ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Collection] My Matter of Interest

    ลำดับตอนที่ #5 : [Fic/iKON] Match (JunHwan & DoubleB)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 239
      0
      4 มิ.ย. 58

    [Fic/iKON]  Match

    Pairing : Junhoe/Jinhwan, Bobby/B.I

    Pacific Rim AU

    Note : ไม่เคยดูหนังก็อ่านได้ค่ะ เพราะเขียนจากความทรงจำที่ลางเลือนเหมือนกัน เป็นหนังที่สัตว์ประหลาดที่เรียกว่าไคจูบุกจากมหาสมุทรมาทำลายโลก ทางการเลยต้องใช้หุ่นยนต์รบไปสู้ โดยที่นักบินของหุ่นยนต์รบนั้น (ส่วนใหญ่จะขับพร้อมกันเป็นคู่) จะทำการขับเคลื่อนหุ่นยนต์ได้สมบูรณ์ก็ต่อเมื่อเปิดการเชื่อมต่อความนึกคิดและความทรงจำของกันและกัน (แต่หนังสนุกนะคะ แนะนำ555)

    ปล. บาบิกับฮันบินในเรื่องนี้อายุเท่ากันค่ะ
    *****************

     

    Junhoe x Jinhwan

     

    ชีวิตของจุนฮเวไม่เคยมีเป้าหมาย เขาเป็นแค่เด็กที่ถูกพ่อแม่เลี้ยงมาแบบไม่ไยดีนัก  ไม่ได้เรียนหนังสือ ดิ้นรนเอาตัวรอดท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ตกต่ำยิ่งกว่าในสลัม

    จะมีชีวิตรอดหายใจในวันต่อไป

    หรือจะบาดเจ็บล้มตายในวันนั้นก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่

     


    จุนฮเวไม่เคยมีความผูกพันกับใคร แม้แต่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิด ในตอนแรกเขาคิดว่าอย่างน้อยกับบุพการีน่าจะมีสายสัมพันธ์เกี่ยวโยงอยู่บ้าง แต่เมื่อวันนั้น - วันที่ไคจูบุกและถล่มถิ่นที่อยู่ของเขาจนราบเป็นหน้ากลอง จุนฮเวที่โชคดีรอดพ้นมาได้ยืนมองซากปรักหักพังของบ้านตัวเองรวมถึงร่างไร้วิญญาณของพ่อกับแม่

    เพื่อจะพบว่าตัวเองไม่ได้มีความเศร้าโสกเสียใจใดๆอยู่เลย

     
     

    จินฮวานเป็นคนแรก และเป็นเพียงคนเดียวที่เขายอมเปิดใจให้ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของทางการ
    หากเปรียบเขาเป็นหลุมที่มืดมิด จินฮวานก็เหมือนแสงอาทิตย์ที่สาดส่อง
    แม้หลุมจะลึกสักแค่ไหน แสงอาทิตย์ก็ยังส่องลงไปถึงก้นบึ้งของมันอยู่ดี
    เกราะป้องกันตัวเองของเขาที่ทำให้คนที่พยายามเข้ามาผูกมิตรหลายคนต้องล่าถอย มันใช้ไม่ได้ผลกับจินฮวาน

     

    การมีตัวตนของจินฮวานเข้ามามีบทบาทในชีวิตของจุนฮเวมากขึ้น
    เหมือนเป็นความท้าทายของอีกฝ่าย ที่จะทำให้เขาต้องตอบรับในสิ่งที่ตัวเองพูด หรือยอมให้นั่งใกล้ๆ โดยไม่ถูกส่งสายตาไล่ออกมา  
    แววตาดีใจและรอยยิ้มกว้างของจินฮวานยามที่สามารถทำให้เขาโต้ตอบกลับได้สำเร็จ สร้างรอยร้าวให้แก่เกราะป้องกันของเขาทีละน้อย

     

    การที่เขารู้สึกกังวลใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในวันที่จินฮวานเกิดป่วยขึ้นมา และหายไปจากการเอาตัวเองมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของเขาเพราะต้องไปอยู่ในห้องพักฟื้น

    หากนั่นหมายถึงเขาเกิดความผูกพันกับใครสักคนแล้วละก็
    จุนฮเวก็จะยอมรับมัน

     

    เขายอมรับ ว่าเคยชินกับความอบอุ่นของแสงอาทิตย์ที่สาดมา จนอยากจะทำทุกอย่าง เพื่อให้ความอบอุ่นนี่คงอยู่ตลอดไป

    และนั่นอาจเป็นครั้งแรกที่จุนฮเวรู้ว่าหาเป้าหมายในชีวิตของตัวเองเจอแล้ว

     

    แต่ภายใต้แสงอาทิตย์ที่อบอุ่นนั่น ก็ยังมีเงาฝนอยู่
    จินฮวานเสียครอบครัวไปให้กับไคจูเช่นกัน แต่ต่างจากจุนฮเว อีกฝ่ายโตมาในครอบครัวที่อบอุ่นรักใคร่กลมเกลียว แม้ภายนอกจะดูเป็นคนตัวเล็กยิ้มแย้มไม่มีพิษภัย แต่ในใจกลับเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกอยากแก้แค้นเต็มกำลัง
    จุนฮเวจึงไม่แปลกใจ เมื่อจินฮวานตัดสินใจจะเข้าร่วมโปรแกรมฝึกนักบินบังคับหุ่นยนต์รบเมื่ออายุถึงคราว

    เป้าหมายของจินฮวานคือการกำจัดไคจูให้สิ้นซาก
    แต่เป้าหมายของจุนฮเวคือการได้อยู่กับจินฮวาน

     

    ดังนั้น แม้จะเข้าร่วมการฝึกช้ากว่าจินฮวานไปถึงสามปีเพราะอายุที่น้อยกว่า แต่จุนฮเวกลับพยายามทุกทางเพื่อที่จะถีบตัวเองให้มาอยู่ระดับเดียวกับจินฮวานได้ แม้จะต้องไม่ปราณีกับผู้ร่วมฝึกคนอื่นก็ตาม

    ถึงจะโดนคนร่วมค่ายเกลียดขี้หน้า หรือใครอื่นจะขยาดตีตัวออกห่างจุนฮเวก็ไม่สน

    ชีวิตเขามีแค่จินฮวานคนเดียวก็พอ


     

    วินาทีที่ได้ขึ้นไปยืนเคียงข้างกันบนแท่นนักบินในหุ่นยนต์รบและเปิดการ เชื่อมต่อยามที่ความรู้สึกนึกคิดและความทรงจำของจินฮวานพรั่งพรูเข้ามาให้เขาได้รับรู้ทุกสิ่งแบบไม่มีอะไรปิดกั้น

     

    เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เขารู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับจินฮวานอย่างแท้จริง

    และมันดียิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

     

    ในบางครั้ง จุนฮเวก็กลัว ว่าการสู้กับไคจูจะพรากจินฮวานไปจากเขา ในตอนที่มีความคิดแบบนั้น เขาก็อยากจะทิ้งทุกอย่าง และพาอีกฝ่ายไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสองคนในที่ๆไกลแสนไกล

     

    แต่จุนฮเวก็รู้ว่าทำไม่ได้ เพราะมันจะขัดความตั้งใจของจินฮวาน

    สิ่งที่เขาทำได้มีแต่สู้สุดใจเพื่อให้ตัวเองชนะไคจูเท่านั้น

    ไม่ใช่เพื่อปกป้องโลก เพราะมันไม่เคยอยู่ในความคิดของเขา

    แต่เพื่อปกป้องให้จินฮวานได้มีชีวิตอยู่

     

    และเป็นแสงอาทิตย์ที่อบอุ่นให้แก่เขาในวันต่อไป

     

     

     

    Jiwon x Hanbin

    จีวอนถามตัวเองเป็นรอบที่ล้าน ว่าผู้บังคับบัญชาเห็นอะไรดีงามในตัวเขา ถึงได้เลือกให้เขามาจับคู่กับฮันบิน

    ผลการฝึกของจีวอนก็ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่ดีเลิศ ดังนั้นเขาจึงยิ่งไม่เข้าใจ ว่าการที่เอาคนอย่างเขาจับคู่กับนักเรียนระดับท๊อปอย่างฮันบินนี่มีเกณฑ์อะไรเป็นตัวบ่งชี้กันแน่

     

    ไม่ต้องพูดถึงนิสัยที่ไปคนละทาง

    หากเปรียบนิสัยคนกับหนังสือ จีวอนก็เหมือนหนังสือตลกเบาสมองแฝงเรทนิดๆทะเล้นหน่อยๆ ภาพสีสดใส การจัดหน้ามีลูกเล่นน่าติดตาม

    ส่วนฮันบินคือวิทยานิพนธ์ที่มีแต่ตัวหนังสือเรียงเป็นพรืด ทุกอย่างต้องถูกต้อง การจัดหน้าต้องเป็นไปตามแบบแผน

     

    จีวอนมีเพื่อนรายล้อมมากมาย ไปไหนก็มีแต่คนทักคนรู้จัก
    ฮันบินมีแต่คนรู้จัก แต่กลับไม่มีคนที่จะนับว่าเป็นเพื่อนสนิทได้เลยสักคน

     

    แน่นอนว่าการเชื่อมต่อขั้นทดลองของเขาสองคนพังไม่เป็นท่า เพราะแม้จิตจะประสานกันได้ แต่ความนึกคิดกลับแทบจะตีกันตาย การเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์เลยแทบจะไปคนละทาง

    ทันทีที่ถอดหมวกออก จีวอนก็เจอสายตาที่สื่อความหมายว่าอยากจะฆ่าเขาให้ได้มาจากนักบินคู่หู ก่อนที่อีกฝ่ายจะสบถอย่างหัวเสียแล้วเดินออกจากห้องนักบินไป

    แต่ก่อนไปไม่วายทิ้งคำพูดไว้กับเขา

    ถ้านายเอาความทรงจำของฉันไปเล่าให้ใครคนอื่นฟัง ฉันจะฆ่านาย

     

    เชื่อไหม จากที่เคยได้ยินชื่อและเห็นหน้ากันมา นั่นเป็นประโยคแรกและประโยคเดียวที่ฮันบินพูดกับเขา

     

    เย็นวันนั้นจีวอนนั่งๆนอนๆรอคำสั่งปลดเขาจากการเป็นนักบินคู่หู

    แต่สิ่งที่เขาได้รับ กลับเป็นคำสั่งให้เก็บของย้ายตัวเองออกจากห้องพักปัจจุบัน
    แล้วย้ายไปอยู่กับนักเรียนเอคลาสอย่างฮันบิน

    (แน่นอนว่าจีวอนพยายามทำเป็นไม่ได้ยินท้ายคำสั่งที่บอกให้พวกเขาต้องอยู่ด้วยกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วย  –  ซึ่งก็ได้แต่พยายามแหละนะ)

     

    แม้สีหน้าของอีกฝ่ายที่เขาเห็นทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไป จะแสดงความไม่พอใจอย่างสุดซึ้ง

    แต่ฮันบินก็ไม่ได้บ่นหรือแสดงความไม่ชอบใจอะไรออกไปกว่านี้

     

    การเอาชีวิตไปผูกติดกับฮันบินตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงไม่ใช่เรื่องยาก
    แค่อาจจะทนกับภาวะน้ำลายบูดนิดหน่อยเพราะอีกฝ่ายถามคำตอบคำเสียเหลือเกิน

    แต่จีวอนรู้ จากความทรงจำของฮันบินที่เขาเห็นในตอน เชื่อมต่อคราวนั้น อีกฝ่ายไม่ใช่คนมนุษยสัมพันธ์แย่ แค่ไม่รู้จะเข้าหาคนอื่นอย่างไร

    ชีวิตของฮันบินมีแต่กรอบและความคาดหวัง พ่อของเขาเป็นหัวหน้ากองๆหนึ่งในหน่วยทหารที่วาดฝันไว้ว่าฮันบินจะขึ้นเป็นที่หนึ่งในฐานะคนขับหุ่นยนต์รบ ชีวิตในวัยเด็กจึงมีแต่การฝึกให้ได้ตามเป้า เพื่อให้พ่ออุ่นใจว่าลูกของตนจะเป็นใหญ่ได้


    ไม่มีเพื่อน เพราะทุกคนคือคู่แข่ง
    แต่จีวอนสัมผัสได้ ว่าฮันบินนั้นเหงามากแค่ไหน

     

    ตุ๊กตามิกกี้เมาส์ตัวเล็กที่จีวอนเห็นฮันบินเอามาเล่นพูดคุยด้วยแต่เด็ก ที่วางอยู่บนเตียงในห้องพักตอนนี้

    เป็นหลักฐานบอกได้อย่างดี

     
     

    การทดลอง เชื่อมต่อ ในหนที่สองของพวกเขาดีขึ้นมาหน่อย แม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จเต็มร้อย แต่จากการอยู่ด้วยกัน ทำให้จีวอนเริ่มจะจับทางฮันบินได้ จากที่ต่างฝ่ายเอาแต่จะเคลื่อนไหวในทางที่ตนคิด จีวอนยอมหยุดความคิดตัวเอง แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจได้มากขึ้น

    และเหมือนฮันบินจะรู้ได้ เพราะในคืนนั้น ยามที่ถูกจีวอนชวนคุยก่อนนอน ฮันบินไม่ได้ตอบคำถามอีกฝ่ายสั้นๆราวกับต้องการตัดบทสนทนาเหมือนอย่างเคย


     

    การที่เขาสองคนตัวติดกัน จากที่เป็นเรื่องแปลก เริ่มกลายเป็นภาพที่ชินตาของคนในค่าย แม้ว่าทุกคนจะมองเห็นเป็นภาพไอ้บ้าคนหนึ่งที่เดินยิ้มปากพูดไม่หยุดตลอดเวลา กับเด็กหนุ่มออร่าทะมึนเดินหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความรำคาญคนข้างๆตลอดเวลาก็ตาม

    แต่ตอนกินข้าว หากใครจะสังเกตสักหน่อย ก็จะเห็นว่าฮันบินยอมให้จีวอนตักสิ่งที่ตัวฮันบินเองไม่ชอบแต่จีวอนชอบไปกินเองได้ตามใจ และจีวอน ก็จะตักสิ่งที่อีกฝ่ายชอบคืนให้เป็นการแลกเปลี่ยนกันทุกที



    ฮันบินถนัดใช้สมองมากกว่าใช้กำลังต่างจากตัวเขา

     หากแต่เวลาเลือดขึ้นหน้า ฮันบินมักจะลืมใช้สมองทุกที เป็นสิ่งที่จีวอนได้เรียนรู้จากการทดลอง เชื่อมต่อ ครั้งต่อมา

    ปกติจีวอนจะปล่อยให้ฮันบินได้ทำตามใจแล้วปล่อยให้ตัวเองไหลไปตามแผนการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย นั่นจึงเป็นครั้งแรก ที่จีวอนตะโกนออกคำสั่งแล้วตัดสินใจเป็นคนวางแผนการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์รบเสียเอง

    แม้จะโดนไคจูจำลองถล่มจนพ่ายในการทดลองอย่างไม่เป็นท่า รวมถึงโดนฮันบินหงุดหงิดใส่ไปอีกพักใหญ่ที่ไม่ปล่อยให้ทำตามใจ


    แต่ในคืนนั้น การที่ฮันบินเดินมาขอโทษเขาแล้วอนุญาตให้หลังจากนี้จีวอนเป็นฝ่ายนำในยามสถานการณ์คับขัน

    จีวอนก็รู้สึกว่าการ เชื่อมต่อของเขาทั้งคู่จะประสบความสำเร็จในไม่ช้า


     

    การทดลอง เชื่อมต่อครั้งต่อมา เกือบจะไปได้ดีแล้ว หากฮันบินไม่ทำสิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขา ไคจูในโปรแกรมจำลองโจมตีมาในทิศทางที่เขาไม่ทันคาดคิด จีวอนส่งสัญญาณให้ฮันบินปล่อยให้เขารับมือ แต่ช้าเกินไป ชั่วพริบตาที่เขาคิดว่าหุ่นยนต์รบทางฝั่งเขาจะโดนพังอย่างย่อยยับ ฮันบินกลับตัดสินใจพลิกตัวเอาฝั่งตัวเองเข้าไปรับแทน

    นั่นเป็นครั้งแรกที่จีวอนหัวเสียใส่อีกฝ่าย  เขาเดินไปดึงคอเสื้ออีกฝ่ายที่ยืนก้มหน้านิ่งหลังการฝึกจบลงแล้วถามว่าคิดบ้า
    อะไรอยู่


    แววตาของฮันบินที่มองเขาเต็มไปด้วยความสับสน


    ฉันไม่รู้ ฮันบินบอกเขา ฉันแค่ไม่อยากให้นายตาย

     

    ความคิดที่ว่าการมีอยู่ของเขามีความสำคัญกับอีกฝ่าย สร้างความรู้สึกอุ่นๆแผ่ซ่านไปทั่วใจของจีวอนอย่างช่วยไม่ได้

    แม้จีวอนจะไม่รู้ว่าควรจะเรียกความรู้สึกนั้นว่าอย่างไรก็ตามที



     

    การทดลอง เชื่อมต่อ ครั้งสุดท้าย ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ พวกเขาสามารถปราบไคจูในสถานการณ์จำลองได้เร็วจนทำลายทุกสถิติราบคาบ

    และรอยยิ้มดีใจของฮันบินที่ส่งมา ก็ทำให้เขารู้สึกถึงชัยชนะ


    ยิ่งกว่าการกำจัดไคจูได้เสียอีก



     

    จนบัดนี้ จีวอนก็ยังไม่รู้ว่าทำไมผู้บังคับบัญชาถึงเลือกให้เขามาจับคู่กับฮันบิน

    แต่ในเวลาที่เขาสองคนนั่งจิบเบียร์เย็นๆพิงเตียงของใครสักคนในห้อง

    ฉลองชัยชนะที่ได้รับจากการกำจัดไคจูในสถานการณ์จริงได้อย่างราบคาบ

    ยามที่ไหล่ของเขารู้สึกหนักขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเมาหลับคอพับพิงเขาไปเรียบร้อย

    ยามที่มองหน้าฮันบินในเวลานั้น

    เหตุผลอะไรนั่น บางที จีวอนไม่อยากรู้แล้วก็ได้

     

     

    End.

     

    ฟิคทดลองเขียนแนว AU ค่ะ ทดลองเขียนสองคู่ในพล็อตเดียวกันด้วย

    เริ่มด้วยการอยากเขียนจุนฮวานแต่ทำไมดับเบิ้ลบีถึงได้ยาวเหยียดอย่างนี้ล่ะ orz
    ขอบคุณที่ทนอ่านกันมาถึงตรงนี้ค่ะ 
    ปล. ขอมีแท็กกับเขาสักเรื่องบ้าง :)  #matchiKON

      CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×