ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Vocaloid] kimi ni gomene คำขอโทษถึงเธอ

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 4 ความจริงที่หลบซ่อนอยู่ในความฝัน

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 56


     

    บทที่ 4

     

              แสงแดดสาดส่องลอดผ่านหน้าต่างในยามเช้า ฉันคอยๆลืมตาตื่นขึ้นมาในยามเช้า อ่า...มันช่างอบอุ่นดีจริงๆ ไม่ได้นอนบนเตียงใหญ่ๆแบบนี้มากี่วันกันแล้วละเนี่ย

              “ตื่นแล้วหรอกุมิ” เสียงนุ่มของชายหนุ่มที่ฉันเรียกเขาว่าสามีดังขึ้น

              “อืม ก็เช้าแล้วนิ แล้วนายไม่ไปทำงานหรอวันนี้” ฉันหันไปถามมิคุโอะที่นอนอยู่ข้างๆกัน

              “ยังเช้าอยู่เลยนะ ขอกอดภรรยากับลูกน้อยที่รักก่อนสิ” มิคุโอะ ค่อยๆกอดฉันอย่างอ่อนโยน เขาเหมือนเด็กขี้อ้อนเลยจริงๆ

              “รีบลุกไปได้แล้วน่า เจ้าบ้านี่” ฉันรีบผลักมิคุโอะออกก่อนที่เขาจะรู้ว่าฉันเขินขนาดไหน

              “โถ่..ไปก็ได้ค้าบบบ คุณภรรยา” มิคุโอะทำท่าทางหัวเสียก่อนลุกจากเตียงไป

              นี่มันผ่านมากี่เดือนกันแล้วนะ ตั้งแต่ที่ฉันแต่งงานกับเขา แต่ความฝันนั้นก็ยังตราตรึงอยู่ในหัวของฉัน อะไรคือความจริงกันแน่ ความฝันนั้นมันคือความฝันแน่หรอ แล้วความเป็นจริงที่ฉันอยู่ตอนนี้ มันคืออะไรกัน ชีวิตที่สงบสุขแบบนี้มันคืออะไรกัน...ฉันนั่งคิดเรื่องพวกนี้ทุกเช้าที่ฉันลืมตาตื่นขึ้นมา

              “นี่กุมิ ผมไปลงไปทานข้าวก่อนนะ คุณก็รีบตามลงไปละ เดี๋ยวผมคิดถึง” มิคุโอะที่แต่งชุดสำหรับไปทำงานเรียบร้อย ค่อยๆเดินมากระซิบข้างหูฉันเบาๆ ก่อนเดินออกจากห้องไป

              นี่คือความจริงใช่ไหม โลกที่ฉันอยู่นี่คือความจริงใช่ไหม แล้วโลกในความฝันนั้นละ ฉันอดที่จะสงสัยมันไม่ได้เลยจริงๆ เอ๊ะ...จริงสิ ทำไมฉันไม่ไปดูให้เห็นกับตาละว่าสถานที่แห่งนั้นมีจริงหรือเป็นแค่ความฝันกันแน่...

              “นี่มีใครอยู่ข้างนอกไหม!!” ฉันตะโกนเรียกหาพวกคนใช้ที่น่าจะยืนอยู่ข้างหน้าห้อง

              “ค่ะคุณผู้หญิง..” สาวใช้คนหนึ่งค่อยๆเปิดประตูเข้ามา

              “วันนี้ฉันจะออกไปข้างนอก อาจกลับดึกหน่อยฝากบอกคุณผู้ชายด้วย”

              “ค่ะคุณผู้หญิง..” เมื่อรับคำสั่งจากฉันเสร็จแล้วเธอก็ค่อยๆเดินออกจากห้องไป

    ได้เวลาที่ฉันจะไปค้นหาความจริงแล้ว

              ว่าแล้วฉันก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำ จัดแจงอาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จสับก่อนจะเดินจากห้องตรงไปที่โรงรถอย่างเร่งรีบ ความนึกคิดพวกนั้นมันวนเวียนอยู่ในหัวของฉันเหลือเกิน

     

    บรื้นนนนนนนน!!!

              รถขับสีแดงฉูดฉาด แล่นออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ มุ่งตรงไปยังสถานที่แห่งความทรงจำ สถานที่ที่รบกวนจิตใจของฉัน สถานที่ที่ฉันไม่อาจลบมันออกไปจากความนึกคิดได้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม ทั้งเด็กสาวผมสีฟ้าครามนั้น ทั้งร้านขายของชำ ทั้งปราสาทพ่อมด ทั้งซากศพที่น่าขยะแขยงพวกนั้น

     

     เอิ๊ยดด!!!

              เสียงเบรกของรถที่หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายของชำที่ดูคุ้นเคย ที่นี่สินะ ที่นี่ใช่ไหม ที่ฉันกำลังตามหา เหมือนมีบางสิ่งกำลังเรียกฉันให้เข้าไปในนั้น...

     

    กริ่ง ๆ ๆ

              ทั้งทีที่เปิดประตูเข้าไปเสียงกระดิ่งหน้าร้านก็ดังขึ้น เหมือนกับกำลังปลุกทุกสิ่งให้ตื่นจากความฝัน

              “ขอโทษค่ะ มีใครอยู่ไหมค่ะ” ฉันพยายามมองรอบร้าน แต่ก็ไร้วี่แววของเจ้าของร้าน หรือสิ่งมีชีวิตเลย

              “ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าต้องการหาอะไรหรือเปล่าครับ” จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากมุมๆหนึ่งของร้าน เอ๊ะ!!

              “อะ...เออ” ฉันหันไปมองตามต้นเสียง ชายหนุ่มผมสีม่วงยาวสลวยที่ยืนยิ้มอยู่ที่เคาเตอร์ของร้าน นี่เขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่กันละเนี่ย

              “มีอะไรหรือเปล่าครับ??” ชายหนุ่มถามซ้ำอีกครั้งหนึ่ง

              “คุณน่ะ เป็นพ่อมดใช่ไหม!!” ฉันยืนชี้นิ้วไปทางเขา ตามในฝันแล้วเจ้าของร้านนี่เป็นพ่อมด เพราะงั้นคนๆอาจเป็นพ่อมดคนนั้นก็ได้!!

              “เหมือนว่าวันนี้เราจะมีแขกพิเศษซะแล้วสิ หึหึ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ

              “ฉันต้องการรู้ความจริงทั้งหมด!!” ฉันเดินเข้าไปที่เคาเตอร์ ก่อนตบมือลงบนโต๊ะ

              “โอะโอ ถ้าอย่างนั้นก็ตามมาทางนี้ครับ คุณลูกค้า” เขาพูดพร้อมกับเดินนำหน้าฉันไปยังด้านหลังของร้าน

              “นายจะพาฉันไปไหน!!” ฉันตะโกนถามเขาที่เดินนำหน้าไปไกลมากแล้ว

              “ก็พาไปพบความจริงไงละครับคุณลูกค้า ในเมื่ออยากรู้ความจริงมากขนาดนั้นจะทำให้ตื่นจากความฝันนี้ก็ได้” พอพูดจบ เขาก็ค่อยๆ เปิดภาพม่านตรงสุดทางเดินนั้นออก

     

              “กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!” ภะ....ภาพตรงหน้าของฉันนี้มันคืออะไรกัน ทั้งเลือด ทั้งเศษซากแขนขาที่หลุดกระจายออก ทั้งกลิ่นเน่าเหม็นนี้ ทะ...ทั้งหมดนี่มันคะ....คือ... ภาพของตัวฉันเอง!!!!

              “นะ...นี่มันอะไรกัน...” ฉันหันไปถามเขา

              “ก็คุณลูกค้าอยากรู้ความจริงไม่ใช่หรอครับ หึหึ” เขาพูดพร้อมกับเดินถอยหลังจากไป

              “นะ...นี่มันอะไรกัน มันหมายความว่ายังไงกัน อะไรคือความจริง อะไรคือความฝัน....” ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกสับสนไปหมดแล้ว นี่มันอะไรกัน ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมามันหมายความว่ายังไงกัน ศพที่อยู่ตรงหน้าของฉันมันหมายความว่ายังไง

              “ก็หมายความว่าเธอตายแล้วนะสิ...”  เสียงๆหนึ่งดังขึ้น ฉันจำเสียงนี้ได้

              “มิคุ!!!!!” ฉันหันไปมองมิคุที่ยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของศพ

              “ทะ...ทำไม..นะ...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่....” ฉันเอ่ยถามมิคุอย่างตะกุกตะกัก

              “เธอตายตอนที่กระโดดลงมาจากหอคอยสูงนั้นยังไงละ..พวกฉันพยายามห้ามเธอแล้วนะ..แต่..”

              “เธอโกหก!!!! แล้วเรื่องที่ผ่านมานี่มันคืออะไรกับ ชีวิตที่สงบสุขนั้นมันอะไรกัน!! เธอโกหก เธอโกหก!!!!” ฉันตะโกนแทรกขึ้น ฉันไม่เชื่อเรื่องพวกนั้น มันไม่ใช่ความจริง

              “ฉันให้เธอเลือกสองทางคือความจริงที่อยู่ตรงหน้าของเธอ หรือความฝันที่อยู่ด้านหลังของเธอ”

              “ฉันไม่เลือก!!!!!!!!!!!!!!!! กริ๊ดดดดดดดดดดด!!!!” สติของฉันเริ่มเลือนหาย ความมืดดูเหมือนเริ่มเข้าครอบงำจิตใจของฉัน ฉันไม่ได้ตาย หรือ ตายแล้วกันแน่ ครอบครัวของฉันคือเรื่องจริงหรือสิ่งจอมปลอม อะไรคือความฝัน แล้วความจริงคืออะไร ฉันควรจะเชื่อสิ่งไหนกันแน่ แล้วฉันควรจะทำยังไงดี ฉันควรจะทำยังไงดี

              “เธอต้องเลือกนะ กุมิ นี่คือชะตาของเธอ” เสียงฝีเท้าของมิคุค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ ไม่นะ ชะตากรรมอะไร ฉันไม่ได้อยากได้ชะตากรรมแบบนี้

              “ถ้าจะให้ฉันเลือกฉันขอตายตั้งแต่ตอนที่ขับรถชนเธอเลยดีกว่า” ฉันมองหน้ามิคุแล้วพูดใส่หน้าเธอ เพราะเธอ เพราะเธอ ฉันถึงต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ ถ้าตอนนั้นฉันชนเธอให้ตายไปซะฉันน่าจะได้มีความสุขอิสระไปแล้ว เป็นเพราะเธอ มิคุ เป็นเพราะเธอ!!!!!

     

    ………………………………………………………………………………………….

     

    “มิคุ ระวัง!!!!!!!!!!!!!!” เสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับหญิงสาวผมแกะสีฟ้าที่ยืนขวางถนนอยู่ ไม่นะ!!!!

                                        

    เอิ๊ยดด!!! โครม!!!!!!!!!!!!!!

              ฉันพยายามเบรกรถที่วิ่งอยู่ด้วยความเร็วสูง แต่มันเร็วเกินไปที่จะเบรกไว้ทันร่างของเด็กผู้หญิงคนนั้นกระเด็นไปไกล เช่นเดียวกับรถของฉันที่พุ่งตกลงจากเขา ไม่นะ ไม่นะ ฉะ..ฉันนะ ฉันนะ..ยังไม่อยาก... ถ้าจะให้ฉันเลือกฉันขอตายตั้งแต่ตอนที่ขับรถชนเธอเลยดีกว่าจู่ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวของฉันพร้อมกับความทรงจำที่เอ่อล้นเขามาในสมองของฉัน นี่มันหมายความว่ายังไงกัน คนที่ต้องการตายคือฉันเองงั้นหรอ ไม่จริง ไม่จริงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!.................

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×