ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Vocaloid] kimi ni gomene คำขอโทษถึงเธอ

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3 ความฝันกับความจริงอยู่แค่เอื้อม

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 56



    บทที่ 3

     

              ศพ ศพ มีแต่ศพเต็มไปหมดเลย ทั้งแขนขา ดวงตาในขวดโหล หัวใจที่ยังเต้นอยู่ เลือดที่ถูกสาดทั่วทั้งห้อง แถมยังกลิ่นคาวพวกนั้น นี่มันอะไรกัน....

              “เราจะจัดการกับยัยนี่ยังไงดีล่ะเนี่ย ดันมารู้ความลับของพวกเราซะได้” เสียงของยัยผมเหลืองดังขึ้น

              “คุณพ่อมดตอนนี้ก็โกรธมากเลยด้วย แย่แน่ๆเลย”

              “งั้นทำให้ยัยนี่เป็นแบบพวกเราเลยดีไหมล่ะ” อะไรนะ พวกเขาจะทำอะไรฉัน

              “ริน เธอจำเรื่องของเล็นไม่ได้หรอ โชคดีนะที่เรื่องนั้นไม่รู้ไปถึงหูของสภาเวทย์มนตร์น่ะ” อะไรน่ะคนพวกนี้รู้จักเล็นด้วยงั้นหรอ

              “งั้นก็ฆ่าให้ตายก่อนก็สิ้นเรื่องนิ คิคิ” ขะ...ฆ่าหรอ!!!!!!!!!!!!!!!!!

              “ไม่นะ!!!!!!!!!!!!!!” ฉันรีบลุกขึ้นจากเตียง อะไรกันถึงขั้นจะฆ่ากันเลยหรอ

              “ตื่นแล้วหรอย่ะ” รินที่ยืนกอดอกพูดอยู่จิกตามองมาที่ฉัน แต่ที่แปลกไปคือด้านหลังของเธอเหมือนจะมีอะไรติดอยู่ด้วย!! “ด้านหลังของเธอ...”

              “ไหนๆก็ไหนๆแล้ว จะบอกความจริงให้ก็ได้ เฮ้อ!” รินถอนหายใจเบาๆ “ที่นี่คือปราสาทเวทมนตร์ของคุณพ่อมดซึ่งถูกบังหน้าด้วยร้านขายของชำเล็กๆบนเขา ส่วนศพที่เธอเห็นเป็นวัสถุดิบในการสร้างพวกฉันขึ้นมา ในฐานะตุ๊กตาไขลาน ถ้าที่ไขลานของพวกฉันหยุดหมุนเมื่อไหร่ ชีวิตของพวกฉันก็จบสิ้นเมื่อนั้น”

              “นี่มันเรื่องอะไรกันทำไมถึง ยะ..อย่านะ อย่าฆ่าฉันเลยนะ!!” ตอนนี้ในหัวของฉันมีแต่คำว่าหนี ใช่แล้วเราต้องหนี ความกลัวเริ่มครอบงำฉันขึ้นเรื่อยๆ

              “หืม...เธอพูดว่าอะไรน่ะ” รินค่อยยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ

              “ไม่นะ ฉันยังไม่อยากตาย!!!!” ฉันรีบผลักรินออกไปอย่างสุดแรง

              “นี้เธอพูดอะไรของเธอกันนะ...” ฉันไม่ฟังที่รินพูดรีบลุกขึ้นมาจากเตียง ประตูละประตูอยู่ไหน ฉันต้องหนีซะแล้ว ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้

              “ถ้าคิดจะหนีละก็นะห้องนี้น่ะไม่มีประตูหรอกนะ” รินพูดขึ้น นั่นสิตั้งแต่ตอนที่ฉันฝืนขึ้นมาก็ไม่เห็นประตูของห้องนี้แล้ว แล้วหน้าต่างละ 

              ฉันมองไปรอบๆห้อง มีหน้าต่างอยู่หนึ่งบาน ใช่แล้วนั่นละทางหนี ฉันจะต้องไปจากที่แห่งนี้

              “นั่นเธอคิดจะทำอะไรน่ะ!!!” รินตะโกนขึ้นขณะที่เห็นฉันวิ่งไปที่หน้าต่าง

              “ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้ ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้”

    “เดี๋ยวสินี่มัน....”

    ว่าแล้วฉันก็ตัดสินใจกระโดดลงจากหน้าต่าง ฉันหลับตาแน่น รู้สึกเหมือนโดนสายลมพัดพาไป ฉันจะตายไหมนะ คิดแล้วมันก็รู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมา นี้ฉันทำอะไรลงไป กลัวตาย แต่กลับพาตัวเองมาตายเนี่ยนะ ฉันน่าจะทำอะไรที่มันดีกว่านี้ก่อนตายสักนิด ฉันน่าจะตอบรับความต้องการของพ่อกับแม่ ฉันน่าจะ...

             

    ...........................................................................................................................

             

    “กุมิ กุมิ ตื่นเร็วลูก กุมิ” เสียงใครนะ เสียงนี้มัน..

    “คุณแม่!!!” ฉันรีบลืมตาตื่นขึ้น

    “แย่จริงๆเลยเจ้าสาวของแม่มาเผลอหลับแบบนี้ได้ยังไงกันละเนี่ย” ฉันมองคุณแม่อย่างงงๆ พร้อมกับมองตัวเองที่อยู่ในชุดเจ้าสาว นี่มัน... หรือว่าฉันจะแค่ฝันไปกันนะ

    “รีบเตรียมตัวเร็วเข้า เดี๋ยวลูกต้องเข้าพิธีแล้วนะ” คุณแม่ยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน ขอให้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้เป็นแค่ความฝันทีเถอะ ตอนนี้ฉันได้มีโอกาสทำสิ่งที่ฉันควรจะทำแล้ว

    ฉันรีบเดินมายังโบสถ์ที่จัดพิธี “วันนี้ลูกสวยมากเลยนะกุมิ” คุณพ่อยิ้ม เมื่อฉันเดินไปถึงที่ลานพิธี

    “ค่ะ คุณพ่อ” ฉันตอบรับพร้อมกับยิ้มบางๆ ก่อนที่จะควงแขนคุณพ่อเดินไปยังแท่นพิธีตามธรรมเนียม ฉันไม่สนใจสิ่งรอบข้าง หรือสิ่งอื่นใดๆ ฉันจะไม่ทำผิดพลาดอีก ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานโอกาสให้ฉันอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ฉันจะใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่าที่สุด

    ทันทีที่ฉันเดินมาถึงด้านหน้าพิธีก็มี เจ้าบ่าวของฉัน กับ บาทหลวงยืนรออยู่มิคุโอะขอโทษนะ แต่นายช่วยให้ฉันได้ทำสิ่งที่ฉันปรารถนาทีเถอะ

    “คุณ ฮัตสึเนะ มิคุโอะ คุณยินดีจะรับคุณกุมิ เมกพอยด์ เป็นภรรยาหรือไม่” เสียงของบาทหลวงดังขึ้นภายในโบสถ์สีขาว เริ่มแล้วสิน่ะ

              “รับครับ” เสียงของเขาขานรับขึ้น

              “แล้วคุณ กุมิ เมกพอยด์ คุณยินดีจะรับคุณฮัตสึเนะ มิคุโอะ เป็นสามีหรือไม่”

    “รับค่ะ” ครั้งนี้จะตอบรับอย่างไม่ลังเลใจเลย

    “งั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอให้เจ้าบ่าวกับเจ้าสาว...”ฉันรู้ว่าอีกเดี๋ยวหมอนี้จะพูดอะไร

    “ถ้าจูบล่ะก็...”

    “.....” ฉันยืดตัวขึ้นคล้องคอของมิคุโอะ ก่อนดึงเขาลงมาจูบอย่างดูดดื่ม

    “ฉันรักนายนะมิคุโอะ” น่าจะเปลี่ยนเป็นสักวันฉันจะรักนายนะ มากกว่า

    “กะ...กุมิ...เธอ...” เพื่อความแน่ใจ ฉันดึงเข้าลงมาจูบอีกครั้ง จูบครั้งนี้เนินนานนักและดูเหมือนไม่ใช่ฉันฝ่ายเดียวที่จูบเขาเองก็จูบรับฉันเช่นเดียวกัน จูบอันหอมหวานที่อาบไปด้วยยาพิษ ฉันอาจตายเพราะจูบนี้ก็ได้  ฉันอาจไม่ได้รักเขา แต่ฉันก็ทำหน้าที่ของลูกที่ดีเสร็จสิ้นแล้ว อีกหน่อยฉันอาจรักเขาทีละนิดก็ได้ ถ้าเขารักฉันอะนะ....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×