คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : - ( a d m i s s i o n 2 0 1 3 ) - ค ว า ม ลั บ แ ต ก
Title : Admission at Heart
Auther : แซมซมูเอล
1 เดือนผ่านไปไวกว่าแสง
นับจากวันนั้น วันที่ผมตกลงคบกับพี่ชานยอลนี่ก็ผ่านมา 1 เดือนแล้ว...
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของผมดำเนินมาได้ด้วยดี เพื่อนผมไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่พี่ชานยอลชอบลากผมไปนู่นนี่นั่น ทุกๆ เย็น จะว่าไม่ดีก็ไม่เชิงนะครับ แต่ผมค่อนข้างงุ้งงิ้งนิดนึงเวลาถูกลากไปไหน ไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ ก็เพราะผมกลัวว่าความลับจะแตกนี่ครับ...
ความลับของเราสองคนที่ยังไม่ได้บอกใคร เรื่องที่เราคบกัน ตอนแรกก็ไม่คิดจะปิดเป็นความลับอะไรหรอกครับ พี่ชานยอลก็อยากจะเปิดตัวผมเต็มที่ แต่ผมขอร้องพี่เขาไว้ว่าอย่าเพิ่งให้ใครรู้ โดยให้เหตุผลไปว่าผมยังไม่พร้อม T^T
ก็มันน่าเขินออกนี่นา T_____T
ผมไม่เคยมีแฟนมาก่อน ถ้าเซฮุนรู้เรื่องมันต้องด่าผมแน่ๆ และถ้ามันรู้นะ พี่อี้ฟานก็คงต้องรู้แน่ๆ ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วถ้าพี่อี้ฟานรู้เขาก็คงไม่ว่าอะไรมาก แค่บ่นๆ แต่ผมก็ไม่กล้าอยู่ดีนั่นแหละ
Rrrrrrrrrrr
“ฮัลโหล”
< มึงอยู่ไหนเนี่ย >
“เพิ่งเรียนเสร็จ กำลังจะกลับหอ”
< เออ รีบ ๆ กลับ >
พูดจบฝั่งนั่นก็ตัดสายไปซะเฉยๆ ไม่ปล่อยโอกาสให้ผมได้ถามเลยว่ามีอะไรรึเปล่า ผมเบื่อมันจริงๆ ไอ้เพื่อนผู้เป็นที่รักของผมเนี่ย
อ๊ะ!!!
ผมร้องและสะดุ้งสุดตัว เมื่ออยู่ๆ ก็โดนกอดจากข้างหลัง มือถือแทบร่วง T^T ไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้วว่าใคร คนที่กล้าทำแบบนี้คงไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ
“พี่อย่าเล่นแบบนี้สิครับ ผมตกใจหมด (_ _)”
ผมบ่นเบาๆ แต่อีกคนกลับทำตรงกันข้ามกับที่ผมพูด กอดผมแน่นกว่าเดิม แถมหอมแก้มฟอดใหญ่อีกต่างหาก
ช่วยด้วยผมโดนรังแก T^T
“ไม่เล่นแบบนี้แล้วเล่นแบบไหนดีล่ะ”
ร่างสูงคลายกอดออกพร้อมกับจับผมหันหน้าไปหาพี่เขา บนใบหน้าของพี่เขาฉายแววไม่น่าไว้วางใจอย่างมากถึงมากที่สุดครับ
“มะ...ไม่เอาสักแบบเลยครับ”
กลัวจังเลยครับ...
กลัวหัวใจวายตาย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ผมก็ไม่กล้าจ้องหน้าจ้องตากับผู้ชายคนนี้นาน ๆ สักที!!
“คืนนี้ไปเที่ยวกันนะ”
“หา -[]-!! ไปไหนครับ”
“ไปไหนก็ได้ที่แบคฮยอนอยากไป”
“เอ่อ... ผมก็ไม่รู้จะไปไหนเหมือนกันอะ”
พี่ชานยอลถือวิสาสะดึงมือผมไปประสานกับมืออุ่นๆ ของพี่เขา ก่อนจะออกแรงลากผมนิดๆ เพื่อให้ผมเดินตาม
“รู้ใช่ไหมว่าวันนี้เป็นวันพิเศษ... เราคบกันมา 1 เดือนแล้วนะครับ”
“ระ...รู้ครับ”
โอ้ยเขิน TTvTTT
ทำไมต้องพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นแบบนี้ด้วยล่ะครับ พูด ธรรมดาๆ ผมก็เขินจะแย่แล้ว แทนที่พอเป็นแฟนกัน สนิทกันมากขึ้น ผมจะชินกับความน่าหลงใหลของพี่เขา แต่เปล่าเลย ยิ่งเจอยิ่งเขิน ยิ่งทำตัวไม่ถูก
“เมื่อไหร่พี่ถึงจะบอกคนอื่นได้ว่าเราคบกันอยู่ หืม? พี่อยากพาแฟนพี่ไปเปิดตัวจะแย่แล้วนะครับ”
“อ่า...”
ผมตอบไม่ถูกเลยครับ T-T
“อย่าทำหน้าแบบนั้น” พี่ชานยอลยกมือขึ้นมาหยิกแก้มผมเบา ๆ
“...T_ T”
“พี่ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แค่ถามดู เผื่อว่าเราจะหายกลัวแล้ว”
“พี่ครับ...ไม่ใช่ว่าผมไม่มั่นใจในตัวพี่หรืออะไรหรอกนะ แต่ผมไม่มั่นใจตัวเองต่างหากว่าจะวางตัวต่อหน้าคนอื่นถูกไหม ผมกลัวคนอื่นมองผมแปลก ๆ อะ”
“แคร์หรอ?”
“โถ่... แคร์สิครับ Y _Y”
“แคร์มากกว่าแคร์พี่รึเปล่า?”
“เอ่อ..................... (ติดสตั๊นสิบวิ)”
“ว่าไง? หืม?”
“มากกว่า...”
“มากกว่า????”
“ผมแคร์พี่มากกว่าครับ (. .)”
อยากจะร้องไห้ เจอคำถามนี้เข้าไปถึงกับแดกจุด
แต่จะว่าไปมันก็จริงอย่างที่พี่เขาพูดนะ บางทีผมก็ไม่ควรแคร์แต่สายตารอบข้างกับความรู้สึกของตัวเอง ทำแบบนี้เหมือนผมไม่แคร์ความรู้สึกของพี่เขาเลย เป็นแฟนกันแล้วต้องมาปิดบัง บางทีไม่เป็นอาจจะรู้สึกดีกว่าซะอีกสินะแบบนี้
“ขะ...ขอโทษครับ”
“ขอโทษทำไม”
พี่ชานยอลขมวดคิ้วแล้วมองหน้าผม เมื่ออยู่ดีๆ ผมก็พูดว่าขอโทษออกไปซะอย่างนั้น
“เถอะน่า เอาเป็นว่าผมขอโทษก็แล้วกัน (. .)”
“ฮ่าๆๆๆๆ โอเค ขอโทษก็ขอโทษ พี่ยกโทษให้ก็ได้ แต่...”
“แต่...?”
ร่างสูงหยุดเดินพร้อมกับดึงผมให้หยุดเดินด้วยเช่นเดียวกัน...
“ขอ...”
“มะ... มะ... ไม่ได้ครับ”
“ยังไม่ทันบอกเลยว่าขออะไร ก็ไม่ได้ซะแล้ว”
“ถึงไม่บอกผมก็รู้อยู่แล้วล่ะว่าขออะไร มันสื่อออกมาทางหน้าทางตาพี่ซะขนาดนั้นอะ”
“แค่ขอหอมแก้มอีกทีนึงเอง”
“ก็...ไม่ได้อยู่ดีครับ”
“แค่หอมแก้มเองทำไมไม่ได้ มากกว่านี้ก็...”
“ห้ามพูดถึงเรื่องนั้นนะ TOT”
“โอ๋ๆ หยอกเล่น ฮ่าๆๆๆๆ”
ไม่อยากคุยด้วยแล้ว T _T
เวลาพูดถึงเรื่องนี้ทีไร มันรู้สึก...
หมดแรง OTL
ผมหมายถึงเรื่องที่เราจูบกันครั้งแรกนะครับ คงยังไม่ได้คิดกันไปไกลใช่ไหม TTvTT
ผมยังจำความรู้สึกนั้นได้จนตอนนี้ ความรู้สึกที่เหมือนกับว่าผมกำลังโดนดูดพลังวิญญาณ ร่างแทบจะร่วงลงไปกองกับพื้น ผมพูด จริงๆ นะ ตอนนั้นผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ นะครับ Y_Y
“สรุปวันนี้เราจะไปไหนกันดี”
พี่ชานยอลถามหลังจากเราทั้งคู่ขึ้นมานั่งบนรถ อ้อ... ผมลืมบอกไปอย่างนึง ตอนนี้พี่ชานยอลเปลี่ยนมาขับรถยนต์แล้วนะครับ ตอนแรกผมก็งงๆ ว่าอยู่ดีๆ ทำไมเปลี่ยนสไตล์ รู้ไหมครับว่าพี่เขาให้เหตุผลกับผมว่าอะไร
“กลัวแฟนเป็นห่วง”
ผมเลยทำหน้าเบะใส่พี่เขาไปทีนึง พี่เขาก็เลยให้เหตุผลใหม่ เป็นเหตุผลที่ฝั่งแล้วผมหัวใจเต้นโครมครามเหมือนภูเขาไฟใกล้ระเบิด
“เพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบายของแฟน”
ถึงขั้นลงทุนเปลี่ยนรถ รถก็ใช่ว่าจะราคาถูกๆ ถึงผมจะไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวเรื่องรถสักเท่าไหร่ แต่ผมก็พอจะดูออกว่ามันต้องแพง มากๆ แน่ ๆ
มีแฟนรวย แอบภูมิใจนิด ๆ แฮะ ( _ _)
“เฮ้! ได้ยินที่พี่พูดรึเปล่าครับ”
“ครับๆ อะไรนะครับ”
“คิดอะไรอยู่เนี่ย ไม่ฟังที่พูดเลยนะ”
“โอ้ยๆๆ”
คนว่าไม่ว่าเปล่า ยื่นมือมาดึงแก้มผมอีกต่างหาก T_T
“สรุปวันนี้เราจะไปไหนกันดี?”
ผมค่อยๆ แกะมืออีกคนออกจากแก้ม เพื่อที่จะพูดได้สะดวกๆ ไม่รู้ว่าพี่เขาเป็นอะไรกับแก้มผมมากรึเปล่า เดี๋ยวดึง เดี๋ยว... เอ่อ... หอม ><
“กลับหอก่อนได้ไหมครับ เมื่อกี้เซฮุนโทรมา ไม่รู้ว่ามีอะไรรึเปล่า”
“เอางั้นก็ได้ ไปตั้งหลักที่หอก่อนแล้วกัน”
ตามใจผมทุกอย่างเลย... ทำไมน่ารักแบบนี้นะ!!!
ตอนนี้ผมเองก็อยากบอกคนอื่นเหมือนกันนะ ว่าผู้ชายคนนี้เป็นแฟนผมอะ!
TTTTTTTTTTTvTTTTTTTTTTT
“พี่ชานยอลครับ...”
“หืม?”
“ผมตัดสินใจแล้วว่า... ระ...เรื่องของเราไม่ต้องปิดบังอีกต่อไปแล้วครับ...”
“...” พี่ชานยอลเงียบ
“...” ผมเงียบ
“...” พี่ชานยอลเงียบ
“พี่พูดอะไรบ้างสิครับ ผมเขินนะ T _T” ผมทนเงียบไม่ได้แล้ว ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย! เหมือนผมกำลังบอกพี่เขาว่า ‘พี่ครับ เราเป็นสามีภรรยากันตามกฎหมายแล้วนะครับ’
ฮือออออออออออออออออออ Y _Y เขินจังเลยครับ
“พี่รอวันนี้มานานแล้วครับ เวลาแค่หนึ่งเดือนนานเหมือนสิบ ปีเลย”
พี่ชานยอลระบายยิ้มออกมาบางๆ นั่นยิ่งทำให้ผมเขินเข้าไปใหญ่ สรุปเหมือนผมขอพี่เขาเป็นแฟนเลยครับ Orz
“งั้นก็เริ่มจากการพาพี่ไปเปิดตัวกับรูมเมทเราเลยดีไหม”
“หา!!! เซฮุนน่ะหรอครับ”
“ครับ คนนั้นแหละ พี่อยากรู้จัก”
“มันต้องด่าผมว่าผมใจง่ายใช้ร่างกายเปลืองแน่ๆ”
“เดี๋ยวพี่แก้ต่างให้ เรื่องใจง่ายพี่จะบอกเลยไม่จริง ตามตื้อทุกวันกว่าจะจีบติด ส่วนเรื่องร่างกายพี่จะบอกว่าไม่รู้เหมือนกันว่าใช้เปลืองรึเปล่า เพราะยังไม่เคยเห็นตอนใช้”
“พี่ชานยอล!!!”
“ครับ! เคโระ!!”
ทำไมเป็นคนแบบนี้กันนะ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“5555555555555555555555555555555555555”
คนขับรถของผมระเบิดขำอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่ผมกำลังอายแทบจะคลั่ง ไม่คิดมาก่อนเลยว่าพี่เขาจะมีมุมแบบนี้ด้วย น่ากลัวเกินไปแล้ว TTvTT
ปังๆๆ!
ผมต้องเคาะให้เซฮุนมาเปิดประตูห้องให้เพราะหาคีย์การ์ดไม่เจอ ไม่รู้ว่าเอาทิ้งไว้ในห้องหรือว่าไปทำร่วงที่ไหนก็ไม่รู้
-_- <<<เซฮุน
หน้าตาโคตรไม่เป็นมิตรอะครับ สงสัยกินของหวานมา เขาว่ากันว่าหมากินของหวานแล้วจะดุ
“สวัสดีครับ ^^”
ประโยคเมื่อกี้ไม่ใช่ผมครับ ผมคงไม่ทักมันแบบนั้นแน่ ผู้ชายที่อยู่ข้างหลังผมนี่แหละครับที่เอ่ยทักไปโดยไม่ดูสภาพเหง้าหน้าของเพื่อนผมเลย
“สวัสดีครับพี่ชานยอล แบคฮยอนมันไปสร้างความเดือดร้อนให้พี่รึเปล่าครับ พี่ถึงตามมันมาถึงห้องน่ะ”
“ฮ่าๆๆ เปล่าครับ พี่แค่อยากมาทำความรู้จักเราเฉย ๆ”
“อ่า... พี่ภาคโยธาอยากรู้จักกับน้องภาคเครื่องเหรอครับเนี่ย มาแปลก”
หน้าตาเซฮุนตอนตอบกวนตีนมากเลยครับ ไม่รู้ผมรู้สึกไปเองรึเปล่า
“อืม... คงเพราะเราเป็นเพื่อนสนิทของแฟนพี่ด้วยแหละมั้ง”
ผมโดนพี่ชานยอลหักหลังแล้วครับ Orz
ตอนที่อยู่บนรถตกลงกันแล้วว่าจะมานั่งเล่นที่ห้องผมเฉยๆ เพราะพี่ท่านเขาเซ้าซี้อยากตามมาด้วย ไม่คิดว่าจะแผนสูงแบบนี้ เรื่องที่ว่าเราคบกันน่ะ ผมขอเป็นคนบอกเอง ไว้จะหาโอกาสเล่าให้เซฮุน มันฟัง แต่แล้วทำไมพี่ชานยอลถึงทำแบบนี้
“หมายถึงผม?”
“ใช่ครับ”
“มึง..........” โอ้ยยยยยยย คิดไม่ออกเลยว่าจะพูดอะไรดี ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี จะบอกว่าพี่เขาแกล้งก็ใช่เรื่องจะไปโกหกมัน
“หมายถึงนายเป็นแฟนแบคฮยอนใช่รึเปล่า”
เสียงใครอีกคนที่ผมคุ้นหูเป็นอย่างดีดังออกมาจากภายในห้อง ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินออกมาปรากฎกายให้ผมเห็น...
“พี่อี้ฟาน!!!!!”
“ใช่พี่เอง”
ชิบหายแล้ว...
“พี่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยแล้วล่ะ โบยอน”
และแล้ววันที่ผมกลัวก็มาถึง T^T
TBC.
ความคิดเห็น