ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ' e x o : DOCTOR ✦ (kaido)

    ลำดับตอนที่ #4 : ✚ DOCTOR - 셋 。

    • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 56


    DOCTOR

     

     

     

     

     

      พรึ่บ


      เปลือกตาสีน้ำผึ้งขยับลืมตาขึ้นท่ามกลางแสดงแดดจ้าที่ส่องเข้ามาผ่านกระโจกแก้วใส  ริมฝีปากอิ่มอ้าออกกว้างหาวออกมาเล็กน้อยแสดงอาการของคนเพิ่งตื่นนอน ผมยุ่งๆถูกยีให้ยุ่งมากกว่าเดิมจากมือที่ยกขึ้นมาขยี้หัวตัวเอง เสร็จแล้วร่างสูงก็นั่งค้างอยู่ท่านั้นต่ออีกประมาณสิบนาที


       คือมันตื่นมาหลับในน่ะ -_-

     


       ช่วงเวลาว่างเปล่าดำเนินต่อไปอีกสิบนาที


       .....


       เดี๋ยวนะครับ ขอเวลาสักแป๊ป


       .....

       โอเคตื่นละ! สวัสดีครับทุกคน นี่เป็นการบรรยายภาคสนามพิเศษโดยหมอจงสุดหล่อนะ วันนี้เราอยู่กันที่ห้องของหมีน้อยคยองล่ะ!

    วู้ววว ..ปรบมือสิครับ

    ใช่ๆ อย่างนั้นแหละครับ เหมือนหมาเลยครับ (ไม่สนใจเศษรองเท้าที่ลอยมา) ตอนนี้ก็เป็นเวลา... อ้อ สิบโมงแล้วครับ สายแล้วด้วย อืม ช่างมันเนอะ ไม่มีใครโทรตามจนถึงตอนนี้แสดงว่ายังไม่มีใครตาย เอาเป็นว่าตอนนี้ผมขอลุกจากพื้นก่อนนะครับ คือรู้สึกปวดหลังอ่ะ ฮอล เมื่อคืนก็นอนอยู่บนโซฟาดีๆนะ ทำไมตื่นมาผมถึงมากองอยู่บนพื้นก็ไม่รู้อ่ะ ปวดหลังจัง T _ T

    อะไรนะครับ จะนวดให้เหรอ ?



     

    ไม่เอาอ่ะ ผมหวง เก็บร่างกายอันแสนจะเซ็กซี่ไว้ให้หมีน้อยชมคนเดียวอ่ะครับ คึคึ




    โอเคเรียบร้อยครับ ตอนนี้มาอยู่ในห้องครัวของหมีน้อยละ ว่าแต่ตอนนี้ผมควรจะทำอะไรดี เอ้ะ โพสอิทสีเหลืองๆหน้าตู้เย็นนั่นฝากถึงผมใช่มั้ยอ่ะ ไหนดูสิๆ

       ‘ ตื่นสายสัส กูไปหาน้องฮุนละ ล็อคห้องด้วย ข้าวแดกเซเว่นนะ

    T O T

    โฮ หมีน้อยทิ้งผมไว้ที่ห้องอันกว้างใหญ่นี่คนเดียวอ่ะครับ กับข้าวก็ไม่มีเลยซักกะติ้ด ผมเปิดดูในตู้เย็นเมื่อกี้มีแต่เบียร์สองสามกระป๋อง น้ำเปล่า แล้วก็ของสด ซึ่งคนอย่างหมอจงน่ะเหรอจะทำอาหารเป็น


    เป็นเรื่องยากกว่าสอนจระเข้ปีนต้นเผือกอีกครับ โธ่


    หมีน้อยทำกับหมอได้ลงคอเลยอ่ะทุกคน ทำไมต้องใจร้ายกับผมด้วยเนี่ย เสียใจเวรี่มัชมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ทำใจครับ ผมว่าผมเริ่มจะคันๆละ เมื่อคืนลืมอาบน้ำด้วย แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนเลย ผมไปอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงาน(ไปร้านหมีน้อย)ก่อนนะครับ รายการภาคสนามพิเศษจากนักข่าวหมอจงวันนี้ขอลาไปก่อน เจอกันที่โรงพยาบาลนะครับ!

     

     

     






                       
     

     

    หน้าเคลิ้มๆแบบนี้คงไม่ใช่ไปโดนไอ้หมอจงทำอะไรมาใช่มั้ยครับคุณผู้อ่าน ? เอาเถอะ ถ้าโดนทำก็ไปให้มันรักษาเอาเองนะครับ ผมจะไม่ยุ่งขอทำกาแฟต่อดีกว่า ว่าแล้วก็คว้าแก้วกาแฟที่เติมน้ำร้อนจนได้ที่แล้วก็เติมส่วนผสมอีกเล็กน้อยเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

    “มัคคิอาโต้ได้แล้วครับ”

    ผมยกแก้วสีขาวสะอาดออกจากถาดวางลงบนโต๊ะไม้สานสีมะฮอกกานีที่อยู่ริมในสุดของร้าน ลูกค้าเจ้าของกาแฟกลิ่นหอมกรุ่นกำลังก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่เงยหน้าขึ้นมายิ้มขอบคุณทำให้ผมได้เห็นหน้าเขาชัดๆ เราสบตากันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาพร้อมกัน




    “พยอนแพค? / ดโยจัง?”

    “เฮ้ย มาได้ไงเนี่ย”

    ผมรีบดึงเก้าอี้ว่างข้างๆเขาออกเล็กน้อยเพื่อจะนั่ง จากนั้นก็ร้องถามอีกคนเบาๆ ดูเหมือนอีกฝ่ายเองก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน มือเรียวของเขาวางหนังสือไว้ชั้นข้างโต๊ะที่เดิมของมันแล้วหันหน้ามามองผมด้วยสีหน้าประหลาดใจ

    “ต้นสังกัดบอกให้มาทำงานที่นี่น่ะ ดโยจังสิ นี่เป็นเจ้าของร้านนี้เหรอ?”

    “อืม เพิ่งเปิดได้สองปีเอง ว่าแต่กลับมานานรึยัง หายไปไม่ส่งข่าวเลยนะ”

    ผมทำหน้านิ่งคิ้วขมวดใส่คนที่นั่งประจันหน้ากับผม อีกคนเผยยิ้มแห้งๆอย่างขอโทษขอโพยพลางเอื้อมมือมาดึงตัวผมไปกอดแน่น

    “กลัวดโยจังไม่คิดถึงไง นี่คิดถึงจะตายอยู่แล้ว” อ้อมกอดที่ห่างหายไปนานทำให้ผมหลุดยิ้มออกมา ผมเองก็ไม่อยากจะเก๊กต่อแล้วยกมือกระชับกอดให้แน่นขึ้น เราสองคนกอดกันกลมดิ้กโดยไม่แคร์สายตาใคร เพราะตรงนี้ก็ค่อนข้างจะลับตาคนอยู่เหมือนกัน



    สงสัยอีกแล้วใช่มั้ยว่านี่ใคร? กำลังจะเล่าให้ฟังนี่ไงครับ


       พยอนแพคฮยอนคือชื่อของเขาครับ เรารู้จักกันมานานมากแล้วตั้งแต่ตอนอยู่อนุบาลนู่นเลยล่ะมั้ง ไม่ใช่เรียนด้วยกันนะครับ บ้านเราอยู่ข้างๆกันน่ะตอนนั้นก็เลยไปเล่นด้วยกันประจำ แต่พอขึ้นชั้นประถม พยอนแพคก็ถูกส่งไปเรียนที่ญี่ปุ่น จะกลับมาเล่นที่เกาหลีช่วงปิดเทอม ถึงอย่างนั้นเราก็ยังสนิทกันมากอยู่ดีครับ เพราะความที่ฐานะทางครอบครัวของเราทั้งคู่ก็จัดอยู่ในเกณฑ์ดีจึงไม่เป็นปัญหาที่จะโทรศัพท์ข้ามประเทศคุยกัน ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้น เราก็ยิ่งคุยกันบ่อยขึ้นครับ

       พอจะเข้ามหาลัย พยอนแพคก็ตัดสินใจขอที่บ้านมาเรียนที่เกาหลี และเขาก็มาสอบที่มหาลัยเดียวกับผมด้วย ช่วงมหาลัยเราก็เลยได้อยู่ด้วยกันครับ

       ก็ถือว่า พยอนแพคคือเพื่อนสนิทที่สุดของผมเลยล่ะนะ

       แล้วที่เขาเพิ่งกลับมาหมายความว่ายังไงน่ะเหรอ ? ก็คือ พอเรียนจบ เค้าก็บอกว่าต้องไปทำงานที่ญี่ปุ่น มีคนติดต่อมา ผมก็ไม่ได้ขัดอะไร แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่ ไปคราวนี้คือไปแล้วไปเลยครับ หายเงียบ ไม่ว่าจะโทร จะเมล์ จะโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คหรือโปรแกรมแชทต่างๆ ติดต่อเขาไม่ได้เลยจนได้มาเจอกันเนี่ยแหละ แล้วมาบอกว่ากลัวไม่คิดถึงนี่ผมอยากจะทุบหัวสักแปดทีจริงๆ

    คิดถึงจะแย่อ่ะ

     "เพิ่งกลับมาอ่ะ อยากเที่ยวกับดโยจัง พาเที่ยวหน่อยสินะ น้า"

    หลังจากนั่งคุยกันไปได้สักพัก พยอนแพคก็จับแขนผมเขย่าเบาๆ เสียงหวานถูกดัดให้เล็กลงกับรอยยิ้มกว้างๆเพื่อเป็นการอ้อน

    เนี่ยๆ จะอ้อนก็น่ารักเข้ากับหน้าตาแบบนี้ครับ ไม่ใช่ไปคนละทิศละทางแบบไอ้กระเทยควายนั่น

    "เย็นนี้เหรอ"

    "ดโยจังไม่ว่างเหรอ?

    คงเพราะผมถามด้วยสีหน้าหนักใจนิดหน่อย พยอนแพคจึงได้ถามกลับมาเมื่อสังเกตุเห็นสีหน้าของผม

    เย็นนี้ผมต้องไปเยี่ยมน้องฮุนน่ะ

    นึกขึ้นมาแล้วอยากจับหัวไอ้คนทำน้องผมเจ็บโขกกับผนังแล้วโยนลงจากระเบียงให้หัวโหม่งพื้นตายชะมัด ผมส่ายหัวให้เขาเล็กน้อยเป็นคำตอบพร้อมอธิบายต่อ

       "น้องฮุนเข้าโรงบาลน่ะ อุบัติเหตุนิดหน่อย ถ้าไม่รังเกียจเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวโรงบาลไหมล่ะ" ผมพูดติดตลกหน่อยๆ พยอนแพคที่นั่งเท้าคางฟังอยู่ถึงกับเบิกตากว้างพอผมบอกว่าน้องฮุนเข้าโรงบาล

    "เด็กติ๋มน่ะนะ? ไปทำอีท่าไหนถึงได้เจ็บขนาดหามเข้าโรงบาลล่ะนั่น แล้วนี่เป็นยังไงบ้าง มีอะไรแตกหักมั้ย" เขาถามถึงน้องฮุนด้วยท่าทางติดจะห่วงๆ เพราะพยอนแพคกับน้องฮุนแองก็รู้จักกันพร้อมๆผมที่รู้จักอีกคนนั่นแหละ

    ส่วน เด็กติ๋ม นี่คือชื่อที่พยอนแพคใช้เรียกน้องฮุนนะครับ

    "ไอ้เจ๊กน่ะสิ นี่ถ้าเจอพยอนแพคตีมันให้เลยนะ" ผมได้ทีเลยฟ้องพยอนแพคซะ เมื่อเช้าก็มัวแต่จัดการเรื่องของกิน ของใช้ให้น้องฮุน กว่าจะเสร็จก็ตอนที่เข็มหน้าปัดนาฬิกาบอกว่าใกล้จะถึงเวลาเปิดร้านแล้วนั่นแหละ เลยต้องรีบขอตัวออกมาก่อนทำให้ไม่ได้จัดการกับไอ้เจ๊กซะที

    "ได้เลย ว่าแต่วันนี้คุณชายดโยมีลูกมือครบรึยังครับ พยอนแพคขอสมัครงานเป็นพนักงานผู้ช่วยวันนึงนะ" มือเรียวยกนิ้วโป้งให้พร้อมเอ่ยปากรับคำ จากนั้นตาใสๆที่ถูกแต่งเติมด้วยอายไลน์เนอร์บางๆก็กระพริบปริบๆส่งสายตาอ้อนมาที่ผม ผมแอบหัวเราะเล็กน้อยกับท่าทางของเขา ท่าทางเหมือนลูกหมาแบบนี้ต้องยกให้พยอนแพคเขาล่ะ เก่งที่หนึ่งเลยนะครับ

    "ปกติก็ไม่ว่างหรอกนะ แต่มีลูกหมามาอ้อนเลยจะว่างให้หนึ่งวันแล้วกัน" ผมเก๊กเสียงทำหน้านิ่งๆ ทำเป็นยอมตกลงอย่างเสียไม่ได้ พยอนแพคหัวเราะออกมากับทีท่าที่ทำเป็นเก๊กโหดของผม และมันก็ทำให้ผมต้องหัวเราะตามเขาเหมือนกัน เสียงหัวเราะของเราสองคนดังคลอกันเบาๆอยู่มุมร้าน ผมแอบเห็นว่าคุณลูกค้ากับคุณพนักงานอมยิ้มด้วยนะเออ



    อา ผมคิดถึงช่วงเวลาสมัยที่เราอยู่ด้วยกันตอนยังเรียนมหาลัยจริงๆเลยน้า




     

                      






     

     

              7 years ago

     

    “พยอน ดูผลสอบยัง กูติดว่ะ!!”


     

    เสียงใสกรอกลงไปในโทรทัศน์อย่างรัวเร็ว ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น รอยยิ้มกว้างยิ่งขับให้ดวงหน้านั่นดูน่ารักขึ้นไปอีก


     

    “เฮ้ยยย ประกาศแล้วเหรอ ฮือออออออ ไม่กล้าดูอ่ะมึง” ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยตกใจ ก่อนจะโอดครวญอย่างขลาดกลัวกับผลการสอบคัดเลือกนักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัย


     

    “ไอ้ลูกหมาเอ้ย มึงก็ติดเหมือนกันเว้ย” ร่างเล็ดเอ่ยขัดอาการคร่ำครวญของเพื่อนซี้ เขาต้องกลั้นหัวเราะสุดแรงเมื่ออีกฝ่ายร้องโวยวายอย่างดีใจต่างกับก่อนหน้านี้ลิบลับ


     

    “จริงอ่ะ ย๊าาาาา เราจะได้อยู่ด้วยกันแล้วนะดโยจัง โอ๊ยยยย น้ำตาจะไหลอ่ะดีใจ ฮืออ”


     

    กลัวก็โวยวาย ดีใจก็โวยวาย เอากับพยอนแพคฮยอนสิ เอ้อ


     

    ร่างเล็กคิดในใจขำๆ ทั้งคู่นัดแนะกันว่า พรุ่งนี้จะไปเลี้ยงฉลองความสำเร็จด้วยกัน ก่อนจะวางสายแยกย้ายกันไปทำอย่างอื่น



     


    RRRRRRRRR



     


    แต่ยังไม่ทันจะได้หันไปทำอะไร เสียงร้องเตือนสายเข้าก็ดังขึ้นมา เจ้าตัวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยอย่างสงสัยก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์เครื่องจิ๋วขึ้นมาดู



     

    ดำ


     

    ชื่อที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอสี่เหลี่ยมทำให้คิ้วเข้มที่ขมวดเป็นปมคลายออก เปลี่ยนเป็นสีหน้าของคนเอือมระอาแทน


     

    “มีไรดำ”


     

    “หมีน้อยติดแล้ววววววว กรี้ดด ดีใจอ้ะะะะะะ” ทันทีที่มือเล็กกดรับสายและกรอกเสียงลงไป ลำโพงก็ส่งเสียงแว้ดๆของปลายสายมาทันที เขายื่นออกโทรศัพท์ออกห่างไปจนสุดแขน ใบหน้ายุ่งๆบ่งบอกว่าเสียงของอีกฝ่ายทำร้ายโสตประสาทเขาแค่ไหน เสียงวิ้งๆดังก้องอยู่ในหัวจนหูเขาชาไปชั่วขณะหนึ่ง


     

    “ฮาโหลลล ยอโบเซโย หมีน้อยทำไมไม่ตอบจงอินอ่ะคร้าบ” เมื่อรู้สึกว่าเขาเงียบผิดปกติก็เรียกซ้ำเสียงกระเง้ากระงอด


     

    ตัวไม่อยู่ เสียงยังมี ใช้แทนกันได้ คือคติของคิมจงอิน


     

    “รู้ได้ไงว่าติด” เสียงหวานรีบตอบกลับเนือยๆก่อนที่อีกคนจะโหวกเหวกไปมากกว่านี้



     

    เขายังไม่พร้อมจะเป็นคนหูหนวกตอนนี้หรอกนะ = _ =




     

    “จงอินหล่อไงคร้าบ คนหล่อเค้ารู้ทุกอย่างนะ หมีน้อยไม่รู้เหรอ” น้ำเสียงแสนภาคภูมิใจจากปลายสายทำเอาร่างเล็กอดเบ้ปากใส่โทรศัพท์ไม่ได้

     

    แม่งไม่ได้เกี่ยวเหี้ยอะไรกันเลยครับไอ้ดำ - _ -


     

    “ไม่อยากรู้ เออใช่ พรุ่งนี้กูจะไปฉลองกัน มึงจะมาป่ะ” นึกขึ้นได้ว่าผลสอบอีกคนก็เพิ่งจะประกาศก่อนหน้าเขาไม่นาน ดูเหมือนไอ้ดำเองก็ได้เป็นว่าที่นักศึกษาแพทย์แล้วเหมือนกัน ชวนมาฉลองความสำเร็จด้วยกันเลยคงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง


     

    “ไปปปปปปปปปปปปปปปปปป” ว่าที่นักศึกษาแพทย์ตอบกลับมาอย่างกระตือรือร้น อาการทะเล้นที่แฝงมาในน้ำเสียงขับรอยยิ้มจางๆให้ผุดขึ้นบนริมฝีปากอิ่มสวย


     

    “เออ งั้นเจอกันที่….”














     

                      




     



    “หมีน้อยยยยยของเค้… อ่ะ อ้าว ใครอ่ะ” ขายาวก้าวฉับๆพาร่างสูงโปร่งของใครบางคนพุ่งตรงมายังสองร่างเล็กที่เพิ่งก้าวเข้ามาในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ใบหน้าคมคายกับผิวสีน้ำผึ้งดึงดูดสายตาลูกค้าหญิงสาวให้เหลียวมองคอแทบหัก ริมฝีปากได้รูปคลี่ยิ้มกว้างเมื่อมองเห็นใบหน้าหวานๆที่เขานั่งรอมาได้สักพัก แต่ก็ต้องหุบยิ้มทำหน้าสงสัยแทน เมื่อเห็นใครอีกคนที่ไม่คุ้นหน้าเดินเข้ามาพร้อมๆกัน


     

    “พยอนแพคไง ที่มึงชอบกวนตีนเค้าตอนพวกกูคุยโทรศัพท์กันอ่ะ”


     

    “ห้ะ!? คนนี้เหรอ.. ย๊าาา พยอนแพคฮายอนนนนนนนนนนน”


     

    “หะ….”


     

    พอร่างเล็กเจ้าของดวงตากลมโตอธิบายให้คนที่กำลังทำหน้างงรับรู้ ร่างสูงก็รีบพุ่งตัวไปตะครุบไหล่เล็กทั้งสองข้างของร่างเล็กอีกคนที่ยืนฟังอยู่เงียบๆ ร้องถามเสียงลั่นร้าน


     

    เจ้าตัวคนถูกจู่โจมดูจะตั้งรับไม่ทันถึงได้ผงะค้างไปชั่วขณะ ตาเรียวเล็กเบิกกว้างขึ้นแบบงงๆ


     

    “ดำมึงปล่อยเลย พยอนแพค นี่ไอ้ดำไง ที่มันชอบตะโกนกวนตีนเวลาเราคุยกันอ่ะ ….รู้จักกันไว้ก็ได้มั้ง - _ - ” มือบางเอื้อมมากระชากแขนยาวๆของคนที่ตัวสูงที่สุดออกจากไหล่เพื่อนซี้ แล้วหันมาแนะเพื่อนตัวโตให้รู้จัก


     

    “อ๋อ.. จงอินเหรอ หวัดดี…” แพคฮยอนหันมามองหน้าคนที่ถูกกันออกไปนิดหน่อยแล้วร้องอ๋อออกมา ก่อนจะยกมือขึ้นทักทาย


     

    “ฮึ้ยยยย น่ารักพอๆกับหมีน้อยเลยอ้ะ” จงอินซึ่งถูกกีดกันออกไปแล้วรอบหนึ่งไม่เข็ด กระโจนเข้ามากอดแพคฮยอนอีกรอบพร้อมทำท่าจะฟัดคนตัวเล็กกว่าซะตรงนั้นเลย


     

    ร่างเล็กที่ยืนมองเข้าไปบิดหูไอ้คนตัวสูงแล้วออกแรงดึงลากให้เดินตามมาซะเลย


     

    “เพื่อนกู ใครอย่ายุ่ง”


     

    เสียงหวาน กับรอยยิ้มเย็นๆหยุดทุกการกระทำได้ในพริบตา จงอินเดินตามร่างเล็กไปอย่างสงบเสงี่ยม


     

    “แล้วแพคฮยอนมาได้ไงอ่ะ” พอนั่งกันครบ จงอินก็หาเสียงของตัวเองเจอพอดี เงยหน้าขึ้นถามแพคฮยอนที่กำลังไล่สายตาอ่านเมนูในมือ


     

    “หือ ก็เราจะมาเรียนต่อมหาลัยที่นี่อ่ะ ไม่ให้มาที่นี่แล้วจะให้เราไปอยู่ไหนล่ะจงอิน” แพคฮยอนเงยหน้าขึ้นมามองคนถาม เลิกคิ้วงงๆเล็กน้อย เสียงหวานตอบกลั้วหัวเราะ อธิบายให้คนอยากรู้อยากเห็นเข้าใจ ตาคมเบิกกว้างเมื่อได้ยินว่าแพคฮยอนจะมาเรียนต่อที่เกาหลี


     

    “จริงอ่ะะ ? งี้ทั้งสองคนก็ไม่ต้องคุยโทรศัพท์กันอย่างเดียวแล้วดิ่ ดีจังเลยเนอะหมีน้อยย” ทำเสียงตื่นเต้นพร้อมอาการโอเวอร์แอคติ้งแล้วหันไปเขย่าแขนคนที่นั่งกุมขมับอยู่แรงๆจนหัวสั่นหัวคลอน


     

    “แล้วมึงจะดีใจหาอะไรไม่ทราบ!” เขย่าจนหัวแทบจะหลุดจากคอไม่สงสารคนโดน สุดท้ายเลยได้เอื้อมมือไปเบิ้ดกะโหลกมันทีนึง


     

    “ก็จงอินดีใจ..” ร่างสูงบีบน้ำตาทำท่าสะอื้น

     

    “สงสารเพื่อนกูเหอะ อย่ามาทำท่าหมีควายร้องไห้ เสียสายตา”


     

    “ฮืออ หมีน้อยทำไมพูดกับจงอินงี้อ่ะ จงอินเสียใจ”


     

    “ไอ้เหี้ย อย่าเอาหน้ามาถูเสื้อกูนะเว้ย”


     

    “คิก..”


     

    สองคนเอาแต่เถียงกันไปมา คนตัวเล็กกว่าก็เอาแต่ผลักหัวดันหน้าไอ้คนที่หน้ามาถูไถอยู่ข้างไหล่ด้วยท่าทังรังเกียจเต็มที่ คนตัวสูงก็งอแงจะเอาหน้ามุดกับซอกคอเพื่อนตัวเล็กให้ได้ จนแพคฮยอนที่นั่งแอบมองอยู่หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ


     

    “หัวเราะไรพยอนแพค!”

     

    คยองซูหันไปร้องถามคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามหน้าถมึงทึงเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะ


     



    “พวกนายสองคนน่ารักดีนะ”


     

    - โปรดติดตามตอนต่อไป -
    หายไปนานเล้อะ ขอโทษค่า มาต่อให้ครบละน้า
    ฮุฮิ คุณหมอจงในอดีตก็น่ารักเหมือนเดิมเนอะ ? อิ____อิ
    ยังไงก็ฝากแท็ก #ฟิคคุณหมอ เวลาเวิ่นในทวิตด้วยนะคะ งุงิ
    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นของทุกคนน้า จุบุๆ เจอกันตอนต่อไปในเร็วนี้ๆฮับ จุ้บบบบ

     

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×