คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : - ( a d m i s s i o n 2 0 1 3 ) - f i r s t d e t a i l
Title : Admission at Heart
Auther : แซมซมูเอล
ฮืออออออออออออออออออออออออออ TvT
แบคฮยอนผู้นี้กำลังจะเป็นบ้าตายแล้วครับ ไม่คิดมาก่อนเลย ว่าชีวิตนี้จะถูกจู่โจมแบบนี้ มีชีวิตมาสิบแปดปีไม่เคยถูกผู้ชายจู่โจม (มีแต่ผู้หญิง)
ชอบนะ... ชอบนะ... ชอบนะ...
คำๆ เดียว ทำผมอยากฆ่าตัวตาย อยากจะวิ่งเข้าไปในทุ่งข้าวสาลีแล้วระเบิดตัวเองเป็นโกโก้ครันช์ชะมัดเลยครับ
“สรุปมึงไปเอามาจากไหนห้ะแบคฮยอน กูว่ามึงไม่ได้เอามาจากใต้หอละ เพราะถ้ามึงเอามาจากใต้หอจริง อันนี้คงเป็นลายมือของลุง รปภ. ที่สารภาพรักกับมึงสินะ”
กวนตีน... กวนตีน... ไอ้เหี้ยเซฮุนกวนตีน...
หมดสิ้นแล้วซึ่งความเขิน พี่ชานยอลของผม (พูดของผมได้อย่างไม่อายปาก) กลายเป็นลุง รปภ. ใต้หอไปแล้วครับ ลดระดับลงอย่างรวดเร็ว
“กูจะไปรู้เหรอ กูหยิบมาจากใต้หอจริง ๆ”
ผมยังคนหน้าด้านโกหกตอหลดตอแหลต่อไป ผมไม่บอกมันเรื่องพี่ชานยอลหรอก ขืนบอกไปมันคงเอามาล้อผม หรือไม่ก็เอาไปฟ้องพี่อี้ฟานพ่อคนที่สองของผมแน่ๆ พี่คนนั้นยิ่งหวงน้องประหนึ่งน้องเขาเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ บอบบางๆ ไม่ได้มองความเป็นจริงเลย นี่น้องเขาเป็นผู้ชายนะ ถึงจะไม่ทั้งแท่งแต่ก็ขึ้นชื่อว่าผู้ชายอยู่ดีอะ
“เออ ใต้หอก็ใต้หอ รีบๆ สั่งข้าวมาแดกได้ละ มึงอยากแดกอะไรก็สั่งมาเลย กูเอาเหมือนมึงนั่นแหละ”
“มึงไม่ต้องบอกกูก็รู้อยู่แล้วครับ ว่ามึงแดกเหมือนกู”
เซฮุนเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายมากครับ ผมรู้จักกับมันมานาน มันไม่เคยเปลี่ยนเลย ความขี้เกียจเสมอต้นเสมอปลายของมันน่ะนะครับ นี่ยังไม่รวมถึงความกวนตีน ตื่นมาเรียนสาย ตื่นไม่ทันก็ไม่มา รวมๆ แล้ว เรียกว่าชีวิตแม่งชิลเสมอต้นเสมอปลายอะครับ เวลาผมสั่งข้าวต้องสั่งเหมือนกันสองจานตลอด สั่งให้มันด้วยจานหนึ่ง เพราะมัน ขี้เกียจคิดว่าจะกินอะไร บางวันมันอยู่บ้านคนเดียวแล้วคิดไม่ออกว่าจะกินข้าวกับอะไร มันก็โทรมาถามผมครับ ว่าผมอยากกินอะไร สมมติผมบอกว่าอยากกินข้าวมันไก่ มื้อนั้นมันก็จะกินข้าวมันไก่ครับ บางทีผมก็กลัวว่าสักวันเซฮุนจะตายจากผมไปครับ กลัวมันจะขี้เกียจหายใจ Orz
4.00 PM
“มึง” <<ผม
“อะไร” <<เซฮุน
ถ้าไม่ได้เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานนม การตอบแบบนี้เป็นการเสียมารยาทมากๆ เลยครับ ทำเอาคนเรียกอย่างผมรู้สึกเหมือนตัวเองโดนรำคาญ หรือว่าจริงๆ แล้วมันจะรำคาญผม -_-
“กูเบื่อ”
ตอนนี้ยังไม่เปิดเทอม เพื่อนก็ไม่มีมีแต่มัน ไม่รู้จะไปไหนดี โคตรจะเบื่อเลย ทำไมที่บ้านต้องรีบผลักไสไล่ส่งผมออกมาด้วยนะ พอมาอยู่นี่ มีเซฮุนเป็นเพื่อนก็เหมือนไม่มีอะครับ มันใส่หูฟังนอนอ่านการ์ตูนไม่สนใจผมสักนิด ทำเหมือนผมไม่มีตัวตน นั่นมันทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจยิ่งนัก
“กูก็เบื่อเหมือนกัน”
*0* เป็นครั้งแรกที่ผมกับมันมีความคิดตรงกัน ปกติต้องขัด ผมตลอด
“ใช่ไหม อยู่แต่ในห้องมันน่าเบื่อจะตายไป เน็ตหอก็กาก เล่นอะไรก็ช้าไปหมด”
“เปล่า... กูเบื่อมึง ช่วยอยู่เงียบๆ หน่อยได้ไหม กูจะอ่านการ์ตูน”
ไอ้สัด พ่อมึงเสียชีวิต กูไม่ยุ่งกับมึงแล้วก็ได้ กูจะมีโลกส่วนตัวบ้างเหมือนกัน เชอะ -_-
เฮ้อ... จะว่าไปแล้ว ผมยังตามหาพี่รหัสผมไม่เจอเลยนี่หว่า คนอื่นเขาเจอกันตั้งแต่ที่ค่ายแล้วแต่เพราะผมกลับก่อนก็เลยยังไม่ทันได้เจอ แล้วผมจะตามหาตัวเขาเจอได้ที่ไหนวะเนี่ย... แต่... เขาว่ากันว่า Google รู้ทุกอย่าง ปวดท้องขี้ไม่ออกเพราะอะไร จะกินข้าวกับอะไร ถาม Google ได้เลยครับ มีทุกคำตอบ ตอบทุกคำถาม
ผมหยิบควานหามือถือมาปลดล็อคเข้า Browser แล้วเข้าเว็บ Google อย่างด่วน แล้วก็ search ว่า... ว่าอะไรดีวะ ถ้า search ว่า รู้ไหมเอ่ย พี่รหัสของบยอนแบคฮยอนชื่ออะไร... บ้าไปแล้ว...ถ้าเจอนี่ผมคงบ้าไปแล้ว...
“เออใช่!!!” ผมอุทานลั่นห้อง เซฮุนเหมือนจะขยับตัวหันมามอง แต่ก็มองด้วยหางตาเฉยๆ แล้วก็หันหน้าหนีไป เหอะๆ มึงมันเพื่อนทรยศ
ผม search หารหัสนักศึกษาของพี่รหัสผมทันที (สมมติว่าผมรหัส 201313200 พี่รหัสผมก็ต้องรหัส 201213200 ประมาณนี้นะครับ เลขสี่ตัวข้างหน้าเป็นเลขปี ค.ศ. ที่เราแอดมิชชั่น) ยังไงมันก็ต้องมีขึ้น แน่ๆ ครับ เพราะเวลาประกาศผลสอบ admission มันประกาศในเว็บ ยังไงก็ต้องมีข้อมูลนักศึกษาของปีที่แล้วให้ผมบ้างละนะ
และก็เป็นไปตามที่ผมคิดไว้ ผมเจอชื่อพี่รหัสของผมแล้ว เขามีชื่อว่า... อีแทมิน
โอ๊ะโอ... มีพี่เรียนภาคคอมด้วย ผมก็อยากเรียนเหมือนกัน ตอนแรกว่าจะเรียนวิศวะคอม แต่ผมสอบไม่ติด ชีวิตโคตรอาภัพ -v-
ต่อไปก็ต้อง search หา facebook ผมไม่คิดอะไรมากครับ เอาชื่อพี่แกมา search เลย... แล้ว... ผมก็เจอ พี่รหัสผมหาตัวไม่ยากเลยจริงๆ ชื่อ facebook ก็ใช้ชื่อจริง เป็นคนที่เปิดเผยตัวตนซะจริงๆ เลยนะครับ (แอบยิ้มอย่างผู้มีชัย)
แอดเฟรนด์ครับแอดเฟรนด์ เจอแล้วก็ต้องแอด โชว์ให้เขารู้ไปเลยว่าผมเจ๋งแค่ไหน แอดไปปุ๊บรับปั๊บ แสดงว่าออนอยู่
อื้อหือ... หน้าตาดีซะด้วย...
ออนไลน์แชทเฟสอยู่ด้วย ทักไปหน่อยดีกว่า
Pecopong Bohyun : สวัสดีครับพี่ ^^
ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมา ส่องรูปพี่เขาไปสักพักพี่เขาก็ตอบกลับมา
Lee Taemin : สวัสดีครับผม ^^
ดูท่าทางจะเป็นมิตร นี่ขนาดยังไม่รู้ว่าผมเป็นน้องรหัส แต่ก็ยังตอบแชทเฟส แต่คิดไปคิดมาพี่เขาก็ดูหล่อมาก คงมีคนทักไปบ่อยๆ และก็คงตอบตามมารยาท
Pecopong Bohyun : ผมแบคฮยอนนะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก
Lee Taemin : อ่า... ครับ...
Pecopong Bohyun : ผมเป็นน้องรหัสพี่...
ผมรีบบอกทันทีหลังจากแนะนำตัวเสร็จสรรพ ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรละครับ บอกไปให้พี่เขาตื่นเต้นกับผมหน่อย
Lee Taemin : เห้ย จริงดิ!!!
…และพี่เขาก็ดูตื่นเต้นขึ้นมาทันตาเห็นเลยครับ ฮ่าๆๆๆ
Pecopong Bohyun : จริงครับ -.-
Lee Taemin : ไปเอาเฟสพี่มาจากไหนเนี่ย แล้วรู้ได้ไงว่าพี่เป็นพี่รหัสเรา
Pecopong Bohyun : ผม search รหัสนักศึกษาพี่ในเน็ต แล้วก็ เจอชื่อพี่ แล้วก็เอาชื่อพี่มา search
ในเฟส แล้วผมก็เจอเลยครับ 55555
Lee Taemin : โห่... =_= ฉลาดจังวะครับ พี่ว่าจะปิดตัวเองไปจนถึงเปิดเทอมสักหน่อย แย่ๆๆๆ (n)
Pecopong Bohyun : 5555555 เสียใจด้วยครับพี่
Lee Taemin : แล้วนี่เราอยู่ไหนล่ะเนี่ย
Pecopong Bohyun : หอหน้ามอครับ
Lee Taemin : อ่าวจริงดิ ย้ายมาเร็วจัง... พี่อยู่หน้ามอพอดีเลย ออกมาเจอกันหน่อยไหมล่ะ เดี๋ยวพี่พาไป
เลี้ยงเค้ก
Pecopong Bohyun : พี่อย่าเอาของกินมาล่อผมสิครับ ผมยิ่งหิวๆ อยู่ แม้จะพึ่งกินไปก็ตาม
Lee Taemin : อ้าว พี่พูดจริงๆ ฮ่าๆๆๆ อยู่หอไหนล่ะ เดี๋ยวพี่ไปรับ
ผมบอกชื่อหอพักที่ผมอยู่ไป พี่แทมินบอกให้ผมลงไปรอเขาใต้หอ หลังจากคุยกันเสร็จผมก็เด้งตัวลุกจากเตียงเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์ เซฮุนเลยดึงหูฟังออกจากก่อนจะถามผมว่าจะไปไหน ผมไม่ตอบ แต่ยักคิ้วกวนตีนๆ ใส่มัน มันเลยใส่หูฟังกลับเข้าไปในหูตามเดิมก่อนจะไม่สนใจผมอีกครั้ง = =
ผมลงมานั่งรอพี่รหัสที่ใต้หออย่างใจจดใจจ่อ พี่เขาหน้าตาดีมาก ดีเว่อร์ ดีเกินไป จากที่ผมเห็นในรูปน่ะนะ นั่นทำให้ผมอยากเจอพี่เขามาก ผมไม่ได้คิดอกุศลอะไรนะ แต่การมีพี่รหัสที่หน้าตาดีมันก็ทำให้ผมตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน ไม่เหมือนตอนเห็นพี่ชานยอลในเฟส ก็รูปในเฟสของพี่แกโคตรจะ... เอิ่ม ไม่กล้าบรรยาย แต่ก็นะ เดี๋ยวนี้มี app ในโทรศัพท์ที่เปลี่ยนผีเป็นคนได้ บางทีพี่เขาอาจจะไม่ได้หน้าตาดีเหมือนอย่างในรูปก็ได้ ต้องเผื่อใจไว้บ้าง
ผมนั่งรออยู่สองสามนาที พี่แทมินก็มาปรากฏตรงหน้าผม... ยิ่งกว่าในรูปครับ... หน้าตาดียิ่งกว่าในรูป!! ไม่เสียใจเลยที่ได้เรียนที่นี่ มหาวิทยาลัยก็ชื่อดัง แถมมีพี่รหัสหน้าตาดีอีกด้วย... แบบนี้ป่ะครับที่เขาเรียกว่าหน้าตาดีทั้งพี่รหัสและน้องรหัส... (ขอหลงตัวเองนิดนึงครับ... ขอโม้หน่อยว่าตอนเรียนมัธยมน่ะ ผมเองก็หล่อสุดๆ ฉุดไม่อยู่เหมือนกัน สาวมาติดตรึม แต่ผมไม่สนใจ เพราะผมชอบผู้ชายด้วยกันโดยสายเลือด ได้รับอิทธิพลมาจากพี่อี้ฟานเต็มๆ)
“แบคฮยอนใช่ไหม”
“ครับ”
พอได้มองใกล้ยิ่งหน้าตาดีครับ ผมอิจฉาความดูดีของพี่เขาชะมัด ดูดีมีชาติตระกูลไปซะหมด
“ไปที่รถกันเถอะ ^^”
อื้อหือ... เพียบพร้อมซะไม่มี... หน้าตาดีมีรถครับ...
ผมเดินตามพี่เขาไปเรื่อย ๆ พอมาเจอหน้ากันผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร เดินไปก็คิดหาเรื่องคุยไป ผมมันนักเลงคีย์บอร์ดขนานแท้ครับ คุย ออนไลน์น่ะผมหาเรื่องคุยได้เรื่อยๆ แต่พอเจอหน้ากัน เรื่องที่จะพูดจะคุยกันมันก็หายไปหมด
“ทำไมพี่มาถึงเร็วจังล่ะครับ”
“พี่อยู่แถวนี้พอดี อีกอย่างเราอยู่หอเดียวกับเพื่อนพี่พอดี”
“อ่าว หรอครับ”
คงไม่ใช่พี่ชานยอลหรอกนะครับ...
“อาฮะ เพื่อนพี่ชื่อชานยอล ไว้ว่าง ๆ จะแนะนำให้รู้จัก มันเรียนโยธา มีอะไรจะได้ปรึกษามันได้ จริงๆ มันก็เรียนไม่ค่อยเก่งหรอก แต่ก็คงพอจะแนะนำอะไรได้บ้างอะแหละ”
ชั-ด-เ-จ-น
“พี่คงไม่ต้องแนะนำแล้วแหละครับ”
“ไมอะ รู้จักกันอยู่แล้วหรอ” พี่แทมินทำหน้าตกใจนิด ๆ
“ครับ พี่เขาอยู่ห้องข้างๆ ผม”
“อ้อ ดีแล้วๆ ผูกมิตรไว้ แต่ไม่ต้องไปสนิทกับมันมากนะ ชีวิตมันไม่มีอะไรดีหรอก หักอกหญิง ทิ้งหนุ่มไปวันๆ”
“อ่าว ทำไมเป็นงั้นล่ะครับ”
ขอเก็บ Detail ไว้สักหน่อยละกัน ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ ผมเองก็อยากรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง คนบ้าอะไร ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อยู่ดีๆ ก็เข้ามาจีบ มาขอเป็นแฟน ถึงผมจะแอบปลื้มพี่เขาอยู่นิดๆ แต่ผมก็ไม่ใช่คนใจง่ายใช้ร่างกายเปลืองอย่างที่เซฮุนมันว่านะครับ
“คือจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรพูดหรอกนะ แต่เห็นเราเป็นน้องรหัส พี่ก็เลยอยากจะเตือนไว้หน่อย เพราะพี่ยังต้องดูแลเราไปอีกนาน ฮ่าๆๆๆ”
“อานะ....” ผมไม่รู้จะตอบอะไร เลยพูดไปแค่อานะ แล้วพี่แท มินก็พูดต่อ
“จริง ๆ แล้ว... มันชอบผู้ชายด้วยกันไง มันไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรหรอกนะ เราไม่ถือใช่ไหมเรื่องแบบนี้”
“ครับ...” เพราะผมเองก็ชอบผู้ชายด้วยกันเหมือนกันอะครับ (_ _)
“ก็เพราะมันเป็นแบบนี้ เวลามีผู้หญิงมาสารภาพรักกับมันก็โดนมันปฏิเสธกลับไปทุกที ของแบบนี้มันดูกันที่ภายนอกไม่ออกไง พวกผู้หญิงเขาก็ดูกันไม่เป็นหรอก ชานยอลมันก็หน้าตาดีในแบบของมันนั่นแหละ ชอบเที่ยวกลางคืนอีกต่างหาก ทำตัว bad มีหญิงมาติดตรึม แต่มันก็ไม่เคยสนใจนะ ส่วนที่มันหักอกหนุ่มๆ ที่ดูออกว่ามันชอบผู้ชายด้วยกันนั่นก็... มันคบกับใครได้ไม่เคยนาน มันก็ไปบอกเลิกเขา บอกว่าไม่ใช่บ้างล่ะ เข้ากันไม่ได้บ้างล่ะ เหตุผลแถๆ ของมัน”
โอ้โห ( ̄ー ̄)
“ขนาดนั้นเลยหรอครับ”
“ก็ประมาณนั้นแหละ ขึ้นรถๆ”
พี่แทมินเปิดประตูที่นั่งข้างหลังให้ผม ตอนแรกผมก็งง ๆ ว่าทำไมให้ผมนั่งข้างหลัง พอเข้ามาก็เก็ททันทีที่เห็นพี่สาวคนสวยอีกคนนึงนั่งอยู่ข้างคนขับ
“สวัสดีจ้ะ น้องรหัสของแทมินใช่ไหมจ้ะ ^^”
“ใช่ครับ”
พี่สาวเขายิ้มให้ผมนิดนึง ก่อนจะหันไปมองตามพี่แทมินที่เดินมาขึ้นรถทางฝั่งคนขับ
“แบคฮยอน นี่แฟนพี่เองชื่อซูจอง”
พี่แทมินแนะนำพี่สาวอีกคนให้ผมรู้จัก แฟน... หนุ่มหล่อกับสาวสวยมาคู่กันแบบนี้ เพอร์เฟคท์ครับ พี่ซูจองที่ดูแซ่บเวอร์กับพี่แทมินที่หล่อเว่อร์ๆ
“อ่อครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับพี่ซูจอง”
“ไม่ต้องเป็นทางการขนาดนั้นก็ได้ อยู่กับพี่น่ะ เป็นกันเองได้ เลย ^^”
ไม่ถึงสิบนาทีรถก็มาจอดอยู่หน้าร้านเค้กน่ารักๆ ร้านหนึ่ง นี่มันเหมือนจะเป็นร้านคู่รักมากกว่านะครับ จริงๆ แล้ว ผมว่าผมไม่ควรจะมาด้วยเลย เหมือนผมเป็นตัวประกอบฉากเดทของพี่แทมินกับพี่ซูจองซะมากกว่า (_ _)
ร้านเค้กนี้เป็นร้านเค้กที่มีธีมเป็นไม้ๆ มองไปทางไหนก็สีน้ำตาลไปหมด มีภาพประดับบ้างตามฝาหนัง ให้อารมณ์อาร์ตดีครับ ดูธรรมดาแต่มีสไตล์ พอมาถึงพี่แทมินก็เดินหายไปไหนไม่รู้ น่าจะไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็นะ เล่นปล่อยให้ผมอยู่กับพี่ซูจองสองคน เงียบกริบสิครับทีนี้ ไม่รู้จะคุยอะไร ทำได้เพียงแค่...ดูเมนู...
“แบคฮยอนชอบกินเค้กอะไรจ้ะ”
“ช็อคโกแล็ตครับ”
“งั้นก็ลองเลือกดูนะจ้ะ ที่นี่มีช็อคโกแล็ตตั้งหลายแบบ พี่ก็ไม่รู้ว่าแบบไหนอร่อย พี่ไม่ค่อยชอบช็อคโกแล็ตเท่าไหร่”
“ทำไมหรอครับ อร่อยออก”
จริงๆ ช็อคโกแล็ตมันเป็นอะไรที่พื้นๆ เบสิคๆ มากเลยนะในบรรดาขนมหวานทั้งหลาย แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงได้ติดใจมันหนักหนา
“มันทำให้อ้วนน่ะจ่ะ”
( ̄ー ̄)
สะเทือนใจอย่างรุนแรงครับ พี่เขาบอกว่ากินแล้วอ้วน ผมชอบกิน ก็หมายความว่าผมใกล้อ้วนเต็มทีแล้วสินะ…
“แต่แบคฮยอนทานไปเถอะ ผู้ชายน่ะกินเท่าไหร่ก็ไม่ค่อยอ้วนหรอก เพราะออกแรงเยอะ ต้องกินของที่มีแคลลอรี่เยอะๆ จะได้มีพลังงาน แทมินน่ะชอบกินของหวานมาก ชวนพี่กินตลอดเลยล่ะ”
พี่ซูจองพูดไปขำไป ผมก็ยิ้มขำเป็นมารยาทไป จริงๆ ผมขำไม่ออกละครับ ผมน่ะกินแล้วก็นอน นอนแล้วก็กินแล้วก็กินๆๆ พลังงานสะสมไว้เยอะมากครับ ออกกำลังกายก็ไม่ได้ออก OTL
ระหว่างที่ผมกำลังเครียดกับความอ้วนที่กำลังจะมาถึงของตัวเองอยู่ พี่รหัสสุดหล่อของผมก็เดินกับมาที่โต๊ะ แต่เขาไม่ได้มาคนเดียว เขามาพร้อมบุรุษผู้หนึ่งที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตาดี
“ชานยอล ทำไมวันนี้อยู่ร้านได้ล่ะจ้ะ ปกติมาทีไรก็ไม่เคยได้ เจอเลย”
พี่ซูจองร้องทัก... โอย...........ทำไมพี่ชานยอลมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะครับเนี่ยยยยยย
“โถ่ ซูจอง ยังไงฉันก็เป็นลูกชายเจ้าของร้านนี้นะ ฉันก็ต้องเข้ามาดูบ้างเป็นธรรมดาแหละน่า ของหมดก็ต้องแวะซื้อนู่นนี่เข้ามาเติม สักหน่อย”
พี่ชานยอลที่เหมือนจะยังไม่เห็นผมพูดคุยกับพี่ซูจองอย่างสุภาพ เขาดูเป็นหนุ่มฮอตแสนสุภาพกับหญิงสาวมากเลยครับ ณ เวลานี้
“ชานยอล นี่น้องรหัสกูเอง”
ไม่ต้องแนะนำก็ได้ครับ... ผมยังไม่อยากเจอกับพี่เขาเลย... ผมอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้ชะมัด
“แบคฮยอน?”
พี่ชานยอลทำหน้าตกใจนิดหน่อยที่เห็นว่าเป็นผม... เพิ่งเห็น เหรอครับพี่ ผมนั่งหัวโด่มาตั้งนานละ แต่จริงๆ ไม่เห็นซะน่าจะดีกว่า ตอนนี้พี่ชานยอลเป็นบุคคลที่ผมไม่อยากเจอที่สุดในโลกเลยครับ TwT
“แหะๆ เจอกันอีกแล้วนะครับ ^^;”
ผมส่งยิ้มแห้งๆ ให้พี่ชานยอล ผิดกับพี่ชานยอลที่ยิ้มกว้าง กว้างแบบกว้างมากๆ เห็นฟันครบทุกซี่เลยครับ ไม่อยากจะยอมรับเลยว่ามันดูน่ารักมากๆ
“อาฮะ”
พี่ชานยอลไม่ได้พูดอะไรอีก ผมเองก็เหมือนกัน พี่ชานยอลรับออเดอร์ของโต๊ะผมแล้วก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ หยิบเค้กมาเสิร์ฟให้ เค้กที่ผมสั่งคือทูโทน ถึงใจจะกลัวว่าตัวเองจะอ้วนไปกว่านี้ แต่ผมก็ห้ามปากไม่ไหว ที่ผู้หญิงชอบพูดๆ กันว่าผู้ชายไม่กลัวอ้วน ผมบอกไว้เลยครับว่าไม่จริง ผู้ชายก็เป็นห่วงเรื่องความดูดีของหุ่นเหมือนกันนะครับ!
“แบคฮยอนกินเยอะๆ เลยนะ ไม่อิ่มก็สั่งอีก อยากกินอะไรก็สั่งเลยไม่ต้องเกรงใจ บอกไว้ก่อนว่าพี่ไม่ค่อยมีเวลาพาเรามาเลี้ยงทุกวันหรอก ปีสองนี่โปรเจคบานตะไทเลยล่ะ ภาคคอมน่ะงานเยอะ แต่เราเรียนโยธาใช่ไหมล่ะ”
“ครับ ปีหนึ่งเรียนยากไหมพี่”
“ปีหนึ่งก็เรียนเหมือน ม.ปลายนั่นแหละ วิชาท่องจำซะส่วนใหญ่ เป็นไปได้ก็เก็บคะแนนไว้เยอะๆ หน่อยแล้วกัน แต่ไม่ต้องถึงกับเครียดนะ ปีหนึ่งเป็นอะไรที่ชีวิตสุขสงบที่สุดแล้ว”
“ทำไมไปแนะนำน้องเขาอย่างนั้นล่ะ แทนที่จะบอกให้น้อง ตั้งใจเรียน”
พี่ซูจองตีพี่แทมินไปทีนึง พี่รหัสสุดหล่อของผมก็เลยหันไปยู่ปากใส่เหมือนเด็กๆ ดูน่ารักมากเลยล่ะครับ เวลาผมเห็นคู่รักหยอกล้อกันแบบนี้ ผมชอบดูมากเลยล่ะ ผมรู้สึกว่าน่ารักดี แต่ผมไม่เคยมีช่วงเวลาแบบนั้นหรอกครับ เอาจริงๆ แล้วเรื่องความรักในสายตามันเล็กน้อยมากเลยครับ ผมไม่ขวนขวาย แต่ก็ชอบทำตัวเป็นสโตกเกอร์แอบชอบคนอื่นเขาไปเรื่อยเปื่อย ก็ทำไงได้ล่ะครับ ผู้ชายชอบผู้ชายด้วยกัน สังคมเกาหลีเขาไม่ค่อยยอมรับสักเท่าไหร่ ถ้าผมแสดงออกมากมาย เดี๋ยวจะมีคนรังเกียจเอาซะเปล่าๆ ชีวิตช่างอาภัพยิ่งนัก OTL
หลังจากนั่งกินเค้กไปเกือบหมด พี่ชานยอลก็เดินมานั่งข้าง ๆ ผมเฉยเลย -O-
“กินน้อยจังนะ” พี่ชานยอลถามเพราะเห็นว่าผมกินไม่หมดพร้อมกับรอยยิ้มทรมานใจ โถ่...ผมก็อยากกินเยอะๆ อยู่นะครับ แต่ว่าผมเกรงใจพี่แทมินเขา เจอกันครั้งแรกให้เขาเลี้ยงเยอะไปก็น่าเกลียด รอสนิทๆ กันก่อน ผมจะให้เลี้ยงเต็มคราบเลยครับ
“ผมเพิ่งกินข้าวมาสักพักเองน่ะครับ”
“งั้นหรอ อิ่มแล้วหรอ ตัวก็ไม่ใช่เล็กๆ ทำไมกินน้อยล่ะ”
พี่ชานยอลพูดแบบขำๆ แต่หารู้ไม่ว่า คำพูดของพี่เขาทำให้ความหล่อของตัวเองดร็อปลง 3 เปอร์เซ็นต์ ไม่สิ 5 เปอร์เซ็นแล้ว รวมเรื่องที่พี่แทมินเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้ตอนก่อนขึ้นรถกับคำพูดเมื่อกี้ที่บอกว่าผมอ้วน (จริงๆ เขาบอกตัวไม่เล็ก แต่ผมขอสรุปรวมๆ ว่าอ้วน)
เจ็บใจขั้นสุดยอด
“ชานยอล มึงไปไหนต่อ” พี่แทมินเอ่ยถามหลังจากกระดกน้ำเปล่าลงคอไปหลายอึก กินเค้กแล้วมันเลี่ยน ก็ต้องกินน้ำตามเยอะ ๆ นี่แหละถูกที่สุดแล้ว
“ไม่รู้ว่ะ กลับหอมั้ง”
“อ้าวหรอ กลับพร้อมกูเลยไหม กูไปส่งแบคฮยอนพอดี แล้วเดี๋ยวต้องรีบไปส่งซูจองที่บ้าน นี่ก็เย็นแล้วเดี๋ยวรถติด แบคฮยอนจะเอากลับไปกินที่หอไหม พี่ซื้อให้”
“ไม่ดีกว่าครับ กลับกันเลยไหมครับถ้าพี่รีบ”
“อ่า... เอางั้นก็ได้ ขอโทษทีนะ ไว้คราวหน้าพี่พามาเลี้ยงใหม่ รอเปิดเทอมก่อน เราอาจจะได้เจอกันบ้างแหละมั้ง คราวหน้าเดี๋ยวพี่เอาลังรหัสมาให้ พี่ซูจองตั้งใจจัดให้สุดฝีมือเลยล่ะ”
เอิ่ม... พี่ซูจองทำให้พี่ทุกอย่างเลยรึเปล่าครับเนี่ย ผมชักไม่แน่ใจละว่าผมเป็นน้องรหัสพี่แทมินหรือน้องรหัสพี่ซูจองกันแน่ ตอนนั่งกินเค้กด้วยกัน พี่ซูจองก็ชวนผมคุยซะมากกว่าหรืออาจเพราะเราเป็นผู้ชายเหมือนกัน เลยไม่รู้จะคุยอะไรกันก็ได้มั้ง
“แทมิน มึงกลับเลยก็ได้ เดี๋ยวกูไปส่งน้องรหัสมึงให้เอง ยังไงก็กลับทางเดียวกันอยู่แล้ว มึงจะได้ไม่ต้องวนรถไปมา”
พี่ชานยอลยื่นข้อเสนอที่ผมไม่คาดคิดและไม่อยากคิดมาก่อน ให้เดินกลับกับพี่เขาสองคนนี่นะ นรกของผมชัดๆ เกิดเดินไปเรื่อยๆ แล้วผมสติหลุดเดินไปให้รถชนตายเล่นๆ ขึ้นมาทำไง...
“แล้วจะกลับยังไง”
“เดินดิ ใกล้ๆ แค่นี้ ไม่กี่ร้อยเมตรเอง”
“มึงไม่ต้องพาน้องรหัสกูไปลำบากเลย กูพาน้องเขามา กูก็ต้องไปส่ง”
“มึงจะเถียงกับกูทำไม กูพาไปส่งถึงห้องอยู่แล้วน่า แล้วลำบากห่าอะไร เดินแค่นี้ ถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัว จะได้ผอมใช่ไหมแบคฮยอน”
พี่ชานยอลส่งคำถามที่เปรียบเสมือนลูกดอกยาพิษมาให้ผมอีกแล้ว ให้ตายเถอะ ความหล่อของพี่ลดลงอีก 5 เปอร์เซ็นต์
“ยัง...ไง... ก็ได้ครับ...”
“งั้นก็นี่แหละ ตามนี้ จริงๆ ถ้าไม่มัวมาเถียงกับมึง ป่านนี้กูกับแบคฮยอนเดินถึงหอละมั้ง”
นี่ก็เวอร์ตลอด -_-
สุดท้ายผมก็ต้องเดินกลับมาพร้อมกับพี่ข้างห้องที่ชอบทำให้หัวใจผมเต้นระรัว มันเป็นโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ ผมเลือกที่จะเงียบแล้วเดินไปเรื่อยๆ เอาจริงๆ ตอนนี้ตื่นเต้นไปหมดเลยครับ เดินแทบจะไม่เป็น
“รีบป้ะเนี่ย ขาก็สั้นแต่ทำไมเดินเร็วจังล่ะ พี่ก็อายุมากแล้วนะ เหนื่อยครับเหนื่อย~”
พี่ชานยอลพูดเหมือนเป็นเรื่องตลก แต่ก็จริงอย่างที่พี่เขาพูดนั่นแหละครับ พี่เขาสูงกว่าผมอยู่หน่อยนึง... จริง ๆ ก็ไม่หน่อยอะครับ เยอะเลย แต่ผมคงสูงได้มากกว่านี้อีกนะ!! เพราะตามหลักการแล้ว ผู้ชายจะหยุดสูงตอนอายุ 20 แต่ตอนนี้ผมพึ่งอายุ 18 เอง ผมพยายามปลอบใจตัวเอง
“พี่ขายาวซะเปล่า เดินด้วยขาหรือเมือกครับ คนหรือหอยทาก”
ผมแอบกวนตีนพี่เขาไปนิดหนึ่ง โทษฐานหาว่าผมอ้วนแถมเตี้ยอีกต่างหาก
“พี่ไม่ได้ยาวแค่ขาหรอกนะ”
=_=!!!!!!
“....”
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นเล่า พี่หมายถึงแขนครับแขน” พี่ชานยอลยื่นแขนขึ้นจนสุดความสูงเพื่อโชว์ให้ผมดู “เราคิดอะไรอยู่เนี่ย”
“ก็...พี่... พูดจาสองแง่สองง่ามนี่ครับ“
“พี่ก็พูดไปงั้นแหละ เขาว่ากันว่าถ้าพูดไปแล้วอีกคนไม่คิดอะไรมันก็ไม่มีอะไรหรอกนะ แสดงว่าเด็กบางคนแถวนี้ก็คงจะ... หึ ๆๆ ”
เด็กบางคนที่ว่าก็มีแค่ผมคนเดียวไม่ใช่หรอครับ หาเรื่องกันเห็นๆ ความหล่อลดลงอีก 5 เปอร์เซ็นต์
“นี่...”
“ครับ?”
“พรุ่งนี้ว่างไหม”
“...”
“ไปเดทกับพี่ได้ไหมครับ”
“ห้ะ?!”
เมื่อกี้ยังกวนตีนผมอยู่เลย อยู่ดี ๆ มาชวนไปเดท บ้าไปแล้ว... บ้าไปแล้ว... ผมเนี่ยบ้าไปแล้ว... ผมน่ะบ้าไปแล้วที่ใจสั่นหวิวๆ T_T พี่เขาพาผมเปลี่ยนโหมดฉับพลันอีกแล้ว
“ตกลงนะ ^^”
ขอร้องเถอะครับ ได้โปรดอย่ายิ้ม T___________T
“เอ่อ...”
“ไม่ต้องตอบแล้วครับ พี่ถือว่าเราตกลงแล้วนะ”
“...”
ไม่กล้าปฏิเสธ คือใจมันอยากไป แต่สติสัมปชัญญะส่วนหนึ่งของผมบอกว่าผมไม่ควรไป T-T
“อะนี่”
พี่ชานยอลสะกิดผมก่อนจะยื่นถุง ๆ หนึ่งมาให้ระหว่างอยู่ในลิฟต์ เวลาขึ้นลิฟต์ทีไร ผมไม่เคยได้ขึ้นอย่างสบายใจสักที OMG
“เค้กนี้เก็บไว้กินดึกๆ เผื่อหิว”
ในถุงที่พี่ชานยอลให้มีกล่องเค้กอยู่สองกล่อง ดูเหมือนจะเป็นช็อคโกแล็ตทั้งสองกล่อง เพราะมันเขียนไว้บนกล่องว่า Chocolate Fudge และอีกกล่องหนึ่งก็ Black Forest
“เข้าห้องดีๆ ล่ะ ดึกๆ อย่าออกไปไหนนะ พี่เป็นห่วงคนอื่น... มีอะไรก็เรียกพี่ได้เลย แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะครับ สิบโมง ^^”
พี่เขายิ้มน้อยๆ ให้ผม ก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องตัวเองไป ทิ้งให้ผมยืนเคว้งหน้าห้องอยู่คนเดียวพักหนึ่ง ผมต้องยืนนิ่งตั้งสติตัวเองให้มั่นคงก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไป เจอกับเซฮุนที่ออกมาจากห้องน้ำพอดี
เซฮุนมองผมด้วยแววตาจับผิดเหมือนอย่างเคย เป็นอีกครั้งและอีกครั้งที่ผมต้องหลบตามัน ให้ตายเถอะ คนยิ่งกำลังว้าวุ่นหัวใจอยู่ อย่ามาจ้องได้ไหม ตอนนี้ยังไม่พร้อมสู้รบปรบมือกับใครทั้งนั้น แต่แล้วเซฮุนก็เดินเข้ามาหาผมพร้อมกับหยิบถุงที่อยู่ในมือของผมไป
“เค้กหรอวะ กูหิวพอดีเลย ขอแดกหน่อย”
“ไม่ได้!!”
ผมคว้าถุงกลับมาทันทีที่มันบอกว่าจะกิน เหมือนสติผมจะกลับมาครบถ้วนในทันทีทันใด
“อันนี้แดกไม่ได้”
“ทำไมวะ” เซฮุนย่นคิ้วเข้าหากันแบบที่คนกำลังสงสัยเขาชอบทำกัน
“ของกู”
“เอ้าสัด เดี๋ยวนี้หวงของกินกับเพื่อนเหรอ หรือว่า... ใครซื้อให้?”
มันรู้ทันตลอด ผมชักหลอนแล้วนะ รู้สึกเหมือนมันฝังชิพเครื่องดักฟังหรือเครื่องติดตามหรือกล้องติดตามไว้ที่ตัวผมรึเปล่า ผมไปทำอะไรที่ไหนกับใครยังไงมันเดาถูกเกือบทุกอย่าง นี่มันมีพลังงานบาง อย่างอยู่ชัดๆ
“เปล่า มันเป็นช็อคโกแล็ต แดกแล้วเดี๋ยวมึงอ้วน กูเป็นห่วงมึงมาก เดี๋ยวกูสั่งข้าวให้มึงแดกแล้วกัน”
“ถุย!! แถชิบหาย เรื่องของมึงเถอะครับ สั่งให้กูด้วยแล้วกัน”
สุดท้ายเซฮุนก็ต้องยอมแพ้การแถสไลด์เขื่อนของผมและจบด้วยการใช้ผมอีกตามเคย จะว่าไปเซฮุนนี่ก็เหมือนพ่อคนที่สามของผมเลยนะครับ เหมือนเป็นโรบ็อตที่โคลนนิ่งจากพี่อี้ฟานอะไรประมาณนั้น
ผมเดินเอาเค้กที่ผมกินได้คนเดียวไปแช่ไว้ในตู้เย็นก่อนจะโทรสั่งอาหารให้คุณชายเซฮุนเขา เห้อ... ผมเป็นเพื่อนหรือเป็นทาสก็ไม่รู้
กลับมาถึงหอผมก็ไม่มีอะไรทำอีกครั้ง เลยอาบน้ำแล้วนอนดูการ์ตูนบ้างดีกว่า การ์ตูนที่ผมดูก็มีแต่เคโรโระเนี่ยแหละ ดูแล้วก็ฮาดี โตเป็นควายแล้วแต่ก็ยังไม่เลิกดู
Engineering ParkChanyeol : อย่าลืมนัดเดทนะครับ สิบโมง ถ้าสิบโมงยังไม่ลงมา พี่จะไปลาก
ออกมาจากห้อง!
ทักแชทเฟสมาขู่กันเลยเหรอเนี่ย...
Pecopong Bohyun : พี่จะปีนเข้ามาทางหน้าต่างหรอครับ
Engineering ParkChanyeol : ไม่แน่ หึๆๆ
Pecopong Bohyun : แล้วพี่จะพาผมไปไหน?
Engineering ParkChanyeol : ความลับครับ ถ้าบอกไปก็ไม่ตื่นเต้นสิ
Pecopong Bohyun : งั้นผมไม่ไป!
Engineering ParkChanyeol : ถ้าไม่มาพี่ไปลากจริงๆ นะ บอกไว้ก่อนว่าไม่ได้ขู่
Pecopong Bohyun : ผมไม่คิดว่าพี่จะเป็นคนเผด็จการแบบนี้เลย นะครับ
Engineering ParkChanyeol : จริงๆ ยิ่งกว่านี้อีกครับ
Pecopong Bohyun : ผมไม่ชอบคนเผด็จการ!!
Engineering ParkChanyeol : ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ทำให้ชอบเอง
Pecopong Bohyun : นอนดีกว่า ลาก่อนครับบบบบ
Engineering ParkChanyeol : 55555555555 หนีเหรอ
Pecopong Bohyun : ใช่ครับ 55555555555555
Engineering ParkChanyeol : ไม่มีทางหนีพ้นหรอกครับ แล้วจะนอนเนี่ยอาบน้ำรึยังเถอะ
Pecopong Bohyun : อาบแล้วบ้างเหอะ พี่นั่นแหละ อาบรึยัง
Engineering ParkChanyeol : ยังครับ รอคนข้างห้องมาอาบให้
Pecopong Bohyun : เขาไม่ไปอาบให้หรอกครับ
Engineering ParkChanyeol : รู้ได้ไง เป็นคนๆ นั้นหรอ ^^
Pecopong Bohyun : =____________________________=
Engineering ParkChanyeol : 5555555555555555555555555
Pecopong Bohyun : ไป-นอน-แล้ว-นะ-ครับ-รา-ตรี-สวัสดิ์
Engineering ParkChanyeol : ฝันดีครับ เคโระ!!
ผมเลือกที่จะอ่านแล้วไม่ตอบ ขืนคุยต่อไปผมคงต้องเป็นบ้า จริงๆ แน่ แค่นี้ก็นอนพิมพ์ไปยิ้มไปอยู่คนเดียวจนปากจะฉีกแล้ว โชคดีที่เซฮุนไม่ได้สนใจผมเท่าไหร่ ผมเลยไม่ต้องปกปิดอะไรมากมาย แต่จะว่าไปตอนที่คุยกับพี่ชานยอลผมไม่ได้สนใจหรอกว่าเซฮุนจะมองอยู่รึเปล่า ผมตั้งหน้าตั้งตาคุยอย่างเดียว ตลกตัวเองจังเลยครับ ทำไมใจง่ายแบบนี้ แค่เขามาพูดมาคุยด้วยนิดหน่อยก็รู้สึกดีแล้ว เพลีย... Orz
“โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย”
สุดท้ายผมก็คลั่งระเบิดพลังร้องลั่นห้อง
“เป็นเหี้ยอะไรครับ - -”
และนั่นก็ทำให้เซฮุนหันมาสนใจผมทันที
“เปล่า... กูง่วง”
“ง่วงก็นอนดิ เชี่ยนี่ หนวกหู มึงตะโกนแบบนี้เดี๋ยวคนข้างห้องเขาก็มาเคาะ...”
ปังๆๆ!!!
“นั่นไง กูยังพูดไม่จบเลย”
เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นและก็ต้องเป็นผมที่เดินไปเปิด เพราะทนสายตากดดันของไอ้เพื่อนที่นอนอยู่เตียงข้าง ๆ ไม่ได้ ประมาณว่าเป็นเพราะผมที่ทำให้มีคนมาเคาะประตูด่า อะไรทำนองนั้น
“เป็นอะไรรึเปล่า?!”
เปิดประตูไปเจอพี่ชานยอลที่ทำหน้าตาตกใจอยู่หน้าห้อง ผมเองก็ช็อคนิดๆ ที่พี่แกมายืนอยู่หน้าห้องผมด้วยสภาพแบบ... หัวเปียก เสื้อผ้าก็ดูชุ่มน้ำนิดๆ ประมาณว่าเพิ่งอาบน้ำเสร็จยังไม่ได้เช็ดตัวรีบใส่เสื้อผ้าออกมาเลยอะไรแบบนั้น
“..............................”
“เมื่อกี้ได้ยินเสียงร้อง”
“ไม่...”
“มันเป็นบ้า”
เซฮุนเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ตอบแทนผมที่กำลังจะอ้าปากพูด
“อ่าวหรอ งั้นก็ดีแล้ว” พี่ชานยอลหัวเราะออกมานิดๆ ยิ่งตอนนี้อยู่ในสภาพที่แบบ... จะพูดว่าไงดี ตอนนี้พี่เขาไม่ได้อยู่ในสภาพที่หล่อน่ารักเหมือนอย่างปกติ แต่เป็นสภาพที่มองแล้วดูหล่อเซ็กซี่โคตรๆ บวกกับรอยยิ้มนั่นแล้วด้วย... ยิ่งดู... ฮืออออ T___________T
“ขอโทษที่เพื่อนผมส่งเสียงดังรบกวนด้วยแล้วกันนะครับ มันเป็นบ้าแบบนี้ประจำ ผมว่าผมคงจะต้องซื้อตะกร้อครอบปากมันไว้สักวันจนได้แหละ”
“เชี่ย...” ผมหันไปด่าเซฮุนเบา ๆ ทำให้คนที่ยืนฟังอยู่อย่างพี่ชานยอลยิ้มออกมาบางๆ
พอเห็นว่าไม่มีอะไรพี่ชานยอลก็กลับห้องไป...
ตอนนี้ผมหวั่นไหวกับผู้ชายข้างห้องมากครับบอกตรง ไม่เคยรู้สึกดีกับใครมากขนาดนี้มาก่อนเลยครับ ทั้งๆ ที่พึ่งเจอกันแท้ๆ ไม่จริงน่า...
นอนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นอนดีกว่า ไม่เอาไม่คิดแล้ว ไม่สนใจแล้ว TTTwTTT (โดดขึ้นเตียงคลุมโปง)
TBC.
ความคิดเห็น