ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - CHOICES : ( Fiction SHINee - Taemin x Minho x Onew )

    ลำดับตอนที่ #3 : C H O I C E S ' II

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 54






    - CHAPTER TWO -

     

     


                    เรียวขายาวเล็กสาวก้าวขึ้นมาพาร่างของตนลงนั่งอยู่บนรถแท็กซี่โดยสาร ใบหน้าเรียวเล็กระบายยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตรให้แก่คุณลุงคนขับรถ ก่อนที่น้ำเสียงหวานจะถูกเอื้อนเอ่ยออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ

     

                    “ไปตลาดนัมแดมุนครับ ~

     

                    ทันทีที่รถโดยสารนั้นได้เคลื่อนตัวออกไป เจ้าของเรือนกายเล็กนั้นก็ได้หยิบเครื่องมือสื่อสารสีชมพูหวานออกมาจากกระเป๋าเสื้อยืดสีฟ้าอ่อน เรียวนิ้วเล็กกดไปบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือเพื่อเลื่อนหาเบอร์ปลายทางของใครบางคน

     

                    ครืด

     

                    หมายเลขโทรศัพท์ที่ตนนั้นคุ้นเคยดีได้ปรากฏชัดบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือในระยะเวลาต่อมา ใบหน้าหวานที่เคยแต้มด้วยสีชมพูจาง ๆ บัดนี้ได้ผันกลับมาเป็นสีขาวซีดเช่นเดียวกับร่างไร้วิญญาณอย่างหาข้อปฏิเสธใดไม่ได้ ริมฝีปากบางสีแดงอ่อน ๆ เม้มเข้าหากันแน่น ก่อนที่จะตัดสินใจกดยอมรับสายเรียกเข้านั้นในที่สุด

     

                    “แทมิน

     

                    น้ำเสียงทุ้มหวานแว่วดังเข้ามาในโสตประสาท หัวใจของอีแทมินเต้นช้าลงช้าลงคล้ายกับกำลังจะหยุดนิ่ง

    ริมฝีปากเรียวบางขบกันเพียงเบา ๆ ก่อนที่ของเหลวใสจะสะกดไหลลงตามหางตาเรียวสวย มือบางเพียงข้างหนึ่งกอบกำเอาไว้แน่น ก่อนที่คนตัวเล็กจะกรอกน้ำเสียงหวานเข้าหาเครื่องมือสื่อสารนั้นอย่างใจเย็น

     

                    “โทรผิดแล้วฮะ”

     

                    [ แทมินอีแทมิน พี่รู้ว่าเป็นนาย ]

     

    ”เลิกโทรหาแทมสักทีได้ไหมไปให้ไกล ๆ ให้พ้น ๆ สักที

     

    [ … ]

     

    “พี่ยุนโฮไม่สงสารแทมหรอ? ไม่สงสารคนที่จะต้องมีชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวงว่าพี่จะเข้ามาก้าวก่ายในชีวิตของแทมเมื่อไรปล่อยให้แทมลืมพี่ได้ไหม? ปล่อยให้แทมมีความสุขในโลกของแทม หัวเราะและร้องไห้ไปกับทางเดินที่แทมเลือกได้ไหม?”

     

    เมื่อสิ้นคำคนที่อยู่ปลายสายก็ได้แต่ตอบรับกลับมาเป็นเพียงเสียงของความว่างเปล่า คนตัวเล็กค่อย ๆ ละเรียวหน้าขาวเคลื่อนออกจากโทรศัพท์มือถือของตนในระยะถัดมา ก่อนที่จะเป็นฝ่ายกดตัดสายด้วยตนเองในที่สุด

    ทันทีที่รถแท็กซี่โดยสายขับเคลื่อนมาจอดอยู่ที่บริเวณประตูทางเข้าของที่หมาย เจ้าของเรียวขาเล็กก็ได้สาวเท้าก้าวออกจากรถยนต์คันนั้นพลางเคลื่อนขยับลาดกายของตนเข้าสู่ริมฟุตบาศก์ด้วยความระมัดระวัง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนกวาดมองไปรอบบริเวณเพื่อเฟ้นหาบุคคลที่ได้นัดกันเอาไว้ตั้งแต่เช้า

    หากทว่าไม่พบ

     

    “พี่คีย์นี่ยังไงกันนะ

     

    เรียวปากเล็กขมุบขมิบพึมพำกับตนเองด้วยน้ำเสียงแผ่วค่อย ก่อนที่จะคว้าเครื่องมือสื่อสารเครื่องเก่าออกมาจากกระเป๋าเสื้อของตนอีกเพียงครั้ง ปลายนิ้วมือเล็กเลื่อนสัมผัสไปบนหน้าจอโทรศัพท์นั้นอย่างใจเย็น พลางเดินเคลื่อนกายไปตามทางเท้าอย่างไร้จุดหมาย

     

    ผลั่ก!

     

    เพียงเสี้ยววินาทีต่อมา เจ้าของเรือนกายผอมบางก็ได้กระทบกับอะไรบางอย่างเข้าเต็มแรง ร่างของแทมินทรุดเซออกมาทางด้านหลังเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะถูกโอบประคองให้ทรงตัวอยู่ได้ภายในช่วงเวลาอันสั้น ดวงตากลมใสค่อย ๆ ช้อนมองอีกฝ่ายเพียงหวังจะเอ่ยคำขอบคุณ

     

    ไวกว่าความคิดแทมินกลับเป็นฝ่ายผละร่างออกจากชายหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ก่อนที่จะแผดเสียงหวานใสออกมาอย่างเลื่อนลอย

     

    “พี่ยุนโฮ

     

    แววตาสุกใสกรอกมองเจ้าของชื่อนั้นด้วยความประหลาดใจ รูปหน้าเล็กเซียวลงอย่างเห็นได้ชัด พลันเม้มกัดริมฝีปากของตนก่อนที่จะระบายหยาดหยดแห่งความโศกศัลย์ออกมาจากเบื้องหลังขอบตาเรียว

     

    น้ำตาของแทมิน

     

    “พี่คิดเอาไว้แล้วเชียวว่านายจะต้องมาที่นี่

    ร่างสูงใหญ่เอื้อมแผ่นมือหนาเข้าสัมผัสที่บริเวณพวงแก้มนิ่ม ปลายนิ้วหัวแม่มือแกร่งจรดลงซับหยดน้ำตาของคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา แววตาชื้นใสของคนตัวเล็กเพ่งมองไปยังใบหน้าของอีกฝ่ายไม่วางตา หากแต่คงไม่ใช่เพราะความรักและปรารถนาจะอยู่ร่วมกัน เป็นเพียงความเจ็บแสบแสนสาหัสที่ยากเกินกว่าจะลบลืมได้ในช่วงระยะเวลาอันสั้น

    แทมินไม่เคยลืมตรงกันข้าม ยิ่งนานเพียงไรเรื่องราวที่เป็นเสมือนฝันร้ายก็ยังคงกลับเข้ามาวนเวียนอยู่เสมอ

    “กลับมาหาพี่ กลับมาหากันได้ไหม

     

    ดวงหน้าเรียวขาวปรายยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ยิ้มให้กับคำพูดจอมปลอมที่เคยหลอมหัวใจเขาให้ละลาย

    ก้อนเนื้อภายใต้ผืนอกข้างซ้ายบีบแน่นเสียจนรู้สึกเจ็บร้าว ริมฝีปากบางสั่นเข้าน้อย ๆ ด้วยเหตุแห่งแรงสะอื้น

    แผ่นมือเล็กทั้งสองข้างเคลื่อนเข้ามาบรรจบก่อนที่จะบีบรั้งกันเอาไว้แน่น ใบหน้าหวานแหงนขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยแววตาอันเด็ดเดี่ยว ร่างสูงคลี่ยิ้มออกมาบาง ๆ อย่างมีหวัง พลางเอ่ยถ้อยประสงค์ขึ้นมาอีกครา

                   

    “เราสองคนกลับมารักกันเหมือนเดิมเถอะนะ ?”

     

     

     

     

    -   C H O I C E S   -

     

     

     

     

                    ดวงตะวันดวงใหญ่ค่อย ๆ เคลื่อนลับลงสู่เส้นขอบฟ้ากว้าง ผืนฟ้าสีครามเข้มทอประกายสีทองระยับไปทั่วทั้งแผ่น เสียงรถยนต์ที่สัญจรดังอื้ออึง ในขณะที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนต่างเดินสวนกันขวักไขว่ไปมาบนทางเท้าจากทั่วทั้งท้องถนน สำนักงานอาคารเริ่มแผดดวงไฟสีส้มแดงไปทั่วทั้งโครงตึกในคราที่ความมืดมิดกำลังเข้ามาเยือน ใบไม้สีน้ำตาลแก่หล่นร่วงออกมาจากกิ่งก้านสาขา โปรยตกลงมาท่ามกลางความวุ่นวายในใจกลางเมืองหลวงตามสภาพฤดูกาลของมัน

     

                    แผ่นกระจกทึบหนาจากหับห้องสี่เหลี่ยมยังคงเบียดบังพื้นเสียงของความว้าวุ่นจากโลกภายนอกได้ดีเช่นเคย

    เจ้าของเรือนร่างบางเล็กค่อย ๆ ทิ้งกายลงเหนือโซฟาสีแดงตัวเก่าภายหลังจากที่เพื่อนรุ่นพี่ได้กลับออกไปได้เพียงครู่

    รูปตาบวมก่ำค่อย ๆ ปิดลงด้วยความอ่อนล้า แฝงซ่อนการหลั่งรินของหยาดน้ำตาเอาไว้ภายใน ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่ววันย้อนกลับเข้ามาทำร้ายเขาไม่รู้กี่ครั้งกี่ครา ราวกับจะไร้ซึ่งหนทางที่จะเลี่ยงหลีกออกมาก็ไม่ปาน

     

                    ก๊อก ก๊อก

     

                คนตัวเล็กที่กำลังนอนพริ้มอยู่ในท่าที่สบายผันกายสะดุ้งโหยงภายหลังจากที่มีเสียงของผู้มาเยือนดังเข้ามาในโสตประสาทผ่านประตูบานใหญ่ แทมินถอนหายใจเพียงชั่วครู่ แล้วจึงเคลื่อนกายออกมายืนอยู่ภายหน้าประตูไม้บานกว้าง

     

                    ในเวลาแบบนี้คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากพี่มินโฮใช่ไหม ? คิดได้แค่เพียงเท่านั้น สารพันคำถามก็หลั่งแล่นออกมาจากหัวสมอง ทั้งกลุ้มทั้งกลัวถ้าพี่มินโฮถาม เขาจะต้องตอบออกไปว่าอะไร ? ถ้าพี่มินโฮรู้ว่าวันนี้เขาได้ออกไปพบเจอใครแม้จะเป็นเพียงความบังเอิญก็ช่าง อีกฝ่ายจะโกรธเขาหรือไม่ ? มากหรือน้อยเพียงใด ?

     

                    ร่างเล็กสูดลมหายใจเข้าปอดอีกเพียงครั้ง ก่อนที่จะบิดกลอนประตูออกมาอย่างชั่งใจ แรงผลักจากภายนอกดันเข้าหาเรือนกายของตนด้วยท่าทีที่เร่งร้อนผิดจากครั้งทั่ว ๆ ไป แววตาของคนตัวเล็กแปรจากความกังวลเป็นความหวาดกลัว เรียวหน้าขาวชะโงกออกไปให้พ้นจากขอบประตูบานใหญ่ ก่อนที่จะจับภาพของอีกฝ่ายได้ในอีกชั่ววินาทีต่อมา

     

                    พี่จงฮยอน

     

                    “แทมินเป็นอะไรหรือเปล่า ?”

     

                    เจ้าของลาดกายล่ำสันเคลื่อนเข้ามาภายในห้องหับที่ต้องประดับประดาด้วยของใช้และเครื่องเรือนสีลูกกวาด เจ้าของชื่อยังคงนิ่งงันอยู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทันทีที่แผ่นมือหยาบกร้านสัมผัสเข้าที่ใบหน้าของตน ดวงหน้าหวานนั้นก็ผันกลับมาเป็นอย่างเช่นเคย ฉุนจมูก ขอบตาร้อนผ่าวภายหลังจากที่น้ำตาหยดแรกรินไหล เรือนกายเล็กก็โถมกายเข้ากอดอีกฝ่ายเสียเต็มแรง จงฮยอนวางฝ่ามืออุ่นแตะลงที่ลาดไหล่เล็กเบา ๆ เพียงไม่กี่ครั้ง พลางพร่ำคำว่าไม่เป็นไรนับร้อยนับพัน เรื่อยจนกว่าคนตรงหน้าจะสงบอาการลง

     

                    ทั้งคู่เดินกลับมานั่งที่บริเวณห้องโถงกว้าง ชายหนุ่มเจ้าของเรือนร่างกำยำเหยียดริมฝีปากของตนจนเป็นเส้นตรง

    ใบหน้าหวานปรายตาขึ้นมาอีกฝ่ายอย่างกลัว ๆ กล้า ๆ ก่อนที่จะได้ยินน้ำเสียงของคนตรงหน้าเอ่ยขึ้น

     

                    “จะเล่าให้พี่ฟังได้หรือยังว่าเป็นอะไร ?”

                    หลังจากที่แทมินดำเนินความสัมพันธ์กับมินโฮในรูปแบบที่เปิดเผย ไม่บ่อยครั้งนักที่คิมจงฮยอนจะมาแวะเวียนในบริเวณที่พักอาศัยของตน อาจไม่ใช่เพียงเพราะวางใจให้บุคคลที่สามคอยดูแล แต่เพราะจงฮยอนรู้ดีว่าถ้าหากยังคงแวะเข้ามาบ่อย ๆ โดยปราศจากเงาของมินโฮเช่นนี้ บุคคลภายนอกอาจจะมองแทมินในทิศทางที่ไม่ดีแน่

     

                    “แทมินนา

     

                    น้ำเสียงทุ้มเข้มเปล่งวาจาออกมารบเร้าบุคคลที่เปรียบเสมือนน้องชายของตนอีกครั้ง รูปคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะเริกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม จากนั้นเรียวปากสีหวานจึงเม้มเข้าหากันแน่น

     

                    “พี่ไม่เอาไปบอกมินโฮมันหรอก”

     

                    ได้ยินดังนั้นแทมินก็รู้สึกสบายใจไปหนึ่งเปราะ แม้ว่าลึก ๆ จะรู้ดีอยู่แล้วว่าสุดท้ายยังไงพี่ชายตัวดีก็จะต้องเป็นคนนำเรื่องไปรายงานคนรักของตนในภายหลัง หากแต่ว่าวิธีของจงฮยอนมักจะใช้ได้ผล พี่มินโฮไม่เคยโกรธ พี่มินโฮไม่เคยกล่าวถึงแม้ว่าเรื่องราวนั้น ๆ จะเลวร้ายเพียงไรหากว่ามันยังไม่พ้นผ่านไป

     

                    ศรีษะเล็กค่อย ๆ พยักหน้ารับคำ ก่อนที่จะกุมเรียวมือทั้งสองข้างเข้าหากันแน่น จงฮยอนเอนหลังพิงพนักโซฟานิ่มนั้นให้ร่างกายได้ผ่อนคลายที่สุด ก่อนที่จะปรายตามองอีกฝ่ายในท่าทีที่เอาจริงเอาจัง

     

                    “พี่จงฮยอนวันนี้แทมนัดกับพี่คีย์ที่ตลาดนัมแดมุน

     

                    แทมเจอพี่ยุนโฮ

     

     

     

     

    -   C H O I C E S   -

     

     

     

     

                    หลังจากที่ตะวันลาลับของฟ้าไปได้ชั่วยาม เจ้าของลาดกายสูงโปร่งก็เดินเครื่องขับเคลื่อนรถยนต์ส่วนตัวออกมาจากบริเวณซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ ๆ กับอพาร์ทเม้นท์ของคนรัก

     

    จนเวลานี้ก็ปาเข้าไปถึงสองทุ่มกว่าแล้ว น่าแปลกดีที่แทมินไม่โทรตามเหมือนครั้งเก่าก่อน เจ้าตัวอาจจะตั้งแง่งอนเพราะให้รอนานหรือว่าอาจจะคอยจนหลับไปแล้วก็เป็นได้

     

    คิดได้เพียงเท่านั้นก็เกิดความร้อนใจขึ้นมาอย่างผิดการณ์ แต่ทันทีที่ดวงตาเฉียบคมปรายเห็นกล่องขนมสีหวานจากเค้กยี่ห้อโปรดของแทมินที่เบาะข้างคนขับแล้วก็อดใจชื้นขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้

     

    เรียวขายาวสาวก้าวไปตามผืนทางเดินก่อนที่จะหยุดอยู่ตรงหน้าหมายเลขห้องของคนที่ตนรัก เมื่อเห็นว่ามีรองเท้าหนังของผู้ชายสีดำขลับวางอยู่บนชั้นหน้าห้องก็อดรู้สึกขุ่นข้องในใจไม่ได้ หากแต่สมองกลับประมวลผลได้ทันการณ์

                   

    รองเท้าของจงฮยอน

               

    ในจังหวะที่ตนกำลังจะกดข้อนิ้วหนาลงเคาะเรียกคนที่อยู่ด้านใน ประตูไม้บานใหญ่ก็ถูกเปิดออก เจ้าของร่างล่ำสันหันกายประจันหน้าหาตนเข้าอย่างจัง เรือนกายเล็กเบียดเบนร่างของจงฮยอนออกไปในอีกทิศทาง ก่อนที่จะโผเข้ากอดรอบลำคอแกร่งของมินโฮเอาไว้ในระยะถัดมา ร่างสูงโปร่งวางแผ่นมืออุ่นลงโอบรับลาดหลังเล็กเอาไว้ในชั่วขณะ ก่อนที่จะกรอกสายตามองไปยังใบหน้าของคนที่มีอายุมากกว่า จงฮยอนส่ายหน้าไปมาช้า ๆ พลางแฝงแววตาที่เปี่ยมไปด้วยเลศนัย

    ก่อนที่จะหลีกกลับไปอยู่ภายในห้องโถงกว้างนั้นตามเดิม

     

    เรียวมือบางวางทาบประทับลงเหนือเนินแก้มกร้านนั้นอย่างเบามือ ดวงตาฉ่ำน้ำมองสบเข้ามาภายในแววตาแกร่ง มินโฮกดก้มใบหน้าของตนลงมองคนตรงหน้าด้วยท่าทีฉงนใจ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเปรยเปล่งวาจาออกมาเป็นเชิงร้องขอ

     

    พี่มินโฮขอจูบหน่อย

     

    นัยน์ตาสีเข้มเบิกโพลงอย่างเต็มไปด้วยคำถาม ก่อนที่น้ำเสียงหวานจะเอ่ยถ้อยวจีเดิมซ้ำขึ้นมาเป็นครั้งที่สอง

     

    “จูบแทมหน่อยพี่มินโฮ

     

    เพราะโดยปกติแล้ว หากว่าเขาไม่ใช่ฝ่ายที่เรียกร้องต่อการแสดงความรักผ่านทางกาย แทมินก็จะไม่มีวันเริ่มมันด้วยตนเองอย่างแน่นอน ซ้ำยังต้องใช้เวลาออดอ้อนอยู่นานกว่าจะได้สัมผัสเรือนร่างนุ่มนิ่มนั้นโดยถนัด

     

    หากแต่วันนี้ช่างน่าแปลกเหลือเกิน

     

    รูปหน้าคมปรายยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ แล้วจึงกดโน้มใบหน้าของตนเข้าหาเรียวหน้าหวานใกล้ แต้มปลายจมูกโด่งรั้นเสียดสีไปมาเหนือสันจมูกเล็กนั้นเพียงครู่ ก่อนที่จะวางริมฝีปากหยักทาบประทับลงเหนือกลีบปากบางนั้นอย่างจงใจ

    ดูดเม้มรูปปากเรียวเล็กเข้าเพียงไม่กี่ครั้ง ก่อนที่จะปล่อยให้อีกฝ่ายดุนรับริมฝีปากของตนตามอำเภอใจ หากทว่าทันทีที่เรียวลิ้นร้อนโลมกระหวัดไปตามกลีบปากนิ่มในชั่วครา เรือนกายหนาก็ถูกผลักออกมาจากคนตรงหน้าเพียงเบา ๆ

                   

    “พอแล้ว

                   

    นวลแก้มขาวของคนตัวเล็กถูกแต้มแต่งด้วยสีแดงระเรื่อด้วยความขวยเขิน ก่อนที่จะรั้งลำกายของคนตัวสูงให้ขยับเข้ามาอยู่ภายในห้องหับของตน เรียวปากสีหวานเหยียดยิ้มให้คนตรงหน้าเพียงเล็กน้อยเพื่อปรับสถานการณ์

     

                    แม้จะเป็นเพียงรอยยิ้มที่ฝืนเต็มทีก็ตาม

     

     

                    “กูกลับก่อนนะ”

     

                    จงฮยอนเดินออกมาจากห้องด้านในเมื่อเห็นว่ากิริยาอาการของทั้งสองฝ่ายเริ่มคงที่ เด็กหนุ่มร่างสูงปรายตามองตามลาดกายของบุคคลที่สามอย่างมีปริศนา ในวินาทีที่แทมินเดินหายเข้าไปภายในห้องครัวดีแล้ว คนที่มีความสูงน้อยกว่าจึงหันกลับมาพลางเค้นเสียงออกจากช่องคอเชิงกระซิบ

     

                    “เอาไว้ก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้กูเล่าให้ฟัง”

     

                    เด็กหนุ่มพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้พลางผันกายกลับหลัง แผ่นมืออุ่นหยาบก็สัมผัสเข้าที่ลาดบ่าของตนอีกครั้ง

    จงฮยอนพรายกระซิบเข้าที่ข้างใบหูของตนอีกเพียงครา ก่อนที่จะตบบ่าให้อีกสองสามที

     

                    “กูฝากแทมด้วยนะเว่ย”

     

     

                   

     

                    ไม่ถึงชั่วโมงหลังจากเคลื่อนรูปกายออกมาจากตัวอาคารที่พักอาศัยของน้องชายของตนในช่วงคืนค่ำ แผ่นเท้าหนาในกรอบหนังสีดำก็ได้ย่ำหนักไปตามท้องถนนบนที่ปูรองด้วยพื้นใบไม้แห้งด้วยความเกรี้ยวกราด สองหมัดกำแน่นด้วยความแค้นเคืองอย่างสุดจะยั้งเอาไว้ได้ เมื่อรู้ตัวอีกทีก็พบว่าตนเองได้มาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูห้องของใครบางคนในตัวคอนโดที่ไกลจากกรุงโซลออกไปเพียงเล็กน้อย จงฮยอนลอบถอนหายใจทิ้งไปอีกชั่วครั้ง ก่อนที่จะเหยียดยิ้มออกมาด้วยความขุ่นข้อง ข้อนิ้วหนากระแทกแรงลงหนัก ๆ ที่บ้านประตูไม้อย่างร้อนใจ เมื่อไม่เห็นทีท่าว่าคนด้านในจะเปิดรับ เจ้าตัวจึงทุบกระแทกซ้ำลงไปอย่างไม่ยั้งแรง

     

                    ประตูบานใหญ่เปิดออกกว้าง แชมพูอาบน้ำผู้ชายส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ เตะจมูกในท่วงทีแรกที่สูดลมหายใจ ทว่ามวลกลิ่นเหล่านั้นกลับทำให้เขาอยากจะโก่งคออาเจียนให้ได้เสียตรงนั้น

                    สะอิดสะเอียน ขยะแขยงมวลกลิ่นโสโครกของคนที่ใจหยาบต่ำราวกับไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์

     

                ชองยุนโฮ

     

                    “สวัสดีจงฮยอน

     

                    ทันทีที่เจ้าของห้องพักเอ่ยปากทักทาย กำปั้นแข็งจากผู้มาเยือนก็ได้กระทบเข้าที่ข้างจมูกของอีกฝ่ายอย่างไม่ทันยั้งคิด จงฮยอนกระชากคอเสื้อของฝ่ายที่มีอายุมากกว่าก่อนที่จะรั้งให้รูปหน้าคมสันต์หันเข้ามาใกล้ นัยน์ตาของจงฮยอนแข็งกร้าวราวสัตว์ร้ายด้วยพิษของความขุ่นแค้นสบหาแววตาเรียบเฉยของผู้ถูกกระทำ และนั่นเป็นสิ่งที่ยั่วยุความเดือดดาลให้แก่คนที่มีอายุน้อยกว่าได้ไม่ยาก

     

                    “พูดมาว่าวันนี้มึงทำอะไรน้องกู ?!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    TBC.

    สวัสดีค่ะมิครรักแฟนฟิคทุกคน .. พาร์ทนี้กี้อัพช้าจังเลย ~

    ขอโทษที่ทำให้รอนานนะคะ เพราะเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติทำให้วุ่นวายนิดหน่อยค่ะ : D

    ตอนนี้กี้อพยพมาอยู่ที่ชะอำค่ะ คาดว่าอีกไม่กี่วันก็คงกลับ .

    มีปัญหาเรื่องแอร์การ์ดนิดหน่อย .. ใช้งานไม่ได้เรื่องเลยล่ะ 55555555555555555 .

    แต่จะพยายามหาเวลาว่างให้มากที่สุดกลับมาทุ่มเทกับฟิคเรื่องนี้นะคะ : D

    จากพาร์ทที่แล้ว ๆ มา .. กี้ขอขอบคุณทุก ๆ คอมเม้นท์ ทุก ๆ กำลังใจเลยค่ะ .

    ขอบคุณทุกท่านที่แอดฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นแฟนพันธุ์แท้ / favourite : D

    อดทนรอหน่อยนะคะ .. กี้สัญญาว่าจะไม่ทิ้งช้อยส์แน่นอนเลย ~

     

    พาร์ทนี้บางคนอาจจะงง ๆ ว่า .. ทำไมจงฮยอนถึงได้จงเกลียดจงชังยุนโฮนัก ?

    ยุนโฮเป็นใคร ? ยุนโฮทำอะไรให้แทมิน ?

    ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านติดตามกันต่อไปนะคะ ไรเตอร์ของดสปอยล์ในพาร์ทนี้ค่ะ :-#

    อย่าเพิ่งค่ะ .. สิ่งที่เป็นตอนนี้ยังไม่ได้ถูกเรียกว่าดราม่าค่ะ 5555555555 .

    เพราะคำว่าดราม่าในพจนานุกรมของ mr.duduh มันต้องหนักกว่านี้สักร้อยขุม .

    เท่านี้มันยังน้อยจนเกินไป ฮี่ฮี่ ~ ติดตามกันต่อไปนะคะ ? : P

     

    สำหรับพาร์ทต่อไป .. เอ็นซีทรูมินแบบไม่ตัดฉาก บรรยายเต็มขั้นตอนไม่มีหมกเม็ด .

    ถ้าอยากอ่านก็ .. ช่วยคอมเม้นท์กันนิดนึงนะคะ ~ แต่งรอเอาไว้แล้วล่ะ รอคอมเม้นท์อย่างเดียวเลย : P

    อ้อ .. ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าสำหรับฟิคของกี้แล้ว ..

    ไม่ได้อัพเดทตามจำนวนวันค่ะ .. ไม่ได้อัพเดททันทีเมื่อแต่งจบ .

    แต่จะอัพเดททันทีหลังจากที่ได้รับจำนวนคอมเม้นท์ที่น่าพึงพอใจจากผู้อ่านค่ะ : D

    เพราะฉะนั้น .. ก่อนปิดหน้าต่างนี้รบกวนคอมเม้นท์ / โหวตกันด้วยนะคะ : P

    รับรองว่าจะมาอัพบ่อย ๆ .. และจะไม่ทำให้แฟนฟิคทุกคนผิดหวังเลยค่ะ .

    รักรักรักรักรัก ~ รักแฟนฟิคทุกคนเลยนะ : D

    ช่วงนี้มีสภาวะน้ำท่วม .. แฟนฟิคท่านใดประสบปัญหาอุทกภัยก็ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ : D

    เป็นห่วงนะเห้ย ! รักนะคะคนดีของฉัน ~ 55555555555555555 .

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×