ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 พรีเวดดิ้ง (100%)
บทที่ 2 พรีเวดดิ้ง (100%)
ภายในรถที่สร้างความอึดอัดให้กับปลายฟ้าไม่น้อย เธอไม่ได้อยากผูกมัดชายหนุ่มตรงหน้านี้เลย เมื่อความเป็นจริงเธอทราบดีอยู่แล้วว่า “เขามีคนรัก” เธอเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อม สวย และน่ารัก ซึ่งคุณสมบัติต่างๆเหล่านี้มันคงจะสำคัญน้อยกว่า “ทั้งเขาและผู้หญิงคนนั้นรักกัน”
“เฮ่อ”
“จะถอนหายใจทำไม ไม่ต้องมาเล่นละครตบตาหลอกชั้นหรอกน่ะว่าเธอไม่เต็มใจ อดจะเนื้อเต้นตัวสั่นซ่ะขนาดนั้น คนที่ควรจะถอนหายใจมันน่าจะเป็นชั้น ไม่ใช่คนอย่างเธอ” เหอะ ทำมาเป็นสะดีดสะดิ้งไม่เต็มใจกับการแต่งงานครั้งนี้ หลอกคนอย่างเขาไม่สำเร็จหรอก ลูกไม้ตื้นๆ ยัยผู้หญิงน่าไม่อาย
“ผู้หญิงอย่างชั้น มันเป็นอย่างไงค่ะ ชั้นเคยบอกคุณไปแล้วนี่คะ ว่าที่ยอมตกลงแต่งงานกับคุณมันเป็นเพราะข้อเสนอของคุณพ่อคุณที่ต้องการให้ชั้นทำแบบนี้ คิดว่าชั้นอยากแต่งงานกับคุณนักหรือไง ผู้ชายปากร้าย ใจร้าย แถมอคติแบบคุณชั้นก็ไม่อยากอยู่ด้วย ไม่อยากเกี่ยวดองนักหรอกนะ ถ้าไม่เพราะจำเป็นชั้นไม่รับข้อเสนอบ้าๆแบบนี้แน่ๆ”
“ว้าย...นี้คุณเป็นบ้าอะไรเนี่ย เบรกกระทันหันแบบนี้เกิดชั้นคอหักตายทำไงเนี่ย ห่ะ” เป็นบ้าอะไรของเค้าเนี่ย อยู้ดีๆๆก็มาหัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่แบบนี้ ชั้นรับอารมณ์คุณไม่ถูกหรอกน่ะ คนบ้า
“ปากดีนักน่ะ ยัยผู้หญิงหิวเงิน บอกมาซิทำไมถึงยอมแต่งงานกับชั้น ทั้งๆที่เธอเองไม่ได้อยากแต่ง บอกมาซิบอก มา” เสียงตะคอกอันดัง ไม่ได้ทำให้ปลายฟ้าหวาดกลัว เท่ากับลมหายใจและใบหน้าหล่อเข้มที่อยู่เบื้องหน้าเธอ ใบหน้านี้ที่เธอเคยหลงมันชั่วแวบนึง ใบหน้าที่ทำให้เธออดใจสั่นได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
“ชั้นเคยบอกคุณแล้วว่าให้ไปถามเหตุผลจากคุณพ่อของคุณ ทำไมคุณไม่ไปถามท่านล่ะ มาคาดคั้นจากชั้นอยู่ได้ คุณมันบ้า หรือฟังไม่รู้เรื่องกันแน่คะ”
“ปากดีนักน่ะ ยัยตัวแสบ”
ภควัตน์เอี้ยวตัวก่อนจะเอื้อมมือไปเท้าแขนคร่อมร่างอีกฝ่ายเอาไว้ หลังบางเบียดเข้ากับเบาะรถแนบสนิทเพราะตกใจที่อีกฝ่ายเท้าแขนคร่อมตัวเอง ลำตัวส่วนล่างของคนตัวโตยังอยู่บนเบาะที่นั่งคนขับ หากแต่ลำตัวส่วนบนของฝ่ายนั้นกลับอยู่ที่เบาะของเธอ แขนแกร่งของฝ่ายนั้นเท้าคร่อมอยู่ที่เบาะที่ปลายฟ้านั่ง บังคับให้คนก้มหน้าต้องเงยหน้าขึ้นสบตา เพราะถ้าอีกฝ่ายยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นเขาจะจูบซะให้รู้แล้วรู้รอด.... อยากลิ้มลองรสชาติของคนปากดี ปากกล้า
คนที่ก้มหน้านิ่งตกใจรีบเงยหน้าขึ้นก็พบกับใบหน้าหล่อคมในระยะที่ปลายจมูกแทบจะชนกัน ใบหน้าหวานขับสีขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ตอนนี้เหมือนว่าเธอโดนอีกฝ่ายกักให้อยู่ในวงแขน ดวงตาหล่อคมจ้องเธอนิ่งนาน ใบหน้าที่ตื่นตะหนก ระคนตกใจกับการจู่โจครั้งนี้ก้มหน้านิ่งไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตา ยิ่งทำให้ชายหนุ่มกระยิ่มยิ้มหย่งในใจ เสียงลมหายใจที่ใกล้จนสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆรินรดอยู่ข้างแก้ม คนโดนกักอยู่ในวงแขนเอียงหน้าหลบอย่างอัตโนมัติ เรียกรอยยิ้มพอใจให้กับคนตัวโตที่อยากลงโทษคนปากกล้า
..........................................
ปลายฟ้าส่งเสียงในลำคออย่างขัดใจที่โดนรังแกแบบนี้ อยากจะทุบคนลามกเสียให้เจ็บแต่ในหัวก็มึนๆเบลอๆซะแล้ว แค่โดนลมหายใจเป่ารดหู รดข้าแก้มก็ทำอะไรไม่ถูกอยู่ ยังจะสอดปลายลิ้นเข้ามาอีก อยากจะกัดลิ้นร้อนๆนั้นให้ขาดไปเลย แต่คนตัวโตก็เหมือนจะรู้ทันไปซะหมดถึงหลบหลีกไปได้ทุกที
ภควัฒน์ทำเสียง “หึ” ในลำคอ ทั้งงพอใจรสจูบนี้อยู่ในลึกๆ และทั้งขำร่างบางใต้ร่าง ขนาดถูกจูบก็ยังแผลงฤทธอ์ได้อีก สงสัยต้องปราบคนปากดีเสียหน่อยแล้ว เจ้าของปลายลิ้นร้อนชักปลายลิ้นออกจากเรียวปากอิ่ม ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นจูบเม้มกลีบปากนุ่มจนเกิดเสียงอยู่เป็นระยะ มือใหญ่เลื่อนเข้าไปลูบไล้แผ่นหลังบางเนียน โอ้โลมให้ร่างบางในวงแขนเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัส ไม่นานนักร่างบางก็เลิกอาการขัดขืน ดวงตากลมโตที่เคยเปิดกว้างจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง ตอนนี้กลับค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ ยินยอมให้คนเอาแต่ใจจูบแต่โดยดี ภควัฒน์สอดปลายลิ้นเข้าไปอีกครั้งซึ่งครั้งนี้เจ้าของเรียวปากอิ่มไม่มีอาการขัดขืนแล้ว คนตัวโตจึงดุนดันลิ้นของตัวเองเข้ากับปลายลิ้นเล็กอย่างหยอกเย้า ซึ่งร่างบายก็ชักลิ้นหนีบ้างสัมผัสกลับบ้านอย่างกล้าๆกลัวๆ ไปๆมากลายเป็นว่าเขาทั้งคู่จูบเย้ากันเล่นกันเสียมากกว่า เมื่อจูบหยอกเย้าร่างบางจนพอใจแล้ว คนตัวโตก็ละปลายลิ้นออกมาก่อนจะจูบเรียวปากอิ่มซ้ำๆย้ำๆ อีกสามสี่ทีจึงละใบหน้าคมเข้มออกห่าง คนใต้ร่างที่โดนฉวยโอกาสลืมตาขึ้นอยากต่อว่าต่อขานคนบ้าอำนาจและรังแกแต่ก็อ่อนใจกับตัวเองที่ก็โอนอ่อนไปตามอารมณ์เขาเช่นกัน
ความเงียบกลับเข้ามาอีกครั้งหลังจากได้มีการประลองยุทธลับฝีปากไปได้สักพักใหญ่ ต่างคนต่างเงียบอยู่ในภวังค์ห้วงความคิดของแต่ละคน เธอไม่คิดว่าเขาจะจู่โจมทำกับเธอแบบนี้ แต่ที่ร้ายแรงจนเธอไม่กล้าเปิดปากต่อว่าต่อขานเขาให้หนำใจที่รังแกเธอเช่นนี้ คงเพราะเธอเองก็มีส่วนร่วมมือร่วมใจเป็นอย่างดี คล้อยตามในสิ่งที่เขาชักนำและนำพา เธอตอบตัวเองไม่ได้ทำไมถึงไม่ต่อต้านทั้งๆที่ก็ไม่ได้เต็มใจ รู้เพียงแค่ว่าเธอ “ไม่ได้รังเกียจสัมผัสจากเขาเลย”
ส่วนอีกด้านของคนตัวโตที่อยู่ดีๆก็นึกอยากเป็นครูลงโทษคนปากกล้า หากจะโทษก็ต้องโทษคนร่างบางข้างกายเขามากกว่า ที่ปากกล้าปากดีต่อล้อต่อเถียง ทำให้ขีดความอดทนของเขาหมดลง และริมฝีปากน้อยๆ สีเชอรี่ ที่ขยับไปมาชวนให้น่าลิ้มลอง ว่ากลีบปากน้อยๆนี้ที่มันมักจะขยับเถียงได้ทุกทีไปมันจะมีรสชาติชวนน่าสัมผัสเพียงใด และการลิ้มลองครั้งนี้อดที่จะทำให้เขาพอใจรสชาตินี้ไม่ได้
ภายในรถที่สร้างความอึดอัดให้กับปลายฟ้าไม่น้อย เธอไม่ได้อยากผูกมัดชายหนุ่มตรงหน้านี้เลย เมื่อความเป็นจริงเธอทราบดีอยู่แล้วว่า “เขามีคนรัก” เธอเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อม สวย และน่ารัก ซึ่งคุณสมบัติต่างๆเหล่านี้มันคงจะสำคัญน้อยกว่า “ทั้งเขาและผู้หญิงคนนั้นรักกัน”
“เฮ่อ”
“จะถอนหายใจทำไม ไม่ต้องมาเล่นละครตบตาหลอกชั้นหรอกน่ะว่าเธอไม่เต็มใจ อดจะเนื้อเต้นตัวสั่นซ่ะขนาดนั้น คนที่ควรจะถอนหายใจมันน่าจะเป็นชั้น ไม่ใช่คนอย่างเธอ” เหอะ ทำมาเป็นสะดีดสะดิ้งไม่เต็มใจกับการแต่งงานครั้งนี้ หลอกคนอย่างเขาไม่สำเร็จหรอก ลูกไม้ตื้นๆ ยัยผู้หญิงน่าไม่อาย
“ผู้หญิงอย่างชั้น มันเป็นอย่างไงค่ะ ชั้นเคยบอกคุณไปแล้วนี่คะ ว่าที่ยอมตกลงแต่งงานกับคุณมันเป็นเพราะข้อเสนอของคุณพ่อคุณที่ต้องการให้ชั้นทำแบบนี้ คิดว่าชั้นอยากแต่งงานกับคุณนักหรือไง ผู้ชายปากร้าย ใจร้าย แถมอคติแบบคุณชั้นก็ไม่อยากอยู่ด้วย ไม่อยากเกี่ยวดองนักหรอกนะ ถ้าไม่เพราะจำเป็นชั้นไม่รับข้อเสนอบ้าๆแบบนี้แน่ๆ”
“ว้าย...นี้คุณเป็นบ้าอะไรเนี่ย เบรกกระทันหันแบบนี้เกิดชั้นคอหักตายทำไงเนี่ย ห่ะ” เป็นบ้าอะไรของเค้าเนี่ย อยู้ดีๆๆก็มาหัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่แบบนี้ ชั้นรับอารมณ์คุณไม่ถูกหรอกน่ะ คนบ้า
“ปากดีนักน่ะ ยัยผู้หญิงหิวเงิน บอกมาซิทำไมถึงยอมแต่งงานกับชั้น ทั้งๆที่เธอเองไม่ได้อยากแต่ง บอกมาซิบอก มา” เสียงตะคอกอันดัง ไม่ได้ทำให้ปลายฟ้าหวาดกลัว เท่ากับลมหายใจและใบหน้าหล่อเข้มที่อยู่เบื้องหน้าเธอ ใบหน้านี้ที่เธอเคยหลงมันชั่วแวบนึง ใบหน้าที่ทำให้เธออดใจสั่นได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
“ชั้นเคยบอกคุณแล้วว่าให้ไปถามเหตุผลจากคุณพ่อของคุณ ทำไมคุณไม่ไปถามท่านล่ะ มาคาดคั้นจากชั้นอยู่ได้ คุณมันบ้า หรือฟังไม่รู้เรื่องกันแน่คะ”
“ปากดีนักน่ะ ยัยตัวแสบ”
ภควัตน์เอี้ยวตัวก่อนจะเอื้อมมือไปเท้าแขนคร่อมร่างอีกฝ่ายเอาไว้ หลังบางเบียดเข้ากับเบาะรถแนบสนิทเพราะตกใจที่อีกฝ่ายเท้าแขนคร่อมตัวเอง ลำตัวส่วนล่างของคนตัวโตยังอยู่บนเบาะที่นั่งคนขับ หากแต่ลำตัวส่วนบนของฝ่ายนั้นกลับอยู่ที่เบาะของเธอ แขนแกร่งของฝ่ายนั้นเท้าคร่อมอยู่ที่เบาะที่ปลายฟ้านั่ง บังคับให้คนก้มหน้าต้องเงยหน้าขึ้นสบตา เพราะถ้าอีกฝ่ายยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นเขาจะจูบซะให้รู้แล้วรู้รอด.... อยากลิ้มลองรสชาติของคนปากดี ปากกล้า
คนที่ก้มหน้านิ่งตกใจรีบเงยหน้าขึ้นก็พบกับใบหน้าหล่อคมในระยะที่ปลายจมูกแทบจะชนกัน ใบหน้าหวานขับสีขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ตอนนี้เหมือนว่าเธอโดนอีกฝ่ายกักให้อยู่ในวงแขน ดวงตาหล่อคมจ้องเธอนิ่งนาน ใบหน้าที่ตื่นตะหนก ระคนตกใจกับการจู่โจครั้งนี้ก้มหน้านิ่งไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตา ยิ่งทำให้ชายหนุ่มกระยิ่มยิ้มหย่งในใจ เสียงลมหายใจที่ใกล้จนสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆรินรดอยู่ข้างแก้ม คนโดนกักอยู่ในวงแขนเอียงหน้าหลบอย่างอัตโนมัติ เรียกรอยยิ้มพอใจให้กับคนตัวโตที่อยากลงโทษคนปากกล้า
..........................................
ปลายฟ้าส่งเสียงในลำคออย่างขัดใจที่โดนรังแกแบบนี้ อยากจะทุบคนลามกเสียให้เจ็บแต่ในหัวก็มึนๆเบลอๆซะแล้ว แค่โดนลมหายใจเป่ารดหู รดข้าแก้มก็ทำอะไรไม่ถูกอยู่ ยังจะสอดปลายลิ้นเข้ามาอีก อยากจะกัดลิ้นร้อนๆนั้นให้ขาดไปเลย แต่คนตัวโตก็เหมือนจะรู้ทันไปซะหมดถึงหลบหลีกไปได้ทุกที
ภควัฒน์ทำเสียง “หึ” ในลำคอ ทั้งงพอใจรสจูบนี้อยู่ในลึกๆ และทั้งขำร่างบางใต้ร่าง ขนาดถูกจูบก็ยังแผลงฤทธอ์ได้อีก สงสัยต้องปราบคนปากดีเสียหน่อยแล้ว เจ้าของปลายลิ้นร้อนชักปลายลิ้นออกจากเรียวปากอิ่ม ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นจูบเม้มกลีบปากนุ่มจนเกิดเสียงอยู่เป็นระยะ มือใหญ่เลื่อนเข้าไปลูบไล้แผ่นหลังบางเนียน โอ้โลมให้ร่างบางในวงแขนเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัส ไม่นานนักร่างบางก็เลิกอาการขัดขืน ดวงตากลมโตที่เคยเปิดกว้างจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง ตอนนี้กลับค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ ยินยอมให้คนเอาแต่ใจจูบแต่โดยดี ภควัฒน์สอดปลายลิ้นเข้าไปอีกครั้งซึ่งครั้งนี้เจ้าของเรียวปากอิ่มไม่มีอาการขัดขืนแล้ว คนตัวโตจึงดุนดันลิ้นของตัวเองเข้ากับปลายลิ้นเล็กอย่างหยอกเย้า ซึ่งร่างบายก็ชักลิ้นหนีบ้างสัมผัสกลับบ้านอย่างกล้าๆกลัวๆ ไปๆมากลายเป็นว่าเขาทั้งคู่จูบเย้ากันเล่นกันเสียมากกว่า เมื่อจูบหยอกเย้าร่างบางจนพอใจแล้ว คนตัวโตก็ละปลายลิ้นออกมาก่อนจะจูบเรียวปากอิ่มซ้ำๆย้ำๆ อีกสามสี่ทีจึงละใบหน้าคมเข้มออกห่าง คนใต้ร่างที่โดนฉวยโอกาสลืมตาขึ้นอยากต่อว่าต่อขานคนบ้าอำนาจและรังแกแต่ก็อ่อนใจกับตัวเองที่ก็โอนอ่อนไปตามอารมณ์เขาเช่นกัน
ความเงียบกลับเข้ามาอีกครั้งหลังจากได้มีการประลองยุทธลับฝีปากไปได้สักพักใหญ่ ต่างคนต่างเงียบอยู่ในภวังค์ห้วงความคิดของแต่ละคน เธอไม่คิดว่าเขาจะจู่โจมทำกับเธอแบบนี้ แต่ที่ร้ายแรงจนเธอไม่กล้าเปิดปากต่อว่าต่อขานเขาให้หนำใจที่รังแกเธอเช่นนี้ คงเพราะเธอเองก็มีส่วนร่วมมือร่วมใจเป็นอย่างดี คล้อยตามในสิ่งที่เขาชักนำและนำพา เธอตอบตัวเองไม่ได้ทำไมถึงไม่ต่อต้านทั้งๆที่ก็ไม่ได้เต็มใจ รู้เพียงแค่ว่าเธอ “ไม่ได้รังเกียจสัมผัสจากเขาเลย”
ส่วนอีกด้านของคนตัวโตที่อยู่ดีๆก็นึกอยากเป็นครูลงโทษคนปากกล้า หากจะโทษก็ต้องโทษคนร่างบางข้างกายเขามากกว่า ที่ปากกล้าปากดีต่อล้อต่อเถียง ทำให้ขีดความอดทนของเขาหมดลง และริมฝีปากน้อยๆ สีเชอรี่ ที่ขยับไปมาชวนให้น่าลิ้มลอง ว่ากลีบปากน้อยๆนี้ที่มันมักจะขยับเถียงได้ทุกทีไปมันจะมีรสชาติชวนน่าสัมผัสเพียงใด และการลิ้มลองครั้งนี้อดที่จะทำให้เขาพอใจรสชาตินี้ไม่ได้
..........................................
ร้านเวดดิ้ง
การตอบรับอย่างดีสมกับเป็นคนในตระกูล“เอกอัครไพศาล” มาใช้บริการ ทำให้ว่าที่เจ้าสาวอย่างเธออดจะรู้สึกประหม่าไม่น้อย บรรยากาศรอบๆร้านช่างอบอุ่น อบอวลไปด้วยความรัก กลิ่นหอมอ่อนๆของอโรม่าที่ได้จุดไว้ตามมุมต่างๆของร้าน ส่งผลให้บรรยากาศช่างดีไม่น้อย การตกแต่งของร้านก็เต็มไปด้วยรูปคู่บ่าวสาวหลายคู่ที่ดูแล้วก็อดใจยิ้มตามกับความรักของแต่ละคู่ไม่ได้ แต่ผู้ชายที่มากับเธอตอนนี้ใบหน้าและแววตาช่างทำได้ตรงข้ามกับบรรยากาศของร้านเสียจริงๆทั้งแววตาที่ดูเบื่อหน่าย การแสดงความรักที่ช่างห่างเหินจากความหวาน พลอยทำให้เธอรู้สึกห่อเหี่ยวตามด้วยไม่ได้ เนื่องด้วยความเป็นจริงตอกย้ำเหตุผลจริงๆที่เราทั้งคู่ต้องแต่งงานกันไม่ได้
3 วันที่แล้ว
“ปลายฟ้าเรามีอะไรที่ต้องตกลงกัน ก่อนที่เธอจะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้และนอนกอดทะเบียนสมรส” เสียงเข้มดังขึ้นไม่เบานัก ทำให้หญิงสาวที่นั่งมองเหม่อไปเรื่อย สะดุ้งเล็กน้อยตื่นจากภวังค์ที่ล่องลอยไปไกลให้กลับเข้าสู่ร่าง
“อ่ะ ...เอ่อคะ ว่ามาซิคะ” บ้าจริงเชียว แค่น้ำเสียงดุก็น่ากลัวพอแล้ว ยังมาทำหน้าเข้มใส่ชั้นอีก ไอ้ผู้ชายบ้าอำนาจ
“ชั้นมีคนรักอยู่แล้ว ตอนนี้เธอกำลังจะกลับมาเมืองไทย และเธอก็รู้ทุกอย่างว่าชั้นแต่งงานกับเธอเพราะพ่อชั้นบังคับ” แววตาที่พูดถึงคนรัก อดทำให้ปลายฟ้ารู้สึกชื่นชมวงหน้าที่ดูช่างอบอุ่น และอ่อนโยนไม่น้อย
“ฉะนั้นชั้นอยากบอกเธอว่า เราต่างคนต่างอยู่ ห้ามเธอก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของชั้น ห้ามเธอยุ่งกับคนรักของชั้น และห้ามเธอในทุกๆเรื่องเกี่ยวกับชั้นและคนรัก ชั้นไม่อยากให้น้องหญิงต้องเสียใจไปมากกว่านี้ แค่นี้เธอก็รู้สึกเสียใจมากพอแล้ว ที่เหมือนการกระทำครั้งนี้ของชั้นเหมือนหักหลังเธอ”น้องหญิงของเขาช่างอ่อนหวานอ่อนโยนนัก ครั้งแรกที่เธอได้ยินเธองอนเขาไม่น้อยเลย ต้องง้อและต้องสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเจ้าสาวในนาม หาเหตุผลต่างๆนานามายืนยันถึงความจำเป็นของการแต่งงานครั้งนี้อยู่นาน แต่ท้ายที่สุดแล้ว คนรักของเขาก็เข้าใจเป็นอย่างดี ซึ่งมันทำให้เขาสบายใจไม่น้อย
“คะ ชั้นจะไม่ยุ่งวุ่นวายกับทั้งคุณและคนรักของคุณ แต่คุณต้องสัญญาว่าต้องให้เงินชั้นใช้ทุกเดือนอย่างที่เราได้สัญญากันตั้งแต่แรก”
“เธอนี่มันหน้าเงินของแท้ พูดขนาดนี้แล้ว อย่าคิดอ้าปากเถียงชั้นนะ เมื่อลมหายใจเข้าออกของเธอก็มีแค่เงิน ขนาดทนมาแต่งงานกับคนที่เธอไม่ได้รักยังทำได้ ชั้นล่ะยอมกับหัวใจที่หิวเงินของเธอจริงๆ”
..........................................
ครบ 100%
ย้อนกลับมาที่ร้าน
“ถ้าจะถอนหายใจทิ้งเสียงดังแบบนั้น ช่วยไปทำนอกร้าน แม้ว่าชั้นจะไม่ยินดียินร้ายกับการมาเลือกชุดแต่งงานในวันนี้ แต่ยังไงรบกวนช่วยทำหน้าตาให้มันพอดูได้หน่อย เด็กในร้านมันจะคิดว่าชั้นลากเธอมาจากข้างถนนที่ไหนสักแห่งแล้วมาหย่อนแหมะที่ร้านนี้” ปากคอเราะร้ายเชียวนะ”คนบ้า”
“ค่ะ คุณก็เช่นกัน ช่วยทำหน้าให้พอดูได้หน่อยนะคะ เพราะตอนนี้คุณก็ไม่ต่างจากคนหมดอาลัยเช่นกัน” เหอะ มาว่าแต่คนอื่นให้ทำตัวดีๆ ตัวเองก็ไม่ได้ต่างกันหรอกน่า ทำหน้าอย่างก่ะชั้นบังคับมา แม้ว่าความจริงจะบังคับให้มาจริงๆก็เหอะ ก็น่าจะรักษาหน้าชั้นเหมือนกันนี่น่า
“ขอโทษนะคะ เชิญว่าที่เจ้าบ่าว และว่าที่เจ้าสาวเลือกชุดได้เลยคะ เสื้อผ้าผู้หญิงอยู่ทางซ้ายมือน ส่วนของผู้ชายอยู่ทางขวามือคะ” ก่อนที่จะเกิดศึกย่อมๆ ในร้านเวดดิ้งขึ้น พนักงานสาวที่เสี่ยงตายก็เข้ามาห้ามทัพทันเวลา แม้ว่าอาจจะช้าไปสักนิดในความคิดของปลายฟ้าแต่ก็ยังดีที่มาแทรกช่วงเวลาที่กำลังเกิดสงคราม เธอไม่อยากจะทะเลาะกับเขาต่อหน้าคนอื่นเลย เธอไม่ได้อายแต่เธอออกแนวเบื่อ เนื่องจากไม่เคยเลยสักครั้งหากมีการโต้เถียงกันจริงๆ ที่เธอจะปะทะฝีปากกับคนตัวโตแล้วจะชนะ
ผ่านไป 30 นาที ฝ่ายเจ้าบ่าวก็ได้ชุดที่ต้องการ โดยชุดที่ภควัฒน์เลือก จะเน้นสีขาวและรูปแบบการตัดเย็บที่ค่อนข้างเรียบง่าย ชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดชุดอยู่แล้ว คิดเพียงให้มันจบเร็วๆ เขาอยากโทรศัพท์ไปหาสาวคนไกลที่ตอนนี้คงอยากรับรู้เรื่องราวของเขาวันนี้เป็นแน่
“เฮ่อ จะแต่งตัวอะไรนานหนักหนา”
“เอ่อ รบกวนรอหน่อยนะคะ เนื่องจากชุดของเจ้าสาว มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ทำให้ต้องใช้เวลานิดหน่อยคะ ยังไงแล้วจะรับอะไรทานรอก่อนดีไม่คะ ดิฉันจะไปมาให้คะ”
“อืม ก็ดีครับ งั้นผมขอกาแฟดำครับ”
ไม่นานว่าที่เจ้าสาวที่ชายหนุ่มค่อนขอดอยู่ในใจ ก็ได้เวลาออกมาให้เห็นเสียที อาการประหม่าเล็กน้อยที่ต้องให้พนักงานคะยั้นคะยอให้ออกมา ทำให้ชายหนุ่มอดที่จะตื่นเต้นเล็กๆไม่ได้ ผ้าม่านผืนใหญ่ที่เป็นฉากกางกั้นเพื่อบดบังห้องแต่งตัวค่อยๆ เลื่อนทีละน้อย ปลายชุดสีขาวค่อยๆโผล่พ้นชายผ้าม่าน แล้วว่าที่เจ้าสาวของเขาก็ปรากฎตัวตรงหน้า จังหวะที่ปลายฟ้าค่อยๆหมุนตัวหันมา มันเป็นจังหวะที่ทำให้เขารู้สึกวินาทีมันหยุดหมุนชั่วคราว เธอเหมาะกับชุดสีขาวครีมนี้มาก ช่วงบนของชุดเป็นเกาะอกมีเพชรระยิบระยับประดับให้ชวนมอง ช่วงคอยาวระหงประดับด้วยสร้อยเม็ดเล็กทำให้ช่วงไหล่ของเธอสะกดให้ชายหนุ่มจดจ้องได้ไม่วางตา เลื่อนต่ำลงมาที่เอวคอดมีเข็มขัดเส้นเล็กรัดเอวบางให้ดูยิ่งบอบบางจนอยากเอื้อมมือไปคว้าร่างน้อยมาข้างกาย ความยาวที่เลยหัวเข่าเล็กน้อยอวดโฉมขายาวเรียวให้ชวนหลงใหลยิ่งหนัก ทำให้เวลาที่เสียไปกับการนั่งจิบกาแฟรอคอยปลายฟ้าลองชุดนั้น ชายหนุ่มได้คำตอบในใจว่า “มันช่างคุ้มค่าเสียจริง”
กดไปที่ลิ้งค์ได้เลยคะ เป็นตัวอย่างชุดที่ปลายฟ้าใส่คะ
ชอบไม่ชอบอย่างไร หรือรู้สึกแบบไหนกับตอนนี้ แจ้งให้ไรท์เตอร์ทราบหน่อยนะคะ
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้คะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น