คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 5 รู้สึกดี (75%)
บทที่ 5 รู้สึกดี (25%)
สนามหญ้าหน้าคฤหาสหลังงามตอนนี้อบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะของเด็กหญิงตัวน้อยร่างบางที่นั่งเล่นอยู่กับสุนัขพันธ์เล็ก เจ้าขนปุยคือหมาน้อยที่คุณท่านหามาให้เพื่อปลอบขวัญเด็กหญิงเพียงดาวที่ร้องไห้งอแงวันที่ไปหาคุณหมอครั้งล่าสุด รอบนี้ต้องหาของเล่นมาหลอกล่อเบี่ยงเบนความสนใจอย่างมากมาย เนื่องจากการรักษาครั้งนี้จะใช้เวลาในการทำกายภาพร่างกายนานขึ้น ทำให้เด็กวัย 5 ขวบทนรับกับการบังคับให้เคลื่อนไหวตามหลักการแพทย์ได้ลำบาก
“ปุยๆ มาหาดาวนะ มานะ” หลายคนที่พบเห็นมีคำถามมากมายกับเธอว่าทำไมเด็กอายุ 5 ขวบแล้วยังคงพูดไม่คล่อง เดินไม่แข็งแรงแต่เธอไม่เคยคิดที่จะอธิบายให้ใครต่อใครได้รับรู้ เธอคิดว่ามันไม่จำเป็นเลยที่ต้องให้ใครมาสงสารมารับรู้ถึงอาการป่วยองลูกสาวเธอ เพราะเธอเชื่อ เชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่ายังไงเด็กหญิงเพียงดาวก็ต้องหาย ต้องกลับมาใช้ชีวิตปกติสุขได้อย่างคนอื่นๆแน่ๆ มันต้องมีวันนั้นอย่างแน่นอน
“ปลายฟ้า หมอนัดอีกครั้งเมื่อไร” ชายสูงวัยคนนี้คนที่เธอค่อยๆเปิดใจรับทีละน้อย ตอนนี้หน้าที่ค่าใช้จ่ายและค่ารักษาอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเด็กหญิงเพียงดาวและปลายฟ้า ชายสูงวัยคนนี้รับหน้าที่ดูแลทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น โดยการดูแลได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สัญญา สัญญาที่เธอได้ตกลงทำไว้ สัญญาที่จะไม่มีวันลืม และสัญญาซ้อนสัญญาที่ว่าเรื่องนี้หากมีใครคนอื่นได้รับรู้คนๆนั้นต้องไม่ได้ยินจากปากของเธอ
“อังคารหน้าคะ คุณท่านจะไปด้วยกันไม่คะ”
“ไปซิไป ชั้นอยากไปให้กำลังใจหลานชั้น เด็กน้อยที่เกิดมาพร้อมแบกภาระของความเข้มแข็ง” ครั้งแรกที่ได้เห็นการรักษาของหลานสาว มันทำให้รู้สึกทรมานเจ็บปวดทรมานไม่น้อยเลยทีเดียว ยิ่งได้ฟังต้นเหตุของการเป็นโรคนี้ แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การสันนิฐานทางการแพทย์แต่เหตุผลโดยรวมทั้งหมด คือการจากภาวะที่ผู้เป็นแม่เครียดจนเกินไป ทำให้ทารกในครรภ์เกิดภาวะผิดปกติถือว่าโชคยังดีอยู่มากที่เด็กในท้องยังสามารถออกมามองดูโลกได้ หากเกิดภาวะแทรกซ้อนครรภ์เป็นผิดเกิดขึ้นทั้งแม่และเด็กในท้องอาจจะตกอยู่ในภาวะอันตรายเด็กอาจเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์ที่แสนอบอุ่นได้ส่วนคนเป็นแม่ก็คงจะตามลูกน้อยไปในเวลาไม่นาน หากเป็นเช่นนั้นจริงเขาๆซึ่งเป็นที่พ่อเป็นทั้งตาคงไม่อาจแบกรับความรู้สึกผิดนี้ได้อีกต่อไป
“คุณท่านคะ คุณท่านไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะคะ เพราะว่ารู้สึกไปตอนนี้พี่เดือนและพี่อาทิตย์ก็คงอาจจะเศร้าไปด้วย ซึ่งสิ่งที่คุณท่านและฟ้าสามารถทำได้ในทุกวันนี้คือต่อลมหายใจให้ยัยหนู๋ดาวและทำให้ทุกวันของแกมีความสุขที่สุด ที่ฟ้าพูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าฟ้าหายโกรธหรือลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เจอมาหรอกนะคะ แต่ตั้งแต่ฟ้าได้นั่งคิด และใช้สมองมากกว่าความรู้สึก มันทำให้ฟ้าคิดได้ว่าชีวิตคนเรามันแสนสั้นนัก หากยังมัวแต่แค้นหรือโกรธกันอยู่แบบนี้ทุกๆวันของเราคงจะมีความสุขไม่ได้ ฟ้าขอแค่ทุกๆวันต่อจากนี้ของคุณท่านช่วยทำอะไรเพื่อยัยหนู๋ดาว เพื่อเป็นสิ่งที่สวยงามตอบแทนแกที่แกไม่เคยเรียกร้องอะไรเลยนะคะได้ไม่คะ ฟ้าขอร้อง”
“ไม่ต้องขอร้องชั้นหรอก มันเป็นสิ่งที่ชั้นอยากจะทำและต้องการที่จะทำที่สุดในตอนนี้ เรามาพยายามด้วยกันนะ เพื่อคนที่มีลมหายใจอยู่ และเพื่อคนที่ไม่มีลมหายใจแล้ว”
“ตา ตา ดาวหิว”
“หิวเหรอคะ งั้นคุณแม่พาไปทานขนมนะคะ อย่าไปกวนคุณตาเลย”
“ไม่เป็นไร พาหลานมาหาชั้นเถอะ มาหลานตามานั่งกับตามาลูก” ร่างเล็กๆค่อยพยุงตัวเองตามคำที่คุณแม่สอนอยู่บ่อยๆ ให้ค่อยๆลุกเอามือเล็กๆจับสิ่งของไว้ยึดแล้วค่อยย่างก้าวช้าๆ แม้ว่ามันจะช้าแต่ชายหญิงต่างวัยกลับสบตาแล้วมองภาพตรงหน้าอย่างสุขใจ “ดีขึ้นมาอีกขั้นแล้วนะ” ความฝันแม้ว่ามันจะเลื่อนลอย แต่ความฝันก็มักเป็นแรงบันดาลใจและต่อลมหายใจให้กับคนที่กำลังฝัน
“ขนมมาแล้วคะ คุณดาวขอป้า”
“หนม หนม แม่ฟ้า ดาว หนม หนม” อาการดีใจ ตาโตได้เห็นขนมไม่บ่อยครั้งนัดที่ปลายฟ้าจะได้เห็นจากลูกสาวของเธอ เนื่องจากวันทั้งวันเธอไม่ค่อยได้อยู่ด้วยเนื่องจากต้องทำงานอย่างหนัก จะได้ใกล้ชิดกันก็แค่ช่วงค่ำซึ่งก็ล่วงเลยเวลาทานขนมของเด็กมากแล้ว
“หนู๋ดาวพูดชัดๆซิคะ ไหนหนู๋ลองตามคุณแม่นะคะ แม่ฟ้าดาวจะทานขนมคะ”
“แม่ฟ้า ดาวจาทานคาหนมคะ”
“ดีคะ เก่งจังเลย ต่อไปหนู๋ต้องพยายามพูดนะคะ อยากได้อะไรต้องพูดบอกคุณแม่ อยากเดินไปไหน อยากทำอะไรต้องพูดบอกคุณแม่ก่อนนะคะ” นี่เป็นวิธีฝึกอีกอย่างที่คุณหมอวินิจได้แนะนำไว้ว่าจะเป็นการช่วพเสริพัฒนาการของเด็กควบคู่ไปกับการทานยาและรับการรักษาด้วยการแพทย์
“ดาวเก่ง ดาวเก่ง” เสียงเล็กๆที่ค่อยๆพูด บ่งบอกว่าตัวเองภูมิใจนัก เรียกรอยยิ้มให้คนเป็นแม่ได้ไม่ยากเลยทีเดียว
..........................................
รถคันงามสีขาวที่เธอไม่คุ้นตากำลังค่อยๆเลื่อนเข้ามาจอดใกล้สนามหญ้าหน้าบ้าน ผู้หญิงรูปร่างอรชรค่อยๆย่างก้าวลงจากรถคันหรู เธอคนนี้ดูลักษณะภายนอกช่างเป็นผู้หญิงที่ปราดเปรียวและคล่องแคล่วเสียจริง ก่อนที่ปลายฟ้าจะเสียมารยาทแอบมองไปมากกว่านี้ แขกที่มาใหม่ก็เดินตรงมาที่เธอนั่งเสียแล้ว
“สวัสดีคะท่าน”
“สวัสดีหนู๋พลอยไพลิน มีธุระอะไรหรือเปล่าถึงได้มาถึงที่นี่ได้” เลขาสาวของเจ้าลูกชายตัวดีที่เคยปรามาสว่าคงจะทำงานร่วมกับลูกชายเขาไม่ได้แน่ เนื่องจากเจ้าลูกชายตัวดีค่อนข้างที่เจะข้มงวดในเรื่องของการทำงาน และหญิงสาวตรงหน้าก็เพิ่งจะเรียนจบใหม่ๆประสบการณ์ในการทำงานถือว่าเป็นศูนย์ แต่ที่ต้องให้มาทำงานกับเจ้าลูกชาย เนื่องจากหญิงสาวร่างสูงตรงหน้านี้เป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทที่ร่วมลงทุนจมหัวจมหางกันมา ครั้นที่จะปฎิเสธก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย ดีที่ว่าหญิงสาวคนนี้ช่างเป็นเด็กดีเสียจริงเข้าใจอะไรง่ายและไม่ยอมเรื่องระบบเส้นสาย โดยยอมที่จะโดนบททดสอบของอันแสนโหดและหนัก ซึ่งกว่าจะผ่านพ้นบททดสอบนี้มาได้หญิงสาวตรงหน้าก็ได้ร้องไห้เสียน้ำตานับครั้งไม่ถ้วน
“พลอยแวะมาหาคุณวัฒน์คะ เค้าไม่เข้าบริษัทมาหลายวันแล้ว งานกองที่โต๊ะพลอยจนจะไม่มีที่จะนั่งแล้วค่ะ อีกอย่างวันนี้วันหยุดหากคุณวัฒน์ยังไม่เคลียร์งานของสัปดาห์นี้อีกล่ะก็พลอยว่าแม้แต่เวลากินข้าวคุณวัฒน์ก็จะไม่มีเวลาทานแล้วละคะ” เสียงหัวเราะเบาๆใสๆที่เล็ดรอดมาจากปากเล็กๆแต่อวบอิ่มนี้ ทำให้วงหน้าที่สดใสสวยสมวัยนี้เพิ่มความดูดีและน่ารักเข้าไปอีก
“เอ่อ”
“สวัสดีคะ ดิชั้นชื่อปลายฟ้าคะ ส่วนเด็กคนนี้ที่อยู่ที่ตักคุณท่านชื่อเด็กหญิงเพียงดาวคะ” รอยยิ้มและแววตาเป็นมิตรส่งมาให้ ทำให้เธออดถูกชะตาและอยากผูกมิตรไมตรีไม่ได้ รอยยิ้มที่สื่อถึงความจริงใจถูกส่งกลับไปเช่นกัน อดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบกลับไปให้กับมิตรภาพน้อยๆที่กำลังก่อตัว
“’สวัสดีเช่นกันคะ ดิชั้นชื่อพลอยไพลิน เป็นเลขาให้กับคุณวัฒน์คะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“เช่นกันคะ คุณพลอยนั่งก่อนไม่คะเพราะว่าคุณพลอยอาจจะรอคุณวัฒน์นานเลย เพราะว่าเค้าไม่อยู่บ้านหรอกคะ ออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว และที่นี่ก็ไม่มีใครรู้เลยคะว่าคุณวัฒน์จะกลับกี่โมง”
“เอ่อ พลอยขอเสียมารยาทได้ไม่คะ คุณปลายฟ้า เอ่อ...เป็นอะไรกับคุณลุงเหรอคะ” อดที่จะเสียมารยามถามในเรื่องที่ไม่ควรออกไป แต่จะทำไงได้ผู้หญิงอย่างพลอยไพลินหากอยู่รู้อะไรก็ต้องรู้ให้ได้ แต่ในใจก็อดจะค้านเล็กๆไม่ได้ก็ในเมื่อเธอเป็นเลขาของคนบ้านนี้เธอก็ต้องรับรู้เรื่องเล็กๆน้อยๆนี้เช่นกัน เพื่อจะได้ทำอะไรให้ถูกที่ถูกทาง
“คุณพลอย หนู๋ปลายฟ้าเค้าเป็นว่าที่เจ้าสาวของตาวัฒน์นะ อีก 3เดือนก็จะแต่งงานกันแล้วละ ชั้นเลยให้หนู๋ปลายฟ้าและหนู๋ดาวมาทำความคุ้นเคยที่บ้านหลังนี้ก่อนนะจะได้ไม่อึดอัดเวลาแต่งงานกันไป”
“จริงเหรอคะคุณลุง คุณปลายฟ้า โอยดีจังเลยคะ พลอยดีใจจังจะได้มีคนมาปราบเจ้านายแสนเฮี้ยบของพลอยเวลาที่คุณวัฒน์เธอยุ่งๆหรือทำงานแบบไม่ลืมหูลืมตา พลอยเหนื่อยจนแม้แต่แรงอาบน้ำยังไม่มีเลยคะ ก็เล่นขยันจนไม่มีเวลาหลับนอนซ่ะขนาดนั้นแล้วเลขาดีเด่นแบบพลอยจะน้อยหน้าได้ยังไงก็ต้องขยันตาม จนตอนนี้แม้แต่ประสบการณ์เดทแรกพลอยยังไม่ได้สัมผัสเลยคะ คราวนี้ละคุณวัฒน์แต่งงานก็ต้องทำงานน้อยลงขยันน้อยลงเพื่อกลับมาบ้านจริงไม่คะ พลอยจะได้มีเวลาหาแฟนก่ะเค้าสักที แต่งวันนี้พรุ่งนี้เลยไม่ได้เหรอคะ คุณปลายฟ้า”
“ฮ่าๆๆ เธอก็ตลกดีนะ ชั้นไม่ค่อยเจอใครพูดตรงๆแบบนี้มานานล่ะ ช่างเหมือนพ่อก็เธอจริงๆ รายนั้นพูดตรงยิ่งกว่าไม้บรรทัด คิดเห็นอะไรไม่มีเก็บไว้หรอก แต่ชั้นชอบนะชอบคนแบบนี้จริงๆนะ”
“เอ่อ ...ไม่ทราบว่า”
“สวัสดีคะ ชั้นชื่อปลายฟ้า ยินดีที่ได้รู้จักคะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันคะ ชั้นชื่อพลอยไพลินเป็นเลขาของคุณภควัฒน์คะ” รอยยิ้มแห่งมิตรภาพที่ปลายฟ้ารู้สึกได้ถูกส่งมาจากหญิงสาวร่างสูงโปร่งตรงหน้า อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าเล็กๆกับรอยยิ้มเต็มแก้ม ปลายฟ้าอดรู้สึกไม่ได้ว่าเธอชอบเพื่อนใหม่คนนี้ไม่น้อยเธอช่างดูน่ารักและคล่องแคล่วไปในตัว เพราะว่าเหตุนี้ล่ะมั้ง หญิงสาวตรงนี้ที่ดูบอบบางแต่ไม่อ่อนแอถึงอยู่ทำงานกับคนใจร้ายคนนั้นได้
“หนู๋พลอย หนู๋ฟ้าเค้ากำลังจะเป็นว่าที่สะใภ้ของบ้านเอกอัครไพศาลนะ อีกไม่นานนี่ละ ชั้นก็กำลังเร่งวันเร่งคืน แต่ดูเหมือนว่าว่าที่เจ้าสาวจะเป็นเจ้าสาวที่กลัวฝนซ่ะแล้วละ”
“อ่า จริงหรือคะ คุณปลายฟ้าดีจังละคะ พลอยดีใจจริงๆเลยคะ ในที่สุดก็จะมีคนมาปราบหัวหน้าบ้างานของพลอยซักที เฮ่อ ไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวเอาแรงทำงานมาจากไหนไม่พักไม่ผ่อน เมื่อเจ้านายไม่พักแล้วเลขาตัวเล็กๆอย่างพลอยจะพักได้ไงละคะจริงไม่ นี่พลอยก็ห่างหายกับการเดินช๊อปปิ้ง ดูหนัง ฟังเพลงมานานมากแล้วนะคะ จนแม้แต่เวลาหาแฟนสักคนพลอยยังไม่สามารถเลยคะ คราวนี้ละคุณวัฒน์ก็จะทำงานน้อยลงเพราะต้องแบ่งเวลาให้คุณพลอยจริงไม่คะ” อาการดีใจแบบเด็กๆของหญิงสาวตรงหน้า ทำให้เธอไม่สามารถที่จะขัดวิมานในฝันของเลขาคนสวยของคนใจร้ายได้เลย ก็แต่ละอย่างที่วาดฝันนั้นมันจะเป็นจริงได้อย่างไรกัน เอาเวลามาดูแลเธอเหรอ ดีไม่ดีจะทำงานหนักกว่าเดิมเพื่อไม่ต้องมาเจอเธอล่ะซิไม่ว่า
“เอ่อ แล้วนี่เจ้านายพลอยไปไหนคะ งานการก็ไม่ทำพลอยโทรไปก็ไม่รับคุณปลายฟ้าทราบไม่คะ”
“เอ่อ ....ฟ้า คือฟ้า” จะให้ตอบอย่างไรดีที่ดูไม่น่าเกลียดก็ในเมื่อความจริงแล้วเราสองคนไม่ได้เจอหน้ากันเลยตลอดสัปดาห์นี้ แม้แต่เดินเฉียดผ่านกันยังไม่มีเลยทั้งๆที่อยู่ภายใต้ชายคาเดียวกันแท้ๆ
“จะเอางานมาให้เจ้าตัวดีทำเหรอ เอามานี่มาเดี๋ยวลุงบอกมันเอง 2-3 วันนี้ลุงให้เจ้าตัวดีไปทำธุระบางอย่างนะ เลยเงียบหายไป นี่คงไม่ได้บอกใช่ไม่เลยทำให้งานยุ่งเหยิงวุ่นวายแบบนี้ ลุงขอโทษแทนด้วยละกันวทั้งวันหยุดวันทำงานหนู๋พลอยเลยวิ่งวุ่นไม่ได้หยุดพักเลยสักวัน” เสียงสวรรค์สำหรับปลายฟ้าที่มาช่วยตอบคำถามที่แสนยากสำหรับเธอในตอนนี้ เธอไม่สามารถบอกใครๆได้ ว่าทำไมเธอไม่เคยรับรู้การมีตัวตนหรือไม่ของว่าที่เจ้าบ่าวเธอเลย ก็ในเมื่อเธอก็เป็นว่าที่เจ้าสาวที่ล่องหนสำหรับเจ้าบ่าวของเธออยู่แล้ว
“คะ งั้นพลอยรบกวนด้วยนะคะ ฝากบอกคุณวัฒน์ด้วยคะว่าแฟ้มสีดำเป็นงานด่วนขอให้เร่งพิจารณาให้ก่อน ส่วนสีน้ำเงินเป็นงานขอเบิกค่าสวัสดิการเพิ่มเติมของพนักงานในปลายปีที่บอร์ดบริหารลงความเห็นอยากให้เพิ่มเติมส่วนนี้ให้พนักงาน ส่วนแฟ้มสีเหลืองเป็นรายละเอียดทั้งหมดของโครงการใหม่ที่กำลังเริ่มคะ”
“ได้ๆ แล้วลุงจะบอกให้นะ”
“งั้นพลอยกลับก่อนนะคะคุณลุง คุณปลายฟ้า และน้องดาว”
หลังจากที่เสียงหัวเราะร่าเริงได้จางหายไปพร้อมกับหญิงสาวร่างบางแต่กระฉับกระเฉง ไม่นานความวุ่นวายก็เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง เมื่ออยู่ดีๆร่างน้อยตัวจ้อยที่อยู่บนตักของชายสูงวัยก็เริ่มมีอาการกระตุกเกร็งเกิดขึ้น พร้อมๆกับหยาดน้ำตาของผู้เป็นแม่ที่ไหลเป็นสายเมื่อเห็นอาการปวดเกร็งของแก้วตาดวงใจ
“เอารถออก เอารถออกเดี๋ยวนี้ ได้ยินไม่ ชั้นบอกให้เอารถออก”
..........................................
75%
รถคันหรูสีมันวาวค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ เจ้าของรถที่เพิ่งจะสังเกตเหตุความผิดปกติของบ้านที่ก่อความวุ่นวายหย่อมๆ ทั้งสาวใช้ คนสวน และบรรดาคนดูแลบ้านต่างวิ่งมุ่งตรงไปยังสนามหญ้าหน้าบ้าน
“เกิดอะไรขึ้น”
“คุณวัฒน์กลับมาแล้วเหรอครับ ช่วยไปดูคุณปลายฟ้าหน่อยเถอะครับ” อาการตื่นและเร่งรีบพร้อมกับคะยั้นคะยอให้เขารีบเดินไปยังจุดรวมพลของคนในบ้านทำให้ผู้มาใหม่อย่างเขาสงสัยไม่ได้ว่าก่อนที่เขาจะเข้ามาเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“แล้วคุณปลายฟ้าของลุงเค้าเป็นอะไร ทำไมผมต้องไปดูด้วยละ ไม่ล่ะผมจะเข้าบ้านไปนอน เหนื่อยเต็มทนละ”ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ต้องพาตัวเองไปยุ่งวุ่นวายกับผู้หญิงคนนั้น จะเป็นอะไรก็เป็นไปอย่างมายุ่งวุ่นวายก้าวก่ายกันแค่นี้ก็นับว่าดีละ
“ผมขอละครับช่วยไปดูคุณปลายฟ้าหน่อยเถอะนะครับ”
“อะไรหนักหนาเนี่ยลุง ปกติไม่เคยเซ้าซี้ผมนะ ตกลงไหนบอกผมมาซิครับยัยคนนั้นเค้าเป็นอะไรกันแน่คนในบ้านถึงได้ประสาทเสียกันแบบนี้” มันน่าโมโหนักสร้างเรื่องสร้างราวอะไรไว้เนี่ย เขายิ่งกลับมาเหนื่อยๆแล้วยังจะมาเจอเรื่องชวนปวดหัวไม่ได้พักสมอง หากทำเรื่องไร้สาระให้ต้องปวดหัวนะ ยัยแม่ลูกติดเธอโดนแน่
ภาพตรงหน้าที่ปรากฎคือภาพของหญิงสาวที่ร้องไห้ซบลงกับบ่าเล็กของสาวใช้ร่างอวบคนหนึ่ง โดยที่เธอกอดกระชับร่างตรงหน้าไว้แน่น เสียงร้องไห้ที่ไม่เบานักพร้อมเสีนงสะอื้นมาเป็นระยะบ่งบอกได้ว่าปลายฟ้าคงร้องไห้มาเป็นเวลาค่อนข้างนานและให้ร่างกายกลั่นน้ำออกจากตามาเป็นจำนวนมาก เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นสะกดปลายเท้าของภควัฒน์ให้ค่อยๆเดินเข้าไปหา มือหนาพลันยื่นออกไปอย่างที่สมองสั่งการค่อยๆเตะที่แผ่นหลังที่มีการสั่นไหวจากแรงสะอื้นของเจ้าของร่าง
“ปลายฟ้า เธอเป็นอะไร”
“คุณวัฒน์ คุณวัฒน์ช่วยฟ้าด้วย พาฟ้าไปโรงพยาบาลที คุณท่านไม่ยอมให้คนรถพาฟ้าไป พาจะไปดูหนู๋ดาว หนู๋ดาวของฟ้าไม่สบาย พาฟ้าไปที พาฟ้าไป”แสงเล็กๆที่เธอรอคอยได้ปรากฎขึ้นมาแล้วคนที่จะสามารถช่วยเธอได้ คนที่จะพาเธอไปหาลูกได้
“พูดช้าๆซิ ลูกเธอเป็นอะไรห่ะ อย่ามัวแต่ร้องซิ ร้องไห้หนักขนาดนี้มันช่วยอะไรได้ไม่ปลายฟ้า มีสติหน่อยซิ ชั้นบอกว่าให้มีสติหน่อย ถ้าเธอยังเอาแต่ร้องห่มร้องไห้และไม่ระงับอารมณ์แบบนี้บอกได้เลยว่าชั้นจะไม่ช่วยอะไรเธอทั้งนั้น ฟังที่ชั้นพูดเข้าใจไม่เนี่ย ปลายฟ้า”
“ฮึก ฮึก คะฟ้าไม่ร้องแล้ว ไม่ร้องแล้ว คุณวัฒน์พาฟ้าไปโรงพยาบาลนะคะ หนู่ดาวแกอาการกำเริบคุณท่านพาไปโรงพยาบาลแล้วคะ แต่ก่อนไปท่านได้สั่งห้ามให้คนรถพาฟ้าไปโรงพยาบาล แต่ฟ้าเป็นห่วงลูก คุณวัฒน์พาฟ้าไปนะคะ ฟ้าขอร้อง ฟ้าเป็นห่วงลูกจริงๆคะ”
“ก็เพราะเธอเป็นแบบนี้ไงคุณพ่อท่านเลยไม่อยากให้เธอไปโรงพยาบาลเกิดเป็นลมเป็นเป็นแร้งไปอีกคนก็จะยิ่งวุ่นวายกันไปใหญ่ เอาแบบนี้แล้วกันชั้นจะพาเธอไปหาลูก”
“จริงนะคะ คุณพาฟ้าไปจริงๆนะคะ”
“แต่มีข้อแม้ เธอต้องเลิกร้องไห้สักที แล้วก็มีสติมากกว่านี้ตอนนี้ลูกเธอคงอยู่ในมือหมอแล้ว เลิกร้องห่มร้องไห้เสียที หากเธอมัวแต่เสียใจอยู่แบบนี้แล้วลูกล่ะ ตอนนี้เค้ากำลังต่อสู้อยู่ เธอก็ต้องเข้มแข็งพร้อมที่จะสู้และเป็นกำลังใจให้ลูกเธอซิ ไม่ใช่มาอ่อนแออยู่แบบนี้ใช้ได้ที่ไหนเนี่ย”
“ขอบคุณนะคะ ฟ้าเข้าใจแล้วคะ ขอบคุณคะที่เตือนสติ ฟ้าจะเข้มแข็งเพื่อลูกคะ ฟ้าจะเข้มแข็ง” จริงซินะ ปลายฟ้าเราจะมาทำอ่อนแอแบบนี้ไม่ได้ หนู๋ดาวกำลังต่อสู้อยู่เราต้องคอบเคียงข้างลูก เราต้องต้องเข้มแข็ง แม่ขอโทษลูก แม่ขอโทษเข้มแข็งไว้นะคะคนดีของแม่ แม่กำลังจะไปหาหนู๋ไปเป็นกำลังใจให้หนู๋ สู้เพื่อแม่นะคะคนดี สู้เพื่อแม่ พี่เดือนคะช่วยหนู๋ดาวด้วย อย่าเพิ่งพาแกไปอยู่ด้วยนะคะฟ้าขอ ช่วยแกให้อยู่กับฟ้านานๆนานกว่านี้ ฟ้าขอร้อง
โรงพยาบาล
บรรยากาศหน้าห้องฉุกเฉินที่มีเพียงแค่ชายสูงวัยนั่งหลังค้อมงองุ้มมือกุมแน่นวางไว้อยู่ใต้คางดูเหมือนกำลังอธิบายรอคอยความหวังบางอย่าง ขาเรียวเล็กที่วิ่งมาแบบไม่หยุดพักตั้งแต่รู้ทิศทางจุดมุ่งหมายที่จะมากลับหยุดกึก ขาทั้งสองข้างกลับไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะขยับเพียงแค่แววตาเศร้าๆปนแดงกล่ำของชายสูงวัยทำให้น้ำตาที่พยายามไม่ให้ไหลกลับไหลลงมาเป็นสายแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“ปลายฟ้า” เสียงแหบแห้งเอ่ยเรียกคนมาใหม่ด้วยน้ำเสียงเบาๆ
“คุณท่านคะ หนู๋ดาว หนู๋ดาวเป็นไงบ้างคะ”
“ยังไม่ออกมาจากห้องเลยนี่ก็เกือบ 2ชมแล้วละ” หัวใจของร่างสองวัยตอนนี้เหมือนหลุดลอยร่องหนเข้าไปในห้องที่มีเด็กน้อยที่ไม่รู้ชะตากรรมของชีวิตกำลังยื้อแย่งลมหายใจให้กลับมาสัมผัสความรักของคนที่เป็นห่วงและรักอีกครั้ง
“พ่อครับผมว่าพ่อไปพักก่อนดีไม่ครับ ตอนนี้ยัยหนู๋ดาวแกอยู่ในมือหมอแล้วผมคิดว่าแกคงปลอดภัย อีกไม่นานคุณหมอก็คงจะออกมา แต่พ่อซิครับหากไม่พักผ่อนแล้วเครียดอยู่แบบนี้จะทรุดลงไปอีกคนนะครับ”
“นะครับพ่อ เชื่อผมนะครับหากมีอะไรคืบหน้าผมสัญญาจะรีบโทรหาพ่อทันทีเลย แล้วถ้าพ่อจะกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งผมจะไม่ห้ามเลย ตกลงไม่ครับ” ภควัฒน์ไม่รู้ว่าทำไมพ่อของตัวเองถึงได้รักและเป็นห่วงเด็กที่นอนอยู่ในห้องฉุกเฉินตอนนี้มากมายขนาดไม่สนใจใยดีร่างกายของตัวเองแบบนี้ แต่เขาคงทนไม่ได้หากพ่อจะล้มป่วยตามไปด้วยอีกคน
“อืม”
“ปลายฟ้าเดี๋ยวชั้นมา” อดที่จะรู้สึกเป็นห่วงหญิงสาวร่างบางที่นั่งเหมือนสติหลุดลอยออกจากร่างนี้ไม่ได้ เธอไม่รับรู้อะไรเลยนอกจากจ้องมองประตู รอคอยให้แพทย์หรือใครสักคนออกมาจากห้องนี้ จากประโยคบอกเล่าที่บอกไปนอกจากไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่บอกกล่าวไปแล้ว ยังไม่มีอาการตอบรับใดๆส่งกลับมาด้วย เอาเถอะ เดี๋ยวค่อยมาจัดการแม่ของยัยหนู๋ดาวละกัน
ผ่านไปไม่ถึง 10 นาทีหลังจากที่ชายสองวัยได้เดินจากไปทิ้งไว้แต่ความว่างเปล่าและความเงียบตอนนี้แม้แต่เสียงหายใจของตัวเองปลายฟ้ายังรู้สึกว่ามันดังหนวกหูมากมายนัก ผ่านไปแค่ 10 นาทีของการเดินทางของเวลาแต่มันช่างยาวนานในความรู้สึกของปลายฟ้าในตอนนี้จริงๆ ทุกๆวินาทีที่ผ่านไปช่างบั่นทอนกำลังใจ ความเชื่อมั่น และความศรัทธาที่เธอได้รับจากชายหนุ่มที่เข้ามาโอบอุ้มและให้กำลังใจเพื่อให้เธอมีแรงฮึดก่อนมาที่นี่เสียจริง
แล้วการรอคอยที่แสนยาวนานในความรู้สึกก็สิ้นสุดลง
“คุณหมอคะ ลูกสาวชั้นเป็นไงบ้างคะ หนู๋ดาวปลอดภัยใช่ไม่คะ ปลอดภัยแล้วใช่ไม่คะ”
“คุณแม่ครับใจเย็นๆนะครับ ลูกสาวคุณปลอดภัยแล้วครับ เธอพ้นขีดอันตรายแล้ว เธอว่าโชคดีมากเลยนะครับที่พาคนไข้มาโรงพยาบาลในทันเวลา”
“อ่อ คุณพ่อมาพอดีเลยครับ ลูกสาวคุณปลอดภัยแล้วครับแต่ยังไงแล้วหมออยากคุยกับคุณพ่อเป็นการส่วนตัวนะครับจะได้แนะแนวทางในการรักษาและการดูแลคนไข้ต่อไปอย่างถูกวิธีครับ”
“เอ่อ คุณหมอคะ เค้าไม่ใช่พ่อของลูกสาวชั้นคะ ยังไงแล้วรบกวนช่วยแนะนำวิธีการรักษาและดูแลหนู๋ดาวให้ชั้นรู้ด้วยคะ ว่าชั้นต้องทำอย่างไงบ้างเพื่อดูแลแกต่อไปคะ” ทำไมไมถึงไม่ปฎิเสธละ ยืนนิ่งให้เราปฎิเสธอยู่ได้คนเดียว เป็นบ้าอะไรของเค้าเนี่ย
“คุณหมอครับเอาเป็นว่าพรุ่งนี้ผมกลับปลายฟ้าจะเข้าไปสอบถามอาการและการดูแลหนู๋ดาวกับคุณหมอพรุ่งนี้นะครับ แล้วตอนนี้หนู๋ดาวพักรักษาตัวที่ไหนครับ”
“ขอโทษทีครับผมก็ลืมแจ้งไปเลย ตอนนี้คนไข้ถูกย้ายไปห้องพักฟื้นแล้วครับ ส่วนห้องพักอยู่ห้องไหนคงต้องรบกวนให้คุณทั้งสองเดินไปสอบถามที่คุณพยาบาลที่หน้าเคาเตอร์นะครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ”
..........................................
ความคิดเห็น