ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - ( e x o f i c ) - A D M I SS I O N - ( c h a n b a e k ) -

    ลำดับตอนที่ #10 : - ( a d m i s s i o n 2 0 1 3 ) - w h e n i f o u n d m y a i r

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.64K
      2
      5 ต.ค. 56

     

     

     

    Title : Admission at Heart 

    Auther : แซมซมูเอล

     

     

     

     

    สุดท้ายผมก็ทำได้แค่ปล่อยเซฮุนมันไป (ไปไหนก็ไม่รู้ เรื่องของมันเถอะ เชอะ...) แล้วเดินคอตกกลับมาที่ร้าน

    พอกลับมาที่ร้านก็เห็นแค่พี่ชานยอลกับพี่เจสสิก้า

    “จงอินกับลู่หานไปแล้วหรอครับ”

    พอพูดชื่อลู่หานที่ไรผมรู้สึกตะหงิดๆ ในใจทุกที ชื่อมันคุ้นๆ แต่ผมนึกไม่ออกว่าเคยได้ยินที่ไหน

    “อื้ม เห็นบอกว่าต้องรีบกลับหอ เหมือนจะมีโปรเจคการบ้านอะไรสักอย่าง”

    “หรอครับ...”

     

    ตอนนี้ผมนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพี่ชานยอล เพราะข้างๆ พี่เขามีคนนั่งอยู่แล้ว คนๆ นั้นก็คือสาวสวยที่ลูกพี่ลูกน้องนั่นเอง

    “แบคฮยอนที่เป็นรุ่นน้องที่คณะเธอหรอชานยอล”

    พี่เจสสิก้าถามแทรกขึ้นมา

    “อืม เป็นน้องภาคเลยแหละ”

    “หมายถึงเรียนโยธาเหมือนนายใช่ไหม”

    “นั่นแหละ”

    “แล้วเป็นคนพิเศษของนายด้วยรึเปล่า?”

    โอ้โห... ถามได้แบบ... ผมทำหน้าไม่ถูกเลยครับ พอเจอคำถามนี้เข้าไป

    “ใช่ ประมาณนั้นแหละ”

    “ประมาณนั้น?”

    พี่เจสสิก้ายังคงจี้ถามต่อ

    “ก็...”

    “ผมเป็นน้องรหัสของเพื่อนพี่เขาน่ะครับ เราก็เลยค่อนข้างจะสนิทกัน”

    ผมแทรกตอบขึ้นไปขณะที่พี่ชานยอลกำลังจะตอบ ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไรหรอกนะครับ แต่พี่เจสสิก้าเขาเป็นถึงญาติพี่ชานยอลเลยนะ ผมยังไม่พร้อมกับการเปิดตัวให้คนทางบ้านพี่ชานยอลเขารู้ ผมกลัวทำตัวไม่ถูก T_T

    แต่เหมือนพี่ชานยอลจะไม่เข้าใจสิ่งที่ผมคิด เพราะพี่เขาหันมาจ้องหน้าผมทันทีหลังจากที่ผมพูดออกไป ผมเลยหงุดหน้าก้มลงมองโต๊ะอาหาร ตอนนี้ไม่กล้าจ้องตาด้วยหรอกครับ รู้สึกเหมือนทำความผิดเลย Orz

    “อ้อหรอ ก็นึกว่าเป็นอะไรที่มากกว่านั้น”

    “...”

    “...”

    “ทำไมพวกเธอสองคนเงียบกันล่ะ หรือว่าฉันพูดอะไรผิด”

    ไม่ได้พูดอะไรผิดหรอกครับ แต่มันจี้ใจดำสุดๆ

    “เธอหิวไม่ใช่หรอ รีบกินสิ”

    พี่ชานยอลพูดแบบดุนิดๆ เหมือนตอนนี้พี่เขาไม่ค่อยสบอารมณ์ซักเท่าไหร่ เพราะเรื่องที่ผมไม่ยอมบอกพี่เจสสิก้าว่าเราเป็นแฟนกันรึเปล่านะ

    “ค่ะ ที่รัก...จะรีบกินเดี๋ยวนี้แหละค่ะ แล้วเธอต้องพาฉันไปเที่ยวต่อด้วยนะ ฉันอยากเจอเพื่อนๆ ของเธอ คิดถึงแทมินที่สุด!

    พี่เจสสิก้าพูดออกมาแบบขำๆ ตรงกันข้ามกับผมที่ตอนนี้ได้แต่นั่งนิ่งครับ พูดก็ไม่กล้า กินก็ไม่กล้า จะหายใจยังไม่กล้าเลย กัดลิ้นตายตอนนี้เลยได้ไหม ฮือออ T_T

     

     

    ***************************************************************************

     

     

    “ไม่ไปด้วยกันหรอ”

    พี่ชานยอลกำลังรบเร้าให้ผมไปเที่ยวกับเขาต่อ ผมไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่เลยครับ อยากกลับหอจะแย่

    “นั่นสิไปด้วยกันเถอะ”

    นี่ก็อีกคน... พี่เจสสิก้าเองก็เช่นเดียวกัน ตอนนี้พี่สาวคนนั้นกำลังเกาะแขนแฟนผมแจเลยครับ ผมรู้ว่าผมไม่ควรหึงเพราะยังไงเขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่นั่นแฟนผมนะ มีผู้หญิงมากอดแขน จะให้ผมไม่รู้สึกอะไรเลยได้ยังไง Y_Y

    “ไม่ไปดีกว่าครับ ไปผมก็ไม่รู้จักใคร”

    “แทมินก็อยู่ ไปด้วยกันเถอะ จะรีบกลับไปทำไม หรือว่ามีอะไร?”

    พี่ชานยอลถามด้วยน้ำเสียงสงสัยที่ดูจะตัดพ้อนิดๆ ด้วย

    คือจริงๆ ผมอยากกลับไปที่หอ เพราะอยากรู้ว่าวันนี้เซฮุนมันกลับมานอนที่หอรึเปล่า... แต่ก็ไม่กล้าที่จะบอกออกไปแบบนั้น

    “เปล่าครับ”

    เฮ้อ ลำบากใจจังเลยครับ

    “งั้นก็ไปด้วยกันนี่แหละ ไปทำความรู้จักรุ่นพี่ไว้เยอะๆ สิ มีอะไรจะได้ปรึกษา”

    พี่เจสสิก้าเสริม... มากันเป็นขบวนการ แล้วแบบนี้ผมจะปฏิเสธยังไงได้ล่ะ โถ่...

    “ก็ได้ครับ”

    สุดท้ายผมก็ตอบตกลงไปจนได้...

     

     

    **************************************************************************

     

     

    “จำตอนนั้นได้ป้ะ ที่เราไปขอเข้าห้องน้ำที่เซเว่นกันตอนตีสี่ ที่เรากลับจากผับ แล้วแถวนี้ร้านค้าเขาปิดกันหมดแล้ว ปั๊มก็ไม่มี โคตรจะชนบท เลยบากหน้าไปขออ้วกในห้องน้ำเซเว่น” <<< พี่แทมิน

    “เออ 555555 ที่พนักงานเขาบอกว่าไม่ได้ๆ แล้วฉันบอกว่าถ้าไม่ให้เข้า ฉันจะอ้วกหน้าเคาน์เตอร์” <<< พี่เจสสิก้า

    “55555555 จำได้ๆ ที่พนักงานทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สุดท้ายก็ต้องให้เธอเข้าจนได้” <<< พี่ซูจอง

    “บอกตรงๆ ว่าวันนั้นโคตรอาย” <<< พี่ชานยอล

    ทุกคนคุยกันแบบออกรสออกชาติมากครับ ผมได้แต่นั่งฟังแล้วก็ขำตามๆ เขาไป แต่จริงๆ ก็ไม่รู้เรื่องหรอก เหมือนมานั่งเป็นไม้ประดับฉาก

    “เบื่อหรอ”

    ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ผม ซึ่งนั่นก็คือแฟนผมหันมาถาม เรานั่งจับมือกันอยู่ตั้งแต่มานั่งที่ร้าน เพราะเรานั่งอยู่ติดกัน ส่วนพี่เจสสิก้าก็ไปนั่งอยู่ข้างๆ พี่ซูจอง พี่สาวเขาดูไม่ได้สนใจเราทั้งคู่ซักเท่าไหร่ ผมเลยปล่อยให้พี่ชานยอลทำตามใจชอบ

    “นิดหน่อยครับ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยนี่นา”

    ผมบอกอีกฝ่ายไปตรงๆ พี่ชานยอลเลยเปลี่ยนจากจับมือมาโอบเอวผมแทน ผมพยายามแกะมือพี่เขาออก จนผมสงสัยว่านี่มือหรือปลิง จะเกาะแน่นอะไรขนาดนี้ แกะเท่าไหร่ก็ไม่ออกซักที

    “พะ... พี่ครับ เดี๋ยวคนอื่นก็เห็นหรอก”

    “เห็นก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”

    เป็นสิ ผมเขินนะ TvT

    และก็เป็นอีกครั้งที่ผมปล่อยให้อีกคนทำตามใจชอบ เอาเถอะ ตอนนี้พี่ๆ คนอื่นๆ ก็ดูกรึ่มๆ กันแล้ว กินกันไปจะหมดกลมอยู่ละ ก็ควรจะเมาได้แล้วแหละ

    ผมจะบาปไหมที่ผมอยากให้พี่ชานยอลเมาหลับแล้วคอพับไปเลย จะได้หยุดมือไม้ปลาหมึกซักที T_T

    “แบคฮยอน เรียนเป็นไงบ้าง”

    พี่แทมินหันมาสนใจผม เมื่อสาวๆ ลุกไปเข้าห้องน้ำ ทั้งโต๊ะเลยเหลือพวกเราอยู่แค่สามหนุ่มสามมุม

    “ก็เรื่อยๆ อะครับ เปิดเทอมแรกๆ ก็เหนื่อยหน่อย เหนื่อยตรงต้องตื่นเช้าอะครับ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามาเรียนมหาลัยแล้วจะต้องตื่นเช้า”

    จริงๆ นะครับ ผมคิดมาตลอดเลยว่าพอเข้ามหาลัยแล้วมีแต่เรียนสายบ่ายเย็น แต่พอมาเจอจริงๆ แล้ว บางวิชาเรียนแปดโมงเช้า! โฮ... แทบทรุด

    “เดี๋ยวยังมีอีกเยอะ ยังไม่เจอนัดเรียนชดเชย เรียนเช้ายังไม่เจ็บเท่าเลิกเรียนเกือบสี่ทุ่ม”

    โห! ขนาดนั้นเลยหรอ!

    “ถ้าผมเจอแบบนั้นผมคงกัดลิ้นตาย”

    “5555555555555555555”

    “มึงก็อย่าขู่น้องสิ เดี๋ยวก็หมดกำลังใจเรียนกันพอดี”

    พี่ชานยอลเสริมแบบติดตลก ผมเองก็ขำไปกับเขาด้วย แต่ถ้าต้องเรียนหนักขนาดนั้นจริงๆ ผมคงคลั่งอะครับ (อันนี้ตลกไม่ออก T-T)

    “แล้วนี่... คบกันแล้วใช่ไหม?”

    อยู่ดีๆ พี่แทมินก็ถามขึ้นมา ไหงเปลี่ยนเรื่องกันซะดื้อๆ แบบนี้เลยล่ะ พอโดนถามแบบนี้ผมก็ไม่กล้าตอบ จะบอกว่าไม่ใช่ก็กลัวคนข้างๆ จะงอนเอา เลยส่งสายตาไปมองคนข้างๆ ให้เขาเป็นคนตอบดีกว่า

    แต่คราวนี้พี่ชานยอลไม่ตอบครับ หันไปหยิบบุหรี่มาสูบ เหมือนจะแกล้งให้ผมเป็นคนตอบซะอย่างนั้น... แต่เอ๊ะ!

    พี่ชานยอลสูบบุหรี่ด้วยหรอ!

    “แค่ตอนดื่มน่ะ”

    พี่ชานยอลเหมือนรู้ว่าผมกำลังสงสัยเลยครับ เพราะพี่เขาหันมาพูดกับผมในขณะที่ปากก็คาบบุหรี่อยู่

    “หืม... ว่าไงล่ะ คบกันรึยัง”

    พี่แทมินมองหน้าผมกับพี่ชานยอลสลับกันไปมา ประมาณว่า ใครก็ได้ช่วยตอบกูหน่อย

    “ก็... ประมาณนั้นแหละครับ”

    ผมตอบแบบเขินๆ (. .)

    แต่ดูเหมือนจะทำให้คนข้างๆ ผมจะพอใจมากทีเดียว เพราะร่างสูงถึงกับยิ้มออกมาเมื่อได้ฟังคำตอบจากปากผม

    “ฮ่าๆๆ ชานยอล มึงนี่มันเดินงานไวจริงๆ”

    “มึงก็พูดไปเรื่อย เดี๋ยวแบคฮยอนก็เข้าใจผิดพอดี นี่มึงคงไม่เคยพูดอะไรเสียๆ หายๆ ให้แฟนกูฟังใช่ไหม”

    ปากหนาพูดพร้อมกับควันที่ลอยออกมาจากปาก...

    โอย ผมไม่เมาหรอกครับเหล้าเนี่ย ผมจะเมาควันบุหรี่พี่เขาเนี่ยแหละ

    ถึงผมจะดื่ม แต่ผมก็ไม่สูบนะ T_T

     

    คุณมาทำร้ายฉันทำไม... (ทำเสียงเหมือนในโฆษณา)

     

    “กลับกันเลยดีไหม”

    สองสาวกลับมาที่โต๊ะและชวนกลับ ทั้งคู่หน้าแดงมากเลยครับ ไม่เหมือนกับสองหนุ่มที่ยังดูชิวๆ สบายๆ ผมเองก็ยังดื่มต่อได้นะ ยังไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ (มั้ง)

    “อืม พี่ครับ เช็คบิลด้วยครับ”

    พี่ชานยอลหันไปเรียกพนักงานมาเช็คบิล วันนี้ผมดื่มฟรีครับ มีคนเลี้ยง ทั้งพี่รหัส แล้วก็... คุณแฟนด้วย ต่อไปนี้ถ้าพี่เขาชวนมาผมก็พร้อมมาละครับ ดื่มฟรีตลอดงานแบบนี้ ผมช๊อบชอบ -.-

     

     

    *****************************************************************************

     

     

    คืนนี้พี่เจสสิก้าไปนอนกับพี่ซูจอง ผมก็เลยกลับมากับพี่ชานยอลสองคน

    “ผมเข้าห้องแล้วนะ พี่ก็เข้าไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อยก่อนนอนด้วย!

    ผมพูดบอกออกแนวคำสั่งนิดๆ และหวังว่าพี่เขาจะทำตาม!

    “เซฮุนไม่อยู่หรอ”

    อยู่ดีๆ พี่ชานยอลก็ถามหาเซฮุน ทำเอาผมแอบสะดุ้งเบาๆ

    เรื่องที่เซฮุนชอบผม ผมคิดว่าพี่ชานยอลไม่ควรจะรู้ครับ ไม่ควรจะรู้อย่างยิ่ง! ผมกลัวว่าพี่เขาจะคิดมาก ผมอยากให้เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องระหว่างเพื่อนเคลียร์กันก็พอ มันน่าจะดีกว่าถ้าพี่เขาไม่รู้

    “เหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้นครับ”

    “งั้นพี่ขอเข้าไปหน่อยได้ไหม”

    แหนะ......................

    “ไม่ได้ครับ กลับห้องไปอาบน้ำแล้วนอนได้แล้ววว”

    ผมดันหลังพี่ชานยอลให้เดินไปที่ห้องของตัวเอง แต่พี่เขาก็ขืนตัวไว้แล้วหันกลับมากอดผมไว้ซะอย่างนั้น

    “พี่ครับ ดะ...เดี๋ยวมีคนมาเห็น”

    “ถ้างั้นก็เข้าห้องกัน”

    “พี่ก็กลับห้องพี่ไปสิครับ ผมก็จะเข้าห้องผม (. .)

     

    โอ้ย เขิน T_____________T ตัวจะแตกแล้วเนี่ย

     

    “อยากอยู่กับแฟน... วันนี้ไม่ได้คุยกันเลย คิดถึงจะแย่”

    “...”

     

    โอ้ยยยยยยย TvT

     

    “นะครับ ^^

     

    ทำไมต้องยิ้มแล้วทำน้ำเสียงแบบนั้นด้วยนะ บยอนแบคฮยอนคนนี้กำลังจะละลายลงไปกองกับพื้นทางเดินหน้าห้อง Y_______Y

     

    ร่างสูงดึงคีย์การ์ดในมือผมไปเปิด ประหนึ่งเป็นห้องตัวเอง แล้วก็ดึงผมเข้าไปในห้องอย่างถือวิสาสะสุดๆ

    “เตียงไหนเตียงแบคฮยอน?”

    “ติดผนังครับ (_ _)

    “ทำไมถึงเลือกเตียงติดผนังล่ะ”

    “ผมกลัวผี T_T

    “555555555555555555555555555555555555555”

    ขำดังเกินไปแล้ว ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าคนข้างห้องจะมาด่าเรา... เอ่อ... ไม่สิ คนข้างห้องเขามาอยู่ในห้องผมแล้วนี่นา... แล้วห้องผมเป็นห้องริมสุด ข้างห้องก็เลยมีแค่ห้องฝั่งขวาห้องเดียว orz

     

    “อ๊ะ!

    ผมตกใจหัวใจแทบวายตายเมื่ออยู่ๆ ร่างสูงก็ดึงผมเข้าไปกอด แล้วทิ้งตัวดิ่งลงนอนบนเตียง เลยกลายเป็นเราทั้งคู่นอนกอดกันอยู่บนเตียง...

     

    T/////////////////T

     

    “พะ...พี่ครับ... เล่นอะไรครับเนี่ย”

    “คิดถึงครับ”

    ฮือออออออออออ TvT

    บอกทำไมวันหลายๆ รอบเนี่ย ไม่ได้สงสารผมเลย อยากจะวิ่งเข้าไปในทุ่งข้าวสาลีแล้วระเบิดตัวเองจนกลายเป็นโกโก้ครั้นช์จริงๆ

    “ผมก็ไม่ได้ไปไหนสักหน่อย...”

    “ก็คิดถึงอะครับ อยากกอดให้หายคิดถึง”

    “แล้วกอดนานแค่ไหนถึงจะหายคิดถึงอะ”

    “อืม..... นั่นสิ ต้องกอดนานแค่ไหนน้า”

    ร่างสูงทำหน้าเจ้าเล่ห์พร้อมกับกอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิม

     

    TTTTTT vTTTTTT

     

    ทั้งเขินทั้งรู้สึกดี อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะครับ...

    จริงๆ แล้วผมก็ชอบให้พี่เขากอดเหมือนกัน!

    ใครจะไม่ชอบให้แฟนกอดกันล่ะ

    แต่มันก็เขินอะ TTTTwTTTT

     

     

    “ขอจูบหน่อยได้ไหม”

    =[]=!!!!!!!!!!!!!!!!

    ช็อคครับ อีกแล้วกับคำถามที่ไม่น่าถาม!

    “ไม่ให้ครับ... เหม็นบุหรี่ (. .)

    พอได้ยินคำตอบพี่ชานยอลก็ขำออกมาเบาๆ

    ทำไมขำล่ะ ผมพูดจริงๆ นะ TOT

     

    “ถ้าไม่มีกลิ่นบุหรี่ก็จูบได้ใช่ไหม?”

    ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อย!

    ฮืออออออออออออออออออ TvT

     

    “ไม่คุยด้วยแล้ว!

    “พาไปแปรงฟันหน่อยสิครับที่รัก”

    ร่างสูงพูดพร้อมกับดึงให้ผมลุกขึ้นและลากผมเข้าไปในห้องน้ำ

    “เอาจริงหรอครับเนี่ย...”

    “ก็ใช่น่ะสิ แปรงสีฟันของแบคฮยอนอันไหน พี่ใช้ได้ไหม?”

    “ดะ...ได้ครับ... อันนี้”

    ผมหยิบแปรงของผมให้พี่เขาไปและกำลังแอบคิดว่าตอนนี้เหมือนเราอยู่กันฉันท์สามีภรรยาเลยครับ ใช้แปรงสีฟันอันเดียวกัน

    พี่ชานยอลตั้งนานตั้งตาแปรงฟันมากครับ มือขวาแปรงฟัน มือซ้ายก็จับมือผมไว้ พี่เขากลัวผมจะหนีไปไหนรึไงนะ

     

     

    “แปรงเสร็จแล้ว จูบได้แล้วใช่ไหม...”

     

    ร่างสูงโน้มหน้ามาหาผมโดยไม่รอคำตอบพร้อมกับกระหน่ำจูบที่แก้มผมซึ่งตอนนี้มันคงเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อไปแล้วเรียบร้อย ทั้งเขินทั้งอาย ทำอะไรไม่ถูก พี่ชานยอลกระชับอ้อมแขนขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ใจผมเองก็เริ่มสั่นและหวั่นไหว เมื่อคนตรงหน้าเริ่มหยอกล้อกับร่างกายของผม มือหนาสอดเข้ามาตามสาบเสื้อบาง ลูบไล้เพียงแผ่วเบา แต่มันกลับทำให้ผมรู้สึกวาบหวาม จมูกโด่งกดลงที่ข้างแก้มก่อนจะเลื่อนลงมาคลอเคลียที่ซอกคอ

     --------------------> คลิก <--------------------

      











     

     

    TBC.

     

    ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และคำวิจารณ์

    เราชอบอ่านมาก เป็นกำลังใจที่ดีที่สุด!

    เราไม่ได้อยู่ มช น้า ~ เลิฟยู จุ๊บ! <3 

     

     

     THE★ FARRY

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×