ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Friend รักหมดใจของยัยตัวร้ายกับนายขี้เก๊ก

    ลำดับตอนที่ #16 : กุหลาบแดงสามดอก แปลว่า ฉันรักเธอ

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 52


    สองทุ่มกว่าๆ  ไอซ์ก็มาส่งฉันที่บ้าน   แต่ทำไมวันนี้บ้านเราปิดไฟเงียบแบบนี้ล่ะ  แม่กับพี่คลื่นหายไปไหนกัน    อย่าบอกนะว่าหนีไปเที่ยว  แล้วทิ้งฉันไว้ที่บ้านคนเดียว   ทุกคนลืมวันเกิดของฉันหมดแล้วเหรอ  แล้วฉันต้องนั่งฉลองวันเกิดคนเดียวเหรอ  ฮือๆๆๆ  ใจร้าย
     "ไอซ์กลับก่อนเถอะ   เดี๋ยวฉันจะเข้าบ้านแล้วล่ะ"ฉันหันไปพูดกับไอซ์
     "ฉันว่า.......  ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอดีกว่า   แม่กับพี่ชายเธอไม่อยู่ไม่ใช่เหรอ"ไอซ์มองเข้าไปในบ้าน   แล้วทำท่าทางแปลกๆ   รู้สึกสังหรณ์ใจยังไงชอบกล   แต่คงไม่มีอะไรหรอก  คิดมากไปเองมั้ง   เข้าบ้านดีกว่า
    พึ่บ !!!!!!!
     "Happy      Birthday    to  you …..      Happy      Birthday    to you……     Happy      Birthday     Happy      Birthday…..     Happy …..     Birthday …… to…..  You   ………"เสียงทุกคนตะโกนขึ้น
     "..............."ฉันได้แต่ยิ้มอย่างตื่นตันใจ  ที่ทุกคนจัดงานวันเกิด เซอร์ไพรส์ฉันแบบนี้   ฉันหันไปมองหน้าไอซ์ที่ยืนยิ้ม ข้างๆ
     "มัวแต่ยิ้มอยู่ได้   เข้ามาเป่าเค้กสิ"พี่คลื่นจูงมือฉันเข้ามาในบ้าน
     "อธิฐานก่อน แล้วค่อยเป่านะลูก" แม่ยิ้มให้ฉัน 
     ขอให้ทุกคนที่ฉันรักมีความสุขมากๆ  และขอให้ฉันกับไอซ์รักกันนานๆ
     ฟู่ ๆๆ 
     แล้วทุกคนก็ทยอยกันมามอบของขวัญให้ฉัน  ซึ่งคนแรกก็คือแม่
     "นี่จ๊ะ  ของขวัญวันเกิด  ขอให้ลูกแม่มีความสุขมากๆนะ"  แม่ยิ้มพร้อมทั้งยื่นของขวัญมาให้ฉัน   มันเป็นนาฬิกาเรือนใหม่    ที่ฉันกำลังอยากได้อยู่พอดีเลย  แม่เนี่ยน่ารักจัง   รู้ใจฉันหมดทุกเรื่องเลย  ฉันเลกอดและหอมแม่ฟอดใหญ่
     "พี่คลื่น  นั่นใครอ่ะ"  ฉันชี้ไปทางผู้หญิงคนหนึ่ง   ที่หน้าตาน่ารัก    ดูแล้วน่าจะอายุใกล้เคียงกับพี่คลื่น    หรือว่าเขาจะเป็นแฟนพี่คลื่น
     "นั่นเหรอ  ฟ้าใส  ว่าที่พี่สะใภ้เธอไง  น่ารักมั้ยล่ะ" พี่คลื่นยิ้มจนแก้มแทบปริเลย   รู้ตัวรึเปล่าเนี่ยว่าตัวเองหน้าแดงแค่ไหน 
     "เหรอ   แล้วพี่ฟ้าใสบอกเหรอ ว่าจะแต่งงานกับพี่น่ะ" ฉันแกล้งหยอกพี่คลื่น
     "อ้าว  พูดงี้ เดี๋ยวปัด........ เลย"พี่คลื่นพูดและเราสองคนก็หัวเราะด้วยกัน
      "อะ  นี่  ของขวัญวันเกิด   มีความสุขมากๆนะ" แล้วเราสองคนพี่น้องก็กอดกัน 
     "อะ  แฮ่ม  ๆๆ พี่น้องคู่นี้  รักกันจังเลยนะ"ไอซ์แกล้งทำเสียงประชดเราสองคนพี่น้อง
     "เฮ้ย   อะไรติดคอวะ" พี่คลื่นพูดขึ้น   แต่ก็ยังกอดฉันอยู่
     "เปล่าครับ   แค่ความรักระหว่างพี่น้องมันติดคอ  พี่ทำอะไรไม่เกรงใจ เจ๊ เขาบ้างหรือครับ"ไอซ์พูดแล้วก็ทำท่าทางชี้ไปทางพี่ฟ้าใสที่นั่งยิ้มอยู่
     "นายไม่ต้องมาพูดมาก   นายต้องดูแลน้องฉันให้ดีดีนะ  อย่าทำให้น้องฉันต้องเสียใจ  ไม่งั้นนายตายแน่" พี่คลื่นหันมาทำหน้าดุใส่ไอซ์  ทำให้พวกเราทุกคนหัวเราะคิกคักกันใหญ่
     "ส่วนนี่ของฉันกับของบอลนะ    แก่ขึ้นอีกปีแล้วนะป้า  อย่าเอาแต่ใจตัวเองล่ะ" ยัยส้มหยิกแก้มฉันเบาๆ  และหันไปหัวเราะให้บอล 
     คู่นี้มันไปรักกันตอนไหนก็ไม่รู้  รู้อีกที  สองคนนี้ก็ควงกันไปเที่ยวไหนต่อไหนแล้ว  แต่ฉันว่ามันสองคนเหมาะสมกันดี  คนหนึ่งก็สวย  คนหนึ่งก็หล่อ  เดินไปไหนด้วยกัน  คงมีคนอิจฉาเป็นแถวแน่
    ถึงแม้บอลจะไม่ได้รับความรักจากฉันในฐานะคนรัก        แต่เขาก็ได้รับความรักที่ดีกว่า  นั่นคือความรัก  และมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่ฉันมอบให้  ซึ่งไม่อาจมีสิ่งใดเทียบได้  เพราะมันจะมั่นคงและยืนยาวตลอดไป   และตอนนี้เขาก็มีคนรู้ใจที่เหมาะสมกับเขาแล้ว  คนเราควรจะรักคนที่เขารักเราดีกว่า.............
     “ไอซ์   แล้วของนายล่ะ   ไม่มีของขวัญให้แพรเหรอ” ส้มแซวไอซ์ที่ตอนนี้ยืนยิ้มเหมือนกับคนบ้า 
     “............”ไอซ์ไม่ตอบเอาแต่ยืนยิ้ม
     ยืนยิ้มอยู่ได้   สงสัยท่าจะบ้าแฮะ    แต่ถึงนายจะบ้าฉันก็รักนาย   แพรคิดและเผลอยิ้มตาม

     ทุกคนสนุกสนานกับงานเลี้ยง   และดูมีความสุขกันมาก      เรานั่งคุยกันจนดึก  ถึงเวลาที่ทุกคนต้องแยกย้ายกลับบ้านกันแล้ว   บอลต้องไปส่งส้มที่บ้าน   พี่คลื่นก็ไปส่งพี่ฟ้าใสที่บ้าน  ส่วนแม่ก็คงจะอยู่ในครัว   ฉันกับไอซ์จึงมานั่งเล่นที่สวนหย่อมหน้าบ้าน   สายลมยามค่ำคืนพัดผ่าน   ทำให้ผมของเขาปลิวไสว   ฉันนั่งมองผู้ชายคนข้างๆอยู่เนิ่นนาน   หากฉันกับเขาไม่ยอมปรับความเข้าใจกัน   ฉันจะมีความสุขแบบนี้มั้ยน้า
     “แพร...สุขสันวันเกิดนะ” ไอซ์ยื่นช่อดอกไม้มาให้ฉัน    เขาเอามันตอนไหน ทำไม ฉันไม่รู้นะ ผู้ชายคนนี้ชอบทำให้ฉันแปลกใจอยู่เรื่อยเลย
     “ขอบใจนะ” ฉันรับช่อดอกไม้มาอย่างอายๆ   กุหลาบแดง สามดอกงั้นเหรอ ตาบ้านี่โรแมนติกก็เป็นแฮะ  
     ฉันก้มลงเพื่อสูดกลิ่นหอมของดอกกุหลาบ   แต่มันก็ทำให้ฉันเจอของบางสิ่ง บนกุหลาบช่อนั้น
     “ไอซ์ นี่มัน....” ฉันถามไอซ์เพื่อความแน่ใจ เพราะสิ่งที่อยู่บนช่อกุหลาบ คือ สร้อยรูปโลมาคู่   สร้อยที่ฉันเป็นคนเลือกเองกับมือ
     “อืม    ก็ตอนที่ซื้อ   ฉันบอกว่าจะซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดผู้หญิงคนนึง     ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็คือ แพรไง” ไอซ์ตอบแต่ไม่ยอมมองหน้าฉัน ฉันรู้ว่าเขาเขินมากๆ หน้าเขาแดงจนรามไปถึงหูแล้ว   น่ารักชะมัดเลยผู้ชายคนนี้
     “หันหลังมาสิ    เดี๋ยวฉันใส่ให้”   ไอซ์ใส่สร้อยให้ฉัน   แต่เขายังดูอายๆอยู่   ก็น่ารักแบบนี้   จะไม่ให้ฉันรักได้ไง
     “ไอซ์......”   ฉันเรียกเขาเบาๆ 
     “ฮือ”   ไอซ์ตอบแล้วหันมามองหน้าฉัน
     “รู้รึเปล่าว่ากุหลาบแดงสามดอกเนี่ย มันแปลว่าอะไร”    ฉันทำหน้าไร้เดียงสาให้เขา
     “รู้สิทำไมจะไม่รู้” ไอซ์ยิ้มแบบเขินๆ   แล้วหันหน้าไปทางอื่น
     “แล้วมันแปลว่าอะไรล่ะ”
     “แพรก็รู้คำตอบแล้วหนิ” ไอซ์หน้าแดงมากขึ้นอีก น่ารักน่าหยิกชะมัด
     “ก็แพรไม่รู้หนิ   ถ้ารู้จะถามเหรอ”ฉันยังแกล้งเขาอีก
     “แปลว่า    ฉันรักเธอ” ไอซ์พูดเบาๆ   แต่ฉันได้ยินชัดเจนทุกคำ    ตอนนี้รู้สึกตัวมันเบาๆหวิวๆ
     “แปลว่าอะไรนะ    ฉันไม่ได้ยินเลย” ก็ฉันอยากแกล้งเขาหนิ
     “แปลว่า    ฉัน-รัก-เธอ   ไงได้ยินรึยัง” ทีนี้จากพูดเบาๆมาเป็นตะโกนลั่นบ้าน   แถมยังเน้นคำว่า   ฉันรักเธออีกด้วย
     “ได้ยินแล้วพูดเบาๆก็ได้” ฉันรีบปรามเขาทันที    ตะโกนขนาดนี้   เดี๋ยวข้างบ้านเขาก็ขว้างอะไรมาหรอก
     “ก็แพรไม่ได้ยินหนิ”   ไอซ์ทำท่างอนฉัน   ต๊าย!!  ตาบ้าอย่าทำน่ารักแบบนี้อีกนะ  แค่นี้ก็หลงหัวปลักหัวปรำแล้ว
     “โอ๋   อย่างอนนะ   โอ๋ๆๆ”ฉันพยายามง้อ
     “แล้วแพรล่ะ     คิดยังไงกับเรา”    ไอซ์ถาม ทำหน้าจริงจังด้วย
     อย่ามองแบบนั้นสิ  แค่นี้เค้าก็เขินจะแย่อยู่แล้ว
     “แพร   เราถามแพรอยู่นะ   จะไม่ตอบคำถามเราเหรอ”ไอซ์พยายามจะสบตากับฉัน   แต่ฉันไม่กล้าสบตา หนิ   อายจะแย่อยู่แล้ว   ก็รักนายเหมือนกันแหละ   แค่นี้ยังไม่รู้คำตอบอีกเหรอ
     “โอเค   เราเข้าใจแล้ว” ไอซ์พูดจบก็ลุกขึ้นยืน   แล้วแบบนี้เขาเข้าใจจริงปะเนี่ย
     “ไอซ์   จะไปไหน”ฉันดึงมือเขาไว้
     “.............”เขาส่งสายตาเย็นชามาให้ฉัน   โอว     จอร์จ    ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนี้นะ
    “โอเค   งั้นเดี๋ยวไอซ์รอฉันอยู่ตรงนี้นะ     อย่าไปไหนนะ       เดี๋ยวฉันมา   นะ   นะ   รอฉันตรงนี้นะ”   ไอซ์พยักหน้าแล้วนั่งลง    เบื่อจริงๆเล้ย   ผู้ชายขี้งอนเนี่ย  แต่ก็น่ารักนะ








                         ฉันเดินกลับไปที่ห้อง  เพื่อไปหยิบไดอารี่   ถ้าเขาอ่านมันแล้ว  เขายังจะงอนฉันอีกมั้ยน้า     แล้วฉันก็เดินกลับไปที่สวนหย่อมหน้าบ้าน    ไอซ์ยังนั่งอยู่ตรงนั้น 
     “อะ    ฉันให้”ฉันยื่นไดอารี่ให้ไอซ์   เขารับมันไปอย่างงง
    “วันเกิดเธอ    ยังจะให้อะไรคนอื่นเค้าอีกเหรอ”
    “ก็ให้ไอซ์คนเดียวแหละ” ฉันพูดแล้วก็นั่งลงข้างๆเขา
    ไอซ์นั่งพิจารณาไดอารี่ฉันสักพัก   แล้วเขาก็ยิ้มออกมา
    “ยิ้มอะไรอะ”ฉันถามเขาอย่างสงสัย
    “ไดอารี่เล่มนี้   ฉันเคยอ่ามันแล้ว”ไอซ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ฉัน
    “อะไรนะ   เคยอ่านมันแล้วเหรอ   เคยอ่านที่ไหน   บอกมาเลยนะ” ฉันงงไปหมดแล้ว   เขาเคยอ่านมันได้ยังไง   เป็นไปไม่ได้หรอก   ไม่เคยมีใครเห็นมัน    นอกจาก...............พี่คลื่น  
    “ก็    พี่คลื่นเอามาให้อ่านอะ” ท่าทางของไอซ์        เหมือนพยายามกลั้นหัวเราะอยู่   แต่เมื่อเห็นฉันทำหน้าบึ่งก็เลยหยุด
    “งอนเหรอ   โอ๋อย่างอนเลยนะ    ดีกันนะ   ดีกันๆ” ไอซ์พยายามง้อ    ท่าทางน่ารักมากเลย      อย่าทำตัวน่ารักมากเลย      แค่นี้ฉันก็รักจนไม่เหลือใจไว้ให้ใครแล้ว
    “แพร.....”
    “ฮือ....”
    “ฉันรักเธอนะ    ยัยตัวแสบ”ไอซ์กระซิบเบาๆ
    “ฉันก็รักเธอ   นายขี้เก๊ก”
    เขาโน้มหน้ามาใกล้ฉัน   ริมฝีปากที่เรียวบางและอบอุ่นของเขาประกบที่ริมฝีปากของฉัน   ช่างเป็นจูบที่หอมหวานและอบอุ่นเหลือเกิน    สายลมยามที่พัดผ่านไม่สามารถหอบความอบอุ่นนี้ไปได้    จักจั่นเรไรส่งเสียงร้องคล้ายแสดงความยินดีต่อเราทั้งสอง   วินาทีนี้ไม่มีใครหรือสิ่งใดมาพรากความรักของเราสองคนได้  ดาวบนท้องฟ้าทอแสงระยิบระยับก็เหมือนจะเป็นสักขีพยานในความรักของเรา    ถึงแม้แสงดาวจะสิ้นแสงลง  แต่ความรักของเราสองคนจะไม่มีวันสิ้นสุดลง
    ฉันรักผู้ชายคนนี้จัง


    5 ปีต่อมา

    “อ้าวแพร ตื่นแล้วเหรอ นั่งสิ จะได้กินข้าว วันนี้มีข้าวต้มกุ้งของโปรดคุณด้วยนะ”ชายหนุ่มพูดขึ้น แต่ยังไม่ยอมเงยหน้าจากหนังสือที่ถืออยู่   ตรงหน้าเขามีถ้วยกาแฟกับขนมปังวางไว้   ดูแล้วเขายังไม่ได้แตะมันเลย
    ฉันนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเขา   แม่บ้านเอาข้าวต้มกุ้งของโปรดของฉันมาเสิร์ฟ  ปกติมันหอมน่ากินมาก  แต่ทำไมวันนี้มันถึงเหม็นอย่างนี้นะ    
    ฉันรีบเอามือปิดปากตัวเอง  แล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที  ถ้าอยู่นานกว่านี้มีหวัง   อวกมันตรงนี้แหละ   ไอซ์เห็นฉันรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ  เขาก็รีบตามมาทันที
    “แพรเป็นไงบ้าง   ช่วงนี้คุณอวกบ่อยนะ ไปหาหมอดีกว่ามั้ย   เดี๋ยวผมพาไป”ไอซ์พูดแต่ยังเอามือลูบหลังฉัน
    “ฉันไม่เป็นไรหรอก    ไม่ต้องห่วง”
    “แต่คุณหน้าซีดมากเลยนะ ผมว่าไปหาหมอ ให้เค้าตรวจให้ละเอียดว่าคุณเป็นอะไรกันแน่ งั้นรอเดี๋ยวนะ ผมขอโทรไปสั่งงานที่โรงแรมก่อน เดี๋ยวผมพาคุณไปหาหมอนะ”ว่าแล้วเขาก็เดินไปหยิบโทรศัพท์ 
    “ไม่ต้องหรอกคะ คุณไปทำงานเถอะ งานที่โรงแรมเยอะจะตายไป    อีกอย่างฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก เดี๋ยวฉันไปหาหมอคนเดียวก็ได้”
    “แต่...............”ไอซ์พยายามโต้แย้ง
    “ไม่มีแต่คะ   งั้นวันนี้ฉันขอลางานหนึ่งวันนะคะท่านประธาน”
    “ด้วยความยินดีครับ”แล้วเราก็หัวเราะให้กัน
    ฉันกับไอซ์แต่งงานกันได้เกือบปีแล้วคะ   เราสองคนช่วยกันก่อตั้งโรงแรมขึ้น  โดยชื่อว่าโรงแรม  พีแอนด์ไอ      ไอซ์เขาทำหน้าที่บริหารงานเอง   โดยมีฉันเป็นผู้ช่วยเขา   กิจการของเราเจริญก้าวหน้ามาก  เพราะเราถือคติที่ว่าลูกค้าก็เหมือนญาติสนิทของเรา  ดังนั้นเราต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด


    11.40 น.  ณ โรงแรมพีแอนด์ไอ

    ก๊อกๆๆ

    “เชิญครับ”เสียงของไอซ์ดังขึ้นจากในห้อง
    ฉันจึงเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของเขา   แฟ้มเอกสารวางกองเต็มโต๊ะไปหมด เขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มให้
    “รอเดี๋ยวนะ งานผมใกล้จะเสร็จแล้ว เดี๋ยวเราจะไปกินข้าวกัน”แล้วเขาก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ    บ้างานจริงๆเลยที่รักฉันเนี่ย
    “ฉันไปหาหมอมาแล้วนะ หมอบอกว่า..............”ฉันพูดแค่นั้นก็หยุดพูด   ดูสิเขาจะสนใจฉันมั้ย
    เป็นไปตามที่คาดไว้  เขารีบเงยหน้ามามองหน้าฉัน   และรีบถามทันที
    “หมอว่าไงบ้าง คุณเป็นอะไรมากรึเปล่า”ว่าแล้วเขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินมาหาฉัน
    “คุณดูเองเถอะ   ฉันไม่อยากพูด”ฉันทำหน้าเศร้า   ทำให้เขารีบเข้ามาดูฉัน   ฉันจึงส่งผลการตรวจร่างกายของฉันให้เขาดู
    ไอซ์จ้องผลการตรวจร่างกายของฉันอยู่นาน   สักพักเขาก็ทำตาโต  เขายิ้มจนแก้มแทบปริ  และรีบถามฉันใหญ่เลย
    “เรากำลังจะมีลูกจริงๆเหรอ   ผมจะได้เป็นพ่อคนจริงๆเหรอ   ผมไม่ได้ฝันไปนะ”ไอซ์ถามฉันซ้ำๆ   เมื่อฉันพยักหน้า เขาก็อุ้มฉันแล้วหมุนไปรอบๆ ทำให้ฉันอยากจะอวกขึ้นมา  
    “แพร   คุณเป็นอะไรน่ะ”ไอซ์รีบวางฉันลง  
    “เปล่าหรอก แค่เวียนหัวนิดหน่อยน่ะ”
    “ไม่เป็นอะไรจริงๆนะ”
    “อืม”
    “ผมรักคุณจัง”
    “ฉันก็รักคุณคะ”
    จากนี้ไป ไม่มีอะไรจะมาพรากเราสองคนให้จากกันได้  ยิ่งตอนนี้เรากำลังจะมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นอีกคน   ยิ่งทำให้เรารักและเข้าใจกันมากขึ้น   ความรักไม่มีนิยามหรือกฎเกณฑ์ที่แน่นอน  แต่ความรักจะขึ้นอยู่กับคนสองคน ที่มีความรักและความเข้าใจต่อกัน เพื่อจะร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรค์ขวากหนามไปได้  หากคุณเชื่อมั่นในความรัก   ความรักก็จะเชื่อมั่นในตัวคุณ

      


                                                                                  ******The    End******

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×