ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลลวง..บ่วงรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 รักสุดใจ (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ค. 55


    บทที่ 4 รักสุดใจ

    (25%)

                   ใจกลางห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ที่ตอนนี้เริ่มจะไม่มีความสงบสุข เนื่องด้วยเสียงทะเลาะของเจ้าของบ้านทั้งสองวัยที่กำลังเอาอารมณ์ของทั้งคู่เป็นตัวแปรของหัวข้อในการทะเลาะกันครั้งนี้

    ผมไม่ว่าง และไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำตามสิ่งที่พ่อสั่ง

    แกจะไมไปได้ไงก็เมื่อแกเป็นเจ้าบ่าว และหนู๋ปลายฟ้าก็เป็นว่าที่ภรรยาแก เรื่องบัตรเชิญแขกไม่ใช่แกไปแล้วไอ้ลูกหมาที่ไหนมันจะไปแทนแกได้ฮ่ะ บอกพ่อมาซิ

    ผมไม่ว่างและที่สำคัญไปกว่านั้นหากว่าที่เจ้าสาวของผมเป็นคนที่ผมเต็มใจและรัก ผมจะว่างและเต็มใจที่จะทำทุกๆอย่างในการแต่งงานครั้งนี้ให้มันสมบูรณ์แบบที่สุด แต่เมื่อมันไม่ใช่ ผมจึงเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่ผมจะต้องทำ เข้าใจผมด้วย คุณพ่อบังคับให้ผมแต่งผมก็แต่ง แต่ไม่ควรหักหาญใจผมมากไปกว่านี้เพื่อผู้หญิงคนนี้ รับรู้ไว้ด้วยนะครับกล่าวประโยคยืดยาวที่ทำร้ายจิตใจปลายฟ้าให้ย่อยยับไปแล้ว ภควัฒน์ก็ไม่มีใจแม้แต่เหลือบมองหญิงสาวตรงหน้าแม้แต่น้อยว่าเธอจะรู้สึกอย่างไรกับประโยคทำร้ายจิตใจนี้

    หนู๋ฟ้าแววตาของชายสูงวัยตรงหน้าบ่งบอกได้ชัดเจนว่ารู้สึกเสียใจไม่น้อยกับการกระทำของลูกชายตนเอง

    ฟ้าไม่เป็นไรคะคุณลุง ฟ้าเข้าใจว่าเค้าไม่รักแค่เค้ายอมแต่งงานตามข้อตกลงของฟ้า แค่นี้ก็เพียงพอแล้วคะ ส่วนการ์ดเชิญฟ้ารบกวนขอรายชื่อที่ต้องเชิญด้วยคะฟ้าจะเองคะ รบกวนคุณลงด้วยนะคะไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเลย เธอพยายามบอกใจตัวเองกับประโยคนี้เป็นครั้งที่ร้อย เธอจะไม่คาดหวังอะไรอีกแล้ว เพียงเท่านี้มันก็ซึ้งมากเกินไปแล้ว

    คุณแม่ขรา ทำไมคุณอาคนนั้นเสียงดังกับคุณแม่คะเด็กน้อยในอ้อมกอดที่ไม่ค่อยได้เจอหน้าชายหนุ่ม มีอาการตกใจไม่น้อยกับน้ำเสียงที่ตวาดกึ่งย็นชานี้ เธอไม่สามารถบอกกล่าวอะไรเด็กน้อยได้ นอกเสียจากกระชับอ้อมกอดให้มันแน่นขึ้น เพื่อถ่ายทอดทุกความรู้สึกรักให้เด็กน้อยในอ้อมกอดได้รับรู้

    คุณท่านคะ คุณปลายฟ้าคะ อาหารเช้าเตรียมเรียบร้อยแล้วคะเสียงแม่บ้านที่แทรกขึ้นมาขัดบรรยากาศที่แสนอึดอัดนี้ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ

    ไปคะ เด็กดีไปทานข้าวกันนะคะ หนู๋จะได้ทานยาแล้วก็นอนพัก ส่วนตอนเย็นเดี๋ยวคุณแม่จะพาหนู๋ไปเดินเล่น ตกลงไม่คะทุกครั้งที่มีการทานยา ปลายฟ้าจะต้องหลอกล่อด้วยการไปเดินเที่ยวเล่นทุกครั้ง เนื่องจากลูกสาวตัวน้อยของเธอไม่สามารถที่จะวิ่งเล่นเหมือนเด็กทั่วไปในวัยเดียวกันได้ การเล่นของหนู๋น้อยจึงต้องถูกจำกัดด้วยเวลาที่แน่นอนที่คุณหมอสั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อสุขภาพของร่างตัวน้อยผอมบางที่จะยืดยาวขึ้น

    บนโต๊ะอาหารมีสมาชิกนั่งทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาเพียงแค่ 3 คน ส่วนอีกคนเธอก็ไมแน่ใจว่าเขาไปไหน ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลก เนื่องจากหากเขาไม่มาทานจะมีการบอกกล่าวแม่บ้านไว้ทุกครั้งเพื่อไม่ให้จัดเผื่อ แต่นี่ยังจานอีก 1 ชุดรอสมาชิกอีกคนมานั่งจับจองที่ประจำ

    อึบ นั่งนิ่งๆนะคะ ห้ามซนเด็ดขาด จะทานอะไรบอกคุณแม่ซิคะ

    ไก่กุ๊กๆค้า หนู๋จะทานคุณไก่คะเด็กน้อยเสียงสดใสเมื่อได้รับการพยักหน้าจากคนเป็นแม่

    คะ อ่าอ้ากปากซิคะ ทานช้าๆนะคะ ค่อยๆทาน คุณแม่มีคุณไก่กุ๊กๆให้หนู๋เยอะแยะเลย ห้ามรีบนะคะ ค่อยๆเคี้ยว อ่าอย่างงั้น หากหนู๋อึดอัดรีบบอกคุณแม่นะคะทุกการกระทำของหญิงสาวร่างบางส่งผลให้ชายหนุ่มที่เดินเข้ามาใหม่อดที่จะสงสัยไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นปลายฟ้าทำแบบนี้ แต่ตอนนั้นเขาแค่ไม่สนใจอาการพะเน้าพะนอลูกจนเกินไปของปลายฟ้า แต่พอมาได้สังเกตุดีๆจึงได้เห็นสิ่งผิดปกติของปลายฟ้าที่กระทำต่อลูกสาวของเธอ

    ทำไมต้องดูแลกันขนาดนั้น ลูกเธอไม่ใช่เด็กแบเบาะนะที่ดูแลหรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อดที่จะถามสิ่งที่คาใจไม่ได้ ทำไมเธอต้องทำเหมือนลูกสาววัยห้าขวบเหมือนเด็กแบเบาะแบบนี้

    หากคุณคิดว่าชั้นดูแลลูกเกินไป ชั้นอยากบอกว่า มากกว่านี้ชั้นก็ทำให้ยัยหนู๋ได้ ชั้นยินดียอมทำให้ทุกอย่างขอแค่ลูกชั้นจะไม่เหนื่อย

    ฮึ จะทำให้เด็กมันเป็นง่อยละซิ

                    หยุดนะ หยุดพูดคำนี้ต่อหน้าชั้น ต่อหน้าลูกชั้น ลูกชั้นต้องไม่เป็นแบบนั้น จะไม่มีวันเป็นแบบนั้น คุณเป็นใครถึงได้มาพูดจาแบบนี้ต่อหน้าชั้น ต่อหน้าลูกชั้นแบบนี้ปลายฟ้าไม่ชอบ เข้าขั้นเกลียดคำนี้ นับตั้งแต่คุณหมอประจำตัวยัยหนู๋เคยหลุดคำพูดนี้ออกมา มันทำร้ายจิตใจเธอให้แรงมันค่อยๆลด กำลังกายที่จะหยัดยืนเหมือนมันจะไม่มี เธอไม่มีวันยอมให้ลูกสาวของเธอต้องเป็นแบบนั้นแน่ ไม่ว่าต้องใช้เงินเท่าไร ต้องทำอะไรก็ตามเธอยอม ยอมทุกอย่างแม้ต้องแลกกับความสุขชั่วชีวิตของเธอ

    ..........................................
     

    (100%)


     

                   หลังจากความวุ่นวายของโต๊ะอาหารได้จบลง ความสงบสุขจึงกลับมาเยือนปลายฟ้าอีกครั้ง เนื่องจากเธอได้หนีขึ้นมาด้านบนพาเด็กน้อยมาเล่นเครื่องเล่นและอุปกรณ์ต่างๆที่เธอได้รับการแนะนำจากคุณหมอประจำตัวยัยหนู๋ เพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการเสริมสร้างทักษะพื้นฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยในเรื่องของการขยับปลายนิ้ว ข้อมือ การเคลื่อนไหวทั้งแขน และทักษะทางด้านสมองที่ได้คิด ซึ่งเธอก็ต้องไปเรียนรู้วิธีเล่นเครื่องเล่นต่างๆ พวกนี้ เพื่อที่เธอจะได้หัดและหลอกล่อให้ยัยหนู๋เล่นมันได้ถูกต้อง ถูกวิธี และที่สำคัญต้องให้สนุกด้วย

                    สวัสดีคะ

                    สวัสดีคะ จากโรงพยาบาลนะคะ คุณหมอมานพขอเลื่อนนัดของเด็กหญิงเพียงเดือนให้เร็วขึ้นคะ เนื่องจากช่วงเวลาที่ได้นัดก่อนหน้านั้นคุณหมอไม่สะดวกคะ ไม่ทราบว่าคุณแม่ของเด็กหญิงเพียงเดือนจะสะดวกไม่คะ

                       ไม่ทราบว่าจะเลื่อนเป็นวันไหนคะ

                   วันอังคารหน้า ช่วง 10 โมงเช้าคะ

                   ได้คะ นัดครั้งนี้ชั้นต้องเตรียมอะไรให้คุณหมอไม่คะปลายฟ้ายังคงซักไซร้ต่อ เพื่อที่จะได้เตรียมทุกอย่างให้พร้อมในวันนัดหมาย

                    ไม่ต้องคะ วันนี้แค่มาตรวจสุขภาพโดยรวมทั่วๆไป เพื่อที่จะได้วิเคราะห์เบื้องต้นว่าพร้อมกับการรักษาขั้นต่อไปแล้วหรือยังคะ

                    อ๋อคะ งั้นขอบคุณนะคะ เอาเป็นว่าชั้นตกลงวันนัดใหม่คะอืม ใกล้เข้ามาแล้วซินะ วันที่เธอรอคอยรอยยิ้มที่แสนสดใสของลูกน้อยของเธอจะกลับมาอีกครั้ง

                     คุยโทรศัพท์ได้สักพักหันมาอีกที ลูกสาวคนสวยของเธอก็ล้มตัวนอนทับของเล่นมากมายเสียแล้ว คงจะเหนื่อยและเพลีย ลูกสาวของเธอแตกต่างจากเด็กทั่วๆไปในวัยเดียวกันที่สามารถเล่นได้เป็นวันๆ เหงื่อโทรมกายเพราะการวิ่งเล่นที่สนุกสนาน แต่เด็กหญิงเพียงดาว สามารถเล่นของเล่นแต่ละอย่างได้ไม่เกิน 30 นาทีก็จะรู้สึกเพลีย ร่างกายก็จะอ่อนแรงแรกๆยังสามารถที่จะขยับได้ แต่หลังๆเด็กหญิงเพียงดาวเหมือนจะรู้ว่าไม่อยากออกแรงเยอะ หากเหนื่อยเด็กหญิงตัวน้อยจะนั่งเฉยๆเพื่อให้คุณแม่มาอุ้มไปพักผ่อน

                    นอกจากจะเคลื่อนไหวร่างกายได้เพียงเล็กน้อยแล้ว การขยับมือและข้อมือก็ดูเหมือนจะมีความลำบาก เด็กหญิงตัวน้อยเริ่มที่จะควบคุมนิ้วมือและข้อมือของตัวเองลำบากขึ้นในช่วงอายุย่างเข้า 3 ขวบ เธอเริ่มสังเกตเห็นว่าเด็กหญิงเพียงดาวไม่สามารถหยิบจับช้อนที่ทำด้วยสแตนเลสได้แรกๆเธอก็ไม่ได้เอะใจ คิดว่ามันคงจะหนักไปสำหรับเด็ก เธอจึงเปลี่ยนมาใช้เป็นช้อนพลาสติกรูปสัตว์สำหรับเด็ก แต่ก็น่าแปลกที่ลูกสาวก็เธอก็ไม่สามารถหยิบจับบังคับช้อนให้เข้าปากได้เช่นกัน นอกจากนั้นยังมีในส่วนของการแปรงฟัน การยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม และการเดินที่มันแปลกไปไม่เหมือนปกติที่เคยเป็น ทำให้เธอตัดสินใจพาลูกสาวไปหาหมอ การวินิจฉัยเบื้องต้นพบว่าเด็กหญิงเพียงดาวเป็นโรค กล้ามเนื้ออ่อนแรงซึ่งพบได้น้อยมากสำหรับเด็กเล็ก

                   เหมือนโลกตรงหน้าจะหมุน อยากร้องไห้ อยากอ่อนแอ แต่เมื่อได้สบตากับยัยหนู๋รอยยิ้มสดใสที่ส่งมาให้บ่งบอกในแววตาชัดเจนว่าหนู๋ไม่เป็นไรฉะนั้นคนเป็นแม่อย่างเธอจึงทำได้เพียงแค่สู้ อดทน และเป็นกำลังใจให้เด็กหญิงตัวน้อยต่อสู้และอดทนในการรักษา แรกๆของการรักษาเป็นไปด้วยดี เด็กหญิงเพียงดาวสามารถทนรับและปรับตัวกับการรักษาทางกายภาพ ทางยา ได้เป็นอย่างดี ทำให้ในการรักษาระยะแรกเด็กหญิงเพียงดาวเริ่มที่จะกลับมาควบคุมร่างกายของตัวเองได้อีกครั้ง สามารถเดินและทรงตัวได้อย่างถูกต้อง เธอแทบจะกลั้นความรู้สึกปลาบปลื่มและปิตินี้ไว้ไม่ไหวจริง เมื่อความหวังและแสงสว่างส่องนำทางมาให้เธอและลูกสาวรับรู้ว่าความพยายามนี้จะไม่สูญเปล่า ลูกสาวเธอจะหายกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเด็กคนอื่นๆได้อย่างปกติสุข

                    แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในเมื่อการรักษาในแต่ละครั้งค่าใช้จ่ายแต่ละอย่างไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ จากที่เธอทำงานหนักอยู่แล้วเพื่อเลี้ยงตัวเองและลูก เมื่อตอนนี้มีรายจ่ายเพิ่มขึ้นมาเธอก็ต้องเร่งหารายรับให้มากขึ้น ฉะนั้นในช่วงเย็นๆของทุกวันเธอจะต้องฝากลูกสาวไว้กับคนข้างบ้าน  เพื่อที่เธอจะได้ทำงานอย่างสะดวกใจหารายได้เพิ่มในช่วงเย็น

                    จนมาถึงวันที่เธอจดจำไปชั่วชีวิต วันที่เธอไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้เลย วันนั้นปลายฟ้าทำงานดึกเกินไปกว่าจะเสร็จจ๊อบสุดท้ายที่รับไว้ ก็ล่วงเลยเข้าเช้าวันใหม่ ปลายฟ้าไม่รอช้าที่จะเข้าไปรับลูกสาวที่ฝากไว้กับเพื่อนบ้าน แต่เธอคงจะมาช้าเกินไป และด้วยความไม่ตั้งใจของเพื่อนบ้านจึงไม่ได้เห็นอาการของยัยหนู๋ว่ามีอาการไข้ขึ้นและตัวร้อน เมื่อปลายฟ้าได้พบลูกสาวอาการก็เริ่มแย่มากแล้ว เด็กน้อยมีอาการชักเกร็งและเพ้อ ตัวแดงด้วยพิษไข้ ในตอนนั้นปลายฟ้าได้แต่หวัง หวังให้ทุกอย่างที่กำลังเผชิญเป็นเพียงแค่ความฝัน เป็นเรื่องราวที่ไม่จริง แต่ไม่เลยต่อให้กระพริบตาอีกกี่ครั้ง ภาพตรงหน้าก็ยังคงแจ่มชัด ภาพเด็กน้อยที่เคยร่าเริงมีรอยยิ้มที่สดใสให้เธอเสมอ ตอนนี้กลับนอนตัวขาวซีดกลืนไปกับผ้าปูเตียงรถเข็นสีขาว

                    คิดอะไรเพลินๆ รู้สึกตัวอีกทีจึงได้รู้ว่าเธอแสดงความอ่อนแอออกมาอีกแล้ว น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลอาบข้างแก้มไม่มีทีท่าว่าหยุด เพียงแค่คิดถึงเรื่องราวที่โหดร้ายในอดีตที่ผ่านมา

                    พี่เดือนคะ ไม่ว่าฟ้าจะต้องแลกอะไรเพื่อต่อลมหายใจของยัยหนู๋ ฟ้าสัญญาว่าฟ้าจะทำ ต่อให้มันยากเย็น ทรมานหัวใจซักแค่ไหนก็ตาม ฟ้าสัญญาลูกสาวของเราต้องกลับมามีรอยยิ้มที่สดใสแน่นอนคะ พี่หลับให้สบายนะคะ ฟ้าจะทำทุกอย่างเพื่อลูกของเราคะ เพื่อยัยหนู๋ เพื่อเด็กหญิงเพียงดาว

     

    ..........................................


     

    ไรท์เตอร์ออกจากรพแล้วคะ แต่อาการโดยรวมก็ไม่ถือว่าหายดี
    แต่เป็นคนขอหมออยากกลับมาพักที่บ้าน มันน่าเบื่อและเหงามากเวลาที่นอนพักที่รพ
    รีดเดอร์ทุกคนก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ช่วงนี้อากาศและสภาพแวดล้อมตัวของเราไม่ดีเลย
    ทำให้ติดโรคต่างๆมาได้ง่าย ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะทุกคน ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×