ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - ( e x o f i c ) - A D M I SS I O N - ( c h a n b a e k ) -

    ลำดับตอนที่ #12 : - ( a d m i s s i o n 2 0 1 3 ) - w h a t c a n i d o

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.47K
      3
      5 ต.ค. 56

     

     

     

    Title : Admission at Heart 

    Auther : แซมซมูเอล

     

     

     

     

    วันนี้ลุกมาเจอตัวเองในกระจกผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นซอมบี้เลยครับ เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเลย ไม่ใช่สิ...

    นอนไม่หลับเลยต่างหาก...

     

     

    “กูจะเลิกกับพี่เขา ขอแค่กูไม่เสียเพื่อนอย่างมึงไปก็พอ”

    “...”

    “กูไม่อยากเสียมึงไป...”

    “...”

    “มึงอย่าทิ้งกูได้ไหม มึง...มึงก็รู้ว่ากูมันโง่ กูมันคนไม่มีเพื่อน มึงน่าจะรู้ดีที่สุด ว่ากูไม่มีเพื่อนคนไหนแล้วนอกจากมึง...มึงคนเดียว...”

    ผมพูดไปทั้งน้ำตา ตอนนี้ผมไม่สนใจอะไรแล้ว ไม่สนอะไรแล้วจริงๆ พอจะมีทางไหนบ้างที่ผมจะไม่ต้องเสียเซฮุนไป ผมพร้อมจะทำ ขอแค่เพื่อนคนนี้ยังเป็นเพื่อนกับผมอยู่ ขอแค่มันไม่ทิ้งผมไป

    “พอเถอะ”

    “...”

    “มึงไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น”

    เซฮุนทิ้งข้าวของในมือลงกับพื้นก่อนจะเดินเข้ามากอดผมเอาไว้

    “ขอโทษ... ขอโทษที่คิดจะทิ้งมึงไป... กูขอโทษ...”

     

     

    สุดท้ายผมก็รั้งเซฮุนเอาไว้ได้ ผมคงไม่เห็นแก่ตัวเกินไปหรอกใช่ไหม ผมอาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกของเซฮุนเท่าที่ควร แต่สิ่งที่ผมรู้คือผมเสียเพื่อนคนนี้ไปไม่ได้จริงๆ

     

     

     

     

     

    บ่ายนี้ผมมีเรียนวิชาภาษาซี หมายถึงวิชาเขียนโปรแกรมนั่นแหละครับ มันยากเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ ยิ่งถ้าใครที่ไม่มีทักษะหรือไม่เคยเรียนมาบ้างเลย นี่มันวิชาฆ่านักศึกษาวิศวะปีหนึ่งเลยแหละครับ ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันนะว่าผมเรียนโยธาทำไมต้องเรียนเขียนโปรแกรมด้วย... จนตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้คำตอบ

     

    ครืด... ครืด... ครืด...

    Incoming Calls   คุณแฟน

     

     

    พี่ชานยอลโทรมา... อีกแล้ว...

    วันนี้พี่เขาโทรมาหาผมตั้งแต่เช้า... แต่ผมก็ไม่ได้รับสาย เพราะอะไรนั้นผมรู้ตัวเองดีครับ เพราะทางเลือกของผมคือเพื่อน ผมเลือกที่จะไม่มีพี่เขาในชีวิต ถ้านั่นจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมไม่เสียเพื่อนไป แม้จะเจ็บปวดใจแค่ไหนก็ตาม

    ผมได้แต่บอกตัวเองว่าทำดีที่สุดแล้ว...

     

    ครืด... ครืด...

    New message from คุณแฟน

    ทำไมไม่รับสายพี่เลยครับ เรียนอยู่หรอ?

     

    ครืด... ครืด...

    New message from คุณแฟน

    พี่มาต่างจังหวัดกับที่บ้านนะครับ คิดถึงแฟนมาก

     

    ถึงแม้ผมจะไม่ตอบข้อความกลับไป แต่อีกฝ่ายก็ยังคงส่งข้อความมาหาผม นั่นทำให้ผมยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นกว่าเดิม ถ้าเป็นแต่ก่อน ตอนที่เรื่องทุกอย่างไม่เป็นแบบนี้ ผมอาจจะยิ้มจนแก้มปริหรือเขินจนหน้าแดงเห่อลามไปถึงหูก็ได้ แต่ตอนนี้... น้ำตาผมมันเหมือนกับกำลังจะไหลออกมา

    ผมควรทำยังไงดี...

     

     

    ผมตัดสินใจกดปิดเครื่อง มันไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดหรอก แต่มันก็คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วล่ะมั้ง ตอนนี้ผมควรจะตั้งใจเรียนก่อน... ผมบอกตัวเองแบบนั้น แต่ผมก็หยุดคิดถึงเรื่องอีกคนไม่ได้...

     

     

    “ต่อไปแบคฮยอนต้องเมมชื่อพี่ว่า คุณแฟน

    “ทำไมต้องเมมแบบนั้นด้วยล่ะครับ -0-”

    “จะได้เหมือนกับพี่ไง”

     

     

    ภาพที่อีกคนพูดพร้อมกับยิ้มบางๆ ลอยขึ้นมาในหัวผม และนั่นทำให้ผมยิ้มตาม

     

    “นี่อะไรครับ?”

     

    ตอนนั้นผมถามออกไปหลังจากเจอของบางอย่างที่ไม่ใช่ของผมอยู่ในกระเป๋า วันนั้นเราไปกินข้าวกัน พี่เขามารับผมตอนเลิกเรียนและแย่งกระเป๋าเป้ใบเล็กๆ ที่ผมใส่ของมาเรียนไปถือ ตอนแรกผมก็งงๆ ทำไมต้องแย่งไปด้วย พอขึ้นมาบนรถ ผมเปิดกระเป๋าเป้แล้วเจอกับพวงกุญแจลูกหมาในกระเป๋า

     

    “ไม่รู้สิ”

    อีกฝ่ายพูดพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆ แต่ผมก็เดาออกว่าพี่เขาเป็นคนเอาใส่กระเป๋าของผม

    “พี่ซื้อมาให้ผมหรอ”

    “เปล่าสักหน่อย”

    พี่ชานยอลยังคงทำเนียนต่อไป

    “ทำไมถึงเป็นลูกหมาล่ะ”

    “เพราะว่าแบคฮยอนน่ารักเหมือนลูกหมา”

     

    พอรู้จักกันจริงๆ ผมก็พอดูออกครับว่าพี่เขาเป็นคนกวนๆ ไม่ใช่สิ กวนมากๆ เลยแหละ ขี้หึงด้วย...

     

    “ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อก่อนครับ ห้ามใส่เสื้อกล้าม”

     

    วันนั้นเราจะออกไปเที่ยวกัน ผมใส่เสื้อกล้ามสีดำเดินลงมา แต่อีกฝ่ายกลับบอกให้ผมขึ้นไปเปลี่ยน...

     

    “ทำไมอะ -0-”

    “ไม่รู้ แต่ห้ามใส่”

    “พี่ใส่ได้แล้วทำไมผมใส่ไม่ได้”

    ผมท้วง เพราะวันนี้พี่เขาก็ใส่เสื้อกล้ามเหมือนกัน เป็นเสื้อกล้ามสีขาว

    “ถ้าไม่เปลี่ยนพี่จะกัดแขนจนเป็นรอยฟันนะ ไม่เอาดีกว่า จะดูดจนเป็นรอย”

    “ผมขึ้นไปเปลี่ยนก็ได้ (. .)

     

     

    พอคิดแล้วก็หลุดขำออกมา จริงๆ แล้วพี่เขาเหมือนเด็กเลยครับ ไม่ได้ดูโตกว่าผมไปสักเท่าไหร่เลย พอนิ่งๆ ก็ดูหล่อสุดๆ แต่เวลาพี่เขาอ้อน เวลาพี่เขางอนหรือเวลาพี่เขาหวง ผมว่าพี่เขาดูเหมือนเด็กเอาแต่ใจสุดๆ ไปเลย

     

    นั่นทำให้ตอนนี้ ผมรักพี่เขามาก...

    ไม่รู้ว่ามันมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่...

    รู้แค่ว่าตอนนี้... ผมรักพี่เขามาก...จริงๆ...

     

     

    “คาบหน้าส่งผังโปรเจคนะคะ”

     

    นี่ผมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนหมดคาบแล้วหรอเนี่ย กว่าผมจะรู้สึกตัวนักศึกษาคนอื่นๆ ก็ลุกขึ้นและทะยอยออกจากห้องกันเกือบหมดแล้ว

    สุดท้ายผมก็ไม่ได้เรียนอะไรเลย เหมือนมานั่งแช่แอร์เล่น จริงๆ นอนอยู่ในห้องก็คงไม่ต่าง แต่เอาเถอะ... ถือซะว่ามาเช็คชื่อก็แล้วกัน

     

    พอเดินออกมาหน้าห้อง ผมถึงได้รู้ว่าฝนกำลังตก ตอนอยู่ในห้องเรียนไม่เห็นได้ยินเสียงฝนเลยอาจเพราะผมมัวแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่สินะ... ไม่ได้เอาร่มมาด้วยสิ คนอื่นเขาพกร่มกันมาหมดเลย แล้วผมจะกลับยังไงล่ะครับเนี่ย

     

    โทรให้เซฮุนมันมารับดีไหมนะ...

     

    เฮ้อ... เดี๋ยวผมนั่งรออีกสักพักดีกว่า เผื่อว่าฝนมันจะซาลงบ้าง...

     

     

     

    ผมนั่งรอจนท้องฟ้าเริ่มมืด แต่ฝนก็ไม่มีทีท่าว่าจะซาลงเลย วันนี้พายุเข้ารึไงเนี่ย สุดท้ายผมก็หยิบโทรศัพท์มาเปิดเครื่อง ตัดสินใจว่าโทรให้เซฮุนมันออกมารับดี แต่พอกดเปิดเครื่องปุ๊บ โทรศัพท์ผมก็สั่นเป็นเจ้าเข้าทันที

     

    ครืด... ครืด... ครืด...

    Incoming Calls   คุณแฟน

     

    พอเปิดปุ๊บพี่เขาก็โทรเข้ามาพอดี...

    เหอะ... ผมได้แต่สมเพชตัวเองในใจ อยากกดรับใจจะขาดแต่ก็ไม่กล้า ถ้ารับแล้วผมควรจะพูดคุยกับพี่เขายังไงดี... ในเมื่อผมกำลังคิดที่จะเลิกกับพี่เขา...

    ผมไม่อยากทำแบบนี้เลย...

    แต่จะให้ผมเลือกพี่ชานยอลแล้วปล่อยเซฮุนไป ผมก็ทำไม่ได้...

     

     

    “มึงมานั่งทำเหี้ยอะไรอยู่ตรงนี้”

    “เซฮุน... มึงว่ากูแปลกป้ะวะ”

    “เรื่อง?”

    “เรื่องที่กู... ชอบผู้ชาย...”

    เซฮุนนั่งลงข้างๆ ผม ก่อนจะปรายตามองพร้อมกับพูดด่าผม

    “เป็นเหี้ยอะไรของมึงอีก”

    “ก็... มึงดูดิ ไม่มีเพื่อนผู้ชายคนไหนคบกับกูเลย แถมด่ากูว่าไอ้เกย์อีกอะมึง กูเสียใจนะเว้ย กูก็ไม่ได้คิดอะไรกับพวกแม่งสักหน่อย ถึงกูจะชอบผู้ชาย แต่กูก็ไม่คิดอะไรกับเพื่อนแบบนั้นหรอก”

    “แล้วมึงจะไปแคร์ทำไม”

    “สาดดด แบบนี้กูก็ไม่มีเพื่อนดิ”

    ผมหันไปต่อยแขนเซฮุนแรงๆ เพราะสุดจะทน ไหนจะเรื่องโดนเพื่อนผู้ชายคนอื่นล้อ แล้วมันยังมากวนตีนผมอีก

    “มึงก็ไม่เห็นต้องมีใครเลย...”

    “...”

    “มีกูเป็นเพื่อนคนเดียวก็พอแล้ว”

    “...”

    “กูเองก็มีมึงคนเดียวเหมือนกัน”

    “สัส นั่นเพราะมึงมันติสม์ ไม่เอาใครเองมากกว่า”

    “แล้วมึงจะมีเพื่อนเยอะๆ ไปทำไม น่ารำคาญ”

    “เอ้ออออ ไอ้คนเลือกคบเพื่อน ไอ้คนมีตัวเลือก”

    “แต่กูก็เลือกมึงไม่ใช่รึไง”

     

     

    เพราะมีเซฮุน ชีวิตมัธยมผมถึงไม่เหงา ผมรู้ตัวว่าผมเป็นแบบนั้นตั้งแต่ ม.ต้น และก็ไม่คิดว่าจะมีใครรู้ จนวันนึง ผมพูดกับเซฮุนว่าผมชอบผู้ชาย และมีคนได้ยิน... ไม่กี่วันต่อมาเพื่อนทั้งห้องก็รู้กันหมด แล้วผมก็โดนเพื่อนผู้ชายคนอื่นมองแปลกๆ แต่เซฮุนก็อยู่ข้างผมมาตลอด อาจเพราะว่าเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาล เซฮุนถึงได้ไม่รู้สึกรังเกียจ เหมือนที่คนอื่นรู้สึก... คนเกาหลีค่อนข้างจะแอนตี้เรื่องนี้มาก ผมเข้าใจนะ เพราะสังคมของเรายังไม่เปิดกว้างขนาดนั้น

    วันไหนที่ผมไปโรงเรียน เซฮุนก็จะมาโรงเรียนเสมอ ถึงมันจะเป็นพวกเด็กเกลียดโรงเรียนชอบทำตัวเหมือนเด็กมีปัญหา แต่ถ้าผมโทรไปตามมันก็มาทุกครั้ง

     

    อย่างน้อยทุกครั้งผมก็มีเซฮุนอยู่เคียงข้างเสมอ

    ผมถึงไม่อยากเสียเพื่อนคนนี้ไป...                 

     

    ไม่ต้องแปลกใจนะครับว่าทำไมผมชอบผู้ชายแล้วผมถึงไม่หลงรักเซฮุนทั้งๆ ที่เซฮุนดีกับผมขนาดนี้ ก็เพราะว่ามันเป็นเพื่อนคนเดียวของผมยังไงล่ะ ผมอยากให้เราเป็นเพื่อนกันแบบนี้ตลอดไป

     

    ไม่ผิดใช่ไหมครับ ที่ผมจะเลือกเพื่อนคนนี้ ที่ผมแคร์มัน

    แคร์มากกว่าความรู้สึกของตัวเอง...

     

    ครืด... ครืด... ครืด...

    โทรศัพท์ของผมยังคงสั่นไม่หยุด สายเรียกเข้าจากคนเดิม คนที่โทรหาผมตั้งแต่เช้าและตอนนี้ก็ยังคงไม่หยุดโทร

     

    ครืด... ครืด...

    New message from คุณแฟน

    แบคฮยอน อยู่ไหน? ทำไมไม่รับโทรศัพท์พี่ พี่เป็นห่วง เป็นอะไรรึเปล่า? เห็นแล้วโทรกลับด้วยนะครับ

     

    พออ่านจบน้ำตามันก็ไหลออกมาแบบไม่ขาดสาย ตอนนี้ท้องฟ้ามืดสนิทแล้วแต่ฝนก็ยังไม่หยุดตก ผมนั่งลงที่บันไดหน้าตึกก่อนจะกดส่งข้อความไปหาอีกคน ผมควรจะตัดสินใจเด็ดขาดสักที

     

    Sending message to คุณแฟน

    พี่ครับ... เราเลิกกันเถอะ...

     

     

     

     

    “ขอโทษ... ผมขอโทษ...”

    ผมได้แต่พึมพำเบาๆ แม้รู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ยินสิ่งที่ผมพูด แต่ผมก็ยังอยากที่จะพูดมันออกมา...

    “พี่ครับ... ผมขอโทษ...”

     

     

     

     

     

     

    สุดท้ายผมก็เดินตากฝนเดินกลับมา...

    “ทำไมเดินตากฝนกลับมา”

    เซฮุนที่อยู่ในห้องอยู่ก่อนแล้วนั่งจ้องผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมเดินเข้ามาในห้องโดยที่ไม่ตอบอะไร ผมยักไหล่ก่อนจะพยายามยิ้มแบบกวนๆ แต่ผมว่าเซฮุนก็คงดูออกว่าผมฝืน

    “...”

    “มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่เปียกฝน”

    ร่างสูงพูดพร้อมกับเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วโยนมาคลุมหัวผมเอาไว้

    “...”

    “มึงบอกให้กูเป็นเหมือนเดิม แล้วทำไมมึงไม่เป็นเหมือนเดิมล่ะ”

    อีกฝ่ายพูดพร้อมกับใช้ผ้าเช็ดตัวยีผมให้ผม ผมยืนนิ่งอยู่อย่างนั่น กลัว... กลัวว่าตัวเองจะร้องไห้ออกมา ทั้งๆ คิดว่าระหว่างทางที่เดินตากฝนกลับมาก็ร้องไห้มามากพอแล้ว คิดว่าจะเข้ามาในห้องแล้วทำตัวเป็นปกติได้ แต่ผมก็ทำไม่ได้

     

    ครืด... ครืด... ครืด...

     

    “นี่มึงเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วเดินตากฝนมาเนี่ยนะ เดี๋ยวแม่งก็พังหรอก โชว์โง่อีกละ”

    เซฮุนดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงของผม แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็นว่าเป็น... พี่ชานยอล...

    และนั่นก็ทำให้น้ำตาผมไหลออกมาอีกครั้งทั้งที่ผ้าเช็ดตัวยังคลุมหัวผมอยู่ ผมไม่รู้หรอกว่าตอนนี้สีหน้าของเซฮุนเป็นยังไง รู้แค่ว่าตัวผมกำลังสั่น ผมพยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมา ผมพยายามแล้ว... ผมกลั้นเสียงสะอื้นไว้จนตัวผมสั่นไปหมด

    ดูเหมือนว่าเซฮุนจะกำลังดึงผ้าเช็ดตัวที่คลุมหัวของผมอยู่ออก แต่ผมก็ยกมือขึ้นไปจับเอาไว้ ไม่ให้อีกฝ่ายดึงออก ไม่อยากให้เซฮุนเห็น ผมรู้ว่าน้ำตาของผมคงทำให้มันรู้สึกแย่

    เซฮุนดึงผมเข้าไปกอดทั้งอย่างนั้น ร่างสูงกอดผมแน่นพร้อมกับพูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา...

    “เป็นกูไม่ได้หรอ... ให้เป็นกูไม่ได้หรอ...”

    ผมไม่สามารถตอบอะไรออกไปได้ ได้แต่ร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของเพื่อนคนนี้เท่านั้น

    ผมปล่อยมือจากผ้าเช็ดตัวแล้วทิ้งแขนลงที่ข้างตัว ก่อนที่อีกฝ่ายจะค่อยๆ ดึงผ้าเช็ดตัวที่คลุมหัวผมออก

    “แบคฮยอน มึงให้กูเป็นคนนั้นไม่ได้หรอ...”

    “...”

    น้ำตาผมยังคงไหลรินออกมาไม่ขาดสาย ผมเสียใจ... เสียใจที่กำลังทำร้ายเพื่อนตัวเองเพราะผมทำตามที่มันขอไม่ได้ เสียใจที่ทำร้ายใครอีกคน คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย...

    แล้วร่างสูงก็โน้มหน้าลงมาประกบปากจูบผมเพียงเบาๆ ทั้งๆ ที่น้ำตาของผมยังคงไหลอยู่อย่างนั้น...

     

     

     

     

     

     

    TBC.

    โอ้ยเครียด T_T เขียนแล้วก็เครียด

    มันไม่ควรจะมาเป็นฟิคดราม่าแบบนี้เลย

    ฮืออออออออออออออออออออออ T_____T

     

     

    PS.       อาจจะรวมเล่มและเปิดจองเป็นพรีออเดอร์ ตอนแรกว่าจะเอาไปลงขายแค่งานฟิค

    แต่ตอนนี้ลังเลใจนิดหน่อย  แต่ยังไงก็ต้องดูกระแสฟิคก่อนอยู่ดี (_ _)

    มีข้อเสนอแนะอะไรยังไงคอมเมนต์ไว้หน่อยนะคะ

    ประมาณว่าซาวเสียงรีดเดอร์ก่อน #เลิฟยู #แต้งยู

    PS2.     เพื่อนบอกให้เราสร้างแท็กไว้เซิร์ชดูกระแสฟิค แต่เราคิดไม่ออก

                ตอนแรกกะเอา #อมช แต่มันเหมือน แอดมอเชียงใหม่อะ 5555555

                จนตอนนี้ก็คิดไม่ออก วอนรีดเดอร์ช่วยคิดหน่อยนะคะ (กราบ)

    PS3.     บ่นยาวไปหน่อย เค้าขอทอดนะตะเอง #เลิฟอะเกน

    THE★ FARRY 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×