ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - ( e x o f i c ) - A D M I SS I O N - ( c h a n b a e k ) -

    ลำดับตอนที่ #2 : - ( a d m i s s i o n 2 0 1 3 ) - f i r s t s t e p

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.95K
      9
      5 ต.ค. 56

     

    Title : Admission at Heart

    Auther : แซมซมูเอล

     
     
     

     

    โบยอน

    พี่อี้ฟานมาแล้ว TTTTwTTTT

    ร่างสูงโด่เด่ของพี่อี้ฟานเดินตรงมาหาผมที่ยืนอยู่กับพี่ชานยอล พี่อี้ฟานจ้องหน้าพี่ชานยอลไม่วางตาเลยครับ คงไม่ได้ปิ๊งพี่ชานยอลเหมือนที่ผมปิ๊งหรอกใช่ไหมครับ

     “พี่อี้ฟานนี่พี่ชานยอล พี่ภาคผม พี่เขาช่วยพาผมไปส่งที่ห้องสัมภาษณ์เมื่อเช้า ถ้าไม่ได้พี่เขาผมต้องไปไม่ทันแน่ ๆ ... พี่ชานยอล นี่พี่ชายผมครับ

    ผมแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกันและกัน ทั้งคู่จ้องตากันและยิ้มให้กันบาง ๆ ผมว่ามันชักจะยังไง ๆ แล้วล่ะครับ

    ยินดีที่ได้รู้จักนะครับพี่อี้ฟาน

    พี่ชานยอลเอ่ยทักทายพี่ชายผมอยากเป็นมิตร พร้อมกับโค้ง   ให้เล็กน้อย

    ยินดีที่ได้รู้จักครับ แต่ผมไม่ใช่พี่นาย...”

    บรรยากาศเริ่มไม่ดีละ ผมเงียบ พี่ชานยอลเงียบ พี่อี้ฟานเงียบ................. (จุดล้านตัวแทนคำบรรยาย)

    คงไม่ได้จะมีดราม่าเหมือนในหนังหรอกนะที่พี่ชายนางเอกไม่ชอบพระเอก อะไรแบบนั้น ผมไม่แฮปปี้เลยนะ

    “………….”

    ผมคงจะรุ่นเดียวกับนาย ถึงหน้าผมอาจจะดูมากกว่าวัยไปนิดก็เถอะ

    พี่อี้ฟานพูดอย่างขำๆ ทำเอาผมยิ้มออกมา เฮ้อ.. โล่งอกไป นึกว่าจะเป็นอย่างในหนังซะอีก (ยังไม่จบเรื่องพระเอกนางเอก)

    อ้อ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ต้องไปช่วยงานคณะต่อ ตั้งใจเตรียมไว้สำหรับน้อง ๆ ปีนี้ มาค่ายด้วยล่ะแบคฮยอน

    ค่ายอะไรครับ?”

    มันติดอยู่กับใบรายงานตัวนักศึกษาที่เราได้มาตอนสัมภาษณ์นั่นแหละ ลองอ่านดู ไม่เข้าใจอะไรก็ถามพี่ในเฟส ไปโพสต์ที่หน้าวอลเลยก็ได้ เดี๋ยวพี่มาตอบ

    ผมหยิบเอกสารที่ผมได้ขึ้นมาดู ถึงได้เห็นไอ้ใบที่พี่ชานยอล บอก ตอนที่เขาให้มาผมคงไม่ทันสังเกต

    ไปก่อนนะ ไว้เจอกันที่ค่าย

    ครับ ขอบคุณมากนะครับ

    ผมโค้งขอบคุณพี่ชานยอล แต่พอเงยหน้ามาพี่ชานยอลก็เดินไปถึงบันไดตึกแล้ว แล้วเมื่อกี้ผมโค้งเพื่ออะไร ช่วยสนใจผมหน่อยได้ไหม

    สัมภาษณ์เป็นไงบ้างพี่อี้ฟานถามระหว่างทางที่เราสองคนเดินไปที่ลานจอดรถท่ามกลางแดดเปรี้ยง ๆ ผมอยากรู้แต่ไม่อยากถามว่าทำไมพี่ชายผู้เป็นที่รักของผมต้องจอดรถไกล ๆ ด้วย - -

    ก็ดีครับ เขาไม่ค่อยถามอะไรมากเท่าไหร่ ถามแค่ทำไมถึงเลือกคณะนี้ แล้วทำไมต้องเป็นที่นี่ อะไรทำนองนั้น

    แล้วเราตอบไปว่าอะไร

    ก็บอกว่าคะแนนถึง เลยตัดสินใจยื่นคะแนนที่นี่

    แค่นั้น?” คุณพี่ท่านขมวดคิ้วนิด ๆ หลังจากได้ยินคำตอบของผม

    ครับ เพราะผมก็ไม่รู้จะตอบว่าอะไร -3-”

    ผมยู่ปากแล้วบ่นเบา ๆ ก็ผมไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไรจริง ๆ นี่ครับ ทำไมถึงเลือก ก็อยาก ทำไมถึงเป็นมหาวิทยาลัยนี้ ก็อยากอีกนั่นแหละ แต่ถ้าผมตอบไปแค่ว่าเพราะผมอยาก ผมว่าผมต้องโดนขีดชื่อทิ้งจากใบรายชื่อนักศึกษาแน่ ๆ เลย

    หิวรึยัง ไปหาอะไรกินกันก่อนกลับไหมหรืออยากกลับไปกิน   ที่บ้าน

    โหย ผมทนหิวไม่ไหวแน่ ๆ กว่าจะถึงบ้าน ผมคงไส้ขาดตายก่อน พาผมไปเลี้ยงหน่อยสิครับลูกพี่ อยากกินเนื้อย่าง! ได้ยินมาว่าเนื้อย่างแถวนี้ขึ้นชื่อที่สุดด้วย!!”

    ผมพยายามกอดคอพี่ชายที่ตัวสูงกว่าผม พร้อมกับเขย่าไปมาเบา ๆ พี่อี้ฟานเลยผลักหัวผมเข้าให้

    ไม่ต้องมาลูกพงลูกพี่ เมื่อกี้นี้เห็นนะว่ามองชานยงชานยอลคนนั้นด้วยสายตาแบบไหนปากหนาบ่นพร้อมกับเหล่มองผมอย่างจับผิด

    ผมเปล่าสักหน่อย (. .)”

    ไม่ต้องเปล่า พึ่งขึ้นปีหนึ่ง อย่าริอ่านคุณพี่ท่านยกมือขึ้นมาดีดหน้าผากผมอย่างเต็มรัก ผมทำได้แค่ยกมือขึ้นมาลูบหน้าผากตัวเอง เห็นเป็นพี่เลยไม่อยากลงไม้ลงมือเฉย ๆ หรอก - _-

    พี่... เชื่อในรักแรกพบรึเปล่า

    แก่แดด ท่องไว้เลยนะว่าพึ่งสิบแปด เรื่องความรักอย่าเพิ่งคิด

    พี่กับพี่อี้ชิงก็คบกันตอนสิบแปด ผมจำได้...”

    ผมย้อนพี่อี้ฟานอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ กลัวจะโดนทำร้ายร่างกายเหมือนระหว่างทางที่ผ่านมา

    ย้อนหรอ จะกินไหมเนื้อย่างน่ะ?”

    “...”

    ผมเงียบ...

    เผด็จการที่สุด! TT

     

     

     

    แบคฮยอน เอายาใส่กระเป๋าไปรึยังลูก

    แม่ตะโกนไล่หลังผมที่กำลังเดินออกจากประตูบ้าน วันนี้ผมต้องไปค่ายก่อนเปิดเทอม ไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ แต่เซฮุนบอกให้ผมไปเป็นเพื่อนมัน เห็นบอกว่ามีวัดเสื้อช็อปด้วย ถ้าขาดต้องไปตามวัดเอาทีหลัง เดี๋ยวจะลำบาก

    เอามาแล้วครับพี่สาววว

    ผมพูดอย่างหยอก ๆ พร้อมกับเดินกลับไปหอมแก้มแม่ทีนึง ยาที่ว่านั่นคือแก้หอบหืดครับ ที่พ่นลงคอเวลาหายใจไม่ออก รู้จักกันใช่ไหมครับ -.-

     “ดีแล้ว กลับมานอนบ้านใช่ไหม

     “กลับครับ แม่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบนอนรวมกับคนเยอะ ๆ

    อันนี้ติดเป็นสันดานครับ แก้ไม่หายจริง ๆ กี่ค่าย ๆ ตอนเรียนมัธยมผมไม่เคยไปหรอก ผมเป็นเด็กผู้ชายที่ไม่สมเป็นเด็กผู้ชายเลยใช่ไหม แถมมีหน้าไปเรียนโยธาอีก แต่จะทำยังไงได้ล่ะครับ ผมให้ได้เหตุผลโง่ ๆ เหตุผลเดียวเท่านั้นแหละ.. อยาก

     “ดีแล้ว รีบไปรีบกลับ

     “ผมรีบกลับอยู่แล้วครับ กลัวบางคนแถวนี้จะคิดถึง

     “ไม่คิดถึงลูกแล้วจะไปคิดถึงหมาที่ไหนล่ะ เดี๋ยวก็ต้องย้ายไปอยู่หอ ไกลหูไกลตาแม่อีก เฮ้อ... ไปได้แล้วไป มัวแต่ฟังแม่บ่นเดี๋ยวก็ได้ไปสายกันพอดี

    แม่ดันหลังผมออกมาจนถึงหน้าประตู ผมได้แต่ยิ้มอย่างขำ ๆ แม่ใครก็ไม่รู้ น่ารักน่าแกล้งชะมัด

    ผมเดินไปเรียกแท็กซี่หน้าบ้าน ต้องนั่งไปรับเซฮุนที่บ้านอีก กว่าจะไปถึง ผมว่าผมคงสายแล้วล่ะ (ปาดเหงื่อ)

    ทำไมกูไม่มีชื่อวะ

    เซฮุนหันมาถามผม ตอนนี้เราสองคนกำลังยืนเอ๋ออยู่ใต้ตึกคณะ ในขณะที่คนอื่น ๆ ไปนั่งกันเป็นแถวฟังพี่ ๆ ในคณะแถลงการณ์อะไรสักอย่างกันอยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ผมกับเซฮุนกำลังงมหาชื่อตัวเองว่าอยู่กลุ่มไหน จะได้ไปต่อแถวถูก ตัวผมเองน่ะหาเจอแล้ว แต่หาชื่อเซฮุนไม่เจอ ผมเลยหันซ้ายหันขวา จะถามพี่ซักคน สายตาไปสะดุดเข้ากับรัศมีความหล่อทางทิศสิบสี่นาฬิกา.. อ่า.... พี่ชานยอล...

    กลุ่มหกใช่ไหมผมที่กำลังอ้าปากจะบอกว่าเพื่อนผมไม่มีชื่อ แต่โดนพี่เขาสะกัดดาวรุ่งซะก่อน

     “ครับ ผมอยู่กลุ่มหก แต่เพื่อนผมไม่มีชื่อ เป็นเพราะติดรอบรับตรงรึเปล่า?”

     “อาจจะใช่ งั้นลงชื่อกลุ่มหกไปเลยแล้วกัน เอากระเป๋ามาเดี๋ยวพี่เอาไปเก็บให้ ไปนั่งต่อแถวกับเพื่อน ๆ ไปพี่ชานยอลดึงกระเป๋าเป้ผมไปสะพาย และตัวผมก็ยื่นให้พี่เขาไปอย่างงง ๆ

     “ผมสะพายไว้ได้ไหมครับ ในนั้นมียาที่ผมอาจจะต้องใช้

     “อ้าวหรอพี่ชานยอลนิ่วหน้าแบบคนทั่วไปที่กำลังใช้ความคิด ก่อนจะดีดนิ้วแล้วแล้วดันหลังผมให้เดินไปที่แถว เซฮุนได้แต่มองผมสลับกับมองพี่ชานยอล คงสงสัยว่าไปสนิทกันตอนไหน

    แล้วกระเป๋า?”

    เราต้องทำกิจกรรม เดี๋ยวพี่สะพายไว้ให้เอง พี่เป็นพี่เทคกลุ่มหก มีอะไรเรียกพี่เลย พี่อยู่ตลอด

    เอางั้นหรอครับ

    เอางี้แหละ ไปเข้าแถว ๆพี่ชานยอลตอบพร้อมกับส่งรอยยิ้มละมุนละไมมาให้ผม

    ให้ตายเถอะ...

    อย่าดีกับผมขนาดนี้สิครับ.. ผมก็มีหัวใจ หวั่นไหวเหมือนกันนะ T-T

    ผมตัดสินใจเดินมานั่งที่แถวกลุ่มตามที่พี่ชานยอลบอก เซฮุนเองก็เดินตามมาแล้วทิ้งตัวนั่งข้าง ๆ ผม

    ใครวะผู้เพื่อนที่ตามมาพอตูดติดพื้นปุ๊บก็ยิงคำถามปั๊บ

    พี่ภาคกู เคยเจอกันครั้งนึงตอนมาสัมภาษณ์

    ไวจริงนะมึง

    ไวอะไร กูยังไม่ได้ทำอะไรกูเลย พี่เขามาทักกูในเฟส แล้วก็คุยกัน แล้วก็เจอกัน แล้ว...”

    แล้วมึงก็แอบมีใจให้เขาเซฮุนสวนขึ้นมา

    มีใจพ่อง กูไม่ได้คิดอะไร

    ผมแก้ตัวทันทีเมื่อรู้ตัวว่าถูกแทงใจดำ... ผมจะมีใจให้คนที่เจอแค่สองครั้งได้ยังไงกันจริงไหม............................(ล้านจุด)

    แต่เขาว่ากันว่า หลอกใครก็หลอกได้ แต่หลอกตัวเองนั้นไม่มีวันหลอกได้ วันนี้ผมคิดว่ามันไม่จริงครับ เพราะผมคิดว่าผมหลอกเซฮุนไม่ได้ ตอนนี้มันกำลังมองผมด้วยสายตาจับผิด ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย

    น้องแบคฮยอนรหัส 1150 มารึยังครับ พี่รอมานานแล้วนะ ครับน้อง

    ผมหันขวับไปมองข้างหน้าทันที หลังจากได้ยินชื่อและรหัส     ตัวเอง

    อ่าว เขาตามหาตัวมึงอยู่อะ ตอบเขาดิเซฮุนหันมาพูดกับผม ทำให้เพื่อน ๆ รอบตัวเราสองคนหันมามองที่ผมเป็นสายตาเดียวกันในทันที

    นี่ไง ๆ มาแล้ว

    พี่เทคคนนึงที่ยืนอยู่ข้างหลังเราสองคนคงได้ยินเซฮุนบอกว่าเขาเรียกผม เดินมาชี้ที่ตัวผม พร้อมกับตะโกนไปบอกพี่ข้างหน้าที่ถือไมค์พูดอยู่

    นี่มันเรื่องอะไรกัน!!!

    ออกมาข้างหน้าเลยครับน้อง ยังไม่ทันจะเปิดเทอม น้องได้เกิดแล้วล่ะ ออกมา ๆ

    ผมได้แต่สายหัว นั่งนิ่ง ๆ และไม่คิดจะออกไป เรื่องอะไรต้องให้ผมออกไปยืนอยู่ข้างหน้าคนเป็นล้าน (เวอร์) ผมไม่ได้ขี้อายนะครับ แต่เพราะพี่เขาบอกว่าผมเกิดตั้งแต่ยังไม่เปิดเทอมเนี่ยแหละ ผมถึง         ได้กลัว

    เห้ย มึงก็อย่าไปแกล้งน้องเขา บอกน้องเขาไปว่ามีคนฝากของมาให้พี่ผู้ชายอีกคนนึงที่ยืนอยู่ข้างหน้าพูดขึ้นพร้อมกับหยิบตุ๊กตาตัวเท่าตู้เสื้อผ้าออกมาจากหลังเสา

    ออกมาเอาของหน่อยครับน้อง มีคนฝากมาให้ ถ้าน้องไม่ออกมาเอาตอนนี้ พี่คิดว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้ามันคงไม่อยู่ตรงนี้แล้ว มีแต่คนอยากชื่อแบคฮยอน อยากรหัส 1150 เพราะอยากได้ตุ๊กตาหมาตัวนี้ไปครอบครองนะครับน้อง ฮ่า ๆๆๆ

    สุดท้ายผมก็ต้องลุกออกไปเอาอยู่ดี เพราะตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งคณะแล้ว ถ้าไม่ลุกไปสักทีเดี๋ยวจะถูกหาว่าเล่นตัวก็เป็นได้...

    ผมเดินไปอุ้มตุ๊กตาตัวนั้นอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ก่อนจะหันไปถามพี่เขาเบา ๆ ว่าใครฝากมา

    เดี๋ยวสิครับน้อง เดี๋ยวพี่บอก น้องแนะนำตัวกับพี่ ๆ เพื่อน ๆ ก่อน พี่ว่าเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนคงอยากรู้

    สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้วครับตอนนี้ ใครช่างฝากมาให้ แล้วทำไมต้องมาออกสื่อแบบนี้

    ผมยื่นตุ๊กตาไปให้พี่คนข้าง ๆ ถือให้ก่อนจะรับไมค์มาอย่าง   กล้า ๆ กลัว ๆ แล้วพูดใส่ไมค์ออกไปว่า

    บยอนแบคฮยอน ภาคโยธาครับ

    พูดเสร็จก็ยื่นไมค์คืนให้พี่เขาทันที แต่พี่เขาไม่รับ แถมยังขำกันแบบสนุกสนานอีกต่างหาก ให้ตายเถอะ ผมอยากสลายกลายเป็น    ผุยผง มันน่าอายนะเว้ย T-T

    จะรีบไปไหน พ่อชื่ออะไร แม่ชื่ออะไร บ้านอยู่ที่ไหน ที่สำคัญมีแฟนรึยัง พี่ว่าคนที่ฝากมาให้น้องเขาคงอยากรู้

    ผมมีเงินติดตัวอยู่ 2000 วอน ผมจะยกมันให้พี่ แล้วพี่ช่วยปล่อยผมกลับไปนั่งที่เดิมได้ไหมครับ

    ผมพูดออกไปได้ยังไงกันนนนน มันเกรียนมากเลย T-T

    พี่ซื้อด้วยเงินไม่ได้นะครับน้อง ถ้าไม่มากพอ ฮ่า ๆๆๆ

    ฮาสิครับงานนี้ ไม่มีอะไรนอกจากฮา ทุกคนที่นั่งจดจ้องมาที่ผมกับพี่เขาพากันหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

    พอ ๆ มึงอย่าไปแกล้งน้อง น้องเอาตุ๊กตาไปซุกไว้ตรงไหนก่อนแล้วกลับไปนั่งที่ได้เลยครับ ส่วนคนที่ให้น้อง ชื่อน้องลู่หานอยู่ภาคเครื่องครับ ไปตามหาเอาเองแล้วกัน น้องเขาบอกว่าไม่อยากโชว์ตัว

    ทำไมเขาไม่คิดบ้างนะว่าผมเองก็ไม่อยากโชว์ตัวเหมือนกัน!!

    ผมอุ้มตุ๊กตาหมาตัวโตเดินออกมาจากตรงนั้น.. แล้วผมจะเอาไปไว้ไหนล่ะ ผมวางตุ๊กตาลงบนโต๊ะใต้อาคาร ก่อนจะจ้องหน้ามัน หึยยยยยย! สิงแม่งเลยดีไหม!!!!

    เดี๋ยวพี่เอาไปเก็บให้ดีกว่าไหม

    ผมหันไปมองตามเสียง ถึงเห็นใครอีกคนผู้เป็นเจ้าของเสียงที่ไม่รู้ว่าเดินตามผมมาตั้งแต่ตอนไหน

    ผมฝากหน่อยนะครับ =_=”

    ผมหันไปพูดพร้อมกับทำหน้าเนือยใส่พี่ชานยอล

    ทำใจครับ คนน่ารักก็งี้แหละนะ

    ห้ะ...

    พี่ว่าไงนะครับ

    ไปเข้าแถวได้แล้วไป เขาวัดเสื้อช็อบกันแล้วนะ

    เมื่อกี้ผมได้ยินพี่ชานยอล ชมผมว่าน่ารัก

    ผมไม่ได้หูฝาดใช่ไหม...

    ผมเขินได้ใช่ไหม TvT (อารมณ์เปลี่ยนฉับพลัน)

    ผมเดินกลับมานั่งในแถวสักพักแถวผมก็ลุกเดินไปห้องวัดเสื้อช็อป กิจกรรมในตอนเช้าไม่มีอะไรมาก เพราะกว่าจะวัดเสื้อช็อปครบทุกคนก็ปาไปเกือบเที่ยงแล้ว พอกินข้าวเที่ยงเสร็จ แต่ละกลุ่มก็แยกไปตามใต้ตึกคณะ พี่เทคกลุ่มสอนร้องเพลง สอนเต้น แล้วก็เล่นเกมนู่นนี่นั่นอีกเล็กน้อย จะว่าไปก็สนุกดีเหมือนกันครับ แถมได้เห็นพี่ชานยอลตีกลองให้จังหวะเพลงที่พวกผมหัดร้องหัดเต้นอีก หัวใจผมเต้นเป็นจังหวะเดียวกับกลองของพี่ชานยอลแล้วล่ะครับ -/////-

     “แบคฮยอนมึงเต้นยังไงให้เหยียบตีนกูได้วะ มึงไปทางเดียวกับคนอื่นเขาหน่อยดิเซฮุนที่เต้นข้าง ๆ ผมพูดพร้อมกับเตะที่ก้นผม แค่นี้ทำไมต้องลงมือลงตีนกันด้วย!

    ผมเลยหันไปเตะคืน จะทำไงได้ล่ะครับ สติผมมันล่องลอยอยู่นี่นา คนอย่างมันไม่เข้าใจหรอก ไอ้คนไม่มีหัวใจ ผมหันกลับมาตั้งท่าจะเต้นต่อ แต่ว่าเป้าสายตาที่ผมแอบมองอยู่ตลอดเวลาหายไปแล้ว.. พี่ชานยอลหายไปไหนแล้ว...

    เสียงจังหวะกลองดังขึ้นอีกครั้งโดยมือกลองคนใหม่ คนในกลุ่มเริ่มร้องเพลงแล้วก็เต้นกัน ผมเองก็ด้วย เต้นไปสักพักถึงได้รู้สึกว่ามีใครอีกคนนึงมาเต้นอยู่ข้าง ๆ ตอนนี้ (ผมอยู่ริมแถว)

    ผิดแล้ว ๆ

    ผมเต้นผิดท่า อีกคนเลยจับแขนผมให้เต้นให้ถูกท่าเหมือนคนอื่น ๆ เขา

    อีกคนที่ว่าคือคนที่ยืนตีกลองอยู่เมื่อกี้...

    ทำไงดีครับ ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนหัวใจมันเต้นแรงจะแทบจะระเบิดอยู่แล้ว ถ้าเปรียบเป็นภูเขาไฟ คงเป็นอาการที่ใกล้จะปะทุเต็มที่ ลาวาเดือดปุด ๆ ไหลทะลักเต็มไปหมด

    ผมอยากจะแกล้งเต้นผิดมันทั้งเพลงจริง ๆ (ความคิดชั่วร้าย)

    พี่ชานยอลครับ เดี๋ยวผมต้องกลับบ้านผมหันไปบอกระหว่างที่กำลังเต้นกันอยู่

    อะไรนะและแน่นอนว่าเสียงกลองกับเสียงร้องเพลงของคนอื่นมันกลบสิ่งที่ผมพูดไปหมด

    ผมไม่ได้ค้างที่นี่ เดี๋ยวผมต้องกลับบ้านครับ

    ห้ะ

    พอไม่ได้ยิน พี่ชานยอลเลยเอียงหูมาใกล้ ๆ ผม ผมเลยป้องปากแล้วพูดอีกครั้ง

    ผมต้องกลับบ้านครับ

    อ้าว ไม่ค้างหรอ วันหลัง ๆ สนุกนะ

    พี่ชานยอลพูดข้าง ๆ หูผม จริง ๆ ผมก็อยากอยู่นะครับ แต่เซฮุนไม่อยู่ ผมก็ไม่อยู่เหมือนกัน (อ้าง)

    ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาค้างอยู่แล้วน่ะครับ ไม่ได้เอาเสื้อผ้า          มาเลย

    ว่าแล้วเห็นเอาเป้มาใบเดียว โอเค ๆ จะกลับเลยไหม

    ก็ดีครับ

    น่าเสียดาย มีค่ายตั้งสี่วันแต่ผมคงมาวันนี้แค่วันเดียว ถ้าไม่ใช่ค่ายค้างคืน ผมคงมาทุกวัน อีกอย่างติดที่บ้านไกลด้วย เดินทางมาที     ก็เหนื่อย

    โอเค งั้นเต้นเพลงนี้จบแล้วเดี๋ยวพี่เดินไปส่ง

    ผมกับพี่ชานยอลเต้นไปคุยไปตลอดเพลง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในสายตาของเซฮุน ผมเลยไม่ค่อยกล้าคุยอะไรเท่าไหร่ เดี๋ยวเซฮุนเอาไปเล่าให้พี่อี้ฟานฟัง น่าแปลกนะครับ เพื่อนของผมทุกคนต้องสนิทกับพี่อี้ฟาน และเซฮุนคือคนที่สนิทกับพี่อี้ฟานที่สุดในบรรดาเพื่อนๆ ทุกคน

    ผมหันไปสะกิดเซฮุนหลังจากเต้นจบเพลง เราสองคนเดินตามพี่ชานยอลออกมา

    มึงคิดไม่ซื่อกับพี่เขาใช่ไหมอยู่ๆ เซฮุนก็หันมากระซิบถามผม

    กูเปล่า

    มึงคิด

    กูไม่ได้คิด

    มึงคิดแน่ๆ

    กูไม่ได้คิดสักหน่อย!” จากกระซิบกระซาบกันตอนแรก กลายเป็นผมที่เผลอพูดเสียงดัง อีกคนที่เดินนำหน้าเราสองคนเลยหันกลับมามองแล้วก็ยิ้มขำ ๆ

    พี่ยังไม่รู้เลยว่าเพื่อนแบคฮยอนชื่ออะไร

    เซฮุนครับ ผมอยู่ภาคเครื่องเซฮุนตอบ

    จบมาจากที่เดียวกัน?” พี่ชานยอลถามต่อ

    ครับ จบจากที่เดียวกันตั้งแต่ม.ต้น ผมเบื่อขี้หน้ามันจะตาย

    พอได้ยินแบบนั้นผมเลยถีบส่งเซฮุนเข้าให้ที ขออนุญาตไม่สุภาพยกเท้าขึ้นมาถีบมันสักหน่อยเถอะครับ เพื่อนปากหมาแบบนี้ผมคบมันมาได้ยังไงตั้งหลายปี

    ถึงว่าดูสนิทกัน ค่อยยังชั่วหน่อย

    ค่อยยังชั่วเรื่องอะไรครับเซฮุนถามขึ้นมา ผมเองก็สงสัยเหมือนกัน ว่าค่อยยังชั่วที่ว่านั่นหมายถึงอะไร

    พี่จะจีบแบคฮยอน ถ้าสนิทกับเราในฐานะอื่น พี่คงสะเทือนใจแย่ พี่ส่งแค่นี้แล้วกัน ไว้เจอกันนะครับ กลับบ้านดี ๆ ล่ะ

    มือหนายกขึ้นมาบีบจมูกผมทีนึง ก่อนจะเดินจากไปโดยทิ้งผมที่โดนสตั๊นไว้เบื้องหลังแบบไม่คิดจะหันกลับมามอง

    ตอนนี้อารมณ์ผมเหมือนภูเขาไฟที่ระเบิดไปแล้วเรียบร้อยครับ

    ผมหันไปมองหน้าเซฮุนที่ยืนทำหน้านิ่งๆ ก่อนจะเอ่ยประโยคที่แทบจะทำอารมณ์ฟินนาเร่ของผมหายไป

    กูจะฟ้องพี่อี้ฟาน!!!”

     

     

     

     

     

    TBC.


    THE★ FARRY

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×