำรวยมาตั้งแต่บรรพบุรุษด้วยที่มีลูกหลานดีคอยสืบทอดกิจการต่อๆกันมา ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับการทำอะไหล่รถยนต์ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม และด้วยธุรกิจทางบ้านผลิตอะไหล่รถยนต์ส่งออกทั้งในและนอกประเทศ ทำให้คุณชายเล็กของบ้านอย่างศิวกรณ์ที่เติบโตมาพร้อมๆกับอะไหล่รถยนต์ รู้จักอะไหล่ทุกชิ้นไม่ว่าชิ้นเล็กชิ้นน้อย จึงชื่นชอบความเร็วอย่างการแข่งรถเป็นที่สุด
“ ยังไงฉันก็จนอยู่ดีว่ะ ถึงบ้านจะทำโชว์รูมขายรถแต่อะไหล่ทุกชิ้นต้องสั่งจากบริษัทแกทั้งนั้น แล้วแกจะหาว่าฉันรวยได้ยังไง ยังไงก็จนกว่าแกอยู่ดี ” นัทธีเอ่ยเย้าเสียงกลั้วหัวเราะ พาให้เพื่อนๆที่นั่งอยู่ต่างขบขันไปกับการเย้าแหย่ของสองหนุ่มเสียไม่ได้
“ แกนี่มันต้อนไม่เคยจนมุมเสียที ฉันล่ะสงสารคุณแบมจริงๆที่ต้องมาเจอกับคนกะล่อนอย่างแก ” ศิวกรณ์เอ่ยถึงแฟนสาวของเพื่อนรักที่ตอนนี้กำลังไปศึกษาต่อปริญญาโทที่ออสเตรเลียและคงอีกหลายเดือนถึงจะกลับมาไทย
“ เฮ้ย!!! แกพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะโว๊ย ถึงฉันจะกะล่อนแต่ก็ไม่เจ้าชู้อย่างใครบางคนแถวๆนี้หรอก ”
“ ช่วยไม่ได้! ความโสดมันทำให้เราอิสระ ฉันยังรักการแข่งรถ ยังรักจะสนุกอยู่ว่ะ ” ศิวกรณ์ตอบอย่างไม่ยีหระ
“ เอ่อ! ฉันก็ขอให้แกใช้ความโสดของแกให้นานๆแล้วกัน ไอ้อีฟ ” นัทธีประชดกลับ
“ พอเลยๆแกสองคนก็พอกันแหละ เอาอะไรมาคุยกันวะเสียบรรยากาศชะมัด ฉันสองคนนั่งฟังแล้วปวดหัวจริงๆ คืนนี้ไปหาอะไรๆสนุกๆทำกันดีกว่า ฉันไม่ได้ผ่อนคลายมาหลายวัน ยังไงพรุ่งนี้ก็วันหยุดทั้งที ” อรรถพลเอ่ยชวนเป็นนัยๆสายตาพราวระยับ หลังจากทนนั่งฟังเพื่อนรักทั้งสองคนถกเถียงกันไปมา
“ พวกเราไป…”
“ น่าสน แต่ต้องไม่ใช่ผู้หญิงทำงานกลางคืน!!! ” อรรถพลยังไม่ทันเอ่ยจบดี ศิวกรณ์ก็เอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อนเมื่อรู้ความนัยของเพื่อนรัก
>>>>>>>>>>>>>อ่านแล้วอย่าลืม เม้น ติชมเพื่อให้นัก(หัด)เขียนคนนี้ เก็บเอาไปปรับปรุงด้วยน๊า....
ความคิดเห็น