ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - CHOICES : ( Fiction SHINee - Taemin x Minho x Onew )

    ลำดับตอนที่ #2 : C H O I C E S ' I

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 54





    - CHAPTER ONE -

     

     



                    แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านเข้ามาทางไรม่านสีครามเข้ม สาดกระทบผิวกายของใครสองคนที่ยังคงนอนกอดร่างของกันและกันมาตั้งแต่เมื่อกลางดึก เรือนกายเล็กซุกใบหน้าเข้าหาไออุ่นจากแผ่นอกกว้างตามประสา ลำแขนแกร่งทั้งสองข้างดึงรั้งลำกายของอีกฝ่ายให้ขยับเข้ามาจนผิวเนื้อแนบชิด

                    ทันทีที่รู้สึกตัวร่างบางก็ได้ดีดกายออกห่างจากคนที่ตนรักแทบจะในทันที ก่อนที่จะคว้าโทรศัพท์มือถือขนาดย่อมเยาขึ้นมากดดูเวลา พร้อมทั้งส่ายหน้าไปมาอย่างหัวเสีย

     

                    “พี่มินโฮ

     

    คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นมาเพียงเบา ๆ พลางเขย่าแขนของคนตรงหน้าเพื่อปลุกให้ตื่นจากห้วงแห่งนิทรา ชายหนุ่มขยับกายเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะคว้าร่างของคนรักเข้ามากอดไว้อีกครั้ง แทมินฟาดฝ่ามือลงเหนือบริเวณบ่าแกร่งเข้าอย่างแรงแล้วจึงหันกลับมาค้อนตาขวาง

     

    “พี่มินโฮถ้าวันนี้ไปมหาลัยไม่ทัน แทมจะล็อคห้องหนีเลย คอยดูสิ !

     

    กรอบตาคมเปิดขึ้นเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะหยีลงอย่างออดอ้อน คนตัวเล็กชันกายให้ลุกขึ้นยืนเท้าสะเอว ดวงตากลมโตเขม่นมองร่างที่ยังคงนอนราบอยู่บนเตียงอย่างเอาเรื่องเอาราว

     

    “พี่มินโฮ !”

     

     น้ำเสียงหวานตวาดลั่นดวงตาคมค่อย ๆ เปิดขึ้นรับแสงแดดจ้าที่ลอดผ่านรูม่านตาของตน สะบัดศีรษะเบา ๆ เพื่อปัดความง่วงเหงาออกจากความนึกคิด ชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นมาบาง ๆ ก่อนที่จะหยัดยืนขึ้นเต็มความสูงพร้อมเผชิญหน้ากับคนตัวเล็กกว่าอย่างไม่เอาความ มากไปกว่านั้นยังถือโอกาสช่วงชิงกลิ่นหอมอ่อน ๆ มาจากเนินแก้มนิ่มของอีกฝ่ายเข้ามาฟอดใหญ่ แล้วจึงเผยรอยยิ้มอย่างผู้ชนะ

     

    “ดุจริงเลยแฮะนี่มันแฟนใครกันน่ะ หืม ?”

     

    สิ้นคำ ข้อนิ้วหนาก็ได้ออกแรงเคาะเบา ๆ ลงเหนือเนินหน้าผากเล็กเข้าไปหนึ่งทีเพื่อเป็นการยุแหย่ คนตัวเล็กนิ่วหน้าเข้าน้อย ๆ อย่างขัดใจ ก่อนที่จะขบปลายฟันกัดเข้าที่บริเวณลาดไหล่แกร่งเพื่อเป็นการชำระแค้น

    “อื้อ! แทมินนา อย่าสิ” เจ้าของน้ำเสียงทุ้มต่ำร้องออกมาเบา ๆ “ทำไมถึงชอบเล่นแรงนักล่ะเราน่ะ

     

    “ก็ใครใช้ให้พี่มินโฮมาทำยียวนกวนประสาทแทมก่อนเล่า!

     

    ใบหน้าคมคายแค่นยิ้มออกมาเพียงบาง ๆ ให้กับคนตรงหน้า ก่อนที่จะสวมกายเข้าซ้อนกอดคนตัวเล็กกว่าจากทางด้านหลังด้วยความเจ้าเล่ห์ ปลายคางคมจรดลงเหนือลาดไหล่เล็ก ก่อนที่ร่างสูงจะฉกฉวยโอกาสนั้นสูดกลิ่นหอมจาง ๆ มาจากซอกคอขาวเข้าอีกครั้งหนึ่ง

     

    “แทมินนามอร์นิ่งคิสพี่ก่อนสิครับ”

     

    ใบหน้าหล่อเหลายื่นเข้าไปหาดวงหน้าเล็กใกล้ ๆ แล้วจึงค่อยหรี่ดวงตาลงต่ำ ใบหน้าเรียวขาวลอบอมยิ้มน้อย ๆ ก่อนที่จะฟาดแรงมือลงที่ลำแขนแข็งแรงของคนตัวสูงกว่าแก้เก้อ

     

    “ไปอาบน้ำเร็ว

     

    น้ำเสียงหวานออกคำสั่งเสียงแข็งปนเขิน ร่างบางขืนกายออกจากอ้อมอกอุ่นนั้นอย่างช้า ๆ แล้วมายืนพิงผนังห้องนอนกว้างพลางกอดอกตนเองแน่น

     

    “แทมินนา

     

    “นี่คือคำสั่งจากแทมินลีดเดอร์นะไปอาบน้ำเร็วเข้า!

     

    ชายหนุ่มลอบยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก แล้วแค่นหัวเราะออกมาเพียงเบา ๆ ให้แก่การกระทำน่ารัก ๆ ของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักคนเดียวของเขา ก่อนที่ร่างสูงจะหยิบคว้าผ้าขนหนูผืนเก่าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปโดยดี

                   

                    หากจะพูดผู้ชายที่ชื่อ ชเวมินโฮ คนทั่วไปก็คงจะนึกถึงใบหน้าใครคนหนึ่งที่เพียบพร้อมไปเกือบทุกด้าน

    ไม่ว่าจะเป็นฐานะทางครอบครัว แวดวงในสังคม พื้นฐานการศึกษา ความสามารถทางกีฬา และ ความรัก

     

                    ชเวมินโฮเป็นสิ่งมีชีวิตอีกสิ่งหนึ่งบนโลกที่ได้รับความรักอย่างไม่เคยขาด ไม่ว่าจะหญิงหรือชายที่ได้ผ่านเข้ามา สุดท้ายก็มีค่าแค่เดินก้าวออกไปไม่ว่าจะกี่รอยร้าวหรือบาดแผลในหัวใจที่เขาเคยสร้างเอาไว้ที่ไหนกับใครก็แล้วแต่ มันก็ไม่มีเลยสักครั้งที่เขาจะหันกลับไปใยดี ทุก ๆ คำพูดที่เขาพร่ำบอกใครว่ารักนักรักหนาไม่มีใครรู้เลยว่าคำว่ารักที่มินโฮเป็นฝ่ายพูดออกไปนั้น มันก็มักจะลงท้ายด้วยชื่อของตนเองเสมอ

                    ชเวมินโฮรักตัวเองที่สุดเหนือสิ่งอื่นใดในโลก

                    ชเวมินโฮมักจะคิดว่าตนเองต้องสำคัญที่สุดเสมอเหนือใครใครไม่ว่ามันจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่

                    ชเวมินโฮไม่เคยยอมให้ใครสักคน นอกเสียจากยอมทำตามที่ใจตนเองปรารถนา

                ไม่เคยเลย

                จนกระทั่งมาพบกับอีแทมิน

     

     

                    “มาค้างกับแทมหลายคืนแล้ววันนี้พี่มินโฮก็กลับไปนอนที่บ้านได้แล้วนะ”

     

                    น้ำเสียงเล็กเอ่ยถามใครบางคนที่ยังคงยุ่งกับการผูกเชือกรองเท้าที่พันกันยุ่งเหยิง ใบหน้าสวยหวานกลั่นรอยยิ้มออกมาบาง ๆ ก่อนที่จะหยิบ textbook จากชั้นหนังสือลงมาจัดใส่กระเป๋าหนังสีเข้มให้คนตรงหน้าอย่างรู้งาน

     

                    “ไม่” ร่างสูงค้านเสียงแข็ง “จะแวะมานอนที่นี่ต่างหาก

     

                    ร่างบางหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนที่จะส่งสายตาปรามไม่ให้อีกฝ่ายกระทำเช่นนั้น ริมฝีปากหยักแยกยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วค่อยเข้าสวมกอดรอบลาดเอวบางเอาไว้เพียงหลวม ๆ

     

                    “เด็กดีให้พี่นอนที่นี่อีกสักคืนนะครับ ?”

     

                   

     

                    “นะครับ นะ?”

     

                    เจ้าของน้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยปากอ้อนขึ้นมาเป็นระยะพลางส่งสายตาให้คนตรงหน้ายอมใจอ่อน แทมินเหยียดริมฝีปากของตนออกจนเป็นเส้นตรงพร้อม ๆ กับที่ส่ายหน้าไปมาอย่างหน่ายระอา

     

                    “ไปเรียนได้แล้ว ไม่งั้นแทมจะล็อคห้องหนีจริง ๆ ด้วย !

     

                    ร่างผอมบางตวาดเข้าเบา ๆ อีกครั้ง ก่อนที่คนตัวสูงกว่าจะคว้ากระเป๋าก้าวออกจากพื้นที่ตรงนั้นทันที โดยไม่ลืมที่จะขโมยจูบจากริมฝีปากเล็กแบบไม่ทันให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว

                    แผ่นหลังกว้างเดินห่างออกไปจนสุดสายตาเรียวมือบางที่โบกลาค่อย ๆ ล้าแรงมือลงจนหยุดนิ่งในที่สุด

    คนตัวเล็กพาร่างของตนกลับเข้ามาภายในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ และทิ้งตัวลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะเขียนหนังสือ ก่อนที่จะควานหาอะไรบางอย่างออกมาจากลิ้นชักโต๊ะชั้นในสุด

                    วิชาชีววิทยา

                ใบหน้าหวานโปรยยิ้มให้กับตัวเองเพียงบาง ๆ ก่อนที่จะพลิกหน้ากระดาษทีละหน้าให้ผ่านไปอย่างเชื่องช้า

    เพียงไม่กี่สิบหน้ากระดาษโน้ตสีเหลืองมัสตาร์ดก็ได้ปรากฏแก่สายตา แผ่นมือเรียวบางไล้ไปตามรูปกระดาษนั้นด้วยความหวงแหนเสียยิ่งกว่าอะไร ถ้อยคำน่ารัก ๆ ที่ถูกบรรจงถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือลายมือทื่อ ๆ ห่วย ๆ โดยที่ไม่ต้องบอกก็ดูรู้ว่าใครนั้นเป็นเจ้าของ

     

                เป็นแฟนกันนะ .. นะครับ ?

     

                คนตัวเล็กหัวเราะคิกคักให้กับตนเองเบา ๆ พวงแก้มอิ่มใสถูกแต้มสีชมพูระเรื่อขึ้นมาเพียงเล็กน้อยก่อนที่ร่องรอยของความเขินอายนั้นจะซ่านกระจายไปถึงใบหู ริมฝีปากสีชมพูหวานเหยียดยิ้มจนสุดความกว้าง ก่อนที่ความทรงจำอันเลือนลางนั้นจะฉายชัดขึ้นมาในจอแห่งจินตนาการของตนอีกครั้ง

     

     

     

                    1 ปีที่แล้ว

     

                “พี่มินโฮนั่งรอแทมนานหรือเปล่าฮะ?”

     

                ทันทีที่ก้าวเข้ามาในรถคนตัวเล็กก็กระวีกระวาดกระชั้นกายเข้าหาคนตัวใหญ่กว่าอย่างกระตือรือร้น ใบหน้าคมเข้มหันกลับมายิ้มให้เขาเพียงบาง ๆ ก่อนที่จะส่ายหน้าไปมาช้า ๆ อย่างไม่ติดใจเอาความ

     

                “ก็วันนี้แทมติวภาษาอังกฤษให้เพื่อนแบบกะทันหัน ก็เลยไม่ได้บอกพี่มินโฮก่อน

     

                “แทมินนาเด็กดีของพี่

     

                เมื่อสิ้นเสียงเรียวนิ้วยาวทั้งห้าพร้อมกับฝ่ามือหนาก็ได้ตรงเข้ามาสัมผัสที่บริเวณไรผมสีน้ำตาลอ่อนของคนตัวเล็กอย่างช้า ๆ ร่างสูงลูบผมของคนตรงหน้าด้วยความรักใคร่เอ็นดู ก่อนที่จะยกยิ้มขึ้นมาเพียงเล็กน้อย

     

                “ไม่ต้องเกรงใจพี่หรอกนะครับ รู้ไหม? ให้นานกว่านี้ยังไง พี่ก็รอได้อยู่แล้วแหละน่า

     

                ใบหน้าคมคายยกยิ้มขึ้นมาอย่างจริงใจและไร้สิ่งใดแอบแฝง ดวงหน้าหวานหลุบตาลงต่ำเพื่อลดอาการเขินที่จำต้องแสดงออกให้แก่คนตรงหน้าได้เห็น ก่อนที่จะขยับใบหน้าหันมองออกไปยังนอกหน้าต่าง

     

                “อ๋าพี่มินโฮ

     

    ร่างบางหันกลับมาหาคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ตนอีกครั้งพร้อมกับท่าทีคล้ายกับว่านึกอะไรสักอย่างขึ้นมาได้

     

                “หนังสือชีววิ

     

                ยังไม่ทันขาดคำ หนังสือชีวิวิทยาเล่มหนาก็ได้ถูกหยิบยกออกมาจากช่องว่างข้างเบาะคนขับ ร่างสูงยื่นหนังสือเล่มนั้นให้แก่คนตัวเล็กอย่างเช่นปกติ ก่อนที่จะออกรถให้เคลื่อนไปจากบริเวณโรงเรียนมัธยมประจำเมืองหลวง

                มือบางค่อย ๆ เปิดอ่านทบทวนบทเรียนนั้นทีละหน้า ทีละหน้าด้วยความตั้งใจ ก่อนที่ดวงตากลมโตคู่นั้นจะสะดุดมองอะไรบางอย่างที่แปลกปลอมเข้ามาในหนังสือเรียนเล่มเก่า

                กระดาษโน้ตสีเหลืองมัสตาร์ดธรรมดาเพียงหนึ่งแผ่นที่ถูกเรียงร้อยไปด้วยถ้อยคำสั้น ๆ ธรรมดา ๆ ที่ตัวเขาเองก็เคยสัมผัสมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

     

                เป็นแฟนกันนะ....นะครับ?

     

                ทุกสรรพสิ่งรอบกายราวกับหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วครู่สรรพเสียงรอบตัวเริ่มหยุดทำงานไปในชั่วขณะ

    พร้อม ๆ กับที่มีเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามาดังขึ้น... ดังขึ้น

                ตึกตึก.. ตึกตึก.. ตึกตึก.. ตึกตึก..

            เสียงหัวใจของเขา

     

                “ฮ่า” น้ำเสียงหวานหัวเราะ ออกมาเบา ๆ ก่อนที่จะเกาท้ายทอยแก้เก้อ “ติ๊งต๊องชะมัดเลย พี่มินโฮน่ะ”

     

                รูปหน้าคมเข้มหันกลับมามองที่คนตัวเล็กกว่าเพียงครั้ง แล้วจึงส่ายศีรษะไปมาให้กับเด็กไม่รู้ประสาที่เขาตกหลุมรักจนทั้งหมดของหัวใจ เรียวนิ้วเล็กขดกำเข้าหากันแน่นเพื่อเก็บอาการทั้งหมดที่มี ก่อนที่รถยนต์ที่ตนโดยสารจะหยุดเคลื่อนที่ลงกลางคัน

     

                “แทมินนา

               

    น้ำเสียงโทนต่ำถูกกดผ่านออกมาจากลำคอแกร่ง ใบหน้าคมคายฉาดฉายเข้ามาในแววตาสีอ่อนของคนตัวเล็ก นัยน์ตาสีเข้มคู่นั้นทอดมองเข้ามาในดวงตาของเขาโดยเปี่ยมล้นไปด้วยความหมายใดใดที่มากมายเกินจะพูดออกมาได้  แผ่นมือบางทั้งสองข้างถูกรวบรั้งขึ้นมาอย่างถือสิทธิ์ก่อนที่จะถูกกดจุมพิตด้วยรูปปากหยัก

                           

                “เป็นแฟนกับพี่นะครับ?”

     

                หัวใจของแทมินเต้นผิดจังหวะ เดี๋ยวก็ช้าเดี๋ยวก็เร็ว หรือในบางขณะมันก็รู้สึกคล้ายกับว่าจะสามารถหลุดออกมาจากแผ่นอกของเขาเสียให้ได้ ดวงตาคู่สวยแสร้งมองไปทางอื่น แนวฟันซี่เล็กกัดริมฝีปากเอิบอิ่มของตนเอาไว้แน่น

     

                “บ้า

     

                น้ำเสียงหวานผ่านลอดออกมาตามไรฟัน ใบหน้าคมสันขยับเลื่อนเข้ามาหาใกล้จนปลายจมูกเกือบจะชิด

    คนตัวเล็กขยับถอยใบหน้าของตนออกห่างก่อนที่จะหลุบสายตาลงมองไปยังทิศทางอื่น

     

                “เด็กดี เป็นแฟนกับพี่มินโฮนะครับ?”

     

                น้ำเสียงทุ้มเข้มดังเข้ามาท่ามกลางความเงียบงันอีกครั้ง

    อันที่จริงแล้วเวลาร่วมหลายเดือนที่ผ่านมานั้นมันก็มากเพียงพอที่จะพิสูจน์ความรู้สึกที่มั่นคงของชเวมินโฮได้อย่างดีที่สุดแล้ว หัวใจของแทมินที่เคยถูกทำร้ายได้กลับมาชื้นดีเพียงเพราะมีคน ๆ นี้อยู่เคียงข้าง เรื่องราวในอดีตที่เคยบดขยี้ซ้ำกับรอยแผลที่เคยมีคนมาเหยียบย่ำนั้นถูกรักษาด้วยความห่วงใยและจริงใจของชเวมินโฮจนเกือบจะหายขาด

    ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่จะปฏิเสธได้อีกแล้ว

    ว่าหัวใจของอีแทมินคนนี้ก็กำลังถูกเติมเต็มไปด้วยชื่อของชเวมินโฮเช่นเดียวกัน

     

    “แทมินนา...

     

    ร่างสูงเรียกชื่อของตนตรงหน้าซ้ำอีกครั้ง ก่อนที่อีกฝ่ายจะหลุดพ้นออกมาจากห้วงแห่งความนึกคิดของตน ดวงหน้าหวานจัดรอยยิ้มเล็ก ๆ ขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เรียวนิ้วเล็กค่อย ๆ คลายออกจากการกอบกุมของคนตรงหน้า ผลัดมาไล้เบา ๆ ที่หลังมือหนาแล้วจึงเอ่ยถ้อยคำอะไรบางอย่างออกมาราวกับเสียงกระซิบ

     

    “แทมรักพี่มินโฮนะ

     

    ….  เงียบ

     

    “ก็เป็นแฟนกันไงเล่า

     

    “ว่ายังไงนะ

     

    “ก็เป็นแฟนกันไง

     

    “หืมว่ายังไงนะครับ ? ไหนเอาใหม่อีกทีซิ

     

    “ก็เป็นแฟนกันแล้วไงเล่า! แล้วก็ห้ามถามอีกแล้วนะ แทมจะไม่พูดอีกแล้วด้วย !

     

     

     

     

    “บ้า

     

    น้ำเสียงหวานพูดขึ้นมาในขณะที่ยังตกอยู่ในภวังค์ของภาพทรงจำก่อนที่จะส่ายหน้าไปมาช้า ๆ เพื่อสลัดความคิดนั้นทิ้งออกไป หนังสือเล่มนั้นถูกปิดลงอีกครั้งแล้ววางเก็บเอาไว้ในลิ้นชักชั้นในสุดเช่นเคย

    วันนี้เป็นวันเสาร์ เป็นวันที่แทมินจะต้องออกไปช็อปปิ้งแต่เช้าและกลับเข้ามาให้ทันเวลาบ่ายสามโมงครึ่ง

    คิดได้ดังนั้น…. เรือนกายผอมบางก็ได้กระวีกระวาดลุกออกจากโต๊ะเขียนหนังสือไปตามกิจวัตรประจำวันของตนให้ตรงตามตารางเวลาที่วางเอาไว้

    โดยไม่ได้เตรียมใจหัวใจเอาไว้เลยว่า

    สถานที่ที่ตนกำลังจะไปนั้น จะพาลให้พบกับใครบางคนที่ตนลบออกไปจากความทรงจำจนเกือบจะสิ้นแล้ว

     

     

     

     

    -   C H O I C E S   -

     

     

     

     

              รถยนต์สีดำคันหรูเคลื่อนเข้าไปจอดด้านในรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดังในส่วนของพาร์คกิ้งล็อตส่วนตัว เรียวขายาวก้าวออกมาจากพื้นที่ตรงนั้นท่ามกลางสายตาของใคร ๆ อีกมากมาย ชายหนุ่มหยิบแว่นกันแดดราคาแพงลิ่วขึ้นมาสวมเข้ารับกับรูปหน้าของตนอย่างช้า ๆ แล้วจึงเดินออกมายังทางเท้าเช่นเดิมทุกวัน

                    เสียงซุบซิบของนักศึกษาดังลอดออกมาตลอดทั้งเส้นทางที่เขาเดินผ่าน หากแต่มันก็กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้วกับการที่ได้ยินข่าวสารซึ่งไม่ได้รับการคัดกรองที่คนทั่วไปพูดกันปากต่อปาก ผิดบ้างถูกบ้างตามประสาสังคมวงกว้าง

                    ถ้าตามสโลแกนแล้ว ชเวมินโฮไม่เคยสนใจว่าใครจะมองเขายังไง

                    ไม่เคยสนใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว

     

                    จงฮยอนคิมจงฮยอน !

     

                    น้ำเสียงทุ้มเข้มตะโกนออกไปหารุ่นพี่คนสนิทที่ยืนอยู่ภายหน้าของตึกคณะเภสัชฯ เจ้าของเรือนร่างล่ำสันโบกมือให้หยอย ๆ เป็นการตอบรับเสียงเรียกนั้น มินโฮพยักหน้าให้ช้า ๆ ก่อนที่จะรีบสาวเท้าเดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว

                    แต่ในวินาทีนั้นเองร่างของใครบางคนก็เดินตัดหน้าเขาด้วยความเร็วที่ไม่แพ้กัน เป็นเหตุให้ข้าวของทั้งหมดที่อยู่ในมือของใครอีกคนต่างกระจัดกระจายไปคนละทิศทาง

                    ผลั่ก

                เรือนร่างโปร่งบางล้มลงกระแทกกับพื้นคอนกรีตเข้าเต็มแรงก่อนที่เจ้าตัวจะยันกายขึ้นนั่งด้วยตนเองอีกครั้ง

     

                    “ข ขอโทษ”

     

     มินโฮพูดขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับยิ้มแหย ๆ อย่างหาข้อแก้ตัวไม่ได้  

     

    “อาเดี๋ยวผมช่วยนะครับ”

    ร่างสูงก้มลงเก็บ textbook และ hand-out ของคนแปลกหน้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นจนครบทุกชิ้นงาน

    เจ้าของเรือนร่างโปร่งบางยันร่างของตนขึ้นหยัดยืนจนเต็มความสูงอีกครั้ง แล้วจึงปัดคราบฝุ่นผงให้ตลบคลุ้งออกจากเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด แผ่นมือหนายื่นสิ่งที่เก็บมาทั้งหมดให้แก่คนตรงหน้าก่อนที่จะเอ่ยปากขอโทษอีกครั้ง

     

                    “ขอโทษ

     

                    “อื้อ ไม่เป็นไรหรอก

                   

    น้ำเสียงของใครคนนั้นเรียบนิ่ง รูปหน้ากลมขาวภายใต้กรอบแว่นสีดำธรรมดา ๆ ปราศจากรอยยิ้มใด ๆ ขยับมาให้ปรากฏแก่สายตาของเขาอีกครั้ง แววตาของอีกฝ่ายเรียบเฉย ไร้ซึ่งการแสดงออกต่อความรู้สึกใด ๆ

                    ชเวมินโฮนิ่งงันไปชั่วขณะ

     

                “อืมคราวหลังก็เดินระมัดระวังหน่อยนะครับ

     

                    น้ำเสียงราบเรียบนั้นดังเข้ามาในประสาทหูของเขาอีกครั้ง ก่อนที่เรือนกายของใครคนนั้นจะขยับเคลื่อนตัวออกจากเขาไปจนลับตา

    แกร๊ก

    และในช่วงเวลาที่เขากำลังจะก้าวเท้าออกมาจากพื้นที่ตรงนั้น ก็พลันสัมผัสถึงบางสิ่งบางอย่างซึ่งเป็นก้อนแข็งที่ได้ถูกวางอยู่ภายใต้การเหยียบย่ำจากผืนเท้าของตน ชายหนุ่มเคลื่อนแผ่นเท้าหนาออกช้า ๆ ก่อนที่จะเก็บเข็มกลัดสี่เหลี่ยมขนาดเล็กสำหรับติดอกเสื้อนักศึกษาขึ้นมา

    เบื้องหน้าของแผ่นโลหะสีเงินวาวถูกสลักเป็นตัวหนังสือภาษาเกาหลีเอาไว้เพียงสามพยางค์

    .. อี จิน กิ ..

     

     

     

     

     









     

     

    TBC.

    ตรงนี้ขอย้อนกลับมาสืบประวัติทรูมินค่ะ 5555555555555555555555 .

    เรื่องจะค่อย ๆ ดำเนินไปตามพลอตนะคะ .. ใจเย็น ๆ .

    ส่วนที่ลงอินโทรเอาไว้ .. ขอสปอยล์นิดหน่อยแล้วกันว่าตรงนั้นเป็นจุดแตกหักของทั้งสามคนค่ะ : P

    แต่ถ้าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างความสัมพันธ์ของแทมินและมินโฮ ? มินโฮกับจินกิลงเอยกันได้อย่างไร ?

    โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ .. เรื่องนี้ดราม่าเข้มข้นถึงหัวใจแน่ ไรเตอร์เอาหัวเป็นประกันเลยค่ะ ! : D

     

    แนะนำตัวเองหน่อยนะคะ .. ไรเตอร์มีชื่อเสียงเรียงนามว่า กีกี้ค่ะ : D

    ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ชั้นปีที่หนึ่ง .. ไม่ขอเอ่ยชื่อคณะนะคะ : P

    ส่วนถ้าใครอยากได้อีเมลติดต่อก็ .. dotduduh@live.dk ค่ะ จะพยายามออนบ่อย ๆ นะ ~

     

    แฟนฟิคที่เคารพรักทุกคนคะ .. ก่อนออกจากหน้านี้รบกวนสละเวลาสักสองสามนาทีเพื่อคอมเม้นท์ด้วยนะคะ .

    ไม่อยากดราม่า ไม่อยากบังคับ .. แต่อยากให้เห็นใจกันหน่อยค่ะ : (

    กว่าจะจบแต่ละตอนก็ใช้เวลากว่าค่อนคืน .. อยากได้กำลังใจจังเลยแฮะ ~

    เม้นท์ให้หน่อยนะคะ ? นะนะนะนะนะ ~

    ช่วงนี้มีข่าวน้ำท่วม ดูแลตัวเองและครอบครัวกันด้วยนะคะ ? : D

    รักและเป็นห่วงที่สุดเลย ~ สำหรับคืนนี้ นอนหลับฝันดี ห่มผ้าหนา ๆ นะคะ .

    กี้สัญญาว่าจะรักและซื่อสัตย์ต่อแฟนฟิคทุกคนตลอดไปเลยค่ะ : P

     

     

    ไรเตอร์กีกี้ .

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×