คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : - ( a d m i s s i o n 2 0 1 3 ) - c l o s e f r i e n d
Title : Admission at Heart
Auther :แซมซมูเอล
ไม่เคยต้องทำแบบนี้มาก่อนเลย
ผมไม่เคยต้องทำแบบนี้มาก่อนเลยครับ
ไอ้การแอบย่องเข้าห้องตัวเองเนี่ย T_T
ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าฟ้าเริ่มสว่างแล้ว เลยควานหาโทรศัพท์มือถือหยิบมาดูถึงได้รู้ว่าเป็นเวลาตีห้ายี่สิบและช็อกอีกเมื่อเห็น 33 มิสคอล ตกใจหมดเลยครับ แอบคิดนิดๆ ว่ามีใครตายรึเปล่า แต่เห็นทีคงจะเป็นผมเนี่ยแหละครับที่ตาย พอเห็นว่าทั้ง 33 สายเป็นเบอร์เซฮุน ที่โทรหาผม ผมเลยนึกขึ้นได้ว่า...
เมื่อคืนไม่ได้กลับห้อง Orz
ผมคิดไม่ออกเลยครับว่าคราวนี้เซฮุนมันจะตราหน้าผมว่าเป็นมนุษย์ประเภทไหนอีก หลายครั้งผมคิดว่าผมเป็นครบทุกประเภทแล้ว แต่เซฮุนมันก็สามารถเสาะหาประเภทแปลกๆ มาให้ผมได้อย่างไม่เคยซ้ำกันเลย
ต้องปิดประตูเบาๆ เดินเบาๆ ค่อยๆ เดินไปเนียนนอนบนเตียงแล้วโกหกว่าเมื่อคืนกลับมาตอนมันหลับแล้วดีกว่า
“มึงกำลังทำอะไรอยู่แบคฮยอน มึงจะแอบเนียนนอนแล้วบอกกูว่ากลับมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วใช่ไหม”
ผมสะดุ้งสุดตัว เมื่อเดินไปถึงเตียงแล้ว กำลังจะมุดตัวเข้าผ้าห่ม แต่ไอ้คนที่นอนอยู่บนเตียงที่น่าจะหลับอยู่ร้องทักผมขึ้นมาได้ถูกต้องตรงกับความคิดผมสุดๆ
“มึง...ตื่นอยู่หรอ...”
“หลับอยู่มั้งเนี่ย”
อ่าว ไอ้สาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!
“กูถามดีๆ มึงก็กวนตีนกูทุกทีอะนะ”
“กูจะถือว่านั่นเป็นคำชมแล้วกัน”
กูเกลียดมึงจังเลยครับ =____=
“เมื่อคืนทำไมไม่กลับห้อง”
“....................” (ใบ้แดก)
“กูถาม ตอบ!”
ดูมันสิครับ โหดพอๆ กับพี่อี้ฟานเลย T_T
“ก็... กู... กูเผลอหลับ”
“ที่ไหน”
“ห้อง...พี่เขา...”
ผมตอบเสียงอ่อย ไม่กล้าพูดเต็มปากเต็มคำ เล่นหายไปนอนห้องเขาทั้งคืน ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วผมเป็นผู้ชายแบบไหนก็คงไม่เป็นไร ไม่เสียหายอะไร แต่นี่เป็นเซฮุน ผมเลยค่อนข้างจะแคร์สายตามัน ไม่อยากให้มันมองผมในแง่ร้ายๆ เซฮุนรู้ว่าผมชอบผู้ชายด้วยกัน รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ผมก็จำไม่ได้แล้ว เราเป็นเพื่อนกันมานานมากแล้วจริงๆ แต่ผมไม่รู้หรอกนะว่าเซฮุนชอบผู้หญิงหรือว่าชอบผู้ชาย เพราะมันดูไม่ใส่ใจกับเรื่องพวกนี้ซักเท่าไหร่ ไม่เคยเห็นมันพูดถึงใครให้ผมฟังเลย
“อืม”
“ขอโทษนะเว้ย ที่กูไม่ได้โทรบอกมึงอะ”
“เรื่องของมึงเถอะ กูจะนอนต่อแล้ว อยู่เงียบๆ ด้วย”
“เอ้า แล้วมึงจะถามกูทำไมล่ะ”
“กูบอกให้มึงอยู่เงียบๆ”
“เออ!”
เชอะ! ไอ้เราก็อุตส่าห์รู้สึกผิดคิดว่าทำให้เป็นห่วง!
คอยดูนะ ต่อไปจะไปไหนมาไหนไม่บอก มีอะไรก็ไม่เล่าให้ฟังแล้ว!
งอนครับงอน!!!!!
หลังจากกลับมาที่ห้องแล้วเซฮุนสั่งผมให้อยู่เงียบๆ ผมก็เงียบครับ เงียบไปเงียบมานอนกลิ้งไปกลิ้งมาหลับครับ ตื่นมาอีกทีก็บ่ายโมงกว่าแล้ว โชคดีที่วันนี้ไม่มีเรียน
แล้วเซฮุนมันหายหัวไปไหนแล้วล่ะ?
เดี๋ยวนี้ผมกับมันไม่ได้ตัวติดกันเหมือนแต่ก่อนแล้วครับ แต่ก็มีไปกินข้าวด้วยกันบ้าง แต่ก็ส่วนน้อย ส่วนใหญ่ก็ต้องไปกับพี่ชานยอลเขา รายนั้นเขาตามติดชีวิตผมสุดๆ
แต่มันทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมากเลยครับ (. .)
พอมีแฟนแล้วความรู้สึกมันเป็นแบบนี้นี่เอง
อยากอยู่ด้วยกันตลอดเวลา…
คิดไปก็เขินไป TTTTvTTTT
ครืด ครืด~
โทรศัพท์ผมสั่นเตือนได้ขัดจังหวะการเขินมาก
Engineering ParkChanyeol: ที่รักตื่นรึยัง
แหม่... นึกถึงปุ๊บก็ทักแชทเฟสมาปั๊บ (_ _)
Pecopong Bohyun: พึ่งตื่นครับ พี่ล่ะ ตื่นนานรึยัง
Engineering ParkChanyeol: ได้สักพักละ ที่รักกินอะไรรึยัง
ออกไปกินข้าวกันไหม
Pecopong Bohyun: อ่า... งั้นผมขอเวลาอาบน้ำล้างหน้าแปรง
ฟันสิบห้านาที
Engineering ParkChanyeol: โอเคครับ เคโระ!
YY_YY
เมื่อไหร่จะเลิกล้อผมสักทีนะ เอะอะก็เคโระๆ
ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่ถึงสิบนาทีแล้วรีบออกมาแต่งตัว พอเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็เจอกับเซฮุนที่กลับเข้ามาพอดี
เชอะ! ผมไม่ทักมันหรอก
มันจ้องหน้าผมครับ ผมก็จ้องหน้ามันเหมือนกัน
“มึงคิดจะอ่อยกูรึไง”
ห้ะ!!!
“อ่อยบ้าอะไรของมึง!”
เซฮุนไม่ตอบครับ แต่มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า...
อย่าบอกนะว่ามันหาว่าผมอ่อยเพราะผมนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ
“มึงบ้าป้ะเนี่ย อย่าทำเหมือนไม่เคยเห็นได้ป้ะ รู้จักกันมาตั้งกี่ปีแล้ว มึงเป็นไรป้ะเนี่ย ดูแปลกๆ”
“เปล่านี่ มึงกินไรยัง”
“ยังเลยอะ แต่เดี๋ยวจะออกไปกินข้างนอกกับพี่ชานยอล แล้วมึงอะ”
“..........”
เซฮุนเงียบครับ สีหน้าก็เปลี่ยนไป ตอนแรกก็ดูไม่ปกติเท่าไหร่อยู่แล้ว ตอนนี้เลยกลายเป็นไม่ปกติมากขึ้นไปอีก
มันเป็นอะไรวะครับ...
“กินมาแล้ว”
มันพูดเสร็จก็เดินเอาถุงข้าวกล่องไปวางไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือ
ข้าวกล่องหรอ??
ก็เมื่อกี้มันบอกว่ากินมาแล้วนี่นา งั้นข้าวกล่องนั้นมันก็ซื้อมาให้ผมหรอ?
“มึงซื้อข้าวมาฝากกูหรอ”
“อือ”
“กรรม โทษทีนะเว้ย กูนัดพี่เขาไว้แล้วอะ”
“มึงจะไปไหนก็ไปเถอะ เรื่องของมึง”
อะไรของมันนักหนาเนี่ย เดี๋ยวนี้มันพูดว่าเรื่องของมึงบ่อยเกินไปแล้วนะ
“มึงโกรธะอะไรกูป้ะวะ”
ผมถามไปใส่เสื้อผ้าไปแต่ก็ได้รับแค่ความเงียบเป็นการตอบกลับมา ตอนนี้ผมกำลังอึดอัดใจจังเลยครับ เซฮุนมันเป็นอะไรของมัน ผมรู้ครับว่ามันเป็นคนที่คิดอะไรแล้วไม่ค่อยพูด ปล่อยไว้เดี๋ยวก็หายเองแต่ผมก็ไม่เคยปล่อยให้มันหายเองหรอก ผมจะต้องรู้ให้ได้และช่วยมันแก้ปัญหาทุกครั้ง
“กูไปละนะ กลับเย็นๆ”
“จะไปก็ไปสักทีเถอะ บอกกูทำไม”
“มึงเป็นอะไรของมึงวะ”
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงของผมที่ถามออกไป ผมเลยไม่ได้รับคำตอบและต้องเดินไปเปิดประตู
“เสร็จรึยังครับจะได้ลงไปพร้อมกัน”
“เสร็จแล้วครับ เดี๋ยวผมไปหยิบกระเป๋าตังค์กับมือถือแป๊บนึง”
พี่ชานยอลมาได้ขัดจังหวะพอดีเลยครับ ผมยังไม่ได้คำตอบ เลย...
“วันนี้มึงจะออกไปไหนรึเปล่า”
ผมเดินมาหยิบของบนโต๊ะแล้วก็หันไปพูดกับเซฮุน
“ถามทำไม”
“กูถามก็ตอบมาเถอะน่า!”
“ทำไมกูต้องตอบ”
ดูมันสิครับดูมันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!
ผมอยากจะเอาเชือกรัดคอมันแล้วเหวี่ยงๆ ให้มันตายไปเลย
“กูจะไม่คุยกับมึงแล้ว!”
“อือ”
เซฮุนมันตอบหน้าตายด้านมากเลยครับ น้ำเสียงก็เฉยชา ผมว่าต้องมีอะไรแน่ๆ มันต้องมีเรื่องอะไรในใจแน่ๆ
“ไม่ต้องมาอือ เดี๋ยวกูกลับมาตอนเย็น กูว่าเรามีเรื่องต้องคุย กันละ”
สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายยอมอ่อนข้อให้ไอ้เพื่อนรัก
ผมเป็นห่วงมัน ผมอยากรู้ว่ามันกำลังมีเรื่องไม่สบายใจรึเปล่า
เพราะยังไง มันก็คือเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของผม
วันนี้พี่ชานยาลชวนผมดูหนังหลังจากกินข้าวเสร็จ พี่เขาบอกว่าอยากดู Iron Man 4 เราก็เลยเข้าดูหนังด้วยกัน คนแน่นโรงไปหมดเลยครับ นั่นคงเพราะหนังพึ่งเข้า แต่ว่าตรงที่นั่งผมเป็นที่นั่งแบบโซฟาเลยไม่ต้องไปแย่งอากาศหายใจกับใคร
จุ๊บ!
TTT_TTT เอาอีกแล้ว
นั่งดูหนังไปได้ซักพักก็หันมาจูบแก้มผม นี่รอบที่สามแล้วนะ ผมคิดผิดคิดถูกเนี่ยที่มันนั่งโซฟาเนี่ย
“พี่อยากดูหนังไม่ใช่หรอครับ ตะ...ตั้งใจดูหน่อยสิ...”
ผมหันไปพูดกับคนข้างๆ เบาๆ แต่ก็ได้รับแต่ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มหล่อๆ กลับมาประมาณว่า ‘นิดนึง’
พอหนังเริ่มเข้าฉากต่อสู้ดุเดือด พี่ชานยอลก็อยู่นิ่งๆ ได้สักที เหลือแต่มือของเราที่ยังสอดประสานกันอยู่จนมือผมชุ่มเหงื่อไปหมด
แต่แล้วสายตาเจ้ากรรมของผมก็ดันมองไปเห็นอะไรที่ไม่ควรจะเห็นเข้าจนได้... ที่นั่งข้างๆ ที่ห่างจากเราไปพอสมควร... พะ...พวกเขากำลังจูบกันอยู่
ดูดดื่มสุดๆ เลยด้วย...
โอ้ย หนังระเบิดอยู่ตูมๆ ยังมีอารมณ์มาทำอะไรแบบนี้อีกหรอ!
ผมหันหน้าหนีแต่ก็ยังมีแอบชำเลืองมองบ้าง ไม่ใช่อะไรนะครับ อยากรู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะหยุดจูบกันสักทีและนั่นทำให้ตอนนี้สมาธิผมไม่อยู่กับหนังเลยครับ เพราะดันมีหนังสดฉายอยู่ในโรงหนังฟิล์ม T_____T
เหมือนจะไม่ใช่ผมคนเดียวที่เห็น ผู้ชายข้างๆ ผมหรือแฟนผมเองก็เหมือนจะเห็นด้วยแล้วเหมือนกัน พี่เขาหันมามองหน้าผมทันที
“อย่าไปมองสิ” พี่ชานยอลกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูผม
“ผะ...ผมเปล่านะ”
มือหนาดึงผมให้ลงไปซบที่ไหล่หน้าก็จะยื่นมือมาปิดตาผมไว้...
ตอนนี้ผมหน้าแดงไปหมดแล้ว เขินแทนคนที่กำลังจูบกันอยู่
“เด็กๆ ไม่ควรเห็นอะไรแบบนี้”
ร่างสูงพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
“ผะ...ผมไม่ได้มองซักหน่อย”
ผมตีที่แผงอกอีกคนเบาๆ ทั้งที่โดนปิดตาอยู่
“นั่นแหละห้ามมองครับ เรื่องแบบนี้พี่เป็นคนสอนเองดีกว่า”
“ไม่เอา T_T ผมไม่ได้มองนะ อะ...เอามือออกเถอะครับ ปิดตาแบบนี้แล้วผมจะดูหนังยังไงเล่า”
“หึๆ...”
สิ้นเสียงหัวเราะผมสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากริมฝีปากอีกคนประกบลงมาที่ริมฝีปากผม เริ่มจากเบาๆ เป็นรุกหนักขึ้นเรื่อยๆ ผมพยายามเม้มปากไว้ไม่ให้ลิ้นร้อนเข้ามารุกรานภายในโพรงปาก แต่สุดท้ายผมก็ต้องเผยอปากขึ้น เมื่อมือหนาไล้สัมผัสเข้ามาภายในเสื้อและกำลังลูบไล้เล่นไปทั่ว...
ฮือออออ เมื่อไหร่หนังจะจบเนี่ย TTTToTTTT
และแล้วหนังก็จบจนได้ทั้งหนังสดและหนังฟิล์ม ผมแทบจะอกแตกตาย ไหนจะเขินเพราะฉากที่ดันเหลือบไปเห็นเข้า อีกทั้งคน ข้างๆ ที่การกระทำไม่ได้ยอมแพ้กันเลย
T___T เป็นการดูหนังที่ผมไม่ได้ดูหนังเลย
“ไม่ไปกับพี่แน่นะ”
ผมส่ายหน้าแทนคำตอบเมื่อพี่ชานยอลถามซ้ำอีกครั้ง หลังจากที่ตอนแรกคะยั้นคะยอชวนผมไปเที่ยวกับพี่เขาต่อ เห็นว่านัดกับเพื่อนไว้แถวๆ ข้างมอ แต่ผมไม่ไปดีกว่า เพราะไปก็ไม่รู้จักใครอยู่ดี อีกอย่างอยู่กับพี่เขานานๆ มีแต่เสียกับเสีย!
“โอเคครับ จะขึ้นห้องเลยใช่ไหม”
“ครับ พี่เองก็รีบกลับนะ”
“ครับผม จะรีบกลับ ให้พี่ขึ้นไปส่งไหม”
“ไม่ต้องหรอกครับ พี่รีบไปเถอะเดี๋ยวเพื่อนรอ”
“โอเค~”
ผมเปิดประตูลงจากรถแล้วหันไปยิ้มให้พี่เขาบางๆ และไม่ลืมกำชับอีกครั้งว่าให้รีบกลับ ก่อนจะเดินเข้าหอมา แต่พอขึ้นมาบนห้องก็พบว่าไม่มีคนอยู่ ผมก็เลยกดโทรออกหาเพื่อนสนิทผมทันที แต่ก็ไม่มี คนรับ...
มันไปไหนของมันนะ....
แอ๊ดดดดดดดด~
ผมนอนรอเซฮุนจนเผลอหลับไป รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่ไอ้เพื่อนรักมันเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้ว
“ไปไหนมาวะ”
“เรื่องของกู”
เอาอีกแล้ว มันเป็นอะไรของมันกันเนี่ย
ผมลุกขึ้นมานั่งและมองดูอีกคนที่เดินไปนอนบนเตียงโดยไม่ได้สนใจผมเลยสักนิด
“เซฮุน มึงมีอะไรทำไมไม่เล่าให้กูฟังอะ”
ผมกำลังคุยกับคนที่นอนหันหลังให้ผมอยู่ตอนนี้
เตียงของเราห่างกันพอสมควร เตียงห้องผมเป็นแบบเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุตสองเตียง ไม่เหมือนห้องพี่ชานยอลที่เป็นเตียงใหญ่ขนาดคิงไซส์ นั่นเพราะเราสามารถเลือกได้ตอนมาจองหอว่าจะเอาเตียงแบบไหน
“ก็เพราะมันไม่มีอะไรไง”
“ไม่มีอะไรบ้าอะไร ก็เห็นอยู่ชัดๆ ว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ”
ผมลุกและเดินไปนั่งที่เตียงมัน เผื่อมันกวนตีนอีกจะได้ตบ แรงๆ สักที
“มึงสนใจด้วยรึไง”
“ก็เออดิ ถ้ามึงไม่เล่าให้กูฟังแล้วมึงจะไปเล่าให้ใครวะเซฮุน เล่าออกมาบ้างก็ได้ เผื่อจะสบายใจขึ้น แล้วนี่มึงกินเหล้ามาหรอ”
ผมทำจมูกฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวอีกคน
“อือ”
“ไปกินกับใครวะ”
“เพื่อนภาค แล้วมึงจะถามอะไรกูนักหนา”
“กูจะถามจนกว่ามึงจะบอกนั่นแหละว่ามึงเป็นอะไร”
“...”
เซฮุนเงียบแทนคำตอบ
“มะ...”
“มึงจำได้ไหมว่ามึงเคยถามกูว่าชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย” เซฮุน พูดแทรกขึ้นมาระหว่างที่ผมกำลังจะเซ้าซี้มันต่อ
“จำได้ๆ ทำไมวะ มึงเจอคนที่ชอบแล้วเหรอ”
“อือ”
“เขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายวะ”
“...”
“เห้ย! มึงบอกดิ กูอยากรู้ ใจจะขาดแล้วเนี่ยยยยย”
ตอนนี้ท่าทางผมคงดูสะดีดสะดิ้งน่าดู แต่ผมไม่สนใจหรอก ผมอยากรู้จะตายอยู่แล้ว ว่าเพื่อนรักผมมันไปพบรักกับใครเข้า >w<
“...”
“เซฮุน บอกกูหน่อยยยยยยยยยย”
“...”
“...”
และแล้วผมก็ได้คำตอบจากปากเซฮุน
แต่นั่นมันกลับทำให้ผมพูดอะไรไม่ออก
“เขาคือมึง”
TBC.
THE★ FARRY
ความคิดเห็น