ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Friend รักหมดใจของยัยตัวร้ายกับนายขี้เก๊ก

    ลำดับตอนที่ #1 : วันเปิดเทอม

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 51


    สายลมพลิ้วไหวพัดผ่านทางหน้าต่างห้องนอน   ทำให้ผ้าม่านสีฟ้าปลิวไสว  แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า สาดแสงมาถึงเด็กสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงอันนุ่มนวลราวขนนก  เสียงนกนานาชนิดส่งเสียงร้อง ฟังแล้วคล้ายเพลงที่ขับกล่อม  เพื่อปลุกให้เธอตื่น

    "เฮ้ย..............เช้านี้อากาศดีจังเลย  ออกไปสูดอากาศข้างนอกสักหน่อยดีกว่า" เด็กสาวกำลังลุกจากที่นอน บิดขี้เกียจ และเดินออกไปที่ระเบียงห้อง  พลางสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า   ลมพัดมาทำให้เส้นผมเธอดูปลิวไสว  เปิดรับกับใบหน้าขาวใสของเธอเป็นอย่างดี

    "แพร  ตื่นหรือยังลูก  รีบลงมากินข้าวเร็ว" เสียงของผู้เป็นแม่ตะโกนมาจากข้างล่าง

    "คะแม่ เดี๋ยวหนูลงไป" ฉันตะโกนบอกแม่ พร้อมทั้งเดินไปอาบน้ำ แต่งตัวเพื่อเตรียมตัวที่จะไปโรงเรียน

                    ฉันชื่อ แพร หรือ พิริสา ทรัพย์ไพศาลสกุล อายุ  18 ปี  สาวน้อยน่ารักและเป็นที่รักที่สุดในโลก (แหวะ_____นกน้อย)  แฮะ ๆ  น่ารักที่สุดในบ้านก็ได้คะ  ตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ม.6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง  ฉันเป็นสาวน้อยน่ารัก  เรียนเก่ง  แถมนิสัยดีอีกต่างหาก (ไม่ค่อยหลงตัวเองเลยนะยะ____นกน้อย)  แต่เสียอย่างเดียวคะ   อายุตั้ง  18  ปีแล้ว   แต่ยังไม่มีแฟนสักที    เฮ้ย....เศร้าจัง   ทำไมสวรรค์ไม่เห็นใจสาวน้อยน่ารักอย่างฉันบ้างนะ

     

    15 นาทีผ่านไป

     

    "โฮ  ข้าวต้มกุ้งเหรอแม่  ของโปรดของแพรเลยนะเนี่ย"ฉันทำตาโต เมื่อเห็นอาหารเช้าเป็นที่ถูกอกถูกใจ ก็นานๆทีจะได้กินข้าวฝีมือแม่นี่  แถมยังเป็นของชอบอีกต่างหาก  วันนี้ล่ะจะกินให้พุงกางเลย

    "ชอบก็รีบกินสิลูก  จะได้รีบไปเรียน  เปิดเทอมวันแรกด้วยนะ  คณะกรรมการนักเรียนมาสาย  อายรุ่นน้องเค้าแย่เลย" แม่พูด แล้วยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน ฉันจึงนั่งกินข้าวเช้าอย่างอารมณ์ดี

    ไม่ต้องแปลกใจหรอกคะ   ฉันเป็นหนึ่งในคณะกรรมการนักเรียนของโรงเรียน   คนสวยๆอย่างฉันเนี่ย   จะมีหน้าที่อะไร   ถ้าไม่มีหน้าที่คอยต้อนรับแขกของโรงเรียน  (เว่อไปแล้วย่ะยัยขี้เหล่ ____นกน้อย) แฮะๆ   ฉันอยู่ฝ่ายปฏิคมคะ   ก็คือฝ่ายต้อนรับนั่นเอง และก็มีหน้าที่เป็นพิธีกรในงานต่างๆของโรงเรียนอีกด้วย   ส่วนคุณสมบัติในการคัดเลือก    ก็ไม่มีอะไรมากหรอกคะ   แค่พูดมากและกล้าแสดงออกแค่นั้นเอง

    "แม่คะ...หนูไปเรียนแล้วนะ  เจอกันเย็นนี้คะ" ฉันวิ่งไปหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ และเดินออกจากบ้านไป

    "จ๊ะ"แม่ยิ้มในความเป็นเด็ก  และความน่ารักของลูกสาว

     

    ฉันนั่งรถประจำทางมาโรงเรียน  เวลาผ่านไป  20  นาที  รถก็มาจอดที่หน้าประตูโรงเรียนพอดี  เปิดเทอมวันแรกก็เป็นอย่างนี้แหละ  เด็กนักเรียนส่งเสียงดังจอแจกันไปทั่ว  ปิดเทอมนานแบบนี้ ทุกคนคงมีเรื่องสนุกๆมาเล่าให้เพื่อนๆฟังกันเยอะแยะมากมาย  ซึ่งฉันก็มีเรื่องที่จะเล่าให้เพื่อนของฉันฟังเหมือนกัน

    "แพร ทางนี้" ส้มซ่าเพื่อนตัวแสบของฉัน   กวักมือเรียกฉัน ตั้งแต่ฉันยังไม่เดินเข้าประตูโรงเรียนเลย

    "ไงยะ มาดักรอมีอะไรจะเม้าท์อีกล่ะ" ฉันพูดพลางทำหน้ารู้ทันส้ม

    "รู้ดีจริงเลยนะ  แพรเพื่อนรัก" ส้มแกล้งพูดจีบปากจีบคอประชดฉัน  เห็นแล้วหมั่นไส้จริงๆเลย

    "ก็ฉันเพื่อนแกนี่  ไม่ให้รู้ดีได้ไงล่ะ  จริงป่าว"

    เออยัยนี่  ถามได้ถ้าฉันไม่รู้เรื่องแก  แล้วจะไปรู้เรื่อง......แมวที่ไหนวะ 

    "แหมๆๆ   ประชดฉันอีกแล้วนะยะ" ส้มทำท่าจะน้อยใจ  

    งอนเลยเจ้าคะ   ฉันไม่ง้อหรอก    แต่...เออ...เพื่อรักษามิตรภาพระหว่างเราสองคน  เราควรจะง้อมันดีกว่า  เพราะยัยนี่เวลาโกรธแล้วจะพาล  เกิดไปฆ่าใครเข้า  เดี๋ยวเราจะซวย (ไม่ได้ห่วงฉันเลยนะ  ยัยแพร _____ส้ม)

    "มีอะไรจะเล่าให้ฉันฟังย่ะ เล่าก็เล่ามาเถอะ   ท่ามากอยู่ได้  เดี๋ยวฉันก็ไม่ฟังหรอก"  ฉันแกล้งทำงอนกลับบ้าง 

    "นี่แก  มีเด็กใหม่ ที่เข้ามาเรียนม.4 น่ารักมั๊กมากกกกกกก  หล่อ ขาว หน้าอย่างกับพระเอกเกาหลีแน่"  ส้มพูดไป  ยิ้มไป ท่าทางใกล้บ้าเข้าไปทุกที  แต่ไม่ใช่ใกล้บ้าสิ  แบบนี้เข้าเรียกว่าบ้าเลย  ฉันคบกับคนบ้าได้ไงเนี่ย  โอ้  พระเจ้าช่วย กล้วยไข่

    "เฮ้ยๆๆ  ตื่นๆๆ!!! เลิกฝันหวานได้แล้ว  อะเช็ดน้ำลายหน่อย  ไหลมาหมดปากแล้วแก" ฉันพูดแล้วแกล้งส่งผ้าเช็ดหน้าให้ส้ม

    "เฮ้ย....  อารมณ์บ่จอยกับแกจริงๆเลยหว่ะ   ไปผ่าเอาหมาออกจากปากแกมั่งนะ  ไม่มีเงินเดี๋ยวฉันออกให้  เพื่อ สวัสดิภาพปากของแกเอง  จะได้ไม่ปล่อยมันมาเผ่นพล่านกัดชาวบ้านเค้าแบบนี้"  ส้มพูดและทำหน้าแบบว่า เซ็งโคตรๆๆๆ

    "อะ..ไอ้ส้มซ่า...หน๋อยแกอยากตายมากใช่มั้ย  เดี๋ยวคนสวยจัดให้  ฉันให้แกเลือก    อยากตายแบบไหน  อยากตายแบบสบายๆ หรืออยากตายแบบทรมานฮะ   บอกมาเลย  เดี๋ยวฉันจัดให้" ฮือไอ้เพื่อนบ้า  พูดมาได้ไงว่าฉันเลี้ยงหมาไว้ในปาก  เดี๋ยวปัดเหนี่ยวเลย  เริ่มมีน้ำโหแล้วนะโว้ย

    "ฉันไม่เลือก  เพราะฉันยังไม่อยากตาย  ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน  ฉันก็ไม่อยากตาย" ส้มตอบและทำหน้ากวนอวัยวะเบื้องล่างของฉันเหลือเกิน  หน๋อยถ้าไม่เป็นเพื่อนกันนะ  แม่จะเตะให้กระดูกซี่โครงหักเลย  (ดุจริงๆ  ถ้าคลอดแล้ว ขอไปเฝ้าบ้านสักตัว สองตัวนะ...... ยัยแพร _____นกน้อย)

    ".........." ฉันไม่ตอบ และเดินกระฟัดกระเฟียดไป

    "โอ๋ๆๆๆๆ.......อย่างอนเค้าเลยนะ เค้าล้อเล่นนิดเดียวเอง  เดี๋ยวเค้าเลี้ยงข้าว  เลี้ยงหนมนะ  อย่างอนเค้าน้า" ส้มง้อฉัน  และท่าทางที่มันง้อ  อย่างกับเด็กอนุบาล  จนฉันเผลอยิ้มออกมา

    แน่ๆๆ   แกยิ้มแล้ว   ไม่งอนฉันแล้วใช่มั้ยส้มยิ้มกว้าง

    "เฮ้ย.... ขี้เกียจเถียงกับแกแล้ว  อืม..แล้วเด็กแก เป็นไงบ้าง"

    "อะ อะ สนใจอะดิ"ส้มทำหน้าจับผิดฉัน  ฉันไม่ได้สนใจ  แค่อยากรู้อะนะ  ผิดตรงไหน

    "เออ น่ะ รีบๆเล่ามาเถอะ  ฉันอยากรู้นักว่าจะเป็นยังไง โคตรหล่อ  หรือว่าโคตรเลววะ"  ฉันถามไปอย่างนั้นแหละ  สงสัยจะโคตรเลว  เพราะผู้หญิงชอบคนเลว  หุ หุ

    "โคตรหล่อดิวะ  แกนี่ก้อ  เดี๋ยวปัดเหนี่ยวเลย" ส้มทำท่าจะตบหัวฉัน  แต่พอฉันมองหน้ามัน  มันจึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ และเอามือลง   โธ่ไม่แน่จริงนี่หว่า

    "เด็กคนนั้นชื่อ น้องเดียร์  อยู่ ม.4/3  ย้ายมาจากกรุงเทพฯ  พ่อเป็นทนายความ  แม่เป็นเจ้าของร้านอาหาร   เรียนเก่งนะแก  และที่สำคัญยังไม่มีแฟนด้วย" ส้มเล่า พร้อมกับทำตาแบบหวานเยิ้มสุดๆ  กะว่าจะเคี้ยวหญ้าอ่อนอะดิ  ฉันรู้หรอกน่า  ยัยวัวแกเอ๊ย...... 

    "นี่ส้ม  แกเป็นนายอำเภอหรือไงยะ  ถึงได้รู้ละเอียดซะขนาดนี้" ฉันแกล้งกัด ส้มให้มันเลิกฝันหวานซะที  ดูดินำลายไหวมาถึงเสื้อนักเรียนแล้วเนี่ย  เพื่อนใครวะ โคตรส๊กมกเลย (เพื่อนแก  แหละ_____นกน้อย)

    "เออ เรื่องของฉันน่า ไปเรียนได้แล้ว   น้องเดียร์ ๆๆ" ส้มทำหน้าเซ็งๆเดินนำฉันไป และท่องชื่อ น้องเดียร์ๆๆๆ   ไปตลอดทาง  สงสัยกลัวจะจำชื่อน้องเค้าไม่ได้  เพราะว่าคุณเธอแก่แล้ว

    "ท่าจะเป็นหนักแฮะ  อยากเห็นหน้าแล้วซิ"  ฉันส่ายหัวแล้วเดินตามส้มเข้าไปเรียน

     

    ลืมแนะนำไปคะ  นี่คือส้ม  หรือ ยัยส้มซ่า ที่เรารู้จักกัน   ชื่อจริงมันคือ สรินดา  ราชประภานุกุล   ลูกสาวคนเดียวของ คุณธนากร  ราชประภานุกุล  เจ้าของบริษัทส่งออกรายใหญ่ที่สุดของประเทศ    แต่ไม่ค่อยจะมีใครรู้หรอกคะ  เพราะว่ามันชอบทำตัวติดดิน  ส๊กมกเงี่ยที่หนึ่ง  ปากเสียไม่เป็นที่สองรองใคร  แต่มันเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ  ฉันคิดว่าฉันโชคดี(รึเปล่า)ที่มีมันเป็นเพื่อน  พวกเราสองคนคบกันตั้งแต่ ม.1  เฮฮาปาร์ตี ตามประสาวัยรุ่น  แต่เราอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ตลอด  จึงไม่ค่อยมีใครห้ามเรานัก เวลาที่จะไปเที่ยวไหน  แล้วยัยนี่ก็เจ้าชู้ใช่ย่อย  มีแฟนมาแล้วนับไม่ถ้วน   มีกิ๊กเป็นโหลๆ  ฉันเคยถามมันว่าวันๆเอาแต่สับรางผู้ชายแบบนี้   ไม่เหนื่อยรึไง มันบอกว่าเหนื่อยนิดหน่อย  แต่ก็สนุกดี    ปั่นหัวผู้ชายเล่นไปวันๆ    มันบอกว่าผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายเลือกบ้าง  ไม่ใช่แต่รอผู้ชายเลือกอย่างเดียว   มันถือคติที่ว่า มีคนเดียวเสียให้โง่  มีเป็นโหลโก้จะตาย  อะไรประมาณนี้แหละคะ  แต่ฉันว่าสักวันมันต้องตายเพราะพิษรักแรงหึงนี่แหละค่ะ  ท่านทั้งหลาย

     

    "สวัสดี  นักเรียนทุกคน  ปีนี้  ม.6/1  ครูจะเป็นที่ปรึกษา  วันนี้ครูจะแจกตารางเรียนและเราจะพูดคุยกันนิดหน่อย"ครูสุปราณี  ครูสอนวิชาคณิตศาสตร์  และกำลังจะเป็นครูที่ปรึกษาห้องฉัน  กำลังโฮมรูม  และแนะนำวิธีการเตรียมตัวสอบ  Entrance แก่นักเรียนทุกคน

    "ต่อไปเรียนไรส้มซ่า"ฉันหันไปถามส้มซ่าที่กำลังอ่านหนังสือการ์ตูนอย่างเมามัน

    "เรียนชีววิทยาครับคุณผู้หญิง  อาจารย์เค้าก็ให้ตารางเรียนมาใหม่ ทำไมไม่ดูล่ะครับ  หรือว่าอ่านหนังสือไม่ออก  ฮะๆๆๆ" นั่นเสียงหมาหอน เฮ้ยเสียงบอลเพื่อนสุดที่(เกลียด)รัก เสนอหน้ามาตอบ

                    "เหรอค่ะ  ไอ้คุณบอล ใครถามแกมิทราบยะ  อย่าสะเออะดีกว่า"ฉันตอบกลับทันที  

     ไอ้นี่ไม่รู้เป็นอะไรกัดฉันตั้งแต่ม.1 จนถึงม.6  เลย  มันไม่เบื่อบ้างหรือไงวะ    ที่จริงไอ้บอลมันก็หน้าตาดี  จนถึงขั้นว่าหล่อเลยก็ว่าได้  ฐานะทางบ้านก็ดี  เรียนก็ค่อนข้างเก่ง  ดนตรี  กีฬาก็พอใช้ได้  เป็นที่ชื่นชอบของสาวน้อยสาวใหญ่ทั่งโรงเรียน  แต่ทำไมปากมันไม่ได้สร้างสรรค์เอาซะเลย  สงสัยคงรอให้ฉันช่วยศัลยกรรมปากให้   มันจะได้ดูดีขึ้นกว่าเดิม   หุ หุ

                    "เฮ้ย  อุตส่าบอกนะ   ยังเนระคุณอีก   รู้งี้ไม่ช่วยก็ดี"บอลทำหน้าเจื่อนๆ  สงบปากสงบคำลงทันที ให้มันรู้ซะมั้งว่าไผเป็นไผ

                    "ใครถามแกล่ะ ส. เสือ เองนี่หว่า" ฉันทำท่ากวนประสาทใส่บอลและเดินไปหาส้มซ่า

                    "ไงแก ทะเลาะกับไอ้บอลมาอีกล่ะสิ  พูดก็พูดเถอะ ทำไมแกสองคนไม่เคยคุยกันดีดีเลย  กัดกันอย่างกับหมา  ที่จริงเราก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน  รักๆกันไว้เถอะน่า  อีกไม่กี่เดือนเราก็จะเรียน จบกันแล้ว  จะได้เหลือความรู้สึกดีดีต่อกันบ้าง" ส้มทำคิ้วขมวดจนเป็นรูปโบ  ทำสีหน้าจริงจังสุดๆเท่าที่ฉันเคยเห็นมา  โอ้แม่เจ้า   คนอย่างส้มซ่าก็พูดอะไรที่มีสาระเป็นเหมือนกัน   สงสัยวันนี้หิมะจะตกเมืองไทยแน่ๆ

                    "ไม่รู้ซิ ไม่ชอบหน้ามั้ง"ฉันตอบและพยายามคิดตามที่ส้มพูด  ที่ส้มพูดมันก็จริง  เพราะตอนนี้เราเรียนอยู่ ม.6   แล้ว  อีกแค่ไม่กี่เดือน เราก็ต้องแยกย้ายกันไป  เพื่อเดินทางตามความฝันของเรา  เราจึงควรเก็บสิ่งดีดี  ไว้ให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้

                    "เออ  มีงี้ด้วยนะ ระวังนะแก เกลียดอะไรมักจะได้อย่างนั้นน่ะ"

    "ช่างมันเถอะ  ไปเรียนดีกว่า"ฉันชี้เกียจพูดต่อ  จึงเดินหนีไป  ทิ้งให้ส้มวิ่งตามมา 

     



                                              อ่านแล้วช่วยเม้นท์ด้วยนะจ๊ะ.......................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×