คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คู่กันนะ
กิจกรรมภาคเช้าวันแรก พวกผมพี่เลี้ยงและทีมสันทนาการ จะต้องแบ่งกลุ่มน้องๆ และให้ทำความรู้จักกัน เหล่าเยาวชนที่มาค่ายนี้นับว่าเป็นพวกหัวกะทิในด้านความคิดสร้างสรรค์ และกล้าแสดงออก มีหนุ่มน้อยหน้าตาดีหลายคน ซึ่งก็ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาเท่านั้น บางคนฉายแววโดดเด่น ดุจมีสปอตไลท์สาดส่องตลอดเวลา บางคนทำตัวเป็นที่เฮฮาของเพื่อนๆ แต่น้องป๊อบของผม ห๋า อะไรนะ ผมหลุดคำว่าใช้คำว่าน้องป๊อบของผมไปเหรอครับ แหะ แหะ น้องป๊อบเขาอยู่ในกลุ่มที่ผมเป็นพี่เลี้ยงด้วย และผมก็รู้สึกอยากจะใช้คำคำนี้น่ะ น้องป๊อบของผม แอบคิด แอบเคลิ้มอยู่คนเดียว ผมมักจะแอบมองน้องเขาแบบไม่รู้ตัว ผมก็ไม่รู้ตัว น้องเขาก็ไม่รู้ตัวน่ะครับ
“เอาล่ะครับ สำหรับเกมนี้ ถ้ากลุ่มไหนแพ้ จะต้องออกมาเต้นท่าคางคกกันยกทีม” เสียงพี่ชัย ขวัญใจวัยรุ่นนำเกมอยู่
“เดี๋ยว ช้าก่อน เดี๋ยวเราจะให้พี่ภูเขามาโชว์ลีลาท่าคางคกให้น้องๆ สยองเล่นก่อนนะ” เฮียครับ เฮียไม่เตี๊ยมกะผมเลยนะ ถึงผมจะเต้นเพลงนี้ได้ก็เหอะ
“เอาจิงดิพี่...” ผมเหวอ
“เอ้า ตบมือต้อนรับพี่ภูหน่อยคร๊าบ” ได้ประโยคนี้มาแทนคำตอบ
ผมสร้างลุคเป็นพี่ที่ขรึมอยู่ จะเสียลุคก็คราวนี้ล่ะวะครับ พอกลองทอมบรรเลง ผมก็ใส่ลีลาคางคกเท้าไฟเต็มที่ น้องผู้หญิงบางคนช็อก อ้าปากค้าง แล้วต่อมาทุกๆ คนก็หัวร่องอหงายกันใหญ่ คงไม่คิดว่าไอ้พี่คนนี้มันจะกล้า บ้าบอขนาดนี้ และที่สำคัญผมไม่พลาดที่จะเหลือบผ่านไปมองป๊อบ ที่มีร้อยยิ้มเปื้อนแก้ม แกมเสียงหัวเราะหล่อๆ เสียงของเขากลบเสียงหัวเราะทุกเสียงในใจผมตอนนี้ การสาธิตท่าเต้นคางคกจบลงพี่ชัยนำเกมต่อ ส่วนผมก็กลับเข้าสู่โหมดขรึมตามเดิม เกมดำเนินไปอย่างสนุกสนานและผลสรุปออกมาว่า
“เอาล่ะครับเป็นอันว่ากลุ่มที่ดวงจู๋ที่สุดเช้านี้คือกลุ่ม 4 ออกมาซะดีดี อย่าอิดออด ถ้าชักช้าจะให้เพื่อนโห่นะ” พี่เขาขู่น้องๆ
กลุ่ม4 ก็กลุ่มผมนี่เอง เมื่อกี้น้องเขายังหัวเราะผมอยู่เลย คราวนี้ทีผมมั่ง ผมนั่งมองป๊อบตาไม่กระพริบ เวลาที่น้องเขายิ้มเขินอายหน้ายิ่งแดงเข้าไปใหญ่ ท่าทางที่เขาทำเห็นแล้วน่ามันเขี้ยวจริงๆ
“กลุ่มนี้โชว์คางคกเสร็จแล้ว อย่าเพิ่งกลับไปนั่งที่นะ อยู่สาธิตเกมต่อไปให้เพื่อนๆ เขาดูก่อน เอ้าเกมต่อไป จับคู่เลย” พี่ชัยสั่ง
และในนาทีชุลมุนแห่งการจับคู่ ผมก็เห็นน้องแนน สาวม.ปลาย ผมยาวสลวย สะบัดผมพลิ้วลิ่วมาคว้าน้องป๊อบของผมหมับ
“คู่กันนะ ป๊อบ” เธอเอ่ยพร้อมส่งยิ้ม ป๊อนสิครับยังเหว่อๆ แต่ก็พยักหน้าแล้วยิ้ม
เพียงเสี้ยววินาทีนั้นใจผมก็พลันได้สติ
มันเป็นอย่างนี้มาเสมอสินะ นอกจากผมจะปกปิดตัวตนเอาไว้อย่างมิดชิดที่สุดมาเป็นระยะเวลากว่า 6 ปีแล้ว ทุกๆ ครั้งที่ผมพบคนที่น่าสนใจ คนที่ทำให้ใจหวั่นไหว ผมมักทำได้แค่แอบมองอยู่ใกล้ๆ เท่านั้น นานๆเข้าผมก็จะลืม หรือไม่ก็พยายามตัดใจไปเสีย ไปหาอย่างอื่นทำให้ลืมๆ เขาทั้งหลายเหล่านั้น เร็วสุด 2 วัน ช้าสุด2 อาทิตย์ ก็หายบ้าแล้วล่ะ แล้วบางทีผมก็ต้องอกหักข้างเดียวนะ ช.น.ค.ป.ด. คาบไปแบบกู่ไม่กลับ T T หรือบางที เขาก็หนีไปเข้าป่าเดียวกันนี่แหละ แต่ไม่ได้หนีไปกับเราก็เท่านั้นเอง
“ช่างแม่ง...” ผมแอบเซ็งจิต
“เฮ้ยภู มึงด่าใครวะ” ไอ้แก๊บงงที่อยู่ดีๆ ผมก็สบถออกมา
“อ่าว กูพูดออกไปเหรอ กูนึกว่ากูคิดในใจนะ” ผมตอบ
“เอ้อ ไอ้นี่ บ้าป่ะมึงง่ะ ไปเตรียมตัวพาน้องขึ้นรถเลย มึงกลุ่ม 4 ใช่มะวันนี้เวรมึงนำกิจกรรมในรถ กลุ่มมึงอยู่คันที่ 3 นะ” มันสั่งเป็นชุด
ผมหันไปมองป๊อบอีกครั้ง เขากำลังเดินเข้ามานั่งที่ แล้วสายตาผมก็เหลือบไปเห็นสายตาอีกคู่หนึ่งที่จ้องมองป๊อบอยู่
คุณน้องแนนนั่นเอง
ความคิดเห็น