คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : - ( a d m i s s i o n 2 0 1 3 ) - f i r s t o f a l l
Title : Admission at Heart
Auther : แซมซมูเอล
ประกาศรายชื่อนักเรียนที่
มีสิทธิ์เข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2013
ตึกตึก.. ตึกตึก.. ตึกตึก..
“กูไม่อยากรู้แล้วอะมึง..”
< เร็วๆ ดิมึง กูลุ้น คนอื่นเขามีที่เรียนหมดแล้ว เหลือมึงเนี่ยที่ไม่มีที่เรียน >
เซฮุนกรอกเสียงเร่งเร้าผมอย่างดุๆ ในสาย ก็แน่ล่ะครับ.. เพื่อนในกลุ่มผมมีที่เรียนกันหมดแล้ว พวกมันติดกันตั้งแต่ตอนสอบรอบแรก เหลือผมเป็นติ่งอยู่คนเดียว สอบมาสามล้านที่แล้ว (เวอร์) แต่ก็ยังไม่ติดสักมหา’ลัย ก็ผมไม่ได้เกิดมาฉลาดนี่ คณะที่อยากเรียนดันไม่ได้เข้ากันง่ายๆ
“ไม่ติดหรอกมึง กูว่าไม่ต้องดูหรอก กูไม่อยากรู้อะไรที่มันทำร้ายตัวเอง... กู...”
< เดี๋ยวกูดูให้มึงเอง >
“ไม่เอา! กูอยากดูด้วยตาตัวเอง”
ได้ยังไง ผมต้องเป็นคนที่รู้คนแรกดิ ผมเป็นคนสอบ - -+
< ก็เมื่อกี้มึงบอกไม่อยากดู >
ก็ตอนนี้กูอยากดูแล้วไง ผมได้แต่คิดในใจเพราะถ้าพูดไปเดี๋ยวมันด่า (_ _)
คลิก!
ผมกวาดสายตาไล่หาชื่อตัวเองอยากร้อนรน อยากจะหูหนวกตาบอดตอนนี้ซะจริง ๆ มันจะลุ้นอะไรขนาดนี้ก็ไม่รู้ ขี้จะหลุดออกมาอยู่แล้ว...
< มึงดูยังวะ >
“มึง...”
< อะไร >
“กู...”
< อะไรของมึง ติดหรือไม่ติด ไอ้เหี้ยมึงทำกูลุ้นจนขี้จะหลุดออกมาอยู่แล้ว >
“มึงเป็นเหมือนกูเลย”
< เป็นอะไร >
“ลุ้นจนขี้จะหลุด”
< พ่อง สรุปติดไม่ติด >
ผมเชื่อว่าถ้าเซฮุนอยู่ตรงนี้มันอาจจะตีนยันหน้าผมแล้ว ฟังจากน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะสบอารมณ์ของมัน ดีนะที่นี่เป็นแค่การโฟนอินระบบเสียงเท่านั้น ถ้ามันเป็นแบบ 5D ผมคงไม่รอดจากอุ้งตีนของมัน
“...”
< มึงโอเคนะ >
“กูติดแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!”
ทุกคนครับ แบคฮยอนคนนี้มีที่เรียนแล้วครับ YYOYY
หลังจากผลสอบประกาศ ตามบอร์ดการศึกษาก็ครึกครื้นขึ้นมาทันตา มีทั้งร้องไห้ผ่านตัวหนังสือโอดครวญไม่มีที่เรียน กับร้องไห้ดีใจได้ที่เรียนที่ต้องการและก็มีรุ่นพี่จากแต่ละมหาลัยแต่ละคณะมารอลากน้องเข้ากลุ่ม Facebook!
ตอนนี้ผมเองก็อยู่ในกลุ่มแล้วเรียบร้อยเซฮุนเป็นคนลากผมเข้าเอง ก็เลยเร็วหน่อย เพราะผมติดมหาวิทยาลัยเดียวกับมัน คณะเดียวกับมัน แค่คนละภาค1เท่านั้นเอง
ผมอัพเดทสถานศึกษาเป็นคณะและมหาวิทยาลัยที่ผมได้แล้วเรียบร้อยด้วยความเห่อจัด โพสต์ชื่อบอกในกลุ่มอีกต่างหาก จริง ๆ ไม่ค่อยอยากจะเสนอหน้าเท่าไหร่หรอกครับ เห็นคนอื่นเขาทำกันเลยอยากทำบ้างเท่านั้นเอง -.-
‘ผมแบคฮยอนวิศวะภาคโยธาครับ xD’
ใส่อีโมลงไปด้วยเพื่อความเฟรนลี่ เดี๋ยวเขาจะหาว่าเก๊กขรึม
มีคนแอดเฟรนด์มาาาาาาาาาาาาาาา!
ไวเหนือแสง พึ่งโพสต์เมื่อกี้เองนะ นี่เขานอนเฝ้าเฟสกลุ่มเลยหรือเปล่านะ
Friend requests : Engineering ParkChanyeol
ผมกดรับอย่างไม่ใส่ใจอะไรเท่าไหร่ ปกติผมไม่รับแอดเฟสคนที่ไม่รู้จัก แต่นี่มันเป็นการเริ่มต้นชีวิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ผมควรจะทำความรู้จักกับคนเอาไว้เยอะ ๆ เวลาทำงานจะได้ไม่ลำบาก มีคนนู่นคนนี้ให้เกาะ พี่ชายผมสอนมา
Notifications :
Engineering ParkChanyeol posted on your timeline.
‘สวัสดีครับน้องแบคฮยอน ภาคโยธาใช่ไหมครับ ^^’
Engineering ParkChanyeol : น้องๆ
ผมที่กำลังจะเมนต์ตอบต้องกด Backspace ค้างยาว ๆ เพราะไม่ต้องตอบแล้วล่ะครับ เพราะพี่เขารีบจัดทักแชทมาแล้ว
Pecopong Bohyun : ครับพี่ (_ _)
Engineering ParkChanyeol : น้องภาคโยใช่ป่ะครับ
Pecopong Bohyun : ใช่ครับพี่
Engineering ParkChanyeol : ดีมาก เย้ๆๆ เจอน้องแล้ว วู้ววว!
พี่ดูดีใจจังเลยนะครับ ดูดีใจกว่าผมที่สอบติดซะอีก.. <<คิด ในใจ
Pecopong Bohyun:เปิดเทอมอย่าลืมพาผมไปเลี้ยงนะพี่ 55555.
Engineering ParkChanyeol : เอิ่มม ยังไม่ให้เจอหน้าก็จะให้เลี้ยงซะละ ไปขอพี่รหัสน้องนู่นครับ ว่าแต่น้องดริ๊งค์รึเปล่าครับ
Pecopong Bohyun : เรื่องดริ๊งค์นี่ขอหนักๆ ครับ
คุยเรื่องนี้ค่อยถูกคอกันหน่อย <<คิดในใจอีกแล้ว
Engineering ParkChanyeol : เยี่ยม แบบนี้เราคงได้เจอกันบ่อย 555555
Pecopong Bohyun : จัดหนักๆ นะพี่!
Engineering ParkChanyeol : ไม่ต้องห่วง หนักแน่ครับ จำทางกลับบ้านไม่ได้แน่
Pecopong Bohyun : ทางกลับบ้านไม่เคยจำอยู่แล้วพี่ กินไหนนอนนั่น
Engineering ParkChanyeol : 55555555555 ชื่อเฟสเรานี่อ่านว่าอะไร
Pecopong Bohyun : เพโคปองโบยอนครับพี่
Engineering ParkChanyeol : มันคืออะไร
Pecopong Bohyun : โบยอนคือชื่อผมที่พี่ชายชอบเรียก มันเพี้ยนมาจากนามสกุลผมด้วยครับ เหมือนเอาชื่อกับนามสกุลมารวมกัน ส่วนเพโคปองคือ..
Engineering ParkChanyeol : คือ?
Pecopong Bohyun : ดาวของชาวโลกในเรื่องเคโรโระอะครับ (- -);
Engineering ParkChanyeol : 55555555555555555
Pecopong Bohyun : ขำยาวไปป่ะครับ =_=
มันแปลกหรอครับที่เด็กที่อยากเรียนวิศวะอย่างผมจะชอบการ์ตูนเรื่องเคโรโระ มันแปลกมากหรอครับ TOT ก็คนมันชอบมาตั้งแต่เด็ก ท่านพ่อกับหม่อมแม่ของผมชอบซื้อแต่การ์ตูนเรื่องนี้มาให้ดู วันเกิดเกือบทุกปีพี่อี้ฟาน (พี่ชายผู้เป็นที่รักของผม) ก็ชอบซื้อของขวัญเป็นตุ๊กตาเอยโมเดลเอยมาให้ และตุ๊กตาและโมเดลที่ว่านั่นมันก็คือชาวดาวเคโรนหรือขบวนกบเคโรโระนั่นเอง
Engineering ParkChanyeol : เจอกันที่มอนะครับน้องอย่าเพิ่งหนีไปดาวเคโรนก่อน อยู่เพโคปองเป็นเพื่อนพี่ก่อนนะครับ พี่ไปนอนละ ฝันดีครับ<3
Pecopong Bohyun : ฝันดีครับพี่ -_-
_________________________________________________________
เคโรน = ดาวของชาวเคโระ
เพโคปอง = ดาวโลก
ผมว่าผมไม่น่าอธิบายเลย แต่จริง ๆ ผมคงจะไม่อาย (ออกจะภูมิใจด้วยซ้ำ) ถ้าพี่เขาไม่ขำยาวขนาดนั้น แต่จะว่าไปถ้าพี่เขาไม่เคยดู เขาก็คงไม่รู้จักดาวเคโรนหรอกจริงไหม โด่วววววว!
Pecopong Bohyun : เอ้ย พี่ชื่ออะไร ยังไม่ได้บอกผมเลย
Engineering ParkChanyeol : ปาร์คชานยอลครับ เคโระ!
ใครก็ได้ส่งยานมารับผมไปดาวเคโรนที OTL
7 days later.
วันสอบสัมภาษณ์
ทำไมพี่อี้ฟานต้องลองเส้นทางใหม่วันนี้ด้วย TTOTT
ตอนนี้ผมกำลังหลงทางครับ หาทางไปมหาวิทยาลัยไม่เจอ ปกติบ้านของผมอยู่ในเมือง กลางโซลเลยแหละครับ แต่มหาวิทยาลัยที่ผมสอบติดดันอยู่ชานเมือง ตอนนี้ผมคิดว่าขับไปเรื่อย ๆ บางทีเราอาจจะถึงมกโพเลยก็ได้
“เพื่อนพี่บอกว่ามาทางนี้มันใกล้กว่า ไม่น่าลองเลยว่ะ พี่ว่า โบยอนลงไปโบกรถแถวนี้จ้างเขาไปส่งดีกว่าไหม”
“ไม่เป็นไรหรอกพี่ เรายังมีเวลาเหลือ” ...อีกตั้ง 10 นาที OTL
ตอนนี้จิตใจผมกระวนกระวายมาก ผมต้องไปลงทะเบียนให้ทันภายในสิบนาทีนี้ ในขณะที่ตอนนี้พี่อี้ฟานและตัวผมยังไม่รู้เลยว่าเราอยู่ตรงส่วนไหนของเกาหลีใต้
“พี่ ๆ นั่นไงป้ายมหา’ลัย ชิดซ้ายพี่ ๆ จะเลยทางเข้าแล้ว ๆๆๆ”
เสียงแตรดังระงมประหนึ่งระบบเซอร์ราวน์เมื่อพี่อี้ฟานหักพวงมาลัยชิดซ้ายแบบไม่สนหน้าอินหน้าพรหม โชคดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ และผมก็มาถึงตึกคณะแล้ว
ผมกระโดดลงจากรถแบบหอบเอกสารพะรุงพะรังมาก โดดลงไปอย่างไม่รู้ทิศทาง แล้วเขาลงทะเบียนกันตรงไหนวะครับ
“พี่ครับ ๆ” ผมรีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปกระชากแขนพี่คนหนึ่งที่เดินผ่านมา ใช้คำว่ากระชากคงจะถูกต้องแล้วเพราะดูเหมือนผมจะดึงพี่เขาแรงเกินไปจนพี่เขาแทบจะเซมาชนผม
“ครับน้อง”
“ผมต้องไปลงทะเบียนสอบสัมภาษณ์น่ะครับ ห้องลงทะเบียนมันอยู่ตรงไหนหรอ”
“ภาคโยธาใช่ไหม”
รู้ได้ไง หน้าผมมันบ่งบอกขนาดนั้นเลยหรอว่าต้องเป็นเด็ก ภาคโยธา..
“ครับ”
“มาทางนี้ครับน้อง”
เหมือนสวรรค์จะยังเมตตาผม ให้ผมได้มีโอกาสสอบสัมภาษณ์ ถ้าผมไม่ได้สอบผมคงต้องพลาดชีวิตเด็กมหาวิทยาลัยรัฐบาลแน่ ๆ เพราะผมคงสอบไม่ติดที่ไหนแล้ว โชคดีจริง ๆ ที่เจอรุ่นพี่ใจดีพาผมมาส่งถึงห้องสอบสัมภาษณ์ (ก้มลงกราบเบญจางคประดิษฐ์)
“อ้าวพี่ ยืนทำอะไรอะครับ”
ผมร้องถามเมื่อเดินออกมาเจอรุ่นพี่ผู้ใจดีคนนั้นอยู่พิงกำแพงอยู่หน้าห้องสอบสัมภาษณ์ หรือพี่เขาจะรอผม คงไม่หรอกมั้ง จะใจดีอะไรขนาดนั้น
“สัมภาษณ์เสร็จแล้วเหรอ เป็นไง”
นอกจากจะไม่ตอบคำถามผมแล้วยังมีหน้ามาถามผมกลับอีกนะครับ -*-
“ก็ดีครับ”
“ป่ะ ลงไปข้างล่างกัน”
หรือพี่เขาจะรอผมจริง ๆ -O-
ผมเดินตามพี่เขาเข้าลิฟต์ลงมาข้างล่างอย่างเงียบ ๆ งง ๆ ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่ใช่สิ ไม่กล้าจะพูดอะไรมากกว่า พอเจอคนใจดีด้วยผมทำตัวไม่ถูกทุกที
“แบคฮยอนใช่ไหม”
“ครับ?”
“เราน่ะชื่อแบคฮยอนใช่ไหม”
“พี่รู้ได้ไง!”
นอกจากจะรู้ว่าผมเป็นเด็กภาคโยธาแล้ว ยังรู้อีกว่าผมชื่ออะไร ผมคิดว่า...
มันอาจจะมีพลังงานบางอย่างซ่อนอยู่ก็เป็นได้
“จำพี่ไม่ได้จริงดิ”
พอโดนตั้งคำถามผมเลยจ้องหน้าพี่เขาเพื่อหาคำตอบ
เดี๋ยวนะ..
หน้าตาแบบนี้... ไม่คุ้น...
แต่รุ่นพี่ที่ผมรู้จักมีแค่...
“พี่ชานยอล?”
“ช่ายยยยยยย” พี่เขาตอบแบบล่างเสียงยาว ๆ ฟังแล้วคันรูหูแปลก ๆ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือ...
ทำไมรูปในเฟสกับตัวจริงมันต่างกันจังวะครับ!!
ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยเข้าไปดูรูปในเฟสพี่เขา ผมไปสำรวจมาแล้วเรียบร้อย ไปสแกนมาแล้วว่าหน้าตาพี่เขาอยู่ในเกณฑ์ไหน ซึ่งตามหลักการแล้ว พี่เขาควรจะมีหน้าตาอยู่ในเกณฑ์พอดูได้ ไม่ใช่หล่อมหากาฬแบบนี้ครับ
“ตัวจริงกับในรูปพี่ไม่เหมือนกันนะ”
“นั่นเป็นรูปสมัยเด็ก ๆ ไงน้อง”
สมัยเด็กพี่หน้าตาโคตรเห่ยเลยครับ - _-
แต่ทำไมโตมาแล้วหล่อแบบนี้ว้า... ยิ่งดูยิ่งหล่อ
พี่ควรจะถ่ายรูปตอนนี้อัพลงเฟสบ้างนะ ตอนนี้ผมมั่นใจว่าคนเกาหลีใต้เกินล้านคนคิดว่าพี่เป็นไอ้หน้าเห่ยที่ทำตัวเกรียน ๆ บนเฟสบุ๊ค
“เอ้อ เขียนนี่ให้พี่หน่อย”
พี่ชานยอลยื่นกระดาษที่ยับยู่ยี่เป็นกระดาษเช็ดขี้มาให้ผม
หัวกระดาษเขียนว่า..
ชื่อ-นามสกุล / ชื่อเล่น / ที่อยู่ / เบอร์ / e-mail
อาหารที่แพ้ / โรคประจำตัว
แล้วก็มีชื่อเบอร์ที่อยู่ของคนอื่นเขียนเรียงลงมาเต็มไปหมด
“เอาไปทำอะไรอะพี่”
ผมทาบกระดาษกับกำแพงหน้าลิฟต์เมื่อลงมาถึงชั้นล่างก่อนจะเขียนบรรจงลายมือลงไปอย่างขยุกขยุย (สาบานว่าบรรจงแล้วครับ)
“เอาไว้ทำกิจกรรมรับน้องน่ะ”
“อ่อ”
อ่า.. ตรงโรคประจำตัวนี่ผมเขียนว่าเป็นโรคหัวใจอ่อนแอได้ไหม (-//////-)
พี่เขาชะเง้อดูที่ผมเขียน แก้มเราอยู่ห่างกันแค่ไม่กี่เซ็นเอง...
พี่จะรู้อะไรบ้างไหม ว่าผม..ชอบผู้ชาย (_ _);
ครับ.. นั่นแหละครับ.... ผมชอบผู้ชาย ผมคือหนุ่มวาย
ตอนนี้ใจผมเต้นเป็นจังหวะสามช่าแล้วล่ะ TTvTT
ไม่ได้.. ผมจะแสดงอาการให้เขาเห็นไม่ได้ ถ้าเขารู้ว่าผม เป็นเกย์..
พี่เขาอาจจะ.. กลัว... OTL
“สะ.. เสร็จแล้วครับ”
ผมยื่นให้พี่เขาพร้อมกับก้าวถอยห่างมาสามก้าว ต้องรักษาระยะห่างไว้ ไม่งั้นเส้นสติผมอาจจะขาด เผลอพูดจาแปลก ๆ ออกไป
“แพ้ผัก?”
พี่ชานยอลตั้งคำถามหลังจากอ่าน สิ่งที่ผมเขียนลงไปในกระดาษแผ่นนั้น
“ครับ”
“แพ้ยังไง” พี่เขาพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ ผมอยากจะถอยออกไปอีกอยู่หรอก แต่เขาคงสงสัยแน่ว่าผมจะถอยไปทำไม
“มันขม (_ _)”
พอได้ยินคำตอบจากผมพี่ชานยอลก็ปล่อยก๊ากลั่น ก่อนจะใช้มือข้างที่ไม่ถือกระดาษมาขยี้หัวผมแรง ๆ เหมือนคนที่สนิทสนมกันมาสิบยี่สิบปี
อย่าทำแบบนี้สิครับ ผมยิ่งหวั่นไหวอยู่..
แค่เดินมาส่งแล้วรับกลับผมก็ประทับใจจะขาดอยู่แล้ว แล้วยิ่งเป็นรุ่นพี่ที่แอดเฟสมาคุยด้วยคนแรกอีก ยิ่งโจมตีจิตใจผมเข้าไปใหญ่
ตอนนี้ใจผมเต้นเป็นจังหวะแทงโก้แล้วล่ะครับ...
พี่อี้ฟานช่วยมาลากผมออกไปจากตรงนี้ที T__T
TBC.
ความคิดเห็น